บัวลอยเผือก


เราอยู่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ช่วงนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิ ผลไม้ที่ออกมาขายตามตลาดเอเชี่ยน ที่เห็นเยอะที่สุดตอนนี้คือเผือก เเละมะม่วง ถ้าหมดฤดูนี้ไปเเล้ว ก็จะหาทานยาก เเม้เผือกจะยังมีขายอยู่ เเต่หัวไม่ค่อยสวย มันเเห้งๆเหยี่ยวๆไม่น่าซื้อ

คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ จะหาซื้อของกินของใช้เเบบบ้านเรา ต้องไปหาซื้อที่ร้านขายของชำคนเวียดนาม หรือที่เวียดนามทาวน์ ส่วนที่ไชน่าทาวน์ ส่วนใหญ่จะมีเเต่ร้านขายอาหาร ภัตตาคารจีนซะมากกว่าค่ะ

เผือกที่นี่ขายเเบบชั่งน้ำหนัก หัวขนาดในภาพ ราคา 4 ดอลล์กว่า ส่วนมะม่วง ขายเป็นลูก ลูกละ  3ดอลล์ (หรือถูกกว่านั้นถ้าเป็นลูกเล็ก) การซื้อมะม่วงของที่นี่ก็ต้องเสี่ยงโชคเอาค่ะ บางทีได้มะม่วงเปรี๊ยวเปรี้ยว บางครั้งก็หว๊านหวาน ซื้อมาจากตลาดใหม่ๆอย่าเพิ่งปอกทาน ต้องเอาวางใว้ซัก 3-4 วันก่อนค่อยทานค่ะ




การปอกเปลือกเผือกทุกครั้งควรใส่ถุงมือค่ะ เพราะเผือกเขามียาง จะมีปัญหาเรื่องคันมือ เคล็ดลับมีอยู่ว่าไม่ควรนำเผือกไปล้าง ให้นำเผือกไปย่างไฟไม่ต้องให้สุก เพื่อเป็นการกำจัดขนและยางที่เป็นต้นเหตุให้ค้นมือ เมื่อย่างแล้วจึงนำมาปอกตามปกติ หรือนำมาประกอบอาหารได้ตามต้องการ

เผือกจะมีสารอาหารคาร์โบไฮเดรต ซี่งให้พลังงานแก่ร่างกายเป็นองค์ประกอบหลัก มีโปรตีน โพแทสเซียม วิตามินบี 1 วิตามินซี ที่ธาตุเหล็ก และฟลูอออไรด์สูง ช่วยป้องกันฟันผุ ทําให้กระดูกแข็งแรง เผือกยังช่วยบำรุงไต บํารุงลําไส้ แก้อาการท้องเสียได้ด้วย เผือกมีแคลอรีสูง จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เผือกมีประโยชน์หลายอย่าง แต่ควรกินใน ปริมาณที่เหมาะสม จึงจะดีต่อร่างกายนะคะ




อันนี้เป็นมะพร้าวอ่อนส่งตรงมาจากเมืองไทย ราคาลูกละประมาณ 3 ดอลล์ ที่ร้านขายของชำเวียดนาม มะพร้าวอ่อนจะมาจากเมืองไทย เห็นเเล้วต้องรีบซื้อเลยค่ะ ตอนอยู่เมืองไทย เราชอบทานมะพร้าวอ่อนมากก





ตอนนี้เรามาลงมือทำขนมบัวลอยเผือกกันได้เเล้วนะคะ รับลองสูตรนี้อร่อยมากๆ เราทำทานหลายครั้งเเล้วค่ะ

ส่วนผสม
1. แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย
2. แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
3. กะทสด ใช้แบบกระป๋องก็ได้ 1 กระป๋อง (ขนาด 400 มล)
4. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
6. เผือก 1 ถ้วย
7. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
8. เนื้อมะพร้าวอ่อน 100 กรัม (พอประมาณ) ถ้าไม่ก็ไม่ต้องใส่ค่ะ

วิธีทํา
1. นําเผือกไปนึ่งในหม้อนึ่งประมาณ 20 นาที หรือจนเผือกสุก เมื่อเผือกสุกแล้ว รอให้เผือกเย็น จึงนํามาบี้ หรือขูดเอาแต่เนื้อ

2. นําแป้งข้าวเหนียว แป้งมัน น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา และเกลือป่นนิดหน่อย ผสมลงไปในชามผสมจากนั้น นําเผือกที่บี้ไว้มาผสมกับแป้ง

3. ตวงกะทิในกระป๋องออกมา 3ช้อนโต๊ะ เเล้วนำมาใส่ในส่วนผสมของเเป้ง (ส่วนกะทิที่เหลือ เก็บไว้เพื่อทำเป็นน้ำกะทิ) จากนั้นทําการนวดให้เผือกให้เข้ากับแป้ง ถ้าแป้งแห้งเกินไป ให้เติมกะทิลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ นวดไปเรื่อยๆ จนแป้งและเผือกเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

4. เมื่อนวดจนแป้งเนียนได้ที่แล้ว ปั้นแป้งเป็นลูกกลมๆ หรือจะปั้นเเป้งเป็นเส้นๆ เเล้วตัดขนาดประมาณ1/4 นิ้ว ทำไปเรื่อยๆ จนแป้งหมด

5. นำน้ำเปล่าประมาณ 4 ถ้วยใส่ลงไปในหม้อ เปิดไฟเเรง ต้มน้ำให้เดือดพล่าน เอาเเป้งที่ปั้นไว้ ใส่ลงไปต้ม รอจนแป้งสุก (สังเกตว่าแป้งจะลอยขึ้นมาเอง) เเล้วจึงช้อนแป้งที่สุกแล้ว มาแช่ในน้ำเย็นจัด เพื่อให้แป้งคงตัว

6. นํากะทิ (ที่เหลือในกระป๋อง) เทลงในหม้อ เปิดไฟกลาง  ใส่น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และเกลือป่นลงไป หมั่นคนตลอดเวลา

7. นําเนื้อมะพร้าวอ่อนมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในกะทิคนจนกะทิเดือด (อย่าเคี่ยวกะทิ เดี๋ยวเขาจะเเตกมันค่ะ) ใด้เขาปุดๆ เเล้วจึงนําเม็ดบัวลอยที่เย็นแล้ว ใส่ลงไปในหม้อกะทิ คนให้เข้ากัน ปิดไฟ แล้วจึงยกลงจากเตา

8. ตักใส่ถ้วย ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ 



เราหั่นเผือกออกเป็นลูกเต๋า จะได้สุกเร็วๆ ล้างเผือกให้สะอาด ทั้งก่อนเเละหลังหั่น แล้วจึงนำไปนึ่งให้สุก ประมาณ 20นาที 






เปิดกะทิกระป๋อง ตักกะทิออกมา 3 ช้อนโต๊ะ จากนั้นใส่น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เเละเกลือนิดหน่อยลงไปในชามเเป้งผสม  เเล้วทำการนวด

เราชอบเผือกที่ยังเป็นชิ้นๆ เลยบี้เผือกเเบบหยาบๆค่ะ



พักเเป้ง เเล้วหันไปทำน้ำกะทิ  โดยนํากะทิ (ส่วนที่เหลือในกระป๋องก่อนหน้านี้) เทลงในหม้อ เปิดไฟกลาง  ใส่น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และเกลือป่นลงไป หมั่นคนตลอดเวลา พอกะทิเดือด นําเนื้อมะพร้าวอ่อนที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในกะทิ คนจนกะทิเดือด (อย่าเคี่ยวกะทิ เดี๋ยวเขาจะเเตกมันค่ะ) ปิดไฟ ยกลงจากเตา



เมื่อทำน้ำกะทิเสร็จเเล้ว เรามาทำในส่วนเเป้งต่อค่ะ ให้นำเเป้งมานวดทำเป็นเส้นยาวๆเเบบในภาพ หรือท่านใดจะปั้นเป็นก้อนกลมๆก็ได้ค่ะ เลือกทำตามถนัด ใช้มีดตัดขนาด 1/4 นิ้ว (หรือขนาดตามต้องการ)







นำไปต้มในน้ำเดือดจัด เเป้งสุกเเล้วเขาจะลอยขึ้นมาเองค่ะ



ใช้กระชอนตักขึ้นมาเเช่ในน้ำเย็นจัด (เราเอาน้ำเเข็งใส่ด้วย) เเช่ใว้ซักเเปล๊ป ประมาณ 1นาที ให้เขาคลายความร้อนจนหมด เสร็จเเล้วใช้กระชอนกรองเอาเเต่เป้งบัวลอย นำมาใส่ในน้ำกะทิ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย รับประทานได้ค่ะ











ขอบคุณสูตรจากกรมสื่อส่งเสริมการเกษตร สำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมสงเสริมการการเกษตร ที่เเบ่งปันสูตรขนมอร่อยๆให้เรามาทำทาน สูตรนี้อร่อยยกนิ้วให้เลยค่ะ 

ขอบคุณทุกท่านที่เเวะมาเยื่ยมบล็อก ขอให้มีความสุขในทุกวันนะคะ



Create Date : 07 พฤษภาคม 2563
Last Update : 12 พฤษภาคม 2563 4:40:22 น.
Counter : 1666 Pageviews.

1 comments
  
น่าทานมากคราบ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 10 พฤษภาคม 2563 เวลา:14:23:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kasana.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3661152
Location :
ชิคาโก  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]

บทความทั้งหมด