ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
30 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 

กาลานุกรม



"กาลานุกรม" พระพุทธศาสนาในอารยธรรมโลก

วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 13:00:59 น.

จากหนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์  //goo.gl/XQ5ag

Delight Moment / สุมิตรา จันทร์เงา

Chronology of Buddhism in World Civilization
คือชื่อในภาษาอังกฤษของหนังสือเล่มนี้

ฉันได้รับมันทางไปรษณีย์จากเพื่อนรักคนหนึ่ง “ยินดี เลิศเจริญโชค” 
อดีตคนข่าวที่ปัจจุบันทำงานอยู่ในองค์การสหประชาชาติ(UN)
สำนักงานถนนราชดำเนิน




“ยินดี” เป็นนามอันไพเราะยิ่งอยู่แล้ว แต่น้ำใจของเธองามยิ่งกว่าสิ่งใด
เธอ ‘ตื่น’ อยู่เสมอกับสิ่งไม่ชอบมาพากลของบ้านเมืองนี้
เดือดร้อนกับความทุกข์ของผู้คน และ ‘ให้’ โดยไม่หวังผลใดมาตลอดชีวิต
มีความสุขเสมอต้นเสมอปลายกับความงดงามภายในจิตวิญญาณ
ยิ่งกว่าหน่วยงานที่เธอนั่งทำงานอยู่อยู่มากมาย

ตอนที่บ้านเพื่อนๆจม น้ำอยู่เยียบเย็นเมื่อปลายปีก่อน
ยินดีอยู่ในบ้านที่แห้งผากย่านหัวลำโพง
แต่เธอเดือดร้อนมากว่าพวกเราที่ถูกน้ำท่วมเสียอีก

ยินดี วิ่งวุ่นหาซื้อชุดกันน้ำสำหรับลุยเข้าไปดูบ้านพร้อมกับเรือยางแบบพาย
พอที่จะให้คนจมน้ำเอาตัวรอดได้บ้าง แล้วเธอก็ขนของเหล่านั้นมาประเคน
ให้ถึงตัวเราทุกคน พร้อมกับถามไถ่ไม่หยุดหย่อนว่า
ยังต้องการความช่วยเหลืออื่นใดอีกหรือไม่

เธอมักจะเดินทางอยู่เสมอ ไปกับทีมงานสหประชาชาติเพื่อช่วยเหลือ
ผู้ที่อยู่กันดารห่างไกล โดยเฉพาะผู้ประสบภัยพิบัติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว
ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ฯลฯ ที่ปากีสถาน..บังคลาเทศ..เกาหลีเหนือ
และสารพัดประเทศที่คนทั่วไปไม่ค่อยไปกัน

และทุกครั้งยินดีมีของฝากเล็กๆน้อยๆมาให้เพื่อนเสมอ
อาจไม่ได้มากมายในราคาค่างวด
แต่ยิ่งใหญ่เสมอสำหรับคุณค่าทางใจที่เรามีให้กัน

กาลานุกรมฯ เป็นของฝากที่ไม่คาดคิด

ฉันได้ข่าวการจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้มานานแล้ว
แต่ก็ไม่ทันได้คิดวางแผนจัดหา ยินดีก็ส่งทางพัสดุไปรษณีย์มาให้เป็น
“ธรรมทาน” ที่เธอปฏิบัติปกติวิสัยตลอดมา

เห็นแล้วเป็นสุข และปลื้มใจอย่างยิ่งกับเนื้อหาหนังสือ
ที่มีคุณค่าและประโยชน์มหาศาล

เป็นเรื่องที่แปลกมาก...ฉันจับต้องหนังสือเล่มนี้
ด้วยความรู้สึกพิเศษเหมือนของสูงค่า
ทั้งที่เป็นหนังสือไม่มีราคา  ไม่มีราคาเพราะซื้อขายไม่ได้



ตัวอย่างเนื้อหาในหนังสือ


การพิมพ์ครั้งล่าสุดนี้ เป็นการพิมพ์พิเศษครั้งที่ ๖/๑
เนื่องในวันวิสาขบูชา ๒๕๕๕ มีการเพิ่มภาคพิเศษ ท้ายเล่มอีก ๑๐ บทความ 
จำนวนพิมพ์ทั้งสิ้น ๙,๕๐๐ เล่ม  โดยคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน
“วิสาขบูชา พุทธบารมี” ประจำปี ๒๕๕๕ จำนวน ๓,๐๐๐ เล่ม
และคณะผู้ศรัทธาอีก ๖,๕๐๐ เล่ม

เป็นธรรมทาน-ให้เปล่า-ห้ามจำหน่าย

ที่น่าสนใจยิ่งก็คือ ผู้ริเริ่มอุปถัมภ์การจัดทำเป็นหนังสือภาพ ได้แก่
บริษัท มหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ จำกัด(มหาชน)

หนังสือ เล่มนี้เล่าเรื่องอะไรหรือ ?
และบริษัทมหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์นี่เป็นใครมาจากไหน
ถึงได้บริจาคเงินมากมายจัดพิมพ์หนังสือปกแข็งเล่มใหญ่
กระดาษปอนด์หนาหนักพิมพ์สี่สีทั้งเล่ม ถึง ๒๗๖ หน้า 


          เรื่องมนุษย์เหยียบดวงจันทร์ก็บันทึกไว้ ในฐานะก้าวสำคัญของอารยธรรมโลก


สมองฉันหมุนติ้ว ย้อนเวลากลับไปหาอดีต
ช่วงที่เป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
แล้วภาพนั้นก็ลอยเข้ามาในวาบความจำ
“กระเบื้องมุงหลังคาตราห้าห่วง” และโฆษณาสุดฮาชุด “นิเชา”
กับชุดอวกาศที่นักบินอวกาศสามคนนั่งมองโลกแล้วคิดถึงบ้าน

นักบินอวกาศคนแรกบอกว่า...นั่นไง อเมริกาบ้านผม
คนที่สองเป็นรัสเซียก็บอกว่า...นั่นไงรัสเซีย บ้านผม
ส่วนคนที่เหลือตัวเตี้ยกว่าใครร้องไห้ ฮือๆๆ
แล้วชี้มือบอกว่า ...นั่นไงหลังคาบ้านผม...

เพื่อนนักบินอวกาศจาก ประเทศมหาอำนาจสองคนหันมามอง
งงเป็นไก่ตาแตกว่าหลังคาบ้านเจ้านี่มันลอยเด่น
ทะลุอวกาศขึ้นมาให้เห็นได้ยังไงกัน
ฉับพลันก็มีภาพอินเสิร์ชบ้านหลังหนึ่งเข้ามาในเฟรม
เป็นบ้านที่มุงด้วยกระเบื้องตราห้าห่วง สีน้ำเงินเจิดแจ่มแบบสีของดาวโลก
พร้อมข้อความโฆษณาปิดท้ายที่หลายคนจำติดปากว่า

“สีสวยโดดเด่นเห็นแต่ไกล กระเบื้องสีตราห้าห่วง สวยสด ทนหายห่วง”

นั่นมันหลายปีมาแล้วที่กลุ่มมหพันธ์
เน้นทำโฆษณาเครื่องหมายการค้าตรา "ห้าห่วง" (Ha-Huang)
ที่ประกอบไปด้วย กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์มุงหลังคา (Fibre-Cement Roof Tiles)
กระเบื้องคอนกรีตมุงหลังคา (Concrete Roof Tile)
และแผ่นหินประดิษฐ์ทดแทนหินทรายธรรมชาติ (Artificial  Sand Stone)

ปัจจุบัน บริษัท มหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์(มหาชน)
เป็นที่รู้จักมากกว่าภายใต้เครื่องหมายการค้าตรา "เฌอร่า" (Shera)
ซึ่งเป็นไม้ฝาสังเคราะห์ (Synthetic Wood) และเวลาเป็นข่าว
ก็มักจะถูกเรียกชื่อกลุ่มธุรกิจสั้นๆว่ากลุ่ม “เฌอร่า”

ปัจจุบันธุรกิจของมหพันธ์กรุ๊ปอยู่ในมือทายาทสามคนนี้ คือ
องเอก เตชะมหพันธ์ องอาจ เตชะมหพันธ์ และ องอร เตชะมหพันธ์

เป็นครอบครัวที่ โลว์-โพรไฟล์ อย่างยิ่งในวงสังคม
แม้ธุรกิจจะ ไฮ-โพรฟิต อย่างแรง และที่แรงกว่าทุกสิ่งก็คือ
การทำคุณงามคุณดีตอบแทนแผ่นดิน
โดยเฉพาะการทำนุบำรุงพุทธศาสนา

ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจ ถ้าท่านจะไม่เคยได้ยินชื่อคนในครอบครัวนี้
ปรากฏตามสื่อที่รายงานข่าวของเหล่า “เซเล็บฯ” กันอย่างเอาเป็นเอาตาย




ความเป็นมาของกาลานุกรมมีผู้เคยเล่าไว้ว่า เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๔
ในโอกาสที่พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) แห่ง วัดญาณเวศกวัน
จะตีพิมพ์หนังสือ "จาริกบุญ-จารึกธรรม" ท่านได้มองเห็นว่าหนังสือดังกล่าว
มีเนื้อหามาก ทำให้เล่มหนาเกินไป จึงดำริที่จะจัดปรับและตัดบางส่วนลดขนาดลง
พร้อมกับคิดว่าน่าจะจัดทำกาลานุกรม ลำดับเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์
พระพุทธศาสนา มาพิมพ์ไว้ต่อท้ายเป็นภาคผนวกของหนังสือจาริกบุญ-จารึกธรรม
จะได้ช่วยให้ผู้อ่านได้ความรู้ความเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น

ปรากฏว่าพอดำเนินการไปแล้ว กาลานุกรมนั้นกลับมีความยาวมาก
ประกอบกับหนังสือ “จาริกบุญ-จารึกธรรม” แม้จะจัดปรับใหม่แล้วก็ยังหนาอยู่
ถ้าใส่กาลานุกรมต่อท้ายเข้าไปก็จะหนาเกินสมควรจนไม่น่าอ่าน

ในที่สุดจำเป็นต้องเลือกพิมพ์เฉพาะหนังสือจาริกบุญ-จารึกธรรม อย่างเดียว
ส่วนกาลานุกรมที่เสร็จแล้ว ได้เก็บไว้เฉยๆ

กระทั่ง บริษัท มหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความสนใจ
ที่จะจัดพิมพ์เพื่อเป็นธรรมทานแจกจ่ายเป็นความรู้ จึงได้มาขอความเห็นชอบ
และขอคำปรึกษาจากเจ้าประคุณพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต)
ซึ่งท่านได้อนุโมทนาศรัทธา จนหนังสือกาลานุกรมได้เสร็จเรียบร้อย

จัดพิมพ์ครั้งแรก วันวิสาขบูชา ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๒

“กาลานุกรม พระพุทธศาสนาในอารยธรรมโลก"
(Chronology of Buddhism in World Civilization)

เป็นหนังสือภาพที่เรียบเรียงเหตุการณ์ในพระพุทธศาสนา
และเหตุการณ์ที่เกี่ยว ข้องในชมพูทวีป ตั้งแต่ยุคก่อนพุทธกาล
มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
มีทั้งการสร้างสรรค์และการทำลาย

โดยมีภาวะจิตใจและภูมิปัญญาของมนุษย์แฝงเร้นอยู่เบื้องหลัง
รวมความแล้วในด้านหนึ่งหนังสือนี้เป็นประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนา
อีกด้านหนึ่งบอกเล่าอารยธรรมของมนุษยชาติควบคู่กันไป
เป็นประโยชน์ทั้งในแง่ความรู้ บทเรียน และเครื่องปรุงของความคิด
ให้นำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหา
โดยเฉพาะการนำอารยธรรม ไปสร้างสันติสุขอันถาวร



หนึ่งในบทพิเศษท้ายเล่ม



ผู้ที่สนใจต้องการหนังสือ น่าจะติดต่อรับหนังสือได้ด้วยตัวเองที่
วัดญาณเวศกวัน ถ้าหากยังโชคดีที่มีหนังสือเหลือแจกอยู่

แต่ถ้าไม่มีแล้วก็ให้เข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เปนอีบุ๊คได้ที่

//www.ebooks.in.th/ebook/1402/

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญสำหรับ
พระพรหมคุณากรณ์ (ป. อ. ปยุตโต)
ที่ได้เรียบเรียงกาลานุกรม
และผู้มีจิตศรัทธาในการพิมพ์เผยแพร่
เพื่อเป็นวิทยาทานกับบุคคลทั่วไปครับ

หมายเหตุ สำหรับหนังสือฉบับอื่น ๆ ไป download ได้ที่ Link ย่อข้างบนนี้

เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ต้องการแบบไฟล์ภาพ
เป็นไฟล์บีบอัดต้องขยายไฟล์ตาม link ย่อ
เพื่อประโยชน์ในการนำเสนอหรือใส่ภาพเข้าในเอกสาร word/power point


//goo.gl/4QgTH


อีกไฟล์เป็นไฟล์ต้นฉบับที่นำมาทำเป็นไฟล์ภาพตาม link ย่อ

//goo.gl/0E2yE



โฆษณานิเชา



โฆษณามนุษย์อวกาศ






 

Create Date : 30 มิถุนายน 2555
6 comments
Last Update : 6 กันยายน 2555 22:44:59 น.
Counter : 2166 Pageviews.

 

เข้าไปชมตาม link แล้วค่ะ
ขอบคุณคุณ ravio ที่แนะนำ “กาลานุกรม พระพุทธศาสนาในอารยธรรมโลก" หนา 276 หน้าเล่มนี้นะคะ

หนังสือภาพที่เรียบเรียงเหตุการณ์ในพระพุทธศาสนาและบอกเล่าอารยธรรมของมนุษยชาติควบคู่กันไปแบบนี้
นับเป็นหนังสือไกลตัว ไม่เคยอ่านมาก่อน
นับว่าน่าสนใจทีเดียวค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 30 มิถุนายน 2555 18:37:31 น.  

 

สิ่งที่มีค่ามากกว่าอะไรทั้งหมดคือความสุข

จากอานิสงส์ของการทำความดีค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 30 มิถุนายน 2555 23:12:04 น.  

 

ขอบคุณนะคะ

 

โดย: คมไผ่ 1 กรกฎาคม 2555 22:09:42 น.  

 

ทักทายแบบปั่นป่วนหัวใจตามประสา

คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ

 

โดย: คมไผ่ 2 กรกฎาคม 2555 21:10:38 น.  

 

แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 2 กรกฎาคม 2555 22:39:45 น.  

 

สวัสดีเช้าวันพุธ
ขอบคุณที่นำเรื่องดี ๆ มาแนะนำนะค่ะ
พอได้อ่านก็ขอไว้อาลัยให้นิเชาด้วยค่ะ

 

โดย: หนูซายูริ 4 กรกฎาคม 2555 8:40:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.