Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
23 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 

Cosmopolis หนังอาร์ตหลุดโลกชนิดลุงบุญมียังส่ายหน้า

สำหรับคอหนังอาร์ตชนิดหลุดโลกจนลุงบุญมีต้องส่ายหน้านั้น  เห็นทีจะต้องมาชม Cosmopolis ของ เดวิด โครเนนเบิร์ก เจ้าพ่อหนังเซอร์ หนังเรื่องนี้ทำมาจากหนังสือชื่อเดียวกันของ Don Delillo  ซึ่งเกลื่อนไปด้วยไดอะล็อกนอกโลกที่คนธรรมดาสามัญไม่สามารถประดิษฐ์คำพูดอะไรแบบนี้ขึ้นมาได้   Cosmopolis เล่าเรื่องราวของมหาเศรษฐีหนุ่มซึ่งนำแสดง โดย โรเบิร์ต แพททินสัน ดาราแวมไพร์ทไวไลท์ที่คงนึกเฮี้ยนอยากมาเล่นบทยากๆ ท้าทายความสามารถ  โดยเฉพาะกับผู้กำกับจอมเซอร์อย่าง เดวิด โครเนนเบิร์ก ที่ทำหนังมาสารพัดแนวแต่จะโดดเด่นในแนวไซไฟเซอร์เรียล  ซึ่งข้าพเจ้าติดตามดูมาตั้งแต่สมัย Scanners, Videodrome, Crash, Naked Lunch  มาจนถึงหนังดราม่าแปลกๆ อย่าง Eastern Promises หรือหนังพีเรียดจิตวิทยาอย่าง  A Dangerous Method  แต่เมื่อมาถึง Cosmopolis นี้  ข้าพเจ้าขอยอมถวายบังคมว่ามิอาจเอื้อมจริงๆ

Cosmopolis เป็นภาษากรีก แปลว่า Universe City หรือ Order City  ซึ่งน่าจะหมายถึงเมืองใหญ่ที่คละเคล้าไปด้วยผู้คนสารพันมากมายหลายหลาก   เมืองใหญ่ที่พ่อหนุ่มมหาเศรษฐี อีริค แพคเกอร์ (แพททินสัน)  ต้องมาผจญกรรมจากการแค่อยากนั่งลีมูซีนคันยาวเท่าเรือสุพรรณหงส์ไปตัดผมอีกฟากหนึ่งของมุมเมือง   แม้กระทั่งบอดี้การ์ดตัวดีจะเตือนแล้วกับความวุ่นวายของจราจรที่เกิดขึ้นจากการเยี่ยมเยือนของประธานาธิบดี  หรือการต้องฝ่าฝูงชนที่กำลังเดินขบวนประท้วงกันอย่างเมามัน  แต่ภายในรถลีมูซีนคันหรูนั้น  ประหนึ่งเป็นโลกพิศดารส่วนตั๊ว..ส่วนตัวของอีตาแพคเกอร์คนนี้  หนังพาเราเดินทางไปกับกิจกรรมสารพัดแบบที่บังเกิดขึ้นในรถลีมูซีน  โดยมีบรรยากาศของความเปลี่ยนแปลงผันผวนบังเกิดขึ้นภายนอกอยู่ตลอดเวลา  ขณะที่ในโลกลีมูซีนของเศรษฐีหนุ่มคนนี้กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ตรงกันข้ามกับเหตุการณ์ด้านนอกชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้า  ตั้งแต่การมีเซ็กซ์ชั่วคราวแทนม่านรูด  เป็นห้องน้ำ  เป็นที่เจรจาธุรกิจ  ที่ปรับทุกข์  ไปจนถึงคลีนิคแพทย์ตรวจภายใน (ทวาร) ..ชะอุ๊ย 

ทุกๆ คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของแพคเกอร์  ต่างพูดจาเหมือนมาจากดาวอังคาร 555  เล่าเรื่องอะไรเป็นวรรคเป็นเวรด้วยภาษาที่ประดิดประดอยจนฟังไม่รู้เรื่อง  ต้องปล่อยอารมณ์ให้พวกท่านเหล่านั้นพล่ามไปเรื่อยเปื่อยแล้วจับความเอาเอง  ได้เห็นโลกของคนหลากหลายระดับชั้นที่ต้องมาพัวพันกันด้วยแรงกดดันของเมืองหลวงและชีวิตที่ครอบไว้ด้วยโลกวัตถุนิยมซึ่งไร้ความแน่นอน   แม้แต่ตัวมหาเศรษฐีอย่างอีริค แพคเกอร์เองก็ยังต้องพลาดท่ากับการดำเนินธุรกิจ  สูญเสียเงินทองนับเป็นล้านๆ   แล้วชีวิตเขาต้องการอะไรแน่ ?

 

ขณะที่ในรถลีมูซีนคันงามนั้น  เพียบพร้อมไปด้วยทุกอย่างระดับไฮเทค  ต้องการข้อมูลบ้าบออะไรก็หาได้หมด  แต่โลกส่วนตัวของเขาในรถก็หาใช่สิ่งที่เขาแสวงหา   กระนั้น เมื่อเขาก้าวเดินออกไปจากตัวรถเป็นครั้งคราว..  เพื่อตามไปงอนง้อภรรยาที่ทำท่าไม่อยากนอนกับเขาด้วยเพราะอยากเก็บแรงไว้ทำงานต่อ  หรือ  แค่จะออกไปตัดผมแต่ก็ต้องโดนผู้ประท้วงเอาพายมาโปะหน้าให้ได้อาย  แถมมีปาปารัสซี่มีถ่ายภาพซ้ำเติม  หรือ..แอบไปมีเซ็กซ์กับบอดี้การ์ดสาวของตัวเอง     จนกระทั่งท้ายสุดมาเจอะเจอกับอดีตลูกจ้าง (แสดงโดย พอล จีอาแมตติ นักแสดงระดับรางวัล)  ซึ่งกำลังจ้องจะเอาปืนส่องกบาลล้างแค้นเขาอยู่ทุกขณะจิตนั้น   ...ตกลงชีวิตเขาดูมีค่าตรงไหนกันนี่? 

ซึ่งฉากการปะทะคารมครั้งสุดท้ายระหว่าง โรเบิร์ต แพททินสัน และ พอล จีอาแมตตินี้ร่ายยาวด้วยไดอะล็อคของสองนักแสดงชั้นนำอย่างลืมโลกเลยทีเดียว  และต้องขอสารภาพว่าข้าพเจ้ามึนเป็นอันมากกับการตีความเรื่องราวที่ไม่เหมือนมนุษย์มนาเหล่านี้  ซึ่งท่านทั้งสองก็สามารถคุยเรื่องอะไรก็ไม่รู้ได้เป็นวรรคเป็นเวร   และต้องยกความดีให้กับนักแสดงในเรื่องทุกคนที่สามารถยิ่งในการท่องบทยาวๆ ที่พูดยากพูดเย็นเหล่านี้ได้อย่างลื่นไหล  แถมยังตีบทใส่อารมณ์ให้กับมันได้อย่างใจนึก  มันเป็นบทที่เหนือจริงที่ทุกคนต้องแสดงเหมือนในชีวิตจริง...เออ..เก่งซะไม่มี

ที่ต้องชมเชยคือ ผู้กำกับ เดวิด โครเนนเบิร์ก ที่สามารถหาทุนได้จากทั้งแคนาดา และยุโรป มาลงขันทำหนังเซอร์สุดริดสุดเดชเรื่องนี้  ในแง่มุมของการกำกับ  ก็ต้องยอมรับว่าเขามีความคิดสร้างสรรค์ได้ล้ำ  ตีความนวนิยายออกมาเป็นภาพได้อย่างมีเอกลักษณ์โดดเด่น  (แต่จะดูเข้าใจแค่ไหนอีกเรื่องนึง)  ในแง่มุมของการตีความ  หนังอาร์ตแบบนี้มักมีปลายเปิดให้ไอเดียของคนดูหลั่งไหลเข้ามาแสดงสัญชาตญาณได้โดยเสรีอยู่แล้ว  เพราะฉะนั้น ก็คงเข้าหลัก “สองคนยลตามช่อง  คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม  อีกคนตาแหลมคม  มองเห็นดวงดาวอยู่พราวพราย”  

 ส่วนในด้านโปรดักชั่นนั้น  ต้องยอมรับว่าฝีมือการถ่ายทำในที่แคบๆ อย่างรถลีมูซีนกับสถานการณ์ด้านนอกที่ผันแปรไปแต่ละช่วงละตอนนั้น  ทำได้ขั้นเทพ  เพราะการวัดแสงจัดไฟนั้นต้องระดับฝีมือจริงๆ ถึงจะบาลานซ์ความพอดีให้กับทั้งภาพภายนอกภายใน  ที่โดดเด่นมากก็ฉากที่ภายนอกรถลีมูซีนมีการประท้วง  นักเดินขบวนพากันเข้ามาพ่นสีใส่รถใส่กระจก  ทุบเขย่ารถกันโคลงเคลง  ขณะที่พ่อพระเอกตัวดียังคงเจรจาต้าอ้วยด้วยลีลาอันเย็นชา (ยิ่งกว่าแวมไพร์) ซะงั้น    สำหรับบางซีนที่ต้องการความประณีต  ก็อาจต้องใช้ซีจีในการซ้อนภาพกันบ้างนั้นก็ไม่ว่ากัน  เพราะบางช็อทก็หินเหลือกำลัง

ศิริรวมได้ว่าถ้าอยากจะลองของเปลี่ยนบรรยากาศในการชิมรสชาติหนังแปลกๆ ดูบ้าง  Cosmopolis ก็ดูเป็นทางเลือกที่ไม่เลว  เพราะอย่างน้อย  หนังเรื่องนี้ก็ได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองมาแล้วในเทศกาลหนังเมืองคานส์  ส่วนโรเบิร์ต แพททินสัน ก็ได้เห็นเขาแสดงบทแหวกๆ เซ็กซ์ๆ ไม่ซ้ำรอยกับแวมไพร์เอ็ดเวิร์ดที่เห็นจนเอือมมาแล้ว  ซึ่งเขาก็ทำได้ดีเกินคาดเลยทีเดียว   แต่แรกนั้น โคลิน ฟาเรล จะมาสวมบทนี้  แต่ให้เผอิญคิวไม่สมพงษ์  ก็เลยอดเห็นหุ่นอันบึ้มๆ ของพ่อเจ้าประคุณในฉากล่อแหลมไปซะ   คิดๆ ไปก็น่าแปลกใจที่ดาราระดับแม่เหล็กยอมลงมาเล่นบทพิศดารยากๆ แบบนี้  คงเพราะเขาเหล่านั้นอยู่ในระดับที่อยากสร้างผลงานที่ฉีกแนวให้เป็นเกียรติประวัติแก่ตนเองกระมัง?  เหมือนกับที่ ทอม แฮงค์ส ยอมล่มหัวจมท้ายกับการแสดงใน Cloud Atlas อะไรทำนองนั้น 

 สิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่างคือ  หนังเรื่องนี้ได้มีโอกาสแหวกโปรแกรมเข้ามาฉายในเมืองไทยในเครือเมเจอร์ได้กะเขาด้วยสิ  โดยมีชื่ออันแสนเกร๋ว่า  “เทพบุตรสยบเมืองคลั่ง”  (มันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ย)  เออ..เลยพาลนึกอยากไปชมซับไทยให้เป็นบุญตาว่า  จะมีนักแปลคนไหนอาจหาญมาแปลหนังเรื่องนี้ให้เป็นภาษาไทยชนิดร้อยเรียงให้ดูรู้เรื่องได้กันหนอ

 ส่วนตัวข้าพเจ้า  ถ้าจะถามว่าชอบหนังเรื่องนี้ไหม?  คงต้องบอกว่า “น่าสนใจ” โดยเฉพาะในแง่มุมของโปรดักชั่นที่มีสไตล์โดดเด่น  และที่สำคัญ สามารถดูจนจบเรื่องได้ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้าก็มิใช่คอหนังอาร์ตชนิดฮาร์ดคอร์  (คงเพราะอยากรู้ว่ามันจะจบยังไง)  ขณะที่ยังมีหนังสยองขวัญลึกลับอีกสองสามเรื่องที่ดูได้ครึ่งเดียวก็เปลี่ยนแผ่น   แต่ถ้าถามว่าเข้าใจสาระของมันได้แค่ไหน  ก็ต้องบอกว่า..คงเป็นผู้หนึ่งที่มองไม่ถึงดวงดาว  คงเห็นได้แค่ “หาดทรายกับน้ำทะเล” เท่านั้น (ดีกว่า “โคลนตม” หน่อยนึงอะนะ)....

(หมายเหตุ - ตัดตอนบางส่วนจากบทความของข้าพเจ้าในนิตยสาร Audiophile/Videophile ขอขอบคุณ บก. มา ณ ที่นี้)

 




 

Create Date : 23 มีนาคม 2556
1 comments
Last Update : 23 มีนาคม 2556 16:23:38 น.
Counter : 4833 Pageviews.

 

สวัสดีตอนค่ำครับพี่หมี

ชอบพี่หมีเวลารีวิวหนังด้วยครับ
หนังอาร์ตมากๆ ผมไม่ค่อยได้ดูเลยครับพี่
แต่พยายามจะพาเวลาดูหนังให้มากขึ้นครับ

ช่วงนี้ไม่ได้มาทักทายพี่เลย
ปีนี้งานตรึมเลยครับพี่
ตื่นตี 5 ไม่ไหวครับ 555






 

โดย: กะว่าก๋า 24 มีนาคม 2556 20:42:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bkkbear
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




งานเขียนบทความ บทหนัง เรื่องสั้น และนวนิยายในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์โดย Bkkbear (หมีบางกอก) ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามมิให้ดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

Friends' blogs
[Add Bkkbear's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.