All Blog
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 10 เมษายน 2555



ผู้จัดการร้านเรียกอุนซอง และพนักงานคนอื่น ๆ มาประชุม หลังขยายไปเขตอื่น แล้วลูกค้าเก่าลดลงเพราะถูกคู่แข่งเข้าแทรก

“เฮ้อ...วันนี้ แจกใบปลิวอีกมั้ยครับ” พนักงานคนหนึ่งถาม

“แจกแค่วันนี้ พรุ่งนี้แจกพร้อมการส่งนอกสถานที่”

“ถามหน่อย ต้องแจกหมดวันนี้หรือ” ยูฮัง ถาม

“วันนี้แจกครึ่งนึง อีกครึ่งแจกพร้อมส่งถึงบ้าน” อุนซอง บอก

“ขอโทษนะที่ไม่ได้ให้พัก แต่งานยิ่งลำบากยิ่งท้าทาย จะไม่รู้สึกเหนื่อย” ผู้จัดการร้าน กล่าว

“ใส่ตะกร้าเลย”

“น่าเกลียดที่สุด ขี่จักรยานอยู่คนเดียว” ยูฮัง กล่าว

“อุตส่าห์ขนให้ น่าจะดีใจ”

“ให้ฉันวิ่งตามรึ”

“หัวหน้าลีห้องครัวมีจักรยาน ไปขอยืมมาสิ” อุนซอง กล่าว

“ขี่จักรยานรึ ไม่เอา” ยูฮัง กล่าว

“งั้น เจอหน้าอพาร์ตเมนต์ตงฮา เริ่มที่นั่น จะได้เร็วหน่อย”

“นี่อะไร”

“ผู้จัดการให้เบี้ยเลี้ยงนอกสถานที่ อ้าว....”

“พันเดียว”

“อาหารเที่ยงต่างหาก เร็ว ๆ ล่ะ”

“ขึ้นรถเมล์เร็วกว่า”

เมื่อถึงย่านที่มีอพาร์ตเมนต์ อุนซอง บอกยูฮัง

“แถวนี้มีอพาร์ตเมนต์ประมาณสิบแห่ง นายแจก 201 ถึง 205 แล้วเจอที่นี่”

“แจกอะไร ใส่ตู้จดหมายได้มั้ยล่ะ”

“ใส่ตู้จดหมายส่วนใหญ่เห็นแล้วก็โยนทิ้ง”

“แจกทีละบ้านรึ”

“ไม่แจกแล้วมาสองคนทำไม อ้าว... “อุนซอง กล่าว

ชองยีมาที่ร้านของจุนเซ เมื่อพบเฮลี ก็บอกว่าตนเองจะมาทำงาน และไม่คิดที่จะลาออก

“นี่...เธออาละวาดก็ได้นะ เธอยิ้มแบบนี้คนเขากลัวนะ” เฮลี กล่าว

“ชองยี” จุนเซ เรียก

“พี่ พี่ให้ฉันพักผ่อน ฉันพักแล้วจะกลับมาทำงาน”

“ขอบใจมาก”

“อะไรรึ”

“ขอบใจที่เธอเชื่อฉัน ขอบใจที่ให้อภัยฉัน” จุนเซ กล่าว

“แค่เปลี่ยนนิสัย ง่ายจะตายไป หน้าตาฉันไม่เหมือนเขา รูปร่างสู้ไม่ได้ การศึกษาก็ไม่เทียบ มองซ้ายมองขวา ฉันเหนือกว่าโคอุนซองร้อยเท่า เอาล่ะ ทีฉันบ้างล่ะ”

อุนซองแจกใบปลิวจนเหนื่อย จึงพักไปซื้อไอติมกิน

“ไปซื้อไอติมรึ ให้นั่งกินริมถนนเนี่ยนะ” ยูฮัง กล่าว

“กินของแค่นี้กลัวคนอื่นมองด้วยรึ ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย กินแล้วสดชื่นนะ เฮ้อ...ละลายหมดอดกิน นี่เงินค่ารถซื้อนะ”

“ก็ได้...น้องชายเธออายุเท่าไหร่ ชื่ออุนยูใช่มั้ย”

“นายรู้ได้ไงว่าชื่ออุนยู”

“อุนยู ๆ เรียกได้ทั้งวัน”

“อายุ 17”

“ไม่นานคงหาเจอ คุณย่าพูดจริงทำจริง ท่านต้องหาเจอ อีกอย่างวันนั้น วันที่ฉันแกล้งเธอ แล้วค่อยเอากระเป๋าไปแลกคืน”

“วันนั้นน่ะหรือ”

“ฉันบอกแฟนเก่าเธอ รอหน้าร้านอาหารก่อน 5 โมง รอ 40 นาที เธอไม่มา...วันนั้นแหละ”

“งั้นรึ”

“ฉันเลย...นึกว่าเธอจงใจเอากระเป๋าฉันไป”

“ฉันไม่ได้รับโทรศัพท์ แปลกนะ ทำไมนายไม่เคยพูดเรื่องนี้”

“ถ้าฉันพูด เธอจะหาว่าฉันแก้ตัวสิ” ยูฮัง กล่าว

“เชอะ...จนป่านนี้เพิ่งมาพูด”

“เพราะฉัน....ทำให้เธอไม่ได้เห็นหน้าพ่อ ฉันขอโทษนะ”

“เดี๋ยวนี้ขอโทษเก่งนะ”

“ชมรึเปล่า”

“ที่สถานคนชรา นายหัวเราะคุยกับคุณยาย ปกติหน้าบึ้ง หัวเราะแล้วดีออก ทำไมต้องเก๊กหน้า ราวกับโลกนี้มีแต่ความทุกข์” อุนซอง กล่าว

“พี่ไม่เข้าใจคนอย่างอุนซอง” ซึงมี กล่าว

“อีกแล้วนะ พูดมากถึงได้ผอมกะหร่องแบบนี้” ยูฮัง กล่าว

“เชอะ...” อุนซอง กล่าว

“ใบปลิววันนี้เหลือกี่ใบแล้ว” ยูฮัง ถาม

“เหลือประมาณ 500 ใบ”

“1,500 ใบ แจกวันละ 10% 150 ชาม”

“ไม่ทันไรเพิ่ม 10% ได้แค่ 5 ก็ยิ้มแล้ว” อุนซอง กล่าว

“เมื่อไหร่จะเพิ่มได้ถึง 20%”

“เพราะงั้นถึงต้องหาวิธีอื่นด้วยไง...”

“ส่งนอกสถานที่...” ยูฮัง ถาม

“ตามศูนย์อาหาร...”

“ไม้ทิ้งที่ไหน”

“ลงถังขยะตรงโน้น”

“ไป”

“เดี๋ยวก่อน ฉันขอเปลี่ยนปลาสเตอร์”

“เท้าพองรึ”

“เป็นเมื่อวาน เช้านี้ฉันเจาะก่อนออกมา”

“เท้าเจ็บยังจะแจกอีกรึ”

“ปะแล้วไม่เจ็บแล้วล่ะ...ไป” อุนซอง กล่าว

ยูฮังและอุนซองกลับมาที่ร้านก็พบว่าซึงมีมารอยูฮังอยู่และชวนยูฮังไปดูหนัง ยูฮังเหลือบมองอุนซองบอกว่าวันนี้เขาต้องไปทำธุระ แต่ซึงมีขอไปด้วย ยูฮังปฏิเสธไม่ได้จึงต้องรับปากจะไปกับซึงมี อุนซองกังวลถึงกับจำผิดจำถูกเลยทีเดียว

ยูฮังมาซื้อหนังสือ ซึงมีชวนยูฮังเข้าร้านอาหารหรูราคาแพง ยูฮังบอกให้ไปกินที่อื่น ซึงมีบอกว่าเธอจะเลี้ยงเพราะตอนนี้เงินเดือนมากกว่า ยูฮังยังปฏิเสธ แต่ซึงมีคะยั้นคะยอจนยูฮังต้องยอมตามใจ

“พี่ยังออกข้างนอกกับอุนซองอยู่รึ อึดอัดรึเปล่า”

“เวลาทำงาน ไม่คิดเรื่องอื่น”

“เรื่องอื่นอะไร”

“เรื่องมรดกคุณย่า เรื่องเธอกับเขา เขาโกหกตลบตะแลง...เรื่องพวกนี้ มัวแต่คิด ทำงานไม่ได้หรอก”

“ถ้าทำได้ถึงเป้า อุนซองได้ผลงาน พี่จะทำยังไง” ซึงมีถามขึ้น

“ตอนไปสาขาสอง ฉันไม่มีข้อตกลงกับคุณย่า เพราะฉะนั้น เรื่องผลงานถึงเป้า ต้องว่าตามความเป็นจริง ระหว่างนี้ ฉันไม่คิดอะไรทั้งนั้น”

“แล้วพี่...ไม่รู้สึกอะไรกับอุนซองบ้างรึ” ซึงมีเลียบ ๆ เคียง ๆ

“จะรู้สึกอะไร นั่นไม่สำคัญหรอก” ยูฮังพยายามเก็บความรู้สึก

ซึงมีโทรฯหาอุนซองบอกว่าขอรูปอุนยู เพราะต้องการช่วยตามหาน้องชายอีกแรง ด้าน
ยูฮังกลับมาบ้านก็พบจังซุกจานั่งเหม่ออยู่หน้าบ้าน ยูฮังทักทาย โดยถามเรื่องอาการของจังซุกจา และมีความรู้สึกเป็นห่วงจังซุกจามากขึ้นกว่าแต่ก่อน จนพ่อบ้านและจังซุกจารู้สึกได้

พ่อของอุนซองคิดหนักกับอีเมลที่ได้ ที่ข้อความระบุว่าอุนซองและอุนยูไม่ดีใจที่พ่อยังไม่ตาย อีกทั้งจะทำให้อุนซองและน้องเดือดร้อนด้วย หากคนอื่นรู้เรื่องเข้า พ่อของอุนซองคิดจะไปจากโซลตามที่ปั๊กเซ็งฮีบอก และตัดสินใจโทรฯหาจุนเซเพื่อร่ำลา เพราะจุนเซดีกับเขามาก ทั้งสองนัดเจอกัน พ่อของอุนซองส่งเงินให้จุนเซบอกคืนค่ายาแก้หวัดที่จุนเซซื้อให้ครั้งก่อน

“ความจริงไม่ต้องคืนเงินผมหรอกครับ”

“ตอนนั้นไม่มีเงินต้องรบกวนคุณ ตอนนี้คุณช่วยให้ผมมีงานทำ ต้องคืนสิครับ”

“งั้น ผมไม่เกรงใจ ขอรับไว้ คุณอาจะไปที่ไหนรึครับ ทำไมต้องไปจากโซลครับ”

“ชีวิตนี้ ผมไม่เคยเป็นภาระของใคร มีครั้งเดียว ที่ผมเห็นแก่ตัวตัดสินใจโง่ ๆ ผิดอย่างมหันต์ เป็นผลจากการกระทำ”

“หมายความว่ายังไงครับ” จุนเซไม่เข้าใจสิ่งที่พ่ออุนซองพูด หลังจากทานอาหารด้วยกัน พ่อของอุนซองก็ลาจุนเซ

ปั๊กเซ็งฮีและพ่อของจุนเซนัดเจอกัน ปั๊กแกล้งถามเรื่องอุนซองที่จะมาเป็นสะใภ้ แต่พ่อของจุนเซบอกว่าไม่มีทางที่อุนซองจะมาเป็นสะใภ้เขาได้ ระหว่างนั้นพ่อของอุนซองโทรฯหาปั๊กเซ็งฮี หลังจากรับสายปั๊กเซ็งฮีก็รีบขอตัวทันที และมาพบพ่อของอุนซอง พ่ออุนซองบอกตัดสินใจจะไปจากโซล ปั๊กเซ็งฮีดีใจมากแต่พยายามเก็บอาการและบอกว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้

อุนซองและยูฮังแยกกันทำงาน อุนซองเสนองานที่บริษัทรับจัดงานแต่งงาน แต่ถูกปฏิเสธ พอเดินออกมาก็เจอยูฮังที่จะมาหาลูกค้าที่นี่เช่นกัน อุนซองบอกว่าพรุ่งนี้จะมาอีกที ยูฮังบอกว่าพรุ่งนี้เขาจะมาเอง

“บริษัทจัดแต่งงานมีที่เดียวรึ ไปที่อื่นสิ” อุนซองบอก

“ร้านนี้ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ มีเครือข่าย 20 แห่ง สุดสัปดาห์แขกไม่ต่ำกว่าสี่พันคน”

“นายรู้ได้ยังไง”

“ไม่เตรียมข้อมูลจะกล้ามารึ”

“หรือว่า...นายปลอมเป็นนักข่าว สัมภาษณ์เขา”

“เธอนี่บื้อจริงนะ เธอปลอมเป็นนักข่าวจะได้ไหม เปิดดูเว็บไซต์ของเขาสิ เครือข่ายจำนวนคนรู้หมด”

“เอ้อ...จริงด้วย” อุนซองพยักหน้าเห็นด้วย

“ฉันรับที่นี่ เธอไปที่อื่น”

“ทำงี้ได้ยังไง นี่เป็นร้านใหญ่ที่สุดในย่านนี้” อุนซองโวยวาย

“นอกจากบริษัทจัดงาน ไม่มีที่อื่นรึที่....”

“มีสิ...สถานศึกษา”

“สถานศึกษา โรงพยาบาล โรงอาหาร หอพัก โรงงาน เราจัดกิจกรรม ออกกำลังกาย” ยูฮังบอกเพราะหาข้อมูลมาเต็มที่ ทำเอาอุนซองแปลกใจ

หลังเลิกงานจุนเซนัดเจอกับอุนซอง อุนซองบ่น ๆ เรื่องที่ยูฮังดูไม่ชอบหน้าเธอ

“เรื่องมรดก กับเรื่องชองยี เขาน่าจะเกลียดฉัน แต่อย่างพี่บอก เขาเป็นหลานของคุณย่า เอ้อ...เขาคงเชื่อมั่นว่าเปลี่ยนใจคุณย่าได้ เดี๋ยวนี้เขาไม่ใช้อารมณ์”

“แม้คุณย่าไม่เปลี่ยนใจ เธอไม่ใช่ว่าได้มรดกทั้งหมด เพราะฉะนั้น เธอไม่ต้องละอายใจ”






//www.dailynews.co.th



Create Date : 12 เมษายน 2555
Last Update : 12 เมษายน 2555 15:31:59 น.
Counter : 308 Pageviews.

0 comment
มรดกรัก วันที่ 9 เมษายน 2555



“ขี่จากนี่ถึงสถานีรถใต้ดินเนี่ยนะ”

“ไม่ต้องขึ้นรถเมล์ ประหยัดค่ารถพันสองร้อยวอน” อุนซอง กล่าว

“งกเข้าขั้นเลยนะ”

“ได้ออกกำลัง ลดความอ้วน ประหยัดเงิน ได้ตั้งสามต่อ ไม่เบียดกับพวกลามกด้วย”

“ถามคำเดียวตอบตั้งสิบคำ”

“เงินเดือนออก นายซื้อจักรยานสักคันสิ” อุนซอง กล่าว

“จักรยานรึ” ยูฮัง กล่าว

“ไปล่ะนะ” อุนซอง กล่าว

“พักจุนเซ นายแน่มากนะ เฮ้อ”

ปั๊กสอบถามยงนังว่าเมื่อไหร่อุนซองจะออกจากบ้านคุณย่าซักที

“ไม่ไปแล้ว แม่สามีฉันเกิดใจดีขึ้นมาน่ะสิ ท่านบอกว่าบุพเพสันนิวาสไม่ใช่คนกำหนด ฟ้าเป็นผู้กำหนด”

“งั้นหมายความว่า อุนซองเป็นแฟนพักจุนเซได้อย่างงั้นรึ” ปั๊ก ถาม

“ไม่ใช่อย่างนั้น จุนเซเป็นฝ่ายชอบอุนซอง ไม่ใช่ความผิดของอุนซอง คุณแม่ท่านตะขิดตะขวงใจ ที่จู่ ๆ ไล่คนไม่มีความผิด” ยงนัง บอก

“ไม่ผิดได้ยังไง เขาแย่งว่าที่หลานเขยไปทั้งคน”

“ปัญหาคือชองยีกับจุนเซไม่ได้หมั้นหมายน่ะสิ”

“เธอเลยยอมรับอย่างงั้นรึ”

“ใช่ แล้วจะให้ฉันทำยังไงได้ คุณแม่น้ำตาซึมพูดแบบนี้ ทำไงได้ก็ต้องแล้วแต่ท่าน” ยงนัง กล่าว

“แม่สามีเธอยืนกรานให้อุนซองอยู่มีเหตุ ผลอะไร เธอทนได้รึ ให้คนแก่บงการ แถมยังต้องอยู่กับอุนซอง”

“นี่...ทำไมเธอขึงขังยิ่งกว่าฉันซะอีกล่ะ”

“เปล่า ฉันฟังแล้วมัน...”

“ถึงยังไง ฉันก็เถียงแพ้คุณแม่ทุกที เซ็งฮี ฉันต้องล้างจาน ต้องซักผ้า ไว้คุยกันใหม่นะ”

“ซักผ้าหรือจ๊ะ เธอซักผ้าเถอะนะ เฮ้อ เกิดบ้าอะไรขึ้นมา เฮ้อ...ยายแก่เลอะเลือน บ้าที่สุด...เฮ้อ” ปั๊ก กล่าว

โคมาหาปั๊ก ถามว่าอุนซองติดต่อมาหาบ้างมั้ย

“คุณไม่น่ามาหาฉันเลย ถามทำไม”

“ฉันรู้สึกว่า มีเรื่องเกิดขึ้นกับอุนซอง จู่ ๆ เมลอุนซองก็ถูกยกเลิกเงียบหายไป”

“ยกเลิกรึ”

“นอกจากอีเมล ฉันไม่มีทางติดต่อวิธีอื่น รู้อยู่ยังจะยกเลิก ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่น่าเป็นแบบนี้”

“ทำไมคุณเอาแต่คิดเองเออเองรั้นนักนะ อุนซองยกเลิกอีเมล แสดงว่าเขาไม่อยากติดต่อคุณ”

“อะไรนะ”

“เพราะคุณทำให้เขาเดือดร้อน”

“ไม่มีทาง ถึงกับตัดขาดรึ อุนซอง..ไม่ทำแบบนั้น”

“ก่อนหน้านั้น ไม่เคยตัดพ้อคุณรึยังไง อุนซองเคยเกริ่นหรือบอกเป็นนัยมั้ย ตอนอุนซองโทรฯจากสนามบิน ฉันบอกเรื่องคุณ รู้มั้ยคำแรกเขาพูดอะไร เขาถามฉันจะทำยังไง เขาไม่ดีใจ กลับกลัวคนอื่นรู้เรื่อง เขาอยากได้เงินประกันของคุณ พ่อมีชีวิตอยู่เป็นเหมือนก้างที่ขวางคอเขา” ปั๊ก รีบใส่ร้าย

“ไม่จริง เขาไม่ใช่คนแบบนั้น ยิ่งเขาอยู่อเมริกา ไม่ใช่อยู่เกาหลี”

“ที่อเมริกาจะไม่มีคนรู้จักรึ ตราบที่คุณอยู่ในโซล เขายิ่งกลัว กลัวคุณถูกจับได้ เขาจะพลอยเดือดร้อน ไม่เข้าใจอีกรึ”

“ฉันไม่เชื่อ เธอไม่รู้จักอุนซองเท่าฉัน”

“อุนซอง ...ไม่เคยลำบากมาก่อน ไม่เคยสัมผัสความทุกข์ เงินคือสิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งเขารู้เท่านั้น เอาอย่างนี้มั้ยคะ ไปจากโซล คุณทำเพื่อเราไม่ใช่รึ เพราะฉะนั้น คุณเปลี่ยนชื่อแซ่เริ่มต้นใหม่”

“ฉันเปลี่ยนชื่อแซ่แล้ว”

“คุณทำมาหากินในโซล 30 ปีแล้วนะ ทั้งอุนซอง อุนยูไม่อยู่ คุณอยู่โซลเพื่ออะไร”

“ให้ฉันไปไหน”

“ฉันดูไร่ที่ชองนัมลาไว้ ที่นั่นขาดคนงาน มีหลายแห่งให้เช่า คุณลองไปดูเอง ถ้าชอบ ฉันจะช่วยเซ็นสัญญาเช่าให้”

“ชองนัมลารึ”

“ค่ะ ตอนที่คุณปรากฏตัวยังไม่ตายฉันรู้สึกไม่ต่างกับอุนซอง ทั้งกลัวทั้งโกรธ ไม่พอใจคุณ แต่คิดอีกที คุณเป็นสามี เห็นคุณลำบากฉันไม่สบายใจ ชื่อของคุณใช้ไม่ได้อีกแล้ว ลองไปดูไร่นะคะ คุณคะ ใช้ชีวิตเป็นชาวไร่ชาวสวนมีความสุขกว่านะคะ อย่าทำให้ฉันกับอุนซองต้องไม่สบายใจ ถ้าอุนซองติดต่อฉัน ฉันจะรีบบอกคุณทันที”






//www.dailynews.co.th



Create Date : 12 เมษายน 2555
Last Update : 12 เมษายน 2555 15:31:00 น.
Counter : 299 Pageviews.

0 comment
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 8 เมษายน 2555



“อย่างลูกพี่ว่า หาที่ใกล้หน่อย มีร้องเพลง มีเหล้าด้วยยิ่งดี” พนักงานคนหนึ่ง กล่าว

“ร้องเพลง ดื่มเหล้า...ฮ่ะ...ฮ่ะ...ไปด้วยสิ...ฮ่ะ...ฮ่ะ...ไปเลย” เฮลี กล่าว

“ได้ทุกที่ ผมเป็นเจ้ามือเลี้ยง” จุนเซ กล่าว

ที่ร้านอาหารทุกคนดื่มฉลองกันอย่างสนุก เฮลีและพนักงานคนอื่น ๆ ชวนให้ผู้จัดการร้องเพลง ส่วนอุนซองดื่มจนเริ่มรู้สึกเมา จากนั้น อุนซอง เฮลี และจุนเซจับไมค์ร้องเพลงด้วยกันอย่างสนุก เมื่อได้เวลาร้านใกล้ปิดทุกคนก็ลากัน

“ขอบคุณผู้จัดการลิว เสร็จแล้วกลับได้เลยนะครับ......ครับ” จุนเซ กล่าว

“มาช่วยงาน ว่างนักรึไง” ยูฮัง กล่าว

“หมายความว่าไง” จุนเซ ถาม

“ร้านตัวเองไม่ดู มาช่วยทำไม” ยูฮัง กล่าวประชด

“วันนี้ที่ร้านมีกิจกรรมผู้สูงวัย ต้องการคนช่วยนี่นา”

“ชองยีไม่สบายนอนซมก็เพราะพี่ แต่พี่ยังสบายใจมาช่วยงาน ไม่เกินไปหน่อยรึ”

“ยูฮัง”

“ถึงชองยีชอบพี่ฝ่ายเดียว แต่เขาป่วยเพราะพี่ มาทำไม ไม่มีพี่งานจัดไม่ได้รึ” ยูฮัง กล่าว

“นายโกรธฉันเรื่องอะไร โกรธฉันเพราะอุนซองใช่มั้ย นายไม่พอใจเรื่องอุนซองใช่มั้ย”

“ชองยีเป็นน้องผม”

“นายห่วงชองยีตั้งแต่เมื่อไหร่” จุนเซ กล่าว

“อะไร”

“นายไม่ต้องเอาน้องสาวมาอ้าง สารภาพมาดีกว่า”

“พูดพอรึยัง”

“คนอย่างนาย นอกจากตัวเอง เคยมั้ยที่จะห่วงคนอื่น นายโกรธฉันเพราะอุนซองใช่รึเปล่า”

“ใช่ ฉันโกรธเพราะโคอุนซอง” ยูฮัง สารภาพ

“นายทำอะไร”

“แน่จริงมาเลย” ยูฮัง ชวนทะละ

“นาย...ชอบอุนซองรึ ว่ามา” จุนเซ ถาม

“มีสิทธิอะไรมาถาม พี่มีสิทธิอะไร ไหนว่าไม่ใช่แฟนไง ฉันรึชอบเขา ไม่มีวัน เขาทำลายครอบครัวฉัน ชอบได้ไง”

“ทำไมถึงหาเรื่องฉัน”

“เพราะว่าหมั่นไส้ ฉันเป็นคนชอบหาเรื่องแบบนี้ พี่ล่ะนึกว่าตัวเองวิเศษนัก รู้ใจทุกคนไปหมด ฉันเห็นแล้วหมั่นไส้ เหม็นหน้าเข้าใจมั้ย”

“ดี เมื่อนายยอมรับ งั้นก็ดี”

“รู้ไว้ด้วยฉันเป็นคนแบบนี้”

เฮลีวิ่งเข้ามาบอก อุนซอง เมื่อเห็นจุนเซ และยูฮังทำท่าเหมือนจะชกต่อยกัน ผู้จัดการร้านและอุนซองออกไปดูพบจุนเซ มีเลือดออก

“เป็นเขาแน่เลย ชกคุณจุนเซใช่มั้ย” เฮลี ถามยูฮัง

“เข้าไปเถอะ สนุกกันต่อ” จุนเซ บอกทุกคน

“เลิกดีกว่า สนุกกันพอแล้ว ดื่มต่อก็เท่านั้น” ผู้จัดการกล่าว

“แต่ว่า คุณซึงมีจากสำนักงานใหญ่อยู่ไหน”

“อ้าว......ทำไมมาอยู่กันข้างนอก” ซึงมี กล่าว

หลังออกมาจากร้าน จุนเซบอกให้ยูฮังขึ้นรถ โดยจะไปส่งซึงมีก่อน แล้วค่อยไปส่งยูฮัง แต่ซึงมี และยูฮังปฏิเสธบอกว่ากลับแท็กซี่ได้ เมื่อขึ้นรถแล้วอุนซองถามจุนเซว่าทำไมถึงชกต่อยกัน

“ไม่มีอะไร”

“เพราะฉันใช่มั้ย ฉันรู้...เขาโกรธเรื่องชองยี มาลงที่พี่ใช่มั้ย” อุนซอง ถาม

“เขารึ”

“พี่ชายชองยี”

“คงเมา ผู้ชายดื่มเหล้า เป็นเรื่องธรรมดา มีวางมวยกันบ้าง”

“พี่ด้วยรึ” อุนซอง ถาม

“ฉันก็เป็นผู้ชายนะ ไม่มีอะไร อย่าห่วงเลย”

“เฮ้อ...ท่าทางเขาโกรธพี่มาก ไม่ใช่ฉัน เพราะเขา...ไม่ได้ว่าอะไรฉันสักคำ”

ซึงมีถามยูฮังว่ามีเรื่องอะไรกันกับพั๊กจุนเซ

“เรื่องชองยี โกรธขนาดนี้รึคะ พี่ไม่ชอบหน้าพั๊กจุนเซ เป็นเพียงข้ออ้าง ไม่ใช่เหตุผลนั้นหรอก”

“เตรียมข้อมูลบริษัทให้ฉัน” ยูฮัง สั่ง

“ข้อมูลบริษัทรึ”

“ทรัพย์สิน ผลประกอบการ แล้วสัดส่วนผู้ถือหุ้น ที่เกี่ยวกับบริษัททั้งหมด รายละเอียด ฉันคุยกับทนายพั๊กเอง”

“ค่ะ ได้ค่ะ”

เมื่ออุนซองกลับถึงบ้าน จังซุกจาถามว่าการจัดงานที่ร้านสาขาสองประสบความสำเร็จมากเลยใช่มั้ย อุนซองรีบบอกว่ายอดเพิ่มขึ้น 4.5 เท่า มีกิจกรรมเพื่อสังคม ลูกค้าเต็มร้าน ทุกคนพูดถึงแต่ร้านสาขาสอง และหลานชายคุณย่าก็ช่วยเต็มที่ เมื่อยูฮังกลับมาถึง อุนซองบอกให้เขาประคบเท้าด้วย ไม่งั้นปวด พรุ่งนี้ทำงานไม่ไหว

จังซุกจาเห็นยูฮังเปลี่ยนไปก็พูดกับพ่อบ้านถึงเรื่องนี้

“ถึงเวลานี้แล้ว เขาคงรู้หรอกว่ามรดกทั้งหมดไม่ใช่ของอุนซอง แต่ก็ยังเข้าออกร้านสาขาสอง เกินคาดจริง ๆ”

“ยูฮัง ยังไงก็เป็นหลานท่าน ท่านตัดสินใจแล้ว จะไม่เปลี่ยนใจรึครับ” พ่อบ้าน ถาม

“เธอว่า ฉันเป็นยายแก่ดื้อรั้นใช่รึเปล่า”

“ผมหมายถึง ไม่จำต้องตึงขนาดนั้นหรอกครับ”

“ใจจริงฉันอยากจับมือเขา แล้วถามเขาว่าเหนื่อยมั้ย อยากปลอบโยน แต่ไม่ได้ทำ ถ้าฉันแสดงความอ่อนแอก่อน ยูฮังจะเป็นเหมือนเดิมอีก”

“ครับ”

“เขาเห็นฉันโกรธ ถึงได้ตั้งมั่นต่อสู้... ฮ่ะ...ฮ่ะ...เขาจะรู้มั้ย ต่อให้ล้างผลาญสมบัติ เลวร้ายขนาดไหน ยังไงฉันก็ตัดไม่ขาด”

“เขาคงโกรธบ้าง แต่ไม่ใส่ใจหรอกครับ”

“ถ้าหาก...เขาเห็นว่าย่าคนนี้เป็นศัตรูโกรธเกลียด แต่ฉัน...ยังคง...รักเขา จวบจนวันตาย ไม่ถูก...แม้ตายก็ยังรัก”

เช้าวันรุ่งขึ้นปั๊กจัดอาหารให้ซึงมี พร้อมขอให้กินวิตามินซีแก้เหนื่อย แต่ซึงมีปฏิเสธบอกว่าไม่หิว

“ดื่มหน่อยก็ยังดี เป็นอะไร เจออุนซองแค่วันเดียว เหนื่อยขนาดนี้เชียวรึ รอแค่อึดใจ อุนซองก็จะออกจากบ้านยูฮังแล้ว ยิ่งตอนนี้ยูฮังขยันทำงาน คุณย่าต้องเปลี่ยนใจ”

“แน่ใจหรือคะ อุนซองจะออกจากบ้านนั้น”

“เขาตกลงกันแล้ว แย่งหลานเขยไปทั้งคนนะ ยังไงคุณย่าก็ไม่เลี้ยงไว้หรอก”

“พี่ยูฮัง รอแม่ไปคุยที่บ้านให้รู้เรื่อง”

“สิ่งแรก ต้องไล่อุนซองออกไปก่อน ขืนพูดต่อหน้าอุนซอง เท่ากับฆ่าตัวเอง” ปั๊ก กล่าว

“เมื่อวานหนูเห็นอุนซองไม่มีท่าทีจะย้าย กลับ เริงร่าด้วยซ้ำ”

“คุณย่าไม่ไล่เขาไปทันทีหรอก ต้องหาบ้านให้ก่อนถึงค่อยพูด เฮ้อ...ดื่มก่อนค่อยไปนะลูก แม่จะโทรฯหายงนัง ผลเป็นยังไงจะบอกให้รู้”

เมื่ออุนซองเจอกับยูฮัง ก็ถามว่าอาการเจ็บเท้าดีขึ้นหรือยัง ยูฮังยังไม่ทันตอบ ชองยีก็ถามขึ้นมาว่าอุนซองกับจุนเซเป็นแฟนกันจริงหรือ

“ไม่ได้เป็น” อุนซอง กล่าว

“แล้วทำไมต้องขอโทษ พี่จุนเซชอบเธอข้างเดียวไม่ใช่หรือ” ชองยี กล่าว

“ฉันเข้าใจความรู้สึกของการเสียใจ เลย...เลยขอโทษ” อุนซอง กล่าว

“คนอะไรประหลาด” ชองยี กล่าว

“อุนซองเป็นคนมีความคิด”

ที่โต๊ะอาหารยงนังเตรียมอาหาร เมื่อจังซุกจาเห็นก็ถามว่าทำเองทั้งหมดเลยหรือ พ่อบ้านรีบรายงานว่า ยงนังหุงข้าวเป็นแล้ว ทำแกงจืดได้ด้วย เมื่อไม่เห็นยูฮังกับชองยีลงมา จังซุกจาก็ถามหา

เมื่อทานอาหารเสร็จอุนซองก็รีบขี่จักรยานไปทำงาน โดยมียูฮังตามมา

“นี่...พี่จุนเซบอกอะไรเธอรึเปล่า...นี่...จะขี่จักรยานถึงร้านสาขาสองรึ”

“ขี่ถึงสถานีรถใต้ดินแล้วต่อรถ” อุนซอง กล่าว






//www.dailynews.co.th



Create Date : 12 เมษายน 2555
Last Update : 12 เมษายน 2555 15:30:05 น.
Counter : 363 Pageviews.

0 comment
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 7 เมษายน 2555



“น้อย ๆ หน่อย...ฮ่ะ...ฮ่ะ...แต่ที่แปลกก็คือ เราทะเลาะกันบ่อย แต่ไม่รู้สึกว่าเขาน่ากลัว”

“คู่กัดกลายเป็นคู่รักแล้วสิ” เฮลี แซว

“หมู่นี้เขา...ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยล่ะ เขาเริ่มเปลี่ยนไป”

ยูฮัง ต้อนรับลูกค้า พูดชมจนลูกค้าชอบใจทำเอาอุนซองประหลาดใจ

“เกิดอะไรขึ้น นายอบรมการแสดงมารึ”

“นี่...ฉันอยู่กับคุณย่ามาตั้งกี่ปี ฝีมือชั้นนี้แล้ว”

“แต่ฉันไม่เคยเห็นนายพูดกับคุณย่าแบบนี้” อุนซอง กล่าว

“สมัยเรียนท่าจะไม่ทำการบ้าน หลังจากคุณย่าพาเธอมา ฉันก็ตกกระป๋อง”

“พอแล้ว ไม่ต้องพูด”

“เพราะฉะนั้น มาลองดู”

“ลองอะไร”

“แข่งอย่างจริงใจ มาลองดู ถ้าฉันเกลียดเธอเพราะคุณย่ายกมรดกให้ ฉันก็แย่มาก” ยูฮัง กล่าว

“เป็นไรรึเปล่า”

“ไม่ใช่เพราะเธอที่คุณย่าไม่ยกมรดกให้ฉัน ทำไมฉันต้องเกลียดเธอ ฉันต้องทำให้คุณย่าเปลี่ยนใจให้ได้” ยูฮัง กล่าว

“นายพูดจริงรึ”

“เรื่องน้องชายทำให้เธอเกลียดฉัน แต่ฉันไม่เจตนาทำมือถือเธอเสีย เวลาทำงานเธอลืมซะ เวลางานต้องตั้งใจมีสมาธิ เข้าใจมั้ย”

“เข้าใจหรอก แต่ว่า...”

“ทำปากเก่ง แค่นี้ไม่เข้าใจ” ยูฮัง กล่าว

อุนซอง โทรฯ หาจังซุกจา บอกคุณย่าว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ขอไปหาที่บริษัท แต่ถูกคุณย่าปฏิเสธ บอกว่าให้มาคุยที่บ้าน เพราะวันนี้ไม่ได้เข้าบริษัททั้งวัน อุนซองจึงมาหาคุณย่าที่บ้าน บอกว่าตอนนี้เพื่อนอยู่บ้านเช่าที่ควันดง

“เธออยากย้ายไปอยู่ที่นั่นสินะ”

“ขอโทษค่ะ คุณย่า”

“เธอขอโทษฉันทำไม หรือเธอทำสิ่งผิดกับชองยีเอาไว้ เธอแย่งแฟนชองยีใช่มั้ย”

“ไม่ใช่อย่างนั้น”

“แล้วเธอย้ายทำไม”

“เพราะคุณย่าเห็นหนูแล้ว คุณย่าลำบากใจ ชองยี...ยังไงก็เป็นหลานคุณย่า”

“ที่แท้ฉันเอง...ทำให้เธออึดอัดใจ”

“เป็นธรรมดาค่ะ...ของคนเป็นคุณย่า”

“ไม่ใช่ว่าฉันโกรธเกลียดเธอหรอกนะ เพียงแต่ฉันสับสน หลานสาวสองคนกับหนึ่งหนุ่ม กลายเป็นรักสามเส้า”

“คุณย่า”

“เข้าบ้าน”

“คุณย่า ทำไมต้องให้หนูอยู่บ้านนี้รึคะ คุณแม่ชองยี กับชองยี ไม่สบายใจที่อยู่กับหนู”

“เธอรับปากแล้วนะว่ามาอยู่บ้านนี้”

“แต่สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว”

“ไม่ต้องถามมาก เห็นเธอน่ารักหรอกนะถึงไม่ว่า ริอ่านเถียงเซ้าซี้อีก ในเมื่อเธอรับปากแล้ว ต้องรักษาคำพูด”

เมื่อเข้ามาในบ้าน จังซุกจาให้ ยงนัง ตามชองยีมาที่ห้องของตน

“คุณย่า ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้นะคะ” ยงนัง กล่าว

“เธอทั้งสองคน ไม่พอใจอุนซอง ข้อนี้ฉันรู้ดี”

“เมื่อรู้ทำไมคุณย่ายังให้เขาอยู่ที่นี่คะ” ชองยี ถาม

“ถ้าหากว่าอุนซองมีเจตนาล้ำเส้นชองยี ย่าจะให้ย้ายทันที แต่เขาไม่มีเจตนา ใจคนไม่มีใครบังคับกันได้ ในเมื่อจุนเซชอบอุนซอง เราโยนความผิดให้อุนซอง ไล่เขาไป มันไม่ถูกต้อง”

“สิ่งที่คุณแม่พูด แต่ละคำมีเหตุผลอยู่หรอก แต่ว่าคน จิตใจคน พูดน่ะง่าย แต่ทำใจยากนะคะ” ยงนัง กล่าว

“ตอนฉันพาอุนซองมา ได้เตรียมใจไว้แล้วว่ารับเขาเป็นหลานสาวคนนึง อย่างที่ฉันเคยบอกเขาเป็นสมาชิกในครอบครัว”

“รับเป็นหลานสาวก็เลิกได้นะคะ”

“ก่อนนี้ ฉันไม่ให้เงิน พวกเธอตัดขาดฉันฉันยังทนได้ ฉันจังซุกจา อยากทำสิ่งที่ถูกต้องในช่วงท้ายของชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไป”

“ดิฉันทราบค่ะ”

“ฉันทำงานหนักเหนื่อยมาทั้งชีวิต พวกเธอ...จะปล่อยให้ฉัน...ใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปได้มั้ย”

“ดิฉันว่า...คุณแม่มีวาทศิลป์เป็นเลิศ คำพูดคุณแม่ทำเอาพวกเราเถียงไม่ออกเลยนะคะ” ยงนัง กล่าว

ซึงมีจะรีบออกไปทำงาน เพราะช่วงก่อน 11 โมงลูกค้าจะเข้ากันมา แต่ก่อนออกจากบ้านปั๊กเข้ามาถาม

“ลูกไม่รู้สึกอึดอัดใจบ้างรึ ต่อหน้ายูฮัง ลูกยังต้องทำงานร่วมกับอุนซอง”

“พี่ยูฮังรู้แล้วนี่คะ”

“หลังจากเขารู้เรื่อง นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกเจอยูฮัง”

“แม่ เลิกพูดสักทีได้มั้ยคะ”

“แม่แค่เตือนลูกอย่าชะล่าใจ ไม่จำเป็นที่ลูกต้องคุยกับอุนซอง คนอื่นจะมองในแง่ลบ ไม่มีใครทำใจได้ง่าย ๆ หรอก”

“ที่หนูเป็นแบบนี้เพราะใคร”

“ทั้งหมดเป็นเพราะแม่..แม่คนนี้ ดังนั้นลูกไม่ผิด แม่อยากให้ลูกระวังตัว แม่ไม่อยากให้ลูกต้องกลายเป็นคนบาป ไม่นาน...อุนซองต้องออกจากบ้านยูฮัง อดทนรอหน่อย” ปั๊ก กล่าว

ระหว่างที่อุนซองยุ่งอยู่กับการจัดร้าน เฮลี ก็เข้ามาหาที่ร้าน

“นี่คือผู้สนับสนุนร่วมบริจาคสมทบทุนครับ กิจกรรมผู้สูงวัย ผมเชิญมาเองครับ”

“ผู้สนับสนุนคือพี่จุนเซเองรึคะ ไม่บอกให้รู้กันบ้างเลย” อุนซอง ถาม

“ไม่ใช่มาเพื่อเธอ ไม่จำเป็นต้องบอก” จุนเซ กล่าว

“ฉันมาพร้อมท่านประธาน เลยไม่จำเป็นต้องบอก”

“เชอะ.....ที่แท้ก็รู้กัน”

ผู้จัดการร้านและอุนซอง รวมถึงพนักงานทุกคนช่วยกันจัดงานครบรอบ 30 ปี ร้านสาขาสอง เปิดรับบริจาคเงินเพื่อให้ผู้สูงวัย โดยมียอดบริจาคสูงกว่ารายรับวันปกติถึง 4.5 เท่า หลังเสร็จงานทุกคนต่างฉลองกัน

“ผู้จัดการไปต่อร้านผมมั้ยครับ เตรียมเบียร์เย็น ๆ ไว้ให้” จุนเซ ชวน

“อยู่ตั้งไกล ไปทำไมกัน” ยูฮัง กล่าว

“อุนซอง เอายังไง” ผู้จัดการหันมาถามอุนซอง






//www.dailynews.co.th



Create Date : 12 เมษายน 2555
Last Update : 12 เมษายน 2555 15:28:48 น.
Counter : 341 Pageviews.

0 comment
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 6 เมษายน 2555



“ต้องการรู้จริงรึ”

“ฉันอยากรู้ ทำไมพี่ถึงชอบเขา”

“อุนซอง...เป็นคนมีความคิด”

“มีความคิดรึ”

“ชอบใครสักคน ไม่มีเหตุผลหรอก แต่ถ้าให้พูดล่ะก้อ ฉันชอบที่เขามีความคิด...คิดดี มีเท่านี้” จุนเซ กล่าว

ยูฮัง กับอุนซอง มานั่งพักกินข้าว ยูฮัง บ่นว่าข้าวน้อย อุนซองจึงยกข้าวของเธอให้ ทำให้ยูฮัง เริ่มรู้สึกดีกับอุนซอง ด้านอินยง มาบอกซึงมี ว่า พ่อของจุนเซมาโวยวายถึงห้องพัก สั่งให้เขาเลิกกับอุนซอง ส่วนอุนซองต้องเอาสมบัติให้ได้ เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย

“นี่แหละ....ธรรมชาติของมนุษย์ ใครบ้างไม่อยากได้เงิน” ซึงมี กล่าว

“ไม่มีใครโง่หรอก เขาบอกว่าเธอรักจริง เรื่องเงินไม่สำคัญ แต่เรื่องเงินทำลายชีวิตเขา เขาเลยต้องเอาสมบัติคุณย่า” อินยง กล่าว

“เขาว่าเงินทำลายชีวิตเขารึ”

“ฉันว่า เขายังโกรธแค้นแม่เธออยู่นะ”

“เธอปรับความเข้าใจแล้วนี่นา”

“ฉันคุยแล้ว แต่อุนซองถูกไล่ออกจากบ้าน เลยทำให้อุนยูหายไป” อินยง กล่าว

“ฉันนึกว่า อุนซองคงไม่คิดแบบนั้น”

“เธอต้องระวังตัว แต่ก็แปลกนะ” อินยง กล่าว

“อะไร”

“แฟนเธอน่ะสิ เขาน่าจะเกลียดชังอุนซอง แต่ยังไปไหนมาไหนด้วยกัน” อินยง กล่าว

“อะไรนะ”

ยงนัง บอกกับปั๊ก เรื่องที่คุณย่าบึ้งตึงกับอุนซอง หลังรู้เรื่องอุนซองกับจุนเซ ด้านยูฮัง ทะเลาะกับผู้จัดการร้าน

“อย่าวางมาดหลานประธาน ตั้งใจทำงาน ทุกคนจะได้นับถือ”

“ความเห็นหลายหลากจริงนะ” ยูฮัง กล่าว

“เป็นประธานแล้ว อย่าลืมผมนะครับ”

“ฮันซูเจ”

“ลูกค้าคือพระเจ้า อย่าดูถูกลูกค้า คุณย่า ขายซุปให้ลูกค้าเลี้ยงนาย นายอยู่ได้ก็ด้วยเงินของลูกค้า อย่าดูถูกลูกค้า” อุนซอง กล่าว

“โคอุนซอง”

“ถึงนิสัยไม่ดี แต่สำหรับฉัน นายไม่ใช่คนไม่เอาไหน” อุนซอง กล่าว

“เป็นความกดดัน ความขมขื่น ไม่เอาไหนเลย”

“ใครนะ”

ผู้จัดการร้าน บอกกับอุนซองว่าวันอาทิตย์นี้ สำนักงานใหญ่จะส่งคนมาเสริม เราต้องพลิกฟื้นร้านสาขาสองขึ้นมาใหม่ ทุกคนต้องเหนื่อยกันหน่อย

อุนซอง กับยูฮัง ยืนรอรถเมล์อยู่ พอดีกับจุนเซ โทรศัพท์เข้ามาหา เธอจึงให้ยูฮังขึ้นรถไปก่อนจากนั้นก็รับสายบอกกับจุนเซว่า กำลังเดินติดประกาศอยู่ คงคุยได้ไม่นาน วันนี้กว่าจะเลิกงานคงมืด

“โคอุนซอง หมายความว่าไง เธอหลบหน้าฉันใช่มั้ย”

“ไม่ได้หลบหน้านะ”

“ทำไมต้องหลบหน้าฉัน ที่บ้านยูฮังเกิดอะไรขึ้น ตำหนิฉัน เธอไม่ผิดสักหน่อย ทำไมต้องหลบหน้า”

“ให้ฉันพูดบ้างสิ เฮ้อ... ไม่ใช่สาเหตุเรื่องนั้น ฉันรู้ว่าพี่ลำบากใจที่เจอฉัน ฉันเลยทำไม่สนใจ อีกอย่างคนยิ่งกลุ้มอยู่” อุนซอง กล่าว

“ขอโทษ เธอเหนื่อย ฉันยังซ้ำเติมอีก” จุนเซ กล่าว

“ดูสิ นึกแล้วต้องเป็นแบบนี้”

“ฉันบอกคนที่บ้านชองยี ฉันชอบเธอฝ่ายเดียว กับชองยีฉันก็พูด เธอก็เหมือนกัน เธอไม่สนใจฉัน ฉันตื๊อเธออยู่ข้างเดียว เป็นความจริงนี่นา” จุนเซ กล่าว

“ไม่จริงหรอก ไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าไม่เพราะฉันอยู่ในสภาพนี้ ฉันอาจจะเป็นฝ่ายตามตื๊อพี่ก็ได้ เพียงแต่สภาพฉันตอนนี้ ฉันไม่พร้อม จิตใจฉันยังไม่อาจรับความสุขใด ๆ อย่างที่ฉันบอกพี่ ไม่เจอ อุนยู ฉันยังไม่คิด”

อุนซอง โทรศัพท์มาบอกยงนังว่าคืนนี้จะไม่กลับบ้านไปนอนค้างบ้านเพื่อน ส่วนจังซุกจา สอบถามชองยีว่าคิดยังไงถึงลาออกจากร้านอาหารของจุนเซ แล้วหางานใหม่รึเปล่า ชองยี บอกว่าตนต้องทำงานกับพี่จุนเซ ตอนนี้พี่จุนเซให้พักระยะหนึ่ง และเขาบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกับอุนซอง

“จริงรึ ไม่ใช่แฟนหรอกรึ” ยูฮัง รีบถาม

“พี่จุนเซมาบอกฉันเอง บอกว่าเขาชอบอุนซองฝ่ายเดียว โคอุนซองนี่ก็แปลก ทำไมไม่ชอบพี่จุนเซนะ” ชองยี กล่าว

“คุณแม่คะ ยัยตัวยุ่งคืนนี้ไม่กลับค่ะ” ยงนัง เข้ามาบอก

“ยัยตัวยุ่ง?”

“อุนซองไงคะ บอกนอนที่บ้านเพื่อนแถวควันดง”

“ควันดงรึ”

“ค่ะ ทำไมต้องโทรฯมาบอกด้วย ไม่มีใครอยากให้กลับสักหน่อย” ยงนัง กล่าว

“แม่บอกไม่ให้เขากลับมารึเปล่า” ยูฮัง กล่าว

“เปล่านะ คุณย่าควรเป็นคนบอก แม่บอก นึกรึเขาจะเชื่อ ยัยคนนี้ร้ายจะตาย” ยงนัง กล่าว

“ควันดง”

เฮลี บอกโคอุนซอง ให้ขนกระเป๋าย้ายออกจากบ้านคุณย่ามาอยู่กับตนในวันพรุ่งนี้ อุนซอง รับปากว่าพรุ่งนี้จะบอกคุณย่า

“ขืนอยู่ต่อไป หลานชายหลานสาวเขาต้องบีบคอแกตายแน่...คุณย่า ทำไมสอนหลานได้เฮงซวยขนาดนี้”

“ไม่เลวร้ายนักหรอก เขาสองคนไม่ได้แย่สักหน่อย” อุนซอง กล่าว

“เป็นใครก็ต้องมีอคติทั้งนั้น โคอุนซอง เธอเข้มแข็งขึ้นมากนะ” เฮลี กล่าว

“จริงรึ หลานสาว ซังยูชอง ถึงเอาแต่ใจไม่รู้จักโตแต่ก็ไม่ร้าย ส่วนหลานชายซังยูฮัง ดูขี้เต๊ะวางมาด คนเลยคิดว่าเขาไม่ดี” อุนซอง กล่าว

“นั่นแน่...คู่กัดจนได้เรื่องซะแล้ว รักเข้าแล้วสิ” เฮลี กล่าว






//www.dailynews.co.th



Create Date : 12 เมษายน 2555
Last Update : 12 เมษายน 2555 15:27:18 น.
Counter : 559 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]