ปกหลัง
เมื่อตำแหน่งผู้นำตระกูลสัตยารักษ์
และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ได้ถูกผลัดเปลี่ยน
อนาวินทร์ หนุ่มไฮโซหัวสูงผู้ไม่เคยมองเห็นใครอยู่ในสายตาดูถูกคนอื่นจนเรียกว่าเป็นนิสัยคิดว่าบัลลังก์ทองนั้นจะตกเป็นของเขาแต่พอพินัยกรรมถูกเปิดกลับไม่เป็นตามที่หวังเพราะมันระบุให้ พุดชมพูสาวห้าวเจ้าของไร่ดอกเบญจมาศที่ติดหนี้อดีตผู้นำสัตยารักษ์ต้องมารับภารกิจดัดนิสัยอนาวินทร์ให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ครบหนึ่งปีเขาจึงจะได้สมบัติทั้งหมด!
ด้วยเงื่อนไขจากพินัยกรรมประหลาดนี้เองได้ร้อยรัดผูกพันผู้หญิงกระโดกกระเดกและผู้ชายยโสเอาแต่ใจเข้าด้วยกันอย่างไม่มีทางเลือกแม้จะเริ่มต้น...ด้วยความขัดแย้งทว่าเมื่อความรักบังเกิดขึ้นกลางใจพายุร้ายจึงกลายเป็นสายลมอุ่นที่โอบอุ้มดอกไม้ให้เบ่งบานงดงาม
หลังอ่าน
เรื่องนี้เป็น1 ใน 2 เรื่องของหนังสือชุด มายาดอกรัก ตอนซื้อมาได้เล่มนี้มาเล่มเดียวส่วนอีกเล่มคือ มงกุฏสายน้ำผึ้ง ยังหาไม่เจอเลยเก็บเล่มนี้เอาไว้ก่อนกะว่ามาพร้อมกันแล้วจะอ่านทีเดียวแต่ปรากฏว่าบิงโกรอบก่อนดันไปอ่านเอาเรื่องมงกุฏสายน้ำผึ้ง ไปแล้ว (เพราะหน้าปกเข้าเงื่อนไขของโจทย์) เพราะฉะนั้นอ่านเล่มนั้นไปแล้วก็ต้องมาอ่านเล่มนี้กันเลยดีกว่า ทั้งสองเรื่องนี้อ่านแยกได้และอ่านเล่มไหนก่อนหลังได้หมดเหมือนกันค่ะ เพราะว่ามีเนื้อหาเข้ามาเอี่ยวกันนิดเดียวเองอ่านเจอแล้วไม่งงนะคะ
ในหนังสือชุดมายาดอกรักนี้เป็นเรื่องของสองพี่น้องแห่งไร่ดอกทานตะวันโดยเล่มนี้คือบัลลังก์ดอกไม้ เป็นเรื่องราวของพี่สาวคือ พุดชมพูหรือนายพุดสาวสวยมาดแมนเจ้าของไร่ที่มาดูแลรับผิดชอบไร่แทนคุณพ่อผู้เสียชีวิตไปแล้วโดยที่แม้ว่าจะเป็นงานหนักหนาสำหรับลูกผู้หญิงแต่เธอก็ไม่ย่อท้อแต่กลับทำงานได้ดีไม่แพ้ชายเพื่อดูแลไร่แม่และก็น้องสาว สายน้ำผึ้ง (นางเอกของเรื่องมงกุฏสายน้ำผึ้ง) วันหนึ่งด้วยเพราะครอบครัวของเธอเป็นหนี้คุณปู่อาทิตย์หรือปู่เล็กซึ่งเป็นผู้นำของตระกูลสัตยารักษ์ที่มีธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เมื่อคุณปู่เสียชีวิตลงก็ได้ขอร้องสั่งเสียให้พุดชมพูช่วยเป็นผู้ดูแล(ดัดนิสัย) อนาวินทร์ หลานชายคนเดียวของตระกูลให้ด้วยเพราะดูเหมือนว่าปู่เล็กจะยังคิดว่าหลานชายของเขาคนนี้ยังไม่เป็นโล้เป็นพายเท่าไหร่ เที่ยวเล่นก็เท่านั้นหลีหญิงมากก็ไม่น้อยหน้าใคร มีดีก็แค่หน้าตา แต่อย่างอื่นนั้นอาจจะติดลบไปเพราะด้วยนิสัยเขาเป็นคนไม่ค่อยก้มหัวหรือว่ามองใครในแง่ดีๆเลย เพราะฉะนั้นเมื่อวันเปิดพินัยกรรมพุดชมพูก็จะต้องทำหน้าที่นี้และด้วยเธอเป็นหนี้บุญคุณปู่เล็กเธอก็ต้องยอมและสำคัญเลยคือเธอเกิดอาการอยากดัดนิสัยนายอนาวินทร์คนนี้เข้าแล้วเพราะว่าตั้งแต่เจอกันครั้งแรกอนาวินทร์เองก็แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ชอบหน้าเธอเอามากๆเพราะคิดว่าพุดชมพูเองก็หวังในทรัพย์สมบัติไม่น้อย ทั้งหนี้ที่ปู่จะยกให้และอาจจะยักยอกมีนอกมีในกับเงินของบริษัทไปด้วยเพราะพุดชมพูจะต้องเดินทางไปมาระหว่างไร่และเข้ามาดูแลกิจการของตระกูลสัตยารักษ์ไปด้วย เพราะฉะนั้นการเริ่มต้นแบบไม่สวยงามมันก็ทำให้ทั้งคู่ต้องใช้กลยุทธ์งัดข้อกันไปมาขิงก็ราข่าก็แรงไม่น้อย งานนี้ล่ะคนดูซึ่งคนที่เฝ้าสังเกตุการณ์ก็มีด้วยกันหลายฝ่ายทั้งหวังดีและก็หวังร้ายหวังเพียงแค่ว่าพุดชมพูจะยกเลิกสัญญาเร็วๆเพราะว่าต่างคนต่างก็อยากจะใช้เงินกันเต็มแก่แต่มันก็ทำไม่ได้มันเลยกลายเป็นคนอยากได้ก็เข่นเขี้ยวคนไม่อยากได้แต่ก็ต้องมาดูแลทรัพย์สมบัตินี้และแถมทำไปทำมาก็เจอกับความไม่ชอบมาพากลเข้าอีกเรียกว่าก็อ่านกันเพลินเลยเชียวค่ะ
ปกติเรื่องราวแบบนี้มันจะสลับฉากกันหน่อย เช่นพระเอกเจ้าของไร่แล้วคุณหนูก็ถูกส่งมาปรับปรุงนิสัยโดยถูกแกล้งนั่นนี่ไป แต่เรื่องนี้ก็เปลี่ยนจากพระเอกมาเป็นนางเอกที่ค่อนข้างจะแมนและเอาการเอางานแต่พระเอกสิค่ะนิสัยแย่เอาจริงๆ แต่ก็นั่นล่ะค่ะ พอถูกจับเปลี่ยนพฤติกรรม รู้จักและใกล้ชิดกับคนดูแลมากเข้าใจมันก็หวั่นไหว ส่วนเรื่องราวภายในก็ต้องบอกว่าอ่านแล้วถึงจะเพลินค่ะ เรียกว่าอ่านได้เพลินเลยค่ะสำหรับสำนวนของคีตา เล่มนี้ ส่วนตัวแล้วติดใจนิสัยนางเอกอย่างพุดชมพูมากเพราะอ่านไปแล้วเธอแมนเหลือหลาย ไม่คิดเล็กคิดน้อย ไม่หูเบา ไม่เชื่อคนง่าย แต่ว่าดำเนินชีวิตไปตามแบบสบายบนทางเชื่อมั่นในเรื่องความเป็นเหตุเป็นผล เรียกว่าน่ารักเลยค่ะสำหรับเรื่องนี้นอกจากคู่พระนางแล้วยังมีคู่รองอีกคือเพื่อนของพุดชมพูซึ่งมาช่วยดูแลระบบบัญชีและก็ทนายหนุ่มประจำตระกูลสัตยารักษ์ คู่นี้ก็เริ่มด้วยการไม่ชอบหน้าก่อนต่อมาก็กัดกันไปมาก็เข้าทางเข้าทีล่ะค่ะ
.เพราะเรื่องนี้น่ารักเลยแนะนำบอกต่อค่ะ
|