ข้าวกับปลาทูและน้ำซีอิ้ว คืออาหารโปรดปราณที่ผมมักร้องขอแม่ให้ทำให้กินเสมอว่า "แม่...อยากกินข้าวกับน้ำอิ้ว" ประโยคนี้แม่ชอบบอกเล่าให้คนอื่นฟังเสมอ ๆเกี่ยวกับผมเมื่อครั้งยังเด็ก ผมตีกอาหารจานโปรดเข้าปากได้ไม่กี่คำ พลันเสียงรถที่เตี๋ยขึ้นไปตลาดก็ดังขึ้นที่หน้าบ้านและดับลงเป็นเครื่องบ่งบอกว่าเตี๋ยได้เดินทางมาถึงแล้ว
ผมละทิ้งจานข้าวและวิ่งไปยังหน้าบ้านทันทีเพื่อยลโฉมรถจักรยานที่ถวิลหาและรอคอยมานานเนิ่น ผมพยายามวิ่งวนไปมารอบรถหลายรอบก็ไม่มีวี่แววรถจักรยานเลย มีเพียงกล่องกระดาษใบใหญ่ที่ข้างในบรรจุอะไรก็ไม่รู้ แต่ในใจยังมุ่งหวังว่ามันคือจักรยาน
เตี๋ยและเพื่อนบ้านที่ขับรถไปให้ช่วยกันยกกล่องนั้นลงมาวางกลางบ้านโดยมีผมเดินวนไปวนมาด้วยใจที่ยังไม่สิ้นหวัง ลุ้นระทึกว่า เพียงแต่เตี๋ยเปิดกล่องออกมาจะปั่นจักรยานรอบบ้านให้หนำหัวใจ
เพียงแค่กล่องแย้มออกมา ผมก็รู้ว่าตัวเองต้องผิดหวังพร้อมเดินออกจากที่ตรงนั้นไปช้า ๆกลับไปนั่งที่โตะกินข้าว พร้อมทั้งก้มหน้ามองจานข้าวกับน้ำอิ้วอย่างนิ่งเงียบ น้ำตาแห่งความผิดหวังหยดลงจานข้าวเปาะแล้วเปาะเล่า โดยมีแม่นั่งปลอบประโลมอยู่ข้าง ๆว่า ไว้แม่มีเงินจะซื้อให้นะลูก
ผมไม่รู้ว่าผมนั่งนิ่งอยู่แบบนั้นนานเพียงใด น้ำตาหมดต่อมไปมากแค่ไหน มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่า มีเสียงละครโทรทัศน์ดังมาจากกลางบ้าน ตรงที่เตี๋ยแกะกล่องใบใหญ่นั้น ผมรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลเป็นคราบที่แก้มพร้อมวิ่งไปดู
โทรทัศน์ขาวดำ 20 นิ้ว ยี่ห้อชาร์ป มีขาตั้งสีขา ในสมัยนั้นมันคือความสุดยอดของโทรทัศน์หากใครได้ครอบครองนับว่าเป็นผู้มีฐานะระดับหนึ่งเลยทีเดียวมันกำลังวางอยู่บนโต๊ะ โดยที่เตี๋ยเปิดช่องแล้วช่องเล่าเพื่อทดสอบสัญญาณภาพ โดยมีผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไม่ห่างจากโทรทัศน์มากนักอย่างใจจดจ่อ
เวลานั้น ผมคงหลงลืมจักรยานและความเสียใจไปอย่างไม่รู้ตัว
โทรทัศน์...ในสมัยนั้นคือเครื่องมือเปิดโลกทัศน์ชั้นเลิศ คือศูนย์รวมของความบันเทิง และคงมีเพียงไม่กี่คนที่ปฏิเสธมัน
หลังจากวันนั้น บ้านผมซึ่งเป็นร้านขายของชำขนาดใหญ่ก็ครึกครื้นตลอดทั้งวันและกลางคืน เพราะเป็นร้านเป็นบ้านหลังเดียวในสมัยนั้นที่มีโทรทัศน์เปิดให้ดูฟรี ทำให้คนที่ชอบดูมวยในตอนกลางวันก็มานั่งดูพร้อมสั่งของที่ร้านกิน ทำให้ยอดขายของที่บ้านดีขึ้น ส่วนในตอนกลางคืน แม่จะเป็นคนทำของกินขายคนที่มาดูโดยเฉพาะการย่างข้าวเกรียบว่าวขายคนที่มาดู...
ละครหลังข่าว ละครหลังข่าว...เมื่อย้อนนึกดูมันถูกปลูกฝังและซึมซับกันมาหลายปีแล้ว มีเรื่องราวมากมายสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาเล่น ไม่ว่าจะเป็น ดาวพระศุกร์ ที่สมัยนั้นเรียกน้ำตาคนมานั่งดูที่บ้านผมกันแบบนองท่วมจอเลย หรือจะเป็น กระสือ ปอบผีฟ้า
ทายาทอสูรหรือคุณยายวรนาถ ... ต่างล้วนเป็นเรื่องที่น่ากลัวสยดสยองที่สุดในสมัยนั้น และผมก็รู้จักละครหลังข่าวจากนั้นมา
ละครหลังข่าว...ทำให้เรามีเรื่องคุยมากมายที่โรงเรียนในวันรุ่งขึ้น ^^
ที่จริงถ้าทำละครให้ดี ให้ข้อคิดกับคนดู ถึงจะน้ำเน่าก็โอเคนะคะ
ภาพถ่ายงามได้ใจมาก โหวตหมวดภาพถ่ายให้เฮียค่า