ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
ชายชราชาวจีน คนที่สี่

ชายชราชาวจีน คนที่สี่

จำได้ว่ามีชายชาวจีนคนหนึ่งทำงานที่ร้านอาหาร
เป็นคนเก่าคนแก่ที่ทำงานมานานตั้งแต่เถ้าแก่คนแรก
ที่เริ่มกิจการผลิตลูกชิ้นเนื้อวัวขายในหาดใหญ่
ต้องเข้าใจอย่างว่า คนจีนบางกลุ่มจะไม่กินเนื้อวัวเลย
บางคนก็แอนตี้คนกินเนื้อวัวเป็นอย่างมาก
เพราะคนจีนที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม จะไม่กินเนื้อวัวเลย
เพราะวัวใช้ทำไร่ไถนามีบุญคุญกับชาวนามาก
กับส่วนหนึ่งน่าจะเป็นอุบาย เพราะว่า
วัวตกลูกสูงสุดไม่เกินสองตัวต่อครอก ส่วนมากมักตกลูกเพียงตัวเดียว
ใช้เวลาตั้งท้องเกินกว่าเก้าเดือน (285-300 วัน)
การกินเนื้อวัวมาก ๆ อาจจะมีปัญหากระทบต่อเกษตรกรรม
และจำนวนวัวในระยะยาวได้

แต่การค้าขายของเถ้าแก่เจ้านี้ก็ไปได้ดีมาก
เพราะจะมีกลุ่มคนจีนส่วนหนี่งที่ไม่ถือในเรื่องนี้หรือแอบกินเนื้อวัว
และคนไทยทั่วไปที่ไปอุดหนุนกิจการร้านนี้
จนกระทั่งวันหนึ่งคุณชายเจ้าของรายการชวนชิมแห่งหนึ่ง
ได้ไปชิมอาหารร้านนี้และบอกว่าอร่อยมากเลย
เจ้าของร้านคนแรกก็เลยขอใช้ชื่อ
ลูกชิ้นเนื้อวัวยี่ห้อเดียวกันกับคุณชายเจ้าของรายการชวนชิม
เป็นร้านในหาดใหญ่ที่ดังมาก
แถวถนนสายหลักจากสถานีรถไฟหาดใหญ่

ร้านนี้เปิดมานานกว่าสี่สิบปีแล้ว
ก่อนที่พี่น้องจะแยกย้ายกันไปเปิดร้านใกล้ ๆ กันอีกสามร้าน
หลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว
โดยต่างคนต่างผลิตสินค้าจำหน่ายในชื่อเดียวกัน
แต่สูตรการทำน้ำซุปและกรรมวิธีการผลิตลูกชิ้นจะแตกต่างกันบ้าง
ทั้งในด้านรสชาติ ด้านกลิ่น และความเด้งของลูกชิ้น
เหมือนกับร้านอาหารทั่วๆไป ที่จะมีวิธีการผลิตต้มยำทำแกงแตกต่างกัน
แม้ว่าจะมีเครื่องเคราและสมุนไพรพื้นฐาน
จะมีสูตรพื้นฐานใกล้เคียงกันหรือเหมือน ๆ กัน

ชื่อชายชราชาวจีนคนนี้จำไม่ได้แล้ว
เพราะเวลาไปกับเพื่อน ๆ มักเรียกแกว่า เสี่ยวเอ้อ หรือ เฮีย แล้วแต่อารมณ์
การเรียก เสี่ยวเอ้อ เพราะช่วงนั้นจะมีหนังกำลังภายในใช้คำพูดนี้มาก
เวลาเรียกหาคนบริการตามโรงน้ำชา/โรงเหล้าของภาพยนต์กำลังภายในจีน
หน้าที่หลักของแกคือ รับคำสั่งอาหาร เสริฟอาหาร เก็บกวาดโต๊ะเก้าอี้
ให้บริการน้ำดื่ม ประเภท น้ำเปล่า น้ำชา กาแฟ หรือ น้ำอัดลม
แล้วแต่คนที่มานั่งกินจะสั่งว่าต้องการน้ำดื่มประเภทใดบ้าง
แต่ตอนเก็บเงินจะเป็นของลูกชายเถ้าแก่ที่มารับทอดกิจการ
เป็นผู้ที่จะมาเก็บเงิน/ทอนเงินเองจากลูกค้า

ช่วงหลัง ๆ แกก็เริ่มป้ำ ๆ เป๋อ ๆ สั่งอย่างก็บอกเถ้าแก่อีกอย่าง
สั่งน้ำดื่มอย่างหนึ่งก็ยกให้อีกอย่างหนึ่งเป็นต้น
จนสุดท้าย เถ้าแก่ก็ให้แกออกจากร้านไป
ซึ่งเป็นทั้งที่ขายของและที่พักของชายชราชาวจีนคนนี้
แกเลยต้องไปเช่าบ้านข้างนอกอยู่
แล้วดิ้นรนทำมาหากินอยู่พักหนึ่ง
เห็นแกเดินขายล็อตเตอรรี่อยู่พักหนึ่ง
ก่อนที่จะเลิกขายไปในที่สุด
เพราะแกเริ่มมีอาการเหมือนเดิมคือ
ความทรงจำที่เลือนลาง และป้ำ ๆ เป๋อ ๆ เหมือนเดิม

ข่าวคราวสุดท้ายที่ทราบจากเพื่อนคือ
มีคนสงเคราะห์ส่งแกไปอยู่สถานอนาถารับเลี้ยงคนชรา
ของสมาคมคนจีนในหาดใหญ่
ซึ่งมีหลักเกณฑ์คือ ต้องเป็นคนยากไร้และมีคนรับรอง
เมื่อเข้าไปอยู่ในสถานสงเคราะห์อนาถาแห่งนี้แล้ว
ห้ามไม่ให้ออกมาเดินเพ่นพ่านข้างนอกโดยเด็ดขาด
ต้องอยู่แต่ในบริเวณสถานอนาถา
เพราะเกรงว่าจะออกมาขอเงินจากคนภายนอก
ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง/ภาพลักษณ์สถานสงเคราะห์
ว่าดูแลไม่ดี หรือทอดทิ้งคนแก่คนชรา
ทำให้ต้องออกมาขอเงินจากคนทั่วไป
ซึ่งไม่ต่างกับการกักขังในบริเวณที่กำหนดในพื้นที่ประมาณสามไร่เศษ
เป็นย่านที่ดินที่แพงที่สุดแห่งหนึ่งของหาดใหญ่
ราคาประเมินของกรมที่ดินวาละ 140,000-400,000-บาทแล้วแต่ทำเล
มีการปลูกโรงเรือนอาคารไว้รับรองคนชราที่ขัดสน
สถานสงเคราะห์อนาถาแห่งนี้ก็มีรายรับจาก
ญาปนกิจสถานของคนจีน และคนไปทำบุญเลี้ยงคนแก่เป็นหลักเท่านั้น
เมื่อหมดเวรหมดกรรมหรือใช้กรรมในโลกนี้หมดแล้ว
ก็แล้วแต่ความประสงค์ว่าจะฝังหรือเผา
ถ้าฝังก็ฝังรวมในสุสานอนาถาไร้ญาติ
ครบสิบปีก็ทำพิธีล้างป่าช้าขุดขึ้นมาเผาอีกครั้ง
ก่อนบรรจุกระดูกรวมในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง

นี่คือคนจีนอีกคนหนึ่งที่เคยรู้จัก
ทำงานทุ่มเทมากมาย แต่ผลสุดท้าย
ก็ไม่แตกต่างกับนิทานอิสป เรื่อง หมาล่าเนื้อ
ที่พอแก่ชราตาฝ้าฟางก็ไม่เลี้ยงดูและเอาใจใส่แล้ว
เป็นเรื่องบุญเรื่องกรรมที่การเป็นลูกจ้างองค์การ
ได้นายดีก็โชคดีไปตลอดชีวิตจนกระทั่งตาย
ช่วงบั้นปลายชีวิตก็ไม่ต้องตกระกำลำบากเท่าใด
แต่ถ้าได้นายอัปรีย์(ไม่ดี ไม่งาม ตามคำจัดความของท่านพุทธทาส)
หรือคิดแต่เพียงเรื่องผลประโยชน์ของธุรกิจ
ชีวิตสุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลย ดับสลายลงไปกับตา
เหลือเพียงแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น
แม้ว่าจะทุ่มเทพลังกายพลังใจให้มากมายในตอนหนุ่ม ๆ

เขียนไว้จากความทรงจำก่อนที่จะเลือนหายไป
ถึงคนหาดใหญ่คนหนึ่งที่เคยรู้จักพบเจอ


Create Date : 27 พฤษภาคม 2552
Last Update : 14 สิงหาคม 2552 15:35:11 น. 2 comments
Counter : 1237 Pageviews.

 
คนตัวคนเดียว แก่ ๆ ลำบากมากค่ะ ปู่เย็นแกเก่งจริง ๆ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:11:04:11 น.  

 
ผมว่าผมเคยกินร้านที่เจ้าบ้านบอกมานะ
แต่เป็นร้านลูกๆหลานๆเถ้าแก่คนนี้มั้ง
ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อในหาดใหญ่มีไม่กี่ร้านที่อร่อยๆหรอก

ตามมาให้กำลังใจครับ


โดย: หนูน้อยเหล็กดัดฟัน วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:18:24:03 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.