รีวิวมาส์คไข่มุกดำ Black Pearl Mask ของ My Beauty Diary
ใช้มาเป็นปีแล้ว แต่ใช้ไปยังไม่หมดกล่องเลย นาน ๆ ใช้ที มันลืม แล้วก็กลัวหมดด้วย มันแพง (ทั้ง ๆ ที่ได้ฟรีมาเพราะเพื่อนไปไต้หวันแล้วซื้อมาฝากนะเนี่ย)
จริง ๆ เราเป็นคนไม่ค่อยใช้มาส์คนะ เพราะหน้ามันอยู่แล้ว ไม่รู้จะมาส์คเพิ่มความชุ่มชื้นไปทำไม แต่จริง ๆ หน้ามันก็ขาดน้ำได้
ไม่หรอก จริง ๆ การมาส์คหน้ามันดูยุ่งยากไง ต้องล้างหน้า สครัปหน้ามาก่อน แล้วพอมาส์คก็ควรจะนอนนิ่ง ๆ ไม่ควรมาส์คแล้วนั่งหน้าคอมให้น้ำบำรุงมันมาหยดติ๋งมากองที่คางตามแรงโน้มถ่วง อันนี้ได้สูตรมาจากรุ่นพี่คนนึง ที่ไม่มีเวลามาส์คเพราะลูกเล็ก เราก็ถามพี่เค้าว่า ทำไมล่ะ ก็แค่มาส์คแล้วก็ทำนู่น ทำนี่ปกติก็ได้หนิ เค้าบอกว่าไม่ควร ควรจะนอนนิ่ง ๆ 15-20 นาที ซึ่งเค้าทำไม่ได้ ลูกเล็ก ปล่อยไม่ได้ อย่างเราโสด ๆ เนี่ยควรจะมาส์คหน้าได้บ่อยนะ แต่อิชั้นก็ไม่ค่อยได้มาส์ค 2-3 เดือนนึกขึ้นมาได้แล้วพอจะมีอารมณ์ขยันก็จะทำซะที เพราะอย่างที่บอก ตัวเองรู้สึกว่าการมาส์คหน้ามันดูยุ่งยาก หรือเพราะตัวเองทำให้มันดูยุ่งเองก็ไม่รู้
รีวิวก่อนแล้วกัน แล้วค่อยมาดูความเยอะในการมาส์คหน้าของเรา คือว่าขี้เกียจถ่ายรูปและแต่งรูปเอง ขอเอารูปทั้งหมดมาจากบล็อคน้องโมนิก้า สาวเมกัน ลิงค์ด้านล่างนี้แล้วกันนะ
//atomicnony.blogspot.com
กับน้อง Yevi สาวจีน มาเลย์
//yeving.blogspot.com
My Beauty Diary Mask สูตรไข่มุกดำ Black Pearl Mask
เราว่าจุดเด่นของมาส์คตัวนี้สำหรับเราที่ดีกว่ามาส์คเกาหลีก็คือ มันไม่แสบตา เราใช้มาส์คเกาหลีมากี่ยี่ห้อ แสบตาทุกตัว ฮ่วย แล้วแผ่นมาส์คก็ค่อนข้างพอดีเราหน้าเรา คือมาส์คเกาหลีเนี่ย ตรงหน้าผากมันจะแคบ มันบำรุงไม่พอหน้าผากเถิก ๆ กว้าง ๆ ของเรา ฮา ๆ
ใครหน้าผากแคบมันก็จะเกินเช่นนี้
แต่ตัวนี้ตรงหน้าผากจะสูง เก็บหน้าผากเราได้หมด แต่ตรงระหว่างจมูกกับปากมันยาวไปหน่อยกับหน้าเรา เราก็เลยฉีกตรงนั้นออก ฉีกง่ายมาก เพราะแผ่นมาส์คบางมาก ซึ่งเราว่ามันดีนะ เพราะมันจะไม่กักเก็บสารบำรุงไว้กับตัวมัน แถมแนบหน้าเราได้ดีกว่าแผ่นมาส์คหนา ๆ แต่เวลาแกะออกมามาส์คอาจจะต้องเบามือหน่อย เดี๋ยวมันขาด แต่ในซองมันจะมาพร้อมกับแผ่นพลาสติกอยู่แล้ว เวลาแกะจากที่มันพับมาเลยไม่ต้องกลัวขาด
ที่สำคัญอีกอย่างคือ เราไม่แพ้ มันไม่ทำให้เราเป็นสิวหลังการใช้ มาส์คเสร็จแล้วหน้านุ่ม ชุ่มชื้น แถมกลิ่นก็ไม่แรงเหมือนของเกาหลี ใครไม่เคยลองก็ลองไปหามาลองได้นะ โอเคเลยทีเดียว แต่แอบแพงเหมือนกันเนอะ แผ่นนึงเกือบร้อย รึเปล่า? ดังนั้น เราควรจะใช้มันจนหยดสุดท้าย ยังไง มาดูกัน
เอาล่ะ มาดูวิธีความเยอะกับการมาส์คของเรากัน (ไม่เยอะซะหน่อยเนอะ) อย่างแรกที่เราต้องเลือกทำคือ เราจะมาส์คตอนเย็น คือมาส์คแล้วเป็นเสมือนครีมบำรุงแล้วนอนเลยโดยไม่ทาครีมต่อแล้วคืนนั้น เราไม่อยากมาส์คตอนเช้าหรือตอนกลางวัน ที่ในที่สุดตอนเย็นหน้าก็มันแล้วต้องมาล้างหน้าออก มันดูเปลืองมาส์ค 555
ขั้นตอนสำหรับเราก็คือ เราจะล้างหน้าก่อน แล้วก็สครัปหน้า แล้วก็มาส์ค ทิ้งไว้ 15-20 นาทีเท่านั้น ห้ามลืม บางคนมาส์คไว้แล้วเล่นคอมแล้วลืม (เหมือนเราสมัยก่อน) กว่าจะรู้ตัว มาส์คไปชั่วโมงกว่า 2 ชั่วโมงแล้วเพราะลองได้อยู่หน้าคอมแล้วมันติดพัน ขี้เกียจลุกไปเอาออก แบบนี้ไม่ดีนะ มันจะเหมือนไม่ได้มาส์คเลย แล้วตัวแผ่นมาส์คมันจะดูดเอาครีมบำรุงกลับเข้าแผ่นมาส์คแล้วสารบำรุงมันก็ระเหยไปกับอากาศหมดเลย สังเกตมั้ย ถ้าเราทิ้งไว้เป็นชั่วโมง แผ่นมาส์คจะแห้งเหือดไปเลย เยี่ยงนั้นแล เวลามาส์คควรจะตั้งนาฬิกาไว้เลย ดูข้างกล่องว่าเค้าให้มาส์คกี่นาทีก็ไม่ต้องแถม โอเค๊
แล้วก็ได้เวลาเอาออก ก่อนจะเอาออก เราก็จะใช้นิ้วนวดวนทับมาส์คที่แปะอยู่นั่นแหละ รีดครีมบำรุงให้มันออกมาอยู่บนหน้า แล้วก็เอาออก แต่อย่าเพิ่งทิ้งแผ่นมาส์คที่ยังชุ่มน้ำอยู่นะ หลังจากหยิบมาส์คออก หน้าเราจะยังชุ่มเปียกไปด้วยสารบำรุงอยู่
จังหวะนี้ให้ใช้นิ้วนวดวนทั่วหน้าซัก 2-3 นาที ให้สารบำรุงมันซึมลงไปให้ผิวให้หมด คือนวดจนกว่ามันจะฝืดนั่นแหละ
เสร็จแล้วเราก็มาจัดการกับแผ่นมาส์คและสารบำรุงที่อยู่ก้นถุงกันต่อ สังเกตได้ว่า แผ่นมาส์คจะยังชุ่มน้ำอยู่มาก แถมก้นถุงก็ยังมีเหลืออยู่ จะทิ้งไปก็เสียดาย เราก็เลยบีบและเทมันมานวดที่คอ ที่แขน หลังมือ เลยไปถึงขา รีดออกมาให้หมดจนหยดสุดท้าย ทามันทั่วร่างกาย
โดยเฉพาะหลังมือ ที่ซึ่งสาว ๆ ส่วนใหญ่ละเลย ซึ่งแต่ก่อนเราก็เป็น 1 ในนั้น แต่หลังจากอายุมากขึ้น หลังมือก็เหี่ยวตามเลยต้องยิ่งบำรุงให้มันเต่งตึง เพราะเราเป็นคนมือแฉะ เหงื่อออกมือเยอะ เลยไม่นิยมทาครีมทามืออยู่แล้ว เลยไม่ได้ทาหลังมือไปโดยปริยาย วนมันเข้าไปเยอะ ๆ ค่ะไอ้สารบำรุงบนหลังมือเนี่ย สังเกตเลยว่ามันซึมลงหลังมือได้ไวมาก เราเลยบีบวนเข้าไปหลาย ๆ รอบ หลังมือตึง ชุ่มชื้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
นี่ล่ะคือขั้นตอนการมาส์คของเรา เยอะมั้ย ก็ไม่เยอะเนอะ แค่ใช้มันจนหยดสุดท้ายเท่านั้นเอ๊ง
Create Date : 19 มกราคม 2556 |
|
4 comments |
Last Update : 19 มกราคม 2556 19:31:10 น. |
Counter : 27762 Pageviews. |
|
|
|