All Blog
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 4 เมษายน 2555



“เหมือนผ่านมาเป็นล้านปีเลย อยู่นิวยอร์กใช้ชีวิตแบบนี้” อุนซองสูดลมหายใจอย่างสดชื่น

“คนเรามักมองข้ามความสุขในชีวิต”

“ถ้ารู้ฉันจะใช้มันให้คุ้มค่า กาแฟหนึ่งถ้วย ข้าวร้อนหนึ่งชาม ดูหนัง นั่งคุยกับเพื่อน ฮ่ะ...ฮ่ะ...เสียงหัวเราะของคุณพ่อ เสียงเปียโนของอุนยู ฉันจะตักตวงความสุขนี้...สวยนะ”

“ตอนนี้ยังไม่สาย ตอนเธอทำอาหาร เป็นช่วงเวลาของความสุข”

“ฉันเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่” อุนซองพูดขำ ๆ

“ฉันอยากให้เธอเหมือนวันนี้ เหมือนวันแรกที่เจอ แววตาเธอส่องประกายด้วยความสดใส อยากให้เธอเป็นเหมือนตอนนั้น...อุนซอง ขอเป็นเหมือนวันนี้ ทำอาหารที่ชอบด้วยกัน คิดเมนูใหม่ ๆ เราใช้ชีวิต แบบนี้กันนะ” จุนเซตัดสินใจที่จะพูดความในใจ

“พูดแบบนี้ หมายความว่ายังไงคะ” อุนซองเริ่มรู้สึกแปลก ๆ

“ฉันไม่อยาก...เป็นพี่ชายอีกแล้ว ขอเป็นแฟนเธอนะ...ต่อหน้าสาวคนรัก ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากเป็นแค่พี่ชาย”

“พี่จุนเซ” อุนซองตกใจเมื่อรู้ความในใจของจุนเซ

“ฉันอยากให้เธอได้ทำงานที่ชอบ เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของชีวิต”

“ฉันก็อยากทำแบบนั้น แต่ว่า... ตอนนี้ฉันยังทำใจไม่ได้”

“บริษัทของคุณย่า ไม่ใช่งานที่เธอชอบแม้แต่น้อย ความขัดแย้งกับยูฮัง กับคนในบ้านเขา ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย”

“บอกแล้วไงว่ามีหลายเหตุผล”

“ต้องการตัดความโลภของบางคน เพราะความเกลียดชัง เพราะเขาเปลี่ยนชีวิตเธอ นั่นคือเหตุผล เธอกำลังทิ้งช่วงเวลาแห่งความสุข” จุนเซคิดว่าอุนซองต้องการจะแก้แค้นเซ็งฮีและซึงมี

“ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด คุณย่าท่านไว้วางใจฉัน ท่านต้องการฉันมาก”

“แต่นั่น...มันไม่ใช่...งานที่เธอรัก”

“ก็จริงอยู่ แต่ฉันตัดสินใจแล้ว พี่พูดเองไม่ใช่รึ ตัดสินใจแล้ว อย่าท้อ สู้ต่อไป...ขอโทษ...ที่ผ่านมา ฉันทำหลายสิ่งที่ไม่สมควร ฉันได้แต่มองด้านเดียว ทำเป็น...ไม่รู้ใจพี่ หวังว่าพี่จะเข้าใจสภาพของฉัน”

“ฉันเข้าใจ” จุนเซหน้าสลด

“ตราบใดที่ยังหาอุนยูไม่เจอ ฉันไม่มีทางเลือก ไม่รู้อุนยู...จะอยู่ยังไงเป็นยังไง ฉันจะมีความสุขคนเดียวได้ยังไง ฉันทิ้งอุนยูไม่ได้...ขอโทษ”

“ไม่เป็นไร นึกแล้วเธอต้องพูดแบบนี้ ฉันรักเธอมาก และอีกอย่างนึง ฉันอยากรู้ ว่าเธอคิดยังไง แต่ว่า ฉันขอจองไว้ก่อนได้มั้ย ยังไม่เจออุนยู ฉันขอจองที่ข้างหัวใจเธอ”

“ไม่รู้.. พี่ต้องรอถึงเมื่อไหร่” อุนซองพูดขึ้นเพราะไม่อยากให้คนดี ๆ อย่างจุนเซต้องมาเสียเวลากับเธอ

“ทำไม เธอถึงบอกว่ารอล่ะ ระหว่างนี้ เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่” จุนเซยิ้มให้ แม้รอยยิ้มจะแห้งแล้งเต็มที

ชองยีนำเรื่องที่อุนซองไปอยู่ที่บ้านจุนเซสองต่อสองมาเล่าให้ยงนังฟัง ยงนังก็โวยวายยกใหญ่ “ลูกฮัง ทำยังไงดี อุนซองล้างผลาญบ้านเราจริง ๆ เลย”

“ล้างผลาญเรื่องอะไร”

“ได้ยินว่า จุนเซ ชอบอุนซองน่ะสิ”

“ยงนัง เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” จังซุกจาแปลกใจมากเพราะไม่เคยรู้มาก่อน

“คุณแม่ จุนเซสิคะชอบอุนซอง เขาปฏิเสธลูกยูเจของเรา อุนซอง ยังไปบ้านจุนเซสองต่อสองด้วย” ยงนังฟ้องทันที

“ว่าไงนะ” จังซุกจาตกใจ ขณะที่ชองยีก็เอาแต่ร้องไห้

ยงนังขอร้องให้จังซุกจาไล่อุนซองออกจากบ้าน “ถึงขั้นนี้ ยังจะให้เราทนอยู่กับมันรึคะ ดิฉัน... เคารพนับถือคุณแม่มากที่สุด แม้คุณแม่เห็นพนักงาน สำคัญกว่าลูกหลานซึ่งดิฉันไม่เข้าใจ สมบัติของคุณแม่ จะยกให้ใครก็แล้วแต่คุณแม่ สำหรับลูกยูเจมันต่างกัน เขาเป็นลูกสาวดิฉันนะคะ”

“จุนเซไม่มีใจชอบชองยี อุนซองผิดตรงไหน” จังซุกจาพูดกลาง ๆ เพราะการที่จุนเซไม่ชอบชองยีไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น

“ทำไมจะไม่ผิด ถ้าไม่มีอุนซอง จุนเซแต่งงานกับชองยีไปนานแล้ว คุณแม่ยังเห็นด้วย เรียกดิฉันไปขอด้วยซ้ำ คุณแม่ นี่เป็นเรื่องแต่งงานหลานสาวทั้งคน จะไม่เหลียวแลรึคะ”

“ใครว่าฉันไม่เหลียวแล”

“ทั้งหมดเป็นความผิดอุนซอง ถ้าคุณแม่ไม่พาเขามาที่บ้านเรา ทั้งเงินทั้งคนก็ไม่ถูกแย่ง ตอนนี้ให้ชองยีทำยังไง หลานเสียใจมากนะคะ” ยงนังโวยวายไม่เลิก

“ชองยีเป็นยังไงบ้าง” จังซุกจาเป็นห่วงหลานสาวมาก

“จะเป็นยังไง ร้องห่มร้องไห้แทบจะขาดใจสิคะ” ยงนังพูดงอน ๆ

จุงซุกจามาปลอบใจหลานสาว แต่ถูกชองยีต่อว่าทั้งจังซุกจายกมรดกให้อุนซอง แถมอุนซองยังมาแย่งคนรักของเธออีก จังซุกจาไม่อยากให้หลานสาวตีโพยตีพาย แต่ก็ถูกชองยีหาว่าเข้าข้างอุนซองอีก

“เกิดขึ้นได้ยังไง คนที่จุนเซชอบ จำเพาะต้องเป็นอุนซอง” จังซุกจาออกมานั่งบ่นที่หน้าบ้านและบ่นกับพ่อบ้าน

“ท่านคงลำบากใจมากนะครับ”

“จุนเซตั้งแต่เล็ก ถูกหมายตาจับคู่กับชองยีเอาไว้แล้ว กลุ้มจริง ๆ” จังซุกจาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เป็นเวลาเดียวกับที่อุนซองกลับมาถึงบ้าน “เอ้อ...อยู่กันทั้งสองคนเลย”

“กลับมืดนะครับ” พ่อบ้านเอ่ยทัก

“ค่ะ ฉันมีนัดกับเพื่อนค่ะ คุณย่าคะ วันอาทิตย์นี้ ร้านสาขาสองจัดงานฉลอง 30 ปีค่ะ”

“ใช่ ฉันได้รับข่าวแล้ว”

“ทราบมั้ยคะ เป็นความคิดของหลานชายด้วยนะคะ จัดเมนูเด็ก มีของเด็กเล่น” อุนซองรีบบอกความคืบหน้า

“พอแล้ว ฉันให้มีผลงานกำหนดสองเดือน ไม่ใช่รายงานแบบนี้ ฉันคุยธุระอยู่ เธอเข้าไปก่อน” จังซุกจาอารมณ์ไม่สู้ดีนัก ทำเอาอุนซองแปลกใจ

“ขอโทษนะคะ” อุนซองรีบเดินเข้าบ้านไป

“กลับมาแล้วค่ะ” อุนซองกล่าวทักทายทุกคน

“เธอกลับมาจากไหนยะ” น้ำเสียงยงนังแดกดัน

“ทำงานค่ะ แล้วมีนัดเจอเพื่อน”

“เพื่อน จุนเซเป็นเพื่อนใช่มั้ย เธอนี่เก่งจริง ๆ นะ คนอย่างเธอ เกิดมาเพื่อล้างผลาญบ้านฉันแท้ ๆ”

“พูดถึงอะไรคะ” อุนซองแปลกใจมากกับท่าทีของยงนังและคนในบ้าน

“ชาติก่อนเธอแค้นอะไรนักกับคนในบ้านฉัน ทำลายอนาคตลูกชายฉัน ต่อให้เลวร้ายขนาดไหนยังไม่ทำแบบนี้ แย่งสมบัติไปหมดไม่พอ ยังจะแย่งจุนเซไปอีก เฮ้อ...”

“นี่...คราวก่อนถามเธอ ทำไมต้องโกหก เธอว่าพี่จุนเซเป็นเพื่อน แค่รู้จักกัน” ชองยีใส่เป็นชุด อุนซองพูดไม่ออก

“คนอะไร้ร้ายจริง ๆ”

“นึกสงสัยตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเชียว ยังโกหกว่านับถือเป็นพี่น้อง หน้าด้านที่สุด จะแย่งทุกอย่างไปหมดรึยังไง...ฮือ ๆ”

สองแม่ลูกผลัดกันต่อว่าอุนซอง โดยที่อุนซองไม่มีโอกาสได้พูดเลย ยูฮังทนไม่ไหวตวาดเสียงดัง “หยุดได้แล้ว ไม่ขายหน้าชาวบ้านรึไง เข้าไป” ยูฮังเข้าไปดันหลังแม่และน้องให้เข้าห้องไป

“ลูกฮัง ทำอะไร ปล่อยแม่...”

“เธอไปบ้านพี่จุนเซทำไม” ชองยีเสียงเขียวก่อนจะถูกยูฮังดันเข้าห้อง

“พี่ช่วยมันทำไม” ชองยีต่อว่าพี่ชาย

“หัดมีศักดิ์ศรีบ้าง ทะเลาะกับเขาทำไม”

“แล้วจะให้ทะเลาะกับใคร”

“ไปด่าพั๊กจุนเซสิ พี่จุนเซไม่ได้ชอบเธอ”

“ทำไมพูดแบบนี้”

“พั๊กจุนเซไม่ได้ชอบ เขาไม่ชอบทำแบบนี้ทำไม”

“คนเสียใจนี่นา” ชองยีบ่น ๆ

“เสียใจทำไม จุนเซมีอะไรดี ไม่ชอบสนใจทำไม ช่างหัวมันสิ ผู้ชายมีพั๊กจุนเซคนเดียวรึ ไม่ต้องสนใจ ลืมเขาซะ”

ยงนังและชองยีอึ้งไป ที่ครั้งนี้ยูฮังเข้าข้างอุนซองอย่างเห็นได้ชัด




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 เมษายน 2555
Last Update : 4 เมษายน 2555 10:37:27 น.
Counter : 340 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]