เรื่องราว ในสวนขวัญ .. ถือว่าเป็นเรื่องราวความรัก ความผูกพัน ของครอบครัว ดราม่า โรแมนติก คอมมาดี้นิดหน่อยเรียกว่าอ่าน1 เล่มแต่ได้ครบรสเหมือนกันนะ ซึ่งในเรื่องนี้จะเน้นในเรื่องของครอบครัวเป็นหลักซึ่งคำว่าตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด ครอบครัวของเรา มันเป็นสิ่งที่ฉุดให้คนหลายๆ คนต้องมานั่งคิดว่าเมื่อมีปัญหา เราจะพาครอบครัวเราก้าวไปทางไหน จะปล่อยมือก้มหน้าและบอกว่ารับกรรมกันไป หรือจะค่อยๆ แก้ปัญหาและประคับประคองกันไปล่ะ ??
บัวบูชาหรือเป็ดปุ๊ก กับ พ่อ- คุณเชียร เริ่มต้นกันใหม่ด้วยการซื้อบ้านในหมู่บ้านเสริมขวัญเพราะต่างก็อยากจะหลบจากปัญหาของตัวเองจากพี่ชายและลูกชายคนโต ไก่กุ๊ก ไทรงามที่ไม่รับผิดชอบอะไรมากนักในครอบครัวชอบนักกับการกิน ดื่ม เที่ยว โดยไม่สนใจครอบครัวและสะใภ้อย่าง เก็จเกยูร ที่นับวันจะรุนแรงขึ้นทุกที เพราะเธอถือว่าสามีไม่รับผิดชอบทะเลาะเบาะแว้งกันทุกวันมันเป็นเพราะว่าพ่อดูแลไม่ดี คำพูดที่ลูกสะใภ้อย่างเก็จเกยูรที่ทำให้พ่อปวดร้าวหัวใจเพราะด่าสามีก็ด่ากระทบถึงพ่ออย่างคุณเชียรซึ่งนั่นทำให้บัวบูชารู้สึกไม่ดีเลยต้องการ หนีเรื่องราวร้อนใจในบ้านออกมาอยู่กันสองคนที่ถึงแม้ว่าทั้งพี่ชายและพี่สะใภ้จะไม่ได้เอ่ยปากไล่โดยตรงแต่ด้วยความที่ไม่อยากให้พ่อเจ็บช้ำน้ำใจไปมากกว่านี้เป็ดปุ๊กจึงคิดว่าการย้ายออกมาจากบ้านเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
การย้ายมาอยู่บ้านใหม่สำหรับคนอื่นนั้นอาจจะเปี่ยมด้วยความสุขแต่สำหรับบัวบูชาและพ่อต่างรู้ดีว่าการปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันเริ่มมาจากเรื่องร้อนใจภายในบ้าน คุณเชียรซึ่งเป็นข้าราชการเกษีรณที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบกับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาลูกชาย-ลูกสะใภ้พร้อมกับหลานอีก 2 คนลูกสาวและลูกชายของไก่กุ๊ก -- นกจิ๊บและแมวเมี๊ยว และลูกสาวคนเล็ก เป็ดปุ๊ก ความฝันความรู้สึกของคนแก่ยามนี้เหมือนถูกบั่นทอนลงไปด้วยปัญหาของลูกชายและลูกสะใภ้ที่ทวีความรุนแรงขึ้นมาก การย้ายออกมาอยู่บ้านใหม่ซึ่งเป็นทางเลือกของเขาและลูกสาวที่คิดว่าน่าจะทำให้ครอบครัวของไก่กุ๊กนั้นได้รับการแก้ปัญหากันได้ดีขึ้น บัวบูชาสงสารพ่อที่พ่อจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์ที่พี่สะใภ้ด่าทอทำตัวหยาบคายในหลากวิธีการ เธอทำทุกอย่างเพื่อพ่อได้ไม่ว่าพ่อจะรู้สึกเศร้าเหงา หรือว่าทุกข์ใจอย่างไร บัวบูชาบอกกับตัวเองว่าเธอยอมเหนื่อยเพื่อให้ผู้เป็นพ่อนั้นกลับมาเป็นคนแก่ที่มีความสุขให้ได้แม้ว่าเธอจะเหนื่อยแสนเหนื่อยยังไงเธอก็ยอม แม้ว่าการย้ายออกมาอยู่กันเองสองคนพ่อลูกจะถูกพี่สะใภ้พูดจากระทบว่าหวังเงินบำนาญของผู้เป็นพ่อก็ตาม
ในหมู่บ้านสวนขวัญบัวบูชาและพ่อได้เจอกับเพื่อนบ้านที่มีทั้งดีและร้าย เจ้าของหมู่บ้านเสริมขวัญ หทัย และก็ นายไม้หรือ ตฤณ ที่เธอและคุณเชียรผู้เป็นพ่อคิดว่าเป็นคนสวนในหมู่บ้าน แต่คนที่คิดว่าเป็นคนสวนธรรมดาคนนี้ล่ะที่ได้สังเกตุเห็นความทุกข์ใจของสองพ่อลูกแล้วยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือซึ่งคุณเชียรเองก็รู้สึกสนิทและไว้วางใจนายไม้ถึงกับเล่าเรื่องทุกข์เรื่องร้อนต่างๆภายในบ้านให้ฟัง ซึ่งนายไม้ก็รับฟังทุกเรื่องราวพร้อมกับช่วยเหลือในสิ่งที่เขาพอจะช่วยเหลือเกื้อกูลได้ให้แก่สองคนพ่อลูก ซึ่งนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งไม้และเป็ดปุ๊กเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แม้ว่าบัวบูชากับพ่อจะย้ายออกจากบ้านเก่ามาอยู่บ้านใหม่แล้ว ทั้งลูกชายและลูกสะใภ้ก็ยังมีเรื่องราวที่สร้างความปวดร้าวหัวใจให้กับคุณเชียร์อยู่เสมอ ซึ่งแต่ละครั้งคุณเชียรก็หมดแรงใจในการรับรู้แต่ละเรื่องราวแต่ก็ยังโชคดีที่ว่าลูกสาวอย่างเป็ดปุ๊กและนายไม้คอยช่วยเหลือในเรื่องกำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่อาหารรการกิน และเรื่องของต้นละหมากรากไม้ที่นายไม้พยายามจะคอยเป็นเพื่อนร่วมกิจกรรมรวมถึงการแนะนำให้คุณเชียรได้รู้จักกับ ย่าขวัญ ย่าแท้ๆ ของไม้ หญิงชราชาวสวนซึ้งไม้เองก็ได้เล่าให้ย่าขวัญได้รับรู้ถึงเรื่องราวปัญหาของคุณเชียรและเป็ดปุ๊กฟัง ซึ่งจะว่าไปแล้วทั้งย่าขวัญ นายไม้ซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆ ของคุณ หทัยเจ้าของหมู่บ้านสวนขวัญต่างก็มีปัญหาเหมือนกันแต่ว่าต่างก็มีรูปแบบปัญหาแตกต่างกัน .. ให้ได้ขบคิดแก้ปัญหากันอยู่
- ปัญหาของคุณหทัย กับไม้ซึ่งเป็นลูกติดของสามีคนเก่า กับครอบครัวของสามีคนใหม่แม่ อลงกรณ์ และ อลังการน้องต่างพ่อ
- ปัญหาของย่าขวัญ กับลูกชายอีกคนซึ่งหวังอยากได้สมบัติของแม่
- ปัญหาของเป็ดปู๊กและพ่อ กับครอบครัวของพี่ชาย+ พี่สะใภ้
- ปัญหาของเป็ดปุ๊ก กับเพื่อนที่ทำงานแก้วกรพินธุ์ ( น้องสาวของเก็จเกยูร )
ปัญหาสารพันในเรื่องราว ในสวนขวัญเป็นเรื่องที่เราเจอกันได้เสมอกับสังคมเราไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือว่าวันนี้มันก็ยังมีปัญหาแนวนี้อยู่เสมอ ...ทั้งย่าขวัญของไม้ และคุณเชียรพ่อของเป็ดปุ๊ก คนแก่ที่มาเจอปัญหาอย่างนี้ต้องมานั่งคุยกันเรื่องของครอบครัว ลูกหลาน ...สุดท้ายย่าขวัญก็สรุปได้กับเรื่องราวของทุกสิ่งอย่างได้ว่า
ความเห็นแก่ตัว ไม่ใช่ไม่มี แต่มันไม่พอ เสียมากกว่า
ส่วนตัว :
อ่านเรื่องนี้จบแล้วต้องย้ำเหมือนที่เคยรู้สึกได้ว่า หนังสือเรื่องนี้ในสวนขวัญ เป็นเรื่องที่ประทับใจของตัวเองมากๆ เลยล่ะค่ะ เพราะเป็นเรื่องของครอบครัวที่หลากหลาย ถึงจะบีบคั้นเศร้าบ้างในบางส่วนแต่ว่ามันก็ทำให้เราได้ฉุกคิดเพื่อที่จะทำนำมาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาที่จะเกิดหรือเกิดแล้วในบ้านเราเองได้ และทุกๆ อย่างมันมีเหตุและมีผลของมัน คือเพราะเป็นแบบนี้ เลยเป็นแบบนั้น ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยสำหรับเรื่องนี้กับตัวละครสำคัญที่ดำเนินเรื่องอย่างเก็จเกยูรและน้องสาว - แก้วกรพินธุ์ ( เพื่อนร่วมงานเป็ดปุ๊ก ) ที่ทำไมถึงได้ร้ายขนาดที่เราเกลียดจับจิตจับใจแต่เพราะนั่นเป็นผลพวงของแม่อย่าง กะรัต ที่เลี้ยงดูลูกสาวให้ ในวิธีการเห็นแก่ตัวปากกัดตีนถีบ ไม่เห็นหัวใคร เพราะเชื่อเสมอว่าถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะมาทำให้ ลูกสองคนเลยเติบโตมาเป็นแบบแผนของการเลี้ยงลูกอย่าง กะรัต สอนให้เป็น... นี่ล่ะค่ะคงโทษอะไรไม่ได้เพราะสังคมและการเลี้ยงดูหล่อหลอมให้เด็กออกมาเป็นแบบนั้น
ในส่วนของปัญหาครอบครัวนั้นไม่ว่าจะใครก็ใครต้องเจอ มากบ้าง น้อยบ้างแต่ทุกครอบครัวก็จะมีรูปแบบในการแก้ปัญหาของตัวเอง อย่างไม้ก็เลือกการแก้ปัญหาด้วยการปล่อยมือจากแม่ให้ครอบครัวใหญ่ไปแม้จะเจ็บปวดแต่เขาก็คิดว่ามันเป็นการที่รักแม่ในแบบที่แม่ไม่ควรจะทุกข์ใจระหว่างเขากับครอบครัวใหม่ หรือว่าไม่ก็เป็นปัญหาของบัวบูชากับพ่อที่แม้ว่าจะทุกข์ใจนักแต่เธอก็ไม่ปล่อยมือจากพ่อแต่ประคองความรู้สึกของพ่อให้ไปด้วยกัน เรียกว่าการแก้ปัญหามันอยู่ที่แต่ละคนจะตัดสินใจและเลือกทางเดิน ทุกย่างเหมือนที่บอกค่ะมันมีเหตุผลของใครของมันเราจะเอาตัวเองไปตัดสินคนอื่นไม่ได้
เรื่องนี้ถ้าไม่รักกันจริงก็จะไม่แนะนำแต่เพราะรักกันจริง เลยอยากบอกว่า ในสวนขวัญ เป็นอีก 1 เรื่อง 1 เล่มที่อยากให้ติดตามดูกันค่ะ ทั้งเรื่องของหนังสือและเรื่องของละคร ใครใคร่ชอบอย่างไรก็ติดตามกันได้แต่สำหรับหนังสือนั้นได้อรรถรสดีกว่าแน่นอนค่ะ ย้ำว่า อ่านไปอย่างช้าๆ เสพติดกับตัวหนังสือไปอย่างเรื่อยๆ แล้วจะรู้ว่าอารมณ์บีบคั้นของตัวอักษรมันมีพลานุภาพมากกว่าที่คุณคิดค่ะเพราะดวงตะวันเขียนออกมาได้อย่างน่าสนใจและสัมผัสได้ทุกตัวอักษรค่ะ
อ้อ...ชอบภาพที่เจ้าของบ้านถ่ายมากเลยครับ