เว็บของเชฟโนบุนะคะ //www.nobumatsuhisa.com/flash/home.html จะเห็นว่าเชฟโนบุมีร้านอาหารหลายสาขามากเลย ทั้งในนิวยอร์ค, Bevery Hills, มาลิบู, ลอนดอน, โตเกียว และอื่นๆอีกมากมาย อะไรจะเก่งขนาดน้าน ส่วนวิธีทำจะดัดแปลงจากต้นตำรับนิดนึง เพราะว่าไม่สะดวกใจที่จะกินไข่ดิบ ถึงแม้ว่าอยู่อเมริกาจะยังไม่มีไข้หวัดนก แต่ก็ยังมีเชื้อ Salmonella อยู่ดี เลยขอผ่านความร้อนซักนิดก็ยังดี กระซิบว่าสูตรนี้อร่อยมาาาาาากกกกๆๆๆเลย เห็นถาดใหญ่ๆแบบนี้ทาน 2 คน ไม่ถึง 2 วันก็หมดแล้วค่ะ



++กรีนที ทีรามิสุ (Green Tea Tiramisù)++
- ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 3 ฟอง แยกไข่แดง-ไข่ขาว *ระวังอย่าให้ไข่แดงแตกปนไปในไข่ขาว เพราะไข่ขาวถ้าโดนไขมัน แม้เพียงแค่นิดเดียวก็จะตีไม่ตั้งยอดค่ะ
- น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด 1/3 ถ้วย
- Mascarpone ชีส 8 ออนซ์ (226 กรัม) ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง (ประมาณ 20-30 นาที)
- เฮฟวี่วิปปิ้งครีมเย็นๆ 1 ถ้วย
- กลิ่นวานิลลาแท้ 1 ชช.
- เหล้า Cointreau (เหล้ากลิ่นส้ม) ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ แต่พอดีในตู้มี Barcadi Lemon อยู่ เลยเหยาะลงไปประมาณ 3 ชต. ออกมาอร่อยดี
- ผงชาเขียว สำหรับโปรยหน้าขนม
- ชาเขียวชงกับน้ำ 1 ถ้วย ชงให้เข้มแต่อย่าให้เข้มมาก เพราะมันจะขมนะคะ
- คุกกี้ Ladyfingers วันนี้ใช้แบบสำเร็จรูป แต่ใครจะทำเองก็ได้เพราะทำง่ายมากๆค่ะ
1. เติมน้ำใส่หม้อใบเล็กๆประมาณครึ่งหม้อ จากนั้นตั้งไฟให้น้ำเดือด พอน้ำเดือดแล้วให้ลดไฟลงเหลือไฟอ่อน
2. ระหว่างรอน้ำเดือด ให้ตีไข่ขาวให้ตั้งยอดด้วยเครื่องตีแบบมือถือนะคะ ตรงนี้แอบนอกสูตรโดยการเหยาะครีมออฟทาร์ทาร์ลงไปด้วยประมาณ 1/4 ชช. ตีเสร็จแล้วพักไว้ก่อน
3. เทไข่แดงและน้ำตาลใส่ชามผสมทนความร้อน (เช่นสแตนเลส) วางชามผสมซ้อนบนหม้อที่ต้มน้ำไว้ ใช้ตะกร้อมือคนตลอดจนส่วนผสมเริ่มร้อนและมีสีอ่อนจางลง ขั้นตอนนี้ต้องคนให้ทั่วๆ เร็วๆ ตลอดเวลาเลยนะคะ ไม่งั้นส่วนผสมจะเป็นลิ่มๆ
4. ยกลงจากเตา ยังไม่ต้องปิดเตานะคะ เพราะเดี๋ยวหลังเติมไข่ขาวแล้วจะยกขึ้นตั้งไฟอีกที เติม Mascarpone Cheese ลงไป ตีต่อให้เนียนเข้ากันดี ขั้นตอนนี้ใช่เครื่องตีมือถือจะดีกว่าใช้ตะกร้อมือนะคะ
5. เติมไข่ขาวครึ่งหนึ่งลงในส่วนไข่แดง จากนั้นคนด้วยตะกร้อมือเบาๆให้เข้ากัน เติมไข่ขาวที่เหลือลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง ยกขึ้นตั้งไฟ ตีต่อสักพักก็ยกลงจากเตา ปิดไฟได้เลยค่ะ
เสริมนิดนึง...จริงๆแล้วไข่ขาวหลังตีให้ตั้งยอดแล้วมักจะไม่นิยมเอาไปผสมกับของร้อน เพราะไข่จะยุบ แต่อย่างที่บอกว่าไม่กล้าทานไข่ดิบอ่ะค่ะ ถ้าใครชอบแบบ original แบบชาวอิตาเลียนเค้าทานกันก็ไม่ต้องเอาไปตั้งไฟ ที่อเมริกาจะมีไข่แบบปลอดเชื้อด้วย ราคาจะแพงขึ้นมาหน่อย แต่ไม่รู้บ้านเรามีรึเปล่าค่ะ
6. ล้างหัวตีของเครื่องตีมือถือให้สะอาด จากนั้นตีวิปปิ้งครีมในชามผสมอีกใบ ตรงนี้ก็แอบเติมน้ำตาลทรายไปอีก 2 ชต. (เพราะลองชิมส่วนครีมชีสแล้วมันหวานน้อยไปนิดนึง) เติมกลิ่นวานิลลาและเหล้าลงไป ตีต่อจนตั้งยอด ตักวิปครีมเติมลงในส่วนผสมครึ่งนึงก่อน คนตะล่อมเบาๆให้เข้ากัน เติมวิปครีมที่เหลือลงไป คนตะล่อมให้เข้ากันอีกครั้ง
7. นำเลดี้ฟิงเกอร์จุ่มลงในน้ำชาเขียวที่ชงไว้แค่พอผ่านๆเพราะเลดี้ฟิงเกอร์ส่วนมากจะดูดน้ำเข้าไปเร็วมากๆๆ เดี๋ยวจะนิ่มจนแฉะเกินไปนะคะ จุ่มแบบแตะนิดเดียวข้างละหนก็ใช้ได้แล้วค่ะ จากนั้นวางเรียงในถาด วันนี้ใช้ถาดแบบยาวเลยทำได้แค่ชั้นเดียว ถ้าใครชอบแบบหลายๆชั้นก็ใช้ถาดเล็กกว่านี้นะคะ เรียงเสร็จก็เทครีมทับลงไป ปาดหน้าให้เรียบ นำไปแช่ตู้เย็นไว้หลายๆชั่วโมง หรือข้ามคืนเลยก็ดีค่ะ เวลาตัดจะได้อยู่ตัว ไม่เละ
8. เวลาเสิร์ฟก็ตัดเป็นชิ้นๆ ก่อนตัดทุกครั้งให้เอามีดจุ่มน้ำร้อนแล้วเช็ดตามด้วยกระดาษทิชชู่ ตัดออกมาจะได้สวยๆ โรยหน้าด้วยผงชาเขียวตอนจะเสิร์ฟ ห้ามโรยไว้ก่อนเพราะมันจะซึมไปกับส่วนครีม ทำให้ดูไม่น่าทานนะคะ เสร็จแล้วค่า



จริงๆแล้ววิธีทำก็ไม่ยากเลย แต่ดูเหมือนยุ่งยากไปนิดเพราะพยายามจะอธิบายให้ละเอียดหน่อยค่ะ เพราะมีน้องๆหลายคนอีเมลมาถามข้อข้องใจเกี่ยวกับบล็อกก่อนๆ สงสัยจะอธิบายไม่เคลียร์ มีข้อสงสัยตรงไหนถามได้นะคะ บางช่วงไม่ได้เข้ามาดูก็อาจจะตอบช้าไปบ้าง แต่ตอบแน่นอนค่ะ

  

Mascarpone Cheese เพื่อนชาวอิตาเลียนเคยออกเสียงให้ฟังว่า มัส-คระ-โพ-เน (อย่าลืมรัวลิ้นตรง ร เรือด้วยนะคะ อิอิ) ,มิใช่ "มาร์สคาโพน" อย่างที่หลายๆคนเข้าใจ ที่เห็นกระปุกนิดเดียวนี่ปาเข้าไป 5 เหรียญแน่ะ แพงจัง

  

อันนี้เป็นชาเขียวที่ใช้ ไม่ใช่แบบสำหรับไว้ทำขนมโดยเฉพาะ แต่ก็พอได้ค่ะ เพราะแค่ไว้โรยหน้าเฉยๆ ซื้อตอนกลับเมืองไทยเดือนก่อน ถุงละ 250

  

ส่วนอันนี้เลดี้ฟิงเกอร์ ถุงนึงมี 24 ชิ้นได้มั้งคะ ราคา 3.5 เหรียญ ไม่แปลกใจเลยที่ทีรามิสุที่เค้าขายกันชิ้นนึงนี่มันแพงจริงๆ

จริงๆมีสูตรของโรงเรียนสอนทำอาหารชื่อดัง Le Cordon Bleu ด้วยค่ะ หามาจากอินเตอร์เนตนี่แหละค่ะ ถ้ามีใครสนใจเดี๋ยววันหลังทำแล้วจะมาอัพให้ดูนะคะ

  

yummy ....น้ำลายหยดเลย

  

เย้ๆๆ กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว เมื่อวานอัพยังไม่ทันเสร็จปรากฏว่าบล็อกแกงค์ปิดปรับปรุง server ซะนี่

ต่อเลยนะคะ...Bacardi Limón


รูปส่วนผสมที่ได้ นุ่ม...เนียน...เบา อร่อยดีค่ะ



เรียงเลดี้ฟิงเกอร์แบบนี้...



จากนั้นราดทับด้วยส่วนผสมชีส เกลี่ยให้เรียบ ปิดฝาแล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้ 1 คืน



เวลาจะทานก็ตัดเป็นชิ้น แล้วโรยด้วยผงชาเขียว ก็จะได้ทิรามิสุชาเขียวแบบนี้ค่ะ ท้าด้า...



ลองทำดูนะคะ ไม่ยากค่ะ สูตรนี้ชอบมากๆเลย

สวัสดีคุณ stawahna และก็ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ

  

น่าหม่ำมากๆ เลยค่ะ คุณบีบี๋

  

น่ากินมากๆๆ เลยคับพี่บี๋
เห็นขนมที่พี่บี๋ทำทีไรใจละลายทุกที
ขนาดรูปคุ๊กกี้ด้านขวาบนของบล๊อกยังดูน่ากินมากมายเลย ขอสูตรได้มั๊ยคับ อิอิ

  

ขอบคุณค่ะคุณ its_gemmi และก็น้อง [-ShoeBox-] รูปคุกกี้ตรง Profile ไม่ใช่ของบี่บี๊ค่า แต่ตอนนี้มีสูตรดีๆหลายสูตรมารอคิวให้ลอง กะว่าจะลองสูตรห้าง Neiman Marcus ไม่ก็สูตร Martha Stewart อยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าออกมาดีจะเอามาอัพให้ดูนะคะ

  

โอ๊ยย คิดถึงเจ้าของบล็อคจังเลยค่า
บีบี๋สบายดีน๊า^^



...

  

คุณบีบี๋ค่ะ เมื่อวานนี้ลองทำขนมปังไส้กรอกชีสของ
คุณบีบี๋ดู อร่อยเชียวค่ะ แต่หน้าตายังไม่ได้เรื่องเลย (ไม่เคยทำหนมปังน่ะ) ขอปรับปรุงเรื่องหน้าตาก่อนนะคะ แล้วจะเอาการบ้านมาส่งค่ะ นุ่ม นิ่ม หวานกำลังดี ชอบๆๆ

ปล. ใช้มือนวดเองด้วยน๊าาา

  

สุดยอดฝีมือจริงๆ ค่ะ น่าหม่ำด้วย เรายังไม่เก่งเรื่องนี้เลยค่ะ

  

สบายดีค่ะคุณโบว์ เมื่อกี๊แวะไปฟังเพลง+MV เรารักแม่ เล่นเอาน้ำตาหยดแหมะเลย

สวัสดีคุณแก้มกับคุณน้ำฝนด้วยนะคะ แล้วจะรอดูรูปนะคะคุณแก้ม ถ้าไม่ขี้เกียจก็ว่าจะทำอีก คราวนี้จะใส่ไส้ครีมกับไส้สังขยา แค่คงจะเบิ้ลสูตรค่ะ เพราะใช้เวลาทำนานเหลือเกิน ทำออกมาได้แค่ 10 กว่าลูกเอง

  

สุขสันต์วันแม่ค่ะ..

คำว่า.. แม่... ไม่สามารถหาคำจำกัดความที่ครอบคลุมได้ในวลีสั้นๆ

  

ขอถามหน่อย๑ถ้วยตวงเท่ากับกี่กรัมค่ะ ขอบคุณค่ะ

  

สุขสันต์วันแม่เช่นกันค่ะคุณแม่บั๊ดดี้

1 ถ้วยตวงเท่ากับกี่กรัม อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณ Anne จะตวงอะไรนะคะ เพราะส่วนผสมแต่ละอย่างตวงออกมา 1 ถ้วยตวงเหมือนกัน แต่เวลาเอาไปชั่งดู จะมีน้ำหนักต่างกัน ถ้าหมายถึงวิปปิ้งครีม 1 ถ้วยในสูตรด้านบน ตามตำราเค้าบอกว่าอยู่ที่ประมาณ 200 กรัมค่ะ

  

ชอบกินเค็กและไอศครีมรสทีรามิสุและมากเลยค่ะ คุณเบบี๋ถ่ายรูปสวยมากๆเลยเค็กก็น่าทานมากค่ะ

  

ถึงคุณBeebie
ดีใจจังค่ะที่ได้เข้ามาชมweb blog ของคุณโดยส่วนตัวแล้วไม่รู้รายละเอียดมากหรอกคะแต่ที่เจอสูตรอาหารของคุณได้ก็เพราะsearchเจอ เป็นคนชอบทำขนมมากแม้ว่าจะไม่ค่อยมีเวลา จะคอยติดตามดูสูตรขนมของคุณเรื่อยๆนะคะ
แหมนี่ถ้าคุณอยู่เมืองไทยอยากให้เปิดเป็นโรงเรียนสอนทำขนมจังค่ะ
ชอบมากๆเลยค่ะ

  

สวัสดีค่ะ คุณBeeBie
อยากรบกวนให้ช่วยอัพ สูตรเลดี้ฟิงเกอร์ให้หน่อยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

  

น่ากินดีนะครับ
เข้ามาทำรายส่งครูครูบอกว่าสูตรดีมากๆน่าสนใจ

  

เมื่อวานทำเค้กอันนี้ค่ะ ทำladyfingersเองด้วย มือไหม่ค่ะ ถึงจะยังไม่เข้าที่เท่าไหร แฮะๆ ไม่ค่อยฟูและเซ็ทตัว แต่พอได้ที่เดียวค่ะ ดีใจจังที่เจอเวปนี้

  

p'beebies คะ ตาลลองทำแล้ว ตัวครีมอ่ะค่ะมันไม่เซ็ทตัวเหมือนในรูปที่พี่โชวอ่ะค่ะ มันจะเหลวๆพอเทใส่เลดี้ฟิงเกอร ตัวเลดี้ฟิงเกอรมันลอยขึ้นมาอ่ะค่ะ คาดว่าน่าจะเป็นจากที่ตีไข่ขาวแล้วทิ้งไว้ นานใช่ไหมคะเพราะตอนใส่ไข่ขาวมันเริ่มคืนตัวเป็นน้ำอ่ะค่ะ อีกข้อสันนิษฐานคือ ตัววิปครีมที่ตาลตีมันจะออกแข็งไม่ฟู ยังไงช่วยรบกวนบอกหน่อยนะว่าจะแก้ปัญหายังไงดี ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ps. ชอบบล็อคพี่มากค่ะเห็นแล้วเกิดกิเลสจริงๆ

  

คุณลั้งคะ...สูตรเลดี้ฟิงเกอร์ที่เคยลงไว้จะเป็นแบบของทางฝรั่งเศสเค้า มันเลยไม่ค่อยแข็งกรอบเหมือนของทางอิตาลี ตอนนี้ได้สูตร Savoiardi หรือ Italian Ladyfingers มาจากหนังสือที่ซื้อมาใหม่ เดี๋ยวลองทำแล้วถ้าเวิร์คจะเอาสูตรมาลงนะคะ

ตอบน้องตาลนะคะ ถ้าไข่ขาวแยกตัวเป็นน้ำที่แสดงว่าตั้งทิ้งไว้นานเกินไปค่ะ ไข่ขาวตีตั้งยอดแล้วต้องรีบใช้ทันที เพราะเค้าจะยุบตัวง่ายนะคะ ตั้งทิ้งไว้นานๆก็จะแยกชั้นอีกต่างหากเพราะไข่ขาวมีน้ำเป็นส่วนผสมหลักค่ะ ส่วนวิปครีมนี่ถ้าออกแข็งๆเป็นก้อนๆแสดงว่าตีผ่านจุดที่เรียกว่าตั้งยอดแข็งไปแล้วค่ะ ถ้ายิ่งตีต่อไปอีกจากวิปครีมทีนี้จะกลายเป็นเนยเลยอ่ะค่ะ สุดท้ายคือส่วนผสมไม่เซ็ทตัว...จริงๆแล้วถ้าใช้วิธีต้นตำหรับคือใช้ไข่ดิบ ทีรามิสุที่ได้ก็จะออกนิ่มๆเหมือนค้สตาร์ดหรือพุดดิ้งเลยค่ะ แต่พอดีพี่ไม่กล้าทานแบบไข่ดิบๆ เลยนำไปตั้งไฟ ทำให้ขนมออกมาเซ็ทตัวเหมือนในรูป ยังไงน้องตาลลองทำดูใหม่นะคะ มีข้อสงสัยอะไรถามมาได้เลย ยินดีตอบค่ะ

  

วันก่อนทำ ทีรามิสุ ชาเขียว อีกรอบนึง นึกว่าจะได้ภาพสวยๆ ปรากฏว่าเริ่มทำไม่ทันไรฟ้าก็มืดทะมึนมาเชียว ช่วงนี้พายุเข้าทุกวัน ฝนตกทุกวันมาเป็นเดือนแล้ว เลยอดได้ภาพสวยๆเลยค่ะ แต่ก็ยังดีกว่าเซ็ทเก่าที่ทั้งมืดทั้งเหลืองเนาะ

จริงๆอยากแต่งข้างจานด้วย strawberry สไลซ์ แต่พอดีไม่มี เลยใช้แอปเปิ้ลแทนค่ะ

  

ขั้นตอนการทำ แบ่งเป็น 2 ภาพนะคะ

  

มืดมากๆ ออกไปถ่ายข้างนอกก็ดันโดนน้ำฝนที่เกาะตามใบไม้หยดใส่อีก



ภาพสุดท้ายแล้วค่ะ

  

ใช้แอปเปิลแต่งก็สวยเหมือนกันค่ะ

  

น่าทานมากกกคุณบี๋
เรามีชาเขียวแบบที่คุณบี๋บอวก่าไม่ใช่แบบที่เอามาทำขนมอยู่ 4ห่อ -*-
เข้าใจว่าเอามาทำได้ตลอดเลยอะคะ

  

คุณบี๋ช่วยสอนวิธีตักออกจากถาดหน่อยสิคะทำทีไรเค้กเละตลอดเรย thx

  

...น่าลองทำค่ะ แต่เอ..ถ้าหาLadyfingers ไม่ได้เราสามารถจะใช้อะไรแทนได้บ้างคะ

  

คุณลูกหนู ตอบช้าเป็นปีเลย ไม่แน่ใจว่าจะเข้ามาดูอีกรึเปล่า วิธีตัดดูที่บล็อกทีรามิสุ (กาแฟ) นะคะ ความเห็นล่างๆค่ะ

คุณ Ben ใช้สปันจ์เค้กแทนได้ค่ะ หรือไม่ก็ทำเอง สูตรอยู่ในบล็อกก็มีค่ะ เลือกอันที่เรียกว่า Savoiardi (อิตาเลี่ยน เลดี้ฟิงเกอร์ส) นะคะ

  

พอดีผ่านมาเจอ triple chocolate cheesecake ของคุณ beebie เข้า ติดใจ เลยตามมาดูต่อค่า

ชอบทีรามิสุชาเขียว ของคุณ beebie มั่กๆ ทำได้สุดยอดเยย ทั้งฝีมือและความสวยงามในการ decorate อย่างกับเค้กในโรงแรมหรูๆ

ขอติดตามผลงานคุณ beebie ด้วยคนนะคะ ชื่นชมจากใจจริง