รำลึก..สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา..4



รำลึก..สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา..4








































































































































ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน

.............


สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงอุทิศกำลังพระวรกายประกอบพระกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ ซึ่งรวมถึงทรงมีพระคุณูปการแก่วงการศึกษาของชาติ

*ทรงเป็นอาจารย์-นักวิชาการ

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
ทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิชาเคมี ในคณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยโลซานน์ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี พ.ศ.2491
และในระหว่างที่ทรงศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตร์นั้น
พระองค์ได้ศึกษาหลักสูตรสังคมศาสตร์-ครุศาสตร์ อันประกอบด้วยวิชาต่างๆ
ในสาขาวิชาการศึกษา วรรณคดี ปรัชญา และจิตวิทยาด้วย

เมื่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จนิวัตประเทศไทยในปี
พ.ศ.2493 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ทรงทราบดีว่าพระธิดาโปรดการเป็นครูมาแต่ยังทรงพระเยาว์
ทรงรับสั่งแนะนำให้ทรงงานเป็นอาจารย์
พระองค์จึงทรงรับงานเป็นอาจารย์พิเศษสอนภาษาฝรั่งเศสที่คณะอักษรศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนถึงปี พ.ศ.2501

ในปี พ.ศ.2512
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ได้ขอประทานพระกรุณาเป็นอาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัย
ทรงรับงานสอนและงานบริหาร
โดยทรงเป็นหัวหน้าสาขาวิชาภาษาและวรรณคดีฝรั่งเศส
และผู้อำนวยการภาษาฝรั่งเศส จนถึงปี พ.ศ.2519
จึงทรงลาออกจากตำแหน่งอาจารย์ประจำ เนื่องจากพระภารกิจด้านอื่นๆ
ที่มีมากขึ้น แต่ก็ยังมีพระกรุณารับเป็นอาจารย์พิเศษ
เมื่อพอจะมีเวลาประทาน
และยังมีพระกรุณาเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยแห่งอื่นๆ ด้วย เช่น
ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
โดยมีพระกรุณาเสด็จไปประทับที่วิทยาเขตปัตตานี
เพื่อทรงสอนวิชาภาษาฝรั่งเศสของคณะมนุษยศาสตร์ด้วย
และทรงได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทานตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ
ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ.2521

จากพระประสบการณ์ที่ทรงงานสอนภาษาฝรั่งเศสมาเป็นระยะเวลายาวนาน
ทำให้ทรงตระหนักถึงปัญหาความต่อเนื่องในการเรียนภาษาฝรั่งเศสระดับมัธยมศึกษากับอุดมศึกษา
จึงทรงริเริ่มก่อตั้งสมาคมครูภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทยขึ้น เมื่อปี
พ.ศ.2520
เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเรียนการสอนภาษานี้
และทรงดำรงตำแหน่งนายาสมาคมมาเป็นเวลา 5 ปี
ต่อจากนั้นก็ยังทรงพระกรุณารับเป็นนายกสมาคมกิตติมศักดิ์
ซึ่งจากผลงานของสมาคมมีส่วนช่วยให้การสอนและวิจัยภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทยเจริญรุดหน้าเป็นอย่างดี


ด้วยทรงมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่และสนับสนุนการเรียนการสอนภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทย
รวมทั้งยังทรงมีไมตรีจิตอันต่อเนื่องแก่ประเทศฝรั่งเศสเสมอมา
ทำให้ทางการฝรั่งเศสโดยประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี
ได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯถวายอิสริยาภรณ์ชั้น กรองด์ ออฟฟิซิเยร์ เดอ ลา
เลฌิยง ดอนเนอร์ แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
มิได้ทรงสนพระทัยการศึกษาเฉพาะระดับอุดมศึกษาเท่านั้น
หากทรงคำนึงถึงความสำคัญของการศึกษาระดับต้นว่าเป็นรากฐานสำคัญของการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นไป
ดังนั้น
เมื่อมูลนิธิสมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ของพระองค์
จัดตั้งโครงการสอนการอ่านแก่เด็กเล็กในชั้นเตรียมความพร้อมทั่วประเทศ
พระองค์ได้ประทานความช่วยเหลือ
โดยทรงรับเป็นผู้ดำเนินการทดลองการใช้อุปกรณ์การเรียนของมูลนิธิ
โดยทรงนำไปทดลองใช้ในระหว่างการตามเสด็จ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จเยี่ยมและสงเคราะห์ราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดารของจังหวัดต่างๆ
เกือบทั่วประเทศ ทรงประเมินผลอุปกรณ์ วิเคราะห์
และแนะนำข้อแก้ไขจนแล้วเสร็จตามโครงการ


*องค์อุปถัมภ์โอลิมปิกวิชาการ*


เหตุที่พระองค์ทรงเป็นนักวิชาการและทรงศึกษามาทางวิทยาศาสตร์
จึงทรงสนพระทัยโครงการจัดส่งผู้แทนเยาวชนไทยไปเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิควิชาการระหว่างประเทศ
ตั้งแต่ปีพ.ศ.2532 มาจนถึงปัจจุบัน
ได้ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์และเงินกองทุนสมเด็จย่าเพื่อช่วยเหลือ
และทรงติดตามความเคลื่อนไหวของการแข่งขันทุกระยะ ประทานกำลังใจ
และแสดงความยินดีแก่ผู้แทนเยาวชนไทยที่ประสบความสำเร็จมาทุกครั้ง


ด้วยสายพระเนตรที่กว้างไกล
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้ศาสตราจารย์ศักดา ศิริพันธุ์
นายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในขณะนั้น
ไปดำเนินการจัดตั้งมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิควิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา
ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ (สอวน.) ขึ้น
และทรงรับเป็นองค์ประธานมูลนิธิ สอวน.ด้วย
เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของนักเรียนทั่วประเทศให้ได้มาตรฐานสากล
เป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลแบบยั่งยืน
และประเทศไทยจะได้นักเรียนที่มีความรู้ระดับมาตรฐานสากลไปเข้าร่วมแข่งขันทางวิชาการกับนานาชาติมากขึ้น
ซึ่งมูลนิธิ สอวน.ได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ และคณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยของรัฐ จัดตั้งศูนย์ สอวน.ขึ้นทั่วประเทศ
เพื่อเป็นศูนย์พัฒนาศักยภาพของนักเรียนและครูทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ศึกษา
จำนวน 16 ศูนย์


*ทรงเป็นที่พึ่งเด็กไทยภูเขา*

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ยังทรงห่วงใยในชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรผู้ด้อยโอกาสในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ
ทรงมีพระเมตตาสนับสนุนหน่วยงานและองค์กรต่างๆ
ที่ดำเนินงานช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด

"ชุมชนการเรียนรู้สมเด็จย่า"
เป็นสถานที่จัดการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนชาวไทยภูเขา ซึ่งมีฐานะยากจน
ขาดโอกาสทางการศึกษา และอยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร
ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯทรงตั้งพระทัยที่จะสืบสานตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ที่จะให้เด็กๆ ชาวเขาได้มีโอกาสเข้ามาเรียนหนังสือ
เพื่อกลับไปใช้ชีวิตในชุมชนของตนเองได้อย่างเหมาะสม มีคุณภาพ
กลับไปเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชนให้เกิด "การพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน"

การดำเนินงาน "ชุมชนการเรียนรู้สมเด็จย่า"
เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 โดยตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แจ่ม
จังหวัดเชียงใหม่
โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเด็กชาวเขาในท้องถิ่นภาคเหนือเข้ามาเรียนรู้ในลักษณะอยู่ประจำ
ให้ช่วยกันทำการเกษตรเพื่อการบริโภค
ในระหว่างเรียนตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน
ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯทรงมีพระเมตตาประทานเงินเป็นค่าใช้จ่ายผ่านโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า
จนกระทั่งปัจจุบันปี พ.ศ.2550 ชุมชนการเรียนรู้สมเด็จย่าแห่งนี้
ได้ช่วยเหลือเด็กๆ ชาวไทยภูเขาไปแล้วจำนวนไม่น้อยกว่า 100 คน
โดยสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ "โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร" ก็เป็นอีกโครงการในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ที่ทรงมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไทยภูเขา
ซึ่งความเป็นมาก่อนที่จะเกิดโครงการนี้ขึ้น
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯได้ตามเสด็จสมเด็จย่า
และทอดพระเนตรเห็นความยากลำบากของชาวเขาในด้านต่างๆ อยู่เป็นนิจ
ทั้งความเป็นอยู่ การทำมาหากิน สุขภาพอนามัย
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต
โดยพื้นที่ทรงงานโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดารนี้
อยู่ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ อันได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง
ลำพูน แม่ฮ่องสอน ตาก แพร่ น่าน และพะเยา

กิจกรรมในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร
ในแต่ละพื้นที่ มีได้แก่
การให้การสนับสนุนซ่อมแซมอาศรมศูนย์การเรียนในพื้นที่ต่างๆ
ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมในการจัดการเรียนการสอน การส่งเสริมการเกษตร
ทั้งการปลูกผัก ไม้ผล และส่งเสริมการเลี้ยงเป็ด เพราะให้โปรตีนค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ ได้ทรงส่งเสริมให้ชาวเขาเพาะเห็ดหอม
เติมสารไอโอดีนให้แก่ชาวเขาโดยให้เด็กๆ
ที่มาเรียนที่ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา "แม่ฟ้าหลวง" เพื่อได้ดื่มน้ำที่ผสมสารไอโอดีน เสริมภูมิต้านทานโรคคอพอก

จึงเป็นดั่งน้ำทิพย์ที่ชโลมใจชาวไทยภูเขาทุกชนเผ่า ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น.

.....
ขอขอบพระคุณแหล่งที่มา จาก นสพ.เดลินิวส์
//www.sanook.com ,www.teenee.com



Create Date : 06 มกราคม 2551
Last Update : 6 มกราคม 2551 13:57:06 น.
Counter : 937 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sananda
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




" HIDDEN="true" AUTOSTART="true"LOOP="2" MASTERSOUND>
มกราคม 2551

 
 
1
20
31
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add sananda's blog to your weblog]
MY VIP Friend