All Blog
มรดกรัก วันที่ 17 มีนาคม 2555



หลังอุนซอง อบรมยูฮัง เสร็จ ก็ถูกผู้จัดการร้านเรียกไปพบ แจ้งว่าฝ่ายบุคคลสำนักงานใหญ่โทรฯ มา ตั้งแต่พรุ่งนี้ ให้อุนซองย้ายไปโรงงานที่โซล พนักงานคนอื่น ๆ ตกใจที่มีคำสั่งแบบนี้ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะอุนซองยังอยู่ในช่วงฝึกงาน

พั๊ก บอกกับจังว่าจำเป็นต้องขายร้าน เพราะแถวนั้นมีร้านซุปอีกสองแห่ง ยอดขายตกลงฮวบฮาบ สวนทางกับราคาที่ดินเทียบกับเมื่อก่อนสูงขึ้นมาก จึงเสนอให้จังปรับเพิ่มทุนบริษัท ซึ่งคณะกรรมการก็มีความเห็นเหมือนกัน

เงินเดือนออกเดือนแรก อุนซอง สั่งพ่อบ้านไม่ต้องเตรียมอาหารเย็น เธอจะซื้ออาหารมาทำเลี้ยงทุกคน เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ขอเวลาประกอบอาหาร 30 นาที ด้านซองยี ที่ไปช่วยงานร้านของจุนเซ ได้เห็นประกาศตามน้องชายของอุนซอง ก็นำมาบอกยงนัง เมื่ออุนซองทำอาหารเสร็จก็ออกมาบอกคุณย่าและทุก ๆ คน

“อะไรเนี่ย มีแต่ข้าว” ชองยี กล่าว

“ไม่ใช่ให้กินแต่ข้าวนะ” ยงนัง ถาม

“ข้าวอบสเต๊กวัวค่ะ เอากระดูกโครงวัวหมักต้มกับผัก 5 ชนิด ปรุงซีอิ๊ว ซอสพริกค่ะ” อุนซอง กล่าว

“สเต๊กวัวหมักปรุงรสซีอิ๊วกับซอสพริก ดูท่ารสชาติเข้ากันดีนะ” จัง กล่าว

“ไม่รู้รสชาติได้เรื่องรึเปล่า กระจอก” ชองยี กล่าว

“กระจอกอะไรรึ” ยงนัง ถาม

“หนู แม่ พี่ อย่างน้อยสามคนต้องบอกไม่ได้เรื่อง” ชองยี กล่าว

“ยังไม่ลองกิน รู้รึไม่อร่อย” ยูฮัง ถาม

“อึ่ม.....อร่อยมากเลย” ยงนัง กล่าวหลังลองชิม

“ก็พอใช้ได้” ยูฮัง กล่าว

“นักชิม รสชาติเป็นไง” คุณย่าหันไปถามพ่อบ้าน

“รสชาติกลมกล่อมมากครับ”

“เห็นด้วย”

“ฮ่ะ....ฮ่ะ...” อุนซอง หัวเราะดีใจ

“ดูท่า ไม่ถูกปากคุณชองยีนะครับ” พ่อบ้าน กล่าว

“คุณอาโพกผ้าอะไรคะ” ชองยี ถาม

“ผ้านี่ คุณอุนซองให้เป็นของขวัญครับ” พ่อบ้าน ตอบ

“ของขวัญพวกเราล่ะ” ชองยี ถาม

“ผ้าราคาแค่แปดพันวอน งบหนึ่งหมื่น ซื้อของให้ทุกคนคงจะ....” อุนซอง กล่าว

“หนึ่งหมื่นรึ” ยงนัง และชองยี ถาม

“ค่ะ เลยทำอาหารเลี้ยงทุกคนแทน ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมานะคะ”

“ตกลงเธอจะย้ายแล้วใช่มั้ย” ชองยี ถาม

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ”

“ซื่อจริง ๆ นะ เขาขอบใจที่ดูแลมาตลอดหนึ่งเดือน ไม่เข้าใจรึ”

“ไม่ค่ะ เขาพูดก้ำกึ่ง ตีความได้สองอย่าง”

“ขอโทษค่ะ” อุนซอง กล่าว

“หนึ่งหมื่น เชอะ....ดีนะที่ไม่ได้ซื้อ” ชองยี กล่าว

อุนซอง นำของขวัญมาให้คุณย่า ได้รับคำชมว่า ซื้อของได้ดี จากนั้นก็ถูกถามเรื่องการย้ายโรงงาน

“ทำไมย้ายเธอไปโรงงาน ไม่ถามฉันล่ะ”

“ย้ายหนูไปโรงงาน ทำไมซื้อเสื้อให้แล้วไม่บอกหนู อยู่โรงงานใส่เสื้อสวยไม่ได้” อุนซอง กล่าว

“เป็นแค่เตรียมการ สักวันเธอจะได้ใช้ เอาล่ะฉันอยากรู้ ทำงานมาหนึ่งเดือน เธอรู้สึกยังไง”

“รู้สึกรึคะ”

“พอใจ ไม่พอใจ อยากปรับปรุงส่วนไหน บอกมาได้” จัง ถาม

“ให้หนูสอดแนมรึคะ เพื่อนร่วมงานบางคนก็.....”

“หลายคนไม่พอใจรึ”

“เอ้อ...ไม่ใช่ค่ะ ไม่ยักรู้คุณย่ากลัวเรื่องนี้ด้วย”

“ฮ่ะ...ฮ่ะ....แสบนักนะเรา แกล้งย่าเล่น....ฮ่ะ...ฮ่ะ....”

“ฮ่ะ....ฮ่ะ....เอ่อ....หนึ่งเดือนที่ผ่านมา....เอ่อ....หนูรู้สึกว่าทุกคนสามารถให้ความสุขกับคนอื่นได้ แค่นี้ค่ะ”

“หือ...”

“คนเรา ความเห็นแก่ตัว มันน่ากลัวมาก หนูเองเคยคิดว่าทำตัวเองให้ดี ใช้ชีวิตไปก็ดีแล้ว แต่คุณย่า ไม่ได้คิดแบบนั้น คุณย่าห่วงใยคนอื่น ช่วยเหลือทุกคนด้วย” อุนซอง กล่าว

เช้าวันรุ่งขึ้นอุนซองเดินทางมาทำงานที่โรงงานที่โซล เมื่อมาถึงก็ฝากเนื้อฝากตัวกับพนักงานทุก ๆ คน และมีหัวหน้าคังเป็นคนสอนงานให้ในช่วงแรก ด้านยูฮัง เมื่ออุนซองไม่อยู่แล้ว ยังทำตัวเหมือนเดิม ใช้เท้าเขี่ยรองเท้าของลูกค้า จนโดนผู้จัดการ สั่งให้ไปทำงานโรงงานหรือจะลาออกไปก็ให้เลือกเอา หลังได้เวลาพักเที่ยงหัวหน้าคัง และอุนซองไปนั่งกินข้าว จึงได้พบกับยูฮัง ที่มาเป็นคนงานในโรงงาน

ปั๊ก บอกยงนังว่าจะเอาเตียงมาส่งให้คุณย่า ยงนังจึงรีบนำเรื่องนี้มาบอกคุณย่า

“ยูฮังกับซึงมีตกลงจะแต่งงานกันอยู่แล้วไม่ใช่รึ ทำไมต้องรับเตียงจากแม่ซึงมีล่ะ”

“คุณแม่ คุณแม่ไม่ทราบเรื่องซึงมีกับยูฮังรึคะ” ยงนัง ถาม

“เรื่องคนหนุ่มคนสาว ฉันจะไปรู้เรอะ ไม่เกี่ยวสักหน่อย”

“หรือคุณแม่ไม่ชอบซึงมีคะ”

“ไม่ชอบเรื่องอะไร ทั้งเรียนเก่ง น่ารัก ทั้งฉลาด เธออยากได้เป็นสะใภ้ ฉันฟังเธอพูดจนเบื่อแล้ว”

“แล้วจะไม่รับเตียงรึคะ”

“ของขวัญ ถ้าราคาแพงไม่เรียกของขวัญ เรียกว่าเส้น”

“คุณแม่ เซ็งฮีเขามีเงินตั้งเยอะแยะ เขาอยู่ว่าง ๆ เลยเปิดร้านขายเตียง ไม่หวังหาเงินหรอกค่ะ”

“ใช่ เธอว่าพ่อซึงมีมีบริษัทรับเหมา ร่ำรวยใช่รึเปล่า”

“ค่ะ”

“บริษัทเขาชื่ออะไรฉันไม่รู้เลย”

“ดิฉันก็ไม่ทราบ รู้แต่เป็นบริษัทเล็ก ๆ”

“ยงนัง สามีเพื่อนชื่ออะไร เธอก็ไม่รู้” จัง ถาม

“ดิฉันบอกแล้วไง เซ็งฮี ไม่เคยพูดเรื่องสามีใหม่สักนิดเดียว เพราะเขาแต่งใหม่มันขายหน้า”

“สามีเก่าตายแต่งใหม่ มันขายหน้าตรงไหน”

“ถึงยังไง คุณแม่กับดิฉันก็ครองโสดมาตลอด อีกอย่าง ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เซ็งฮีเป็นคนไม่เปิดเผย เก็บเนื้อเก็บตัว เหมือนซึงมีเป็นคนเงียบ ๆ แหละค่ะ”

“ตายเพราะอุบัติเหตุ หรือว่าป่วยตาย”

“คล้ายกับว่าอุบัติเหตุรถค่ะ”

“ซึงมีอายุเท่าไหร่”

“ซึงมี อายุสิบ หรือว่าสิบเอ็ดราว ๆ นั้น”

“กระทั่งก่อนแต่งงานใหม่ เขาอยู่กันยังไง” จัง ถาม

“เรื่องนี้ไม่ทราบหรอกค่ะ”

“ไหนว่าเธอเป็นเพื่อนเขา หญิงม่ายเลี้ยงปากท้องยังไง เป็นเพื่อนไม่รู้งั้นรึ”

“ดิฉันแต่งงานกับมินโซสองปี เซ็งฮีก็แต่งงาน จากนั้นประมาณสามปี เราไม่ติดต่อกันเลย เพิ่ง 5 ปีที่แล้วที่ยูฮังเจอกับซึงมี” ยงนัง กล่าว

“ช่างบังเอิญซะจริงนะ ที่เด็กมาเจอกัน”

“แต่ คุณแม่คะ คุณแม่อยากรู้พื้นเพว่าที่ดองกันรึคะ”

“ดองเดิงอะไร ยูฮังยังไม่เอ่ยปากเรื่องแต่งงานกับซึงมีสักหน่อย”

“ถ้าบอกยูฮังให้แต่งงานกับซึงมี เขาไม่ปฏิเสธหรอกค่ะ”

“รีบโทรศัพท์บอกเพื่อนเธอ”

ยงนัง โทรศัพท์หาปั๊ก บอกคุณย่าไม่ชอบรับของใครฟรี ๆ ปั๊ก รีบบอกว่า คุณย่าคงเข้าใจผิด ที่ส่งเตียงให้ไม่ใช่เพราะซึงมี แต่เป็นเพราะยงนัง แต่ถ้าไม่รับก็ไม่เป็นไร


//www.dailynews.co.th



Create Date : 19 มีนาคม 2555
Last Update : 19 มีนาคม 2555 11:06:15 น.
Counter : 294 Pageviews.

0 comment
มรดกรัก วันที่ 16 มีนาคม 2555



“ขอโทษลูกค้าเดี๋ยวนี้”

“แล้วเห็นดีกัน”

“คุณคะ เดี๋ยวค่ะ ขอโทษนะคะ เช็ดคราบออกก่อนนะคะ ปล่อยให้แห้งจะซักไม่ออก” อุนซอง เข้ามา

“หนอย...”

“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ ควรขอโทษก่อนค่อยพูดเรื่องค่าซัก พนักงานใหม่ยังไม่ทราบขั้นตอนทำงาน ฉันเป็นคนสอน ฉันผิดเอง แห้งแล้วค่อยเอาไปซัก เสื้อจะสะอาดเหมือนเดิมค่ะ ขอโทษนะคะ ขอโทษค่ะ”

ตอนที่ 16

อุนซอง เข้าไปต่อว่ายูฮังที่ทำผิดต่อลูกค้า ขอโทษสักคำไม่มี แล้วยังวางท่าขี้เต๊ะ

“ฉันไม่เคยทำงานแบบนี้ จะขอโทษใครได้”

“แล้วเวลาถูกคุณย่า คุณแม่ หรือคนดุ นายพูดยังไง” อุนซอง ถาม

“ตามวิธีของฉัน”

“ที่ผ่านมาไม่เคยพูด ต่อไปนี้นายต้องพูด เวลาทำผิดต่อลูกค้า คิดจะไม่ขอโทษใช่มั้ย”

“ฉันขอโทษไม่เป็น”

“พูดคำขอโทษ มันยากนักรึไง แค่ปรับตัวนิดเดียว ถ้านายไปกินที่ร้านอาหาร บริกรไม่สุภาพ วางจานโครมตรงหน้า ผิดไม่ยอมขอโทษ นายรู้สึกยังไง งานบริการ ต้องเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า แค่นั้นเอง”

“ไม่ต้องพูดแล้ว”

“ทำไมไม่ให้พูด”

“คุณย่าไม่จริงใจ เธอก็รู้ดี อย่าจริงจังหน่อยเลย”

“หมายความว่าไง” อุนซอง ถาม

“คุณย่าใช้เธอกดดันฉัน ไม่มีประโยชน์ นิสัยเปลี่ยนง่าย ๆ ซะเมื่อไหร่”

“ไม่เปลี่ยน แล้วนายจะเละเทะเหมือนเดิมใช่มั้ย

“ชีวิตเกิดมาถูกกำหนดไว้แล้ว เงิน อายุขัย ถูกกำหนดไว้หมด ทำไมต้องวุ่นวายด้วย” ยูฮัง กล่าว

“นายพูดอะไร”

“ฉันจะใช้ชีวิต ปล่อยไปตามดวง ไม่ต้องดิ้นรน ฉันเกิดมาไม่ต้องก้มหัวให้ใคร”

“นายมันน่าสงสาร สมแล้วที่คุณย่ายกสมบัติให้ฉัน” อุนซอง กล่าว

“อะไร”

“ถ้าฉันไม่กระจอกแล้ว นายจะทำไง ถ้าหากคุณย่ายกสมบัติให้ฉัน นายจะทำไง”

“เธอเดินตามถนน ถามใครที่ไหนก็ได้ มีรึยกสมบัติให้คนไม่รู้จัก” ยูฮัง กล่าว

“คุณย่าท่านพอใจทำแบบนี้ นายเดินตามถนน ถามใครก็ได้ ใครเค้ามีหลานเฮงซวยแบบนี้ ไม่เอาไหนเลย”

“ฉันไม่อยากทะเลาะด้วย”

“ถ้าฉันเป็นคุณย่า ก็ไม่ยกสมบัติให้หลานเฮงซวยหรอก”

“เธอพูดจบรึยัง”

“นายใหญ่โตมาจากไหน ไม่ก้มหัวให้ใคร คุณย่ามีเงิน แล้วนายมีอะไร ได้แต่เอาเงินไปผลาญเล่น ยังมีหน้าพูดว่าไม่ก้มหัวให้ใครน่าขำ”

“ตัวเองล่ะ”

“ฉันทำงานหาเงิน เคยให้คุณย่าพันนึงด้วย นายอายุเท่าไหร่ 27 ใช่มั้ย ฉันอายุ 25 ไม่เกาะใครกินเหมือนนายหรอก”

“ว่าฉันเกาะกินรึ”

“เกาะเขากิน ทำตัวเป็นหนอน ดีแต่เกาะเขากิน นายมันหนอน หนอน หนอน” อุนซอง กล่าว

“ด่าพอรึยัง เดี๋ยวปัด......”

“ด่าพอแล้ว ทำไม ตบสิ ตบแล้วจ่ายค่าทำขวัญฉันมั้ยล่ะ ถ้าสมบัติคุณย่าถูกแย่งไป อย่าร้องไห้ก็แล้วกัน”

“เอาอีกใช่มั้ย”

“คุณย่าให้ ฉันรีบรับเลย”

“นี่คิดจะขู่ฉันรึ ซึงมีไม่ปากจัดแบบนี้ ฝึกโต้วาทีมารึไงเนี่ย พูดแต่ละคำยั่วโมโหนัก”


//www.dailynews.co.th



Create Date : 19 มีนาคม 2555
Last Update : 19 มีนาคม 2555 11:05:29 น.
Counter : 275 Pageviews.

0 comment
มรดกรัก วันที่ 15 มีนาคม 2555



“งานบ้านค่ะ” ยงนัง กล่าว

เมื่อจังและยงนังออกมาก็ตกใจเมื่อเสื้อผ้าที่ซื้อมาให้อุนซอง ถูก ชองยี หยิบมาใส่แล้วเธอชมคุณย่าว่ามีรสนิยมดี เลือกเสื้อได้เหมาะกับเธอ ยงนังรีบบอกให้ลูกสาวรีบเปลี่ยนเสื้อเพราะว่าเป็นของอุนซอง

“คุณย่า”

“ในตู้เธอ เสื้อใหม่เอี่ยมยังไม่แกะป้ายตั้งหลายสิบชุด” จัง กล่าว

“แต่หนูซื้อเอง ไม่ใช่คุณย่าซื้อให้”

“เธอมีแม่ ทั้งแม่ทั้งลูก ปัญญานิ่ม ไม่รู้จักโตเหมือนกัน รู้จักแต่อิจฉา ไม่รู้จักการ ให้”

“บอกให้ไปเปลี่ยนเร็วสิ...เฮ้อ...”

“ผมกลับมาแล้วครับท่าน” พ่อบ้าน เข้ามา

“ดี สาวคนนั้นเป็นไง”

“ครับ คือว่า...”

“เห็นทีพรุ่งนี้ ดิฉันต้องทำครัวแล้วสิคะ ถูกใจสาวเข้าแล้ว นัดเจอตั้งแต่บ่ายสอง กลับเอาจนป่านนี้”

“ทำครัวอะไรครับ”

“ตั้งแต่พรุ่งนี้ เธอสอนสะใภ้ฉันทำอาหาร เขาจะเป็นแม่ครัวบ้านนี้” จัง สั่ง

“คุณผู้หญิงทำครัวรึครับ”

เมื่อถึงเวลาค่ำ จุนเซ ขับรถมาส่งอุนซองที่บ้าน ยูฮัง เห็น ก็นึกว่าพั๊กจุนเซ จึงเดิน ตามเข้าไปในบ้าน เมื่อตะโกนเรียก เมื่ออุนซองหันมาก็ตกตะลึงเพราะดูสวยแปลกตากว่าเดิมมาก

“มีอะไร”

“ทำอะไรมา” ยูฮัง ถาม

“อะไรเนี่ย”

“กระโปรงสั้น นึกว่าสวยรึ”

“เชอะ...เฮ้อ...ทนไว้”

“หน้าตาสวยขนาดนี้รึ” ยูฮังอุทานออกมาเมื่ออุนซองเดินเข้าห้องไป

ซึงมี บอกแม่ว่าเธอขายบ้านได้แล้ว พรุ่งนี้จะไปเซ็นสัญญา ปั๊ก พยายามห้ามลูกไม่ให้ขาย แต่ซึงมีต้องการขายเพื่อนำเงินมาคืนให้อุนซอง ปั๊กโมโหมาก แต่ไม่รู้ว่าจะทำไง ได้แต่บอกว่าซึงมีจะเสียใจในภายหลัง


ซึงมี โทรศัพท์มาหาอุนซอง ขอนัด เจอพรุ่งนี้ตอนเลิกงาน เพราะมีเรื่องบางอย่างอยากคุยด้วย โดยจะรอที่สวนสาธารณะ ตอน หกโมงเย็น ด้านโคพิงจุง สืบจนรู้ว่าอพาร์ตเมนต์ของปั๊กอยู่ไหน เขามาเคาะประตูหน้าห้อง เมื่อ ซึงมีเปิดประตูออกมาก็ตกใจ เพราะคิดว่าพ่อ ตายไปแล้ว โคพิงจุงรีบถามหาอุนซองอยู่ไหน เมื่อปั๊กออกมาดูก็รีบพาโคพิงจุง มาคุยกันสอง คน

“อุนซองไปอเมริกาแล้ว เขาไม่ได้อยู่ที่นี่สักหน่อย”

“ฉันเห็นอุนซอง ถึงเห็นระยะไกล แต่เป็นอุนซองเดินกับผู้ชายคนนึง”

“คุณเห็นอุนซองรึ”

“มีบางเรื่องที่ฉันกับอุนซองรู้ คนอื่นไม่รู้ ในโลกนี้ มีแต่ฉันกับอุนซองรู้ ว่าแม่เขาชอบอะไร ของวางอยู่หน้าสุสานแม่เขา”

“เขาคงกลับมา แต่ไม่ได้ติดต่อฉัน” ปั๊ก รีบแก้ตัว

“อุนซองกลับมา แต่เธอว่าไม่ได้ติดต่อ”

“เอ้อ...ซึงมี อุนซองโทรฯหาลูกรึเปล่า อุนซองพาอุนยูไปอเมริกา ไม่เคยโทรฯหาลูกเลยใช่มั้ย”

“ไม่โทรฯรึ”

“ดูสิ ตกใจจนพูดไม่ออก ไป ออกไปคุย เร็วสิคะ”

“หรือว่าอุนซองบินกลับมาแล้ว เขาไม่โทรฯหาเธอเลยรึ”

“ถ้าโทรฯ คุณไม่โผล่มาให้เราตกใจหรอก ฉันบอกแล้ว ได้ข่าวอุนซองจะส่งเมลให้ จู่ ๆ คุณมาหาฉันทำไม ซึงมีไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ตกใจหมด เห็นรึเปล่า”

“แล้วถ้า ฉันคลาดกับอุนซองจะทำยังไง ในเมื่อฉันเห็นกับตา เธอเองก็ไม่ส่งข่าว ให้ฉันรออย่างงั้นรึ ถ้าอุนซองกลับอเมริกาไปอีกล่ะ ย้ายที่เรียนก็ยิ่งติดต่อไม่ได้”

“อุนซองย้ายที่เรียนรึ” ปั๊ก ถาม “ทั้งไม่เจอหน้า ทั้งไม่ได้ยินเสียง จะทุกข์หรือสุข อุนยูเป็นยังไงบ้าง ไม่ถามไถ่สักคำ เขาไม่มีโอกาสบอกพ่อว่าสุขสบายดีมั้ย”

“คุณหาบ้านฉันเจอได้ไง รู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่”

“ฉันรู้ที่อยู่เธอ มันน่ากลัวนักรึ”

“ไม่กลัวได้ยังไง”

“กลัวคนรู้ว่าฉันยังอยู่ ต้องคืนเงินประกันใช่มั้ย”

“คุณรู้ที่อยู่ฉันได้ยังไง”

“คราวก่อนที่ลานจอดรถ ฉันเห็นกระดาษ ที่ติดอยู่ในรถ หลังจากฉันตาย หรือว่าเธอ...ทำอะไรกับอุนซอง เขากลับมาแล้ว ไม่มาหาเธอ อุนซองไม่ใช่คนแล้งน้ำใจ”

“คุณรู้รึว่าอุนซองคิดยังไง ถ้าเขากลับมาแล้วติดต่อฉัน ตอนไปอเมริกา ทำไมเขาไม่โทรฯหาฉัน”

“เพราะงั้นน่ะสิ ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้น”

“อยากรู้รึ หลังงานศพคุณ ฉันกับเขาไปบริษัทประกันเพื่อรับเงินประกัน พอวันรุ่งขึ้นเขาก็หายไปเลย” ปั๊ก กล่าว “ฉันถามว่าเขา ทำไมถึงไม่โทรฯหาเธอ”

“เขาคงอยากตัดขาดฉันมั้ง หรือไม่ก็ตัดขาดฉันไปแล้ว” ปั๊ก กล่าว

“ไม่มีทาง ถึงฉันไม่รู้วัยรุ่นเขาคิดกันยังไง แต่อุนซองเป็นลูกฉัน เขาเคารพฉัน เขาไม่แล้งน้ำใจกับเธอ”

ซึงมีโกรธแม่มาก ที่ทำแบบนี้ แต่ในทุกสุดก็ตัดสินใจเลิกนัดกับอุนซอง แล้วลงมือเขียนอีเมลไปหาโคพิงจุง โดยอ้างว่าเป็นอุนซอง โดยบอกว่ายังไม่คิดกลับมาที่เกาหลี เพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พ่อทำลงไป เมื่อโคพิงจุง ได้เปิดอีเมลอ่านก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ

ยงนัง มาปลุก ชองยี ให้ตื่นเพราะวันนี้มีนัดกับจุนเซ จากนั้นพ่อบ้านก็มาตามยงนัง ไปจัดเตรียมโต๊ะอาหาร และสอนใช้เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น ทำให้ยงนังเริ่มเบื่อกับหน้าที่ใหม่ ด้านอุนซอง เมื่อพบยูฮัง ก็รีบทวงเงินที่เขาติดเธอไว้ จากนั้นยูฮัง ถามว่าเธอเป็นอะไรกับพั๊กจุนเซ คนที่มาส่ง เมื่อคืน

“พี่น้องคู่นี้ประหลาดจริงนะ ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่น” อุนซอง กล่าว

“ยัยกุ้งแห้งผอมกะหล่อง...เฮ้อ...เพราะแต่งหน้าแต่งตาหรอกน่ะ...เฮ้อ...” ยูฮัง กล่าว

ที่ร้านอาหาร ลูกค้า เรียกให้พนักงานช่วยตักกิมจิ อุนซองจึงบอกให้ยูฮังไป เขาตักหกเลอะเสื้อผ้าของลูกค้า“ตัดประสาอะไร”

“ผมจ่ายค่าซักให้”

“อะไรนะ ค่าซักรึ ทำเสื้อเลอะไม่ขอโทษสักคำ ยังว่าจ่ายค่าซัก...ผู้จัดการอยู่ไหน”

“ขอประทานโทษครับ” ผู้จัดการ รีบขอ โทษ

“คุณสอนพนักงานยังไงกัน ไม่มีมารยาทสักนิด”

“บอกแล้วไงจ่ายค่าซักให้”


//www.dailynews.co.th



Create Date : 19 มีนาคม 2555
Last Update : 19 มีนาคม 2555 10:50:10 น.
Counter : 331 Pageviews.

0 comment
มรดกรัก วันที่ 14 มีนาคม 2555



“คุณปิดตัวเองเกินไปรึเปล่าครับ” ทนายพั๊คถามยิ้ม ๆ

“เขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว ตอน ม.3 ทั้งปี คบฉันอยู่คนเดียวไม่ยอมคบเพื่อนคนอื่น พอแต่งงาน อยู่แต่กับสามีลูก ไม่ติดต่อเพื่อนฝูงอีกเลย”

“งานบ้านมันยุ่งนี่นา ยิ่งฉันไม่ชอบงานสังคมอยู่ด้วย” ปั๊กเซ็งฮียิ้มเขิน ๆ ทนายพั๊คมองอย่างสนใจ

“เขาเป็นคนชอบถ่อมตัวอยู่เรื่อย...ฮ่ะ...ฮ่ะ...” ยงนังหัวเราะชอบใจ

ตอนที่ 15

จัง ขับรถมารับอุนซองหลังเลิกงาน ยูฮัง แต่ตัวใส่สูทจะไปงานของปั๊ก เห็นอุนซองนั่งรถไปกับคุณย่าก็แปลกใจและไม่พอใจนัก เมื่อยูฮังเดินทางมาถึงงานถือดอกไม้เข้ามา เมื่อปั๊กเห็นก็รีบขอตัวจากแขกคนอื่นมารับ

“สวัสดีครับ”

“ไม่เจอตั้งนานขอจับมือได้มั้ย ปั๊ก กล่าว

“ครับ”

“เธอบินกลับมายังไม่เจอกันเลย เราพบกันครั้งแรกปีที่แล้วนะ”

“ครับ ของขวัญครับ”

“ไม่ต้องซื้อหรอก แค่มาน้าก็ดีใจแล้ว”

“ซึงมีมาด้วยนะครับ” ยูฮัง กล่าว

“มาเงียบ ๆ ไปเงียบ ๆ นะ มาทางนี้...หมู่นี้เหนื่อยสินะ”

“เหนื่อยมากครับ”

“น่าชื่นชมจริง ๆ เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องสู้ต่อไป อดทนอีกหน่อย ทนต่อไปอีกสักสามเดือน คุณย่าท่านคงใจอ่อนเองแหละ”

“พี่ยูฮัง ฉันออกไปคุยโทรศัพท์นะคะ” ซึงมี กล่าว

“ไปเถอะ” ยูฮัง กล่าว ซึงมีเดินออกมารับโทรศัพท์ปลายสายเป็นนายหน้าขายบ้านโทรฯมาตามให้เธอไปเซ็นชื่อในสัญญาเธอขอให้เป็นพรุ่งนี้เที่ยง

จัง พาอุนซอง มาซื้อเสื้อผ้าใหม่ จากนั้นพาไปแต่งหน้าทำผม จนเธอดูสวยแปลกตา แล้วก็ปล่อยอุนซองไปหาเฮลี ที่ร้านของจุนเซพึยงลำพัง เมื่อไปถึงเฮลีจำเธอไม่ได้รีบเข้ามาต้อนรับ แต่พอเข้ามามองใกล้ ถึงจำได้ว่าเป็นอุนซอง ส่วนอุนซอง ก็แปลกใจที่เฮลีใส่ชุดพนักงานที่นี่ ส่วนเฮลี เมื่อเห็นอุนซองแต่งตัวทำผมก็แปลกใจเช่นกัน เมื่อจุนเซเข้ามาเห็นก็ตะลึง

“โคอุนซอง โคอุนซองใช่รึเปล่า เกิดอะไรขึ้น”

“อย่าจ้องฉันแบบนั้นสิ”

“ใครที่เปลี่ยนเธอเป็นแบบนี้”

“แล้วเธอล่ะ มันอะไรกันเนี่ย”

“เฮ้อ...ตอนแรกฉันว่าจะสั่งอาหารให้ ตกใจหมด...แอ่นแอ๊น...ฉันทำงานที่นี่” เฮลี กล่าว

“จริงรึ เป็นไปได้ไง เฮลีทำงานที่นี่รึคะ”

“ร้านต้องการคน ฉันเลยลากเขามา” จุนเซ กล่าว

“ฮ่ะ..ฮ่ะ...วิเศษเลย ดีใจด้วย...ฮ่ะ...ฮ่ะ...” อุนซอง กล่าว

“วันนี้ เธอสวยสุด ๆ เลย”

“ฉันดูประหลาดมั้ย คุณย่าจับฉันแต่งตัวแบบนี้”

“ไม่เลย เธอสวยมาก สวยจนฉันจำไม่ได้” เฮลี กล่าว

“เฮลี พูดงั้นได้ไง อุนซองเค้าสวยอยู่แล้ว” จุนเซ กล่าว

“เอ้อ...ใครกันที่ไม่ปริปาก ได้แต่มอง...ฮ่ะ...ฮ่ะ...”

“ก็เปลี่ยนเป็นคนละคน มันตกใจอ่ะ”

“ฮ่ะ...ฮ่ะ...” อุนซอง หัวเราะ

จัง กลับมาที่บ้านส่งถุงเสื้อให้ยงนัง เอาถุงเสื้อของอุนซองไปเก็บให้ ยงนัง เอาถุงเสื้อผ้า ทิ้งลงพื้นแล้วเดินตามจังเข้าไป

“คุณแม่ทำไมดีกับอุนซองนัก แล้วใจร้ายใจดำกับพวกเราคะ” ยงนัง ถาม

“แค่เสื้อสามชุดเนี่ยนะ พวกเธอล่ะเสื้อเต็มรถบรรทุกแล้วจะว่าไง ดิฉันเป็นลูกสะใภ้นะคะ ยูฮัง กับชองยีก็เป็นหลานคุณแม่”

“ฉันบอกแล้วไง อุนซองเป็นคนบ้านนี้”

“โบราณว่าเลือดข้นกว่าน้ำนะคะ”

“ตกลงเธอจะพูดอะไร เสื้อให้อุนซองแค่สามชุด ถึงกับเซ้าซี้กับจังซุกจารึ” จังกล่าว

“ดิฉันรู้สึกไม่เป็นธรรมนี่คะ”

“ไม่เป็นธรรมยังไง”

“ยูฮังกับชองยี อายุยังน้อย คุณแม่ น่าจะรู้ดิฉันอายุเท่าไหร่แล้ว คุณแม่รู้มั้ย ดิฉันอยู่โรงงานถูกเขาสั่ง ทำงานก็หนัก หั่นหัวผักกาดบ้าบอ หั่นยังไงก็ไม่สวย ตอนที่ทำกิมจิ ดิฉันอยากเอาหน้าทิ่มในกิมจิให้ตายไปซะ...คุณแม่ จะให้ดิฉันทำงานโรงงานถึงเมื่อไหร่คะ”

“ฉันบอกแล้ว ต่อไปนี้ห้ามงอมืองอเท้า ลืมที่ฉันพูดรึยังไง”

“เอาอย่างนี้ ดิฉันจะขายที่ที่เทกุ๊ดเอาเงินทำการค้า” ยงนัง กล่าว

“ตามใจ สมบัติของเธอ เธอจะทำยังไงก็เชิญ”

“ให้ขายจริงรึคะ”

“ขาย แต่ว่า ฉันไม่ให้ค่ากินอยู่อีกต่อไป”

“คะ..??”

“ได้ยินชัดมั้ย ขายสมบัติเธอ เอาเงินไปทำการค้า กินอยู่บ้านฉันอีกทำไม ขนของย้ายออกไปเลย”

“คุณแม่”

“เกี่ยงว่าโรงงานงานหนัก งั้นก็ทำครัวทำ งานบ้าน”

“ทำครัวรึคะ”

“ให้แม่บ้านลาออกไป แล้วเธอทำงานบ้านแทน ฉันจ่ายเงินเดือนแม่บ้านให้ เลือกเอา ทำโรงงาน หรือทำงานบ้าน”


//www.dailynews.co.th



Create Date : 19 มีนาคม 2555
Last Update : 19 มีนาคม 2555 10:47:19 น.
Counter : 304 Pageviews.

0 comment
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 13 มีนาคม 2555



“งั้นก็ถือโอกาสนี้สนิทสนมกับจุนเซเลยสิคะ” ยงนังบอกลูกสาว เพราะรู้ว่าชองยีปลื้มจุนเซมาตั้งแต่เด็ก ๆ
“ขอเตือน อยู่ที่นั่นห้ามสร้างปัญหาเด็ดขาด ห้ามทำให้จุนเซเค้าเดือดร้อน” จังซุกจาบอก
“คุณแม่ ยอมให้ไปทำรึคะ” ยงนังถาม
“ต้องรู้สิ คนนะไม่ใช่สิ่งของ อีกอย่างก็ดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย จุนเซเป็นคนมีหลักการ มีความเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเธอคิดจะจับจุนเซ เธอต้องทำตัวให้เก่งมีความสามารถอย่างเขา”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ พี่จุนเซรักและเป็นห่วงหนูจะตายไป...ฮ่ะ...ฮ่ะ...” ชองยีดีใจสุด ๆ
อุนซองฝึกให้ยูฮังเคารพนบนอบลูกค้า พร้อมกับพูดจาสุภาพและดีกับลูกค้า แต่ยูฮังก็ยังขัด ๆ เขิน ๆ ไม่กล้าพูดเพราะกลัวเสียฟอร์ม อุนซองไม่รู้จะทำยังไงดีจึงเดินตามและสั่งสอน
“เธอเดินตามฉันทำไม”
“นึกว่าฉันอยากเดินตามนักรึ นายทำให้ฉันถูกผู้จัดการด่า คนถูกด่าคือฉัน มีผลต่อการทำงาน การเลื่อนตำแหน่งเงินเดือนฉันด้วย”
“เธอเลยใช้วิธีตามติดหนึบรึ”
“ฉันรายงานท่านประธานแล้ว แบ่งการทำงานเป็นทีมละสองคน”
“อะไรนะ”
“จ่ายมาห้าพัน นายเป็นหนี้ฉันเจ็ดแสนเจ็ดหมื่น เริ่มวันนี้จ่ายมาวันละห้าพัน” อุนซองทวงเงินที่ยูฮังเป็นหนี้อยู่
“นี่...ตกลงแล้วเงินเดือนออกค่อยจ่าย”
“เดือนนี้นายเบิกล่วงหน้าแล้วสามแสน เหลือรับแค่แปดแสน แล้วเจ็ดแสนเจ็ดของฉันเมื่อไหร่จะได้คืน เดือนหน้าขอค่ารถฉันอีกรึ”
“อย่างกหน่อยเลย”
“เป็นหนี้ไม่จ่ายสิงก”
“ฉันบอกรึไม่จ่าย”
“งั้นเอามาเลยห้าพัน” ยูฮังควักเงินส่งให้ อุนซองรีบเอาสมุดเล็ก ๆ ขึ้นมาเขียน “ลงบัญชีประจำวัน”
ถึงเวลาเที่ยง ยูฮังไม่ยอมกินข้าวที่คนครัวในร้านทำให้ และจะไปกินข้างนอกเหมือนเช่นทุกครั้ง ยูฮังจึงขอเงินที่จ่ายให้อุนซองคืน เพื่อเอาไปจ่ายค่าข้าว แต่อุนซองไม่ให้
“เธอจะปล่อยฉันหิวรึ”
“หิวได้ยังไง ที่นี่ก็มีข้าวกิน”
“เคยเห็นฉันกินที่นี่รึ”
“นายไม่อยากนั่งกินข้าวกับฉัน หรือไม่อยากนั่งกินข้าวกับพนักงาน ทั้งที่รู้นายออกไปกินข้างนอก พนักงานครัวยังเตรียมส่วนของนาย เพราะคิดว่าจะนั่งกินด้วย งั้นฉันก็ต้องกินแทน เพราะว่าฉันทำร้ายพนักงาน ทำร้ายความรู้สึกพวกเขา ฉันละอายต่อพวกเขา ฉันจะเอาไก่ตุ๋นโสมเข้าไปนั่งกินต่อบนพื้นครัวให้ นี่ไก่ตุ๋นโสมนะ ไม่ใช่อย่างอื่น กินชามเดียวจะตายรึไง”
“มากินด้วยกันเถอะ ฉันทำไก่ตุ๋นโสมอร่อยสุด ๆ เชียวนะ...มา” เพื่อนพนักงานชวนยูฮัง
“ฉันไม่ชอบไก่ตุ๋นโสม” ยูฮังพูดแบบไว้ฟอร์ม
“อึ่ม...อร่อย...” เพื่อนพนักงานกินและพูดขึ้น ยูฮังมองกลืนน้ำลอยลงคอเอี๊อก ก่อนจะนั่งลงกิน ยูฮังพอได้ลิ้มรสไก่ตุ๋นโสมก็ถึงกับกินไม่หยุด อุนซองยิ้มที่ทำให้ยูฮังมานั่งร่วมโต๊ะกินข้าวกับคนอื่น ๆ ได้
โคพิงจูมาหาปั๊กเซ็งฮีที่บ้าน และก็พบว่าปั๊กเซ็งฮีขายบ้านไปอยู่ที่อื่นแล้ว ยิ่งเพิ่มความสงสัยให้กับโคพิงจูเป็นอย่างมาก ปั๊กเซ็งฮีนำเงินส่วนหนึ่งมาเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ และซึงมีชวนยูฮังมาร่วมฉลอง แต่ยูฮังไม่มีเงินจึงไปขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าจากจังซุกจา
“คุณย่าบอกงานเปิดร้าน อย่าไปมือเปล่า”
“เท่าไหร่ ไม่ใช่ใช้สุรุ่ยสุร่าย ใช้อย่างมีสาระ ฉันให้เบิกได้ ชีวิตคน หนีไม่พ้นเกิดแก่เจ็บตาย จะเบิกเท่าไหร่”
“แล้วแต่คุณย่า”
“ซื้อผลไม้สักตระกร้านึงก็พอ...อ้าว...หักจากเงินเดือนทีหลัง”
“บอกแล้วเบิกล่วงหน้า” ยูฮังบ่น ยงนังได้ทีขอเบิกด้วย “คุณแม่ ดิฉันขอด้วยค่ะ ดิฉันก็ไปงานเปิดร้านของเซ็งฮี ต้องมีเงินติดตัวนะคะ”
จังซุกจาเรียกพ่อบ้านเข้ามาสั่ง “แม่ซึงมีเปิดร้านใหม่ เธอจัดกระเช้าดอกไม้ในนามบริษัท กับอีกกระเช้าชื่อสะใภ้ฉัน เอากระเช้าใหญ่ ๆ

สวย ๆ ส่งไปให้ที...บ่ายสองร้านอาหารพัวโล อย่างานยุ่งจนไปสายปล่อยสาว ๆ รอล่ะ” ตอนท้ายจังซุกจาบอกให้พ่อบ้านไปพบสาว ๆ เพราะอยากให้พ่อบ้านแต่งงานมีครอบครัวเสียที
“ทราบแล้วครับ ผมไปนะครับ”
“ไหนว่าไม่อยากแต่งงาน ออกไปรอตั้งแต่หัววันรึคะ” ยงนังถามแปลกใจ
“ทำธุระอื่นก่อนไม่ได้รึยังไง”
“เห็นปกติพ่อบ้านไม่เคยไปไหนนี่คะคุณแม่ ถ้าพ่อบ้านแต่งงาน กับข้าวจะทำยังไงคะ...เฮ้อ...ทั้งงานครัว งานบ้าน ตั้งเยอะตั้งแยะ”

ยงนังและทนายพั๊กมางานเปิดร้านของปั๊กเซ็งฮี
“แขกน้อยเกินไปรึเปล่า ไม่เชิญเพื่อนเธอกับเพื่อนทางสามีมาร่วมงานล่ะ”
“เรื่องแค่นี้เอง ฉันไม่อยากรบกวนหรอก ที่จริงฉันอยากเชิญ แต่เธอแนะนำทนายพั๊กให้ช่วยฉัน ฉันเลยต้องเชิญ” ปั๊กเซ็งฮีบอก


//www.dailynews.co.th



Create Date : 13 มีนาคม 2555
Last Update : 13 มีนาคม 2555 12:35:21 น.
Counter : 269 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]