Group Blog
All Blog
|
กระบือบาล ตอนที่ 1 บริเวณท้องทุ่งภายในสถานีเพาะพันธุ์กระบือแห่งนั้น เขียวขจีกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และในตอนกลางวันของวันนั้นควายนับสิบตัววิ่งกันจนฝุ่นตลบอยู่ตรงบริเวณหนึ่ง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทีมงานกำลังเปิดคอกคัดรออยู่ ฝูงควายวิ่งกรูกันเข้ามาจนวิ่งผ่านไปหมดแล้ว ครั้นพอฝุ่นจางลง ก็มีเสียงร้องตะโกนสั่งดังขึ้นมา ปิดคอก...ปิดคอก เป็นใจเด็ดนั่นเองที่ร้องบอกทีมงาน ภิรมย์พร้อมกับคนงานคนอื่นๆ ต่างส่งเสียงร้องบอกต่อกันเพื่อออกไปปิดคอก จังหวะนั้นใจเด็ดกระโดดเข้าไปอยู่ในคอกที่กำลังอลหม่านไปด้วยฝูงควายที่ไร้การควบคุม ใจเด็ดจับจ้องไปที่ลูกควายตัวนึงก่อนจะพุ่งเข้าไปแล้วจับล๊อคคอจับเอาไว้ ทันใดนั้นภิรมย์ต่างก็พุ่งเข้ามาพร้อมอุปกรณ์ในมือส่งให้ใจเด็ด ภิรมย์รีบเข้ามาลูกควายตัวนั้นแทนใจเด็ด ใจเด็ดลูบหัวลูกควายด้วยความเอ็นดู ทนเจ็บนิดนึงนะไอ้ตัวเล็ก ว่าแล้วใจเด็ดก็จัดการตอกหูทันที ลูกควายดิ้นเล็กน้อย มันคงรู้สึกเหมือนมดกัด ใจเด็ดหันไปตะโกนเรียกเสียงดัง เจน เจนจิรากระโดดลงมาที่คอกก่อนจะรีบถือแฟ้มวิ่งเข้ามาที่ใจเด็ดกับภิรมย์ที่กำลังช่วยกันจับลูกควายตัวนั้น เจนจิราเข้ามาที่ควายตัวนั้นก่อนจะรีบเปิดปากขึ้นสำรวจฟัน กี่ขวบแล้ว ใจเด็ดถาม เจนจิราปิดปากลงแล้วตอบอย่างมั่นใจ ขวบครึ่งหรือมากกว่านั้นแต่ไม่เกินสองปี ใจเด็ดยิ้มให้แทนคำตอบก่อนจะสำรวจลูกควายตัวนั้นถึงลักษณะภายนอกรวมๆ เอ้า...เร่งมือเข้า...ตัวไหนขึ้นเปรี้ยวก็ส่งไปให้หมอเลย เวลาเดียวกันนั้นสมหญิงยืนอยู่ในช่องคัดกำลังทำหน้าสงสัย ไอ้ขึ้นเปรี้ยวนี่มันหมายความว่าไงคะหมอ เกริกไกรกำลังเอามือสวนเข้าไปในทวารหนักของควายตอบข้อข้องใจ เธอทำงานกับควายมากี่ปีแล้วสมหญิง สมหญิง นึก เริ่มนับนิ้วมือ เอ่อ...ก็หลายปีแล้วค่ะ แล้วไม่รู้จักคำว่าขึ้นเปรี้ยวหรือไง ก็รู้ว่าเรียกตอนที่ควายมันเป็นสัดน่ะคะ ระหว่างนั้นเกริกไกรค่อยๆ ดึงมือที่สวมถุงพลาสติกออกจากทวารหนักของควาย เห็นอุจจาระควายติดตามออกมา เกริกไกรยื่นมือไปให้สมหญิง ดูซิว่าเปรี้ยวมั้ย เกริกไกรบอก สมหญิงทำท่าจะเอานิ้วจิ้มจริงๆ แล้วนึกได้ก่อน เฮ้ย ! หมออ่ะ...เนี่ย...ที่สมหญิงไม่รู้ก็เพราะว่าหมอเกริกไกรไม่เคยบอกสมหญิงจริงๆอย่างนี้แหละคะ สมหญิงทำหน้าง้ำก่อนจะช่วยดึงถุงมือพลาสติกใสออกจากแขนของเกริกไกรที่กำลังหัวเราะร่า เอ้า...ฉันก็บอกไปหลายทีแล้วว่ามันเป็นภาษาชาวบ้าน...ไม่เชื่อหรือไง เกริกไกรพูดไปก็หยิบหลอดน้ำเชื้อขึ้นมา ทำตามขั้นตอนที่หลังจากละลายน้ำแข็งแล้วก่อนจะใส่น้ำเชื่อลงในหลอดฉีด ก็หมอเอาแต่พูดเล่นอย่างนี้จนสมหญิงไม่รู้แล้วว่าอันไหนหมอพูดจริงอันไหนหมอพูดเล่น สมหญิงบ่น ทันใดนั้นเกริกไกรก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด อ้าก... เป็นไรคะหมอ มัน...มันกัด สมหญิงตกใจ ห๊า ! ตูดควายกัดเหรอคะ เกริกไกรหันมายิ้มแห้ง..แหะๆ เปล่าจ้ะ...หมอโดนมดกัดที่ก้นน่ะ...เกาให้หน่อยซิ หมออ่ะ! ระหว่างนั้นเสียงวิทยุประจำสถานีก็ดังขึ้น คล้ายเสียงออดของโรงเรียน เกริกไกรกับสมหญิงหันไปทางเสียงด้วยความแปลกใจ เสียงออดดังลอดมาถึงบริเวณคอกคัด ซึ่งใจเด็ดกับเจนจิรากำลังช่วยกันทำประวัติของควายคอกใหม่ ดีหนึ่งประเภทหนึ่ง ใจเด็ดเอ่ยขึ้นแล้วปล่อยลูกควายไป ไปได้แล้วไอ้ตัวเล็ก ระหว่างนั้นใจเด็ดกับเจนจิราก็ต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงออดของสถานีดังขึ้น หัวหน้าใจเด็ดรับโทรศัพท์ที่สำนักงาน ใจเด็ดหันขวับด้วยความดีใจทันที หัวหน้า...เขาโทรมาแล้ว เจนจิราพลอยดีใจไปด้วย ใจเด็ดพยักหน้ารับ สีหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ พี่ฝากด้วยนะเจน ใจเด็ดรีบออกไปทันที เจนจิรามองตามด้วยความอยากรู้เช่นกัน ไม่นานหลังจากนั้น ใจเด็ดกำลังคุยโทรศัพท์ในสำนักงานสีหน้าเครียด เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ...พวกผมรอได้ เสียงเกริกไกรดังแทรกขึ้นมา เอางบเราไปใช้ก่อนอีกเหมือนเดิมละซิ ใจเด็ดหันมาจึงเห็นเกริกไกรกับเจนจิรายืนอยู่ ใจเด็ดทำสีหน้าลำบากใจไม่ปฏิเสธ เขาต้องการเอางบเราไปฟื้นฟูจังหวัดที่โดนน้ำท่วมก่อน แล้วเราละพี่...เราก็ต้องใช้เหมือนกัน...ควายคอกตาก่ำเมื่อเช้าก็กี่ตัวแล้ว เจนจิราโวยเล็กๆ แต่ตอนนี้จังหวัดอื่นที่โดนน้ำท่วมเขาแย่กว่าเรานะเจน...เราเป็นคนไทยเหมือนกัน...อะไรช่วยได้ก็ต้องช่วย เกริกไกรเอ่ยขึ้นมาอีก ฉันเข้าใจนะเพื่อน...แต่แกช่วยเขาแล้ว...แล้วใครจะมาช่วยแกวะ ใจเด็ดนิ่งไปครุ่นคิดหาทาง ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ แล้วรีบคว้าเสื้อกับหมวกจะเดินออกไป เกริกไกรร้องเรียกพลางถาม อ้าวเฮ้ย ! แล้วนั่นจะไปไหนละพี่ท่าน กรุงเทพฯ ใจเด็ดบอก ทำเอาเกริกไกรกับเจนจิราแปลกใจ ฉันฝากทางนี้ด้วยแล้วกัน ใจเด็ดรีบเดินออกไปโดยไม่รอให้เกริกไกรกับเจนจิราซักถามอะไร ไอ้เด็ด...แล้วแกไปกรุงเทพฯทำไม...ไอ้เด็ด เกริกไกรรีบตามใจเด็ดออกไปทันที เจนจิรามองตามด้วยความเป็นห่วง เวลาเดียวกันที่ดินถูกไถกลบกันเป็นแนวยาว ด้วยรถไถนา เห็นป้ายยี่ห้อสยามบาคาตี้ติดหราอยู่ที่รถไถคันนั้น เห็นคนขับจากทางด้านหลังในมือจับพวงมาลัย อีกมือเข้าเกียร์และขยับคันโยกต่างๆ ใช้เท้าคอยเหยียบคันเร่งไปมา รถไถส่งเสียงครางกระหึ่ม แต่แล้วทันใดนั้นรถไถก็เกิดน็อคซะดื้อๆ คนขับกระโดดลงจากรถไถ ที่แท้ไม่ใช่ใคร หากแต่เป็น สรนุช...ซึ่งอยู่ในชุดวิศวกรของโรงงาน และกำลังมองรถไถด้วยความหงุดหงิด ระหว่างนั้นเห็นพวกบรรดาวิศรกรผู้ชายกำลังเดินกระหย่องกระแหย่งผ่านนาจำลองเข้ามาหาสรนุช เป็นอะไรเหรอครับคุณนุช วิศวกรคนหนึ่งถาม เป็นไรล่ะ..? ก็เห็นอยู่ว่าเครื่องมันน็อค สรนุชใช้มือทุบรถไถ ก็คุณนุชเล่นใช้ไถมาสามวันสามคืนไม่ให้มันเลย...มันก็สมควรน็อคอยู่แหละครับ สรนุชหันขวับมาจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้...ก็อย่าหวังว่าจะไปชนะควายเลย...เอารถลากมาลากไปไว้ให้ฉันด้วย สรนุชเดินฝ่าดินมุ่งหน้าไปที่โรงงานที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง เผยให้เห็นว่าที่แท้ ผืนนาแห่งนั้นเป็นผืนนาจำลองของบริษัทสยามบาคาตี้นั่นเอง ภายในโรงงานผลิตรถไถแห่งนั้น มีรถไถและเครื่องมือการเกษตรเรียงรายกันอยู่ภายในโรงงาน ทุกชิ้นมีโลโก้ของบริษัทสยามบาคาตี้อยู่ทุกหนแห่ง สรนุชเดินเข้ามาภายในโรงงานคิ้วขมวดสีหน้าเครียด ระหว่างนั้นเสียงมือถือของสรนุชดังขึ้น สรนุชรีบหยิบขึ้นมาดูก่อนจะตกใจเล็กน้อย วัต เป็นณวัตที่โทร.เข้ามา สรนุชพยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเปลี่ยนอารมณ์ ก่อนจะเห็นสรนุชยิ้มออกมาแล้วรับสายเสียงหวานอย่างกับคนละคน วันนี้วัตคงต้องทานข้าวกลางวันคนเดียวแล้วละ สรนุชฟัง จริงๆคะ...ยังเหลือตั้งสิบกว่าคันที่นุชยังไม่ได้เทสต์เลย ระหว่างนั้นเสียงของณวัตดังขึ้นใกล้ๆ ถ้าอย่างนั้นวัตคงต้องสั่งปิดโรงงานนี้แล้วละ สรนุชทำหน้าแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของณวัตที่ฟังดูใกล้เหลือเกิน สรนุชหันไปก่อนจะตกใจเมื่อเห็นดอกไม้ช่อหนึ่งยื่นเข้ามา ช่อดอกไม้ลดลงจึงเห็นร่างณวัตในชุดสูทดูภูมิฐานถือโทรศัพท์มือถืออยู่ สรนุชวางมือถือ วัต สุขสันต์ความรักของเราอีกวันนึงครับ สรนุชรับดอกไม้มาก่อนจะทำหน้าดุ ถึงวัตจะเป็นผู้บริหารของที่นี่...แต่วัตก็รู้ว่าเข้ามาในนี้ต้องแต่งตัวยังไง วัตว่าคงไม่จำเป็นแล้วละ...เพราะเมื่อผมกลับไปที่ห้อง...วัตจะเซ็นคำสั่งให้เลิกผลิตรถไถพวกนี้ซะที ณวัตบอก สรนุชตกใจ ปิด ใช่ครับ...วัตทนไม่ได้ที่นุชรักรถไถพวกนี้มากกว่าวัต...แต่ถ้านุชไม่อยากให้วัตทำอย่างนั้น...นุชก็ต้องไปพบพ่อกับวัต พบพ่อวัตเหรอคะ สรนุชชะงัก ในหัวเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่นานหลังจากนั้นสรนุชกับณวัตเดินมาตามทางหน้าโรงงาน สรนุชแอบเหล่มองณวัตด้วยความอยากรู้ วัตจะให้นุชไปเจอพ่อคุณทำไมคะ ความลับครับ ณวัตยิ้มให้ ความลับอะไร...บอกนุชมาเถอะค่ะ ถ้าบอกแล้วมันจะเป็นความลับเหรอครับ ณวัตเห็นสรนุชหน้าง้ำ ก็ได้ครับ...วัตมีเซอร์ไพรส์ให้นุช สรนุชอึ้ง เซอร์ไพรส์..? ระหว่างนั้นเสียงของอรอนงค์ดังขึ้น มาช้ากว่าคุณวัตอีกละ สรนุชกับณวัตหันไปมองตามเสียงก็เห็นอรอนงค์เดินเข้ามา สวัสดีครับคุณอร อุ้ย...ไม่ต้องหวัดดีอรก็ได้คะ...อรเป็นแค่พนักงานบัญชี...แล้วนี่คู่รักแห่งปีจะไปไหนกันเอ่ย อรอนงค์แซว ว่าจะพานุชเขาไปหาพ่อผมน่ะครับ ณวัตบอกแล้วหันมาพูดกับสรนุช เดี๋ยววัตไปรอที่ห้องนะครับ...ถ้านุชเสร็จแล้วก็ตามขึ้นไปแล้วกัน ณวัตออกไปอย่างรีบร้อนโดยที่สรนุชไม่ทันถามรายละเอียดอะไร นุช...คุณวัตเขาจะพาเธอไปพบคุณสมพลทำไมน่ะ อรอนงค์ถามอย่างนึกสงสัย ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน...เห็นวัตบอกว่าจะมีเซอร์ไพรส์ เซอร์ไพรส์ อรอนงค์รู้สึกตกใจ ถึงกับตะโกนออกมาสุดเสียง เฮ้ย ! ทำไมต้องตกใจด้วย อรอนงค์ หันมาดีใจกับสรนุช ดีใจด้วยนะเพื่อน เรื่องอะไร เอ้า...ก็คุณวัตเขากำลังจะขอเธอแต่งงานน่ะซิ อรอนงค์ว่า สรนุชออกอาการเขิน อ่านนิยายมากไปหรือเปล่า...ไม่จริงมั้ง เอ้า...ถ้าไม่ใช่การขอแต่งงานแล้วคุณวัตเขาจะให้เธอไปคุยกับพ่อเขาทำไม ฟังอรอนงค์ว่าสรนุชนิ่งไป หัวใจเต้นตึกตัก เวลาเดียวกันใจเด็ดเดินถือกระเป๋าตรงเข้ามาที่รถกระบะคันเก่าที่จอดอยู่ และกำลังจะเปิดประตู ทันใดนั้นเกริกไกรก็เอามือดันเอาไว้ พร้อมกับถามขึ้น แกจะไปขอยืมเงินพ่อแกอีกใช่มั้ย ใจเด็ดไม่ตอบจะเปิดประตูรถ แต่ถูกเกริกไกรดันกลับไม่ยอมให้เปิด ฉันว่าแกกำลังเก็บทุกอย่างไว้ที่ตัวเองมากเกินไป...ฉันว่าถึงเวลาที่แกต้องบอกสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ให้ทุกคนรู้แล้วละ ใจเด็ดนิ่งคิด ก่อนจะบอกออกมา ไม่... เกริกไกรสวนขึ้น ไอ้เด็ด...ไม่ได้มีแกคนเดียวนะที่รักควาย...พวกเราต่างก็รักพวกมันเหมือนกัน เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ...เอาไว้ฉันจะหาทางอีกที ใจเด็ดบอกทว่าเกริกไกรยังมีสีหน้าเครียดด้วยความเป็นห่วง ระหว่างนั้นภิรมย์วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในสำนักงาน หมอ...ช่วยด้วย...ช่วยด้วย มีอะไร...ใครเป็นอะไร ใจเด็ดสงสัย นักศึกษาปริญญาโทคนนั้นกำลังฆ่าไอ้สายัณห์ ภิรมย์บอก ใจเด็ดสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที ชายหนุ่มคนนั้นกำลังเตะควายตัวหนึ่งที่นอนหายใจถี่กระชั้นอยู่กับพื้นกลางทุ่งนา อะไร...แค่นี้หมดแรงแล้วหรือไง... ชายคนนั้นเตะเข้าให้ ห๊า ! โธ่...นึกว่าจะแน่แค่ไหน ระหว่างนั้นเสียงของใจเด็ดดังขึ้น หยุดเดี๋ยวนี้..! หนุ่มนักศึกษาคนนั้นหันไปก็เห็นภิรมย์กำลังวิ่งนำใจเด็ดกับเกริกไกรเข้ามา ทำอะไร ใจเด็ด ถามขึ้นทันที หนุ่มนักศึกษา คนนั้นรีบเปลี่ยนท่าทีทันที ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...อยู่ดีๆ มันก็ล้มลงไปนอน ใจเด็ดและเกริกไกรรีบเข้ามาดูอาการของควายตัวนั้นทันที ทำใจดีๆไว้สายัณห์...หมอมาแล้ว เกริกไกรดูอาการเพียงแวบเดียวก็รู้ทันที สายัณห์กำลังจะเป็นลม...ภิรมย์หาน้ำมาราดตัวสายัญให้หน่อย ภิรมย์รีบวิ่งออกไป ใจเด็ดลุกขึ้นตรงไปที่ชายหนุ่มคนนั้นด้วยความโมโห คุณให้สายัณห์ทำอะไร ผม...ผมก็แค่ให้มันไถนา นักศึกษาบอก นานแค่ไหนแล้ว ก็ตั้งแต่เช้า แล้วนี่มันกี่โมงแล้ว...ไม่รู้หรือไงว่าควายทนร้อนไม่ได้...ตอนกลางวันต้องให้มันลงไปแช่ในปลัก ใจเด็ดบอก ก็ผมกำลังทำวิจัยหัวข้อเรื่องความอดทนของควาย...ถ้าผมไม่ใช้มันแล้วผมจะรู้ได้ยังไง ใจเด็ดได้ยินอย่างนั้นก็พยายามสะกดอารมณ์ ก่อนจะเดินไปหยิบข้าวของแล้วส่งให้นักศึกษาปริญญาโทคนนั้น ไปจากที่นี่ซะ...ผมยินดีให้คุณมาทำวิทยานิพนธ์ที่นี่เพราะดีใจที่เห็นคนสนใจควาย...คนและควายที่นี่อยากช่วยคุณ...แต่คุณกลับทำร้ายมัน อะไร...แค่ควายเป็นลมแค่นี้คุณถึงกับไล่ผมเหรอ มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กสำหรับคุณ...แต่มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเรากระบือบาล เออ...นึกว่าอยากอยู่หรือไง...พวกแกมันพวกโรคจิตทั้งนั้น นักศึกษาคนนั้นระเบิดอารมณ์ออกมาแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวออกไป ใจเด็ดรีบเข้ามาช่วยเกริกไกรที่กำลังปฐมพยาบาลควาย ใจเด็ดลูบควายด้วยความเป็นห่วงสุดๆ ใจเย็นไว้...แกไม่เป็นไรแล้ว ไอ้บ้านั่นมันพูดอย่างนั้นได้ยังไง...เป็นนักศึกษาปริญญาโทจริงหรือเปล่าวะ เกริกไกรเคืองยิ่งนัก ระหว่างนั้นใจเด็ดเหลือบไปเห็นสมุดบางอย่างที่สายัณห์นอนทับเอาไว้ ใจเด็ดดึงสมุดเล่มนั้นขึ้นมา ก่อนจะพบว่าในนั้นมีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับสถานี ไม่ว่าตัวเขาหรือเจ้าหน้าที่ทุกคน ก่อนจะเห็นเบอร์ติดต่อที่เขาจดเอาไว้ว่าเป็นคนของบริษัทบาคาตี้ ใจเด็ดยื่นสมุดให้เกริกไกรดู เกริกไกรรับมาดูแล้วก็ตกใจ เฮ้ย ! ไอ้บ้านั่นมันคือ ใจเด็ดฉายแววตากร้าวออกมาอย่างเคืองแค้น สายลับของไอ้พวกบาคาตี้ ผู้จัดการสยามบาคาตี้สาขาสุรินทร์กำลังพูดจาพินอบพิเทา เอาใจนายกอ.บ.ต.คนนั้น แหม...เป็นเกียรติอย่างสูงจริงๆครับ...ที่ท่านอบต.โชคชัยจะมาช่วยงานเรา อบต.โชคชัยนั่งยิ้มกริ่มอยู่ตรงหน้าผู้จัดการ ผู้จัดการพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก...เดี๋ยวชาวบ้านเขาจะหาว่าผมเลือกที่รักมักที่ชัง...ผมก็แค่อยากให้ลูกบ้านอยู่อย่างมีความสุข ผู้จัดการหน้าเจื่อนลงเพราะคิดว่าอบต.โชคชัยไม่รับไมตรี ก่อนที่ผู้จัดการจะหันไปหยิบกล่องโดนัทมาส่งให้กับอบต.โชคชัย นี่โดนัทจากกรุงเทพฯ ครับ...ไอ้ขนมเจ้านี่เห็นเขาว่าต้องไปยืนรอคิวเป็นวันเลยนะครับ...ท่านโชคชัยลองดูหน่อยซิครับ อบต.โชคชัยรับกล่องขนมมาก่อนจะเปิดฝาขึ้น อบต.โชคชัยเห็นเงินจำนวนหนึ่งวางอยู่ในกล่องขนมใบนั้น อบต.โชคชัยปิดกล่องขนมก่อนจะดันคืนให้กับผู้จัดการ ผมคงรับขนมนี่ไว้ไม่ได้...ที่ผมบอกว่าจะช่วยพูดให้ชาวบ้านมาใช้รถไถก็เพราะว่าผมเห็นว่ารถไถของคุณน่าจะทำให้ชาวบ้านมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ระหว่างนั้นมีเสียงโวยวายดังมาจากภายนอก ผู้จัดการและโชคชัยสงสัยว่าเกิดเรื่องอะไร เป็นใจเด็ด เกริกไกร เจนจิรา ภิรมย์และสมหญิงนั่นเองที่แท็คทีมมาตะโกนอยู่หน้าบริษัทบาคาตี้สาขาจังหวัดสุรินทร์พร้อมด้วยชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง เกริกไกรตะโกนนำ บาคาตี้ ทุกคนขานรับ ออกไป เกริกไกรไม่สะใจหันมาใช้โทรโข่ง ออกมาซิไอ้พวกบาคาตี้...ไอ้พวกชอบเล่นสกปรก...พวกเราต้องการคนรับผิดชอบควายของเรา ระหว่างนั้นอบต.โชคชัยเดินออกมาจากด้านใน ใจเด็ดเห็นก็รู้ว่าอบต.โชคชัยมาทำอะไร เดี๋ยวๆ ทุกคน...เกิดอะไรขึ้น โชคชัยเอ่ยขึ้น ใจเด็ดลงจากรถกระบะก่อนจะเดินเข้ามาหาโชคชัย พวกเรามาทวงความยุติธรรมให้ควายของเรา...บาคาตี้ส่งคนเข้ามาสืบข้อมูลและเข้ามาทำร้ายควายของพวกเรา ไม่จริง...ไอ้พวกนี้มันใส่ร้ายผมนะครับท่าน...ท่านอย่าเชื่อพวกมันนะครับ ผู้จัดการรีบปฏิเสธ แล้วไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นมันไม่ใช่คนของคุณหรือไง ใจเด็ดชี้ไปที่พนักงานบาคาตี้ที่ปลอมเป็นนักศึกษาปริญญาโท ชายคนนั้นรู้ว่าใจเด็ดจำได้ก็รีบวิ่งออกไป โชคชัยรีบเข้ามาพูดไกล่เกลี่ย ใจเด็ด...ผมรู้ว่าพวกคุณรักควาย...แต่อย่าให้เกิดเรื่องเกิดราวได้มั้ย...คิดว่าเห็นแก่หน้าผมเถอะ ใจเด็ดนิ่งไปก่อนจะหันมองไปทางทุกคนที่เหมือนมองมาที่เขาด้วยความหวัง ถ้าผมเห็นแก่หน้าคุณ...แล้วใครจะเห็นแก่ควายผมบ้าง โชคชัยถึงกับจุกอกที่โดนใจเด็ดย้อนเข้าให้ โชคชัยหน้าตึงด้วยความรู้สึกเสียหน้า พวกเราไม่ได้ต้องการอะไรจากบาคาตี้...เราแค่อยากได้ความยุติธรรมให้กับควายของเรา...บาคาตี้ทำอะไรไว้กับควายของเรา...เราก็จะทำคืนกับพวกมันอย่างนั้น ใจเด็ดพูดด้วยแววตามุ่งมั่นจริงจัง ท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังมาคุตึงเครียดสุดๆ นายจะทำอะไร...จะทำลายรถไถพวกนี้หรือไง ผู้จัดการได้ยินอย่างนั้นก็กระโดดออกมาโวยวายข้างหน้าทันที ไม่ได้นะครับ...ถ้าอย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจว่าพวกแกบุกรุกแล้วยังทำลายทรัพย์สินของบาคาตี้อีก โชคชัยยังพยายามไกล่เกลี่ย นั่นซิ...ใจเด็ด...ฉันว่าเลิกแล้วต่อกันเถอะ ด้วยความนับถือครับ...ถ้าเกิดมีคนมาตีท่านแล้วพอท่านจะตีกลับ...เขากลับบอกให้เลิกแล้วต่อกัน...ท่านจะยอมหรือเปล่า โชคชัยเห็นความพลุ่งพล่านในอารมณ์ของใจเด็ดจึงเข้ามากระซิบ ใจเด็ด...ฉันรู้ว่านายโมโห...แต่ฉันอยากให้นายใจเย็น...ถ้าขืนนายไปมีเรื่องแล้วทำลายรถไถของไอ้พวกนี้...ได้มันจะไม่คุ้มเสียนะ ผมไม่ได้จะมาทำลายรถไถ...แต่สิ่งที่ผมต้องการก็คือ...คำขอโทษ ใจเด็ดว่า โธ่...นึกว่าอะไร... ว่าแล้วผู้จัดการก็ตะโกนใส่หน้าเหมือนยั่วยุ ขอโทษ...แค่นี้ใช่มั้ย...กลับไปได้แล้ว...ไป...ชิ้วๆ ผมไม่ได้ให้ขอโทษผม ใจเด็ดหันไปก่อนจะเห็นเจนจิรากับสมหญิงพาควายเดินเข้ามา คนของคุณทำกับสายัณห์...เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องขอโทษมัน ใจเด็ดตะโกนเสียงเด็ดขาด ระหว่างนั้นเกริกไกรกับภิรมย์ก็ฉุดกระชากลากถู สายลับที่ปลอมเป็นนักศึกษาเข้ามา ช่วยผมด้วยครับผู้จัดการ เอายังไง...ถ้าคนของคุณไม่กราบขอโทษเจ้าสายัณห์...พวกเราก็จะไม่กลับ ใจเด็ดย้ำ ผู้จัดการอึกอักไปอึดใจก่อนจะรีบเข้ามาบอกกับสายลับที่โดนเกริกไกรกับภิรมย์จับเอาไว้ เร็วซิ...ขอโทษซะเรื่องจะได้จบซะที ชายคนนั้นทำท่าจะร้องไห้ก่อนจะที่เขาจะคลานเข่าไปที่หน้าควาย ใจเด็ดหันมาพูดกับผู้จัดการ คุณด้วย จะมากไปแล้วนะเว้ย ผู้จัดการโวยวายลั่น แต่ถ้าแกไม่สั่งให้ไอ้นี่มันทำ...แล้วหมาที่ไหนมันสั่ง เกริกไกรบอก ผู้จัดการหันไปขอความช่วยเหลือกับโชคชัย แต่โชคชัยกลับบอกว่า ผมว่าทำตามที่พวกเขาต้องการเถอะ ผู้จัดการจำยอมเข้าไปคุกเข่าข้างๆ สายลับชายคนนั้น ก่อนที่ทั้งคู่จะก้มลงกราบที่หน้าสายัณห์ทันใดนั้นเหล่ากระบือบาลต่างก็โห่ร้องด้วยความดีใจ ใจเด็ดมองไปที่ทั้งสองคนด้วยสีหน้าเครียดขรึม สรนุชในชุดวิศวกรเดินเข้ามาที่หน้าลิฟต์บริษัทสยามบาคาตี้ สรนุชหยุดสูดหายใจเข้าเต็มปอดระงับความตื่นเต้น ลองซ้อมดูอีกทีดีกว่า...นุช...แต่งงานกับวัตนะครับ... แล้วสรนุชก็ทำหน้าซึ้งราวกับได้ตำแหน่งนางสาวไทย วัต...วัต...คะ...แต่งคะ ทำท่าดีใจสุดชีวิต เยส...เยส...ในที่สุด...ฉันก็ได้แต่งงานแล้ว สรนุชทำท่าดีใจสุดขีดก่อนจะหันหน้ามาที่ประตูลิฟต์ แต่แล้วสรนุชก็หน้าชาเมื่อลิฟต์มาหยุดเมื่อไหร่ไม่รู้ แถมยังมีพนักงานภายในลิฟต์กำลังมองเธอเป็นตาเดียว สรนุชระงับความอายเอาไว้ก่อนจะทำหน้าเชิดเดินผ่านพนักงานที่กรูกันออกจากลิฟต์เหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่พอพนักงานออกไปหมด สรนุชก็ถึงกับตบหน้าผากตัวเอง ที่เผลอทำเปิ่นต่อหน้าประชาชี สรนุชเดินเข้ามาภายในห้องประชุม สวัสดีค่ะ สรนุชอึ้งไปเมื่อเห็นว่าภายในห้องประชุมเต็มไปด้วยผู้บริหารระดับสูงทั้งนั้น เสียงในใจของสรนุชดังขึ้น นี่ต้องประกาศให้รู้กันทั้งบริษัทเลยเหรอเนี่ย สรุนุชทำเป็นเหมือนไม่รู้อะไร สวัสดีค่ะทุกท่าน นั่งนี่ก่อนซินุช ณวัตลุกขึ้นให้สรนุชนั่ง ทุกคนคงจะรู้จักคุณสรนุชว่าเป็นวิศวกรที่โรงงานของเราอยู่แล้ว แต่ผมรู้จักในฐานะเป็นแฟนของคุณวัตมากกว่า ผู้บริหารคนหนึ่งแซวขึ้น ทุกคนหัวเราะร่ากับคำชะเลียของผู้บริหารคนนั้น สรนุชยิ่งหน้าบานหัวใจเต้นตึกตัก สรนุชแสร้งพูดพาซื่อ ดิฉันอยากทราบว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับดิฉันหรือเปล่าคะ ระหว่างนั้นเสียงของสมพลก็ดังขึ้น ใจเย็นจ้ะหนูนุช ทุกคนมองไปทางต้นเสียง เห็นสมพลหมุนเก้าอี้มาอย่างอารมณ์ดี เรื่องที่เราจะคุยต่อไปนี้มันเกี่ยวกับหนูนุชแน่นอน...คืออย่างนี้...เราอยากให้หนู... สรนุชคิดในใจอย่างลิงโลด มาเป็นสะใภ้...มาเป็นสะใภ้ มาเป็นผู้บริหารการขายของบาคาตี้ สรนุชไม่ได้ฟังเพราะยังมัวแต่เคลิ้ม และคิดว่าต้องเป็นอย่างที่ตัวเองคิดเลยเผลอตอบ ค่ะ...แต่งค่ะ แล้วก็นึกได้ อะไรนะคะ คุณพ่ออยากให้คุณมาเป็นผู้บริหารฝ่ายขายน่ะครับ...แล้วเมื่อกี้นุชบอกว่าแต่งอะไรเหรอครับ ณวัตบอก เอ่อ...แต่ง...แต่ง...แต่งตั้งนุชให้ไปอยู่ฝ่ายขายทำไมคะ ไม่ใช่แต่สรนุชเท่านั้นที่ตกใจ ผู้บริหารทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน นั่นซิครับ...แล้วผมละ ผู้บริหารคนหนึ่งถาม ทุกคนฟังผมก่อน สมพลเอ่ยขึ้น ที่คุณพ่อต้องการให้คุณสรนุชมาอยู่ฝ่ายขายก็เพราะว่าเธอเป็นคนที่รู้จักรถไถดีที่สุด ณวัตว่า ไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นแฟนของคุณวัตเหรอครับ ผู้บริหารชื่อภิภพเอ่ยขึ้น คุณภิภพ...คุณกำลังสบประมาทผมกับคุณพ่ออยู่นะ ผมทำการขายมากี่ปีแล้ว...ผมซิที่รู้จักระบบของมันดี...กับแค่วิศวกรคนนึง...ขอโทษนะครับ...ผมสามารถหาเด็กช่างกลมาทำรถไถก็ได้ ภิภพว่า คุณภิภพ! ณวัตตบโต๊ะลุกขึ้นด้วยความโมโห ส่วนสรนุชที่กำลังจับต้นชนปลายไม่ถูกก็พูดขึ้น ไม่ต้องทะเลาะกันหรอกคะ... คำพูดสรนุช ทำให้ทุกคนหันมามอง สรนุชหันไปพูดกับสมพล ดิฉัน ต้องขอบคุณท่านมากที่ให้ความไว้วางใจดิฉัน...แต่ดิฉันคิดว่าดิฉันคงจะไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้... สรนุชรีบ ยกมือไหว้ ขอบคุณค่ะ สรนุชเดินออกไปจากห้อง ณวัตพยายามร้องเรียก นุช...นุช! ณวัตรีบตามออกไป สรนุชเดินหน้าง้ำมาตามทางเดินในบริษัทสยามบาคาตี้ ณวัตวิ่งตามเข้ามา นุช! นุชเป็นอะไร...นี่วัตกับคุณพ่อกำลังจะเลื่อนตำแหน่งให้นุชนะครับ แต่นุชไม่ได้ต้องการตำแหน่ง แล้วนุชต้องการอะไร สรนุชชะงักไป ถ้าบอกไปว่าต้องการแต่งงานก็ดูจะไม่เป็นกุลสตรี จึงเสพูดเรื่องอื่น ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...นุชขอตัวกลับไปทำงานแล้วกัน ณวัตวิ่งเข้ามาดักหน้าเอาไว้ นุช...วัตรู้ว่านุชอาจจะยังไม่ได้ทันตัวก็เลยไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง...แต่วัตก็ไม่ได้รีบเอาคำตอบจากนุ ชนะครับ...ที่จริงแล้ววัตเป็นคนบอกพ่อให้เลื่อนตำแหน่งให้นุชเอง สรนุชมองณวัตด้วยความแปลกใจ ต่อไปถ้าเราได้แต่งงานกัน...วัตไม่อยากให้คนอื่นมองว่านุชเป็นแค่วิศวกรโรงงาน...วัตไม่อยากให้ คนอื่นมองนุชอย่างนั้น สรนุชชะงักไปกับคำหวานของณวัต ณวัตจับมือสรนุชขึ้นมากอบกุม หายโกรธวัตหรือยัง นุชไม่ได้โกรธซะหน่อย ไม่จริงอ่ะ...แล้วทำไมนุชไม่เห็นยิ้มเลย แล้วสรนุชก็ยิ้มเขินออกมา ต้องอย่างนี้ซิครับ...ไป...แล้วเดี๋ยวเย็นนี้วัตไปรับนะครับ ณวัตยิ้มให้อย่างอบอุ่นก่อนจะเดินออกไป สรนุชมองตามอย่างเคลิ้มฝัน ก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้ รับ! วัตจะรับเราไปไหน? นุสราพึมพำกับตัวเอง ที่สถานีเพาะพันธุ์กระบือ ทุกคนกำลังฉลองชัยชนะด้วยความครื้นเครง มีภิรมย์เล่นกีตาร์ ส่วนคนอื่นกำลังร้องรำทำเพลง ชัยชนะของเราในครั้งนี้...ต้องแลกมาด้วยเลือดต้องแลกมาด้วยเนื้อของพวกเราทุกคน...ต่อไปหมอขอมอบเพลงนี้เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของพวกเราทุกคน เกริกไกรเอ่ยขึ้น หมอ...หมอพูดเหมือนมีใครตาย เจนจิรา ฟังแล้วทะแม่งๆ จึงท้วงออกมา เอ...นี่เธอเป็นสัตวบาลหรือแปรงขัดส้วมนี่...ขัดตลอด...ตอนนี้มันกำลังฮึกเหิมมันก็ต้องพูดให้มันยิ่งใหญ่ ทันใดนั้นภิรมย์ก็เล่นกีตาร์ขึ้นเป็นจังหวะเพลงโปรดให้เกริกไกร ยุทธศาสตร์ยิ่งใหญ่...ความตั้งใจเด็ดเดี่ยว...มือนี่เราจับเคี่ยว...เกี่ยวและทุบหม้อข้าว เกริกไกรใส่ลีลาพี่แอ๊ดคาราบาว ระหว่างนั้นใจเด็ดเดินเข้ามาร่วมวงด้วย เกริกไกรหยุดร้องก่อนจะหันไปแซวเล่นกับใจเด็ด และแล้ว...พระเอกตามท้องเรื่องของเราก็ได้ปรากฏตัวขึ้น...ขอทุกคนตบมือต้อนรับ...ใจเด็ด...เพชรสุรินทร์ ทุกคนตบมือโห่ร้องชอบใจในการกระทำของใจเด็ดในวันนี้ วันนี้เราชนะพวกบาคาตี้...หัวหน้าจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอคะ สมหญิงเอ่ยขึ้น ทุกคนเงียบเสียงลงเพื่อให้ใจเด็ดพูด สิ่งที่พวกเราทำไปในวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อชัยชนะ...ที่พวกเราทำเพราะควายทุกตัวในนี้ก็เหมือนกับครอบครัวของเรา ทุกคนนิ่งงันไปเมื่อได้ยินที่ใจเด็ดพูดอย่างนั้น พูดเท่านั้นใจเด็ดก็หันหลังจะเดินออก แต่แล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นอบต.โชคชัยเดินเข้ามา ทุกคนมองโชคชัยด้วยความแปลกใจ หวัดดีทุกคน ทุกคนกล่าวทักทายโชคชัยกันด้วยความสงสัย โชคชัยหันมาคุยกับใจเด็ด ฉันมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า ไม่หรอกครับ ถ้าอย่างนั้นฉันขอคุยด้วยหน่อย ใจเด็ดมองหน้าโชคชัยพยายามจะอ่านท่าทีของโชคชัย ก่อนที่ใจเด็ดจะเดินออกไปกับโชคชัย เกริกไกรมองตามทั้งสองคนไปด้วยความอยากรู้ ใจเด็ดเดินเข้ามาบริเวณคอกควายด้านนอก ไม่ใช่โรงเรือน ก่อนจะหยิบกิ่งไม้สดโยนเข้าไปในกองไฟเพื่อให้เกิดควันเพื่อไล่ยุงให้ควาย คุณก็รู้ว่าผมไม่ได้เป็นคนหาเรื่องพวกบาคาตี้ก่อน ใจเด็ดเอ่ยขึ้น ฉันไม่ได้มาเพื่อเอาผิดนาย โชคชัยบอก ถ้าอย่างนั้น...นายกคงก็คงมาบอกให้ผมเลิกเลี้ยงควายแล้วหันไปใช้รถไถเหมือนทุกครั้ง ใจเด็ดหันมาประจันหน้ากับโชคชัย พวกนั้นให้เงินเท่าไหร่ ใจเด็ด...นายอย่าดูถูกฉันเกินไป...ฉันไม่เคยรับเงินของพวกบาคาตี้ โชคชัยทำเป็นฉุน แล้วทำไมนายกต้องพยายามให้ผมกับชาวบ้านหันไปใช้รถไถ เพราะถ้านายขืนยังให้ชาวบ้านใช้ควายไถนาเหมือนเดิม...มันจะได้ข้าวเอาไปขายซักเท่าไหร่กัน...โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว โชคชัยอ้างเหตุผล แล้วทำไมเราต้องเปลี่ยนตามโลก...ในเมื่อมันเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่เลวร้ายกว่า ใจเด็ดบอก ระหว่างนั้นฝูงควายเริ่มมีอาการตื่นตระหนก ใจเด็ดมองก่อนจะหันมาบอกกับโชคชัยอย่างจริงจัง นายกกลับไปเถอะ...ยังไงผมก็ไม่ยอมให้ชาวบ้านหันไปใช้รถไถพวกนั้นเด็ดขาด...เพื่อนควายของผมต้องไม่ตกงาน! โชคชัยมองใจเด็ดอย่างเหนื่อยใจ ไม่นานหลังจากนั้นใจเด็ดปิดฝากระโปรงรถกระบะลง หลังจากที่ตรวจสภาพเสร็จ จึงเห็นเกริกไกรเดินเข้ามา ไอ้นายกนั่นมาทำไมวะ ใจเด็ดปัดไม้ปัดมือหาผ้าเช็ด เหมือนเดิม เฮ้อ... เกริกไกรมองเห็นสีหน้าใจเด็ดเครียดๆ ก็เลยเลียบๆ เคียงๆ ถาม แกไม่ดีใจหรือไงวันนี้เราทำให้พวกบาคาตี้นั่นเสียหน้าเลยนะ วันนี้เราอาจจะชนะ...แต่วันหน้าละ เฮ้ย ! อย่าบอกนะว่าแกถอดใจ ไม่ใช่...ฉันไม่ได้ถอดใจ...ฉันแค่พูดเพื่อให้พวกเราทุกคนระวังตัว...คราวนี้พวกมันส่งสายลับเข้ามา...ต่อไปพวกมันต้องเล่นวิธีที่สกปรกมากกว่านี้แน่ๆ...ยิ่งใกล้ฤดูไถหว่านเข้ามา...ฉันแน่ใจว่าพวกมันต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะเอาชนะเรา เกริกไกรฟังแล้วนิ่งไป พยายามช่วยกันคิดหาทางก่อนจะนึกขึ้นมาได้ ฉันมีวิธีที่จะช่วยแก ใจเด็ดหันมองด้วยความสนใจทันที พูดตามฉัน...พวกเราเหล่ากระบือบาล เกริกไกรหันไปบอกกับใจเด็ด เร็วดิ...พูดตามฉัน ใจเด็ดอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาพร้อมเกริกไกร ขอปฏิญาณว่า...จะอภิบาลควายไทย...ด้วยหัวใจที่แน่วแน่ มันต้องปลุกใจกันหน่อย... เกริกไกรหันมาแซวแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่ว่าพวกมันจะใช้วิธีไหน...แต่พวกเราก็พร้อมที่จะสู้กับแก...แกไปกรุงเทพฯ อย่างสบายใจได้...ฉันจะดูแลที่นี่ยิ่งกว่าชีวิตของฉัน เกริกไกรยื่นมือขึ้นมาเหมือนต้องการการประสานมือ ใจเด็ดแววตาเด็ดเดี่ยวขึ้นมาก่อนจะยื่นมือมากระชับ ใจเด็ดและเกริกไกรต่างมีสีหน้าด้วยความมุ่งมั่นมาดหมาย ค่ำคืนนั้นบรรยากาศภายในงานบริเวณริมสระว่ายน้ำ มีเวทีเล็กๆ อยู่ไม่ไกล เขียนบอกหรา เอาไว้ว่าสุขสันต์วันเกิดครบรอบ 60 ปี เจ้าของงาน ใจจอมเศรษฐีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อายุประมาณ 60 ปี กำลังต้อนรับนักการเมืองใหญ่รายหนึ่งที่นำของขวัญมามอบให้ แหม...ไม่น่าต้องลำบากเลย...แค่ท่านมา...ผมก็ถือว่าเป็นเกรียติอย่างยิ่งแล้ว ใจจอมพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นักการเมืองท่านนั้นหัวเราะชอบใจ ผมต่างหากที่ต้องพูดอย่างนั้น...เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อย่างคุณใจจอมอุตส่าห์เชิญมางานวันเกิดทั้งที...คนที่น่าจะรู้สึกเป็นเกรียติน่าจะเป็นผมมากกว่า เจ้าพ่ออะไรกันครับ...ผมมันก็แค่พ่อค้าที่หากินกับกรวดหินดินทราย แต่ก็สามารถทำให้ดินธรรมดากลายเป็นทองขึ้นมาได้ ระหว่างนั้นใจเพชรลูกชายของใจจอมเดินเข้ามาสมทบ พ่อครับ ใจจอมหันไปเห็นก็หันไปตัดบทกับนักการเมือง ตามสบายนะครับ...คิดว่าซะว่าเป็นบ้านของท่านเอง นักการเมืองคนนั้นยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป ใจจอมหน้าหุบยิ้มลงทันที ฉันละเบื่อไอ้พวกนักการเมืองพวกนี้จริงๆ...เห็นใครมีเงินหน่อยก็คอยแต่จะสูบเลือดสูบเนื้อ...ไม่คิดจะทำมาหากินกันบ้างหรือไง ระหว่างเดินเข้าไปหาลูกชาย ใจจอมจึงนึกถึงเรื่องที่สั่งเอาไว้ได้ ไงเพชร...เจอแม่แกมั้ย ไม่เจอเลยครับ... ใจเพชรหันไปทางจอมใจที่เดินมาด้วยกัน จอมก็ไม่เจอเหมือนกันค่ะ...หรือว่าแม่จะแอบหนีไปอีกแล้วคะ ใจจอมหน้าเครียดก่อนจะหันมองไปในบ้าน แล้วก็เห็นไฟที่ห้องหนึ่งสว่างอยู่ ใจจอมรู้ได้ทันทีว่าใครอยู่ในห้องนั้น ที่บริเวณหน้าบ้านของใจจอมคลาคล่ำไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย หน้าบ้านประดับประดาด้วยไฟระยิบระยับ เพิ่มความตระหง่านให้กับตัวบ้านที่อยู่ภายในมากยิ่งขึ้น ประตูใหญ่ทางเข้าเห็นรปภ.ของบ้านตรวจสอบรถทุกคันอย่างละเอียด ก่อนจะทำความเคารพด้วยความแข็งขัน ระหว่างนั้นเสียงเครื่องยนต์ที่ดังราวกับเรือหางยาวดังมาแต่ไกล รปภ.ทำหน้าสงสัย เรือหางยาวที่ไหนวะ รปภ.หันมองซ้ายขวาก่อนจะหันไปเห็นรถกระบะคันเก่าก็แล่นเข้ามาที่หน้าบ้านเป็นคำตอบให้พอดี รปภ.รีบกระโดดเข้ามาขวางก่อนจะใช้กระบองประจำกายชี้หน้า มาดราวกับตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หยุด..หยุดเลย ! เดินเข้ามาที่ประตูรถ ลงจากรถเดี๋ยวนี้ ประตูรถเปิดออกก่อนจะเห็นรองเท้าหนังยาวเลยไปถึงหน้าแข้ง ฝุ่นจับจนแทบจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกับกางเกงยีนส์ที่ขาดวิ่นเป็นแห่งๆ ที่แท้เป็นใจเด็ดนั่นเองที่ก้าวลงจากรถในชุดที่เหมือนกับว่าหลุดออกมาจากหนังคาวบอย รปภ.มองสภาพใจเด็ดตั้งแต่หัวจรดเท้าก็เดินเข้าไปเอาเรื่อง มาผิดที่แล้วไอ้น้อง ใจเด็ดมองไปที่ตัวบ้านเหมือนรำลึกความทรงจำก่อนจะหันมามองรปภ.คนเก่งอย่างพินิจ พี่เพิ่งมาทำงานละซิ รปภ. ยังไม่สำเหนียก แล้วมันเกี่ยวอะไร...ไปไป๊...นี่ไม่ใช่ที่ที่คนอย่างแกจะมาเหยียบ แต่ว่า... ใจเด็ดทำเป็นอิดออด ทันใดนั้นรปภ.ก็เหมือนนึกขึ้นมาได้ อ๋อ...ฉันรู้แล้วว่าแกเป็นใคร ใจเด็ดหน้าชื่นขึ้นทันที งั้นผมเข้าไปได้แล้วใช่มั้ยพี่ รปภ.เข้ามาจับแขนใจเด็ดไว้แน่น...หมับ! ใช่...แต่ไม่ใช่เข้าไปในงาน ใจเด็ดสงสัยในท่าที อย่างแกมันต้องเข้าคุก ใจเด็ดตกใจ ห๊า ไอ้พวกโจรที่แอบเข้ามาขโมยของในงานเลี้ยงอย่างแกมันต้องเจอฉัน ว่าแล้วรปภ.ก็เป่านกหวีดเรียกพรรคพวกจนเสียงดังลั่น ใจเด็ดเห็นอย่างนั้นก็เลยฉวยจังหวะที่รปภ.หันมองไปหาพรรคพวกสะบัดมือออกก่อนจะยันโครมเข้าให้ที่กลางท้อง ดังอั๊ก ! ใจเด็ดกระโดดขึ้นรถก่อนจะรีบถอยรถออกไปอย่างรวดเร็ว เกือบจะชนกับรถหรูที่กำลังตรงเข้ามาที่อยู่ด้านหลังจนได้ยินเสียงบีบแตรดังลั่น ก่อนจะเห็นรถกระบะของใจเด็ดพุ่งหายไปอย่างรวดเร็ว เวลาเดียวกัน หทัย...แม่ของใจเด็ด กำลังมองดูรูปถ่ายตอนใจเด็ดรับปริญญา ซึ่งฉากหลังเป็นป้ายคณะสัตวบาล เห็นว่ามีเพียงหทัยเท่านั้นที่ถ่ายคู่กับใจเด็ดโดยปราศจากครอบครัว ระหว่างนั้นเสียงของใจจอมดังขึ้น คุณยังไม่เลิกคิดถึงมันอีกหรือไงหทัย หทัยสะดุ้งเฮือกรีบซ่อนรูปเอาไว้ด้านหลังทันที เอ่อ... ผมขอได้มั้ย...วันนี้เป็นวันเกิดผม...คุณควรจะอยู่ข้างๆ ผมไม่ใช่มานั่งเอาแต่คิดถึงไอ้ลูกไม่รักดีอย่างมัน รอบตัวคุณมีคนมากพอแล้ว...ฉันคงไม่จำเป็น หทัยพูดตัดพ้อ ใจจอมได้ยินอย่างนั้นก็สัมผัสได้ถึงความน้อยใจของหทัย จึงเดินเข้ามาลงนั่งก่อนจะจับมือหทัยมากุมไว้ หทัย...ที่ผมจัดงานวันนี้เพราะผมอยากให้คุณมีความสุขนะ หทัยสบตาใจจอม เหมือนจะซาบซึ้ง ก่อนที่หทัยจะตัดสินใจพูดขึ้น แต่ความสุขของฉันคือการได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก...ไม่ใช่งานที่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้าพวกนั้น ใจจอมชะงักไปเพราะเห็นว่าหทัยเริ่มมีอารมณ์ ใจจอมออกท่าทางเกรงใจ เอ่อ...ผมรู้...แต่ตอนนี้ผมขอได้มั้ย...นะ...คิดว่าเห็นแก่หน้าผมละกัน หทัยนิ่งสงบอารมณ์ก่อนจะพูดเสียงนิ่งใส่ คุณลงไปก่อนแล้วกัน ใจจอมจำต้องยอมเดินออกไปจากห้องแต่โดยดี หทัยหยิบรูปของใจเด็ดขึ้นมาด้วยความคิดถึงอีกครั้ง รถของใจเด็ดจอดนิ่งสนิทอยู่ในซอยเปลี่ยวมืด ใจเด็ดเปิดประตูลงมาจากรถก่อนจะมองไปที่ตัวบ้านที่อยู่ไม่ไกลนัก ทุกทีไม่จัด...มาจัดทำไมปีนี้กันพ่อ...เฮ้อ เอาไงดีวะเรา ใจเด็ดครุ่นคิดหาทาง ก่อนที่เขาจะเหลือบไปเห็นเชือกเส้นหนึ่ง เป็นเชือกจูงควายซึ่งติดอยู่ที่ท้ายกระบะนั่นเอง ใจเด็ดมองเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้งด้วยแววตามุ่งมั่น คืนเดียวกันนั้นภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง หญิงสาวคนหนึ่งใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงแป๊ดเดินออกมาจากห้องลองเสื้อ สาวเจ้าของรองเท้าสีแดงคนนั้นเดินมาตามทางเดิน ด้านหลังของหญิงสาวมีคนกำลังช่วยสวมสร้อยและต่างหูให้ เรียบร้อยแล้วค่ะ พนักงานขายยิ้มบอก ณวัตค่อยๆ หันมา สวยถูกใจมั้ยคะ ณวัตอึ้งกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า สวยมากครับ สรนุชสวยสะคราญอยู่ในชุดราตรีสีสด ยืนท่าทีเคอะเขินด้วยความไม่เคยชิน จริงเหรอคะ...แต่นุชว่ามันเหมือนลิเกยังไงไม่รู้ ลิเกอะไรกันครับ...ไม่เอาน่า...นุชอาจจะไม่ชินที่ต้องแต่งตัวอย่างนี้...เชื่อวัตซิ... ณวัตสบตาจับมือซึ้ง นุชสวยจริงๆ ครับ คำพูดของณวัตทำให้สรนุชถึงกับหลบตาด้วยความเขิน เป็นจังหวะเดียวกับที่ณวัตเหลือบไปเห็นสาวสวยคนหนึ่งเดินผ่านหน้าร้าน ด้วยความเจ้าชู้ ณวัตตื่นตัวทันที ไวเท่าความคิดณวัตเปลี่ยนคำพูดราวกับเป็นคนละคน อืม...แต่ว่ามันอาจจะดูลิเกอย่างที่นุชว่าก็ได้ แล้วณวัตก็หันไปเห็นเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ หยิบออกมาไปอย่างนั้น นุชลองชุดนี้ดูนะครับ สรนุชงง เอ่อ... ณวัตโวยใส่พนักงานขาย ไม่เห็นหรือไงว่าแฟนผมเขาบอกว่าเหมือนลิเก...ลองเปลี่ยนมาให้ผมดูใหม่ ณวัตไม่รีรอให้สรนุชพูดอะไรออกมา เขารีบดันตัวสรนุชให้ไปทางห้องลองเสื้อทันที เชื่อวัตซิ สรนุชกับพนักงานขายต่างงงๆ แต่ก็ต้องเดินเข้าไปให้ห้องลองเสื้อโดยปริยาย ณวัตมองตามจนแน่ใจว่าสรนุชเดินเข้าไปแล้ว ก็หันมองไปทางสาวสวยคนที่เพิ่งเดินผ่านไปทันที สาวสวยคนนั้นกำลังเดินก้มหน้าก้มตากดบีบีไม่สนใจใคร ทันใดนั้นสาวสวยคนนั้นก็เดินชนเข้ากับณวัต โทรศัพท์บีบีในมือของเจ้าหล่อนหลุดออกจากมือ ยังดีที่ณวัตคว้าเอาไว้ได้ทัน อุ้ย ! ขอโทษค่ะ ณวัตฉีกยิ้มก่อนโปรยเสน่ห์ทันที ไม่เป็นไรครับ...คุณโอเคนะครับ สาวสวยงงๆ คะ ณวัตมองโทรศัพท์ในมือก่อนจะคืนให้ ของคุณครับ...อืม...เหมือนกันเลยนะครับ อะไรเหรอคะ ก็เราใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกันไงครับ ณวัตทำเป็นควานหามือถือ เห็นโทรศัพท์ผมมั้ยครับ...สงสัยจะหล่นตอนชนกับคุณเมื่อกี้ ทำทีเป็นมองหา เอ่อ...ผมขอยืมโทรศัพท์อีกทีได้มั้ยครับ สาวสวยคนนั้นยื่นโทรศัพท์ให้ณวัต ก่อนที่ณวัตจะหยิบมากดเบอร์โทรศัพท์ ไม่นานเสียงโทรศัพท์ของณวัตก็ดังขึ้น ณวัตล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา สาวสวยนางนั้นอมยิ้ม รู้ทัน คุณจีบผู้หญิงตรงๆอย่างนี้เลยเหรอคะ ณวัตส่งสายตาเจ้าชู้ให้กับสาวสวยคนนั้น ด้านสรนุชในชุดใหม่เดินออกมาจากห้องลองเสื้อ สรนุชกำลังจะถามความเห็นจากณวัตแต่แล้วเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่เห็นณวัตอยู่ภายในร้าน สรนุชแปลกใจ พนักงานรู้ว่าสรนุชมองหาณวัตจึงบอกออกไป คุณผู้ชายเดินออกไปข้างนอกค่ะ ไปไหน ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ สรนุชทำท่าจะเดินออกไปนอกร้าน พนักงานรีบห้าม เอ่อ...ขอโทษคะ..ทางเราไม่อนุญาตให้นำชุดออกไปนอกร้านค่ะ สรนุชขัดใจนัก จึงหยิบกระเป๋าควักบัตรเครดิตแพลตตินั่มรูดได้ไม่อั้นส่งให้พนักงานแทนการตอบคำ ณวัตมองจ้องโทรศัพท์ในมือยิ้มกริ่ม ออกอาการหื่นๆ ระหว่างนั้นเสียงสรนุชดังขึ้น มาทำอะไรตรงนี้คะวัต ณวัตตกใจสะดุ้งเฮือก แทบจะปล่อยมือถือร่วงจากมือ สรนุชเห็นอาการก็ยิ่งสงสัย แล้วทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย...มีอะไรหรือเปล่าคะ เอ่อ...พอ..พอ ณวัตตั้งใจจะพูดคำว่า พอดี แต่ตกใจเลยปากคอสั่น สรนุชเข้าใจผิดคิดไปอีกอย่าง คุณพ่อทำไมเหรอคะ พ่อ..? ณวัตอึกอัก พอนึกได้จึงปล่อยเลยตามเลย เอ่อ...ใช่จ้ะ...พ่อ...พ่อผมโทร.มาน่ะ ทำไมเหรอคะ ณวัตพยายามคิดหาข้ออ้างที่จะปลีกตัวจากสรนุช คือ...พ่อ...พ่อเส้นเลือดในสมองแตกน่ะครับ อะไรนะคะ...ถ้าอย่างนั้นนุชยกเลิกงานเลี้ยงคืนนี้ดีกว่า สรนุชพลอยตกใจ ณวัตโพล่งออกมา ไม่ได้นะครับ...คือ...พ่อผมสั่งไว้ว่างานเลี้ยงคืนนี้สำคัญมาก...ยังไงนุชก็ต้องไปให้ได้ สรนุชมองณวัตด้วยความสงสัย เส้นเลือดในสมองแตกแล้วพูดได้ด้วยเหรอคะ ณวัตสะดุ้งเล็กๆ เอ่อ...วัตรู้ว่าพ่อผมยังไง...นุชไปเถอะ..เดี๋ยววัตไปเยี่ยมคุณพ่อเอง แต่ว่า... วัตเองก็อยากไปกับนุช...แต่ในเมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ ณวัตนิ่งไป ทำเป็นเศร้าเต็มประดา ไม่เป็นไรค่ะ...นุชจะไม่ทำให้วัตและคุณพ่อต้องผิดหวัง ถ้าอย่างนั้นรีบไปเถอะ...เดี๋ยวมันจะดึกเกินไปนะครับ ค่ะ...แล้วเดี๋ยวนุชโทร.หานะคะ สรนุชรีบปลีกตัวเดินออกไปทันที ณวัตมองตามสีหน้าเครียด จนกระทั่งสรนุชเดินลับสายตาไปนั่นแหละณวัตจึงยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ในเวลาเดียวกันใจเด็ดโผล่หน้าขึ้นมาที่กำแพง ก่อนจะดึงตัวขึ้นมาบนกำแพงแล้วมองไปด้านล่างก็เห็นว่ามีรูปปั้นสลักตั้งวางอยู่ ดีนะที่ยังอยู่ที่เดิม ใจเด็ดค่อยวางเท้าไปที่รูปปั้นก่อนจะปีนลงมาอีกฟากของกำแพงอย่างคล่องแคล่ว จังหวะหนึ่งใจเด็ดมองไปเข้าไปในงานที่อยู่ไกลพอสมควร พอเห็นว่าปลอดคนใจเด็ดก็รีบตรงเข้าไปที่ตัวบ้านหลังใหญ่ทันที ใจเด็ดแอบลอบเข้ามาภายในตัวบ้าน ก่อนจะปิดประตูลงอย่างเงียบกริบ ทันใดนั้นใจเด็ดก็ใจหายวาบเมื่อหันไปเห็นใจจอมยืนหน้าทะมึนอยู่ พ่อ ใจเด็ดปิดปากได้ทันก่อนจะเห็นว่าที่แท้ ใจจอมนั่นคือรูปภาพนั่นเอง ใจเด็ดหันมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าปลอดคนจึงมุ่งหน้าไปที่บันไดทันที ส่วนที่บริเวณหน้าบ้าน รถของสรนุชแล่นเข้ามาที่ประตูใหญ่ รปภ.เดินเข้ามา สรนุชลดกระจกลง ฉันเป็นตัวแทนจากบริษัทสยามบาคาตี้ งั้นเชิญเลยครับ สรนุชกดกระจกขึ้นก่อนจะขับรถผ่านประตูเข้าไป ทางด้านใจเด็ดลอบเข้ามาในห้องทำงานของใจจอม โดยไม่รู้เลยว่าสัญญาณกันขโมยที่อยู่ภายในห้องเริ่มทำงาน ใจเด็ดเดินมาที่โต๊ะของใจจอมก่อนจะอึ้งไป เมื่อมองเห็นรูปของทุกคนวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะยกเว้นรูปของเขา ใจเด็ดนิ่งไปก่อนจะตัดสินใจทิ้งเรื่องส่วนตัวแล้วหันมาจัดการธุระที่ตัวเองต้องดั้นด้นมาถึงนี่ โฉนด...โฉนด... ใจเด็ดเปิดดูตามลิ้นชักที่เปิดได้แต่ก็ไม่พบโฉนดที่ต้องการ จนกระทั่งใจเด็ดตั้งใจจะเปิดที่ลิ้นชักหนึ่งแต่มันเปิดไม่ออก ใจเด็ดพยายามนึกทบทวนก่อนจะจำได้ว่าใจจอมเก็บกุญแจไว้ที่ใต้หินทับกระดาษ ใจเด็ดหยิบหินทับกระดาษออกก่อนจะนำกุญแจมาเปิดลิ้นชักนั่น แต่แล้วใจเด็ดก็ต้องอึ้งไป ไม่ใช่เพราะใจเด็ดพบกับโฉนดที่ตัวเองต้องการ แต่สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งไปนั่นคือรูปของเขาที่ถูกเก็บปิดตายอยู่ในลิ้นชักนั่นเอง ทันใดนั้นเสียงสัญญาณกันขโมยก็ดังขึ้น ใจเด็ดหันขวับด้วยความตกใจ !!! เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ภายในศูนย์รักษาความปลอดภัยประจำบ้านของใจจอม ทุกคนตื่นตัวทันที หัวหน้ารปภ.มองดูสัญญาณกันขโมยก่อนจะรู้ว่าตำแหน่งที่ดังมาจากห้องทำงานของใจจอม หัวหน้ารปภ.รีบคว้าวิทยุสื่อสารสั่งงานทันที มีผู้บุกรุกที่ห้องคุณท่าน...ย้ำมีผู้บุกรุก สรนุชกำลังเปิดฝากระโปรงท้าย แล้วหยิบกระเช้าของขวัญออกมา ระหว่างนั้นสรนุชถูกรปภ.ที่กำลังวิ่งกันวุ่นวายกระแทก โอ๊ย ขอโทษครับคุณผู้หญิง รปภ.เอ่ยขึ้น สรนุชมองดูเหตุการณ์ที่เริ่มวุ่นวาย เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ มีคนบุกรุกห้องคุณใจจอมน่ะครับ สรนุชฉงนไปด้วย บุกรุก..? รปภ.ทำความเคารพสรนุชอีกครั้งก่อนจะรีบวิ่งออกไป สรนุชมองตามก่อนจะเดินตามรปภ.เข้าไปด้วยความสนใจ โดยลืมไปว่ารถของตนเปิดฝากระโปรงท้ายเอาไว้! เวลาเดียวกันนั้นใจเด็ดวิ่งลงมาจากบันไดด้วยความรีบร้อน ใจเด็ดกำลังจะวิ่งออกประตู แต่แล้วใจเด็ดก็ต้องเบรคกระทันหันเมื่อเห็นกลุ่มรปภ.วิ่งกรูกันเข้ามา ทั้งใจเด็ดและรปภ.ที่โดนใจเด็ดถีบยันยอดอกต่างตกใจเมื่อเจอะหน้ากัน เฮ้ย ! แกนี่เอง รปภ.ร้องตะโกน ใจเด็ดหันรีหันขวางก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องหนึ่ง แล้วล็อคประตูทันที กลุ่มรปภ.วิ่งเข้ามาจะเปิดแต่ก็เปิดไม่ได้ อ้อมไปด้านหลัง ทั้งหมดรีบวิ่งกรูกันออกไปทันที ใจเด็ดยืนหันรีหันขวางอยู่ภายในห้องนั้น ก่อนจะหันไปเห็นหน้าต่าง ใจเด็ดรีบพุ่งไปที่หน้าต่างทันที ใจจอม กับหทัย มองดูเหตุการณ์ที่กำลังวุ่นวายมีรปภ.วิ่งกรูกันไปทางหนึ่ง ทำให้แขกภายในงานเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ใจเพชร วิ่งเข้ามาหาใจจอมและหทัย มีอะไร ใจจอมถามอย่างร้อนรน มีคนเข้าไปในห้องคุณพ่อครับ ใจเพชรบอก อะไรนะ! แล้วมันเป็นใคร ใจจอมตะลึง กำลังตามจับกันอยู่ครับ ใจจอมได้ยินอย่างนั้นก็รีบวางแก้วแล้วเดินตรงไปที่ตัวบ้านทันที ส่วนใจเด็ดวิ่งมาตามทางก่อนจะเห็นรปภ.กลุ่มนึงวิ่งไล่กวดมา ใจเด็ดวิ่งหนีสุดชีวิตก่อนจะต้องเบรกเอี๊ยดเมื่อเจอเข้ากับรปภ.อีกกลุ่มที่วิ่งมาข้างหน้า ใจเด็ดหันรีหันขวางไม่รู้จะเอาไงเลยตัดสินใจวิ่งเข้าไปบริเวณงานเลี้ยงทันที รปภ.ทั้งสองกลุ่มวิ่งตามใจเด็ดไปติดๆ เป็นเวลาเดียวกับที่สรนุชกำลังหอบหิ้วกระเช้าของขวัญเดินมาตามทางริมสระน้ำ ก่อนจะเห็นใจจอมเดินดุ่มๆเข้ามา โดยมีใจเพชรเดินตามมาติดๆ สรนุชหยุดปัดเผ้าปัดผมให้เรียบร้อยพร้อมกระแอมให้คล่องคอเพื่อเตรียมอวยพร แต่แล้วทันใดนั้นใจเด็ดวิ่งฝ่าต้นไม้เข้ามาโดยไม่ทันมีใครได้คาดคิด ใจจอม กับใจเพชรเห็นอย่างนั้นก็ถึงกับอึ้งไป ไอ้เด็ด ใจจอมตะโกนออกไป ใจเด็ดหันขวับไปตามเสียงก่อนจะที่หัวใจจะหล่นไปที่ตาตุ่มเมื่อพบใจจอมตัวเป็นๆ ยืนตัวสั่นด้วยความโกรธพร้อมกับใจเพชรพี่ชาย ใจเด็ดเหวอ ! แล้วรีบกลับตัวไปในทิศทางตรงกันข้ามทันที โดยไม่ทันเห็นสรนุชที่ยืนอยู่ แล้วทันใดนั้นใจเด็ดก็ชนเข้ากับสรนุชเต็มๆ ว้าย..... สรนุชร้องออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับร่างของเธอได้ถูกใจเด็ดชนจนลอยละลิ่วลงสระน้ำ เสียงดังตูม ! เฮ้ย ใจเด็ดยืนตกตะลึง สรนุชตกน้ำ ทำให้หทัยและบรรดาแขกเหรื่อหันมองกันเป็นตาเดียว แค่แวบแรกหทัยก็จำได้ทันทีว่าเป็นใจเด็ด ใจเด็ด..ลูกแม่! สรนุชโผล่พรวดขึ้นมาจากสระน้ำ ไอ้บ้า สรนุชตะโกนออกมาอย่างโกรธจัด เอ่อ... ใจเด็ดอึกอัก ใจเด็ดละล้าละลังจะช่วยไม่ช่วยดี แต่เพราะใจจอมกับใจเพชรที่กำลังเข้ามา และรปภ.ที่โผล่จากพุ่มไม้ออกมา ทำให้ใจเด็ดต้องรีบไปจากที่นั่นทันที แต่ก่อนไปใจเด็ดไม่ลืมที่จะบอกกับสรนุช ขอโทษนะคุณ ว่าแล้วใจเด็ดก็รีบวิ่งหนีออกไปทันที ก่อนจะชนเข้ากับแขกจนเสียงร้องออกมาดังวุ่นวายไปทั้งงาน สรนุชยืนโกรธอยู่ในน้ำแทบจะร้องไห้ ฮึ่ย..! บ้าๆๆ ใจเด็ดวิ่งมาที่ประตูใหญ่หน้าบ้านของใจจอม เห็นว่าประตูใหญ่กำลังจะปิดลง ใจเด็ดวิ่งสุดชีวิตเข้ามาแต่ก็ไม่ทัน จังหวะนั้นใจเด็ดได้ยินเสียงกลุ่มรปภ.วิ่งไล่กวดมาด้านหลังก็คิดหาทางเอายังไงดี ระหว่างนั้นใจเด็ดหันไปเห็นรถคันหนึ่ง รถของสรนุชนั่นเอง เปิดฝากระโปรงหลังเอาไว้ ไวเท่าความคิด...ใจเด็ดรีบวิ่งที่รถก่อนจะเข้าไปหลบในท้ายกระโปรงรถของสรนุชทันที ใจเด็ดค่อยๆดึงฝากระโปรงท้ายลง แต่ยังไม่ปิดสนิทเพื่อจะแอบมองกลุ่มรปภ.ที่วิ่งกันเข้ามา หทัยเป็นธุระพาสรนุชเข้ามาในบ้าน และกำลังส่งผ้าเช็ดตัวให้กับสรนุชที่กำลังเปียกโชก หน้าตามุ่ยกำลังโกรธอย่างแรง โดยมีใจจอม กับใจเพชรยืนหน้าเครียดอยู่ข้างๆ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะที่เป็นอย่างนี้ หทัยเอ่ยขึ้น ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ...ไม่ใช่ความผิดของคุณซะหน่อย สรนุชว่า ทำไมจะไม่ใช่ละ....ก็ผู้ชายคนนั้นน่ะเป็น... หทัยกำลังจะบอกว่าใจเด็ดเป็นลูกเธอเอง แต่แล้วใจจอมก็ร้องขึ้นเสียก่อน หทัย สรนุชแปลกใจ ทำไมคะ...พวกคุณรู้หรือคะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เอ่อ... ครอบครัวใจจอมต่างหันมองหน้ากัน ใจจอมรีบพูดขึ้นเหยียดๆ ก็เป็นพวกโจรกระจอกน่ะจ้ะไม่มีอะไรหรอก หทัยไม่พอใจที่ใจจอมเรียกใจเด็ดอย่างนั้น คุณ! ใจเพชรตัดบทเพราะไม่อยากให้หทัยสะเทือนใจ ฝากขอบคุณคุณสมพลด้วยนะครับ...แล้วก็ต้องขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณด้วย ไม่เป็นไรค่ะ...ขอแค่จับตัวนายนั่นได้เมื่อไหร่...รบกวนโทร.บอกดิฉันด้วยก็พอ สรนุชแค้นไม่หาย เอ่อ...หนูจะทำอะไรเหรอจ๊ะ หทัยถามขึ้น สรนุชยิ้มให้ แต่ไม่ตอบ หนูลานะคะ สรนุชยกมือไหว้ทุกคนก่อนจะเดินออกไป ใจจอมมองไปรอบๆ เห็นสภาพงานเละเทะก็ยิ่งแค้นใจเด็ด ไอ้ลูกเวร...แกต้องการให้ฉันตายในงานวันเกิดตัวเองหรือไง... ใจจอมหันไปสั่งกับใจเพชร จับมันมาให้ฉันให้ได้...มันกับฉันมีเรื่องต้องคุยกัน แววตาใจจอมขณะพูดกร้าวขึ้นมาด้วยความโกรธ ในขณะที่หทัยมีสีหน้าเครียดด้วยความเป็นห่วงใจเด็ด เช่นเดียวกับใจเพชร ใจเด็ดค่อยๆ เปิดฝาท้ายกระโปรงรถของสรนุชขึ้นดูสถานการณ์ พอเห็นว่าปลอดคนก็พยายามจะลงมาจากท้ายกระโปรงรถ แต่แล้วใจเด็ดก็ต้องมุดกลับเข้าไปเหมือนเดิม เมื่อเห็นสรนุชหากุญแจรถในกระเป๋าสะพายเดินตรงมา โจรกระจอกเหรอ..? ฮึ่ย สรนุชยังโกรธไม่หาย อย่าให้เจออีกก็แล้วกัน ใจเด็ดพยายามทำตัวเงียบกริบเพื่อรอจังหวะให้สรนุชเดินผ่านไปก่อน แต่แล้วใจเด็ดก็ต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณกันขโมยดังขึ้นที่ใกล้ตัว เฮ้ย ! อย่าบอกว่ารถคันนี้เป็น สรนุชแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณกันขโมยของรถเธอร้องดังขึ้น สรนุชเดินมามองแล้วก็เห็นว่าที่ท้ายฝากระโปรงท้ายของเธอปิดไม่สนิทนี่เอง อ้าว...ปิดไม่สนิทเหรอเรา สรนุชทำท่าจะเปิดฝากระโปรงขึ้น ใจเด็ดตาโตตกใจรีบถดตัวกระเถิบเข้าไป ในจังหวะที่สรนุชเปิดฝากระโปรงขึ้น ใจเด็ดเห็นสรนุชครึ่งตัวเข้าไปแล้ว ทันใดนั้นสรนุชก็ปิดฝากระโปรงท้ายรถดังตึ่ง ! ใจเด็ดโล่งอกที่สรนุชไม่เห็น ใจเด็ดใจหายถอนหายใจอย่างโล่งอก ฟู่...เกือบแล้ว แต่แล้วนึกขึ้นได้ เมื่อมองไปรอบๆ ที่มืดสนิท เฮ้ย ! ผมอยู่ในนี้...อย่าเพิ่งไปคุณ สรนุชไม่ได้ยินเสียงตะธกน ค่อยๆ ถอยรถออกก่อนจะขับออกไปโดยไม่รู้ว่ามีใจเด็ดติดท้ายรถไปด้วย ไม่นานหลังจากนั้นรถของสรนุชแล่นมาบนท้องถนน ภายในรถ สรนุชที่อยู่สภาพมอซอราวกับผีใน กำลังควานหาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากช่องใส่ของข้างเบาะที่นั่งแล้วกดโทร.ออก ก่อนจะหยิบบลูธูทใส่หู ส่วนที่ท้ายกระโปรงรถ ที่ใจเด็ดพยายามดิ้นรนอยู่ที่ท้ายกระโปรง นี่คุณ...ผมอยู่ในนี้...คุณ..... ใจเด็ดทั้งเตะทั้งยันที่ท้ายกระโปรงรถเพื่อให้สรนุชได้ยิน ในที่สุดสรนุชก็ได้ยินเสียงดังตึงตังมาจากท้ายรถ อะไรน่ะ สรนุชรีบกดวางสายก่อนจะแปลกใจเมื่อยังได้ยินเสียงนั่นดังอย่างต่อเนื่อง รถสรนุชแอบเข้าจอดข้างทางอย่างกะทันหัน ก่อนที่สรนุชจะกดเปิดกระโปรงท้าย ในขณะที่ใจเด็ดที่กำลังอาละวาดอยู่ที่ท้าย พอเห็นฝากระโปรงก็ชะงักไป ใจเด็ดรีบเปิดฝากระโปรงขึ้น อันเป็นจังหวะเดียวกับสรนุชเดินมาที่ท้ายรถพอดี เมื่อสรนุชเห็นใจเด็ด ทั้งสองคนต่างก็ตกใจ!! |
มิกัง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |