All Blog
รักออกอากาศ ตอนที่ 14 อวสาน (ต่อ)




ค่ำคืนนั้น สมศรีเดินเข้ามาในห้องสมใจ นั่งลงข้างๆ ลูบหัวลูกสาวอย่างเข้าใจในความรู้สึก

“แม่...” สมใจร้องออกมา
“คนเราไม่มีใครที่จะทำดีทำถูกไปซะหมดทุกเรื่องทุกอย่างหรอกลูก ตั้งแต่เกิดมาทุกคนก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำถูกและทำพลาดกันไปทุกๆ วัน ตั้งแต่เกิดจนตาย”
สมใจตั้งใจฟังแม่พูดสอน
“ถ้าเราเอาแต่มองคนอื่นด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่ยอมทำ ไม่ยอมเป็นในแบบที่เราต้องการ เราก็จะทุกข์ แต่ถ้าเรามองเขาด้วยความเข้าใจซะ เราก็จะมีความสุข เหมือนแม่ แม่รักพ่อ แม่เลยเข้าใจพ่อ ถึงแม้ตาหมายจะเอะอะขี้โวยวายแต่ก็เป็นคนจิตใจดี รักลูกรักเมียที่สุด แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับแม่”
สมใจซาบซึ้งโผเข้ากอดแม่ “แม่...”
“อยากจะถามอะไรแม่มั้ย” สมศรีถามพลางลูบหัวลูกสาวอย่างรักใคร่
“ใจ๋...” สมใจพูดไม่ออก
“ใจ๋ควรจะเลือกใครดีระหว่างปลัดจืดกับเจ้าคุณ”
สมใจหลบสายตาที่แม่รู้ใจไปทุกอย่าง
“ไม่ว่าฐานะหรือตำแหน่งหน้าที่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ใครก็ได้ที่เขาเป็นคนดี ที่สำคัญคือเขารักเราและเราก็รักเขา”
สมใจมองหน้าแม่
“อย่ามาถามแม่เลย ถามใจตัวเองดีกว่า แม่ไปก่อนนะ จะไปดูตาหมาย”
“แม่...” สมใจโผเข้ากอดแม่ไว้แน่น “ใจ๋รักแม่นะจ๊ะ”
สมศรียิ้มให้ลูกสาว ลุกขึ้นเดินออกแล้วหันหลับไปหาสมใจอีกครั้ง
“อย่าถามใจตัวเองนานนักนะ เดี๋ยวมันจะแย่” สมศรีพูดพลางมองไปที่หน้าต่าง
สมใจยังงงอยู่ จึงรีบวิ่งไปเกาะหน้าต่างดู แล้วอึ้งไป เพราะเห็นเจ้าคุณยืนอยู่หน้าบ้าน มองตาละห้อยมาที่สมใจ สมใจสะดุ้ง หันหลังขวับมาตั้งสติ
“ไอ้บ้า!”
สมใจค่อยๆ เหลือบตามองอีกที ยังเห็นเจ้าคุณยืนอยู่ตรงที่เดิม พอตั้งสติได้แล้วหันขวับไปตะโกนไล่
“ไปให้พ้น!” สมใจปิดหน้าต่างทันที
เจ้าคุณตะโกนเรียก
“ใจ๋!”
สมใจพิงหน้าต่างอยู่ แอบน้อยใจเรื่องเก่าๆ จนน้ำตารื้นขึ้นมา
“บ้า! ไอ้คนบ้า! อย่าหวังเลย”
เจ้าคุณยืนรอสมใจที่หน้าต่างอย่างมีความหวัง โดยไม่รู้ว่าสมหมายกับสมศรียืนมองเจ้าคุณอยู่เช่นกัน
“ไอ้หน้าด้าน! มันยังมีหน้ามายืนหน้าว่อกอยู่อีกเหรอวะ ไอ้ปุ๋ย ไปหยิบปืนมาให้ข้า” สมหมายฉุนจัด
“เออ ไปเอามา ข้าจะได้เอามาตีหัวแกไงตาหมาย”
สมศรีเข้าข้างเจ้าคุณ
“อ้าว! ไหงงั้นล่ะแม่ศรี”
“ก็เผื่อจะช่วยให้แกจำอะไรขึ้นมาได้มั่ง”
“จำอะไร” สมหมายโวยวาย
“ก็ตะก่อนนี้ ถ้าพ่อแม่ฉันใจจืดใจดำกีดกันไอ้หนุ่มบ้านนอกอย่างแก แกกับฉันจะได้อยู่ด้วยกันมาจนวันนี้มั้ย”
สมหมายอึ้ง คำปุยกับแคบหมูมองหน้ากันเพราะไม่เคยรู้มาก่อน
“ทีพ่อแม่ฉันเขายังไม่บังคับให้ฉันเลือกไอ้มาเฟียฟง แล้วนี่แกจะไปบังคับจิตใจไอ้ใจ๋มันทำไม”
สมหมายอึ้งไปเมื่อเจออีกดอก “ก็...ก็..”
“ก็อะไร ห๊า!”
ถูกสมศรีตวาดใส่ สมหมายอึ้ง เงียบสนิท

เวลายิ่งดึกมากขึ้น แต่สมใจยังนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย พลิกตัวไปมา สุดท้ายแพ้ใจตัวเอง ผุดลุกขึ้นค่อยๆ แง้มหน้าต่างออกไปดู เห็นเจ้าคุณยังยืนอยู่ที่เดิม และเงยหน้ามองมาพอดี สมใจสะดุ้งรีบปิดหน้าต่างทันที
“ทุเรศ! ไม่รู้จักหลับจักนอน”
สมใจเดินหงุดหงิดไปล้มตัวลงนอน ซักพักฟ้าผ่าเปรี้ยงสมใจตกใจสุดขีด แต่แอบคิดถึงเจ้าคุณที่ยืนอยู่ข้างล่างนอกบ้านโดยอัตโนมัติ
“เฮ่ย! สมน้ำหน้า อยากจะยืนตากฝนก็ตามใจ เชอะ!”
สมใจจะล้มตัวลงนอนอีก ฟ้าผ่าอีกครั้ง และสมใจลุกขึ้นมาอีกครั้ง ห่วงเจ้าคุณแต่ยังมีฟอร์ม
“เฮ่ย ป่านนี้วิ่งหนีตับแลบไปแล้วมั้ง..ไอ้ไฮโซ!”
สมใจเดินไปแง้มหน้าต่างดู แต่เจ้าคุณยังยืนอยู่ที่เดิม ตากฝนเปียกซ่ก มองมาที่ห้องสมใจ
“เฮ๊ย! จะบ้าเหรอวะ”
สมใจพึมพำกับตัวเอง ส่วนเจ้าคุณมองสมใจตาละห้อย หนาวจนปากสั่นเนื้อตัวเปียกแต่ยังไม่ยอมกลับ สมใจเปิดหน้าต่างกว้าง แล้วตะโกนลั่นออกไป
“จะบ้าเหรอ เดี๋ยวก็ฟ้าผ่าตาย อยากตายก็ไปตายที่อื่น อย่ามาตายหน้าบ้านฉัน”
เจ้าคุณตะโกนตอบกลับมา “ใจ๋ ฉันขอโทษ”
สมใจตะโกนกลับ “ไม่มีวัน ฉันไม่มีวันยกโทษให้นาย จะไปตายที่ไหนก็ไป”

ทันใดนั้นฟ้าผ่าอีกเปรี้ยง สมใจสะดุ้งสุดตัว ห่วงเจ้าคุณแต่ก็ยังรู้สึกโกรธอยู่
“มายืนตากฝนอย่างเนี้ย นึกว่าเท่เรอะ” สมใจตะโกนด่าอีก
“ยกโทษให้ฉันด้วยเถอะนะใจ๋ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่เคยคิดจะหลอกเธอเลย” เจ้าคุณไม่ละความพยายาม
“ใช่ซิ! นายไม่ได้หลอกแค่ฉันคนเดียว แต่นายหลอกพวกเราทุกคนในม่วนแต๊ นายมันไอ้คนใจดำ!”
“สมใจ! จะให้ฉันทำยังไงเธอถึงจะหายโกรธ บอกฉันได้มั้ยสมใจ!” เจ้าคุณอ้อนวอน
“ไม่มีวัน ไม่มีวันที่ฉันจะหายโกรธนาย จำไว้เลยนะ ชาตินี้ฉันกับนาย เราสิ้นสุดกันแค่นี้”
สมใจปิดหน้าต่าง เจ้าคุณอึ้ง ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง สมใจสับสน ทั้งเสียใจและแค้นใจ จนน้ำตาไหลออกมา ส่วนเจ้าคุณทรุดอยู่หน้าบ้านสมใจท่ามกลางฝนที่เทลงมาอย่างหนัก

รุ่งเช้า บรรดาลูกเล็กเด็กแดง และชาวบ้าน ต่างมุงดู ก้มมองเจ้าคุณที่นอนหลับอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านสมใจ สมหมาย สมศรี คำปุยและแคบหมู เดินแหวกไทยมุงเข้ามามองดู
“เชอะ! ไอ้ไฮโซ ยังกะหมา” สมหมายเยาะเย้ย
“ตาหมาย! ขุนทอง เอ๊ย! คุณๆ ตื่นเถอะ ตื่นได้แล้ว”
สมศรีเรียกเจ้าคุณให้ตื่น เจ้าคุณค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองด้วยความงง
“จะมานอนเกะกะหน้าบ้านข้าทำไมวะ ลุกๆ”
สมหมายลากเจ้าคุณขึ้นมา พร้อมกับผลักไส เหมือนจะไล่ไปพ้นๆ เจ้าคุณเกาะขาสมหมายไว้พร้อมยกมือไหว้
“น้าหมาย ผมขอโทษนะครับ น้าศรียกโทษให้ผมด้วยนะครับ ทุกๆ คนให้อภัยผมด้วย อย่าโกรธอย่าเกลียด
ผมเลย อยากจะลงโทษยังไงผมก็ยอม ขอให้ผมได้ ได้..” โรคติดอ่างดันกำเริบ
“ได้อะไร” สมหมายตวาด
“เอ่อ..ได้..ได้..ได้กลับมาเป็นลูกหลานม่วนแต๊อีกครั้ง”
ทุกคนอึ้ง วิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่
“ตาหมาย..ว่าไง”
สมศรีถามแต่สมหมายยังไว้เชิง “ไม่รู้! ไม่ใช่เรื่องของฉัน”
“งั้นก็เป็นเรื่องของไอ้ใจ๋” สมศรีว่า
“เฮ่ย!” สมหมายโวย
“เอางี้ เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นระหว่างคุณกับไอ้ใจ๋ เพราะฉะนั้นถ้าไอ้ใจ๋มันตัดสินใจยังไง ก็ให้ถือตามนั้น ดีมั้ยพวกเรา”
ทุกคนปรึกษากัน
“ว่าไง ตกลงมั้ย”
“ตกลง”
ชาวบ้านม่วนแต๊เห็นด้วยที่จะให้สมใจตัดสินใจเองเรื่องเจ้าคุณ
“เฮ่ย!” สมหมายยังขัดใจ
เจ้าคุณดีใจมาก รีบยกมือไหว้ขอบคุณรอบทิศ
“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับทุกคน ขอบคุณครับน้าศรี”
เจ้าคุณกอดสมศรีด้วยความดีใจ “เฮ้ย! ไอ้ว่อกนี่”
“ขอบคุณน้าหมายด้วยครับ” ว่าแล้วเจ้าคุณกระโดดกอดสมหมาย
“เฮ้ยๆ! ไอ้ว่อก เดี๋ยวฟ้าผ่าตาย”
“ผมขอไปหาสมใจนะครับ”
เจ้าคุณจะวิ่งออกไป แต่สมหมายรีบตะโกนบอก
“ไอ้ใจ๋ไม่อยู่”
“ใจ๋ไม่อยู่ ใจ๋ไปไหนล่ะครับน้าหมาย” เจ้าคุณอึ้ง
“ใจ๋ไปไหน ถ้าแค่นี้ไม่มีปัญญาจะคิดก็อย่าหวังว่าจะง้อไอ้ใจ๋มันได้เล๊ย ไอ้ง่าว! ไปเหอะพวกเรา ปล่อยให้มันง่าวอยู่นี่ล่ะ”
สมหมายอารมณ์เสียสะบัดเดินหนีเข้าบ้าน สมศรีอมยิ้มตบไหล่ให้กำลังใจเจ้าคุณ
“สู้เขา...อ้ายขุนทอง”
“ใช้หมองๆ หน่อยเซ่!” แคบหมูชี้ไปที่หัวอย่างเซ็งๆ
จากนั้นทุกคนแยกย้ายกันไป เหลือเจ้าคุณยืนครุ่นคิดอยู่คนเดียว
“สมใจ...”
ไวเท่าความคิดเจ้าคุณออกวิ่งตามหาสมใจ ในหลายๆ ที่ของบ้านม่วนแต๊ที่คิดว่าสมใจจะไป

บ่ายวันนั้น สมใจหลบมาอยู่ที่น้ำตกแม่อุ๊ยนางรอคนเดียว และกำลังนั่งเหม่อมองน้ำตกแล้วนึกถึงวันที่เล่าเรื่องน้ำตกแห่งนี้ให้เจ้าคุณฟัง สมใจหน้าเศร้าเหมือนหมดอาลัย ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนมองน้ำตกที่ไหลแรงอยู่เบื้องหน้า สมใจเวลานี้ดูคล้ายกับคนหมดสิ้นความหวัง ค่อยๆ ก้าวเท้าไปที่หน้าผา
ทันใดนั้น ปลัดจืดก็ตะโกนร้องห้ามเสียงหลง “อย่า!”
สมใจสะดุ้งหันกลับมามอง เป็นจังหวะพอดีกับที่ปลัดจืดพุ่งมารวบตัวกอดสมใจไว้แน่น
“อย่าทำอย่างนี้ซิใจ๋ อย่าคิดสั้นอย่างนี้!”
สมใจทำหน้างง ไม่เข้าใจ “อะไรปลัด ใครคิดสั้น”
“อ้าว” ปลัดจืดงง
สมใจส่ายหัว มองหน้าปลัดจืดที่ยังยืนเข้าใจผิดคิดว่าสมใจจะฆ่าตัวตาย

อีกฟากหนึ่งเจ้าคุณเห็นสมใจกับปลัดจืดกอดกันก็ชะงัก อึ้ง สีหน้าเปลี่ยนไป
“จะกอดฉันอีกนานมั้ยเนี่ย เดี๋ยวโดนข้อหาชีกอประชาชน ไม่รู้ด้วยนะคะ...คุณปลัด”
สมใจจับคางปลัดหยิกหยอกไปมาอย่างเอ็นดู เจ้าคุณมองภาพนั้นอยู่อีกฝั่งเห็นภาพหยอกล้อกันยิ่งเต็มไปด้วยอารมณ์เศร้า
“ยังอีก”
“แน่ใจนะว่าใจ๋จะไม่คิดสั้น”
ปลัดจืดถามสมใจเพื่อความมั่นใจ
“แน่ใจซิ ปล่อยได้แล้ว”
ปลัดจืดค่อยๆคลายกอดสมใจ แล้วมองตาอย่างเห็นใจในความรักที่สมใจมีต่อขุนทอง
“ใจ๋..ไม่เป็นไรแน่เหรอ”
ปลัดจืดถามอย่างห่วงใย แต่สมใจยังกลบเกลื่อนตอบ
“เป็นอะไร”
“ก็เรื่องอ้ายขุนทอง...เอ้อ..เจ้าคุณน่ะ”
สมใจอึ้ง เบือนหน้าหนีไม่อยากรับรู้ ส่วนเจ้าคุณกำลังจะเดินกลับ แต่บังเอิญพบกับหวานเจี๊ยบที่กำลังเดินสวนมา ร้องทักเสียงดังลั่น
“อ้ายขุนทอง!”
เจ้าคุณชะงัก
“อุ่ย!.....เจ้า...เจ้าคุณ”
เจ้าคุณหน้าเศร้า แล้วอยากเดินรีบไปให้เร็วที่สุด
“อ้าว...”
หวานเจี๊ยบยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าคุณกันแน่

ที่น้ำตก สมใจกับปลัดจืดยังยืนอยู่ด้วยกัน
“ฉันเคยเห็นใจ๋ต้อง...เอ่อ..ต้องเสียใจมาครั้งนึงแล้ว”
สมใจหลบตา
“ฉันทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นใจ๋เสียใจซ้ำสอง”
สมใจอึ้งไป มองตาปลัดที่มองตาสมใจอย่างจริงใจ ในที่สุดก็ถามขึ้นตรงๆ
“ปลัดรักฉันมากเหรอ”
“มาก”
ปลัดตอบทันที สมใจซึ้งในน้ำใจ
“ถามทำไม”
“แต่งงานกับฉันมั้ย”
สมใจโพล่งขึ้นทันที จนปลัดจืดตกใจ
“ว่าไงนะ”
สมใจพูดอีกครั้ง
“เราแต่งงานกันมั้ย”
ปลัดจืดมองหน้าสมใจ สมใจกลับหลบตา
“เพื่ออะไรใจ๋”
สมใจนิ่ง ตอบไม่ได้กับสิ่งที่พูดออกไป
“ถ้าเพื่อลุงหมายจะได้สบายใจ ถ้าเพื่อใจ๋เองจะได้สะใจ หรือเผื่อว่าใจ๋จะลืมเจ้าคุณได้ ก็อย่าเลยใจ๋”
ปลัดจืดพูดจากใจจริง สมใจจ้องปลัดจืดทันที
“เพราะใจ๋ไม่มีทางลืมเจ้าคุณได้หรอก”
สมใจอึ้ง
“ยิ่งถ้าใจ๋จะแต่งงานเพราะสงสารฉันก็ยิ่งไม่ต้อง เพราะฉันอยากให้ใจ๋รักฉัน ไม่ใช่สงสาร”
สมใจรู้สึกผิด แต่ปลัดจืดกลับยิ้มกลับให้
“ที่สำคัญ...ฉันคงยอมให้คนที่ฉันรักฝืนใจอยู่กับฉันโดยไม่มีความสุขไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก”
สมใจสุดซาบซึ้งในน้ำใจของปลัด โผเข้ากอดปลัดจืดไว้แน่น
“ปลัด...”
ปลัดจืดกอดสมใจอย่างขมขื่นปนชื่นใจ ก่อนจะผละออกโดยจับแขนสมใจไว้
“ความสุขของใจ๋อยู่ที่เจ้าคุณ เพราะเจ้าคุณรักใจ๋ แล้วใจ๋ก็รักเจ้าคุณ”
สมใจพูดไม่ออก ปลัดจืดรีบเล่นมุกเสริม
“เชื่อซี้...ปลัดจืด จริงใจไม่จิงโจ้ พูดจริง ไม่ได้โม้”
สมใจโผกอดปลัดอีกครั้งใน กำลังใจที่มีให้มาตลอดไม่เคยเปลี่ยน

เวลาต่อมา เจ้าคุณนั่งเศร้าเมื่อเห็นภาพสมใจกับปลัดจืดยังรักกันมาก ไม่นานปลัดจืดเดินเข้ามาพบเจ้าคุณที่นั่งอาการคล้ายคนยอมแพ้
“อ่อนว่ะ แค่นี้ก็หมดแรงซะแล้ว”
เจ้าคุณลุกขึ้นมองหน้าปลัดจืดทันที
“เยาะเย้ยคนแพ้ แมนมากเลยปลัด”
“ฉันต่างหากที่แพ้”
เจ้าคุณมองปลัดจืดด้วยความงง ปลัดจืดตีแขนเจ้าคุณเบาๆ
“ยินดีด้วยนะ..เจ้าคุณ”
เจ้าคุณอึ้งไป ปลัดจืดรีบยุให้ไปหาสมใจ
“ยังจะมายืนเซ่ออยู่อีก รีบไปซิ!”
เจ้าคุณยิ้ม ดีใจ พุ่งเข้ากอดปลัดแน่น ปากคอสั่นจนพูดรัว
“ขอบใจ! ขอบใจมาก ขอบใจมากนะปลัด”
“เออๆ พอแล้ว ไปได้แล้ว”
เจ้าคุณรีบวิ่งออกไป ปลัดจืดมองตาม ถอนใจเฮือก แล้วสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงสะอื้นร้องไห้ เหมือนนางไม้ รีบหันดูเห็นหวานเจี๊ยบยืนร้องไห้เช็ดน้ำตาอยู่ตรงนั้นนานแล้ว
“เฮ่ย! ยัยลิงเจี๊ยก เป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย”
“แมน!แมนโคตรๆ เลยอ่ะปลัด”
หวานเจี๊ยบพูดจบก็โผเข้ากอดปลัดจืดแล้วร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้มที่ไม่เคยรู้มาก่อน
“เฮ่ยๆ..อย่าร้อง ใจเย็น”
หวานเจี๊ยบยังร้องไม่หยุด สั่งน้ำมูกใส่เสื้อปลัด
“ฮือๆ ปลอบฉันมั่งดิ ชั้นอกหักอ่ะ..โฮๆ”
“โอย..พอแล้วๆ ใจเย็น อกหักเดี๋ยวก็หาย”
ปลัดจืดกอดปลอบหวานเจี๊ยบที่อกหักไม่ต่างกัน

เวลาต่อมา เจ้าคุณกระหืดกระหอบวิ่งไปหลายมุมที่สมใจเคยไปจนพบกันในที่สุด
“ใจ๋!”
เจ้าคุณชะงักกึกเมื่อพบว่าสมใจไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นซะแล้ว
“ใจ๋ ใจ๋ ใจ๋ ใจ๋!”
เจ้าคุณตะโกนเรียกสมใจแต่เงียบกริบ ไม่มีเสียงตอบเจ้าคุณปรี่ไปที่หน้าผา มองลงไปเห็นน้ำตกไหลด้วยความแรง ทำให้คิดถึงสิง่ที่สมใจเคยพูดไว้เกี่ยวกับตำนานน้ำตกแม่อุ๊ยนางรอ ที่มีสาวคนรักรอชายที่รัก ไม่กลับมาแล้วกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เจ้าคุณหน้าเสีย น้ำตาคลอเบ้า นึกว่าสมใจกระโดน้ำตกลงไปแล้ว
“ใจ๋!”
ทันใดนั้นสมใจก็โผล่พรวดออกมา
“โอ๊ย! หูจะแตก”
เจ้าคุณตกใจ หันขวับ เห็นสมใจยืนอยู่ด้านหลัง
“ใจ๋!”
เจ้าคุณพุ่งเข้ากอดสมใจด้วยความรัก ปากก็พร่ำถาม
“ “ใจ๋..ไม่เป็นอะไรนะใจ๋”
สมใจเริ่มแกล้งรำคาญ
“โห่ย! ปล่อยได้แล้ว! หายใจไม่ออก!”
เจ้าคุณค่อยๆ คลายกอดสมใจ
“คนอย่างสมใจน่ะไม่ตายง่ายๆ หรอก ยิ่งถ้าต้องมาตายเพราะผู้ชายห่วยๆ อย่างนายน่ะ ไม่มีทาง!”
เจ้าคุณยืนหน้าเศร้าอย่างยอมรับ
“ใช่..ฉันมันห่วย..ห่วยจริงๆ ที่ผ่านมา..ฉันทำผิด..ฉันโกหกเธอ...”
สมใจเจ้าคุณพูด
“...ยกโทษให้ฉันได้มั้ย”
สมใจยังเต็มไปด้วยความโกรธ จึงผลักอกเจ้าคุณเต็มแรง
“ง่ายๆ หยั่งเงี้ยนะ นายหลอกฉัน หลอกพ่อแม่ฉัน นายทำให้ทุกคนกลายเป็นตัวตลก แล้วนายก็มาบอกให้ฉันยกโทษให้หน้าตาเฉย มันไม่ง่ายไปหน่อยเรอะ..คุณไฮโซเจ้าคุณ”
สมใจน้ำตารื้นด้วยความโมโห เจ้าคุณอึ้งไป
ในเวลาเดียวกันภายในห้องลับของกำโป๊งมวลหมู่ชาวม่วนแต๊มุงดูหน้าจอมอนิเตอร์อย่างเข้าใจทั้งสองคนดี เจ้าคุณยอมรับผิดยอมจำนนทุกอย่างต่อสมใจ
“ฉันรู้..ฉันมันเลว...เลวมาก แต่ฉันอยากให้เธอรู้ว่า ที่ผ่านมาฉันอาจจะโกหกว่าฉันเป็นใคร ฉันมาจากไหน ฉันอาจจะโกหกทุกเรื่อง แต่มีอยู่เรื่องนึงที่ฉันไม่เคยโกหกเธอ เพราะ...ฉัน...”
สมใจจ้องรอฟังอย่างจดจ่อ
“เพราะ…”
“เพราะอะไร”
สมใจเริ่มเสียงเข้ม
“เพราะ..ฉัน...”
“ฉันทำไม”
“เอ่อ...ฉัน..ฉันโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้”
“พูดอะไรฟังยาก! ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ”
สมใจแกล้งกลบเกลื่อนฟังไม่เข้าใจ
“เอ่อ..เอ่อ”
“คนจริงใจน่ะเขาต้องพูดจาตรงไปตรงมา พูดจาให้มันชัดๆ เข้าใจมั้ย”
“ขะ..ขะ..เข้าใจ” เจ้าคุณติดอ่างซะงั้น
“เข้าใจก็พูดใหม่ พูดให้มันตรงๆ ชัดๆ ตกลงยังไง จะเอาไง” สมใจข่ม
“เอ่อ..ก็..อยากให้เธอยกโทษให้ฉัน”
“เพราะอะไร”
“เพราะฉันทำผิด ทำไม่ดีกับเธอ โกหกเธอ”
“แล้วเพราะอะไรอีก”
“เพราะ”
“ก็เพราะอะไรอีกเล๊า” สมใจขัดใจที่ยังได้คำตอบไม่ถูกใจซักที
“เพราะอะไรอีกวะ” เจ้าคุณยังนึกไม่ออก
กองเชียร์ม่วนแต๊ทุกคนในห้องลับต่างอ่อนใจกับความไม่ได้เรื่องของเจ้าคุณ
“นี่ นายคงไม่แคร์ ไม่อยากจะง้อขอให้ผู้หญิงที่นายเกลียดเขายกโทษให้นายหรอกใช่มั้ยยะ..ตาทึ่ม!”
เจ้าคุณฟังแล้วเข้าใจทันที สมใจสะบัดจะเดินหนีแต่เจ้าคุณรีบคว้าข้อมือไว้
“เดี๋ยว!”
“อะไร”
เจ้าคุณไม่ปล่อยแต่ดึงตัวสมใจมาสวมกอดด้านหลังไว้
“ปล่อยนะ” สมใจขัดขืน
“ฉัน...ฉัน..รักเธอ” เจ้าคุณบอกรักอ้อมๆ แอ้มๆ ไม่เค็มเสียง
สมใจอึ้งแต่แกล้งไม่ได้ยิน “ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน!”
“ฉันรักเธอ” เจ้าคุณบอก
“ไม่ได้ยิน พูดดังๆ พูดให้มันลั่นม่วนแต๊ ไม่งั้นอย่าหวังว่าฉันจะยกโทษให้”
เจ้าคุณมองจ้องหน้า นึกเคืองในความร้ายกาจของสมใจ ก่อนจะจับไหล่สมใจหันขวับมาประจันหน้าแล้วตะโกนใส่หน้าสมใจทันที
“ฉันรักเธอ! ฉันรักเธอ ฉันรักเธอ”
บอกรักสมใจเรียบร้อย แล้วเจ้าคุณกระชากสมใจมาจูบทันที ทุกคนในห้องลับที่บ้านกำโป๊ง สมหมาย สมศรี กำโป๊ง คำปุย แคบหมู ไส้อั่วและ ปลัดจืด ช็อกกันไป ในขณะที่คนดูทางบ้านต่างเขินอาย รีบเอามือปิดตาเด็กๆ ที่ดูไว้
จูบสมใจจนพอใจแล้ว เจ้าคุณใจกล้าขึ้นมาทันที
“สะใจรึยัง”
สมใจยังอึ้ง แต่พอได้สติ ทุบตัวเจ้าคุณทันที
“บ้า! คนบ้า!”
เจ้าคุณกอบกุมมือสมใจไว้แน่นขณะเอ่ยขึ้น “แต่งงานกับคนบ้าเถอะนะ”
สมใจอึ้งไป
เจ้าคุณอ้อนตาหวานเยิ้ม “นะ”
สมใจสุดเขิน แต่พยักหน้าตอบรับ “อืมม์...”
“ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ พูดให้มันชัดๆ ดังๆ”
เจ้าคุณเอาคืนสมใจ จนโดนตีที่แขนดังเผียะ
“ทุเรศ!”
“ตกลงว่าไง แต่งไม่แต่ง พูดดังๆ” เจ้าคุณแกล้งทำเสียงดุ
“เออ! แต่งก็แต่ง!” สมใจว่ายิ้มๆ
“เย้!”
เจ้าคุณร้องขึ้นด้วยความดีใจ ไปพร้อมๆ กับทุกคนที่ดูการออกอากาศสดๆ อยู่ในเวลานั้น รวมทั้งสมหมายที่ดูอยู่ในห้องลับของกำโป๊งก็เผลอเฮไปด้วย
บรรดาแฟนคลับของอ้ายขุนทองกับสมใจดีใจสุดขีด ลุ้นสุดตัวราวกับเชียร์มวยเลยทีเดียว
เช่นเดียวกับจอยและลูกน้องในสตูดิโอ กระโดดกอดกันเฮลั่น
“ขอบใจมากนะเจ๊ ถ้าไม่ได้เจ๊โทร.บอกเสี่ยวิบูลย์ล่ะก็ เราคงไม่ได้ทำรายการไฮโซบ้านเฮาต่ออย่างนี้หรอก ผมมีค่าเล่าเรียนลูกแล้ว”
“ฉันก็ไม่โดนยึดคอนโดฯ ไม่โดนตัดน้ำตัดไฟแล้ว”
จอยกับพนักงานคนอื่นต่างดีใจ

เจ้าคุณรวบตัวสมใจมาหอมแก้มฟอดใหญ่
“ขอบใจนะใจ๋ อ้ายขุนทองคนนี้จะรักใจ๋ที่สุด รักใจ๋ตลอดไป จะไม่ทำให้ใจ๋เสียใจอีกแล้ว”
ฟังคำหวานจากใจของเจ้าคุณ สมใจซาบซึ้งยิ่งนัก
ทั้งสองจ้องตากันกำลังจะจูบ แต่ต้องชะงักเพราะสมใจหันมาเจอกล้องเสียก่อน จึงชี้ให้เจ้าคุณดู เจ้าคุณแอบเหล่ตาใส่กล้องก่อนจะส่ายหน้าแล้วเอามือปิดกล้องจนมิด ทำให้แฟนคลับทั้งหลายอดดูซีนสำคัญ

สมใจและเจ้าคุณกอดกันแนบแน่นอย่างอบอุ่น ท่ามกลางความสวยงามของน้ำตกแม่อุ๊ยนางรอ หนุ่มไฮโซกับสาวไร่ชา สานต่อความรักที่ออกอากาศให้คนได้ลุ้นและเอาใจช่วยทั้งประเทศ

จนเวลานี้สมใจตกอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเจ้าคุณอย่างมีความสุข

จบบริบูรณ์







Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 23:39:06 น.
Counter : 572 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 14 จบบริบูรณ์




บ่ายวันเดียวกัน เจ้าคุณหวดสควอชเพื่อระบายอารมณ์ ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ ยืนมองอยู่นอกห้อง

“โอ้วๆ โอ้วมายก็อด! ใจคอไอ้คุณมันจะพังคอร์ทเขาเลยรึยังไงเนี่ย โอ้ว..มาย!” เจอาร์เอ่ยขึ้น
“สงสารมันจังเลย ทำไมมันถึงต้องยอมคุณหญิงแม่ขนาดนี้นะ”
กิ่งแก้วสงสารเจ้าคุณจับใจ
“จำไม่ได้เหรอ ไอ้คุณมันจำฝังใจว่ามันเป็นต้นเหตุทำให้พ่อมันตาย”
ก้องเกียรติอธิบาย
“แต่ก็ไม่ใช่ซักหน่อย พ่อเจ้าคุณหัวใจวายไม่เกี่ยวกับเจ้าคุณซะหน่อย”
กิ่งแก้วค้าน
“ก็มันโทษตัวเองว่ามัวแต่กลัว ไม่กล้าป้อนยาใส่ปากพ่อ”
“นาทีนั้น เด็กตัวแค่นั้นวิ่งไปหยิบยามาได้ก็สุดยอดแล้ว ที่สำคัญ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด คนในบ้านอยู่กันเยอะแยะ ยังช่วยอะไรไม่ได้ แล้วจะนับประสาอะไรกับเจ้าคุณ”
“ก็จริง แต่ไอ้คุณมันไม่ได้คิดอย่างนี้ มันคิดว่าเป็นเพราะมันขี้ขลาด ไม่เอาไหน มันเลยไม่มั่นใจ ไปโรงเรียนก็เลยพูดติดอ่าง ฉี่ราด อย่างที่ไอ้แมทกับไอ้จ้อยมันชอบล้อนักไง”
“ เฮ่ยๆ ไอ้ก้องอย่าพูดให้ฉันดูเป็นแบดบอยซะขนาดนั้น ฉันแค่กลัวไอ้แมทมันเหงาก็เลยช่วยล้อเป็นเพื่อนเว๊ย ใจจริงอ่ะซอฟท์มาก”
เจอาร์กำลังแก้ตัว ทันใดนั่นแมทธิวโผล่มาทันที
“จริงเหรอไอ้จ้อย”
“เจอาร์! เย้ย! ไอ้แมท แฮ่..แหม มาเงียบๆ เซอร์ไพร์ส!”
เจ้าคุณตีสคอวชจากนั้นเดินออกมาเจอแมทธิวพอดี
“ไง..ไอ้คุณเพื่อนรัก อะไรวะเนี่ย คนกำลังจะเป็นเจ้าบ่าว ทำไมถึงได้รมณ์บ่จอย อารมณ์เสียขนาดนี้ จะมีเมียนะเว้ย ไม่ใช่ถูกไอ้ก้องไอ้กิ๋งไล่ให้ไปเลี้ยงควายที่บ้านนอกอีก ฮ่าๆทำหน้าตาให้แฮปปี้หน่อยซิเว้ยเพื่อน”
แมทธิวยั่วเจ้าคุณ เจ้าคุณเสียงโต้ตอบแบบสุขุม
“ไอ้แมท! ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันคงชกปากแกไปแล้ว แต่ตอนนี้ ฉันจะนึกซะว่าแกเป็นควาย ฉันเลยสงสาร ชกไม่ลง!”
เจ้าคุณพูดจบขว้างผ้าขนหนูใส่หน้าแมทธิว แล้วเดินออกไป
“สมน้ำหน้า!”
กิ่งแก้วพูดใส่หน้าแมทธิว แล้วพาก้องเกียรติเดินออกไปเช่นกัน
“ไอ้คุณ!”
แมทธิวโมโห เจอาร์เข้ามามองหน้า
“บัฟฟาโล่ตรงไหนวะ”
แมทธิวโมโหผลักหน้าเจอาร์หงายหลัง แล้วตะโกนไล่ด่าหลังเจ้าคุณ
“แกซิ ไอ้ควาย บัฟฟาโล่! มีเขาโด่เด่อยู่บนหัวแล้วยังไม่รู้ตัว ฮ่าๆ”
แมทธิวหัวเราะเยาะเจ้าคุณด้วยความสะใจ

เวลาต่อมา เจ้าคุณเดินจ้ำๆ จนก้องเกียรติและกิ่งแก้ว เดินตามแทบไม่ทัน
“ใจเย็น ไอ้คุณ”
เจ้าคุณทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้แถวนั้นด้วยความเซ็ง
“ที่ไอ้แมทพูดมันก็มีส่วนถูกอยู่เหมือนกันนะ”
“ไอ้กิ๋ง!”
เจ้าคุณหันมาหากิ่งแก้วทันที
“จริง หน้าตาว่าที่เจ้าบ่าวน่ะดูไม่จืดเลยจริงๆ”
เจ้าคุณเบือนหน้าเซ็ง
“ไอ้คุณ แกจะทนอยู่กับผู้หญิงที่แกไม่ได้รักไปตลอดชีวิตได้จริงๆเหรอวะ”
ก้องเกียรติถามอย่างเป็นห่วง
“ตัดสินใจใหม่ซะตอนนี้ ยังพอจะมีเวลานะเพื่อน”
กิ่งแก้วเสริมก้องเกียรติ ในขณะที่เจ้าคุณอึ้งไปชั่วขณะ

คืนนั้น คำปุยยื่นดอกไม้ของโก้ให้สมใจ
“พี่โก้ฝากให้แก”
สมใจมอง ยังไม่ยอมรับดอกไม้
“เอ้า! ตกลงจะยังไง”
คำปุยถามกลับ สมใจถอนใจเฮือก
“งั้นฉันวางไว้ตรงนี้ แล้วก็ไปกินข้าวกินปลาได้แล้ว พ่อปลัดเขารออยู่”
คำปุยออกไป สมใจมองตามคำปุยแล้วเหลือบมองดอกไม้ของโก้บนโต๊ะหน้ากระจก
สมใจครุ่นคิดอย่างหนัก

เวลาต่อมา ทุกคนยังไม่ยอมกินข้าว เพราะต่างรอสมใจ สมหมายกำลังตกใจกับเรื่องที่ปลัดจืดแจ้งอยู่
“ว่าไงนะพ่อปลัด”
“ครับน้าหมาย สายรายงานว่าจะมีพวกตัดไม้เถื่อน พวกค้าสัตว์ป่าลักลอบเข้ามาคืนนี้”
“แล้วยังไง จะจับพวกมันได้ซะทีมั้ย”
สมศรีถามอย่างอยากรู้
“ต้องได้ซิครับน้าศรี คราวนี้ผมจะไปนำจับเอง”
“เฮ่ย!”
สมหมายกับสมศรีอุทานพร้อมกัน
“แต่มันอันตรายนะพ่อปลัดนะ”
“อันตรายแค่ไหนมันก็เป็นหน้าที่ครับ ผมเคยสัญญาไว้แล้วว่าจะดูแลม่วนแต๊และม่วนใจ๋ยิ่งกว่าชีวิตของผม”
ปลัดจืดมุ่งมั่น ส่วนสมใจกับคำปุยแอบฟังอยู่เมื่อได้ยินถึงกับอึ้งไป

เวลาต่อมา สมใจจะมาส่งปลัดที่หน้าบ้าน
“ปลัด...”
สมใจเรียกปลัดจืด
“หื้อ”
“ระวังตัวด้วยนะ..คืนนี้”
ปลัดจืดมองหน้า
“ฉันได้ยินปลัดคุยกับพ่อ”
“ใจ๋ห่วงฉันด้วยเหรอ”
ปลัดจืดถามกลับด้วยความดีใจ
“ห่วงซิ แหม รู้จักกันซะขนาดนี้”
“แค่รู้จัก เมื่อไหร่จะยอมให้รู้ใจซะที”
สมใจอึ้งไป
“อย่าโกรธนะ เพราะพูดจริงไม่ได้พูดเล่น”
สมใจอึ้งรอบสองเพราะปลัดจืดไม่อ้อมค้อมซักนิด
“ใจ๋จะคืนดีกับพี่โก้อะไรนั่นมั้ย”
สมใจสะดุ้ง
“ปลัด”
“ขอโทษที่ถาม แต่อยากรู้น่ะ คืนนี้จะได้มีแรงไปไล่จับผู้ร้าย”
สมใจไม่รู้จะตอบอย่างไรดี แกล้งเฉไฉ
“ปลัดพูดจริงพูดเล่น”
“ฉันเคยพูดเล่นกับใจ๋ด้วยเหรอ”
สมใจไปไม่ถูก เงียบไม่ตอบ
“ไม่เป็นไร ใจ๋ยังไม่ตอบก็ดีเหมือนกัน คืนนี้จะได้ตั้งใจจับผู้ร้ายแล้วรีบกลับมาฟังคำตอบจากใจ๋”
สมใจเงียบไม่รู้จะพูดอย่างไร
“โอเคนะ”
สมใจมองหน้าปลัดด้วยความเป็นห่วง ปลัดจืดหันมายิ้มให้ก่อนจะเดินกลับไปพร้อมลุยกับโจรตัดไม้คืนนี้

กลางดึก ในป่าม่วนแต๊ พวกลักลอบตัดไม้เถื่อนกำลังเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ โดยมีอาเฟยคุมงานอยู่ ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่ค่อยๆ ย่องเข้มามีปลัดจืดร่วมอยู่ด้วย ซุ่มดูไม่นานเจ้าหน้าที่เริ่มแสดงตัว
“หยุดนะ! นี่เจ้าหน้าที่ มอบตัวซะ”
ปลัดจืดตะโกนเข้าไป กลุ่มผู้ร้ายตกใจ สมุน 2 คนควักอาวุธอารักขาอาเฟย
“พาเถ้าแก่น้อยหนีไปก่อน!”
สมุนอีกคนเอ่ยขึ้น
“ไม่! ลูกมาเฟียใหญ่ต้องไม่หนี!”
อาเฟยโพล่งขึ้น ชักปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อนทันที ทั้งหมดเปิดฉากต่อสู้ ไล่ล่ากันอย่างระทึก จนสมุนอาเฟยตายไปหนึ่งคนลูกน้องแรงงานยอมมอบตัว ปลัดจืดและเจ้าหน้าที่ไล่ตามอาเฟยและสมุน สุดท้ายปลัดจืดยิงโดนอาเฟยบาดเจ็บ และกำลังจะเข้าจับกุม แต่สมุนอีกคนยิงเปรี้ยงเข้ากลางหลังปลัดจืดหนึ่งนัด สมุนจึงโดนเจ้าหน้าที่จัดการดับคาที่ ปลัดจืดทรุดฮวบ เจ้าหน้าที่รีบวิ่งเข้ามาช่วย

เวลาต่อมา ชาวบ้านมุงดูโฉมหน้ากลุ่มตัดไม้เถื่อนที่เดินเรียงกันออกมา ชี้หน้าด่าสาปแช่งกันลั่น
“ไอ้พวกใจร้าย ไอ้พวกหนักแผ่นดิน ติดคุกให้หัวโตเลย ขอให้ฟ้าดินลงโทษ”
ชาวบ้านยืนสาปแช่งหลังจับพวกตัดไม้เถื่อนได้ อาเฟยถูกใส่กุญแจมือเดินออกมา ซ้ำยังบาดเจ็บเพราะโดนปลัดจืดยิง สมใจยืนอยู่กับสมหมาย สมศรี คำปุย แคบหมู หวานเจี๊ยบ ต่างอึ้งไปตามๆกัน
“อาเฟย”
สมใจมองหน้าอาเฟย ก่อนที่อาเฟยจะโดนลากออกไป
“โธ่เอ๋ย..ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ๆ”
สมศรีตัดพ้อ
“ต้องโทษพ่อมัน สอนลูกให้เป็นโจรตั้งแต่เกิด”
“โธ่! ตาหมาย ยังไปซ้ำเติมมันอีก”
สมศรีห้ามสมหมาย แต่คำปุยแอบสะใจ
“แหม น้าศรี เลือดชั่วทั่วตัวซะขนาดนี้ด่ายังไงมันก็ไม่รู้สึกหรอก ด่าอีกน้าหมายด่าอีก”
สมหมายกำลังจะอ้าปากด่าแต่ต้องชะงัด เมื่อเห็นปลัดจืดถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
“ปลัด!”
สมใจร้องลั่น เจ้าหน้าที่หามเปล ใส่ร่างปลัดจืดหามออกมาอย่างรวดเร็ว ปากก็ตะโกนโหวกเหวกขอทาง
“ขอทางหน่อยๆ ปลัดบาดเจ็บสาหัส”
“บาดเจ็บสาหัส!”
สมใจตกใจ ทุกคนวิ่งกรูตามไปกันใหญ่ เหลือหวานเจี๊ยบอึ้งอยู่
“ปลัด!”
หวานเจี๊ยบวิ่งออกตามไปด้วยความเป็นห่วงปลัดจืดโดยไม่รู้ตัว

เช้าตรู่ของอีกวัน ทุกคนเดินมาด้วยอารมณ์เศร้า สมใจกับสมหมาย เดินกอดกันเข้าบ้าน
“ปลัดจะเป็นไงบ้างพ่อ”
สมใจถามสมหมายด้วยความเป็นห่วง
“พ่อปลัดเป็นคนดี ผีย่อมคุ้ม พระต้องรักษา”
“สาธุ! สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่เจ้าทางในม่วนแต๊ขอให้คุ้มครองพ่อปลัดให้ปลอดภัยด้วยเถิ้ดW
สมศรียกมือไหว้ท่วมหัว
“ถึงมือหมอในเมืองแล้ว ปลัดจะต้องปลอดภัยน่า”
คำปุยปลอบใจทุกคน
หวานเจี๊ยบเริ่มสะอื้นร้องไห้แว่วมา ทุกคนหันไปดูไม่คิดว่าจะเป็นเสียงของหวานเจี๊ยบ
“หวานเจี๊ยบ”
“ร้องไห้ทำไมวะนังหวานเจี๊ยบ”
คำปุยถาม หวานเจี๊ยบตอบไม่ถูก ก่อนจะปล่อยโฮ เช็ดน้ำตาป้อยๆ อยู่ตรงนั้น ทุกคนยังง สมใจเข้ามาปลอบใจ หวานเจี๊ยบโผกอดร้องไห้ไม่หยุดด้วยความเป็นห่วงปลัดจืดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่บุกไปที่บ้านอาฟง แสดงตัวพร้อมหมายจับมาเฟียฟง
“เฮ๊ย! อะไรวะพวกลื้อบุกรุกบ้านอั๊วได้ยังไง อั๊วจะฟ้อง!”
“ไปคุยกันที่โรงพัก ลูกชายลื้อสารภาพหมดแล้ว..เถ้าแก่”
เจ้าหน้าที่พยายามอธิบาย
“อาเฟย!”
เจ้าหน้าที่รวบตัว อาฟงดิ้นโวยวายไม่คิดว่าตัวเองจะโดนจับ

เวลาผ่านไป ที่โรงเก็บใบชา ทุกคนกำลังทำงานง่วนกันอยู่ ใบชาถูกบรรจุใส่ลังเรียบร้อยถูกยกขึ้นท้ายรถกระบะของสมใจ สมหมายกับสมศรี ยืนส่งลูกสาวไปส่งใบชาเช่นเคย
“ง่วงก็แวะนอนนะไอ้ใจ๋ อย่าฝืนเดี๋ยวจะหลับใน”
สมศรีเอ่ยขึ้น
“อย่าลืมแวะเยี่ยมพ่อปลัดก่อนล่ะ แล้วค่อยเข้ากรุงเทพฯ”
สมหมายสั่งลูกสาว
“จ๊ะพ่อ ไม่ลืมหรอก”
“แล้วโรงแรมที่จะไปนอนค้างน่ะปลอดภัยแน่นะ ไอ้ปุ๋ย นังแค๊บ อย่านอนขี้เซา ล็อกประตูให้แน่นด้วย”
“จ้า!”
สมหมายสั่งคำปุยกับแคบหมูเหมือนอย่างเคย
“ไปกันได้แล้ว”
สมใจขับรถออกไป สมหมายกับสมศรี มองตามลูกสาว โผเข้าโอบกันอย่างชื่นใจ

เวลาต่อจากนั้นที่บ้านเครือฟ้า สมใจขับรถเข้ามาจอด เครือฟ้าชะโงกดู สมใจ คำปุยและแคบหมูทักทายสวัสดี
“อ้าว! ใจ๋ มาแต่เช้าเชียว”
“สวัสดีจ๊ะ น้าเครือฟ้า”
“จะมาแวะเยี่ยมปลัดก่อนจะเข้ากรุงเทพฯน่ะจ๊ะ”
สมใจเอ่ยขึ้น
“โธ่! ไม่ต้องห่วงหรอก พ่อปลัดอยู่ที่นี่น่ะน้าดูแลอย่างดี หยูกยาก็พร้อม ทั้งยาฝรั่งของหมอ ทั้งสมุนไพรของน้า รับรองหายวันหายคืน”
ทันใดนั้นสียงปลัดดังขึ้น
“โอ๊ย! เจ็บนะเว๊ย! เบาๆ หน่อยเด่”
ทั้งหมดตกใจรีบวิ่งไปดู หวานเจี๊ยบกำลังเปลี่ยนผ้าพันแผลที่กลางหลังให้ปลัดจืด
“แน่ใจนะว่ามือคน นึกว่าอุ้งตีนหมีควาย หนักเป็นบ้า”
ปลัดจืดบ่นหวานเจี๊ยบ จนอีกฝ่ายโมโหจิ้มเข้าที่แผล
“นี่แน่!”
“จ๊าก!”
ทุกคนตกใจ
“แล้วแน่ใจนะว่าตะกี๊ปากคนน่ะ นึกว่าปากหมาบ้า หนอย ฉันอุตส่าห์สละเวลาทำมาหากินมาคอยดูแลให้ แทนที่จะสำนึกบุญคุณ กลับมาเห่าใส่กันซะนี่ เดี๋ยวแม่เอาตะกร้อมาครอบปากซะเลย”
“ใครเขาใช้ให้มา ใครเขาอยากให้มาดูแล เชอะ!”
ปลัดจืดยวนกลับ
“น้าเครือซิใช้ให้มา ฉันก็ไม่อยากมาหรอกเว้ย นึกว่าอยากมานักรึไง มันน่าปล่อยให้ตายนัก”
สองคนผลักกันไปมา ทุกคนยืนมองแล้วต่างหัวเราะ
“ตกลงปลัดจะหายวันหายคืนรึว่าตายวันตายพรุ่งกันแน่อ่ะ น้าเครือฟ้า”
แคบหมูแซวขึ้น เครือฟ้าหน้าจ๋อยเพราะหลานสาวตัวป่วน แต่สมใจกลับยิ้มให้กับความแสบของปลัดจืดและหวานเจี๊ยบ ที่ไม่มีใครยอมใคร

คืนนั้นที่ริมสระน้ำ เจ้าคุณนั่งเศร้าอย่างเคย ไมเคิลเดินเข้ามาพร้อมนมอุ่นๆของโปรดเจ้าคุณ
“นมอุ่นๆ ก่อนนอนซักแก้ว เผื่อจะช่วยให้หลับสบายขึ้นนะครับคุณหนู”
ไมเคิลรีบเสิร์ฟ
“ต่อให้กินเป็นโหล ยังไงคืนนี้ฉันก็คงนอนไม่หลับหรอกไอ้ไมค์”
ไมเคิลเข้าใจ พูดไม่ออก กำลังจะเดินออกแต่เจ้าคุณเอ่ยขึ้น
“แกเคยรักใครซักคนมั้ย ไอ้ไมค์”
ไมเคิลชะงัก หันมายิ้ม
“ถามอย่างนี้ อายนะเนี่ย”
“เคยมั้ย”
เจ้าคุณถามย้ำ ไมเคิลนั่งยองๆลงข้างๆเจ้านาย
“เคยซิครับคุณหนู แต่ไอ้ไมค์มันจน พ่อแม่ผู้หญิงเขาเลยกีดกัน หาว่ายาจกมั่ง บ้านนอกมั่ง”
เจ้าคุณอึ้งไป นึกถึงสมใจขึ้นมาทันที
“เฮ้อ! เกิดมาจนนี่มันผิดตรงไหนน้อ”
ไมเคิลพึมพำ เจ้าคุณยิ่งอึ้ง
“เคยคิดจะพาเขาหนีเหมือนกันนะครับ แต่สงสาร กลัวจะพาเขาไปอดตาย แหมนี่ถ้าไอ้ไมค์รวยล้นฟ้าอย่างคุณหนูล่ะก้อ ไม่เหลือ!”
พูดจบไมเคิลสะดุ้งสุดตัว เพราะรจนาวรรณตวาดอยู่ข้างหลัง
“ไอ้ไมค์!”
“เย้ย!”
“นี่แกมาชวนคุณหนูคุยอะไร ดึกป่านนี้ทำไมยังไม่ไปนอนอีก พรุ่งนี้ต้องเตรียมตัวแต่เช้า เดี๋ยวตาดำเป็นหมีแพนด้าขึ้นมาจะว่าไงจ๊ะ”
“ผมยังไม่ง่วงครับแม่”
“ต้องง่วงจ๊ะ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันที่หนูจะต้องเข้าพิธีแต่งงานกับหนูมี่!”
รจนาวรรณออกคำสั่ง เจ้าคุณเต็มไปด้วยความเซ็ง ก่อนเดินไปรจนาวรรณยังหันมาย้ำกับลูกชายอีกรอบ
“ง่วงได้แล้วจ๊ะ”
พูดจบรจนาวรรณเดินออกไป ทิ้งให้เจ้าคุณหงายหลังนอนมองดาวบนฟ้า
“พ่อครับ นี่ผมทำถูกแล้วใช่มั้ยครับพ่อ”
เจ้าคุณเศร้าเมื่อต้องทำตามใจแม่ผู้เป็นที่รักหากแต่หัวใจไม่เคยมีความสุขแม้แต่น้อยเมื่อต้องแต่งงานกับเอมี่ในวันรุ่งขึ้น

เช้าวันใหม่ รถติดหนึบบนถนนในกรุงเทพฯ สมใจ คำปุยปละแคบหมูนั่งชะเง้อรอดูสัญญาณไฟอย่างหงุดหงิด
“มันจะติดอะไรของมันนักหนาวะเนี่ย เฮ้อ! เดี๋ยวลูกค้าด่าตาย”
สมใจบ่น
“นั่นซิ ลูกค้ารายใหญ่ซะด้วย”
คำปุยกังวลใจไม่ต่างกัน แคบหมูนอนเลื้อยอยู่เบาะหลังแทรกขึ้นบ้าง
“กรุงเทพฯนี่มันน่าเบื่อจริงๆ สู้ม่วนแต๊ก็ไม่ได้ นี่ถ้าอีกหน่อยมีผู้ชายกรุงเทพฯขอให้มาอยู่ด้วย จ้างให้แค๊บก็ไม่มา”
สมใจสะอึกไปแต่คำปุยอยากจะฆ่าแคบหมูขึ้นมาในเวลานี้ที่พูดแทงใจสมใจไม่น้อย
“นังแค๊บ!”
“อูย โอ๊ย! รถติด มึนหัว ไม่สบาย คล้ายจะอ้วก”
แคบหมูรู้ตัวรีบกลบเกลื่อน
“เออ นอนๆ ไปเลย เงียบไปเลย เฮ๊ย! ไฟเขียวแล้วนังใจ๋”
สมใจได้สติ ออกรถทันที

หน้าโรงแรมหรู ผู้สื่อข่าวและแฟนคลับยังเนืองแน่นอยู่หน้าโรงแรม แฟนคลับถือป้ายประท้วง “โน เอมี่” “เจ้าคุณรักสมใจ” บ้างถือ “สมใจ Only” ซึ่งวันนี้เป็นวันแต่งงานของเจ้าคุณกับเอมี่
“คุณผู้ชมคะ ขณะนี้บรรยากาศที่หน้าโรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซค์ สถานที่จัดงานฉลองมงคลสมรสระหว่างคู่รักไฮโซคนดังอย่างเจ้าคุณ - คุณากร มหาศักดิ์ไพศาล กับ เอมี่-เอมิกา กำลังเนืองแน่นไปด้วยเหล่าแฟนคลับที่ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าคุณมาโดยตลอด แม้ว่ารายการไฮโซบ้านเฮาจะจบลงไปอย่างกะทันหันก็ตาม”
แฟนคลับเริ่มตะโกน
“ขุนทองใจดำ! ขุนทองใจดำ! ขุนทองใจดำ!”
“เอาแล้วค่ะ เหล่าแฟนคลับเริ่มมีอารมณ์ไม่พอใจกันขึ้นมาแล้ว เราจะยังคอยติดตามรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะ ตอนนี้ขอตัดสลับไปที่สถานีก่อนค่ะ คุณกิตติค่ะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวงานแต่งงานของเจ้าคุณกับเอมี่อย่างใกล้ชิด

เวลาต่อมา ในห้องแต่งตัว เอมี่นั่งแต่งหน้าอยู่ รีบกดรีโมทปิดทีวีทันที
“ทุเรศ! ปัญญาอ่อน! ไอ้พวกแฟนข่งแฟนคลับอะไรนี่ทำไมมันไม่เลิกบ้าซะที”
“คุณเอมี่อย่าเพิ่งพูดนะคะ ทาปากก่อนค่ะ”
ช่างแต่งหน้าขอให้เอมี่นั่งนิ่งๆ แต่เอมี่ไม่เชื่อ
“โอ๊ย! น่ารำคาญ ว๊าย!”
เอมี่ร้องลั่นเพราะช่างแต่งหน้าทาลิปสติกเลยออกไปทิ่มจมูกกับแก้มเลอะเทอะไปหมด
“ว๊าย! อะไรเนี่ย เธอเป็นช่างแต่งหน้ายังไงของเธอ ไม่โปรฯเลย”
ช่างแต่งหน้าแทบจะร้องไห้
“ก็เตือนคุณเอมี่แล้วนี่คะว่าอย่าเพิ่งพูดๆ ก็ไม่เชื่อ”
“นี่เธอจะมาโทษฉันเหรอ ฉันจ้างเธอมานะยะ ไม่ได้ให้มาฟรี เธอไม่มีสิทธิ์อ้าปากเถียงฉัน”
ช่างแต่งหน้าจะร้องไห้ เจ้าคุณมองอย่างสงสาร
“เอมี่ พูดจาให้เกียรติคนอื่นเขาบ้าง”
“เอ๊ะ! คุณคะคุณขายังไงเนี่ย แทนที่จะเข้าข้างมี่ ทำไมไปเข้าข้างคนอื่น มี่ไม่ยอมนะคะ คุณหญิงแม่ขา”
เอมี่หันไปฟ้องรจนาวรรณ จนเจ้าคุณเซ็งขึ้นมาทันที
“นั่นน่ะซิเจ้าคุณ หนูนี่แย่จริงๆ เห็นคนอื่นดีกว่าเมีย”
“ยังครับ ยังไม่ใช่”
เจ้าคุณยืนยัน
“ต๊าย! อยู่ในนี้ทั้งคน ยังจะบอกว่าไม่ใช่อีกเหรอคะ”
เอมี่เถียง พลางชี้ไปที่ท้องตัวเอง จนช่างแต่งหน้า ช่างทำผมต่างเหล่ตามอง รจนาวรรณต้องรีบปรามเอมี่
“หนูมี่! เอาๆ มาแต่งต่อเถอะจ๊ะ”
รจนาวรรณบอกช่างแต่งหน้า ที่ไม่ค่อยหล้าเข้ามาแต่งให้เอมี่ เจ้าคุณทำหน้าเบื่อโลกแล้วหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง อย่างไม่สนใจเอมี่

เวลาต่อจากนั้น สมใจ คำปุย และแคบหมู ช่วยกันยกกล่องใบชาคนละกล่องตรงเข้ามาในห้างสรรพสินค้า
“เดินดีๆ นังแค๊บ อย่าให้ร่วงเชียว”
แคบหมูสะดุดทันที
“นั่นไง!”
“ก็เดินดีๆ อยู่แล้วอ่ะ พอเจ๊ใจ๋ทักเลยสะดุดเลย”
“แน่ะ! โทษฉันอีก ฉันผิดอีก”
“ถึงแล้ว!”
สามคนคนเดินเลี้ยวเข้าร้านกาแฟร้านเดิมที่เจ้าคุณเคยมานั่งดื่มกับก้องเกียรติและกิ่งแก้ว

เวลาต่อมา ในร้านกาแฟ สมใจนำชาม่วนใจ๋มาส่งหลังจากที่หายไปนาน
“สวัสดีค่ะ ชาม่วนใจ๋มาส่งค่ะ”
พนักงานเสิร์ฟรีบวิ่งมาต้อนรับ
“โห คุณใจ๋หายไปตั้งนาน ไม่มีชาม่วนใจ๋ขาย โดนลูกค้าต่อว่าจนหูชาเลย”
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ พอดีที่ไร่มีปัญหา แต่จากนี้ไปรับรองว่าจะมาส่งไม่ให้ขาดเลยค่ะ”
ลูกค้าในร้านเริ่มๆ สะกิดกันเพื่อให้ดูสมใจ
“รับปากอย่างเดียวไม่ได้ ต้องขอถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานด้วย”
คำปุยรีบแซว
“ฮั่นแน่! เนียนนะนี่ อยากถ่ายรูปคู่ก็บอกมาเซ่”
“รูปคู่ได้ไง ต้องรูปหมู่ซิพี่ แค๊บถ่ายด้วยซิ”
“ได้เลยๆ”
พนักงานเสิร์ฟ ควักมือถือขึ้นมาถ่ายอย่างสนุกสนาน ลูกค้าคนหนึ่งวิ่งมาขอถ่ายบ้าง
“ขอด้วยซิคะ สมใจ ขอด้วยๆ”
บรรยากาศเป็นกันเอง ถ่ายเสร็จแล้วลูกค้ารีบถาม
“ตกลงจะคืนดีกับอ้ายขุนทองมั้ยคะ”
สมใจอึ้งไป
“..เอ่อ!”
ลูกค้าสองรีบตีแขนเพื่อน
“บ้า!! จะไปคืนดีกันได้ไง เจ้าคุณเขากำลังจะแต่งงานกับยัยเอมี่แล้วย่ะ”
สมใจอึ้งตกตะลึง คำปุยกับแคบหมูสะกิดกันดูอาการสมใจ
“ไปเถอะไอ้ใจ๋ เดี๋ยวต้องไปส่งชาอีกหลายที่ ไปก่อนนะคะ”
คำปุยกับแคบหมูช่วยกันดึงสมใจที่ยังยืนอึ้งรีบออกไป
“อ้อ! เดี๋ยวครับ!”
พนักงานเรียกไว้ คำปุยชะงักพนักงานเสิร์ฟรีบบอกทันที
“คุณเจ้าคุณเคยมาที่นี่...”
สมใจอึ้ง
“ซื้อชาม่วนใจ๋ห่อสุดท้ายไปด้วยนะครับ” พนักงานคนเดิมย้ำ
สมใจน้ำตาคลอพยักหน้าฝืนยิ้มให้ แล้วเดินออกไป

คำปุยและแคบหมูมองหน้ากันแล้วรีบตามสมใจออกไปด้วยความเป็นห่วงเพื่อนและพี่
สมใจเดินปาดน้ำตา พยายามข่มความรู้สึกเจ็บปวดภายในใจอย่างหนัก แล้วมาหยุดยืนอยู่หน้าแผนกขายทีวีที่ ซึ่งมีจอทีวีตั้งเรียงรายมากมาย แคบหมูและคำปุยก็วิ่งตามมาทันพอดี

“ไอ้ใจ๋! ไม่เป็นไรนะ” คำปุยเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“สู้ๆ นะเจ๊” แคบหมูรีบเสริมกำลังใจ
สมใจแกล้งฝืนยิ้ม เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกข้างใน
“เออ สบาย!”
“งั้นเราก็ไปส่งชากันต่อเนาะไอ้ใจ๋เนาะ”
“อื้อ!”
สามสาวเตรียมจะเดินออก

ทันใดนั้น ในจอทีวีก็มีภาพการรายงานข่าวด่วน เกาะติดสถานการณ์งานแต่งระหว่างเจ้าคุณกับเอมี่ ขึ้นมา ทั้งสามต้องหยุดชะงัก
“คุณผู้ชมคะ ขณะนี้ดิฉันกำลังจะนำคุณผู้ชมเข้าไปสู่บรรยากาศพิธีฉลองมงคลสมรสของคู่วิวาห์ไฮโซแห่งปี เจ้าคุณ-คุณากร และเอมี่-เอมิกาค่ะ” ผู้สื่อข่าวรายงาน
สมใจชะงักกึก จ้องจอทีวีเขม็ง ภาพในจอทีวีเวลานั้น เป็นบรรยากาศในงาน ขณะที่เจ้าคุณกับเอมี่เดินควงคู่เดินผ่านประตูเข้าสู่งาน ผ่านแขกเหรื่อในงานที่ยืนเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง คอยโปรยดอกไม้ให้บรรยากาศยิ่งดูแสนหวาน แต่เจ้าคุณหน้านิ่งเฉย ขณะที่เอมี่ดีใจและตื่นเต้นจนออกนอกหน้า
สมใจตะลึง น้ำตาไหลออกมาอาบใบหน้า
“ไอ้ใจ๋” / “เจ๊!” คำปุยกับแคบหมูเรียกขึ้นพร้อมกัน
สายตาของสมใจยังจับจ้องภาพในทีวี ที่เจ้าคุณและเอมี่เดินขึ้นสู่เวที สมใจสุดทน วิ่งออกจากตรงนั้นไปอย่างเจ็บปวดใจ
“ไอ้ใจ๋” / “เจ๊ใจ๋..รอด้วย!”
สองคนรีบวิ่งสมใจตามไป โดยไม่ทันเห็นภาพเจ้าคุณในสภาพใบหน้าหมองเศร้าบนจอทีวีขณะนั้น

เวลาเดียวกันภายในงานแต่งของเจ้าคุณกับเอมี่ พิธีกรบนเวทีกำลังแซวเจ้าบ่าวที่ดูนิ่งเงียบเพราะคิดว่าตื่นเต้นกับการแต่งงาน
“ท่าทางเจ้าบ่าวของเราจะตื่นเต้นมากทีเดียว”
บรรดาแขกเหรื่อหัวเราะ แมทธิวสะใจกว่าใครเพื่อน ส่วนก้องเกียรติและกิ่งแก้วสงสารเจ้าคุณจับใจ
“ยิ้มหน่อยซิครับคุณเจ้าคุณ”
พิธีกรแซวต่อ แต่เจ้าคุณยังไม่ยิ้มเช่นเคย
“อย่างนี้เห็นทีต้องให้เจ้าสาวให้กำลังใจซักฟอดแล้วจริงมั้ยครับ”
แขกเหรื่อเริ่มเฮฮา เอมี่ทำเอียงอาย
“ไม่ดีมั้งคะ เราเป็นกุลสตรี มันยังไม่ถึงเวลาอ่ะค่ะ”
เอมี่พูดขึ้นจนกิ่งแก้วหมั่นไส้ “แหวะ! จะอ้วก!”
ก้องเกียรติหันหน้าไปปรามกิ่งแก้ว
“เฮ้อ ฉันปลื้มใจแทนไอ้คุณเพื่อนรักของเราจนบอกไม่ถูกเลยเว้ย ฮ่าๆ”
แมทธิวยิ้มร้ายสะใจ ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วมองด้วยสายตาสมเพช
“เป็นไรเยอะเนี่ย...แมท”
“ยู โอเค้ แมท”
เจอาร์ร่วมแซวด้วย แต่แมทธิวไม่สนใจยิ้มร้ายสะใจ โดยไม่พูดอะไรโต้ตอบ

อีกมุมหนึ่งของงานน้องนกคู่ขาของแมทธิว ค่อยๆ โผล่หน้าออกมาจ้องแมทธิวเขม็ง
“ไอ้แมท! นังเอมี่!”
นกยิ้มอย่างมีแผนร้าย และรอคอยการแก้แค้นแมทธิวกับเอมี่มานานแล้ว
ระหว่างนั้นบรรยากาศบนเวที พิธีกรยังแซวเจ้าคุณไม่เลิก
“ไม่ยิ้ม ไม่หล่อ ไม่ได้นะครับเจ้าบ่าว เพราะงานในวันนี้มีการเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงานมากมาย มีการถ่ายทอดออกอากาศด้วย เพื่อให้สมกับที่ทั้งคู่เป็นคู่วิวาห์ไฮโซแห่งปี”
แขกเหรื่อปรบมือกันสนั่น เจ้าคุณยิ่งเศร้า เอมี่กลับดี๊ด๊ามีความสุข พิธีกรพูดต่อ
“และก่อนที่จะเข้าสู่พิธีการ เส้นทางความรักของทั้งคู่ที่กว่าจะเดินทางมาบรรจบพบกันได้นั้น มีความเป็นมาอย่างไร เรามีวีดีโอให้ได้ชมกันครับ”
แขกเหรื่อปรบมือ ไฟในงานเลี้ยงหรี่ลง เริ่มฉายวิดีโอขึ้นจอ เอมี่ดี๊กับทุกคนรอดู
ภาพวิดีโอบนจอปรากฏเป็นภาพ ด.ญ.เอมี่ เอมิกา เอมี่ดูมีความสุข แต่พอขึ้น ด.ช.เจ้าคุณ เจ้าคุณกลับเศร้าไม่อยากรับรู้อะไรต่อจากนั้น
แต่ทันใดนั้น ภาพบนจอวิดีโอกลับปรากฏเป็นคลิปที่นก แอบถ่ายตอนเอมี่มาบอกว่าเธอตั้งท้องกับแมทธิวที่คอนโดเอมี่ช็อกส่วน เจ้าคุณอึ้งไป
ด้านแมทธิว เจอาร์ ก้องเกียรติและกิ่งแก้ว ต่างตกใจไม่แพ้กัน
แขกเหรื่อในงานเม้าท์กันสนั่นงานแต่ง รจนาวรรณกับแม่ของเอมี่ช็อกไปตามๆ กัน สื่อมวลชนตั้งกล้อง รัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง
“อร้าย! มี่ไม่รู้นะคะ ไม่รู้ ไม่เกี่ยวอะไรทั้งนั้น”
เอมี่รีบแก้ตัวทันที เมื่อเห็นนักข่าวกรูเข้ามาถาม
“ยังไงคะคุณเอมี่ ชี้แจงหน่อยค่ะ”
“ไม่รู้ค่ะ ไม่จริง ใครไม่รู้ มันหน้าเหมือนมี่ โฮๆ”
เอมี่วิ่งลงเวทีไป สื่อมวลชนวิ่งตามไปส่วนหนึ่ง
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์รีบหันไปทางแมทธิว
“ไอ้แมท!”
แมทธิวยืนเหงื่อแตกท่วมกาย “ไม่รู้เว้ย!”
พูดจบแมทธิวรีบเดินออกไปทันที นกที่อยู่อีกมุมหนึ่ง ยิ้มร้ายสะใจกับการแก้แค้นแมทธิวและเอมี่ได้สำเร็จ
“สะใจมั้ย นังมัมมี่!”

บนเวที สื่อมวลชนอีกกลุ่มรุมสัมภาษณ์เจ้าคุณที่ยังยืนนิ่งอึ้ง ไม่มีคำพูดใดๆ ส่วนล่างเวทีรจนาวรรณกำลังซักไซ้แม่ของเอมี่อย่างหนัก
“นี่..นี่มันอะไรกันคะคุณพี่”
แม่เอมี่หลบตาก่อนตอบ
“เอ่อ..เอ่อ..คุณพี่ก็ไม่รู้ ขอตัวไปดูลูกมี่ก่อนนะคะคุณน้อง”
พูดจบแม่เอมี่เดินออกไปเช่นกัน ทิ้งรจนาวรรณที่เต็มไปด้วยความงงและขายหน้าแขกเหรื่อเพียงลำพัง
“ตายแล้ว ฉันจะเป็นลม”
รจนาวรรณพูดจบเป็นลมล้มพับลงไป เจ้าคุณเห็นแม่เป็นลมก็พุ่งลงจากเวทีมารับตัวคุณหญิงแม่ไว้
“แม่! แม่! แม่!”
เจ้าคุณกอดแม่ไว้ท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวาย

ค่ำคืนนั้น สมใจนั่งอยู่ภายในห้องนอน คิดถึงภาพเจ้าคุณและเอมี่ที่เห็นในจอทีวี แล้วย้อนคิดถึงเจ้าคุณพาไปกินน้ำร่วมสาบานที่น้ำตกแม่อุ๊ยนางรอ สมใจน้ำตาคลอ คำปุยรีบข้ามา
สมใจรีบแอบเช็ดน้ำตา แกล้งทำเสียงร่าเริงใส่เพื่อน “ไง...นังปุ๋ย”
“เลิกเก๊กเลิกฟอร์มมั่งก็ได้แม่สาวแกร่ง ต่อให้แกร่งซักแค่ไหนมันก็ต้องมีวันอ่อนแอมั่งล่ะเว้ยนังใจ๋”
คำปุยรู้ทัน สมใจอึ้งไป โดนจี้ที่หัวใจ
“น้ำตาน่ะ ปล่อยให้มันไหลออกมาซะบ้าง ขืนกั้นมันไว้มากๆ เขื่อนแตกขึ้นมาล่ะแกจะเอาไม่อยู่”
พอคำปุยพูดจบ คราวนี้สมใจปล่อยโฮ โผกอดเพื่อนไว้แน่นด้วยความปวดใจ
“นังปุ๋ย!”
คำปุยกอดปลอบแล้วลูบหลังสมใจ
“อ่ะ! ร้องไป ร้องไปให้มันออกมาให้หมด จะได้จบได้สิ้นกันซะทีนะเพื่อนนะ”
คำปุยกอดสมใจ ไว้แน่น สมใจร้องเสียใจปานใจจะขาด

เช้าวันใหม่ เจ้าคุณเดินมาชะงักเมื่อเห็นรจนาวรรณนั่งหน้าซีดหน้าเซียวอยู่กับมะขิ่น โดยมีไมเคิลอยู่ไกลๆ เจ้าคุณปรี่เข้ามากอดแม่ไว้
“แม่! ทำไมไม่นอนพักครับ มานั่งตรงนี้ทำไม”
รจนาวรรณมองเจ้าคุณอย่างรู้สึกผิด โผเข้ากอดลูกชายแล้วร้องไห้
“เจ้าคุณ..แม่ขอโทษ”
“ไม่เป็นไรครับแม่ ไม่ต้องร้อง ผมเข้าใจ”
“แม่เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นแม่ที่แย่เหลือเกิน แม่เห็นแก่ตัว อยากให้ลูกทำแต่เรื่องที่ถูกใจแม่ แต่แม่ไม่ได้คิดเลยว่าลูกของแม่จะมีความสุขรึเปล่า”
“แม่ครับ...”
“ชีวิตนี้แม่เหลือความสุขอย่างเดียวก็คือลูก เพราะฉะนั้น อะไรที่เป็นความสุขของลูก มันก็คือความสุขของแม่ด้วย”
เจ้าคุณมองหน้าแม่
“แม่ครับ แม่ไม่โกรธผม”
รจนาวรรณส่ายหน้าแทนคำตอบ
“แม่ควรจะภูมิใจในตัวลูกถึงจะถูก ตั้งแต่ลูกวิ่งไปหยิบยาให้พ่อ ลูกได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างจังหวัด ลูกได้แสดงความกล้าหาญ เป็นคนดี มีน้ำใจ เจ้าคุณต่างหากที่ควรจะโกรธแม่ที่แม่มองไม่เห็นความดีเหล่านั้นเลยซักนิดยกโทษให้แม่นะลูก”
“แม่...”
สองแม่ลูกกอดกันอย่างเข้าใจกันมากขึ้น ไมเคิลกับมะขิ่นซึ้งใจแทนนั่ง เช็ดน้ำตาป้อยๆ
“ต่อไปนี้ เจ้าคุณต้องมั่นใจ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง แล้วก็ถูกใจตัวเองซะที ไม่ต้องทำตามใจแม่อีกแล้ว นะลูกนะ”
เจ้าคุณยิ้ม โผกอดแม่ด้วยความซาบซึ้งใจ

บ่ายวันใหม่ ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้า แมทธิวเดินหลบๆ ไม่ผึ่งผายรีบมาที่รถ แล้วตกใจเมื่อเอมี่ใส่หมวกใส่แว่นพรางตัวโผล่มา
“เอมี่!”
“ใช่ซิ ไอ้แมท!”
“จะมายุ่งวุ่นวายอะไรกับฉันอีกเนี่ย”
“แกน่ะซิที่ทำให้ชีวิตฉันต้องยุ่งวุ่นวาย ไอ้นรก!”
เอมี่ด่าแมทธิว อีกฝ่ายเข้ามาบีบปากทันที
“นี่! พูดจาให้ดีๆ นะ นังเน่า! ปากเน่า เน่าไปทั้งตัว”
เอมี่ตบแมทธิวเต็มแรง
“ใช่ซิ ชีวิตฉันมันต้องเน่าก็เพราะแกนั่นแหละ ไอ้บ้าๆ”
เอมี่กระโดดเข้าตบจิกข่วนแมทธิวสารพัด คนเริ่มมุงดู รปภ.เป่านกหวีดเข้ามาห้าม คนเริ่มจำได้ว่าเป็นแมทธิวและเอมี่
“เฮ้ย! ไอ้แมทกะนังมัมมี่นี่นา”
ผู้คนเริ่มขว้างปาสิ่งของใส่แมทธิวและเอมี่
“หญิงร้ายชายเลว คนชั่ว หักหลังเพื่อน นังกากี”
ผู้คนผ่านไปมาเริ่มตะโกนด่า ความโกลาหลเกิดขึ้น รปภ.พยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จ ผู้คนรุมแมทธิวและเอมี่ที่ต้องเอามือกุมหัวปกป้องตัวเองที่โดนรุมด่าและปาของใส่ไม่ยั้ง

เวลาต่อมา ที่บริษัทของก้องเกียรติและกิ่งแก้ว เจ้าคุณเดินทางมาหาเพื่อนเพื่อมีจุดประสงค์บางอย่าง
“จะไปหาสมใจ!”
ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว และเจอาร์ทวนคำพร้อมกัน
“เออ!”
“บ้าไปแล้ว!”
ก้องเกียรติยังไม่เข้าใจเจ้าคุณจะทำอะไรกันแน่
“เครซี่! สติวปิด! งี่เง่าแล้วไอ้คุณมายเฟรนด์”
เจอาร์เอ่ยขึ้น
“ถูกแล้วเจ้าคุณ! ลุยเลย! อย่าไปฟังพวกนี้”
กิ่งแก้วแอบเชียร์ จนก้องเกียรติกับเจอาร์ตกใจ
“กิ๋ง!”
“ลูกผู้ชาย! มันต้องกล้าๆ ลุย”
เจ้าคุณพยักหน้ามุ่งมั่น
“พวกแกไปด้วยดิ”
“อ้าว!”
“กล้าคิดได้ซะขนาดนี้แล้วแกจะกลัวอะไรอีกห๊า! เจ้าคุณ”
“โห..กิ๋ง แกว่าไม่น่ากลัวเหรอ ไหนจะสมใจ ไหนจะพ่อแม่เขา ไหนจะชาวม่วนแต๊อีก”
ทุกคนหันขวับไปมองว่าเสียงใคร แล้วต้องตกใจเมื่อรจนาวรรณเป็นเจ้าของเสียง
“แม่!”
“คุณหญิงแม่!”
รจนาวรรณมาพร้อมจอยที่เดินมาส่ง
“ใช่! เพราะแม่จะไปด้วย”
เจ้าคุณตกใจ
“ห๊า!”
“คุณหญิงแม่จะไปด้วย!”
จอยแอบฟังอยู๋แอบหลบไปอีกมุมควักมือถือขึ้นโทรศัพท์ทันที
“ฮาโหล เสี่ยวิบูลย์เหรอคะ จอยเองค่า คืองี้จอยมีไอเดียเด็ดมาเสนอ”
จอยเม้าท์เสร็จวางหู
“คอนโดฯ ไม่โดนยึดแล้ว เว้ยเรา เยส!”

เช้าวันใหม่ที่โรงเก็บชา สมใจกำลังทำงานง่วนอยู่ หันมาเห็นใครคนหนึ่ง
“พี่โก้!”
โก้ยิ้มเศร้าๆ ให้สมใจ ส่วนสมใจมองคำปุยกับแคบหมูที่มองอยู่เช่นกัน
ไม่นานนัก สมใจกับโก้ ยืนคุยกันอีกครั้ง
“ดอกไม้ที่พี่ฝากปุ๋ยไปให้ใจ๋ ใจ๋รับไว้รึเปล่า”
“พี่โก้...”
สมใจตัดสินใจพูดความจริง โก้เริ่มยิ้ม
“ความรู้สึกที่ใจ๋เคยมีต่อพี่โก้ มันไม่เหมือนเดิม”
“ ใจ๋...”
“ความเจ็บปวด เสียใจ แล้วก็วันเวลาที่ผ่านไป มันทำให้ความรู้สึกที่ใจ๋เคยมีต่อพี่โก้เปลี่ยนไปหมดแล้ว”
“ใจ๋ ใจ๋มีคนอื่นแล้วใช่มั้ย”
“เรายังเป็นพี่น้องกันได้นะ..พี่โก้”
“ใจ๋..”
สมใจพยักหน้า ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ปลัดจืดแอบฟังอยู่ หันหลังมาพิงต้นไม้ ยิ้มอย่างดีใจ เริ่มมีความหวังมากขึ้น

คืนนั้นที่บ้านสมใจ ทุกคนล้อมวงกันกินข้าวบรรยากาศดูชื่นมื่น มีสมใจที่หน้ายังเศร้าๆ โดยมีกำโป๊งร่วมวงด้วย
“กินเยอะๆ นะปลัด น้าอุตส่าห์ทำสุดฝีมือ เลี้ยงปลอบขวัญพ่อปลัด”
สมศรีเอ่ยอย่างดีใจ สมหมายตบไหล่ปลัดปลอบขวัญ
“ขวัญเอ๊ยขวัญมานะพ่อปลัดคนเก่ง เฮ้อ! นึกแล้วก็อดชื่นใจไม่ได้ ม่วนแต๊ของเรากลับมามีความสุข ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใจ ป่าไม้ไร่ชาอุดมสมบูรณ์ แหม มีปลัดดีมันก็งี้ล่ะ ข้าล่ะมีความสุขที่สุด”
สมหมายชมปลัดจืดจนออกนอกหน้า จนหวานเจี๊ยบหมั่นไส้
“แหวะ!”
“โห ไม่ใช่แล้วครับ ม่วนแต๊เป็นอย่างนี้ได้ก็เพราะมีน้าหมาย มีไร่ชาม่วนใจ๋ แล้วที่ขาดไม่ได้ ก็คือ ลุงกำโป๊งนะครับ”
“เฮ่ยๆ กันเองๆ”
สมหมายแอบค้อนกำโป๊ง
“จริงด้วยนะ ตอนที่ไร่ชามีปัญหา ถ้าไม่ได้ลุงกำโป๊งเอาเงินมาช่วยล่ะก็ ป่านนี้เราคงต้องเสียม่วนใจ๋ไปแล้ว..จริงมั๊ย”
สมใจอยากช่วยกำโป๊งเลียร์ใจกับสมหมาย แต่กำโป๊งดันสำลักน้ำเพราะไม่ใช่เงินของตัวเอง
“อ้าวๆ ค่อยๆ ก็ได้อ้ายโป๊ง”
สมศรีลูบหลังให้
“แฮ่..น้ำมันติดคอ”
“โหย ไว้จะรีบๆ เก็บใบชาไปขายเอาเงินมาใช้ให้ จะได้ไม่เป็นหนี้เป็นสินต่อกัน”
สมหมายยังไม่หายเคือง จนโดนสมศรีตีแขน
“ตาหมาย นะอ้ายโป๊ง พวกเราจะรีบใช้หนี้ให้อ้ายโป๊ง ไม่ต้องห่วง”
“โอย ไม่ต้องห่วงเลย ไม่เคยห่วงเลย ลืมๆ ไปเลยก็ได้”
สมหมายหมั่นไส้
“เชอะ! พ่อมหาเศรษฐี”
ค้อนไปมา สักพักแคบหมูกับไส้อั่ววิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“ข่าวใหญ่! ข่าวใหญ่!”
“ข่าวใหญ่อะไรของพวกเอ็งวะ ไอ้อั่ว นังแค๊บ”
“ข่าวใหญ่จ๊ะ”
“ใช่! ใหญ่มาก”
ไส้อั่วรีบเสริมแคบหมู
“ก็รีบๆ บอกซิวะมัวแต่ชักช้าเดี๋ยวพ่อเขกกะโหลกแตก”
สมหมายเงื้อมะเหงก
“ไม่รู้จะบอกยังไง ดูเอาเองละกัน”
แคบหมูกับไส้อั่ว ชี้ไปที่หน้าบ้าน ทุกคนมองตามตะลึง กำโป๊งจะเป็นลม เมื่อเจ้าคุณ รจนาวรรณ ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เจอาร์ ไมเคิล และมะขิ่น มากันพร้อมหน้า
รจนาวรรณเอ่ยทักทุกคน
“เอ่อ..สวัสดีจ๊ะทุกคน”
“ใจ๋...”
เจ้าคุณหันไปที่สมใจ สมหมายลุกขึ้นทันทีชี้หน้าเจ้าคุณ
“อ้ายขุนทอง..ไอ้ไฮโซ! นี่เอ็งยังมีหน้ากลับมาเหยียบม่วนแต๊อีกเหรอวะเฮ๊ยไอ้ใจ๋ขึ้นบ้าน แม่ศรีเอาไอ้ใจ๋ขึ้นบ้านเดี๋ยวนี้ ปลัดเฝ้ามันไว้ เดี๋ยวข้ามา เดี๋ยวข้ามา”
สมหมายลากสมใจที่ยังตกใจที่เจ้าคุณบุกมาแต่ยอมขึ้นบ้านไป เจ้าคุณจะปรี่เข้าหา แต่ปลัดจืดขวางไว้
“ใจ๋...”
“จะกลับมาทำไมอีก ม่วนแต๊ไม่ต้อนรับพวกคุณ”
ปลัดจืดรีบเอ่ย
“ฉันกลับมาหาสมใจ”
“ทั้งที่นายมีเมียแล้วเนี่ยนะ”
คำปุยเอ่ยถามเจ้าคุณ
“ห๊า!”
ทุกคนตกใจ
“อ้ายขุนทองมีเมียแล้ว”
หวานเจี๊ยบยังไม่เข้าใจ ทันใดนั้นเสียงปืนเปรี้ยง ทุกคนกระโดดหลบ อุดหูกันเป็นแถว สมหมายยิงปืนขึ้นฟ้าขู่พวกเจ้าคุณ
“นัดต่อไป รับรองว่าไม่พลาดกบาลไฮโซแน่นอน”
“ไอ้ขุนทอง! ไอ้ก้อง! จะอยู่ให้กบาลโบ๋เรอะ หนีไป! หนีไป!”
กำโป๊งตะโกนบอก
“จะหนีไปไหนล่ะลุง”
ก้องเกียรติถาม
“ไม่รู้ หนีไปก่อน!”
สมหมายยิงขู่อีกเปรี้ยง คราวนี้ทุกคนพากันลากเจ้าคุณวิ่งออกไป สมหมายตะโกนไล่หลัง
“ไปให้พ้น! อย่ากลับมาอีกนะเว๊ย!”
สมหมายยืนหอบอยู่กับปลัดจืด สมใจยืนมองตามเจ้าคุณอยู่ที่บนบ้าน โดยมีสมศรีที่มองลูกสาวด้วยความห่วงใยและเข้าใจสมใจเป็นอย่างดี

คืนนั้น กำโป๊งเดินกลับบ้านและกำลังบ่นกับไส้อั่วเรื่องพวกเจ้าคุณมาให้ตนเดือดร้อนอีกแน่นอน
“เวรกรรมอะไรของข้านักหนาก็ไม่รู้ เฮ้อ! ขอให้ไอ้พวกไฮโซนั่นมันไปแล้วไปลับอย่ากลับมาอีกเลย จ๊าก!”
กำโป๊งสะดุ้งสุดตัว เพราะเจ้าคุณและพวกไม่มีใครกลับกรุงเทพฯแม้แต่คนเดียว
“ไม่จริง! ไม่จริง! โอย..กูจะบ้า!”
ทั้งหมดจึงไปรวมตัวกันที่บ้านกำโป๊งราวกับผู้อพยพ

คืนนั้นที่ห้องนอนเจ้าคุณที่บ้านกำโป๊งอยู่กันเต็มพื้นที่ กำโป๊งโยนมุ้ง หมอนลงพื้น ทุกคนยืนอัดกันอยู่ในห้อง
“มีแค่เนี้ย นอนได้ก็นอน นอนไม่ได้ก็ดี รีบๆ กลับกรุงเทพฯ ไปเลยไป๊”
“เอ่อ..ไม่มีเตียงหรือว่า...”
รจนาวรรณถามขึ้น
“มีอยู่ที่กรุงเทพฯ ไงขอรับคุณหญิง”
กำโป๊งรีบตอบ
“จ๊ะๆ”
“คืนเดียว! พรุ่งนี้เช้า..กลับไปให้หมด”
กำโป๊งชี้หน้าบอกเจ้าคุณ แล้วจะเดินออกแต่โดนรั้งไว้
“ลุงกำโป๊งครับ...”
กำโป๊งกับเจ้าคุณมองตากันคล้ายมีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว

คืนนั้น ที่บ้านสมใจ สมหมายยังอารมณ์ค้างโกรธเหล่าไฮโซไม่เลิก
“ไม่มีวัน พ่อไม่มีวันยอมให้ไอ้ไฮโซนั่นมันทำให้ลูกพ่อเจ็บอีกเป็นอันขาด เป็นตายยังไงก็ไม่ยอม ปลัด!แต่งงานกับไอ้ใจ๋มั๊ย รีบแต่งงานกันให้ไวๆ”
“พ่อ! ตาหมาย! น้าหมาย!”
สมใจ สมศรี และคำปุยอุทานพร้อมกัน
“แกจะบ้าเหรอตาหมาย!”
“ไม่บ้าละ แต่ถ้าต้องเห็นไอ้ใจ๋เจ็บอีกล่ะข้าบ้าแน่! ไง จะแต่งรึไม่แต่ง”
สมหมายหันไปทางปลัด
“เอ่อ..คือ..”
“ปลัด! อย่าไปถือสาเลยนะ คนมันกำลังบ้า”
“เอ่อ..คือ..”
ปลัดจืดพูดไม่ออกทั้งที่ในใจอยากแต่งงานกับสมใจใจแทบขาด แต่เพราะเคยถามสมใจไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบปลัดจืดมองสมใจ สมใจเบือนหน้าหลบตาไป

คืนนั้น ที่บ้านกำโป๊ง ทุกคนกำลังกล่อมให้กำโป๊งเข้าเจรจากับสมหมายให้เรื่องสมใจ
“ไอ้เวร! แค่นี้เอ็งยังไม่สะใจใช่มั้ย นี่เอ็งอยากเห็นข้าตายคาตาเลยรึไงถึงจะให้ข้าไปช่วยเคลียร์เรื่องเอ็งกะพ่อหมาย ไอ้บ้า!”
“โธ่! ลุง ช่วยไอ้คุณมันอีกซักครั้งเถอะ”
ก้องเกียรติรีบขอความช่วยเหลือ
“นะคะลุงขา คนอะไรใจดีแล้วยังหล่อยังกะ...”
กิ่งแก้วเริ่มยอ ใช้มุกเก่า
“โดม-ปกรณ์ ลัม ไม่ต้องมามุกซ้ำนังหนู” กำโป๊งทำเป็นไม่แยแส
“ใครบอก ช่วงนี้มองๆ ไป ลุงคล้ายณเดชน์แล้วนะคะ” กิ่งแก้วจัดให้อีกดอก
“บ้า! ไม่ต้องมากล่อมข้า ข้าไม่เอาด้วยล่ะ”
“ลุงครับ...” เจ้าคุณก้มลงกราบตักกำโป๊ง “ช่วยผมด้วยเถอะครับ ผมขอร้อง”
กำโป๊งกับทุกคนอึ้งไป รจนาวรรณแอบดูอยู่มุมหนึ่งกับไมเคิลและมะขิ่น น้ำตาแทบร่วง สงสารลูกขึ้นมาจับใจ ส่วนกำโป๊งอยากช่วยแต่คดีเก่ายังไม่หาย จึงครุ่นคิดในใจอย่างหนัก

ในที่สุดกลางดึกคืนนั้น กำโป๊งไปบ้านสมใจอีกครั้ง เพื่อพูดคุยกับสมหมาย เคลียร์ปัญหาช่วยเจ้าคุณ
“ดึกๆ ดื่นๆ จะมาทำไมอีกอ้ายโป๊ง”
สมหมายเอ่ยทัก กำโป๊งทำหน้าไม่ถูก
“แฮ่ คืองี้พ่อหมาย ฉันมีเรื่องอยากเล่าให้พ่อหมายฟังซักนิด”
“ถ้าเป็นเรื่องไอ้ไฮโซนั่น ก็กลับไปซะ ฉันจะนอนแล้ว”
“ฟังซักนิดน่ะ แล้วฉันจะไม่กวนใจพ่อหมายอีกเลย”
“แล้วมันเรื่องอะไรอ้ายถึงต้องมาพูด ทำไมไอ้ไฮโซนั่นมันถึงไม่มาพูดเอง ไอ้ขี้ขลาดตาขาว!”
“อ้าว! ขืนมามันก็โดนพ่อหมายยิงกบาลแยกซิ”
สมหมายค้อนใส่กำโป๊ง
“อ้ายโป๊ง เรื่องมันยังไงจ๊ะ”
สมศรีเอ่ยถาม
“อ้ายขุนทอง..เอ่อ..ไอ้เจ้าคุณน่ะมันไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวงอะไรพวกเรา ตอนแรกมันเองก็โดนเพื่อนมันหลอกให้ออกทีวีเหมือนกัน แต่ต่อมามันเต็มใจออกทีวี เพื่อจะเอาเงินมาช่วยตอนโรงเก็บชาถูกเผา จำได้มั้ย” กำโป๊งสาธยายความมีน้ำใจของเจ้าคุณ
ทุกคนนิ่งฟังอย่างตั้งใจ กำโป๊งเล่าต่ิอ
“ยิ่งอยู่ไปมันก็ยิ่งรักม่วนแต๊และ..รัก เอ่อ...ม่วนใจ๋”
สมใจมอง
ระหว่างนั้นมีเสียงรจนาวรรณพูดเสริมขึ้นมา “ใช่!”
ทุกคนหันมามองรจนาวรรณ สมหมายรีบถามทันที
“มาทำไม”
“ฟังฉันก่อน เจ้าคุณยอมทำทุกอย่าง แม้แต่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักเพื่อแลกกับเงินที่จะเอามาไถ่ไร่ชาม่วนใจ๋คืนให้กับทุกคน”
“เงิน เงิน เงิน คำก็เงิน 2 คำก็เงิน ถือว่ารวย แล้วจะเอาเงินมาฟาดหัวพวกเรางั้นเรอะ”
สมหมายเริ่มโกรธ
“ใจเย็นพ่อหมาย”
“สมใจ ยกโทษให้เจ้าคุณด้วยเถอะ เจ้าคุณเขารักหนูมากนะจ๊ะ” รจนาวรรณเอ่ยขึ้นกับสมใจ
“นังบ้านนอกอย่างฉันน่ะเหรอ”
สมใจเอ่ยอย่างน้อยใจ รจนาวรรณรู้ตัวว่าทำผิด
“ที่ผ่านมา ฉันผิด ฉันทำไม่ดีกับหนู ฉันขอโทษ”
สมใจเบือนหน้าหนี
“จะให้ฉันทำยังไงก็ยอม จะให้ฉันทำยังไงก็ได้"
รจนาวรรณจะคุกเข่า สมศรีรีบเข้าไปประคองรจนาวรรณขึ้นมา
“อย่าๆ ไม่ต้องถึงขนาดนี้หรอกคุณ”
“คุณรักลูกคุณแค่ไหน ฉันก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ฉันยินดีทำทุกอย่างเพื่อลูกของฉัน”
“แล้วลูกสะใภ้ของคุณล่ะ” สมใจถามขึ้น
“เอมี่กับเจ้าคุณไม่ได้แต่งงานกัน”
สมใจงง เพราะเห็นภาพวันแต่งงานกับตาในจอทีวี
“ในหัวใจของเจ้าคุณมีหนูคนเดียวเท่านั้น สมใจ”
ฟังคำพูดของรจนาวรรณแล้วสมใจก็อึ้งไป
“แล้วนี่ไอ้ไฮโซมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน” สมหมายถามโพล่งขึ้น
“ฉันให้มันรออยู่หน้าบ้านพ่อหมายนู่นแหละ” กำโป๊งรีบบอก
“ดี! อย่าให้มันเข้ามาเหยียบบ้านข้า ไปๆ หมดเรื่องพูดแล้วก็กลับไปได้แล้ว ดึกแล้ว ง่วงนอน ขึ้นบ้านๆ”
สมหมายดึงลูกเมียขึ้นบ้าน
“เดี๋ยวสิจ๊ะ สมใจ”
สมหมายไม่ฟังเสียง ลากลูกเมียขึ้นบ้านทันที
“โธ่!” รจนาวรรณอับจนปัญญา

กำโป๊งปาดเหงื่อหน้าเครียด “ไม่ตายก็บุญแล้วไอ้โป๊ง!”







Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 23:36:34 น.
Counter : 314 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 13




ไม่นานหลังจากนั้นหวานเจี๊ยบ คำปุย ไส้อั่วและแคบหมู ได้พาสองแม่ลูกมาที่เล้าหมู แล้วผลักทั้งคู่ล้มกลิ้งลงไปในเล้า หมูแตกตื่นวิ่งกระเจิงชุลมุนวุ่นวายไปหมด ทุกคนหัวเราะด้วยความสะใจอยู่ข้างนอก

ลำยองกับลำใยพยายามดึงกระสอบปิดหน้าออกอย่างทุลักทุเล

“อีพวกผีนรก นี่พวกแกทำอะไร เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมดแล้ว”
ลำยองตะโกนด่าอย่างทุลักทุเล ลำใยยิ่งเละไม่แพ้กัน
“ใช่ค่ะคุณแม่ แทใยเหม็นไปหมดเลย สกปรก แหวะๆ”
“คนสกปรกอย่างพวกแก 2 แม่ลูกมันก็เหมาะจะอยู่ที่สกปรกเหม็นๆ อย่างนี้แหละ”
หวานเจี๊ยบด่าต่อ โดยมีคำปุย แคบหมู และไส้อั่วเป็นกองหนุน
“ใช่!”
“ปากแกซิเหม็น นังหวานเจี๊ยบ แกพูดอะไรของแก”
“แหมๆ ยังจะมาทำอินโนเซนส์ บ่เดียงสา ทำไมน้ากับลูกน้าถึงได้ใจดำทำกับลุงหมาย ป้าศรี แล้วก็ไอ้ใจ๋ได้ขนาดนี้ ไร่ชาม่วนใจ๋เป็นหัวใจของม่วนแต๊ แต่น้ากลับเห็นแก่ตัว”
ลำยองโดนหวานเจี๊ยบด่าใส่
“เห็นแก่เงินด้วย”
แคบหมูกับไส้อั่วคอยหนุน
“ใช่!คนทรยศม่วนแต๊ ทรยศบ้านเกิดตัวเอง โดนแค่นี้มันยังน้อยไป”
“อร้าย! อะไร พวกแกจะทำอะไรฉันอีก”
ลำใยส่งเสียงดัง หวานเจี๊ยบส่งซิกให้คำปุย แคบหมู และไส้อั่ว พร้อมใจกันยกรำสาดใส่ 2แม่ลูก หมูพุ่งไปกินที่ 2 แม่ลูกจนมองไม่เห็นตัว ดูอลหม่านเหม็นคละคลุ้ง หวานเจี๊ยบหัวเราะสะใจกับพรรคพวกด้วยความสะใจ

พอกจัดการกับสองแม่ลูกเสร็จ ทั้งหมดเกินทางกลับไปที่บ้านสมใจ และโดนสมศรีสวดยับที่รุมเล่นงานสองแม่ลูกเหมือนพวกอันธพาล
“บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าไปทำอะไรโง่ๆ มันไม่มีประโยชน์ ไอ้พวกง่าว!”
“พวกมันทำขนาดนี้ ป้าศรียังจะห้ามพวกเราทำไม”
หวานเจี๊ยบไม่เข้าใจ คำปุยเห็นด้วยกับหวานเจี๊ยบ
“จริงด้วย 2 แม่ลูกนรกเนี่ย สมควรแล้ว ป้าศรีจะไปสงสารมันทำไม”
“ข้าไม่ได้สงสาร เพราะวันนึงนรกก็จะลงโทษพวกมันเองนั่นแหละ แต่ข้าไม่อยากให้พวกเอ็งกลายเป็นมาเฟีย เป็นอันธพาลนักเลงโต”
“พวกใช้แต่กำลัง ไม่ใช้สมอง”
ปลัดจืดหันไปทางหวานเจี๊ยบ
“อ๊ะ! ไอ้นี่”
หวานเจี๊ยบสะบัดใส่
“เอาล่ะๆ พอทีเถอะ เลิกทะเลาะกันซะที นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกัน”
สมศรีเอ่ยห้ามแล้วหันไปมองสมหมายกับสมใจที่นั่งซึมเศร้าเรื่องไรชาม่วนใจ๋
“สงสารพี่ใจ๋จัง”
หวานเจี๊ยบเอ่ยขึ้น
“แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดีเนี่ยป้าศรี”
คำปุยเอ่ยถาม
“ก็ อดทนรอใบชาออกใหม่ เก็บไปขาย เอาเงินมาใช้หนี้”
สมศรีปลอบใจตัวเอง เพราะรู้ว่าขายใบชาอีกหลายรอบกว่าจะหาเงินได้มากมายไปไถ่ที่ได้
“โหย เก็บเท่าไหร่ถึงจะพอใช้หนี้ ไอ้มาเฟียพ่อลูกนั่นมันหน้าเลือดขนาดไหนป้าศรีก็รู้ อย่าว่าแต่เงินต้นเลย เก็บใบชาจนหลังหักยังไม่รู้ว่าจะพอจ่ายดอกเบี้ยให้มันทุกวันๆ รึเปล่าเลย”
สมศรีอึ้งไป ไส้อั่วกับแคบหมู ครุ่นคิดราวกับมีทำแผนร้าย หันหน้ามาสบตากัน อย่างมีเลศนัย

เวลาต่อจากนั้น ไส้อั่วกับแคบหมูเดินทางไปหากำโป๊งที่บ้าน
“นี่พวกเอ็งเอาอะไรมาพูด”
“ก็เอาเรื่องจริงมาพูดซิลุง”
ไส้อั่วย้ำ
“ย้ำว่าเรื่องจริง คอนเฟิร์ม!”
แคบหมูช่วยยืนยัน
“อยู่ม่วนแต๊มา 30 กว่าปี ไม่เคยได้ยินเรื่องอย่างนี้มาก่อนเลย”
กำโป๊งอุทานขึ้นมา
“นั่นซิ อยู่มาตั้งนานไม่คิดจะทำอะไรให้ม่วนแต๊มั่งเลยเหรอลุ๊ง”
“หนอย ใครเป็นลุงใครเป็นหลานห๊าไอ้อั่ว พูดจายังกะเอ็งเป็นลุงข้า”
“ถ้าเป็นจริงๆ ก็ดีซิ จะได้สั่งให้ลุงรีบโทร.หาอ้ายขุนทองเผื่อจะช่วยเจ๊ใจ๋ได้”
“อ้ายขุนทอง”
“ใช่จ๊ะ อ้ายขุนทอง!”
กำโป๊งครุ่นคิด ไส้อั่วและแคบหมูตีแอบตีมือกันด้วยความดีใจ ที่แผนการกำลังจะสำเร็จ

บ่ายวันเดียวกัน ก้องเกียรติกำลังกำกับจอยให้เล่นโฆษณาขายกระทะปิ้งย่างอเนกประสงค์อยู่ แต่เทคแรกถ่ายไม่ผ่าน
“เทค! อะไรวะไอ้จอย หน้าตาไม่สดชื่นเลย คนจะกินหมูกระทะมันต้องแฮปปี้”
ก้องเกียรติเดินไปโวยจอยทันที
“แฮปปี้ไงล่ะบอส จะโดนตัดค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์อยู่แล้ว”
“ก็เล่นให้ดีๆ คนเขาดูแล้วอยากกินหมูกะทะ เราจะได้ขายเตาปิ้งได้เยอะๆ ไง เดี๋ยวก็มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟแล้ว โอเคนะ”
“ค่ะๆบอส”
ก้องเกียรติเดินกลับมานั่ง สั่งพร้อมถ่าย
“พร้อม...5..4..”
เสียงมือถือที่วางอยู่ดังขึ้น กิ่งแก้วยกขึ้นดูแทนก้องเกียรติ
“ก้อง!ลุงกำโป๊ง!”
“เฮ๊ย! ฮาโหล ลุงกำโป๊ง!”
ก้องเกียรติตะโกนเรียกกำโป๊งสุดเสียง
“เออ ข้าเอง จะตะโกนทำไมวะ”
“ก็มันดีใจอ่ะครับ ลุงเป็นไงบ้าง วันก่อนลุงโทร.มา ผมรับไม่ทัน มีเรื่องอะไรด่วนรึเปล่าครับ ผมโทร.กลับไปลุงก็ไม่รับสาย”
“ด่วนซิวะ แล้วก็ไม่เสือกรับสาย ถ้าไม่มีเรื่องด่วนข้าก็ไม่อยากโทร.หาพวกเอ็งหรอกเว๊ย”
“แหม ไม่ด่วนก็โทร.ได้ครับ ว่าแต่ลุงมีเรื่องด่วนอะไรเหรอครับ”
“ก็คือว่า...” กำโป๊งเล่าเรื่องราว
ก้องเกียรติตั้งใจฟัง “ห๊า! ว่าไงนะครับ”

บ่ายวันนั้นสมใจกำลังยืนมองไร่ชาด้วยความเศร้า
“ไร่ชาม่วนใจ๋ จะไม่ใช่ของเราอีกต่อไปแล้วจริงๆ หรือนี่”
สมหมายกับสมศรีนิ่ง และสะเทือนใจไม่ต่างกัน สมใจหันไปกอดพ่อแม่ไว้ด้วยความเศร้า
“ไร่ชาม่วนใจ๋ คือชีวิตของพวกเรานะ”
สมใจพูดจบร้องไห้โฮโผเข้ากอดพ่อกับแม่อีกครั้ง วันนี้ไร่ชาม่วนใจ๋ดูเหงาอ้างว้างเหลือเกิน

เวลาเดียวกัน หลังจากรู้เรื่องไร่ชาม่วนใจ๋จากกำโป๊ง ก้องเกียรติ จึงตัดสินใจโทรหาเจ้าคุณที่นั่งมองขวดใบชาในมือ ซักพักมือถือดังขึ้นเจ้าคุณรับทันที
“ไง ไอ้ก้อง”
กิ่งแก้วแย่งมือถือไปพูดสายเอง
“ฉันเองเจ้าคุณ”
กิ่งแก้วรีบรายงานตัว ในขณะที่ก้องเกียรติรีบไปตะปบมือถือไว้
“คิดดีๆ ก่อนเหอะกิ๋ง ขืนให้ไอ้คุณมันรู้เรื่องไร่ชาม่วนใจ๋ของสมใจล่ะก้อ จะวุ่นวายกันไปใหญ่นะ”
“ให้มันรู้ซะตั้งแต่ตอนนี้ กับถ้ามันมารู้ทีหลัง ก้องว่าอย่างไหนจะวุ่นวายกว่ากัน”
กิ่งแก้วเถียง จนก้องเกียรติอึ้งไป
“ฮัลโหล เจ้าคุณฟังให้ดีนะ”
เจ้าคุณฟังเรื่องราวจากกิ่งแก้วแล้วสีหน้าเริ่มเปลี่ยนไปเป็นความกังวล
“ใจ๋!”

หลังจากกิ่งแก้วโทร.บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับไร่ชาม่วนใจ๋กับเจ้าคุณแล้ว ก้องเกียรติทิ้งตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง
“เรื่องใหญ่แน่ๆ กิ๋งไม่น่าบอกไอ้คุณมันเลย”
“สมใจแล้วก็คนม่วนแต๊กำลังเดือดร้อนขนาดนี้ เราไม่คิดจะช่วยพวกเขาเลยรึไงก้อง”
“ก็ถ้าเราอยากจะช่วยก็ช่วยไปซิ แต่ไม่ควรไปดึงไอ้คุณมันมาเกี่ยว ตอนนี้ไอ้คุณมันมี เอมี่อยู่ทั้งคนแล้วนะ ไหนจะลูกในท้องอีกล่ะ”
“แต่กิ๋งไม่เชื่อว่าจะเป็นลูกเจ้าคุณ”
กิ่งแก้วมั่นใจ จนโดนก้องเกียรติดุ
“กิ๋ง! อย่าพูดจาส่งเดช”
“จริงนะ กิ๋งเซ้นส์ได้ยังไงไม่รู้ว่าเด็กในท้องยัยเอมี่ไม่มีทางเป็นลูกของเจ้าคุณ”
“เยอะแล้ว ดูละครน้ำเน่าเยอะไปละเปล่า”
“อย่าลืมว่า บางทีชีวิตจริงมันก็เน่ายิ่งกว่าละครอีกนะ ไม่เชื่อก็ดูชีวิตไอ้คุณมันซิ”
ก้องเกียรติอึ้งไปก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
“แต่ก้องว่ากิ๋งเลิกคิดเรื่องนั้นเหอะ ตอนนี้มาเตรียมรับมือไอ้คุณกันดีกว่า ป่านนี้มันกับคุณหญิงแม่ต้องตีกันบ้านแตกเรื่องสมใจแล้วแน่ๆเลย เฮ้อ!”
“แต่กิ๋งว่าไม่! เดี๋ยวนี้ไอ้คุณเพื่อนเราน่ะมันไม่ใช่เจ้าคุณคนเดิมแล้วนะ แต่มันมีความเป็นอ้ายขุนทองปนอยู่ในตัวมันด้วย”
“หมายความว่า...”
“เจ้าคุณมันน่าจะต้องกล้าลุกขึ้นมาพูดหรือทำอะไรซักอย่าง เพื่อผู้หญิงที่มันรัก!”
กิ่งแก้วมั่นใจ ว่าเจ้าคุณจะกล้าตัดสินใจช่วยสมใจด้วยการเอาไร่ชาม่วนใจ๋กลับมาได้อย่างแน่นอนแม้ว่าจะต้องแลกกับอะไรเจ้าคุณก็พร้อมยอมทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวเองรัก

เวลาต่อจากนั้น เจ้าคุณเดินเข้ามาหารจนาวรรณ ในอารมณ์ที่ยังเคืองลูกชาย
“แม่ครับ”
“ว่าไง ทำไมป่านนี้ยังไม่ไปรับหนูมี่มาทานข้าวกับแม่”
“แม่ครับ ผมมีเรื่องสำคัญ ยะ..ยะ..อยาก..อยาก..ขะ..ขอ”
รจนาวรรณตกใจเมื่อเห็นเจ้าคุณเริ่มพูดตะกุกตะกัก
“ใจเย็นลูกใจเย็น ไม่เป็นไรนะ ใจเย็นๆ อย่าตื่นเต้น ค่อยๆ พูด”
เจ้าคุณซาบซึ้งใจ กอดแม่ไว้แน่น
“เป็นไง หายตื่นเต้นรึยัง ตกลงหนูมีเรื่องอะไร คงจะต้องเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่งั้นหนูคงไม่ตื่นเต้นขนาดนี้อยากแต่งงานกับหนูมี่แล้วใช่มั้ยจ๊ะ”
“ใช่ครับ”
รจนาวรรณยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“เจ้าคุณ! เจ้าคุณลูกแม่ แม่ดีใจที่สุดในโลกเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นจ๊ะ อะไรดลใจให้หนูอยากแต่งงานกับหนูมี่ขึ้นมาปุบปับแบบนี้”
“เพราะสมใจครับ”
เจ้าคุณตอบเต็มปาก รจนาวรรณหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“สมใจ”
“ครับ ตอนนี้สมใจกำลังลำบากมาก ผมอยากขอเงินแม่ซักก้อน”
“หยุด! หยุดพูดเลย นี่ลูกยังติดต่อกับมันอีกเหรอเนี่ย”
รจนาวรรณเริ่มโมโห
“เปล่าครับ ผมไม่ได้ติดต่อกับสมใจ ไม่ซิ สมใจไม่ยอมติดต่อกับผม”
“ถ้างั้นมันก็ใช้คนอื่นติดต่อมา”
“แม่ครับ ผมอยากขอร้องให้แม่ช่วยเป็นครั้งสุดท้าย แล้วผมจะยอมแต่งงานกับเอมี่ทันที”
สองแม่ลูกมองตาวัดใจกัน
“ได้! แม่จะยอมเป็นครั้งสุดท้าย”
เจ้าคุณโผเข้ากอดแม่ด้วยความดีใจ
“ขอบคุณครับแม่”
“แต่หนูต้องไปกับแม่ เดี๋ยวนี้!”

ต่อจากนั้นรจนาวรรณพาเจ้าคุณไปที่บ้านเอมี่ พอเห็นเจ้าคุณมาเอมี่รีบปรี่เข้าไปกอดเจ้าคุณทันทีเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจะยอมแต่งงานด้วยในเร็ววัน
“มี่ดีใจที่สุดในโลกเลยค่ะคุณคะคุณขา”
เอมี่หอมแก้มซ้ายขวาของเจ้าคุณแบบไม่อาย
“ตกลงตามนี้นะคะ แต่งเลย ไม่ต้องรอฤกษ์แล้ว”
รจนาวรรณเอ่ยกับแม่เอมี่อย่างรวบรัด
“เย้!”
เอมี่ดีใจจนออกนอกหน้า
“ดีค่ะ ขืนรอไปนานกว่านี้ล่ะ เจ้าสาวท้องโย้แน่”
เจ้าคุณดูไม่มีความสุขอยู่คนเดียว ในขณะที่ทั้งแม่ว่าที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวดีใจจนออกนอกหน้า
“แหม้ คุณพี่นี่ มีมุกนะคะ”
รจนาวรรณยิ้มแย้มกลับ
“ไม่มุกล่ะค่ะคุณน้อง ดูซิคะ เริ่มตุ่ยๆ แล้วนะคะ”
“นะค้า ถึงยังไงก็แต่ง”
รจนาวรรณหยิบกล่องแหวนออกมา
“อ่ะ! เจ้าคุณจ๊ะ สวมมัดจำมัดใจหนูมี่ไว้ก่อนเลย หนูมี่จะได้มั่นใจ”
เอมี่ดีใจปรบมือลั่น พร้อมยื่นมือมาให้เจ้าคันทีณ
“เย้! พร้อมนานแล้วค่ะ”
เจ้าคุณอึ้งไป รจนาวรรณยื่นแหวนใส่มือเจ้าคุณ แล้วหันมาด้วยสายตาบังคับ ) เจ้าคุณหน้าตากล้ำกลืนจำใจสวมแหวน เอมี่กระโดดกอดหอมแก้มซ้ายขวาอีก ทุกคนชื่นใจสมหวัง ยกเว้นเจ้าคุณที่รู้แก่ใจว่าแต่งงานกับเอมี่เพราะอยากช่วยสมใจ

เวลาต่อมา เจ้าคุณไปหาก้องเกียรติและกิ่งแก้วที่บริษัท เจ้าคุณยื่นซองเงินให้เพื่อนทันทีเพื่อให้รีบเอาไปช่วยสมใจ
“เอาไปให้ใจ๋ด้วย...อย่าช้านะ”
“เจ้าคุณ...”
“แกเปลี่ยนไปมากจริงๆ ไอ้คุณ”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วซาบซึ้งในน้ำใจของเจ้าคุณ ก้องเกียรติสวมกอดเพื่อน กิ่งแก้วกอดตาม สามคนเพื่อนรักกอดกันด้วยความรัก เจ้าคุณยิ้มสุขที่ได้ช่วยสมใจ แต่ภายในใจเศร้าระทมเพราะต้องแต่งงานกับหญิงที่ไม่ได้รัก

เช้าวันใหม่ บรรยากาศยามเช้าของม่วนแต๊ยังคงอากาศแจ่มใส กำโป๊งเดินกอดซองเงินมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ โดยมีไส้อั่วคอยดันหลังให้กล้าตามหลังมาด้วย
“ไอ้ว่อกอั่ว เป็นเพราะเอ็งแท้ๆ อุตริยุให้ข้าโทร.หาไอ้ขุนทองทำมั้ย”
กำโป๊งรีบที่พาลหลาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยโทรไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ติดต่อกันไม่ได้
“แล้วเป็นไงล่ะ สรุปว่ามันเวิร์ครึเปล่าล่ะลุง”
“เวิร์คพ่อเอ็งน่ะซิ นี่ถ้าข้าโผล่หน้าไปให้พ่อหมายเขาเห็นล่ะมีหวัง...”
ไม่ทันขาดคำสมหมายเดินโผล่ออกมา
“ใครมาส่งเสียงดังแต่เช้าหน้าบ้านข้าวะ หนวกหู”
กำโป๊งชะงัก ยิ้มแหย

“แฮ่ สบายดีบ๋อ พ่อหมาย”
สมหมายทำหน้ายักษ์ใส่ จนทำให้กำโป๊งยิ่งไม่กล้า

เวลาต่อมา มือกำโป๊งยื่นซองเงินให้สมหมายใจสู้แต่มือไม้สั่น และต้องทำใจดีสู้เสือ
“นะ นะ นี่จ๊ะ พ่อหมายรับไว้เถอะนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
สมหมายมองซองเงิน แล้วมองหน้ากำโป๊งจนอีกฝ่ายต้องหลบตา ทุกคนมองลุ้น สุดท้ายสมหมายค่อยๆ ยื่นมือไปรับซองเงิน กำโป๊งยิ้มอย่างโล่งใจ ทันใดนั้นสมหมายตบซองเงินลงพื้นอย่างโมโหจนทุกคนสะดุ้งเฮือก
“คิดว่าเงินนี่มันจะลบล้างความผิดที่ทำให้ไอ้ใจ๋แล้วก็ทุกคนในม่วนแต๊กลายเป็นตัวตลกยังงั้นเรอะ อ้ายกำโป๊ง”
“โอย ฉันไม่เคยคิดยังง้าน”
“เท่านั้นยังไม่พอ อ้ายรู้มั้ยว่าไอ้ใจ๋ลูกข้ามันต้องเสียใจเสียน้ำตาให้ไอ้ไฮโซเมืองกรุงนั่นขนาดไหน”
“โอย..”
“พ่อ!”
สมใจร้องทัก สมศรีรีบสะกิด
“ตาหมาย! พูดอะไร”
“ข้าก็พูดเรื่องจริง”
“ไม่จริง ฉันไม่เคยเสียใจเสียน้ำตาให้ไอ้ไฮโซอะไรนั่นซักกะหยด รู้ไว้ด้วย”
สมใจยังปากแข็งพูดจบวิ่งออกไป ปลัดจืดมองด้วยความห่วงใย คำปุยรีบวิ่งตามออกไป
“อ้าว!”
สมหมายตกใจ แถมโดนสมศรีตีที่แขนอีก
“นั่นไง อยู่ดีไม่ว่าดี เฮ้อ แค่นี้ยังปวดกบาลไม่พอรึไงห๊า ตาหมาย”
“นั่นซิ แม่ศรี ฉันเลยหวังว่าเงินก้อนนี้ของ เอ่อของฉันมันคงจะช่วยให้พ่อหมายกะแม่ศรีหายปวดหัวได้บ้าง”
กำโป๊งได้ที
“จู่ๆ ไปเอาเงินทองมาจากไหนมากมายล่ะ อ๋อนี่คงได้จากไอ้พวกที่มาถ่ายพวกเราไปออกทีวีให้คนทั่วบ้านทั่วเมืองมันดูกันล่ะซิ เอาไป๊ เอาเงินของอ้ายคืนไป๊”
“ตาหมาย...”
สมศรีรีบห้ามสมหมาย
“ตาหมายและคนม่วนแต๊มีศักดิ์ศรี อย่าคิดว่าเงินจะซื้อศักดิ์ศรีเราได้ เชอะ! คิดจะเอาเงินแค่นี้มาไถ่โทษเรอะ ไม่มีทาง! ฝันไปเต๊อะ”
“ลุงกำโป๊งเอาเงินมาจากไหนครับ ได้มาจากพวกนั้นจริงๆ รึเปล่า”
ปลัดจืดถามจากใจจริง กำโป๊งเสียงสูงตอบทันที
“ ไม่จริ้ง! ไม่ใช่ ไม่มีทาง คนอย่างอ้ายกำโป๊งก็ไม่ใช่กระจอกนะเว๊ย เงินนี่น่ะมันเงิน เงินมรดก!”
“เงินมรดก”
ทุกคนอึ้งไป
“ก็เออซิ เงินมรดก..คือพวกญาติพี่น้องของข้าในกรุงเทพฯเพิ่งจะเปิดพินัยกรรมแล้วก็แบ่งมรดกมาให้ข้าเยอะแยะ”
“โห มีมรดกก็ไม่เห็นเคยบอกอั่วเลยอ่ะ อย่างงี้อั่วก็ต้องได้แบ่งด้วยซิลุง”
ไส้อั่วรีบทวงสมบัติบ้าง
“ไว้ไปเคลียร์กันที่บ้าน แฮ่ รับไว้เถอะนะ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้คิดจะมาไถ่โทษอะไร พ่อหมายรับเงินนี่ไว้ แล้วใจคอจะโกรธจะเคืองชั้นต่อ ฉันก็ไม่ว่า”
“โถ..อ้าย”
สมศรีใจอ่อน แต่สมหมายยังเคืองแอบค้อนใส่
“อ้ายโป๊ง คราวก่อนเคยช่วยเราไว้ทีนึงก็ยังไม่ได้ใช้คืนเลย คราวนี้เราไม่กล้ารบกวนอ้ายหรอกจ๊ะ”
“รบกงรบกวนอะไรแม่ศรี เรามันคนกันเอง”
“คนกันเอง มันยังกล้าทำกันได้ลงคอ”
“ตาหมาย”
สมศรีปรามสมหมาย กำโป๊งยัดเงินใส่มือสมศรี
“รับไว้เถอะนะ ไร่ม่วนใจ๋จะได้ไม่ต้องตกเป็นของไอ้พวกมาเฟียนั่น ขืนช้ามันจะมาไม้ไหนอีกก็ไม่รู้นะ” “ผมเห็นด้วยกับลุงกำโป๊งนะครับ ลุงหมาย”
ปลัดจืดเอ่ยขึ้น กำโป๊งแอบใจชื้น
“ต้องเชื่อพ่อปลัดเขา”
สมหมายยังมอง ทุกคนแอบลุ้น
“เห็นแก่ไร่ม่วนใจ๋ เห็นแก่พี่น้องม่วนแต๊ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยกโทษให้นะอ้ายโป๊ง”
ทุกคนดีใจ แคบหมู กับไส้อั่วเฮลั่นดีใจที่มีเงินไถ่ที่ใร่ชาม่วนใจ๋คืนมา

เวลาต่อจากนั้น สมใจนั่งกอดเข่าด้วยความเศร้า โดยมีคำปุยนั่งอยู่ด้วย
“ลืมอะไร ฉันไม่ได้เจ็บ”
สมใจเอ่ยขึ้น คำปุยจึงแอบพูดลอยๆ
“เบื่อนักแม่คนปากแข็ง”
“อะไร ใครปากแข็ง”
“นั่งกันอยู่สองคน ก็แกน่ะซิ ปากแข็งๆ”
คำปุยเอามือจิ้มหน้าผากสมใจย้ำๆ
“โอ๊ย! นังปุ๋ย! นังเปรต! เจ็บนะเว้ย!”
“นั่นแน่ะ แล้วบอกว่าไม่เจ็บ”
“แกจะไปไหนก็ไปไป๊ ฉันอยากอยู่คนเดียว”
“เชิญเลย เชิญอยู่ไปคนเดียวเล๊ย ถ้าขืนยังปากแข็งหยั่งเงี้ย มีหวังชาตินี้ได้ โหนคานต่องแต่งอยู่คนเดียวแน่ๆ”
สมใจตีคำปุย
“นังปุ๋ย!”
“เชิญโหนไปคนเดียวเถอะนะยะ ฉันไม่อยู่โหนกะแกแน่ ฮ่าๆ ไปละ”
สมใจวิ่งไล่ตี กระโดดเตะ แต่ไม่ทัน คำปุยวิ่งหนีไปก่อนแล้ว
“ไอ้เพื่อนบ้า!”
สมใจหงุดหงิดโดนจี้ใจดำก่อนจะเศร้าลง ทันใดนั้นอาเฟยและสมุนเดินมาพอดิบพอดี
“อารมณ์เสียอะไร ใครทำให้เธอโกรธ บอกฉันได้นะ จะไปจัดการให้ ไม่คิดดอกเบี้ย”
สมุนสองคนหัวเราะอย่างสะใจ
“แม่แกตายเหรอ”
สมุนชะงักกึก ปรี่จะเข้ามาหาสมใจแต่อาเฟยร้องห้าม
“เฮ่ย! อย่าทำร้ายลูกหนี้คนสวยของเราอย่างนี้ซิ เดี๋ยวฉันก็อดได้เก็บดอกเบี้ยกันพอดี”
“แน่ใจได้ยังไงว่าแกยังเป็นเจ้าหนี้ฉันอยู่”
สมใจยิ้มอย่างผู้ชนะ จนอาเฟยชะงัก
“หมายความว่ายังไง”

สมใจไม่ยอมตอบ เพราะมั่นใจว่ากำโป๊งจะเอาเงินมาช่วยไร่ชาม่วนใจ๋ไว้ได้อย่างแน่นอน
ทางด้านอาเฟยเข้าไปเก็บดอกเบี้ยที่บ้านสมใจ แต่ถูกสมหมายขว้างซองเงินใส่อกอาเฟยอย่างไม่เกรงใจ

“เอาไป แล้วก็ฝากไปบอกให้ป๊ามาเฟียของเอ็งด้วยว่า เลิกฝันได้แล้วว่าชาตินี้ข้าจะขายไร่ม่วนใจ๋ให้มัน เพราะว่าฝันของมันไม่มีทางเป็นจริงเด็ดขาด”
ทุกคนดีใจ ส่วนอาเฟยและสมุนยังไม่เข้าใจว่าสมหมายไปเอาเงินมาจากไหน
“เรื่องนี้ มีฉันและทุกคนในที่นี้เป็นพยาน อย่าคิดเล่ห์เหลี่ยมอีก ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่”
ปลัดจืดโพล่งขึ้น สมุนอาเฟยเริ่มโกรธขยับตัวจะปรี่เข้าหาปลัด แต่สมหมายสมหมายคว้าปืนลูกซอง ปลัดจืด กำโป๊ง สมศรี สมใจ แม้แต่คำปุย ไส้อั่ว และแคบหมู ก็พร้อมสู้
“ยิงผู้ร้ายที่บุกรุกบ้านเราไส้แตกเพื่อป้องกันตัวนี่ไม่ติดคุกใช่มั้ยพ่อปลัด”
สมหมายเอ่ยอย่างไม่กลัวอิทธิพล ปลัดจืดยิ้มแทนคำตอบ สมหมายกระชับปืนลูกซอง ทุกคนพร้อมลุย สมุนอาเฟยเริ่มกลัว
“กลับ!”
อาเฟยกับสมุนล่าถอยออกไป ทุกคนดีใจเฮกันลั่น กอดกันกลม สมหมายเผลอกอดกับกำโป๊งก่อนจะนึกได้รีบผละออก สมใจเผลอกอดปลัดจืด ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับอึ้งทำตัวไม่ถูก สมใจนึกขึ้นได้เลยเฉไฉตบไหล่แทน ปลัดจืดแอบยิ้มเพียงเท่านี้ก็มีความสุขแล้ว

คืนนั้นที่บ้านอาฟง อาฟงโกรธมากที่สมหมายหาเงินมาคืนได้ทั้งต้นทั้งดอกจนครบจำนวน
“ไอ้พวกโง่! ยังมีหน้ากลับมาให้อั๊วเห็นหน้า ทำไมไม่เผาบ้านมันซะเลยห๊า!”
สมุนมองกลับมาที่อาเฟย
“อั๊วเองล่ะป๊า อั๊วเป็นคนสั่งให้ถอย”
อาเฟยรีบอธิบายกับพ่อ อาฟงโกรธลูกชายจึงด่ากลับ
“ลื้อมันอ่อนอาตี๋น้อย ใจอ่อนอย่างนี้จะเป็นมาเฟียใหญ่อย่างอั๊วได้ยังไง อยากจะเป็นมาเฟียใจมันต้องเหี้ยม เข้าใจมั้ย”
อาเฟยนั่งนิ่ง
“เสียแรงที่อั๊วอุตส่าห์เลี้ยงดูสั่งสอนหวังจะให้ลื้อเป็นมาเฟียเหมือนอั๊ว เอาล่ะ! อั๊วจะให้พวกลื้อแก้ตัวอีกครั้ง”
“แก้ตัว ยังไงเหรอป๊า”
“ไอ้หมายมันทำให้อั๊วแค้น เพราะฉะนั้น แค้นนี้ต้องชำระ”
Vอาฟงแค้นสมหมายมากเพราะไมได้ไร่ชาม่วนใจ๋ จึงคิดให้อาเฟยกลับไปแก้แค้นอีกครั้ง

บ่ายวันใหม่ที่ไร่ชาม่วนใจ๋อันเขียวขจี สมใจยืนมองอยู่ไร่ชาอย่างมีความสุข และแอบคิดถึงเจ้าคุณขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ส่วนสมหมายกับสมศรี ยืนมองไร่ชาอยู่อีกมุมหนึ่ง
“ในที่สุด ไอ้ใจ๋มันก็ได้ไร่ม่วนใจ๋ ได้ชีวิตของมันกลับคืนมา”
สมศรีหน้านิ่ง
“อ้าว แม่ศรีไม่ดีใจเรอะ”
“ได้ชีวิตแต่ไม่มีจิตใจ มันจะมีประโยชน์อะไรฮึ ตาหมาย”
สมศรีรู้ดีว่าสมใจยังคงคิดถึงเจ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลง แต่สมหมายยังคงมองหน้าสมศรีด้วยความงง
“จิตใจ”
สมศรีถอนใจอีกเฮือก มองลูกสาวอย่างสงสารและเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง สมหมายหันไปมองสมใจ
ที่ยืนมองไร่ชาด้วยดวงตาแสนเศร้า

เช้าวันใหม่ ที่บริษัทก้องเกียรติและกิ่งแก้ว เจ้าคุณมาพาเพื่อนแต่เช้า
“วันนี้นึกยังไงมาถึงนี่”
กิ่งแก้วถามในมือเสิร์ฟกาแฟให้เจ้าคุณไปด้วย
“เรื่องสมใจเป็นไงบ้าง”
“เรียบร้อย ทุกอย่างเรียบร้อย”
ก้องเกียรติรายงาน
เจ้าคุณดีใจอย่างซึมๆ
“เจ้าคุณ แกล่ะ เป็นไงบ้าง”
กิ่งแก้วถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง เจ้าคุณฝืนตอบ
“ก็ โอเค”
“หน้าตาแกโอเคมากเลย”
กิ่งแก้วรีบประชดกลับ
“เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาลนะยะ คิดเหรอว่าจะโกหกฉันได้”
เจ้าคุณรีบหลบตา
“ไอ้คุณ..แกชอบสมใจจริงๆ เหรอวะ”
ก้องเกียรติถามเพื่อความมั่นใจ เจ้าคุณหลบตาไปอีก
“ไอ้คุณมันไม่ได้ชอบสมใจหรอก มันรักเลยแหละ ใช่มั้ย”
กิ่งแก้วถามวัดใจ เจ้าคุณตวัดสายตามองกิ่งแก้วคล้ายจะเถียง แต่กิ่งแก้วสวนเข้าอีกดอก
“ใช่มั้ย อย่าโกหก!”
เจ้าคุณเฉไฉถอนใจ ไม่ยอมตอบ
“แกนี่มันปากแข็งจริงๆ นะ จริงซิ ตั้งแต่คบกันมาฉันยังไม่เคยได้ยินแกบอกรักผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากคุณหญิงแม่ของแก”
“ตกลงแกรักสมใจรึเปล่าวะ ไอ้คุณ”
ก้องเกียรติอยากรู้ความจริง เจ้าคุณแกล้งเซ็ง
“นี่พวกแกจะถามทำไมวะเนี่ย”
“ก็ถามให้แกพูดไง หัดพูดหัดบอกให้คนอื่นเขารู้ซะบ้าง”
“..ก่อนที่มันจะสายเกินไป”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วนึกห่วงเจ้าคุณจึงไล่ถามเรื่องสมใจ แต่ยิ่งไร้คำตอบจากคำพูด แต่สายตาและการกระทำเจ้าคุณรักสมใจเต็มหัวใจ

เวลาต่อมา สมใจนั่งเหม่อลอยสายตาทอดยาวๆกลไปข้างหน้า ท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามของม่วนแต๊ จู่ๆคำปุยวิ่งหน้าตาตื่นเต้นเข้ามา
“ไอ้ใจ๋! ไอ้ใจ๋!”
คำปุยหอบจนแทบพูดไม่ออก
“เอ้าๆ แหม ยังกะหมาหอบ ใจเย็นๆ นังปุ๋ย มีอะไร”
“มีซิ มีเยอะด้วยล่ะแก”
สมใจสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“มีอะไร”
“ดูซิ ใครมา”
คำปุยหันไปข้างหลัง สมใจชะโงกมองตามแล้วต้องตกใจเมื่อคนที่มาหาเธอคือโก้ อดีตคนรักที่ดโนบังคับให้แต่งงานกับคนที่แม่เลือกให้
“ใจ๋”
โก้ยิ้มให้สมใจ
“พี่..โก้..”
สมใจพูดไม่ออก ไม่รู้ดีใจหรือประหลาดใจระคนกัน

เวลาต่อมา โก้และสมใจคุยกันตามลำพัง
“พี่รู้ว่าใจ๋ยังโกรธพี่อยู่”
สมใจยังคงประหลาดใจว่าอยู่ดีๆทำไมโก้ถึงกลับมาหาตนอีกครั้ง
“พี่มาขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยนะใจ๋”
สมใจเก็บกลืนความเจ็บปวด
“พี่โก้ต้องการอะไร”
“พี่อยากให้ใจ๋ยกโทษให้พี่”
“เพื่อ..”
“เพื่อ..เราจะได้รักกันเหมือนเดิม”
“อะไรนะ”
สมใจตกใจ โก้ปราดเข้าไปจับมือสมใจไว้
“นะ..ใจ๋!”
สมใจจะสะบัดมือ แต่โก้รั้งไว้
“ใจ๋..ฟังพี่ก่อน ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่ไม่เคยมีความสุขเลย ตั้งแต่วินาทีแรกที่ต้องจากใจ๋ไป
สมใจนิ่งฟัง
“ใจ๋คงจะคิดว่าพี่มีความสุขที่แต่งงานกับน้องนุช แต่ใจ๋คงไม่รู้หรอกว่าการที่ต้องแต่งงานกับคนที่เราไม่ได้รัก มันทรมานแค่ไหน”
“พี่โก้ก็คงจะไม่รู้ว่าการที่คนที่เรารักทิ้งเราไปแต่งงานกับคนอื่น มันก็ทรมานสุดๆเหมือนกัน”
“พี่รู้ซิใจ๋ แต่มันไม่ใช่ความต้องการของพี่ พี่ถูกคุณพ่อคุณแม่บังคับ แล้วตอนนี้ทุกอย่างมันก็พังหมดแล้ว”
สมใจมองโก้
“น้องนุชขอหย่ากับพี่แล้ว”
“อะไรนะ”
สมใจตกใจที่รู้ว่าชีวิตแต่งงานของโก้ล้มเหลว
“เขาทนไม่ได้ที่ในหัวใจของพี่มีแต่ใจ๋คนเดียว”
สมใจอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน
“พี่กลับมาหาใจ๋แล้ว เรากลับมารักกันเหมือนเดิมได้มั้ยใจ๋”
-สมใจยังอึ้ง แต่คำปุยที่แอบซุ่มฟังอยู่อย่างเครียดพยายามเงี่ยหูฟัง
“ไอ้ใจ๋เอ๊ย..ไอ้ใจ๋”
คำปุยหันไปเจอกับปลัดจืดที่ยืนอึ้งอยู่ด้านหลังเช่นกัน
“คุณพระ! ปลัด!”
ปลัดจืดยังมองสมใจกับโก้ด้วยสีหน้าหมดหวัง
“พุธโธ ธัมโม สังโฆ!”
ปลัดจืดหน้าเศร้าแล้วเดินออกมาทันที
เวลาต่อมา ปลัดจืดเดินไปที่บึงน้ำด้วยใบหน้าเศร้า คิดถึงภาพที่โก้กลับมาขอคืนดีสมใจ ปลัดจืดระบายอารมณ์ปลดปล่อย วิ่งกระโดดลงน้ำ ต่อยน้ำกระจายตะโกนโวยวายลั่น หวานเจี๊ยบชะงักเมื่อเห็นปลัดจืดอยู่ในอารมณ์นั้น

คืนนั้นที่บ้านสมใจ หวานเจี๊ยบ คำปุยและแคบหมูกำลังคุยกันออกรส
“ปลัดจืดคนเดียวซะที่ไหนล่ะนังหวานเจี๊ยบ”
คำปุยกำลังจะเล่าเรื่องโก้ให้หวานเจี๊ยบฟัง
“หมายความว่าไงเจ๊ปุ๋ย”
คำปุยกำลังจะอ้าปากพูด แคบหมูแทรกขึ้นมาทันทั
“ก็หมายความว่าเจ๊ใจ๋แกก็เพี้ยนไปอีกคนเหมือนกันน่ะเซ่ เจ๊หวานเจี๊ยบ”
“ห๊า! พี่ใจ๋ก็ด้วย”
คำปุยกับแคบหมูพยักหน้ารับให้หวานเจี๊ยบ อย่างไม่เข้าใจสมใจเช่นกัน

คืนนั้น สมใจนั่งซึมอยู่ในห้องนอน แล้วค่อยๆ หยิบกล่องความหลังออกมาเปิดดูเห็นรูปคู่กับโก้ถูกฉีกวางอยู่ สมใจหยิบรูปฝั่งตัวเองกับฝั่งพี่โก้มามองอย่างครุ่นคิด ภาพความหวานชื่นในอดีตลอยเข้ามาในหัว สมใจค่อยๆ เอารูปทั้ง 2 มาเหมือนจะจับชนกัน แต่เมื่อมองลอดระหว่างช่องว่างกลางรูปสมใจกับโก้จะเห็นรูปเจ้าคุณ ที่สมใจเคยฉีกทิ้งก่อนหน้านี้วางอยู่ในกล่องด้วย สมใจชะงัก วางรูปโก้และตัวเองลง แล้วค่อยๆ หยิบภาพตัวเองกับเจ้าคุณขึ้นมาดู และคิดถึงภาพอันหวานชื่นไม่ต่างกับที่เคยมีกับโก้ สมใจค่อยๆ เอารูปทั้ง 2 มาเหมือนจะชนกัน แต่ต้องชะงักเมื่อคิดถึง ภาพรจนาวรรณด่าเธอว่านังบ้านนอก สมใจหมดแรง ปล่อยภาพร่วงจากมือลงกล่องไปอีกครั้ง
ร้องไห้สะอึกสะอื้น เพราะความเจ็บช้ำในใจยังไม่จางหายไปจากใจเธฮ

คืนเดียวกัน เจ้าคุณนั่งคิดถึงสมใจอยู่ไม่ต่างกัน เจ้าคุณคิดถึงคำพูดของก้องเกียรติและกิ่งแก้วขึ้นมา
“ตกลงแกรักสมใจรึเปล่าวะ..ไอ้คุณ?!”
“หัดพูดหัดบอกให้คนอื่นเขารู้ซะบ้าง”
“ก่อนที่มันจะสายเกินไป”
เจ้าคุณถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างครุ่นคิด

เช้าวันใหม่ ที่บ้านสมใจ แคบหมูวิ่งหน้าตาตื่นตะโกนลั่นบ้าน
“แย่แล้วๆ ตายแล้วๆ ช่วยด้วยๆ”
สมหมายกับสมศรี โผล่มาถามอย่างอยากรู้
“โอ๊ย! จะแหกปากอะไรแต่เช้าห๊านังแค๊บ”
สมศรีเอ่ยถาม
“นั่นซิ แย่แล้วๆ ตายแล้วๆ ญาติฝ่ายไหนเอ็งตายแต่เช้าห๊า นังแค๊บ”
“ญาติ ไม่รู้ฝ่ายไหนล่ะน้าหมาย”
แคบหมูยืนหอบ สมใจกับคำปุย ออกมาสมทบยืนมอง
“รู้แต่ว่าพ่อหมูแม่หมูลูกหมูในเล้าเราน่ะ ตายยกเล้า เลยจ๊ะ”
ทุกคนตกใจว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

เวลาต่อมา สมหมายกับครอบครัว และปลัดจืด เดินมาพร้อมกันที่เล้าหมู สภาพหมูนอนตายเกลื่อน โดนเชือดคอเลือดกระจาย บรรยากาศเศร้าลงอีกครั้ง
“ใครมันใจร้ายใจดำทำได้ขนาดนี้”
สมหมายเอ่ยขึ้น
“พุทโธ ธัมโม สังโฆ ชาติหน้าขอให้ไอ้คนใจร้ายมันไปเกิดเป็นหมู ให้เขาเชือดบ้างเถ๊อะ..สาธุ!”
สมศรีเอ่ยห้ามคำปุย
“นังปุ๋ยเอ๊ย เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร”
“แต่คนทำผิดต้องถูกลงโทษตามกฎหมายนะครับ”
ปลัดจืดโพล่งขึ้น สมหมายเห็นด้วย
“ใช่ ปลัดพูดถูก ใครที่มันทำผิดมันก็ต้องถูกลงโทษ”
“ว่าแต่มันเป็นใครล่ะเนี่ย”
คำปุยถามขึ้น
“..จะมีใคร”
ปลัดจืดรู้ดีว่าเป็นฝีมือใคร

ต่อจากนั้นสมหมาย สมศรี สมใจและปลัดจืด ดินทางไปบ้านอาฟง โดยสมุนและอาฟงเดินออกมาต้อนรับอย่างไม่เป็นมิตร
“ไอ๊หยา ฟ้าดินคงจะเกิดอาเพท จู่ๆ อาหมาย อาศรี อาหมวย แล้วก็หลายๆ อา ถึงได้ยกโขยงมาหาอั๊วถึงบ้าน ฮ่าๆ”
สมุนหัวเราะรับสนั่นบ้าน
“ฟ้าดินจะลงโทษเอ็งน่ะซิไอ้อาฟง”
สมหมายด่ากลับ
“เฮ่ย!! พูดหมาๆ งี้หมายความว่าไง”
“ก็หมายความว่า คนที่ลอบเข้าไปฆ่าหมูที่บ้านน้าสมหมายจะต้องถูกลงโทษไงล่ะ”
ปลัดจืดพูดอย่างเอาเรื่อง
“หมู ฆ่าหมู ฆ่าหมูแล้วมาเกี่ยวอะไรกับมาเฟียใหญ่อย่างอั๊ว ฮ่าๆ”
อาฟงแกล้งไม่รู้ สมุนหัวเราะเป็นลูกคู่
“เกี่ยวซิ น่าอับอายมากด้วยที่มาเฟียใหญ่อย่างพวกแกน่ะฆ่าได้แม้กระทั่งหมู”
สมใจด่าสวนทันที
“เฮ่ย! อาหมวย เก็บปากไว้จูบกะอาตี๋น้อยของอั๊วดีกว่ามั้ย”
“เฮ่ย!”
ปลัดจืดกับสมหมายอุทานพร้อมกัน สองคนคนปรี่จะเข้า สมุนสองคนควักปืนออกมาขู่
“ยิงผู้บุกรุกไส้แตก ไม่ติดคุกใช่มั้ยปลัด”
อาฟงย้อนคำสมหมายที่เคยพูดไว้ สองฝั่งจ้องตากันเขม็ง
“ลื้อทำอย่างนี้ทำไมอาฟง โกรธที่ไม่ได้ไร่ชาของพวกเราไปใช่มั้ย”
สมศรีเอ่ยขึ้น
“ฮ่าๆ ถามตรงอย่างนี้ล่ะอาศรีของแท้ แล้วก็จะขอบอกให้รู้ไว้เลยนะว่า ถ้าขืนพวกลื้อยังดื้อดึง ต่อไปจะไม่ใช่แค่หมู แต่จะเป็น...”
อาฟงชี้หน้าทุกคน หัวเราะอย่างอำมหิต
“พวกลื้อๆ ฮ่าๆ”
อาเฟยจ้องหน้าสมใจ ยิ้มให้อย่างผู้ชนะ ก่อนจะเดินออกไปเช่นกัน สมหมายกับปลัดจืดฮึดฮัด สมุนยกปืนขู่ สมศรีกับสมใจดึงสมหมายและปลัดห้ามไว้ เพราะไม่มีอาวุธต่อสู้กับพวกอาฟงได้

เวลาเดียวกัน โก้โผล่มาที่บ้านสมใจ โดยมีแคบหมูและคำปุยรับหน้าไว้
“โอย พี่โก้ โผล่มาอย่างนี้คิดดีแล้วเหรอจ๊ะ รีบกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวน้าหมายมาเห็นเข้าล่ะก็
เอิ้ก นังปุ๋ยจะเป็นลม”
แคบหมูเข้าประคองคำปุย
“ใจเย็นเจ๊”
“พี่แค่อยากจะเอาดอกไม้นี่มาขอโทษใจ๋เขา”
โก้ยังยืนยันจะรอเจอสมใจ
“โอย ก็เอาไว้ไปขอโทษกันที่อื่นละกัน อย่ามาถึงนี่เลยพี่โก้”
“ใจ๋เขาหายโกรธพี่รึยัง ปุ๋ย”
โก้ถามอย่างอยากรู้
“โอย ปุ๋ยไม่รู้ ปุ๋ยไม่เห็น ขอร้องล่ะพี่โก้รีบกลับไปก่อนนะ เชื่อปุ๋ย”
“ก็ได้ งั้นพี่ฝากดอกไม้นี่ไว้ให้ใจ๋ด้วย”
“จ๊ะๆ รีบไปเถอะจ๊ะ”
คำปุยรีบรับดอกไม้ไว้ แล้วรีบไล่โก้กลับก่อนที่สมหมายจะเดินทางกลับมา
“ฝากบอกใจ๋ด้วยว่าพี่จะมาหาใหม่”
“จ๊ะๆ จะบอกให้ ว๊าย! อย่ามาอีกเล๊ย พี่โก้”
โก้เดินออกไป
“พุทโธ ธัมโม สังโฆ! เซโรงังล่ะนังปุ๋ย เฮ้อ!”
ทันใดนั้นหวานเจี๊ยบเดินเข้ามาสวนกับโก้ หวานเจี๊ยบมองด้วยความงง โก้ยิ้มให้ หวานเจี๊ยบรีบวิ่งมาหาคำปุยทันที
“เจ๊ปุ๋ย..นั่นมัน..”
แคบหมูตอบแทนคำปุย
“พี่โก้! ไฮโซกรุงเทพฯ ที่หักอกเจ๊ใจ๋ ทิ้งเจ๊ใจ๋ไปแต่งงานไงเจ๊”
“เฮ่ย! แล้วไงเนี่ย”
“จะแล้วไง เขาก็กลับมาง้อขอคืนดีกะเจ๊ใจ๋น่ะเซ่”
“เฮ๊ย! ไม่ได้นะ หวานเจี๊ยบไม่ยอมนะ”
แคบหมูอ้าปากค้างจะพูดต่ออีก แต่คำปุยผลักหน้าหงายไปก่อน
“ให้ฉันเม้าท์มั่งซินังนี่ แกไม่ยอมคนเดียวซะที่ไหนล่ะนังหวานเจี๊ยบ เฮ้อ! พ่อปลัดจืดเขาคงจะยอมร้อก!”
“ปลัดจืด สมน้ำหน้า จบจากไอ้ขุนทองก็ยังต้องมาเจอพี่โก้ ฮิฮิ เจ้ากรรมนายเวรเยอะจริงๆ นะแกไอ้ปลัดจ๋อย”
“เออ พูดถึงอ้ายขุนทอง ป่านนี้จะเป็นไงมั่งแล้วก็ไม่รู้เนอะ”
คำปุยเอ่ยถึงเจ้าคุณเพราะไม่มีใครได้ข่าวหรือกล้าพูดเรื่องเจ้าคุณอีกเลย นับตั้งแต่ความแตก

วันเดียวกัน ที่เจ้าหน้าที่โรงแรมพารจนาวรรณ กับคุณหญิงแม่เอมี่เดินชมสถานที่จัดงานแต่งงานอย่างนอบน้อม เอมี่เกาะแขนเจ้าคุณอย่างมีความสุข แต่เจ้าคุณเงียบและนิ่งเฉยไม่ยินดียินร้าย
“ห้องนี้เป็นห้องที่หรูหราอลังการเหมาะสมกับคู่วิวาห์แห่งปีคุณเอมี่และคุณเจ้าคุณอย่างมากฮ่ะ โดยเฉพาะสามารถรองรับแขกได้ถึง 3,000 คน ไม่นับรวมสื่อมวลชนนะฮ้า”
เจ้าหน้าที่โรงแรมรีบอธิบาย แต่เจ้าคุณขัดขึ้น
“ไม่นะ! ไม่เชิญสื่อ แล้วก็ไม่เชิญแขกเยอะขนาดนั้น”
“ได้ไงคะ มี่ไม่ยอมนะคะ เราจะแต่งงานกันทั้งทีก็ต้องเชิญแขกให้ทั่วถึง ที่สำคัญ จะต้องเชิญสื่อให้ครบ ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ วิทยุ แมกกาซีนไฮโซ...”
“ไม่!”
เจ้าคุณยืนยัน เอมี่สวนทันที
“ต้องค่ะ! ทีตอนนังสมใจ คุณคะคุณขายังยอมไปอยู่บ้านนอก ยอมให้มันได้ออกอากาศกับคุณคะคุณขาเป็นเดือนๆ ทีจะแต่งกับมี่ทำไมถึงจะต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ยอมให้ออกสื่อ คุณหญิงแม่”
เอมี่โผเข้ากอดอ้อนรจนาวรรณทันที
“นั่นซิ! จริงของหนูมี่ ทีเรื่องน่าอับอายล่ะกลับไม่อาย ทีเรื่องน่ายินดีอย่างนี้กลับจะอายขึ้นมาซะอย่างนั้น ไม่ไหวเลยจริงๆ เจ้าคุณ ใจคอจะทำให้แม่ผิดหวังไปถึงไหนนะ”
เจ้าคุณจำต้องยอมอีกตามเคย
“โอ๋ๆ นิ่งซะนะลูกมี่นะ ไม่ร้องแล้ว ใกล้จะแต่งงานแล้วมาร้องไห้อย่างนี้ไม่เป็นมงคลนะคะ เอาห้องนี้ล่ะค่ะ เชิญแขกเชิญสื่อเพียบนะคะหนูขา”
“ค่า กราบขอบพระคุณคุณหญิงทั้ง 2 ฮ่า”
เจ้าหน้าที่รับคำแล้วเดินออกไป รจนาวรรณค้อนลูกชาย ส่วนเอมี่กับคุณหญิงแม่เอมี่ยิ้มอย่างชนะ
“ตกลงตามนั้นนะคะ คุณคะคุณขาของมี่” เอมี่หันมาย้ำคำ

สีหน้าเจ้าคุณเต็มอย่างเซ็ง เพราะไม่ต้องการให้การแต่งงานเป็นข่าวออกไป







Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 23:34:47 น.
Counter : 224 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 12




ตอนบ่ายวันเดียวกัน รจนาวรรณกับเอมี่อยู่ที่คฤหาสน์ และกำลังดูรูปข่าวสังคมในหนังสือพิมพ์ เป็นภาพคุณหญิงคนอื่นๆ กำลังมอบเงินบริจาคให้หน่วยงานที่ดูแลเด็กๆ ผู้ขาดแคลน

“อืมม์ คุณหญิงอรวรรณนี่ใจบุญจริงนะ ขยันบริจาคนู่นนี่ตลอด”
รจนาวรรณเอ่ยชม
“แหวะ! พวกทำบุญเอาหน้า อยากมีรูปลง หนังสือพิมพ์น่ะซิคะคุณหญิงแม่”
เอมี่รีบขัด เจ้าคุณนั่งฟังอยู่ด้วยแต่ไม่แสดงความเห็นใดๆ
“ไม่นะ หนูมี่ แม่รู้จักคุณหญิงเธอ เธอใจบุญจริงๆ ชอบช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากตลอดเลย”
“อยากดังค่ะ ฟันธง!”
เอมี่ยังค้านต่อ ส่วนเจ้าคุณแอบคิดถึงคนม่วนแต๊ที่ทำดีไม่หวังผลตอบแทน
“คนที่เขาให้โดยไม่หวังอะไรตอบแทนน่ะ มีอยู่จริงๆ นะเอมี่”
“อะไรเนี่ย เดี๋ยวนี้คุณคะคุณขาพูดจาอะไรแบบนี้เป็นด้วยเหรอคะ ไม่อยากจะเชื่อ” เอมี่แปลกใจ
“นั่นซิ” รจนาวรรณแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
เจ้าคุณยังคงพูดต่อ
“และถึงแม้คนที่ให้เขาจะหวังอะไรตอบแทน ก็ยังดีกว่าพวกที่ไม่ทำอะไรแล้วเอาแต่นั่งวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเขาไปวันๆ ไร้ค่า”
เจ้าคุณพูดจบแล้วเดินออกไปทันที เอมี่อ้าปากค้างเหมือนถูกด่าทางอ้อม
“ห๊า! นั่น คุณคะคุณขาพูดเหรอคะ คุณหญิงแม่”
รจนาวรรณอึ้งไป “นั่นซิ”
“แล้ว แล้ว ตะกี๊คุณคะคุณขาด่าใครคะ ไร้ค่า”
เอมี่ยังไม่เข้าใจ
รจนาวรรณเหลือบตามามองพูดคำเดิม “นั่นซิ”
“อร้าย!”
เอมี่เริ่มรู้ตัวว่าถูกด่า ไมเคิลกับมะขิ่น แอบหัวเราะตาม ส่วนรจนาวรรณยังมองตามเจ้าคุณไม่คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากเช่นนี้

เวลาต่อจากนั้น เจ้าคุณนั่งคิดถึงสมใจและม่วนแต๊ คิดถึงบรรยากาศของการช่วยเหลือกัน และวันที่ติดฝนต้องเอาใบตองมาคลุมฝนให้สมใจอย่างมีความสุข
“ใจ๋”
เจ้าคุณยังคงคิดถึงสมใจตลอดเวลาและอยากอธิบายในสิ่งที่อยู่ในใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้

คืนนั้น สมใจเดินเข้ามามองพ่อกับแม่ที่นั่งซึมอยู่ด้วยกัน ถอนหายใจนิดนึงก่อนจะเดินเข้ามานั่งใกล้พ่อกับแม่
“ไง ไอ้ใจ๋ หิวข้าวแล้วเหรอ รอแป๊บนึง”
สมศรีหันมาคุยกับลูกสาว สมใจดึงมือแม่ไว้ด้วยความห่วงใย
“ไม่หิวหรอกแม่ ฉันจะช่วยอะไรพ่อกับแม่ได้บ้าง”
สมศรีลูบหัวสมใจในความมีน้ำใจ
“โธ่ ใจ๋เอ๊ย”
“ไอ้ใจ๋ พ่อกับแม่ขอโทษนะที่ทำให้เอ็งต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้”
สมหมายรีบพูดขึ้น
“พ่อ! ทำไมพ่อพูดแบบนี้ ฉันต้องขอบคุณพ่อ ขอบคุณแม่ต่างหาก ที่ทำให้ฉันภูมิใจที่สุดที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อสมหมายกับแม่สมศรี”
สมใจเข้าไปกอดสมหมายและจับมือสมศรีไว้แน่น จนทั้งพ่อน้ำตาซึมด้วยความปลาบปลื้ม
“ไอ้ใจ๋”
สามคนพ่อแม่ลูกกอดกันแน่น คำปุยกับแคบหมู แอบปาดน้ำตาแล้วกอดกันแน่นอยู่อีกมุมหนึ่ง

อีกมุมของบ้านสมใจ หวานเจียบมาคอยดูแลปลัดจืดที่ยังบาดเจ็บอยู่ดว้ยการถือข้าวต้มมาให้
“อื่อ กินซะ!”
ปลัดจืดยังมองอยู่
“นี่อย่าคิดว่าฉันเป็นห่วงอะไรนายมากมายนะ ฉันแค่อยากให้นายหายเร็วๆ จะได้มาช่วยพี่ใจ๋ช่วยลุงหมายเขาต่างหาก”
ปลัดจืดหยิบถ้วยข้าวต้มมาแล้วตักใส่ปาก
“ขอบใจ ทำเองเหรอ”
“เออซิยะ”
“พอกินได้”
“หืมม์ นี่ถ้าไม่ติดพี่ใจ๋นะแม่จะปล่อยให้อดตายซะให้เข็ด กินเร็วๆ จะได้กินยา”
หวานเจี๊ยบยื่นยาให้ปลัดจืด
“อ้าวเฮ๊ย! อิ่มแล้วเหรอ”
“เออ ไม่อร่อย”
ปลัดจืดกวนแต่วันนี้หวานเจี๊ยบไม่มีอารมณ์ต่อปากต่อคำด้วย
“หืมม์ เฮ้อ!”
“ ไงเนี่ย ทำไมวันนี้ไม่เฮี้ยนวะ”
“ถ้าเป็นเมื่อวานนะฉันตบแกปากหักไปแล้วล่ะ แต่วันเนี้ย สงสารพี่ใจ๋ว่ะ หมดแรง”
ปลัดจืดมองหวานเจี๊ยบ เพราะคิดเหมือนสงสารสมใจดเหมือนกัน
“ปลัด! นายว่าลุงหมายจะยอมขายไร่ม่วนใจ๋มั้ย”
ปลัดจืดครุ่นคิด
“ไม่น่ะ ฉันมั่นใจว่ามันจะต้องมีทางออกที่ดีกว่านั้น”
ปลัดจืดกับหวานเจียบกำลังคุยกัน ทันใดนั้นเสียงชาวลบ้านตะโกนลั่นมาแต่ไกล
“แย่แล้ว! ช่วยด้วยๆ!”
ปลัดจืดกับหวานเจี๊ยบตกใจ มองหน้ากัน

เวลาต่อจากนั้นทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้านสมใจอีกครั้ง ชาวบ้านมากันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยมีลำยองกับลำใยเป็นแกนนำอีกเช่นเคย
“แย่แล้วนะพ่อหมาย ถ้าไม่ได้เงินไปรักษาตัวในเมืองล่ะก็ ไอ้ฟ้าลั่นหลานแม่อุ๊ยมันตายแน่”
“โฮ! ฟ้าลั่นหลานยาย โฮๆ”
แม่อุ๊ยร้องไห้กอดหลานไว้
“แย่แล้วๆ”
ชาวบ้านต่างมีปัญหาไม่ต่างกัน สมใจหนักใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ทำไงดีล่ะพ่อ”
ปลัดจืดพุ่งเข้ามาพร้อมหวานเจี๊ยบ
“ให้ผมพาไปอนามัยก่อนนะครับอุ๊ย”
“อู๊ย! ไปมาแล้วจ๊ะปลัด หมอที่อนามัยบอกว่าต้องส่งเข้าในเมือง และค่ารักษาก็คงจะหนักเอาการอยู่ อุ๊ยแกก็หวังจะมาพึ่งลุงหมายกะป้าศรีนี่แหละจ๊ะ”
ลำใยรีบขัดขึ้น
“โฮ! พ่อหมาย แม่ศรี ช่วยไอ้ฟ้าลั่นมันด้วย โฮๆ”
แม่อุ๊ยรีบขอความช่วยเหลือ
สมหมายกับสมศรี ใจหายวาบ
“ใจเย็นๆ นะแม่อุ๊ยใจเย็นๆ”
สมศรีปลอบ
“เย็นอีกแล้ว เย็นไม่ไหวแล้ว ฉันว่าพ่อหมายกะแม่ศรีน่าจะรีบหาเงินช่วยเหลืออุ๊ยแกนะ โถ คนเก่าคนแก่ช่วยงานไร่มาตั้งหลายสิบปี จะใจดำทำกันได้ลงคอเชียวเรอะ”
ลำยองใส่สมหมายกับสมศรีทันที สมใจเริ่มฉุน
“น้าลำยอง พูดจาอย่างนี้ได้ยังไง”
“อ๊ะๆ จะไปรู้เหรอ ก็ไม่เห็นพ่อหมายจะตัดสินใจทำอะไรซักทีนี่ โถ น่าเวทนาจริงๆ นี่ถ้าฉันช่วยอะไรได้ฉันก็อยากจะช่วยอุ๊ยนะอุ๊ยนะ เออ จริงซินึกออกแล้ว”
“นึกอะไรออกเหรอจ๊ะ แม่จ๋า”
ลำใยช่วยเสริม
“พ่อหมาย แม่ศรี ฉันพอจะรู้จักคนที่เขาน่าจะช่วยเราได้”
“ใครกันแม่ลำยอง ใครที่ไหนเขาจะมาช่วยเราได้”
สมหมายถามขึ้น
“คืองี้ เขาเป็นเศรษฐีต่างเมือง น่าจะช่วยเรื่องเงินๆ ทองๆ ให้พ่อหมายได้”
“ใครกัน อย่าเลยพ่อ”
สมใจเอ่ยห้าม
“นั่นซิ ไอ้พวกคนรวยๆ ข้าไม่เคยไว้ใจ”
ปลัดจืด สมศรี หวานเจี๊ยบ คำปุย และแคบหมู ต่างเห็นด้วย แต่ลำยองเริ่มหงุดหงิด ทันใดนั้น แม่อุ๊ยร้องกรี๊ดลั่น เพราะฟ้าลั่นหลานแม่อุ๊ยเริ่มชักตาตั้ง
“โฮๆ ช่วยด้วย ไอ้ลั่น ไอ้ลั่น”
ลำยองกับลำใยส่งเสียงร้องโวยวายขึ้นมา
“ตายละ พ่อหมาย อย่ามัวชักช้าเลย จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ”
ลำยองเร่ง ในขณะที่สมหมาย สมศรีและสมใจ สามคนพ่อแม่ลูกมองหน้ากันด้วยความเครียด

เวลาเดียวกัน รจนาวรรณเดินมาส่งเอมี่หน้าประตูคฤหาสถ์ โดยสั่งเจ้าคุณให้ขับรถไปส่งเอมี่ให้ถึงบ้าน
“พาหนูมี่ไปส่งบ้านให้เรียบร้อยนะจ๊ะ แล้วถ้าหนูจะอยู่เป็นเพื่อนหนูมี่อีกซักหน่อยก็ไม่เป็นไร คนกำลังท้องกำลังไส้”
เจ้าคุณเดินตาม ไม่ได้พูดอะไรโต้ตอบ
“เฮ้อ! มี่สงสารคุณคะคุณขาจังค่ะ ต้องขับรถดึกๆ ดื่นๆ นี่ถ้าแต่งงานแล้วมี่ย้ายมาอยู่กับคุณคะคุณขาก็คงไม่ต้องยุ่งยากแบบนี้นะคะ คุณหญิงแม่”
“นั่นน่ะซิ แต่ แหม ทำไม๊ทำไมซินแสกี่คนต่อกี่คนก็บอกเหมือนกันหมดว่าดวงของหนู 2 คนน่ะยังหาฤกษ์ดีที่จะแต่งงานกันยังไม่ได้”
“โธ่! คุณหญิงแม่ขา นั่นมันเรื่องงมงายไร้สาระ สมัยนี้น่ะ ฤกษ์ดีก็คือฤกษ์สะดวกนะคะ”
เอมี่อยากรีบแต่งเพราะท้องโตขึ้นทุกวัน
“อืม ก็จริงเหมือนกันนะ”
“ถ้างั้นหมั้นเช้า แล้วแต่งเย็นเลยนะคะคุณหญิงแม่”
เอมี่รีบเสนอฤกษ์ รจนาวรรณชะงักไป
“เอ๊ะ! นี่เจ้าคุณยังไม่เอาแหวนหมั้นไปสวมให้หนูมี่อีกเหรอนี่”
เจ้าคุณถอนใจ เอมี่ได้ทีชูมือข้างซ้ายที่ปราศจากแหวนมั้นเชิงฟ้องรจนาวรรณ
“ยังค่ะ”
รจนาวรรณเสียงเข้มขึ้น
“เจ้าคุณ!”
“โธ่ แม่ครับ ผม...”
“ผมอะไร นี่ใจคอหนูจะดื้อแม่ไปถึงไหน จนป่านนี้ยังลืมนังสาวไร่ชานั่นไม่ลงอีกเรอะ”
เจ้าคุณนิ่งไป
“นั่นไงคะ ไม่ปฎิเสธแปลว่าใช่ ฮือๆ”
เอมี่มารยา ร้องไห้ให้รจนาวรรณสงสาร
“เจ้าคุณ! ฟังแม่ให้ดีนะ แม่ขอสั่งให้หนูรีบลืมนังเด็กนั่นให้เร็วที่สุด แล้วเอาแหวนหมั้นมาสวมให้หนูมี่ซะ จากนั้น แม่จะรีบหาฤกษ์สะดวกจัดงานแต่งงานของหนูกับหนูมี่อย่างเร็วที่สุด”
รจนาวรรรสั่งเจ้าคุณด้วยแววตาจริงจัง
“ว๊าย! คุณหญิงแม่ คนดีที่สุดของเอมี่”
เอมี่ดีใจสุดๆ กระโดดกอดรจนาวรรณ ส่วนเจ้าคุณยังคงเต็มไปด้วยความเซ็งไม่อยากขัดใจแม่ แต่หัวใจก็ยังลืมใจสมใจไม่ได้อยู่ดี

คืนนั้น ที่บ้านของสมใจ ชาวบ้านยังคงคุยกันเรื่องปัญหาของคนม่วนแต๊อีกเช่นเคย
“ขอบใจมากนะแม่ลำยองที่ช่วยเป็นธุระให้”
ทุกคนต่างนั่งหน้าเศร้า ต่างกับลำยองกับลำใยที่ชื่นมื่นมากกว่าใครเพื่อน
“ยินดีเจ๊า ฉันอนุโมทนาบุญกับพ่อหมาย แม่ศรี แล้วก็ไอ้ใจ๋ด้วยนะที่ตัดสินใจแบบนี้”
ลำยองยิ้มดีใจผิดปกติ หวายเจี๊ยบคงไม่เข้าใจการแก้ปัญฟหาของสมหมาย
“ตัดสินใจจำนองไร่ชาม่วนใจ๋เอาเงินไปช่วยเด็กคนเดียวเนี่ยนะ”
สมศรีรีบปราม
“หวานเจี๊ยบ ชีวิต หนึ่งชีวิตเชียวนะเว๊ย”
“ประเสริฐที่สุด น้ำใจป้าศรีช่างประเสริฐที่สุด ไม่เหมือนแก อีนังเค็มปิ๊ด”
ลำใยกับหวานเจี๊ยบมองหน้าจะตีกันอีกครั้ง จนสมใจโวยขึ้นมา
“พอทีน่า จะทะเลาะกันไปถึงไหน แค่นี้มันก็แย่พออยู่แล้ว”
“ว่าแต่ น้าลำยองแน่ใจนะครับว่าเศรษฐีอะไรของน้าน่ะ เชื่อใจได้”
“ใช่ เป็นใคร อะไร ยังไง ก็ไม่รู้”
หวานเจี๊ยบยังไม่ไว้วางใจ
“นังนี่! เป็นเจ้าของไร่รึยังไง”
ลำยองดุหวานเจี๊ยบ
“นั่นซิ ฉันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ อยู่ดีๆ ทำไมเขาถึงช่วยเราง่ายๆ แบบนี้”
สมใจนึกสงสัยขึ้นมา
“ผมก็คิดเหมือนใจ๋ ลุงหมายน่าจะใจเย็นอีกนิด รอให้ผมเข้าไปคุยกับในเมืองให้อีกซักครั้ง”
ปลัดจืดทักท้วง
“ขืนช้า ไอ้ฟ้าลั่นมันคงตายก่อนซิจ๊ะปลัด”
ลำใยรีบตัดบท ส่วนลำยองตีหน้าซื่อ
“โธ่! อย่าคิดมากกันนักเลย คนดีๆ มีน้ำใจมีอยู่เยอะแยะ เศรษฐีคนเนี้ยเขาเป็นคนเก็บตัว อีกอย่างเขาก็รวยมาก กะอีแค่ที่ดินแค่เนี้ยเค้าไม่มีทางโกงพ่อหมายหรอก แล้วพ่อหมายก็ขอยืมเงินเขาแค่แป๊บเดียวไม่ใช่เรอะ พอใบชาใหม่ออก เราก็มีเงินไปคืนเขา แค่นี้ก็จบ”
สมหมายถอนใจเฮือก สมศรีตบไหล่ปลอบอย่างเห็นใจสามี ลำยองยื่นเงินให้
“อ่ะ! นี่เงินที่เหลือจากที่ช่วยไอ้ฟ้าลั่นมัน แล้วก็สัญญากู้ยืมที่ฉันจัดการให้ไปเรียบร้อย หมดธุระแล้ว ฉันลาล่ะนะ ไปซิ รีบไป”
ลำใยรีบร่ำลาสมหมาย สมศรี และปลัดจืด แล้วรีบออกไปทันที
“แม่ศรี ฉัน”
สมหมายยังไม่รู้ว่าตัดสินใจผิดหรือถูก
“เอาน่า แกทำถูกแล้วล่ะ ตาหมาย”
สมศรีจับมือสมหมายแน่น
“ไอ้ใจ๋”
สมใจเข้าไปกอดพ่อ
“ไม่เป็นไรพ่อ ใบชาใหม่ออกมาเมื่อไหร่ เราก็จะได้ม่วนใจ๋กลับมา”
ทุกคนเศร้า สมใจยังแอบหวั่นใจ ครุ่นคิดว่าไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีกับคนม่วนแต๊อีก

เช้าวันใหม่ บ้านอาฟงกำลังหัวเราะกันอย่างมีความสุข
“ฮ่าๆเ ยี่ยม เยี่ยมจริงๆ ในที่สุด ไอ้หมายมันก็เสร็จอั๊ว ฮ่าๆ แหม ลื้อนี่มันร้ายจริงๆ อาลำยอง”
อาฟงเอ่ยชม
“ต๊าย เถ้าแก่ใหญ่คะ ร้ายเร้ยอะไร ฟังดูแรง อย่างนี้เค้าเรียกว่าฉลาดค่ะ เถ้าแก่ใหญ่”
“เออ ฉลาด ฉลาดมาก”
“เดี๋ยวป๊า! แล้วถ้าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พวกมันเก็บใบชาใหม่ เอาเงินมาคืนเรา แล้วป๊าจะทำไง”
อาเฟยถามขึ้น
“เฮ๊ย! อาฟง ลื้อซี้ซั้วถามอะไรเนี่ย พวกมันอยากเก็บใบชาก็ให้มันเก็บไปซิ มันเก็บได้ เราก็เผาอีกได้นี่หว่า ฮ่าๆ ทีนี้มันจะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนมาไถ่ไร่ชาคืน
“แล้วไร่ชาม่วนใจ๋ก็จะต้องเป็นของเถ้าแก่ใหญ่ คริๆ”
ลำยองกับลำใย แบมือขอเงินพร้อมกัน อาฟงพยักหน้าให้อาเฟยยื่นเงินก้อนนึงให้สองแม่ลูกไปสูดดมอย่างชื่นใจ
“ม่วนใจ๋!”
อาเฟยยิ้มร้ายสะใจที่จะเอาชนะคนม่วนแต๊ได้ โดยมีลำยองกับลำใยเป็นสายลับให้อย่างแนบเนียน

เวลาต่อมาที่บ้านกำโป๊ง สองลุงหลานยังคงวิจารณ์เรื่องสมหมายเอาไร่ชาม่วนใจ๋ไปจำนอง
“เอ็งว่าไงนะไอ้อั่ว พ่อหมายเอาไร่ชาม่วนใจ๋ไปจำนอง!”
กำโป๊งตกใจ
“ใช่จ้ะลุง นังแค๊บมันคอนเฟิร์ม!”
“นี่มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอวะ โธ่!”
“นี่ถ้าฉันเป็นลุงนะ ฉันจะโทรศัพท์ไปบอกอ้ายขุนทอง รับรอง อ้ายขุนทองต้องมาช่วยเจ๊ใจ๋ล้านเปอร์เซนต์ ฟันธง!”
กำโป๊งตีหัวไส้อั่วทันที
“นี่แน่ะ! ฟันธง หนอย ใครถามความเห็นเอ็งวะ ไอ้อั่ว อีกอย่างสอนแล้วไม่จำ อย่าเอ่ยชื่ออ้ายขุนทองให้ใครเขาได้ยินเชียว คนที่นี่เขาโกรธเกลียดมันยังกะขี้ ไป๊! จะไปเล่นที่ไหนก็ไป!”
“นั่น! ได้ข่าวแล้วไล่แหล่งข่าวทุกทีเลย”
“ไป๊!”
กำโป๊งเงื้อมะเหงก ไส้อั่วรู้ทันวิ่งหนีไปก่อน กำโป๊งอดนึกถึงชื่อของอ้ายขุนทองไม่ได้ เพราะคราวที่แล้วเจ้าคุณคือคนที่นำเงินมาช่วยชาวม่วนแต๊ไว้รอบหนึ่งแล้ว ตอนแมลงกัดกินใบชาจนชาวบ้านเดือดร้อน

บ่ายวันใหม่ ที่ห้างสรรพสินค้า เอมี่ลากเจ้าคุณมาช็อปปิ้งที่มุมสินค้าเด็กอ่อน
“ต๊าย!น่ารักจังเลย นี่ก็น่ารักๆ ดูซิคะคุณ น่ารักมั้ย”
เจ้าคุณมองไปด้วยความจำยอม
“ก็ดี”
“งั้นซื้อเก็บไว้ให้ลูกของเราเลยดีมั้ยคะ”
“ดีสิจ๊ะ”
แมทธิวโผล่เข้ามาทันที เอมี่รีบหันไปดู
“เอมี่!”
“แมทธิว! มาช็อปปิ้งเหมือนกันเหรอ”
“อืมม์ ก็ตั้งใจจะมาซื้อของใช้เบบี๋ซะหน่อย”
เอมี่สงสัยร้อนตัว
“ซื้อทำไม”
“เอ๊า! จะซื้อทำไมก็ซื้อไว้รับขวัญลูก...”
เอมี่แทบช็อก พูดไม่ออก เจ้าคุณหันมามอง
“ลูกของเธอ กับ...”
เอมี่ร้อนรน
“...ไอ้คุณเพื่อนรักของฉันน่ะซิ”
“ไม่ต้องก็ได้ ฉันกับเจ้าคุณซื้อเองได้”
“แหม ทำไมถึงพูดอย่างนั้น เรามันเพื่อนสนิทกันขนาดไหน จริงมั้ยวะไอ้คุณ”
เข้าคุณไม่ได้สนใจ
“งั้นฝากแกช่วยเอมี่เลือกของละกัน ฉันเมื่อยแล้ว”
เจ้าคุณพูดจบรีบเดินออกไป เอมี่ตะโกนตามไปแต่โดนแมทธิวรั้งไว้
“คุณคะ! คุณคะ มี่ไปด้วย”
“จะรีบไปไหน อยู่ช็อปปิ้งพร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูกก่อนซิจ๊ะ”
“ไอ้บ้า!”
เอมี่เงื้อมือจะตบ แมทธิวคว้าไว้
“อย่าฤทธิ์เยอะนักนะ รึอยากให้ฉันแฉความจริงให้ไอ้คุณมันรู้”
“อย่านะ!”
“ฮ่าๆ สะใจจริงเว้ย ในที่สุด ฉันก็ชนะไอ้คุณได้จริงๆ”
แมทธิวหัวเราะสะใจ
“ชนะยังไง จนถึงวันนี้ ฉันยังไม่เห็นเธอจะมีอะไรเหนือเจ้าคุณได้ซักอย่างเลย แมทธิว”
“โธ่! เอมี่ หน้าตาดีแต่โง่จริงๆ ฉันสามารถทำให้ไอ้คุณของเธอมันต้องมารับเลี้ยงลูกให้ฉันซะขนาดนี้ ถ้าไม่เรียกว่าฉันชนะ แล้วจะให้เรียกว่าอะไร ฮ่าๆ”
แมทธิวเดินหัวเราะออกไป ทิ้งให้เอมี่ยืนรมร์บูดอยู่ตรงนั้น
“ไอ้แมท! ไอ้เลวนรก!”
เอมี่มองแมทธิวด้วยสายตาเคียดแค้นและเห้นธาตุแท้อีกฝ่ายมากขึ้น

เวลาถัดมา เจ้าคุณเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้า เมื่อก้องเกียรติกับกิ่งแก้วเห็นเข้าจึงเรียกไว้
“ไอ้คุณ!”
เจ้าคุณยกมือทักแล้วเดินมานั่งร่วมวงด้วยในร้านกาแฟ คนในร้านเริ่มนมีมองแล้วซุบซิบกัน
“ไง”
“นึกไงมาช็อปปิ้งวะ”
ก้องเกียรติถาม
“แล้วก็ไม่โทร.ชวนมั่งเลย”
กิ่งแก้วเอ่ยทัก
“มากับเอมี่”
สองเพื่อนมองกันด้วยความงงเมื่อได้ยินเจ้าคุณบอกว่ามาเดินห้างฯกับเอมี่
“กาแฟมั้ย น้องครับๆ”
ก้องเกียรติเรียกพนักงาน
“กาแฟร้อน กาแฟดำ”
เจ้าคุณสั่ง
“ต้องขอโทษนะครับ เครื่องทำกาแฟเพิ่งจะเสียเมื่อกี๊ รับอย่างอื่นแทนก่อนได้มั้ยครับ”
พนักงานรีบรายงาน ส่วนก้องเกียรติและกิ่งแก้ว ตกใจกลัวเจ้าคุณจะวีนใส่พนักงานเหมือนที่เคยทำมา
“ใจเย็นนะเว๊ยไอ้คุณ อย่างอื่นก็อร่อย”
“ใช่ๆ”
กิ่งแก้วรีบเสริม แต่เจ้าคุณไม่ได้แสดงอาการโกรธแต่อย่างใด
“มีอะไรมั่งน้อง”
“ชาที่นี่ก็อร่อยมากครับ หอมชื่นใจ ส่งตรงจากไร่ ซักครู่นะครับ”
พนักงานวิ่งไปหยิบห่อชามา
“ชาของคนไทย พี่โชคดีมากนะครับ เพราะเหลือห่อนี้ห่อสุดท้ายแล้วด้วย”
พนักงานโชว์ห่อชาให้ดูชัด ซึ่งเป็นยี่ห้อ “ม่วนใจ๋” เจ้าคุณ กิ่งแก้ว และก้องเกียรติต่างอึ้ง
“ไอ้คุณ...”
“ได้ เอาชานี่แหละ เดี๋ยวน้อง ไม่ต้องชง”
พนักงานเต็มไปด้วยความงง แล้วส่งชาให้เจ้าคุณ เจ้าคุณเอาห่อชามาถือไว้อย่างทนุถนอม แล้วนึกได้
“เออ น้อง ขายดีมาก เหลือห่อเดียวเลยเหรอ”
“ครับ แล้วก็ไม่ส่งมาอีกเลยนะครับ ทำไมไม่รู้ จู่ๆ ก็หายเงียบไปเลย”
เจ้าคุณฟังแล้วอึ้ง ทันใดนั้น จู่ๆ ก็มีน้ำมาสาดหน้าเจ้าคุณอย่างแรงจนเปียกโชก ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วรีบลุกมาดูเจ้าคุณ
“เฮ๊ย! อะไรกันเนี่ย”
แฟนคลับไม่พอใจพุ่งจะตบตีเจ้าคุณซ้ำอีก แต่เพื่อน ๆ ดึงเอาไว้
“ใจร้าย! ไอ้เจ้าคุณใจดำ ทำกับไอ้ใจ๋อย่างนั้นได้ยังไง ยังมีหน้ามาเดินช้อปปิ้งอีกเหรอ ไอ้คนใจดำ”
กิ่งแก้วเข้ามาห้าม “นี่! หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
“พวกแกก็ด้วย! ไอ้ก้องกะนังกิ๋ง ตัวดีนัก”
แฟนคลับคว้าน้ำจะสาด แต่กิ่งแก้วกระโดดหลบได้ทัน
“ว๊าย!”
“อย่าวู่วามๆ”
เพื่อนของแฟนคลับมาลากตัวออกไป เจ้าคุณยังนั่งอึ้งอยู่ตรงนั้น
“ไอ้คุณ...”
“ฉันไม่เป็นไร”
ใบหน้าเจ้าคุณเปียกน้ำ เหลือบตาไปมองห่อชาไร่ม่วนใจ๋ในมือ เจ้าคุณคิดถึงสมใจขึ้นมาทันที เพราะครั้งหนึ่งสมใจเคยชงชาให้ดื่มแถมยังเป็นห่อสุดท้าย

คล้ายกับชาที่อยู่ในมือเจ้าคุณในเวลานี้ไม่มีผิดเพี้ยน
บ่ายนั้น กำโป๊งนั่งมองโทรศัพท์ด้วยสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด และนึกไปถึงคำพูดของไส้อั่วที่ว่า ถ้าหากรู้เรื่องไร่ชาม่วนใจ๋เจ้าคุณต้องช่วยอย่างแน่นอน กำโป๊งมองโทรศัพท์ ทำหน้าเหมือนตัดสินใจได้แล้ว

เวลาเดียวกัน มือถือของก้องเกียรติวางอยู่บนโต๊ะที่ร้านกาแฟ โชว์เบอร์กำโป๊งขึ้นมาแต่ไม่มีเสียงเพราะเป็นระบบสั่น ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว ยืนหันหลังให้ และกำลังช่วยเจ้าคุณเช็ดหน้าตาหลังจากโดนแฟนคลับสาดน้ำใส่
“ไม่เป็นไร ขอบใจๆ”
เจ้าคุณไมได้โกรธแฟนคลับ กิ่งแก้วหน้าสลดลง
“ขอโทษจริงๆ นะเจ้าคุณ เป็นเพราะฉันแท้ๆ”
“เออๆ ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร”
เอมี่ผ่านมาเห็นเจ้าคุณเนื้อตัวเลอะเทอะ รีบโวยวายทันที
“อร๊าย! นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย ทำไมคุณคะคุณขาของมี่ถึงได้เปียกซ่กแบบนี้”
เจ้าคุณตัดบท เพราะรำคาญเอมี่ “ไม่มีอะไรน่า อย่าเสียงดังได้มั้ย อายเขา”
“จะอายทำไมคะ บอกมานะ ใครทำเจ้าคุณ”
เอมี่หันไปถามเอาความกับก้องเกียรติและกิ่งแก้วแทน
“ก็บอกว่าไม่มีอะไร ไป กลับบ้าน”
เจ้าคุณตวาดเอมี่จนสะดุ้ง
“โฮ! พูดดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องตวาดกันด้วย มี่อุตส่าห์เป็นห่วง คนกำลังท้องกำลังไส้ ประเดี๋ยวเบ่บี๋ก็ตกใจไปด้วยล่ะแย่เลย”
“เบ่บี๋”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วอุทานพร้อมกัน
“ใช่! ลูกของเรา เจ้าคุณกับเอมี่!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วหันขวับมองหน้าเจ้าคุณ
“ไอ้คุณ” / “เจ้าคุณ” ทั้งคู่ร้องประสานเสียง
เจ้าคุณได้แต่ถอนใจ เป็นการยอมรับกลายๆ
“ไม่จริงอ่ะ ไม่ใช่แน่ๆ” กิ่งแก้วบ่นพึมพำไม่อยากเชื่อ
“ไม่จริง ไม่ใช่ยังไงยะ พูดจาระวังปากหน่อยนะกิ๋ง”
เอมี่ของขึ้นใส่กิ่งแก้วทันที
“เอาน่า พอได้แล้ว กลับ! แล้วเจอกัน”
เจ้าคุณลากเอมี่กลับไปส่งสัญญาณบอกก้องเกียรติกับกิ่งแก้วไว้พบกันใหม่ กิ่งแก้วกับก้องเกียรติยกมือตอบทั้งๆ ที่ยังตะลึงช็อกอยู่ไม่หายเรื่องเอมี่ตั้งท้องกับเจ้าคุณ ซึ่งทั้งคู่คิดเหมือนกันว่าไม่น่าเป็นไปได้
“ไอ้คุณ”
ก้องเกียรติสงสารเพื่อน แต่ทันใดนั้นกิ่งแก้วหันไปเจอโทรศัพท์สายที่ไม่ได้รับ 3 สาย ซึ่งขึ้นเป็นชื่อกำโป๊ง
“ลุงกำโป๊ง!”
“ห๊า!”
ก้องเกียรติตกใจ หันมองหน้ากับกิ่งแก้วเดาไม่ออกว่ากำโป๊งโทร.มาด่าเรื่องโกหกคนม่วนแต๊ หรือมีเรื่องอะไรกันแน่

เวลาเดียวกันกำโป๊งที่โทรศัพท์หาก้องเกียรติกับกิ่งแก้วยังนั่งมองโทรศัพท์อย่างหมดอาลัย เพราะก้องเกียรติไม่ยอมรับสาย
“พวกเอ็งคงจะลืมม่วนแต๊กันหมดแล้ว”
กำโป๊งกำลังจะลุกออกจากห้องลับไปแล้ว เสียงโทรศัพท์จึงดังขึ้น
ก้องเกียรติรอสาย อย่างหมดหวัง
“ลุงกำโป๊งไม่รับสาย”
“ต้องมีเรื่องอะไรด่วนแน่ๆ ไม่งั้นลุงแกคงไม่โทร.มาหรอก”
ก้องเกียรติเริ่มเครียด
“หรือจะเรื่องสมใจ”
“นี่ถ้าสมใจรู้เรื่องเอมี่ท้องกับเจ้าคุณละก็”
กิ่งแก้วกับก้องเกียรติสองคนมองหน้ากันด้วยอารมณ์กลืนไม่เข้า คายไม่ออก

เวลาต่อมา แคบหมูมาที่บ้านกำโป๊ง เพื่อส่งข่าวกับไส้อั่ว
“จบข่าว”
ไส้อั่วรีบโดดตะปบปากแคบหมูสองคนนั่งเม้าท์ข่าวกันอย่างมีพิรุธมาก
“ชู่ว์! จะแหกปากไปทำไมนังแค๊บ”
แคบหมูดิ้นรนจนปัดมือไส้อั่ว เพราะปิดจมูกแคบหมูไว้ด้วยจนหายใจไม่ได้
“ไอ้อั่ว! ไอ้ว่อก! ไอ้เปรต! แกจะฆ่าฉันเหรอวะ”
“เปล่า! ฉันเชือดหมูไม่เป็น!”
แคบหมูค้อนขวับ
“อีนังอั่ว!”
“ก็แหกปากทำไมเล่า เดี๋ยวลุงกำโป๊งได้ยินล่ะโดนเตะแน่”
“หูย! นังนี่! ไม่ได้ยินหรอกน่ะ เออ ว่าแต่ไงต่อนะเรื่องอ้ายขุนทองน่ะ”
แคบหมูถามอย่างอยากรู้
“ก็แค่นั้นแหละ บอกแล้วไงจบข่าว”
“อะไรวะ มีข่าวแค่เนี้ย แกยุให้ลุงกำโป๊งโทร.หาอ้ายขุนทอง แต่ลุงกำโป๊งไม่โทร. แค่เนี้ย”
“อือ”
“เฮ้อ! สงสารเจ๊ใจ๋ ลุงหมาย ป้าศรี คราวนี้จะทำยังไง จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้เขา”
ไส้อั่วกับแคบหมูมองหน้ากันด้วยความเศร้า จู่ๆกำโป๊งโผล่พรวดมาแล้วโพล่งขึ้น
“มานั่งจ้องตาหาพระแสงอะไรกันวะ”
สองคนกระโดดเหยง
“เย้ย!”
“อ๊ะๆ อย่าบอกนะว่าเอ็งสองคน..”
กำโป๊งมองไส้อั่วกับแคบหมูอย่างมีเลศนัย
“ลุ๊ง!”
ไส้อั่วลืมตัวเผลอกรี๊ด
“อร้าย!”
“นั่นไง! ฟังเสียงมันซะก่อน มันกรี๊ดซะขนาดนี้ลุงยังจะกล้าคิดอีกเรอะ”
“เออว่ะ ว่าแต่เอ็ง 2 คน คุยความลับอะไรกัน ถึงได้ต้องมาทำหลบๆ ซ่อนๆ”
“เปล๊า!”
ไส้อั่วตอบเสียงสูง
“เปล่าจ๊ะเปล่าคุยอะไรกันเลย เออว่าแต่ลุงมีอะไรรึเปล่า จะใช้ ไอ้อั่วทำอะไร เดี๋ยวฉันช่วย”
“เออ ดี ขอบใจ แต่ไม่ต้องหรอก ไปตักน้ำ เก็บไข่ไก่ จับปลา ให้อาหารหมู แค่นี้ ไอ้อั่วมันทำได้”
“โห! ลุงแค่นี้ ใครจะไปทำไหว”
“ทำไมจะทำไม่ไหว ตะก่อนเอ็งก็เคยทำ”
“ก็เคยทำ แต่พอมีอ้ายขุนทองมาช่วยนะ สบาย อย่าบอกใครเลย อ้ายขุนทองเก๊งเก่ง ช่วยอั่วทำได้ทู้กอย่าง เฮ้อ! พูดแล้วก็คิดถึง”
กำโป๊งอึ้งไป
“นั่นซิ ฉันก็คิดถึง อ้ายขุนทองเคยอุ้มฉันโยนลงน้ำตู้มๆ สนุกที่สุดเลย เพราะไม่มีใครเคยยอมอุ้มฉันซักกะคน”
แคบหมูแอบคิดถึงเจ้าคุณ
“ก็ใครเขาจะไปอุ้มแกไหวล่ะ นังแคบหมู!”
ไส้อั่วกับแคบหมู นั่งเม้าท์ไป แต่กำโป๊งใจลอยคิดถึงอ้ายขุนทองไม่ต่างจากคนอื่นเหมือนกัน

เวลาเดียวกันที่บ้านเจ้าคุณ เอมี่กลับมาจากช็อปปิ้งกับเจ้าคุณ รจนาวรรณนั่งอยู่จึงเอ่ยทัก
“กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ ลูกแม่”
มะขิ่นปรี่เข้าไปช่วยรับจากเจ้าคุณที่ถือมา3-4ถุง แต่มีเพียงถุงชายี่ห้อม่วนใจ๋เท่านั้นที่เป็นของเจ้าคุณ
“ทั้งหมดนี่ของคุณเอมี่ อันนี้ของฉัน เอาไปเก็บบนห้องวางไว้หัวเตียง ถือดีๆ นะมะขิ่น”
“ค่ะ คุณหนู”
เอมี่ได้ยืนถึงขั้นของขึ้น รีบกรากถุงไปจากมือมะขิ่นทันที
“อะไรน่ะ ไอ้ของในถุงนี่มันอะไร มี่เห็นคุณคะคุณห่วงนักห่วงหนา ตอนขับรถมายังต้องวางไว้บนตัก แล้วนี่ยังจะต้องเก็บไว้ที่หัวเตียงด้วย มันสำคัญอะไรนักหนา ขอดูหน่อยเถอะ”
เอมี่จะเปิดถุงดู แต่เจ้าคุณกระชากเมือไว้ก่อน
“อย่า! เอมี่ อย่ายุ่ง”
“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ มี่เป็นเมียคุณคะคุณขานะคะ”
“อย่า บอกว่าอย่า!”
สองคนยื้อแย่ง ท่ามกลางความงุนงงและตกใจของรจนาวรรณ
“เจ้าคุณ! ระวังหลานแม่ เอมี่ท้องอยู่นะ ไอ้ไมค์ ช่วยห้ามคุณหนูเร็ว!”
“ครับ คุณผู้หญิง”
ไมเคิลโดดเข้ากอดรัดดึงเจ้าคุณออกมาได้สำเร็จ
“ไอ้ไมค์! ปล่อย!”
เอมี่ยึดถุงไปได้
“ไหน ขอดูหน่อยเถอะว่าไอ้ของในถุงเนี่ยมันคืออะไร ทำไมคุณคะคุณขาถึงหวงมันนัก”
“อย่า!”
เจ้าคุณร้องสุดเสียง เอมี่แกะถุงแล้วหยิบห่อชาขึ้นมามอง
“ชาม่วนใจ๋!”
เจ้าคุณอึ้ง รจนาวรรณตาลุกวาว เอมี่แกล้งร้องไห้
“แค่นี้เหรอคะ กะอีแค่ใบชาจากไร่นังบ้านนอกแค่ห่อเดียว คุณคะคุณขาถึงกับจะต้องเอาไปวางหัวเตียง”
“เอมี่! เอาคืนมา”
เจ้าคุณทวงห่อใบชาคืน แต่เอมี่ไม่ยอมคืนให้
“ไม่!”
เจ้าคุณเริ่มตวาด จนเอมี่ต้องเข้าฟ้องรจนาวรรณ
“เอาคืนมา!”
“แค่นี้ก็ต้องตวาดด้วย มี่ตกใจหมดเลยค่ะคุณหญิงแม่”
“เจ้าคุณ พูดจาดีๆ กันก็ได้ หนูมี่กำลังท้องกำลังไส้ เห็นใจกันบ้างซิ”
“ก็เอาคืนมาก่อนซิ”
“ได้ รักมากหวงมาก มี่คืนให้ก็ได้”
พูดจบเอมี่ก็ชูห่อใบชาขึ้นตรงหน้าเจ้าคุณแล้ว ค่อยๆ ฉีกห่อใบชาให้ใบชาร่วงพรูลงพื้นต่อหน้าต่อตาเจ้าคุณทันที เจ้าคุณอึ้งเจ็บปวดจนพูดไม่ออก
“แต่คุณคะคุณขาคงต้องให้มะขิ่นกวาดแล้วค่อยเอาไปวางที่หัวเตียงนะคะ”
เอมี่ยิ้มร้ายสะใจ ก่อนจะเอาเท้าเหยียบใบชา เจ้าคุณโกรธ ปรี่เข้าหาเอมี่
“เอมี่!”
เอมี่หลบไปหลังรจนาวรรณ
“ช่วยด้วยค่ะ คุณหญิงแม่”
“หยุดนะ เจ้าคุณ”
เจ้าคุณชะงักเริ่มหงุดหงิด
“แม่ครับ...”
“หนูมี่ทำถูกแล้ว”
เจ้าคุณอึ้งไปที่แม่ตัวเองเข้าข้างเอมี่ ในขณะที่เอมี่ยิ้มสะใจที่ทำลายของรักเจ้าคุณได้
“ขอโทษหนูมี่เดี๋ยวนี้”
“ขอโทษ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด เอมี่ต่างหากที่..”
“ผิด! ผิดคำสั่งที่แม่เคยสั่งไว้ว่าให้ลืมนังเด็กคนนั้นซะ แล้วก็ห้ามยุ่งเกี่ยวกับมันอีก”
“แต่ว่า...”
เจ้าคุณจะเถียง แต่เถียงไม่ออก
“ห้ามยุ่งเกี่ยวทั้งการกระทำ และแม้แต่ความคิด”
รจนาวรรณสั่งลูกชาย ในขณะที่เจ้าคุณอึ้งไป
“แม่...”
รจนาวรรณไม่สนใจเจ้าคุณ หันไปคุยกับเอมี่เรื่องช็อปปิ้งหน้าตาเฉย
“ไหนจ๊ะ ซื้ออะไรมาบ้างขอแม่ดูหน่อยซิ มะขิ่น”
รจนาวรรณกับเอมี่ เดินคุยกันอย่างถูกคอ มะขิ่นห้อวถุงตามอย่างไปอย่างสงสารเจ้าคุณยืนอึ้งอยู่ ไมเคิลมองอย่างเห็นใจเดินมาคุกเข่าจะเอามือเก็บใบชา แต่เจ้าคุณห้ามไว้
“ไม่ต้อง”
ไมเคิลชะงักไป เพราะเจ้าคุณนั่งลงเก็บใบชาห่อกระดาษที่ร่วงลงพื้นด้วยตัวเองด้วยความรักและคิดถถึงคำพูดของสมใจ
“กว่าพ่อฉันจะสร้างไร่ชาม่วนใจ๋มาได้ขนาดนี้ รู้มั้ยว่ามันต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา พวกเราไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่ได้เป็นพวกไฮโซไฮซ้อที่มีเงินซื้อรถคันละเป็นสิบล้าน เงินทองทุกบาททุกสตางค์มีค่า แต่ยิ่งไปกว่านั้น ใบชาทุกใบมันคือชีวิตจิตใจของพวกเรา”
เจ้าคุณเศร้าเสียใจ ค่อยๆหยิบใบชาขึ้นมาวางในอุ้งมือตัวเองทีละใบ ไมเคิลนายตัวเองด้วยความเศร้า เพราะเจ้าคุณบรรจงเก็บใบชาอย่างรักใคร่ทะนุถนอมสุดหัวใจ

บ่ายวันใหม่ ที่ม่วนแต๊ สมใจเดินมาตามทาง ชะงักเพราะสมุนดักหน้าขวางทางโดยมีอาเฟยเดินทางมาด้วย แต่สมใจไม่ไดมีท่าทางหวาดกลัวแต่อย่างใด
“ไง ไอ้มาเฟียหน้าเลือด”
อาเฟยยิ้มกวนประสาทก่อนจะตอบโต้
“สบายดี ขอบใจ เธอล่ะสบายดีรึเปล่า”
“ก็ดี จนมาเจอแกนี่ล่ะ เริ่มจะซวยแล้ว”
ลูกน้องอาเฟยเริ่มฮึดฮัด แต่อาเฟยยกมือสั่งห้ามไว้
“ถามจริงเถอะ จิตใจแกทำด้วยอะไร ทำไมมันถึงชั่วช้าโหดร้ายได้ขนาดนี้ มีเรื่องชั่วๆ อะไรที่แกยังไม่ได้ทำอีกมั้ย ทั้งตัดไม้ทำลายป่า ฆ่าช้างเอางาไปขาย รีดไถดอกเบี้ยเงินกู้กับชาวบ้านตาดำๆ ต่อไปแกจะทำอะไรเลวๆ อีกห๊า!”
อาเฟยยิ้มเจ้าเล่ห์
“อยากรู้เหรอ อีกเดี๋ยวเธอก็จะได้รู้แล้วล่ะ”
สมใจมองด้วยความสงสัย
“แล้วถ้าถึงตอนนั้นเธอคงไม่มีแรงด่าฉันแบบนี้ มีแต่จะคุกเข่าอ้อนวอนขอร้องฉันแทน”
สมุนนายว่าขี้ข้าพลอย หัวเราะเสียงดังลั่น
“ไอ้บ้า ขำอะไร แกพูดอะไรของแก”
ทันใดนั้นปลัดจืดโผล่มาพอดี
“อะไรกันใจ๋”
ปลัดจืดรีบเดินเข้ามา ดึงสมใจไปไว้ข้างหลังตัวเองอย่างปกป้อง
“หมู่นี้เข้าออกม่วนแต๊บ่อยเกินไปแล้วนะ”
ปลัดจืดถามกลุ่มอาเฟย สมุนคนหนึ่งรับสวนกลับ
“ก็เถ้าแก่น้อยเขาทำหัวใจหล่นไว้แถวนี้ ก็เลยต้องมาตามหาบ่อยๆ มีอะไรอ๊ะป่าว”
ลูกน้องกับอาเฟยหัวเราะกวนประสาท ปลัดจืดกับสมใจเริ่มไม่พอใจ
“ม่วนแต๊มีกฎคนแปลกหน้าเข้ามาต้องแจ้งและแสดงตัวให้ถูกต้อง ไม่ใช่นึกจะมาก็มาแบบนี้”
“กฎมันมีไว้แหก”
อาเฟยยียวน
“ปากแกนั่นแหละที่จะแหก”

ปลัดจืดพูดจบจะต่อย สมุนอาเฟยเริ่มขยับตัว สมใจห้ามปลัดจืดไว้
“อย่าปลัด! อย่าให้เลือดคนชั่วๆ เปื้อนมือปลัดเลย อ้อ แล้วก็จำไว้ด้วย ไม่ต้องมาเหยียบม่วนแต๊อีก หัวใจเลวๆ ของแกน่ะ ป่านนี้โดนหมามันคาบไปทิ้งแล้วล่ะ”
สมใจพูดจบดึงปลัดจืดออกไป สมุนอาเฟยจะตามไปเล่นงาน แต่อาเฟยยกมือห้ามไว้
“ปากเก่งนัก อยากจะรู้ว่าจะเก่งได้อีกนานแค่ไหน สมใจ”

เวลาต่อจากนั้น สมใจกลับมาที่บ้าน ต้องตกใจสุดขีด
“อะไรนะพ่อ”
สมใจโวยวาย สมหมายนั่งอึ้งทั้งแค้นและช็อกไปพร้อมๆกัน สมใจหันไปทางสมศรีพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เมื่อกี๊ พ่อบอกว่าอะไรนะแม่”
สมศรีถอนใจเฮือกด้วยความเศร้า สมใจนั่งลงอย่างหมดแรง น้ำตารื้นขึ้นมา
“ไม่จริง ไม่จริง”
คำปุยสะอื้นร้องไห้
“จริงซิไอ้ใจ๋ ไอ้มาเฟียนั่นมันเพิ่งกลับไปเมื่อตะกี๊ มันมาทวงดอกเบี้ยลุงหมายกับป้าศรี มันบอกว่า เราเอาไร่ม่วนใจ๋ไปจำนองไว้กับมัน”
“ไม่จริง! ก็ไหนน้าลำยองบอกว่า…”
“นั่นล่ะ นังน้าลำยองตัวแสบ แสบที่สุด ฉันจะไปตบมัน”
คำปุยพร้อมลุย แคบหมูเห็นด้วย
“ฉันไปด้วย”
สมศรีต้องห้ามไว้
“เฮ่ยๆ ไม่เอา อย่าทำอะไรไง่ๆนะนังปุ๋ย นังแค๊บ มันไม่มีประโยชน์”
“แต่คนฉ้อโกงอย่างนี้เราก็ปล่อยไว้ไม่ได้นะครับป้าศรี เรื่องนี้ผมจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย”
ปลัดจืดไม่ยอมง่ายๆ สมหมายน้ำเสียงอ่อนแรงไม่โวยวายอย่างเคย แต่ในใจสุดแค้น
“ปลัด กฎหมายทำอะไรคนเลวนรกอย่างไอ้มาเฟียฟงมันไม่ได้หรอก”
“ต้องได้ซิครับ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่งั้นเราจะมีกฎหมายไว้ทำไม”
สมใจโพล่งขึ้น
“ฉันจะไปหาเงินมาไถ่ที่คืน!”
“เงินตั้งมากมาย เอ็งจะไปที่ไหน ไอ้ใจ๋เอ๊ย”
สมศรีเอ่ยถามอย่างไม่ต้องการคำตอบ
“ฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันจะต้องหามาให้ได้ ฉันไม่มีวันจะยอมให้ม่วนใจ๋ตกเป็นของไอ้มาเฟียชั่ว 2 พ่อลูก นั่นเด็ดขาด!”
สมหมายกับสมศรี มองหน้ากันในโชคชะตา ส่วนสมใจยั่งมุ่งมั่นจะเอาไร่ชาม่วนใจ๋กลับคืนมาให้ได้ แม้ว่าจะแอบหวั่นใจอยู่ไม่น้อย

เวลาเดียวกันที่บ้านอาฟง กำลังมีความสุขเสียงลูกน้องเจ้านายหัวเราะลั่นบ้าน
“ฮ่าๆ สะใจจริงๆ อั๊วอยากเห็นหน้าไอ้หมายตอนที่รู้ความจริงเหลือเกิน หน้ามันซีดเป็นไก่ไหว้เจ้าเลยรึเปล่าวะ อาตี๋น้อย”
อาฟงถามลูกชาย
“ประมาณนั่นล่ะป๊า”
“ฮ่าๆ อยากเห็นๆ แหม ลื้อนี่มันเลว เอ๊ย! เก่งสมเป็นลูกอั๊วจริงๆ อาเฟย อยากได้อะไรบอกมา อั๊วจะให้รางวัลลื้อในฐานะที่ช่วยให้ไร่ชาม่วนใจ๋กลายมาเป็นของเราได้ ว่าไง อยากได้อะไร”
อาเฟยยิ้มแต่ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันอยากได้สมใจ”
อาฟงจิบน้ำชาอยู่ถึงกับอึ้งไป
“อยากได้สมใจ ฮ่าๆ มันต้องอย่างนี้ ลูกชายอั๊วมันต้องอย่างนี้ อาเฟย ฮ่าๆ”
อาฟงหัวเราะชอบใจประสานเสียงกับสมุนอย่างมีความสุข ในขณะที่อาเฟยสายตามุ่งมั่นหมายปองในตัวสมใจและต้องการครอบครอง

เวลาต่อมา ที่บ้านสมใจยังคงช็อกกับเรื่องไร่ชาม่วนใจ๋โดนอาฟงยึดใบโฉนดไว้ สมศรีนั่งลูบหลังปลอบใจสมหมายที่เสียใจและสุดแค้น สองคนกอดกันอย่างให้กำลังใจ สมใจมองดูพ่อและแม่ถึงกับน้ำตารื้น ปลัดจืดแตะไหล่สมใจเบาๆ อย่างให้กำลังใจ
“ใจเย็นๆ นะใจ๋ ฉันจะหาทางช่วยใจ๋ให้ได้”
สมใจถอนใจ เพราะรู้ว่าเรื่องนี้หาทางออกได้ไม่ง่าย
“ฉันรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ฉันก็จะต้องพยายามเต็มที่ ฉันจะลองทำเรื่องขอเงินกู้ข้าราชการดู อาจจะพอมีทาง”
สมใจซาบซึ้งในน้ำใจของปลัดจืด
“ขอบใจมากปลัด..แต่ว่า..”
“เพื่อใจ๋ ยังไงฉันก็จะไม่ยอมแพ้”
ปลัดจืดยิ้มให้กำลังใจ สมใจทั้งซาบซึ้งทั้งสงสารปลัดจืด เพราะรู้ดีว่าความดีที่อีกฝ่ายมีให้ไม่อาจแปรเปลี่ยนเป็นความรักที่เกินกว่าเพื่อนได้เพราะหัวใจยังไม่เคยลืมเจ้าคุณ

เวลาเดียวกัน เจ้าคุณนั่งมองโหลใบน้อยที่ข้างในมีชาม่วนใจ๋วางอยู่ในนั้น เจ้าคุณมองใบชาอย่างทะนุถนอม จนกระทั่งไมเคิลเข้ามา
“นี่ครับคุณหนู”
ไมเคิลยื่นกรรไกร พร้อมสก็อตเทปให้เจ้าคุณ เจ้าคุณค่อยๆหยิบชิ้นส่วนกระดาษห่อใบชาที่เอมี่ฉีกออกเป็น 2 ชิ้นเอามาประกบกัน แล้วเอาสก็อตเทปติดให้เหมือนเดิมมากที่สุดจนโลโก้ ชาม่วนใจ๋ติดกัน ก็ไม่วายแอบคิดถึงสมใจขึ้นมา

เวลาต่อมา สองแม่ลูกลำยองกับลำไยเดินอย่างมีความสุขมาตามทางในหมู่บ้านม่วนแต๊ ทั้งคู่แต่งตัวเต็มยศ เครื่องประดับราวกับตู้เก็บเคลื่อนที่ เพราะได้เงินจากอาเฟยในฐานะสายลับมาจำนวนมาก
“คุณแม่ขา ถ้าต่อไปเรามีจ๊อบอย่างนี้อีก ลูกขอให้คุณแม่เรียกเงินให้เยอะกว่านี้ จะได้พาลูกไปช็อปปิ้งที่เกาหลีซักครั้ง”
ลำใยพูดอย่างมีความสุขมาก
“ได้ซิจ๊ะลูกจ๋า ไปเกาหลีเผื่อจะพบเจ้าชายเย็นชา รึว่า นักร้องซุป’ตาร์ มาตกหลุมรัก ลูกสาวแม่ แม่ก็จะดื้อเป็นแม่ยายอินเตอร์ จริงมั้ยๆ”
สองแม่ลูกกำลังทำท่าดี๊ด๊า แล้วก็ต้องชะงักกึก เมื่อมีคนขวางหน้า
“อ๊าย!”
หวานเจี๊ยบ คำปุย แคบหมู และไส้อั่ว ยืนเรียงหน้ากระดานหน้าตาเอาเรื่อง ลำยองรีบโวย
“อะไร เป็นไรยะ พวกแกมายืนขวางทางข้าทำไม”
“ใช่ค่ะคุณแม่ ไร้มารยาท” ลำใยรีบด่าสวน
“ก่อนจะไปเกาหลี ไปคลุกขี้หมูซะก่อนมั้ยแก๊”

พอหวานเจี๊ยบพูดจบทุกคนก็กรูเข้าไปเอากระสอบคลุมหัว 2 แม่ลูก แล้วอุ้มไปทันที โดยไม่สนว่าสองแม่ลูกจะร้องโวยวายมากเพียงใด







Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 23:33:20 น.
Counter : 264 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 11 (ต่อ)




ไม่นานหลังจากนั้น สมุนของอาเฟยสองคนกำลังอาละวาดข่มขู่ชาวบ้านผัวเมียและลูกสาวกลัวลนลาน อาเฟยยืนคุมอยู่หน้าตาเฉย ด้วยความเคยชิน

“พอเถอะจ้ะ..พอแล้ว” หญิงชาวบ้านกำลังอ้อนวอนขอชีวิต
“อยากให้พอก็เอาเงินมาใช้เถ้าแก่น้อยเขาสิวะ ดอกทบต้น ต้นทบดอก ก็ห้าหมื่น!”
“ห้าหมื่น! ข้ายืมไปแค่หมื่นเดียวนะเว้ย!”
ชาวบ้านชายโวยวาย เลยเจอสมุนอาเฟยตบเข้าอย่างจัง
“เถียงเหรอ! เถียงเหรอ ก็บอกแล้วว่า ดอกทบต้น ต้นทบดอก ห้าหมื่นเว๊ย!”
ชาวบ้านผู้หญิงเข้ามากอดสามีไว้
“อย่าทำอะไรผัวฉันเลย เถ้าแก่น้อยช่วยด้วยเถอะ อย่าทำอะไรเราเลย เราไม่มีเงินจริงๆ”
อาเฟยถอนหายใจ เหมือนจะเห็นใจ แล้วพยักหน้าให้สมุนลงมือ ชาวบ้านสองคนผัวเมียหลงดีใจรีบก้มลงกราบอาเฟย
“เถ้าแก่น้อยใจดีเหลือเกิน ฉันจะไม่ลืมพระคุณเลย ขอให้เจริญๆ”
ทันใดนั้นสมุนอาเฟยปรี่เข้าไปฉุดลูกสาววัยกระเตาะ จนลูกสาวร้องกรี๊ดลั่น จนชาวบ้านผู้ชายตกใจ
“จะทำอะไร แกจะทำอะไร ปล่อยลูกข้า!”
“เถ้าแก่น้อย ช่วยด้วย”
ชาวบ้านหญิงเรียกให้อาเฟยช่วย
“ก็ช่วยอยู่นี่ไง ไม่มีเงินจ่ายก็ไม่ว่า แต่ต้องเอาลูกสาว พวกแกไปแทน”
ชาวบ้านหญิงร้องไห้โฮทันที
“โฮ! เอาไป เอาไปทำไม”
“โธ่! นังโง่ จะเอาไปทำไม ก็เอาไปให้เถ้าแก่ใหญ่ แล้วค่อยโละไปขายต่อน่ะซิเว้ย ฮ่าๆ”
สมุนอาเฟยตอบแทนให้ ชาวบ้านผู้หญิงร้องไห้ฟูมฟาย
“ใจร้าย! ไอ้คนใจร้าย!”
ชาวบ้านชายสาปแช่ง
“ขอให้ฟ้าดินลงโทษ ให้พวกแกตายอย่างหมา ตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิด...”
ไม่ทันได้พูดต่อ สมุนอาเฟยต่อยชาวบ้านชาย แล้วกระชาดลูกสาวที่นั่งร้องไห้อยู่ทันที แต่ทันใดนั้นสมใจเดินผ่านมาพอดี
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ทุกคนชะงัก หันไปเจอสมใจยืนอยู่กับคำปุยกับแคบหมู
“พวกแกนี่มันนรกส่งมาเกิดจริงๆ”
ลูกน้องอาเฟยจะเข้าลุย แต่อาเฟยยกมือห้ามไว้ สมุนคนหนึ่งโพล่งขึ้นทันที
“ยังไม่เข็ดอีกเหรอนังนี่”
“ไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอ..อย่ายุ่งดีกว่า”
อาเฟยเตือนสมใจ
“ทำไมจะไม่ใช่ คนงานไร่ชาของฉัน ฉันต้องยุ่ง”
“คนงานไร่ชา ไร่ชาที่ใบชาโดนเผาซะจนไม่เหลือซักกะใบน่ะเหรอ”
อาเฟยกวนประสาท ลูกสมุนขำเยาะเย้ยสมใจ
“แก!”
“ขนาดมีใบชาให้เด็ด คนงานของเธอยังไม่มีจะกินจนต้องมากู้เงินป๊าฉัน แล้วตอนนี้ใบชาใหม่ก็ยังไม่ออก แถมใบชาเก่าก็โดนเผา จะเอาอะไรกินกันล่ะ...หมู่เฮา”
อาเฟยพูดแทงใจดำสมใจ
“แกนี่ก็ใช้ได้นะ กล้าทำ แล้วยังกล้าพูดเลวใช้ได้จริงๆ”
“ทำ ฉันทำอะไร”
อาเฟยแกล้งไขสือ
“พวกแกเผาโรงเก็บชาม่วนใจ๋!”
สมใจรีบสวน อาเฟยอึ้งไป ก่อนจะหัวเราะกันร่วนกับสมุน
“เธอมีหลักฐานอะไรมาปรักปรำฉัน”
“ ก็..หน้าแกไง..น้ำหน้าอย่างพวกแกน่ะมันโจรชัดๆ”
สมใจย้อนด่า จนสมุนอีกคนเริ่มโกรธปรี่จะเข้าทำร้ายสมใจ แต่อาเฟยห้ามไว้
“อ้าว..เฮ๊ยๆ”
“ยอมรับความจริงดีกว่า..สมใจ ไร่ชาม่วนใจ๋ของเธอน่ะช่วยเหลืออะไรใครไม่ได้หรอก ทางที่ดี..ขายไร่ให้ป๊าฉันซะ เธอและชาวบ้านทุกคนจะได้สบายไปทั้งชาติ”
“ชาติชั่ว!”
สมใจด่ากลับเต็มปาก สมุนอาเฟยทนไม่ไหวจะซัดสมใจอีกครั้ง แต่อาเฟยยังห้ามไว้
“ชาตินี้เธอจะไม่ลืมฉันต่างหาก”
สมใจเงื้อมือจะตบ อาเฟยจับไว้ แล้วขยับหน้าเข้าใกล้สมใจเข้าไปอีก
“ไปบอกพ่อเธอให้ขายไร่ซะ ถ้าไม่อยากเป็นเหมือนอย่าง พ่อแม่ลูก 3 คนนี้”
อาเฟยจ้องตาสมใจอย่างเอาจริง สมใจหันไปมองพ่อแม่ลูกสาวกอดกันแน่นอย่างสลดใจ
“ฝันไปเถอะ! ไอ้มาเฟียนรก!”
“ฉันจะรอขึ้นสวรรค์พร้อมเธอ”
อาเฟยพูดหน้าตาจริงจัง สมุนหัวเราะชอบใจ ส่วนสมใจสะบัดมือหลุดไปได้
“วันนี้..นึกว่าเห็นแก่เธอนะ..สมใจ ฉันจะยอมให้พ่อแม่ลูก 3 คนนี้ได้อยู่ด้วยกันอีกซักวัน สองวัน แต่ถ้ายังไม่มีเงินมาใช้คืน”
สามคนพ่อแม่ลูกกอดกันร้องไห้โฮ อาเฟยกับสมุนชวนกันเดินออก
“กลับ!”
คำปุยกับแคบหมูกระโดดเกาะแขนสมใจ
“ไอ้ใจ๋/เจ๊ใจ๋”
“ทำไงดีอ่ะ”
คำปุยแอบกังวล สมใจสีหน้ากังวลนิ่งไปอย่างครุ่นคิด

เวลาต่อมาสมใจกลับถึงบ้าน นั่งคุยกับสมหมายกับสมศรีอย่างจริงจังเรื่องอาเฟยพยายามจะขอซื้อไร่ชาม่วนใจ๋ให้ได้
“มันจะเอาให้ได้จริงๆ”
สมศรีพึมพำกับตัวเอง
“‘ม่วนใจ๋ ไม่มีวันเป็นของมัน ข้าจะไปฆ่ามันข้าจะยิงมันให้ตาย”
สมหมายของขึ้น แต่สมใจ คำปุยและแคบหมูช่วยกันดึงไว้
“พ่อ! ปืนกระบอกเดียวจะไปสู้อะไรกับพวกมันได้”
สมใจเอ่ยห้าม
“ปลัดไง! ปืนของปลัดก็มี”
สมใจเหลือบมองปลัดที่ยังมีผ้าพันแผลคาหัวอยู่
“ปลัดยังเจ็บอยู่อย่างนี้เนี่ยนะ”
“ผมนี่มันแย่ที่สุด ปกป้องอะไรม่วนแต๊ไม่ได้เลย”
ปลัดจืดโทษตัวเองขึ้นมาทันที
“เฮ่ย! พ่อปลัด ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็ไม่สามารถปกป้องได้ด้วยคนๆ เดียวทั้งนั้นนั่นแหละ พวกเราทุกคนต้องรัก สามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกัน บ้านเรามันถึงจะอยู่ได้”
สมศรีเอ่ยขึ้น
“แต่ถ้าเราไม่มีอะไรจะกินล่ะจ๊ะ..ป้าศรี จะเอาแรงที่ไหนไปช่วยกัน”
แคบหมูเอ่ยขึ้นตามประสาเด็ก ทำเอาทุกคนเงียบไป
“ไอ้แค๊บ! เอ็งมันก็ห่วงแต่เรื่องกินเดี๋ยวปั๊ด!”
สมหมายเงื้อมือจะตีแคบหมู แต่สมใจกลับเห็นตรงกับแคบหมูขึ้นมา
“จริงของไอ้แค๊บมันนะพ่อ”
“เอ็งว่าไงนะไอ้ใจ๋”
“ตอนนี้ชาวบ้านลำบากกันมากนะพ่อ ยิ่งไม่มีใบชาล็อตนี้ไปขาย พวกเขาจะเอาอะไรกินกัน”
สมใจพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ทำให้ทุกคนอึ้งและต้องยอมรับความจริง

คืนนั้นที่ คฤหาสน์เจ้าคุณข้าวปลาอาหารวางเต็มโต๊ะ แตกต่างกับที่สถานการณ์ที่บ้านม่วนแต๊อย่างสิ้นเชิง
“ทานเยอะๆ นะจ๊ะหนูมี่ หลานย่าจะได้แข็งแรง”
รจนาวรรณเอ่ยทักเอมี่
“เจ้าคุณ...ตักปลาให้หนูมี่หน่อยซิ โปรตีนน่ะดีต่อแม่และลูกในท้องนะจ๊ะ”
เจ้าคุณจำใจตักอาหารให้เอมี่ด้วยความเซ็ง
“มี่ทานไม่ลงหรอกค่ะ”
“อ้าว! ทำไมล่ะจ๊ะ กับข้าวเต็มโต๊ะไปหมดเลย ไม่ชอบซักอย่างเลยเหรอ”
รจนาวรรณถามลูกสะใภ้อย่างแปลกใจ
“กับข้าวไม่เกี่ยวหรอกค่ะ มันเกี่ยวกับบรรยากาศ”
“อะไรอ่ะเอมี่ กินทิ้งกินขว้างอย่างนี้น่าเสียดาย”
เจ้าคุณต่อว่าเอมี่ รจนาวรรณ มะขิ่นและไมเคิลฟังอยู่แทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“หูฝาดละป่าว คุณหนูบอกว่าเสียดายของ”
ไมเคิลทึ่งอย่างรู้ดีว่าทำไมเจ้าคุณเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้
“ต้องเห็นใจคนท้องมั่งซิคะ แพ้ท้องแทบตายอยู่แต่ในบ้าน มันก็เครียด อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศบ้างไรบ้าง”
“ก็ไหนบอกอยากมาทานข้าวเย็นที่นี่ก็อุตส่าห์พามาแล้วไง”
“แต่มันก็ยังรู้สึกว่าอยู่ในบ้าน มี่อยากไปที่อื่น”
“เฮ้อ!”
เจ้าคุณถอนหายใจด้วยความเซ็ง
“น่า...คนท้องก็งี้แหละ อารมณ์แปรปรวน ว่าแต่ลูกมี่อยากไปที่อื่นน่ะ ที่ไหนจ๊ะ”
รจนาวรรณเข้าข้างเอมี่ หวังให้เจ้าคุณดูแลลูกสะใภ้และหลานในท้อง

คืนนั้น เอมี่ควงเจ้าคุณมาเที่ยวผับ เอมี่ดูมีความสุขเหมือนได้กลับมาใช้ชีวิตวัยรุ่น แต่เจ้าคุณหน้าตาบอกบุญไม่รับ

“ท้องแล้วมาเที่ยวผับเนี่ยนะ”
เจ้าคุณแอบกัดเอมี่
“แล้วไงคะ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ก็แค่มาเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งดูคนโน้นคนนี้เพลินๆ แหม..ทำยังกะตัวเองไม่ชอบ เมื่อก่อนล่ะมาทุกคืน ลากให้กลับยังไม่กลับเลย”
เจ้าคุณอึ้งไปเพราะในอดีตก็เคยทำตัวแบบนั้นจริงๆ
“เนี่ยนะ..สงสัยจะเป็นเพราะไปอยู่ป่าอยู่เขาซะนาน ขืนอยู่นานอีกนิดล่ะ..อึ๋ย!”
เอมี่ทำท่าขยะแขยง จนเจ้าคุณไม่พอใจ
“...เอมี่”
“นั่งนี่ดีกว่า น้องๆ”
เอมี่เปลี่ยนเรื่อง แล้วเรียกพนักงานเสิร์ฟทันที
“ดื่มอะไรดีครับ”
“เอมี่...”
เจ้าคุณปรามเพราะเอมี่กำลังท้อง
“รู้น่า..ของฉันน้ำส้มส่วนของคุณเจ้าคุณ...”
เจ้าคุณไม่สั่งเหล้าเหมือนอย่างเคย
“ไม่! ขอน้ำเปล่า”
“ห๊า! อะไรนะ คุณคะคุณขา..ขอน้ำเปล่า”
เอมี่ตกใจมองหน้าเจ้าคุณอย่างเหลือเชื่อ พนักงานเสิร์ฟรีบทำตามคำสั่ง เจ้าคุณไม่สนใจ หันไปมองนักเที่ยว เห็นนักเที่ยวกลุ่มนึงยืนเรียงแถวหน้ากระดานเต้นท่าเดียวกันอย่างเมามัน ทำให้เจ้าคุณคิดถึงแกงค์ของสมใจที่เคยเต้นแนวนี้เช่นกันแล้วเผลอยิ้มออกมา
“คุณคะคุณ...”
เจ้าคุณยังเหม่อคิดถึงเรื่องเก่าอยู่ จึงไม่ได้ยินที่เอมี่เรียก
“คุณคะคุณ!”
“ว่าไง”
“นั่งยิ้มอะไร ยิ้มให้ใคร บอกมานะ!”
เอมี่หึงนึกว่าเจ้าคุณแอบยิ้มให้สาวคนอื่น รีบมองหา เจ้าคุณเต็มไปด้วยความเซ็งที่มีเอมี่ตามติดเป็นเงาตามตัวตลอดเวลา

บ่ายวันใหม่ ก้องเกียรติยื่นน้ำเปล่าให้เจ้าคุณหลังออกกำลังกายที่ฟิตเนส
“แกเปลี่ยนไปมาก รู้ตัวมั้ย..ไอ้คุณ”
ก้องเกียรติโพล่งขึ้น โดยมีกิ่งแก้วนั่งคุยอยู่ด้วย
“ยังไงวะ”
เจ้าคุณยังไม่เข้าใจที่ก้องเกียรติพูด
“ไม่กินเหล้า ไม่อยากเข้าผับ”
“ใจเย็น ไม่ปี๊ด ไม่คุณหนูเหมือนเมื่อก่อน”
เจ้าคุณนั่งคิดถึงตัวเองในอดีต
“เมื่อก่อน..ฉันมันแย่มากเลยเหรอวะ”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วมองหน้ากันไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร
“ม่วนแต๊ทำให้แกเปลี่ยนไปมากจริงๆ”
ก้องเกียรติย้ำ
“ม่วนแต๊ ยังไม่เท่าไหร่...”
กิ่งแก้วพูดเว้นไว้ครึ่งหนึ่งก่อนที่เจ้าคุณจะหันมามอง
“ม่วนใจ๋ ตะหาก”
เจ้าคุณอึ้งไป เบือนหน้าหนีหลบความรู้สึกในใจที่มีต่อสมใจอย่างไม่เคยมีให้ใครมาก่อน

ตอนที่ 20.2

คืนนั้น สมใจนั่งเศร้า แววตาเหม่อมลอยคิดถึงเข้าคุณ ปลัดจืดเดินมาเอาเสื้อมาคลุมกันน้ำค้างให้สมใจ
“ดึกแล้ว น้ำค้างแรงนะใจ๋”
“สบายมาก”
“รู้ว่าเก่ง แต่ถึงยังไงฉันก็ห่วง”
ปลัดจืดดึงหมวกที่หลังเสื้อมาคลุมหัวสมใจไว้อย่างห่วงใย
“ขอบใจ”
ปลัดจืดรีบยื่นซองเงินให้สมใจทันที
“อะไรน่ะ..ปลัด”
“เงินเก็บ..ฉันพอจะมีอยู่บ้าง อยากให้ใจ๋เอาไปช่วยพ่อแม่ลูก 3 คนนั้น 5 หมื่นใช่มั้ย”
“ปลัด!”
สมใจตกใจ
“อย่างน้อย..มันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีที่ยังพอจะมีปัญญาช่วยคนม่วนแต๊ได้บ้าง”
“แต่ว่า...”
“นะ..ใจ๋ ขอร้อง”
“ขอบใจมากนะ..ปลัด”
สมใจซาบซึ้งในน้ำใจของปลัดจืดที่มีต่อคนม่วนแต๊ ปลัดจืดยิ้มกับสมใจอย่างมีความสุข แต่ไม่ใช่ความรักเหมือนที่เคยเป็นมา

สมหมายยืนมองสมใจกับปลัดจืด อยู่กับสมศรีอย่างภูมิใจ
“พ่อปลัดเขาเป็นคนดีจริงๆ น่าเสียดายที่ไอ้ใจ๋มันไม่รักไม่ชอบ”
สมศรีเอ่ยขึ้น โดยมีสมหมายเสริมอยู่ข้างๆ
“นั่นซิ..คนดีๆ ไม่รักไม่ชอบ ดันไปชอบไอ้ผู้ชายไฮโซ หึ้ย! โดนมันทำให้เจ็บมาตั้ง 2 ครั้ง 2 หน ก็ยังไม่เข็ด”
“ตาหมาย!”
“ไม่รู้ล่ะ! เป็นตายยังไง ข้าก็ไม่มีวันยอมให้ไอ้ใจ๋ต้องเจ็บเป็นครั้งที่ 3 อีกเด็ดขาด!”
สมหมายแววตาจริงจัง สงสารสมใจที่ไม่สมหวังในความรักกับหนุ่มไฮโซทั้งโก้ และเจ้าคุณ

เช้าวันใหม่ อาฟงกำลังโวยวาย ที่ไม่เห็นสมหมายกับครอบครัวคนม่วนแต๊ไม่ยอมเข้ามาขอความช่วยเหลือ หลังจากลูกน้องเดินมาคนเดียว
“เค้าเป๋! ทำไมจนป่านนี้ ไอ้หมายมันยังไม่ซมซานมาหาอั๊วซะทีวะ”
อาเฟยนั่งคิด สมุนคนหนึ่งเดินเข้ามา
“อ้าว! ทำไมกลับมามือเปล่า ไหนลื้อว่าจะเอาอีหนูเอ๊าะๆ มาให้อั๊วกินแทนโจ๊กไงวะ”
อาฟงถาม ลูกหน้าหน้าเสีย
“คือว่า...”
ลูกน้องเริ่มพูดอึกอัก อาเฟยจึงตะคอก
“คือว่าอะไร”
“คือว่า..ไอ้ 2คนผัวเมียนั่นมันหาเงินมาใช้คืนได้แล้วครับ”
ลูกน้องรีบยื่นซองเงินให้
“เฮ๊ย! มันไปหามาจากไหนวะ หึ้ย!”
อาเฟยหยิบซองเงินมามอง ตาวาวด้วยความโกรธ
“ไม่รู้แล้วเว๊ย! อั๊วรู้อย่างเดียวว่าอั๊วจะต้องรีบเอาไร่ชาม่วนใจ๋มาเป็นของเราให้เร็วที่สุด ฝรั่งอยากได้ไปสร้างโรงแรมจะแย่แล้ว เท่าไหร่ก็จ่ายไม่อั้น”
อาฟงยืนยันจะซื้อไร่ชาม่วนใจ๋ให้จงได้
“ไม่ต้องห่วงป๊า อั๊วรับรองว่า อีกไม่นานม่วนใจ๋ต้องเป็นของเราแน่”
อาเฟยพูดอย่างมั่นใจ แววตาอาฆาตและมีเลศนัย

เวลาต่อจากนั้น กลุ่มชาวบ้าน รวมตัวกันแน่นหน้าบ้านสมใจ แต่ละคนสีหน้าไม่สู้ดีเพราะไม่มีรายได้ ทุกคนกำลังโอดครวญ วิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่ โดยมีลำยองและลำใยเป็นแกนนำ ส่วนสมหมาย สมศรี สมใจ คำปุย แคบหมู ปลัดจืด และหวานเจี๊ยบ ยืนเครียดอยู่ด้วยกัน
“เอาล่ะๆ! ใจเย็นก่อนพี่น้องเฮา”
สมหมายเอ่ยขึ้น
“โอย เย็นไงไหวล่ะพ่อหมาย พี่น้องจะอดตายกันอยู่แล้ว”
ลำยองเอ่ยขึ้น ลำใยรีบเสริมแม่ทันที
“จริงด้วย อุตส่าห์เก็บใบชากันหลังแทบหัก ดูดู๊ โดนเผาซะเรียบเลย”
“ขอให้อดทนกันอีกซักนิดได้มั้ยจ๊ะ อีกไม่นานใบชาก็ออกใหม่ เราก็จะมีใบชาไปขายกันแล้ว”
สมใจโพล่งขึ้น
“อีกไม่นาน ต๊าย! พูดออกมาได้นังใจ๋อีกตั้งกี่เดือนกว่าใบชาใหม่มันจะออก พวกเรามิตายกลายเป็นผีเปรตผู้หิวโหยกันไปหมดแล้วเรอะ จริงมั้ยพวกเรา”
ชาวบ้านเริ่มเห็นด้วยกับลำยอง
“เบาก่อนครับ เบาก่อน น้าลำยองก็พูดเกินไปนะครับ ที่ผ่านมาชาวม่วนแต๊ของเราก็อยู่ดีมีสุขกันมาตลอดเพราะไร่ชาม่วนใจ๋ของลุงหมาย และหลายครั้งที่เราก็ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาด้วยกันได้ตลอด ส่วนครั้งนี้ ผมอยากให้ใจเย็นๆ และร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหานี้อีกซักระยะนึงได้มั้ยครับ”
ปลัดจืดเข้าเคลียร์สถานการณ์ ลำยองยังเถียงไม่เลิก
“ไม่ทันแล้วมั๊งพ่อปลัด มัวแต่เชื่องช้าอย่างนี้ ดูซิ ไอ้ฟ้าลั่น หลานแม่อุ๊ยมันไข้จับจนหัวจะโกร๋นอยู่แล้ว พ่อหมายยังไม่จ่ายค่าจ้างซักกะบาท แล้วแกจะเอาเงินที่ไหนไปหาหมอ”
“ใช่ๆ ฉันก็เหมือนกัน”
ชาวบ้านเริ่มเห็นด้วย
“เอ้าๆ หยุดก่อน หยุดก่อน งั้นฉันขอถามหน่อย ถ้าไม่รอใบชาใหม่ แล้วจะให้เราทำยังไง”
ชาวบ้านมองตากันยังหาทางออกไม่เจอ
“ขายเลย!”
ลำยองเอ่ยขึ้น สมหมาย สมศรีและสมใจตกใจ
“ขาย”
“ใช่! จำไม่ได้เหรอพ่อหมาย ที่เคยมีฝรั่งอยากได้ที่ดินผืนนี้ของพ่อหมายไปทำโรงแรมไง ขายปุ๊บได้เงินเป็นล้านๆ ปั๊บ”
ลำยองย้ำ
“จริงจ๊ะแม่ แล้วพอมีโรงแรม พวกเราก็จะได้ทำงานโรงแรมสบายๆ ไม่ต้องเก็บใบชากันหลังขดหลังแข็ง จริงมั้ยพวกเรา”
ลำใยแทรกเหมือนเดิม ชาวบ้านยังไม่คล้อยตาม แต่ยังคงวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่
“หยุดเลยน้าลำยอง น้าเอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ย เงินเป็นล้านได้มาก็หมดไป แต่เรามีที่ดิน มีไร่ชา ผลิดอกออกใบให้เราเก็บขายได้ชั่วลูกชั่วหลาน มันยั่งยืนกว่ากันตั้งเยอะ”
สมใจสวนหลับลำยองทันที โดยมีวหานเจี๊ยบเป็นกองหนุน
“จริงด้วย แล้วแน่ใจเหรอว่าถ้ามีโรงแรมแล้วเขาจะจ้างแกไปทำงานสบายๆ ห๊านังลำใย หน้าหนอนหยั่งแกน่ะหรูสุดเขาคงจ้างไปล้างส้วม สบายกว่าเก็บใบชาตรงไหนห๊า!”
“กรี๊ด! นังหวานเจี๊ยบ”
สองแม่ลูกปรี่เข้าจะตบหวานเจี๊ยบ จนสมหมายต้องรีบห้าม
“หึ้ย! หยุด! บอกให้หยุด ยังไงข้าก็ไม่ขายม่วนใจ๋ ใจเย็นอีกนิดนะหมู่เฮา ข้าจะรีบหาเงินมาจ่ายค่าจ้างที่ค้างไว้ให้เร็วที่สุด”
สมหมายพยายามให้ความมั่นใจ แต่ลำยองกับลำใยยังไม่ยอมหยุด
“ให้ไวนะ ให้ไว”
สมหมาย สมศรี สมใจ คำปุย แคบหมู และปลัดจืด แอบหวั่นใจ ส่วนกำโป๊งกับไส้อั่วที่ซู่มดูอยู่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว
“น่าสงสารจังเลยนะลุง”
ไส้อั่วเอ่ยขึ้น
“เออว่ะ ข้าก็ไม่รู้จะช่วยยังไง”

“นี่ถ้าอ้ายขุนทองรู้ รับรองต้องรีบมาช่วยเจ๊ใจ๋แน่ๆ”
กำโป๊งดีดปากไส้อั่วไม่ให้พูด
“นี่แน่ะ! ถ้าไม่อยากเดือดร้อน อย่าเอ่ยชื่ออ้ายขุนทองในม่วนแต๊นี่อีกเด็ดขาดนะไอ้อั่ว!
ไส้อั่วกุมปากด้วยความเจ็บ ส่วนกำโป๊ง กำโป๊งมองไปที่กลุ่มสมใจอย่างสงสารในโชคชะตาของคนม่วนแต๊

เวลาต่อจากนั้น ลำยองกับลำใยแอบมาพบอาเฟยอย่างมีพิรุธ
“พวกมันไม่ยอมน่ะจ๊ะ”
“พวกมันใจแข็งจริงๆ จ๊ะ”
สองแม่ลูกช่วยกันรายางนอาเฟย ที่กำลังยื่นเงินให้ลำยองค่าสืบราชการให้
“อุ๊ย!”
“ค่าเหนื่อยก้อนแรก”
อาเฟยเอ่ยขึ้น ลำยองกับลำใยกรี๊ดกร๊าดจะหยิบเงิน แต่อาเฟยยังมีข้อแม้ต่อ
“แต่จะให้พร้อบกับก้อนที่ 2 เมื่อแผนขั้นต่อไป สำเร็จ!”
“อ้าว!”
“รึจะไม่เอา”
อาเฟยต่อรอง
“เอาจ๊ะๆ”
“ดี ถ้างั้นก็รีบเลย อย่าชักช้า”
“ได้เลยจ๊ะ ฉันจะทำให้ไร่ม่วนใจ๋กลายเป็นของเถ้าแก่น้อยให้ได้ ว่าแต่ไม่อยากได้ คุณนายไปช่วยเฝ้าไร่ซักคนเหรอจ๊ะ เถ้าแก่น้อย”
อาเฟยยิ้ม แล้วเดินออกไป สมุนรายหนึ่งตอบแทนให้
“หน้าตาอย่างนี้ ไปเป็นผีเฝ้าป่าช้าดีกว่ามั้ยล่ะเจ๊ ฮ่าๆ”
สมุนของอาเฟยหัวเราะลั่น
ในขณะที่ลำใยเริ่มไม่พอใจ “ว๊าย! แม่จ๋า มันด่าลูก”
“ว๊าย! ไอ้บ้า แกซิไอ้ผีเปรต โอ๋ๆ นิ่งซะลูก ลูกสาวคนสวยของแม่ แหม พวกมันตาต่ำ ตาบอด” ลำยองปลอบลูก

สองแม่ลูกจอมจุ้น กลายเป็นสายลับให้อาเฟย ต่อรองซื้อไร่ชาม่วนใจ๋จากสมหมาย










Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 23:31:44 น.
Counter : 205 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]