❤Cinnamon Buns - ขนมปังซินนาม่อน ![]() Cinnamon rolls หรือที่บ้านเรียก Cinnamon Buns เป็นขนมสุดโปรดของคุณซะมี ธรรมดาถ้าได้ไปห้างก็จะซื้อของ Cinnabon ทาน หรือไม่ก็จะซื้อแบบกระป๋องมาอบเอาค่ะ แต่วันก่อนนึกครึ้มอกครึ้มใจเลยทำทานเอง นวดแป้งเองด้วย เพราะสูตรนี้ไม่ยุ่งยากมากนักและไม่ต้องนวดนานด้วย แค่ 10 นาทีเท่านั้นเองค่ะ ![]() แว๊กกกกก น่ากินเป็นที่สุด เห็นรูปที่ราดglazeแล้ว น้ำยายไหยเลย โหย...หิวเลยค่า
![]() โดย: Comma_Mocca
![]() แป้งที่ใช้เวลาทำขนม เรียงจากซ้ายไปขวา แป้งขนมปัง แป้งเอนกประสงค์ และแป้งเค้ก แต่ที่ทำครั้งที่ 2 ไม่ได้ใช้แป้ง Pillsbury เพราะหมดพอดี หาซื้อก็ไม่มีเพราะขาดตลาดค่ะ เลยใช้ของ H-E-B เหมือนยี่ห้อแป้งเค้กแทน เป็นแป้งที่ local supermarket ผลิตเอง มีสาขาอยู่แถบ Texas ค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีส่วนทำให้เนื้อขนมไม่เหมือนวันแรกด้วยรึเปล่า
![]() ยีสต์ที่ใช้ ![]() อบเชยป่น ธรรมดาไม่ได้ใช้ยี่ห้อนี้ ลองเปลี่ยนยี่ห้อดู คิดว่ายี่ห้อนี้ไม่หอมฉุนเท่าไหร่ กลับไปใช้ยี่ห้อเดิมดีกว่า ![]() โดย: Beebie
![]() ก่อน+หลังทำอาหารเสร็จที่บ้านจะเช็ดผิวโต๊ะด้วยเจ้านี่ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียค่ะ ไม่มีก็ใช้น้ำผสม bleach (หรือไฮเตอร์) 5-6 หยด ฉีดแล้วเช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะหลังหั่นหมูหรือไก่ แล้ววันนี้ก็นวดแป้งกับโต๊ะ มีไข่ดิบอยู่ด้วย ต้องระวังนิ๊ดส์นึง เป็นโรคกลัวเชื้อพวกนี้มากเลย เวลาหั่นหมูก็จะใส่ถุงมือพลาสติก แล้วก็ไม่หั่นบนเขียงไม้เด็ดขาด เพราะเชื้อโรคมันชอบอยู่ตามเขียงไม้และตามร่องไม้ค่ะ (ดูมาจากรายการของนาย AB) แถมพวกไม้ๆนี่เอาเข้าเครื่องล้างจานก็ไม่ได้ เพราะโดนความร้อนแล้วไม้จะแตก ก็เลยใช้เขียงพลาสติกแบบที่ AB แนะนำค่ะ ฟองน้ำล้างจานถ้าไม่ขี้เกียจก็จะลวกน้ำร้อนทุก 3-4 วัน หรือถ้าขี้เกียจก็แช่น้ำเข้าไมโครเวฟเลย จนแฟนเหน็บหาว่าเป็นโรค germaphobia ... อ่านะ
![]() ตอนอบ จริงๆชอบแบบชิ้นแยกชิ้นใครชิ้นมัน แต่เวลาทำแบบอบรวมเป็นกลุ่ม เวลาทานฉีกออกจากกันแล้ว มันจะออกมานุ่มและเป็นเยื่อๆแบบที่อยากได้เลย ทิ้งไว้วันนึงก็ยังนิ่มพอได้อยู่ แต่อาจจะไม่เหมือนอบใหม่ๆนะคะ ![]() โดย: Beebie
![]() เดี๋ยวมาพิสูจน์ด้านในกัน
![]() ลองฉีกให้ดู ![]() ให้ดูไส้อบเชย ถ่ายวันที่ 2 ใช้ฟิลลิ่งคนละแบบกับวันแรก วันแรกใช้วิธีผสมเนยละลายกับน้ำตาลทรายแดงและอบเชยเข้าด้วยกันเลย แล้วเอาไปปาดทีเดียว ไส้จะหนามาก พออบแล้วจะไหลออกไปอยู่ตรงก้นซะส่วนใหญ่ เหลือร่องห่างตามรอยม้วน ไม่สวย แต่วันที่สองใช้วิธีทาด้วยเนยละลายก่อน แล้วโรยน้ำตาลทรายแดงที่ผสมอบเชยแล้ว สรุปว่าแบบแบบวันที่ 2 สวยกว่า แถมใช้เนยน้อยกว่าด้วย เห็นใน cookbook ของ William-Sonoma ก็ใช้แบบนี้ แต่แบบวันแรกรสชาติค่อนข้างจะเข้มข้นกว่า ![]() โดย: Beebie
![]() อันนี้เป็นหน้าตาฟิลลิ่งที่ทำวันแรก ผสมเป็น paste แล้วเอาไปปาดได้เลย
![]() ![]() ![]() โดย: Beebie
![]() ส่วนเกลซ จะใช้วิธีบีบเป็นเส้นๆก็ได้ หรือจะใช้ช้อนตักราดก็ได้ค่ะ อันนี้แบบราดเยิ้มๆ
![]() แถมวิธีตัด ใช้ด้ายตัดขนมจะออกมาไม่เสียทรง ดูดีกว่าใช้มีดหรือมีดตัดโดตัดเอาค่ะ ![]() วันแรกใช้มีดตัดแป้งตัด ออกมาหน้าตาไม่สวยเอาซะเลย ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ จริงๆน่าจะถ่ายมาเปรียบเทียบกันเนอะ ภาพนี้ตัดแบบใช้ด้ายนะคะ ![]() โดย: Beebie
![]() คุณ Beebie ทำออกมาน่าทานมากเลยคะภาพก็สวยชัดสมจริง
![]() โดย: pumorg
![]() หยิบเลยค่ะไม่ต้องเกรงใจ
![]() หรือจะให้ใส่จานให้ ![]() เวลามีปาร์ตี้ ทำใส่ฐานวางเค้กแบบนี้ก็ดีนะคะ ภาพนี้แสงแปลกไปหน่อย ตอนถ่ายมันมืดเลยต้องใช้โคมไฟช่วยเหมือนภาพแรกค่ะ ![]() สรุป... ก็คิดว่าขนมอยากจะให้เนื้อนิ่มมากๆ แถมเก็บได้นานๆก็ยังคงต้องพึ่งสารเคมีช่วยเหมือนเดิม กลับไทยคราวนี้คงจะหาสารเสริมฯสำหรับทำขนมปังมาติดครัวไว้หน่อย จริงๆไม่ค่อยชอบใส่เท่าไหร่ค่ะ แต่พวกเค้กเนยแล้วก็ขนมปังนี่สงสัยต้องใส่จริงๆ แต่ยกเว้นสปันจ์เค้กนะคะ สูตรที่ทำไม่ใส่สารใดๆก็ออกมานิ่มมมมค่ะ ทั้งสูตรวานิลลาหรือแบบชาเขียวเหมือนที่เคยลงไว้ ทั้งสองสูตรนิ่มมากๆ นิ่มกว่าชิฟฟ่อนเค้กอีก (ถ้าทำถูกวิธีและตีไข่ได้ที่นะคะ) ไว้ยังไงจะทยอยเอามาลง ทำ Strawberry N' Cream เค้กไว้ตั้งกะวันเกิดคุงซะมีตอนเดือนตุลา ป่านนี้ก็ยังไม่ได้ฤกษ์เอาสูตรมาลงเลยค่ะ บล็อกนี้คุยเยอะไปหน่อย เดี๋ยวคงอีกนานกว่าจะได้เจอกัน (กลับมาจากไทยเดือนพฤษภาโน่นเลยค่ะ) แล้วไงอาจจะเจอกันอีกทีที่เมืองไทยนะคะ แล้วจะเอาภาพทริปญี่ปุ่นมาฝากค่า อย่าลืมคิดถึงกันน้อยน้อยยย แต่นานนานน นะค๊า << ยืมสำนวนออดอ้อนของลุงเป้ามาใช้ อิอิ *'ω'* >> Happy Baking ค่า!! p.s. บล็อกนี้ภาพเยอะ ถ้าต้องโหลดนานไม่ทันใจ ต้องขออภัยด้วยนะคะ ไว้รอเว็บที่กำลังทำอยู่เสร็จก่อน รับรองไม่ช้าเหมือนบล็อกนี้แน่นอนค่ะ เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่จะแวะมาส่งข่าวอีกทีนะคะ ![]() โดย: Beebie
![]() ใช่แล้วค้ะ..
![]() เมื่อกี้ ดูภาพไม่หมดกลับมาดูอีกรอบ คุณ Beebie เดินทางกลับเมืองไทย แถมแวะเที่ยวญี่ปุ่นด้วย น่าสนุกจังเลย เที่ยวให้สนุกนะคะเดินทางโดยสวัสดิภาพคะ และคืนนี้ก็ฝันดีนะคะ ![]() โดย: pumorg
![]() สวัสดีคุณ Comma_Mocca และคุณปุ้มด้วยนะคะ กำลังลบๆโหลดๆภาพอยู่ พอดีคห.ที่ 1 ดันพิมพ์ตกไปค่ะ
![]() พี่สะใภ้ก็อยู่ดัลลัสเหมือนกันค่ะคุณปุ้ม ไปเยี่ยมบ่อยเหมือนกัน เค้าอยู่ Forney ค่ะ ใกล้ึบ้านคุณปุ้มป่าวเอ่ย เผื่อแวะไปเยี่ยม ![]() โดย: Beebie
![]() น่าทานมากๆ เลยค่ะ คุณ บีบี๋ สวยด้วยหน่องชอบจังเลย
โดย: wee_nong
![]() น่ากินอย่างนี้ ก็ไม่ต้องซื้อ cinnabon เลย ..
แถมเวลาอบ คงจะหอมไปทั่วแน่ๆ ![]() โดย: ceacar salad
![]() ว้าวววววว กรี๊ดดดดดด
น่ากิน ถ่ายสวยด้วยย แล้วจะไปญี่ปุ่นจริงๆเหรอคะ คิดถึงบล๊อกคุณบีน่าดูเลย แง้ ![]() ![]() โดย: J-Nap
![]() เนื้อขนมดูนุ่มนิ่มน่าทานมากๆเลยค่ะคุณบี่บี๋
ขอให้คุณบี่บี๋เที่ยวให้สนุก เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ โดย: Petit Patty
![]() ว่าแล้ว...บี่บี๋ทำอะไรอยู่ ที่แท้อัพบล้อกนี่เอง
โห...น่ากินมากเลย ไอเคียตกกระป๋องชิดซ้ายไปเลยค่ะ น่ากินอย่างนี้ วันนั้นให้ชาลีพาแวะไปกินด้วยดีกว่า... ![]() โดย: นางฟ้าของชาลี
![]() Ohh..I like this bun!! Looks soo good..
Have a nice holiday anyway and will be looking forward to your updated blog! โดย: pepsakoy
![]() น่าทานอีกแล้วค่ะ สัปดาห์ที่แล้วทำคุ้กกี้นโปเลียนไปกรอบอร่อยมากค่ะ
![]() ![]() โดย: lola IP: 82.169.233.241 วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:16:00:17 น.
น่ารัก และน่าทานสุด ๆ ไปเลยค่ะ
รูปก้อสวยมาก ๆ ด้วยค่ะ ขอให้เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให้สนุกนะคะ โดย: vanillaorchid
![]() รูปสวย น่าทานอย่างแรงเลยค่ะ
ฝีมือถ่ายรูปสวยขึ้นทุกๆวันเลยนะคะ ฝีมือการทำอาหารขนมก็เยี่ยมขึ้นทุกๆวันเช่นกัน โดย: ปูขาเก เซมารู
![]() พี่บี่บี๊ม้วนโรลสวยจังเลยค่ะ เก่งจังเลย
งี๊ดๆ เห็นแล้วอยากกิน Cinnabon จัง ![]() โดย: ลูกสน
![]() ขอบคุณมากๆนะคะ ทุกๆความเห็นเลย ขอบคุณที่อวยพรให้เดินทางปลอดภัยด้วย พรุ่งนี้เช้ามืดจะออกเดินทางแล้ว คงไม่ได้ไปเยี่ยมกลับ ขอขอบคุณไว้ตรงนี้เลยแล้วกันนะคะ แล้วจะถ่ายรูปมาฝากค่า
![]() ![]() ![]() โดย: Beebie
![]() I should not visit your blog at this time. It made me hungry again. Looks so yummy ka.
![]() โดย: ammie (luvammie
![]() น่ากินมากๆค่ะคุณ บีบี๋ ภาพก็สวย
ฝีมือก็ดี อยากกิน ๆ....... ![]() โดย: หน่อย(โตเหมี่ยว) IP: 203.170.150.215 วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:12:42:21 น.
น่ากินมากเลยค่ะ เคยกินตอนอยู่เมืองไทยติดใจสุดๆ(cinnabon) แต่ที่ sydney ไม่มีเลยอ่ะ เดี๋ยวจะลองทำดูแล้วจะรายงานให้นะคะว่าผลเป็นยังงัย
โดย: Meow Meow IP: 220.245.178.141 วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:8:20:20 น.
เจ๊หลีกลับมาอ่านแบบละเอียดยิบอีกรอบจ้า
มาเจอกับความละเอียดแบบสุดยอดไปเลยค่ะ น่าทำมากเลยอันนี้ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ
![]() น่าทานมากๆๆ
ถ่ายรูปสวยกว่ามืออาชีพซะอีก โดย: น้าปังปอนด์ IP: 58.173.17.58 วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:16:54:52 น.
โอ้ทำไมน่ากินอย่างนี้บี่บี๋
จุ๊บๆเที่ยวเผื่อแบมด้วยนะคะ คิดถึงบี่บี๋นะคะ เมนูนี้อยากทำมากเลยค่ะ แบมชอบกินมากเลยคะ ส่วนใหญ่จะซื้อมากกว่า ![]() โดย: yadegari
![]() ![]() สวัสดีปีใหม่ไทยคะ
เที่ยวให้สนุก เดินทางปลอดภัยน้ะคะ ![]() โดย: pumorg
![]() ![]() เที่ยวเผื่อเปียกน้ำเผื่อพี่ภัสกับชาลีด้วยน๊า โดย: นางฟ้าของชาลี
![]() น่าทานมากๆเลยคะ..เก่งจังเลย
อ้อมคงทำไม่ไหวมาขอทานอย่างเดียวคะ โดย: patchchoy
![]() ขอตามมาทานด้วยคน ชอบcinnamon roll มากค่ะ เคยลองทำตามสูตรในหนังสือ ไม่อร่อย แป้งขนมปังแข็ง สงสัยนวดนานไป ฟิลลิ่งไหลเยิ้มไปอยู่ก้นถาด จะขอทำตามสูตรนี้นะคะ แล้วจะมารายงานค่ะ
สุขสันต์วันสงกรานต์ โดย: yingyai IP: 202.183.211.197 วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:14:10:37 น.
![]() ![]() ![]() โดย: Kofschip IP: 83.82.217.178 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:1:56:42 น.
น่าทานมากมายค่ะคุณ Beebie ทำอะไรก็น่าทานไปโม้ดดด
![]() ![]() โดย: cadeau
![]() ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์เลยนะคะ กลับมาได้ซักพักนึงแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้อัพบล็อกหรือรีไซส์รูปเลย เลยไม่มีอะไรมาให้อัพบล็อก ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมและทักทายกันนะคะ
![]() ![]() ![]() ![]() โดย: Beebie
![]() หวัดดีค่ะ
แวะมาทักทายส่งความคิดถึงในวันหยุดค่ะ โดย: เนระพูสี
![]() น่าทานจาง...ชอบซินนาม่อนมั่กๆ
จะลองขอจดสูตรไปลองทำบ้าง ก้อไม่รู้จะออกมาเวิร์ครึป่าว...ดูรูปเอาน่าจะเวิร์คกว่าน้า... แวะมาทักทายวันหยุดค่า ![]() โดย: annie_martian
![]() น่ากินสุด ๆ เลยค่ะ
โดย: น้องคติป IP: 61.19.125.104 วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:12:41 น.
น่ากินจัง~
โดย: พิมพ์ IP: 125.26.215.135 วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:18:30:41 น.
ได้ลองนำสูตรคุณBeebieไปทำ
ปรากฎว่าเป็นครั้งแรกที่ทำขนมปังนวดมือได้อร่อยมากๆๆ ขอบคุณคะ ![]() โดย: mneerat
![]() เก่งจังเลยง่ะ เค้าชอบทำอาหารแต่ไม่ค่อยได้มีเวลาทำเลย
แล้วมีอุปกรณ์ไม่ครบด้วย (แบบว่าจามีครบได้มันต้องงบประมาณเยอะ งบประมาณเค้าไม่เยอะอ่ะ (พูดได้ไม่อายเลยนะเนี่ย)) แต่ชอบวิธีเล่าเรื่อง เล่าวิธีทำ ถ้าคิดว่าจะรับลูกมือหรือคิดจามีศิษย์เมื่อไหร่ก็บอกกันมั่งนะ เผื่อไม่มีไรทำแล้วคิดจะสอนนะ mail มาบอกกันมั่งนะ อ๋อ ลืมแนะนำตัว ชื่อ Kae นะ ยังไงก็ขอติดตามสูตรของอร่อยๆ ด้วยนะ โดย: Kae IP: 61.19.205.242 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:18:49:55 น.
น่าอร่อยจังนะคะ ^3^ น่าทานจังเลยจริง จริง นะคะเนี่ย
โดย: เซีย IP: 58.9.202.141 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:20:22:09 น.
โอ๊ยยยย น่ากินมากๆ ค่า ชอบซินนามอนบันเหมือนกันอ่า เห็นรูปแล้วอยากกิน น้ำลายสอน้ำตาไหล T-T
โดย: หมุบหมับ IP: 118.173.156.170 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:41:54 น.
น่ากินมาก ชอบเว็บคุณจังคะ
เข้ามาดูตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยแม้น วันนี้โอกาศดีเลยแม้นซะหน่อย อิอิ ถ้าทำออกมาไม่อร่อยสงสัยต้องโทษคนสอน นะเนี้ย อิอิ โดย: เจ๋ IP: 125.24.226.78 วันที่: 2 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:59:36 น.
แค่ดูรูป น้ำลายก็ไหลแล้ว
น่ากิ๊น น่ากิน โดย: enjoyeating IP: 118.173.143.157 วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:14:39:48 น.
ดีใจมากเลยค่ะดูมาแล้วหลายเวปชอบเวปนี้มาที่สุดเลยค่ะ กำลังหัดทำขนมหารายได้เสริมค่ะจะหัดทำเลยนะคะ อยากทำมากเลยค่ะขอขอบคุณมากเลยค่ะ
จะเปิดดูตลอดเลยนะคะ โดย: ธารินี /นครสวรรค์ IP: 118.172.185.85 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:56:59 น.
ชินนามอน เป็นของโปรดค่ะ เคยเอาสูตรมาจากblogหลายๆที่ ล่าสุดก็จะลองสูตรนี้ล่ะคะ
ลงรายละเอียดดีมาก คาดว่าจะประสพความสำเร็จ มีความสุขมากค่ะที่ได้ทำของโปรดให้ลูกๆทั้งสี่ด้วยมือตนเอง update blog เมื่อไหร่ลงข่าวมาบ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ โดย: pudjeeb@hotmail.com IP: 125.25.97.86 วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:20:51:27 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ก็เลยเอาซินนาม่อนบันมาฝากก่อนไป แล้วยังไงตอนอยู่ญี่ปุ่นถ้าได้ไปกินขนมเค้กสวยๆตาม Bakery และ Pâtisserie แล้วจะถ่ายภาพมาฝากนะคะ อยากทานมองบลังค์มาตั้งแต่เห็นในทีวีแชมเปี้ยนเมื่อ 6-7 ปีก่อนแล้ว จะทำทานเองแถวนี้ก็ไม่มีเกาลัดขาย คราวนี้แหละ.. จะได้ลองทานดูซะที แล้วก็พวกชูครีทกับขนมที่ทำจากมันสีม่วงด้วย แค่คิดก็มีความสุขแล้วค่ะ อีกอย่างที่หมายมั่นปั้นพุงรอไว้ก็พวกราเมงหมูชาชิวใส่ไข่ต้ม กับเนื้อย่างแบบละลายในปาก สองอย่างนี้อยากทานมากที่สุดเลย อย่างอื่นยังพอทำทานเองได้ค่ะ อิอิ คาดว่างานนี้น้ำหนักคงจะขึ้นสวนทางกับกระเป๋าสตางค์ชัวร์
มาเข้าเรื่องขนมเลยละกันนะคะ เจ้าซินนาม่อนโรล หรือซินนาม่อนบันนี้ ทำไป 2 วันติดกันเลย วันแรกทำแล้วเนื้อขนมปังนุ่มนิ่มถูกใจ แต่เวลาม้วนก็ม้วนยากไปด้วย เพราะโดนิ่มมากๆ ตัดก็ยากด้วย ยกใส่ถาดทีเสียรูปทรงหมด ทำออกมาเลยไม่สวย เลยต้องมีแมทช์ล้างตา มาวันที่สองเลยเพิ่มแป้งเข้าไปอีกหน่อย ขนมปังออกมาแข็งกว่าวันแรกนิดนึง แต่ก็ยังนุ่มอยู่ค่ะ จุดสำคัญคือต้องไม่อบนานเกินไป เพราะแค่ไม่กี่นาทีก็ทำให้ขนมแห้งไปเยอะเลย ยังไงก็ลองปรับสัดส่วนแป้งดูนะคะ ถ้าไม่ห่วงว่าต้องออกมาชิ้นกลมสวยมากมาย แต่ขอให้นิ่มละลายในปาก ก็ใส่แป้งน้อยหน่อย แต่ถ้าเอาความสวย ส่วนเนื้อขนมไม่นิ่มเท่า ก็ใส่แป้งมากหน่อย หรือถ้าอยากได้แบบสวยด้วยนิ่มมากๆด้วย... คงต้องรอสูตรอื่นแล้วล่ะค่ะ อาจจะต้องเป็นสูตรใส่พวกสารเสริมหรือ Bread improver คิดว่าคงจะลองหาสูตรอื่นมาทำอีกแน่ๆ เพราะขนมนี้คุณซะมีโปรดสุดๆ ได้ทำบ่อยแน่ค่ะ
สูตรก่อนเลยนะคะ วันนี้ไม่ทำเป็นไฟล์ภาพ เพราะยาวมาก เดี๋ยวจะไฟล์ใหญ่เกินไป สูตรดัดแปลงมาจากตำราของรอบบี้ แฮฟฟ์ (ถ้าจำไม่ผิด) จดมาจากห้องสมุดนานแล้วค่ะ
++Cinnamon Buns++
ส่วนผสม
::ตัวขนมปัง::
A:
- ยีสต์ 1 ซอง (ประมาณ 7 กรัม หรือเกือบ 1 ชต.)
- น้ำตาลทราย 1 ชช.
- น้ำอุ่น (105-115 องศาฟาเรนไฮต์) 1/2 ถ้วย
B:
- เนยสดจืดละลาย 150 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- นมสด 1/2 ถ้วย (อุณหภูมิห้อง)
- เกลือป่น 1 ชช.
C:
- แป้งขนมปัง 430 - 500 กรัม (ที่ทำแล้วนิ่มใช้ไป 430 กรัม อีกวันใช้ไป 480 กรัม ไม่รวมแป้งนวลเวลานวด)
::Filling::
- เนยสดละลาย 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลทรายแดง 100-150 กรัม (เพิ่ม-ลดได้ แล้วแต่ขนาดโดที่คลึงออกมา แต่จริงๆตอนทำก็ใช้ไปแค่ 75 กรัม เพราะกลัวราดเกลซแล้วจะหวานไปค่ะ แต่คิดว่าน้อยไปหน่อย ไม่ค่อยได้รสของไส้เท่าไหร่)
- ผงซินนาม่อน (อบเชย) 4 ชช. (เพิ่มได้ แต่ห้ามลดเด็ดขาด เดี๋ยวไม่หอม)
::Glaze::
- น้ำตาลไอซิ่ง 80 กรัม
- นมสด 2 ชช.
::อื่นๆ::
- ไข่ไก่เจือน้ำ (ไข่ 1 ฟอง ผสมน้ำหรือนมเล็กน้อยให้เจือจางลง แล้วตีให้เข้ากัน)
- เนยขาวสำหรับทาชามผสม
- แป้งนวล (แป้งขนมปัง)
วิธีทำ
1. ละลายส่วน A เข้าด้วยกันในชามใบเล็ก พักไว้ประมาณ 10 นาที
2. ระหว่างรอยีสต์ขึ้น ให้ผสมส่วน B เข้าด้วยกันในชามผสมใบใหญ่ๆ ตีให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ เติมยีสต์แล้วตีให้เข้ากันอีกครั้ง พอเข้ากันดีแล้วเติมแป้งลงไป 430 กรัม ใช้มือนวดดูถ้ายังแฉะอยู่ให้ค่อยๆทยอยเติมแป้งเพิ่ม เติมพอให้ส่วนผสมเริ่มจะไม่แฉะติดนิ้ว แต่ยังไม่ถึงกับแห้งมาก เพราะเดี๋ยวตอนนวดต้องโรยแป้งนวลเพิ่มอีก ถ้าแห้งมากไปขนมปังจะไม่นุ่มค่ะ
3. โรยแป้งนวลบางๆให้ทั่วโต๊ะ ย้ายโดจากชามผสมลงมาวางบนโต๊ะ แล้วนวดโดยกลบโดลงมาแล้วใช้สันมือดันไปข้างหน้า ทำซ้ำๆประมาณ 10 นาที นวดจนกระทั่งโดพอยืดหยุ่นและไม่ติดโต๊ะ (ถ้าใช้เครื่องนวดประมาณ 8 นาที) ถ้าแป้งติดโต๊ะโรยนวลได้บางๆ พยายามอย่าใช้แป้งนวลมากเกินไป
4. ครบ 10 นาทีคลึงโดเป็นก้อนกลม นำไปวางกลับใส่ชามผสมเหมือนเดิม ถ้ากลัวติดทาเนยขาวหรือน้ำมันพืชที่่ชามบางๆ แต่ที่ทำก็ไม่ได้ทา โดก็ไม่ได้ติดชามผสมค่ะ จากนั้นคลุมด้วยผ้าชื้น พักไว้ในที่ที่อากาศร้อนชื้น ประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือจนกระทั่งโดขึ้นเป็น 2 เท่า (แล้วแต่อุณหภูมิ)
5. นำออกมาชกหรือนวดไล่แก๊สออก คลึงกลมแล้วพักไว้ 5 - 10 นาที เวลารีดโดจะได้ไม่หด
6. ระหว่างรอให้ผสมส่วนฟิลลิ่งรอไว้ โดยละลายเนยสดในไมโครเวฟ จากนั้นพักไว้ก่อน แล้วผสมน้ำตาลทรายแดงและผงซินนาม่อนเข้าด้วยกันด้วยตะกร้อมือ พักไว้
7. นำโดมารีดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดประมาณ 12 x 18 อันนี้ก็กะๆเอาก็ได้ค่ะ ให้หนาประมาณเกือบ 1 เซนต์ ทาด้วยเนยสดละลายให้ทั่ว โรยด้วยส่วนผสมน้ำตาลซินนาม่อนให้ทั่วๆ เหลือตรงช่วงขอบ (ด้านยาว) ไว้ประมาณ 1 นิ้ว สำหรับปิดตะเข็บ
8. เริ่มม้วนโดตามยาว พยายามม้วนให้แน่น จากนั้นทาขอบ 1 นิ้วที่เหลือไว้ด้วยไข่เจือน้ำ แล้วบีบตะเข็บให้แน่น
9. ใช้ด้ายยาวๆ ตัดโดให้กว้างประมาณ 1.5-2 นิ้ว วางเรียงบนถาดปูด้วยกระดาษไขหรือเบคกิ้งชีท หรือพิมพ์กลมขนาด 9 นิ้ว รองกระดาษไขหรือกระดาษฟอยล์ไว้ ถ้าไม่รองเวลาอบเสร็จอาจจะเหนียวติดพิมพ์ แกะออกยากค่ะ
10. จากนั้นคลุมด้วยผ้าชื้นๆอีกครั้ง พักไว้ให้ขนมขึ้นเป็นครั้งที่สอง ประมาณ 45-50 นาที หมั่นสเปรย์น้ำทุก 10-15 นาที (ตอนที่ทำก็ไม่ได้ฉีดหรอกค่ะ มาอ่านเจอในเว็บญี่ปุ่นทีหลัง ตรงนี้จะช่วยไม่ให้ผิวขนมแห้ง) พอขึ้นเป็นสองเท่าแล้วให้ทาด้วยไข่เจือน้ำก่อนนำไปอบ **ตรงจุดนี้ ถ้าจะไม่อบทันที จะเก็บไว้อบวันรุ่งขึ้น ก็คลุมด้วยพลาสติกแรปแล้วเอาเข้าตู้เย็นรอไว้ ยังไม่ต้องหมักแป้งรอบสอง แล้วพอซัก 2-3 ชั่วโมงก่อนอบก็นำออกมาวางนอกตู้เย็น คลุมผ้าชื้นๆทิ้งไว้ พอจะอบก็ทาไข่เจือน้ำแล้วนำเข้าอบตามปกติได้เลยค่ะ**
11. อบไฟ 375 องศาฟาเรนไฮต์ 15-20 นาที แล้วแต่คุณเตาอบเช่นเคยค่ะ อบไปได้ซักสิบกว่านาทีก็เริ่มเฝ้าหน้าเตาได้แล้ว ถ้าดูเหมือนเริ่มจะออกสีเหลืองๆไม่ขาวซีด ก็รีบเอาออกมาได้เลย ไม่ต้องให้มันเหลืองน้ำตาลเหมือนในรูปนะคะ อันนั้นอบนานไปหน่อย
12. ระหว่างรออบเสร็จก็หันไปทำเกลซสำหรับราด ที่เห็นในรูปเป็นสูตรแบบใส่เนย แต่ทานดูแล้วคิดว่ามันไม่ใช่แบบ Cinnabon แถมสียิ่งเหลืองไม่ใช่ใหญ่เลย รสชาติก็หนักเกินไป แล้วยังอ้วนอีกด้วย (ใส่เนยตั้งครึ่งถ้วย) ก็เลยเอาสูตรนี้มาให้แทนค่ะ มาจากเว็บญี่ปุ่น วิธีทำก็ง่ายด้วย แค่ผสมน้ำตาลไอซิ่งและนมสดเข้าด้วยกัน ถ้าเหลวไปเติมน้ำตาลไอซิ่งเพิ่ม ถ้าข้นไปก็เติมนมเพิ่มทีละน้อย จนกว่าจะได้ความข้นเหลวที่ต้องการ เกลซก็จะออกมาสีขาวสวย พอขนมออกจากเตาพักไว้ซัก 2 นาทีให้หายร้อนจัด แล้วราดด้วยเกลซ หรือใส่ถุงบีบบีบก็ได้ ซินนาม่อนบันนี้เก็บใส่ถุงไว้นอกตู้เย็นได้ประมาณ 3 วันค่ะ
Baking Notes:
- สูตรนี้นวดแค่ 10 นาที ไม่ต้องถึงกับให้ขึงเป็นฟิลม์บางๆได้ แต่ใครจะลองนวดให้ขึงได้ก็ได้ค่ะ แล้วอย่าลืมมาบอกผลนะคะว่าออกมาเป็นยังไง
- ระหว่างรอพักแป้ง อย่าลืมใช้สเปรย์ฉีดน้ำพรมบนหน้าโดเป็นระยะๆ ขนมจะได้ผิวไม่แห้งแข็ง มาอ่านเจอเอาตอนอบไปแร้ว -_-" คราวหน้าเอาใหม่
- อุณหภูมิที่ใช้อบ สำหรับชิ้นเล็ก (หนาประมาณ 1 นิ้ว) อบแบบใส่ถาดชิ้นใครชิ้นมัน ใช้วิธีอบเหมือนแบบกระป๋องสำเร็จรูป คืออบ 400 F ประมาณ 8-9 นาทีค่ะ (แล้วแต่เตาด้วย)