เรื่อง :‪ทรายนี้ยังมีรัก

นักเขียน: ‪‎วรรณวรรธน์

สนพ. ณ บ้านวรรณกรรม

จำนวนหน้ารวม : 765 หน้า

ปกหลัง (เล่ม1)

ชีวิตหนึ่ง มีรักที่สัตย์ซื่อ ชีวิตหนึ่ง มีรักที่มั่นคงแต่เมื่อเป็นลิขิตจากเบื้องบน...เป็นบัญชาจากฟากฟ้าที่ปรารถนาจะพรากจากคนทั้งสองออกจากกันเธอต้องหนีห่างจากหาย ที่นั่นนับร้อยพันปีพร้อมคำอธิษฐานมั่นไม่ขอกลับไป ณที่ไร้รัก ไร้ที่ที่เธอจะยืนหยัดได้

'เขาทิ้งสัจจะ' เขารักแผ่นดินเสียยิ่งกว่าเธอเขาไม่เลือกเธอไยเธอต้องทนหยัดยืนบนแผ่นดินของคนไร้หัวใจเธอยินดีต้องคำสาปจากองค์เทวะนับพันปีจบสิ้นกันตรงนี้เถิด ขอตั้งสัจจาอธิษฐาน...ไม่ขอกลับคืนดินแดนไร้รักชั่วกัลป์หากอีกชีวิตหนึ่งที่เฝ้ารอเฝ้าเพียรหา ท่ามกลางคำสาป รอคอยเพียงตัวเธอเท่านั้น มาปลดเปลื้องลงแต่จะทำอย่างไรการรอคอยอาจเนิ่นนานนัก แต่การปฏิเสธดวงใจที่มีรัก กลับทรมานยิ่งกว่า

 *************

หลังอ่าน

ในที่สุดก็อ่านจบค่ะ สำหรับทรายนี้ยังมีรัก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ 4 แล้วของเราที่ได้อ่านงานในนามปากกาวรรณวรรธน์ หลังจากที่อ่านงานใหม่ ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ,อัสวัดราชันต์ในความมืด ,จันทราอุษาคเนย์ก็บอกได้เลยว่าด้วยนามปากกานี้คงต้องตามอ่านของนามปากกานี้ไปอีกหลายๆ เรื่องเลยค่ะเพราะว่าทุกเรื่องที่อ่านยังคงเรียกว่ามีเสน่ห์ไปคนละแบบ ชอบมากบ้าง น้อยบ้างตามพล็อตแต่ก็รวม แล้วคือ ชอบจริงๆ ค่ะ

มาว่าด้วยเรื่องทรายนี้ยังมีรัก 1-2 แม้ว่าอาจจะดูหนาหนักแต่ว่าเมื่ออ่านแล้วเริ่มชอบมันก็ไปได้เรื่อยๆ สปีดก็คงไปแบบเรื่อยๆ ช้าหน่อยแต่มั่นคงเพราะว่ารายละเอียดของเรื่องเค้าเยอะมากเรียกว่าถ้าถอดเอางานนี้แบ่งมาเขียนน่าจะได้อีก2 เรื่องครึ่งเลยล่ะค่ะเพราะเรื่องราวของเล่มนี้มีการพูดถึงอดีตใจส่วนของพระเอก-นางเอกถึง2 อารยะธรรมในช่วงอดีตชาติ สลับกันไปมากับยุคปัจจุบันที่มีเรื่องราวเกี่ยวโยงไปถึงส่วนของอดีตทั้งสองช่วงเรียกว่าละเอียดยิบเลยค่ะเรียกว่าจัดเต็มลงแต่ละส่วนแบบชนิดที่ว่าอ่านไปแล้วถ้าบอกไม่เข้าใจหรือว่างงและสับสนอันนี้น่าจะต้องเดาว่าอ่านข้ามไปมาแน่นอนเลย แต่สำหรับเราแล้วไม่งงค่ะอ่านได้เพลินและชอบด้วยนะคะเอ้า

เรื่องนี้เอาเป็นเล่าโดยย่อๆหรือว่าบอกเล่าเป็นส่วนสั้นยาวแบบไม่มีหลักเลยก็คือ บอกเล่าถึงความรักของคนสองคน .. คือ พระเอกนางเอก ถึง 2 ยุคเก่าแก่ คือ ดินแดนเก่าแก่อูรุคแห่งอารยธรรมสุเมเรียนผ่านมาถึงอารยธรรมเปอร์เซียที่ต่างกันเป็นพันๆ ปี และในภพชาติปัจจุบัน ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกี่ยวโยงถึงกัน โดยนางเอก อสมาสาวสวยใบหน้าดั่งคนตะวันออกเป็นหญิงสาวทำงานเป็นนักวิชาการในแขนงประวัติศาสตร์และโบราณคดีมีความฝันบ่อยครั้งถึง ภาพสลักเสลาของหนุ่มเปอร์เซีย และเรื่องราวของ เอนคิลู เทพปกป้องผู้สิ้นหวังภายใต้ความซื่อสัตย์ที่มีในดินแดนอูรุคของพระเจ้ากิกาเมซ และตัวเธอในภพชาตินั้นที่เป็น อัซม่าเธโอรีส บุตรีของฟาโรต์เซตผู้ปกครองเมมฟิส ที่บังเอิญจะต้องเข้าร่วมทุกข์ร่วมสุขรบรากับกองทัพศัตรูพร้อมกับเอนคิลู และด้วยเพราะความที่ใช้ชีวิตร่วมกันความรู้สึกก็พัฒนาก่อเกิด แต่ความรักนั้นก็ไม่สมหวังเพระนางถูกพระบิดามอบตัวให้กับพระเจ้ากิลกาเมซไปเสียแล้วและเอนคิลูเองก็ต้องใช้ชีวิตของเขาเองพิสูจน์บางอย่างเพื่อพระนาง และนั่นก็หมายถึงความพลัดพรากที่เกิด นอกจากฝันเรื่องนี้แล้ว อสมาก็ยังมีฝันอีกแต่คราวนี้ฝันกระโดดข้ามมายังยุคเปอร์เซียที่ห่างมาจากอารยธรรมสุเมเรียนอีกหลายพันปี ครั้งนี้เธอเป็น เทวีอัซม่า เทวีอันสูงศักดิ์ที่จะได้ถูกเลือกให้เป็นเทวาทูตที่นับถือและรับใช้เทวะอันศักดิ์สิทธิ์กับชายหนุ่มแม่ทัพดาริอุส แม่ทัพใหญ่แห่งเปอร์เซีย ที่ถูกส่งตัวมาปกป้องเทวสถานที่ได้รับการรุกรานจากทหารบาบิโลน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มที่ทำให้ทั้งสองได้รู้จักกัน และด้วยความที่สถานการณ์ปกป้อง คุ้มครองและการช่วยเหลือในตัวกันและกัน เทวีอัซม่าก็ได้สูญเสียซึ่งความตั้งมั่นแห่งความบริสุทธิ์ของตัวกับแม่ทัพดาริอุส แต่ด้วยคำมั่นสัญญาของแม่ทัพดาริอุสที่มีให้ต่อนางอันเป็นที่รักนางยอมเพื่อสิ่งนั้นแต่ว่าหารู้ไม่ว่าความหวังที่มีต้องแตกสลายและครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรง เพราะเทวีอัซม่าเจ็บปวดและเลือกการจากลาอย่างที่เรียกได้ว่า จะไม่ขอกลับมาเจอและพบกันเพราะการเจ็บปวดอย่างที่สุด

และด้วยความบังเอิญ ที่อสมา สาวสวย ในยุคปัจจุบัน เธอกับอาจารย์อีกคนได้ถูกเชิญตัวเข้าร่วมสัมมนาที่อิหร่านดินแดนที่เธอเองก็บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงไม่อยากมาเลยแต่เมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็คงคิดแต่ว่าไปเพื่องานและกลับมาหลังจากนั้นคงไม่มีอะไร แต่ว่า ...สิ่งที่คาดกับไม่ใช่สิ่งที่เกิดเพราะเธอก็ได้เจอกับ ชีคนัจญ์มุดินบีนุ อัลอิมาน แห่งอับบาส ซึ่งเป็นภาติยะของสุลต่านแห่งเมืองอับบาสและเป็นบุตรของท่านซาอิดผู้ร่ำรวยของแคว้น เขาซึ่งมีความฝันเช่นเดียวกับ อสมา เขาซึ่งมีความสามารถในหลายด้านและชอบกับการสะสมของเก่าและตามหาของเก่าแก่อันศักดิ์สิทธิ์มาไว้ในครอบครอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้อง ในอดีตของตัวเองและอสมา หรือ พระนางเธโอรีสรานีของพระเจ้ากิกาเมซ หรือ เทวีอัซม่า ------ มงกุฏดอกไม้ /คทาจำหลัก / กล่องอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเมื่อเหตุบังเอิญทำให้ทั้งสองได้เจอกัน ต่างคนก็ต่างรู้สึกว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นคนแปลกหน้า แต่นั่นไม่ได้หมายถึงความง่ายดายจะเกิดระหว่างทั้งคู่นักเพราะ ชีคบีนุอยากเข้าใกล้ แต่อสมานั้นอยากห่างไกลและหนีห่าง แต่ในเมื่อเวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ความฝันความต่อเนื่องคำปรึกษาก็ถ่ายทอดระหว่างกันเพื่อจะคลายความสงสัยว่าเกิดอะไรกับทั้งคู่กันแน่ แต่สิ่งที่ไม่ง่ายนั้นก็ดันมีเรื่องของ “ความร้ายกาจ” ของ คนบางคน และกลุ่มบางกลุ่ม ที่ต่างก็ต้องการ ของเก่าที่ชีคบีนุ ต้องการ เพราะนั่นหมายถึงใครที่ได้ครอบครองย่อมเป็นผู้มากบารมีมหาศาล นั่นเป็นพลังและอำนาจอันหอมหวานของคนโลภ

ความสนุกของเรื่องนี้ส่วนตัวเลยคือ รายละเอียดที่จัดเต็มค่ะ เพราะว่าสิ่งที่ทำให้น่าติดตามคือเรื่องราวของพระนางระหว่างแต่ละยุคอดีต ลากยาวมาพ่วงพีถึงยุคปัจจุบันสลับกันไปมาแต่ไม่งง พระเอกนั้นเห็นนางเอกแล้วก็ไม่แปลกล่ะค่ะที่หลงรักและยอมถวายตัวและหัวใจอย่างง่ายดายเพราะอดีตอันดึงดูด ทั้งๆ ที่ในยุคปัจจุบันชีคเป็นหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ที่ไม่ปลงใจกับใครสักที เพราะด้วยความที่มีคำสาปติดตัวกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อที่ว่าชายใดแต่งงานและเมื่อมีลูก เมื่อนั้นชายนั้นก็สูญสิ้นชีวาหาไม่ ส่วนนางเอกอย่างอสมานั้นก็น่าสงสารที่เศร้างจ่อมกับความเจ็บปวดเพราะเจอกันทีไรในแต่ละยุคก็ชวนให้มีเหตุต้องพลัดพรากเรื่อยไป อดีตพลัดพราก ของเก่าแก่สาม 3 สิ่งในแต่ละยุคอดีต เป็นสิ่งเชื่อมโยงถึงกัน การสืบหาความลับ การแก้ไขคำสาปของตระกูล ตำนานสฟิงก์และนกฟีนิกส์ ....ที่ดูเหมือนจะมีส่วนสำคัญของเรื่องไม่น้อยหน้าเป็นเช่นไร การพลัดพรากอย่างในอดีตจะเกิดกับอสมาและชีคบีนุ อีกหรือไม่ มีโอกาสลองอ่านนะคะ มาอิ่มเอมกับความสนุกเพลินด้วยกันกับงานของ วรรณวรรธน์ค่ะ