All Blog
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 27 มีนาคม 2555



“นั่นสิ ทำไมเธอไม่พูด”

“พี่จุนเซเคยบอกกับคุณอาว่าทำร้านให้อยู่ตัวก่อน ยังไม่แต่ง ฉันเลยได้แต่รอ”

“แล้วถ้าเขามีแฟน เธอจะทำยังไง” ซึงมี กล่าว

“ไม่มีทาง เธอคิดว่าพี่จุนเซเหมือนพี่ชายฉันรึ เขาเป็นคนมั่นคงมีหลักการ ถ้ายังไม่แน่ ไม่สุ่มสี่สุ่มห้าหรอก”

“พี่ยูฮังก็ไม่ใช่คนมีแฟนเป็นว่าเล่นนะ”

“เอ้อ...ไม่ได้ว่าอย่างนั้น ฉันว่าเขาไม่หยิบโหย่งเหมือนพี่ชายฉัน” ชองยี กล่าว

“พี่ยูฮัง ตั้งแต่เล็ก เขาถูกวางตัวสืบทอดกิจการคุณย่า เขาเลยไม่คิดทำงานอื่น”

“เชอะ...เธอรักพี่ชายฉัน ถึงได้เข้าข้างสิ”

“เธอกับพี่จุนเซก็เหมือนกัน”

“ใครว่าพี่จุนเซเหมือนพี่ชายฉันซะเมื่อไหร่ พี่จุนเซเป็นผู้ชายที่ใครเห็นใครก็ชอบ ขนาดคุณย่ายังจะจองตัวเป็นหลานเขย”

“เพราะงั้น เธอยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ อย่าประมาทถูกผู้หญิงอื่นคว้าไปเธอจะเสียใจ” ซึงมี กล่าว

“นี่...คนยิ่งกลุ้ม ๆ อยู่ ยังจะมาขู่อีก” ชองยี กล่าว

เช้าวันรุ่งขึ้นปั๊กถามยงนังว่าหลับสบายดีมั้ย

“สบายได้ไง นอนไม่หลับเลย เพิ่งหลับได้ตอนฟ้าสาง...เฮ้อ...ปกติฉันนอนคนเดียว มีคนนอนด้วยเลยไม่หลับเลย”

“แล้วตอนนี้เธอจะทำยังไง ถ้าเธอจะอยู่ที่นี่ต่อไป ฉันไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่ยูฮังอยู่บ้าน เธอเป็นแม่อยู่ข้างนอกจะดีรึ”

“เฮ้อ...จริงอยู่หรอก แต่เราหอบกระเป๋าออกมาแล้ว แถมประกาศจะมาตายเอาดาบหน้าด้วย”

“ยังมาห่วงศักดิ์ศรีอะไรอีกเล่า ถ้าเธอกับชองยีไม่กลับก็เหลืออุนซองกับยูฮังสองคนน่ะสิ”

“สองคนที่ไหนเล่า ยังมีคุณแม่กับพ่อบ้าน” ยงนัง กล่าว

“แต่เขาสองคนอยู่ชั้นสอง ชั้นสามนะ เอ้อ...คือว่า ชายหนุ่มหญิงสาวอยู่บ้านเดียวกัน น่าเป็นห่วงไม่ใช่รึ”

“ปัทโธ่...เป็นห่วงอะไรกันนักกันหนา ลูกฮังฉันไม่สนใจแม่นั่นหรอก ยิ่งคนที่แย่งสมบัติเขา เกลียดเข้ากระดูกดำเชียวล่ะ”

“เป็นอย่างนั้น ฉันก็โล่งใจ เอ่อนี่...ล้างหน้าล้างตา กินข้าว”

ยูฮัง มาดักรอ อุนซอง นำเงินส่วนที่ค้างมาคืนให้ ด้านผู้จัดการร้านบอกกับอุนซอง ว่าปลายเดือนนี้ประชุมเรื่องการปรับปรุงร้านสาขาสองเตรียมข้อมูลด้วย

“ดีมาก จริงสิ โคอุนซองเลื่อนเป็นหัวหน้าร้านสาขาสอง ต่อไปนี้ต้องมีสัมมาคารวะ”

ยูฮัง เริ่มปรับปรุงตัวดีขึ้นทำงานด้วยความตั้งใจ ด้านยงนัง เริ่มสงสัยปั๊ก หลังจากสำรวจพบว่า ภายในบ้านไม่มีเสื้อผ้าผู้ชาย

“สามีเขาไปเวียดนาม เอาเสื้อผ้าไปหมดรึ...รูปถ่ายสามีไม่มีสักใบไม่ได้ไปเวียดนามน่ะสิ หรือว่าหย่ากัน โอ้...เป็นระเบียบสะอาดจัง แม่บ้านมืออาชีพนะเนี่ย...อยู่บ้านคนอื่น น่าเบื่อจัง คุณแม่ทำไมยังไม่โทรฯมาอีกนะ”

ลีฮังจิน มาที่ร้านของจุนเซ จึงได้รู้จากเฮลีว่า โคอุนซอง ที่ตัวเองตามจีบ แล้วเขี่ยทิ้งหลังจากที่บ้านล้มละลาย ตอนนี้เจ้าของจินเซ็งฟู๊ดส์ ได้ยกมรดกทั้งหมดให้อุนซอง ด้านซึงมี ได้มาหายูฮังที่ร้าน เห็นอุนซองทำงานที่นี่ด้วยก็ถามว่า เมื่ออึดอัดใจ ทำไมยังทำงานด้วยกัน

“จะเปลี่ยนใจคุณย่า พี่จำเป็นต้องทำที่สาขาสองด้วยรึ โดยนิสัยพี่ ทั้งที่บ้าน ที่ร้าน เจอ อุนซองทั้งวันคงเอียนแย่”

“ก็ใช่ เขาเห็นฉันยิ่งเอียนใหญ่”

“หมายความว่าไง”

“เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะฉัน...ฉันเป็นต้นเหตุ”

ยูฮัง กลับมาบ้านปั๊กเซ็งฮี พร้อมซึงมี ได้เห็นรูปถ่ายของตนเต็มโต๊ะ

“วางรูปฉันเต็มโต๊ะเลย คุณน้าไม่ว่ารึ”ยูฮัง ถาม

“ตั้งแต่ย้ายมา เพิ่งเอามาวาง เดิมฉันไว้ในอัลบั้มดูคนเดียว” ซึงมี กล่าว

“พี่ ฉันจะจัดกระเป๋า พี่ออกไปก่อน” ชองยี กล่าว

“ได้”

“ซึงมี ส่งกระเป๋าให้ทีซิ”

“จ้ะ”

“นอนแค่คืนเดียว รู้งี้ขนมาน้อย ๆ ก็ดี อุ๊ย...ว้าย กระเป๋าใหม่ล่าสุด ฉันเห็นแต่ไม่ได้ซื้อ ซึงมี ขอได้มั้ย”

“พี่ยูฮังให้เป็นของขวัญฉัน”

“พี่ซื้อให้รึ”

“เขาให้ตอนเข้าทำงาน” ซึงมี กล่าว

“พี่ฉันซื้อ เธอเองมีตั้งหลายใบ ฉันน่ะ ซื้อจากฮ่องกงตั้งหลายใบ โยนทิ้งหมดแล้ว ตอนนี้เหลือไม่กี่ใบ”

“ไม่ได้หรอก”






//www.dailynews.co.th



Create Date : 02 เมษายน 2555
Last Update : 2 เมษายน 2555 23:14:01 น.
Counter : 348 Pageviews.

0 comment
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 26 มีนาคม 2555



“ครับ”

“โดยเฉพาะกับลูกค้า ถ้าทำไม่ดี กลับไปเลย เข้าใจมั้ย”

“ครับ”

“บอกตามตรง ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก เห็นแล้วรำคาญ”

“ข้อนี้ผมต้องตอบมั้ย”

“ท่านประธานมีเหตุผลอะไรย้ายคุณมา ท่านบอกลองดูสองเดือน ผมจำเป็นต้องรับ แต่ถ้าพลาด ผมไล่ออกแน่ ไม่พอใจผมใช่มั้ย...ไต่ให้ถึงตำแหน่งผมก่อนก็แล้วกัน”

“ผู้จัดการ ไม่พอใจใช่มั้ย ไล่ผมออกสิ” ยูฮัง กล่าว

“ว่าไง อยากพูดอะไร”

“เฮ้อ...”

“ยิ้มอีก”

“เปล่าครับ” ยูฮัง กล่าว

ปั๊ก ทำอาหารให้ยงนังกิน จากนั้นก็ถามว่าติดต่อยูฮังได้รึยัง ยงนังบอกว่าเขาปิดโทรศัพท์ จากนั้นชองยี ขอไปนอนเล่นห้องซึงมี ปั๊กจึงขอเข้าไปดูความเรียบร้อยก่อน เมื่อซึงมีกลับมาก็สอบถามว่ายูฮังจะมาอยู่บ้านหรือ ปั๊กจึงบอกว่าจะมาอยู่ชั่วคราว

“แล้วคุณย่ารู้จะทำยังไง ยิ่งรู้ว่าตัดขาดคุณย่ามาอยู่กับเรา คุณย่าไม่โกรธรึคะ” ซึงมีถาม

“ไม่แน่หรอก วิธีนี้อาจใช้ได้ผล ต่อให้คุณย่าสงเคราะห์คนอื่นไปเถอะไม่มีทางตัดลูกตัดหลานหรอก”

“แต่พี่ยูฮังปิดมือถือเขาเห็นด้วยกับวิธีนี้รึคะ”

“ดูเหมือนพวกเขาคุยกันเรียบร้อยแล้ว เห็นว่ายูฮังออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวาน”

“เมื่อวานหนูยังช่วยขับรถส่งถึงบ้านด้วย”

“งั้นรึ แต่ยงนังบอกว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้กลับบ้าน”

“น่าแปลก แล้วเขานอนที่ไหน”

พ่อบ้าน รายงานจังซุกจา เรื่องที่ยงนัง และลูกสาวหอบกระเป๋าออกจากบ้านพร้อมคุณโคเจ

“ดี เอาไม้ตายมาประท้วงฉันไม่ให้เงินก็ไม่สนใจฉัน”

“ขอโทษครับ”

“ฮ่ะ...ฮ่ะ...สิ้นคิด”

“กลับมาแล้วครับ” ยูฮัง เดินเข้ามา

“คุณยูฮัง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่แต่เช้าครับ เห็นแต่กุญแจรถ”

“มาแล้วค่ะ คุณย่าเพิ่งกลับรึคะ” อุนซอง กล่าว

“ใช่ อุนซอง เข้ามาหน่อย”

“ค่ะ”

“เธอแปลกใจมั้ยที่ยูฮังไปสาขาสอง”

“ค่ะ ตอนแรกรู้สึกแปลกใจ หนูทราบจากผู้จัดการค่ะ”

“อย่าเข้าใจเป็นอื่น ไม่มีอะไร ถึงแม้เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกหลาน ขอร้องอ้อนวอน ขอไปทำงานร้านสาขาสอง ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้”

“ค่ะ”

“อีกหน่อยเธอมีลูกแล้วจะเข้าใจ ลูกหลานแท้ ๆ เป็นเหมือนเลือดเนื้อของเราเอง แล้วนี่ยิ่งเป็นลูกหลานยังไงก็ตัดไม่ขาด”

“หนูทราบค่ะ คุณย่า”

“ฮ่ะ...ฮ่ะ...ไม่เคยมีลูก รู้ได้ยังไง...ฮ่ะ...ฮ่ะ...”

“นึกถึงคุณพ่อ คุณแม่ อุนยูทีไรหนูรู้สึกปวดร้าว ทุกข์ทรมานใจ คุณย่าคงเหมือนกัน”
“การให้ยูฮังทำงาน ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสำหรับเขา เธออย่าถือสาเขา ทำหน้าที่ของเธอต่อไปนะ”

ยงนัง โทรฯมาหายูฮัง บอกให้ไปบ้านซึงมี เขาถามกลับว่าให้ไปทำไม

“ลูกเอ๊ย แม่กับน้องย้ายออกจากบ้านแล้ว แต่ลูกยืนยันอยู่ที่บ้าน ได้ที่ไหนกัน สาขาสองรึ ทำงานสาขาสองรึ ลูกฮัง”

“แม่ พี่กลับบ้านแล้วรึ ร้านสาขาสองทำไมรึคะ” ชองยี กล่าว

“ก็นั่นน่ะสิ”

“ก็นั่นสิอะไรคะ”

“ยูฮัง ตอนนี้ยังอยู่ที่บ้านรึ” ปั๊ก ถาม

“เขาว่าอย่างนั้น”

“นี่เธอไม่ได้ถามยูฮัง ตัวเองด่วนออกมาทำไมกัน” ปั๊ก ถาม

“เปล่านะ เมื่อวานลูกชายฉันไม่ได้กลับมานอนที่บ้าน มือถือทั้งวันก็ปิดเงียบ ฉันคิดว่าเขาคงคิดเหมือนเราน่ะสิ” ยงนัง กล่าว

ซึงมี กับ ชองยี อยู่ในห้องนอนกันสองคน ซึงมีขอร้องให้ชองยีกลับบ้าน

“ซวยจริง ๆ เลย วันก่อนฉันยังเป็นทายาทเศรษฐีอยู่หยก ๆ กลายเป็นเทวดาตกสวรรค์เร่ร่อนไม่มีบ้าน”

“คุณย่าเธอยังไม่ตายสักหน่อย ฉันว่าสักวันท่านคงเปลี่ยนใจหรอก”

“ไม่มีประโยชน์แล้ว พินัยกรรมคุณย่า ยกบริษัทให้พี่ยูฮังหมด”

“งั้นรึ”

“เฮอะ...น่าโมโห รู้อย่างนี้ฉันน่าจะแต่งงานกับพี่จุนเซไปซะเลย” ชองยี กล่าว






//www.dailynews.co.th



Create Date : 02 เมษายน 2555
Last Update : 2 เมษายน 2555 23:13:05 น.
Counter : 308 Pageviews.

0 comment
มรดกรัก วันที่ 25 มีนาคม 2555



“ถ้าคุณย่าไม่หมดเยื่อใยผม ให้โอกาสผมนะครับ ถ้าผม... ยังเป็นหลานคุณย่า ไม่ว่าคุณย่าจะเปลี่ยนความคิดหรือไม่ ขอนะครับ นี่เป็นทางเดียวที่ลูกผู้ชายอย่างผมจะทำได้ นะครับ ผมไม่เคยคิด แต่มันเกิดขึ้นแล้ว นี่รึครับ วิธีบีบผม”

“ยูฮัง ยังไงย่าก็ไม่เปลี่ยน”

“ก็ได้ ให้โคอุนซอง แต่ขอ..ขอผมไปสาขาสอง ตอนนี้...ผมไม่มีทางอื่นแล้ว”

“อย่าหวังว่าย่าจะเปลี่ยนพินัยกรรม”

“แม้ผมหวัง ย่าไม่เปลี่ยนอยู่ดี” ยูฮัง กล่าว

อุนซอง เริ่มมาทำงานที่สาขาสอง ได้รับการต้อนรับจากผู้จัดการ โดยให้เริ่มศึกษางานก่อน จากนั้นพรุ่งนี้ค่อยลุยทำงาน ด้าน ยงนัง และชองยี เก็บเสื้อผ้า ข้าวของออกจากบ้าน พ่อบ้านเห็นก็เข้ามาห้าม

“คุณผู้หญิง อะไรกันครับ ชองยี แล้วจะเสียใจนะครับ”

“คุณย่าต่างหากต้องเสียใจ”

“ฉัน ไม่อยู่บ้านนี้ช่วยอุนซองหุงข้าวแล้ว” ยงนัง กล่าว

“ฉันไปทำงานร้านพี่จุนเซ”

“บอกคุณแม่เชิญท่านอยู่กับอุนซองตามสบาย”

“ทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์หรอกครับ” พ่อบ้าน กล่าว

“ทำไม”

“ไม่รู้รึครับ นายท่านทำเพื่ออะไร”

“เพราะรู้น่ะสิ ถึงทำแบบนี้”

“คุณย่าตาย อยากให้เราถูกไล่จากบ้านเป็นขอทานน่ะสิ” ชองยี กล่าว

“ไปรายงานนายท่านของเธอด้วย ถ้าไม่แก้ไขพินัยกรรมละก็ เราสามแม่ลูกจะไม่สนใจท่าน”

“ตัดขาดกันเลย” ชองยี กล่าว

“ออกไปเมื่อไหร่ไปได้ครับ แต่กลับเข้ามา ไม่ง่ายนะครับ”

“อย่ามาขู่ ฉันไม่กลัวหรอก” ชองยี กล่าว

“ไล่สะใภ้ ไล่หลานชายหลานสาว มีแต่อุนซอง พ่อบ้าน อยู่กับคนอื่นก็แล้วกันนะ” ยงนัง กล่าว

ชองยี และยงนัง เรียกรถไปส่งที่โรงแรม เมื่อไปถึง ยงนังเห็นโรงแรมก็กลัวว่าจะไม่มีเงินจ่ายค่าที่พัก ชองยี บอกว่าจะพักแค่คืนเดียว พรุ่งนี้ค่อยขายกระเป๋า

“ขายกระเป๋าวันละใบรึ” ยงนัง ถาม

“แม่บอกรอขายที่เทกุ๊ดไม่ใช่รึ เซ็นสัญญา ได้เงินมัดจำไม่ใช่รึ”

“แต่ทางบริษัทบอกว่า ลดครึ่งราคา ไม่แน่ว่าจะขายได้”

“แม่บอกจะขายที่คิมพูด้วยนี่นา” ชองยี กล่าว

“แต่ถ้ายังขายไม่ได้จะทำยังไง”

“ว้าก.....จะทำยังไง”

ยงนัง ตัดสินใจโทรศัพท์หาปั๊กเซ็งฮี บอกเรื่องที่สามคนแม่ลูกออกจากบ้านคุณย่ามา ปั๊กเซ็งฮี จึงชวนให้มาพักด้วยกันก่อน

“เข้ามาสิ วางกระเป๋าตรงนี้ นั่งสิ ฉันอยู่กับซึงมีแค่สองคนเลยอยู่บ้านหลังเล็ก รู้สึกอึดอัดหน่อยนะ”

“เทียบกับบ้านเราอึดอัดกว่านะ”

“กี่ห้องรึคะ” ชองยี ถาม

“เอ้อ...สามห้อง สองคนอยู่ห้องเดียว ยูฮังอยู่ห้องเล็กได้นะ นั่งสิ”

“เฮ้อ...เหนื่อยเหลือเกิน”

“หนูก็เหนื่อย”

“เอ่อนี่ เธอคุยกับพ่อบ้านรึยัง ก่อนออกมาน่ะ” ปั๊กเซ็งฮี ถาม

“คุยเรียบร้อย ฉันยังฝากเหน็บแนมคุณแม่ด้วย ไม่ยกเลิกพินัยกรรมตัดขาดกัน”

“พูดแบบนี้ ท่านคงเต้นหรอกนะ”

“แน่นอน เราบอกไม่สนใจคุณย่าอีกต่อไป” ชองยี กล่าว

“ท่านคงไม่นึกไม่ฝันหรอกว่าเราจะขนของออกมา”

“เฮ้อ...คนแก่ ทำไมดื้อรั้นนักนะ พวกเธอต้องลำบากเลย เป็นอันว่า อยู่นี่นานแค่ไหนก็ได้ ฉันกับซึงมีทำงาน กลางวันตามสบายนะจ๊ะ”

“ขอบใจนะเซ็งฮี เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”

“เธอเพิ่งรู้รึจ๊ะ...ฮะ...ฉันจัดเตรียมห้องเล็ก ยูฮังเมื่อไหร่จะมารึ”

ยูฮัง มาหาอุนซอง จากนั้นก็พาเธอไปคุยข้างนอก

“โอ๊ย...นายทำอะไร”

“ฟังให้ดี เธอ..รู้นิสัยฉันดี”

“พูดอะไร” อุนซอง ถาม

“เอาเป็นว่า ฉันไม่คิดทำอะไร ไม่ต้องการอะไร แต่ว่า.. ฉันมีสิ่งที่อยากทำ บริษัทคุณย่า ฉันไม่ยอมปล่อยเธอแย่งเด็ดขาด อย่าได้หวังว่าเธอจะแย่งไปได้”

“เฮ้อ...นายยังคิดว่าฉันแย่งรึ”

“ไม่ต้องพูดซ้ำ ที่เธอว่าฉันทำให้คุณย่าสิ้นหวัง ฉันจำได้ขึ้นใจ”

“ฉัน...เพียงรับความไว้วางใจที่คุณย่ามอบให้ ไม่คิดเอาของของใคร ไม่เคยขอด้วย”

“ฉันรู้ ฉันไม่ตำหนิเธอ”

“แล้วจู่ ๆ นายมาหาฉันทำไม”

“ฉันมาเพื่อบอก ฉันไม่อยากกระจอกในสายตาของใคร”

“จะให้คุณย่าเปลี่ยนใจรึ ใช่รึเปล่า”

“แน่นอน”

“งั้นก็ดี คุณย่าจะได้เปลี่ยนใจ”

“เธอมั่นใจรึ”

“ไม่ใช่อย่างนั้น คุณย่ายกสมบัติให้ฉันหรือไม่ เป็นการตัดสินใจของท่าน หากท่านจะเปลี่ยนใจ ฉันไม่มีสิทธิโต้แย้ง อีกอย่างฉันยังไม่ได้ทำตามเงื่อนไขสาขาสอง นายไม่จำเป็นต้องบอกฉันหรอก”

“งั้นรึ อีกสองเดือนอย่าเสียใจ”

“เดี๋ยวก่อน แต่ฉันทำเต็มที่ อย่างที่บอก ตอนนี้ฉันมีเหตุผลที่รับมรดกคุณย่า”

“ดี ลองดู”

“แปลก ลองดูอะไรของเขานะ” อุนซอง กล่าวหลังยูฮังเดินออกไป

ยูฮัง มารายงานตัวกับผู้จัดการหลังถูกย้ายมาสาขาสอง

“ผมไม่ต้องการเห็นท่าทีไม่พึงประสงค์แบบนั้นอีก แม้มีอีกครั้งเดียว หากทำผิดหรือฝ่าฝืนคำสั่ง ผมจะไล่ออกทันที เมื่อผู้จัดการพูดจบ ต้องพูดว่าผมทราบแล้วครับ” ผู้จัดการกล่าว






//www.dailynews.co.th



Create Date : 02 เมษายน 2555
Last Update : 2 เมษายน 2555 23:12:12 น.
Counter : 367 Pageviews.

0 comment
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 24 มีนาคม 2555



ชองยี ถามยงนังเรื่องวิธีการเปลี่ยนแปลง ยงนังบอกว่าต้องมีเงินก่อน แต่ตอนนี้เงินหมดมรดกคุณตา เงินขายบ้าน นำไปเล่นหุ้นเจ๊งหมดแล้ว ชองยีเสนอวิธีให้ออกจากบ้านหลังนี้ทั้งสามคน แล้วบอกตัดคุณย่า ท่านอาจจะกลัว

“แกล้ง ๆ ทำสิ คุณย่านึกว่า ไม่มีเงิน แล้วเราสามคนจะอดตายกระมัง บริษัทสำคัญ แต่ไม่สำคัญกว่าตัดขาดลูกหลานหรอกน่ะ” ชองยี กล่าว

ปั๊กเซ็งฮี บอกกับซึงมีว่า จังซุกจา ได้ยกมรดกให้อุนซองหมด โดยได้ทำพินัยกรรมใหม่

“ทำได้ไง ทำไมทำแบบนี้คะ แล้วพี่ยูฮังล่ะ” ซึงมี ถาม

“ก็นั่นสิ ยัยแก่นั่น ใจร้ายใจดำยิ่งกว่าอสรพิษ แถมเป็นพิษที่ไม่มียารักษาด้วย”

“แล้วพี่ยูฮังจะเป็นยังไงคะ”

“จะเป็นยังไง ถ้าอุนซองฟื้นกิจการสาขาสองได้ ยูฮังก็เหลือแต่ตัวเปล่าน่ะสิ”

“เขาจะทำยังไง”

“ลูกยังจะห่วงเขาอีก ยูฮังตกต่ำ ลูกก็จะพลอยหมดไปด้วย”

“มิน่าล่ะ อุนซองถึงไปสำนักงานใหญ่”

“ไปสำนักงานใหญ่รึ ลูกเจอเขารึ”

“แม่คะ แม่พูดอะไรกับอุนซองรึเปล่า”

“พูดอะไร”

“เปล่า ดูท่าทางแปลก ๆ”

“ดูแปลกยังไงรึ”

“เขาเย็นชากับหนู ยังบอกว่า ถ้าหนูไม่ได้แต่งงานกับพี่ยูฮัง ไม่ใช่เพราะเขา ฝากบอกแม่มาด้วย”

“อะไร”

“หมายความว่าไง”

“แล้วเขา...พูดอะไรอีกรึเปล่า” ปั๊กเซ็งฮี ถาม

“เปล่าค่ะ เขาแย่งสมบัติพี่ยูฮัง ทำตัวเหินห่างกับหนู”

“แม่ขอให้เขา อย่าบอกความสัมพันธ์ระหว่างเรา เขาถึงได้พูดแบบนั้น...แย่งสมบัติคนอื่น ยังจะกล้าข่มขู่”

ยูฮัง มานั่งกินเหล้าที่ผับ ซึงมี ขออนุญาตแม่ออกมาพบ เมื่อผับเลิกยูฮังให้ซึงมีขับรถให้ ระหว่างทางก็สั่งให้ซึงมีจอดรถ เปิดประตูลงไป

“ค่ะ.........เป็นไรรึเปล่า”

“อย่าเข้ามา”

“เป็นไรไป กลัวฉันเห็นว่าพี่อ่อนแอรึ ฉันไม่คิดอย่างนั้น......ถือไว้ หิวมาทั้งวัน ดื่มเหล้าเป็นแบบนี้” ซึงมี กล่าว

“ดีนะ ที่เธอยังอยู่ข้าง ๆ ฉัน เขาบอกว่า ถ้าไม่มีคุณย่า ฉันมันก็แค่นั้น” ยูฮัง กล่าว

“ใครรึ โคอุนซองรึ”

“ที่พูด...ถูกของเขาแล้ว”

“ไม่จริง พี่ไม่เป็นอย่างที่เขาพูด”

จังซุกจา ออกมานอกบ้าน โดยมีพ่อบ้านตามมารับใช้

“ช่วงนี้ตกค่ำอากาศเริ่มเย็น”

“ครับ นอกจากเลยหน้าฝนไป” พ่อบ้าน กล่าว

“ทุกปีมีทั้งหน้าฝน มีทั้งหน้าร้อน ฤดูใบไม้ร่วง แล้วก็หนาว แต่ยูฮังสิ จะลอยไปลอยมาแบบนี้ถึงเมื่อไหร่”

“วันนี้ ท่านยกโทษให้ยูฮังนะครับ”

“ยกโทษได้ แต่ฉันไม่ยกโทษ มีอย่างรึกล้าหยิบเอากุญแจรถ ไม่ได้สำนึกเลย ทำไมฉันยกบริษัทให้อุนซอง ได้แต่ใช้อารมณ์ ไม่เอาไหนเลย ทีแรก... ฉันนึกว่าเขาจะเหมือนกับพ่อ เมื่อก่อนมินโซ ตอนอยู่มัธยมก็เอาแต่วิวาทชกต่อยไม่เว้นแต่ละวัน ใจร้อน...แต่อย่างน้อยมินโซรู้คุณค่าของคน ฉันจึงฝากความหวัง กับลูกชายมินโซ คงมีสักวัน ที่เขาจะพบตัวเอง แต่ตอนที่ฉันรู้ว่าเขาเอาเงินฟาดผู้จัดการร้าน ฉันก็เริ่มถอดใจ เด็กคนนี้ หมดทางเยียวยาซะแล้ว เมื่อฉันพบอุนซอง ใจฉันคิด หลานฉันเหมือนเขาคงดีไม่น้อย ได้แค่ครึ่งของอุนซองก็ดีแล้ว......เฮ้อ...”

ชองยี มาบอกยงนัง ว่าเมื่อคืนพี่ยูฮังไม่กลับบ้าน ยงนังจึงบอกว่าให้เราออกไปก่อนแล้วค่อยโทรฯหา ด้านยูฮัง ได้มาพบกับจังซุกจา

“เธอรึ ไม่ไปกับเขาหรอกรึ มานี่ทำไม”

“ผมมีเรื่องคุยด้วย” ยูฮัง กล่าว

“เหรอ......ว่ามาเลย”

“ย้ายผมไปด้วย”

“ไปไหน แกยังไม่รู้ตัวอีกรึ ไปอเมริกา หาเงินเลี้ยงตัวเอง”

“ในสายตาคุณย่า ผมงี่เง่ามากรึครับ ผมบอกรึไปอเมริกา”

“ไม่งั้นแกจะไปไหน”

“สาขาสอง”

“สาขาสองรึ”

“ผมขอโอกาสอีกครั้ง ผมจะตั้งใจเรียนรู้งานครับ”

“สายไปแล้ว”

“คุณย่า”

“ฉันให้โอกาสมากเกินไปแล้ว ย่าเคยโอ๋แก ส่งแกไปเรียนถึงอเมริกา ให้แกฝึกงานแล้วเป็นยังไง”

“ตอนนั้นผมไม่รู้ความคิดคุณย่า”

“เพิ่งมารู้เอาป่านนี้ ฉันยิ่งผิดหวัง ย่าไม่ได้ขู่แกนะ ที่ยกสมบัติให้อุนซอง”

“แล้วเพิ่มเงื่อนไขทำไม”

“ถามจริง ๆ แกหูหนวกไม่ได้ยินรึยังไง เพื่อพิสูจน์ให้แกกับคณะกรรมการเห็น”

“ให้ผมได้ลอง ถ้าคุณย่ายืนกราน ก็ทำตามความคิดคุณย่าไป”

“ฝันไปรึเปล่า ฉันตัดสินใจแล้ว”






//www.dailynews.co.th



Create Date : 24 มีนาคม 2555
Last Update : 24 มีนาคม 2555 1:35:13 น.
Counter : 540 Pageviews.

0 comment
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 23 มีนาคม 2555



“ขยายบริษัท เป็นหลักการของนักธุรกิจ”

“เธอมักใหญ่เกินไป หวังแต่ขยายบริษัท จนลืมหลักการของฉัน เทซุย.. เธอเป็นคนที่.. มีความสามารถ เป็นคนเก่ง แต่ไม่ตรงตามที่ฉันต้องการ” จังซุกจาพูดจริงจัง ทำให้ทนายพั๊กคิดและตัดสินใจบางอย่าง

ทนายพั๊กผลุนผลันออกมาจากห้องจังซุกจาด้วยความโกรธและเจอเข้ากับอุนซอง ซึ่งจังซุกจาเรียกมาพบ ทนายพั๊กมองอุนซองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แต่ไม่ได้แสดงออกมากนัก อุนซองเข้าไปหาจังซุกจา คุณย่ายิ้มให้

“เมื่อวานวุ่นวายหนักหน่อย คงเหนื่อย นอนหลับดีมั้ย”

“ท่านประธานไม่ได้นอนใช่มั้ยคะ”

จังซุกจาหัวเราะน้อย ๆ “ตายก็ได้นอนยาวแล้ว ท่านประธาน จริงด้วย เราเจอที่บริษัทนี่นา...ฮะ...ฮะ...เธอแยกงานกับเรื่องส่วนตัวได้วิเศษ ฉันเตรียมใจไว้เรียบร้อย พรุ่งนี้ เธอไปเป็นผู้จัดการร้านสาขาที่สอง” จังซุกจาสั่ง

“ผู้จัดการ แล้วผู้จัดการเดิมล่ะคะ”

“ผู้จัดการคนปัจจุบัน เขาท้องคนที่สอง เขาขอลาพักจนกว่าจะคลอด”

“แต่ว่า หนูอายุงานสั้น วัยวุฒิก็น้อย เป็นผู้จัดการร้านจะเหมาะรึคะ” อุนซองพูดอย่าง
ถ่อมตน

“ตำแหน่งผู้จัดการร้าน เธอทำได้อยู่แล้ว ยอดขายเพิ่ม 20% ไม่ง่ายหรอกนะ”

“หนูว่า ท่านน่าจะเลือกคนที่เหมาะสมกว่า แล้วหนูช่วยงานเขาดีกว่า หนูชอบอยู่หน้าร้าน เดินไปเดินมา เป็นผู้จัดการร้านอย่าดีกว่า” อุนซองยังไม่แน่ใจว่าตนเองจะทำได้

“คนที่เหมาะสม แล้วลีจุนฮังเป็นยังไง”

“ผู้จัดการร้านหนูรึคะ เหมาะที่หนูจะเรียนงานจากเขา หนูช่วยเต็มที่เลย” อุนซองยิ้มแป้น

“ตำแหน่งผู้จัดการตกลงตามนี้ ฉันจะเรียกเขามาคุย”

“ขอบคุณค่ะ” อุนซองคำนับ

“ร้านสาขาสอง .. มีความหมายสำหรับฉันมาก ที่นั่นทำให้ฉันสร้างกิจการจินเซ็งฟู๊ดส์มาถึงทุกวันนี้” จังซุกจานึกถึงอดีตที่สาขาสองเป็นจุดเริ่มต้นกิจการ แต่ตอนนี้ประสบภาวะขาดทุน แต่จังซุกจายังอยากให้สาขานี้คงอยู่ต่อไป

โคพิงจูมาหาปั๊กเซ็งฮีที่บ้าน ซึงมีซึ่งคิดว่าโคพิงจูเสียชีวิตไปแล้วก็ตกใจมาก “คุณพ่อยังอยู่ อะไรกันคะแม่”

ปั๊กเซ็งฮีหน้าเสีย เพราะไม่อยากให้ลูกสาวรู้เรื่องทั้งหมดที่เธอทำไว้ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดต่อไปได้แล้ว “อุนซองไปอเมริกาแล้ว เขาไม่ได้อยู่ที่นี่สักหน่อย” ปั๊กเซ็งฮีบอกโคพิงจู

อุนซองออกมาจากห้องจังซุกจาและจะเดินไปที่ลิฟต์ ซึงมีเดินมาเห็นเข้าก็ตกใจ

“มาสำนักงานใหญ่ทำไม”

“พบท่านประธาน” อุนซองบอก หน้าตาบ่งบอกว่าไม่อยากคุยกับซึงมีนัก

“อยู่บ้านเดียวกัน มาที่นี่ทำไม”

“เรา.. ตกลงกันแล้ว ไม่รู้จักกันไม่ใช่รึ” อุนซองบอก

“ในนี้ไม่มีคนอื่น มีอะไรรึเปล่า” ซึงมีถามอย่างร้อนใจ

“เธอกับแฟน ไม่โทรฯคุยกันทุกวันรึ แม่เธอ.. เป็นธุระ เธอคงได้ แต่งกับหลานคุณย่าหรอก”

“เธอมาพบคุณย่า เรื่องพี่ยูฮังรึ” ซึงมีถาม

อุนซองนึกถึงคำพูดของปั๊กเซ็งฮี ที่ว่าหากซึงมีไม่ได้แต่งงานกับยูฮัง อุนซองนั่นแหละที่
เป็นคนทำลายชีวิตซึงมี อุนซองยิ้มสมเพช “ช่วยไปบอกแม่เธอ ไม่มีทางที่เธอ จะอดแต่งงานเพราะฉัน”

ปั๊กเซ็งฮีโทรฯหายงนังถามความคืบหน้าเรื่องที่ขอให้อุนซองออกจากบ้าน ยงนังบอกนอก จากอุนซองจะไม่ได้ออกจากบ้านแล้ว จังซุกจายังเขียนพินัยกรรมใหม่ โดยไม่ให้ทนายพั๊กรู้ ยกสมบัติให้อุนซองอีกด้วย

“อะไรกันเนี่ย ยกสมบัติทั้งหมดให้อุนซอง ไม่จริง ยัยแก่นั่นบ้ารึเปล่า ทำพินัยกรรมใหม่ด้วย เฮ้อ...บ้าแล้ว” ปั๊กเซ็งฮีบ่น ร้อนใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

ลีจุนฮังย้ายมาเป็นผู้จัดการร้านสาขาสองตามที่จังซุกจาสัญญาไว้กับอุนซอง และให้อุน
ซองเป็นหัวหน้าแผนก ขณะที่ยูฮังก็ขอมาทำงานที่สาขาสองด้วย ลีจุนฮังเรียกประชุมพนักงานทุกคนพร้อมทั้งแนะนำอุนซองอย่างเป็นทางการ ยูฮังยอมรับอุนซองไม่ได้มีท่าทีแข็งขืนเหมือนเมื่อก่อน

อุนซอง มาหา จุนเซ และเฮลี บอกเรื่องที่ตนได้รับมรดกของคุณย่า

“ตกใจรึ” อุนซอง ถาม

“เอ้อ...ไม่ทันตั้งตัว ทำเอาอึ้งไปเลย” จุนเซ กล่าว

“อย่าดีใจกับฉัน ไม่จำเป็นต้องพูด พี่รู้จักหลานชายหลานสาวคุณย่าตั้งแต่เล็ก คงลำบากใจมาก”

“ทำไม...เธอถึงตัดสินใจแบบนั้น สำหรับเธอ.. นี่เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ง่าย”

“ข้อแรก ฉันรู้ดีว่า แม้ไม่ยอมรับ คุณย่าก็ไม่ยกมรดกให้ลูกหลานของท่านอย่างแน่นอน”

“เธอว่าท่านคิดอย่างนั้นรึ”

“อีกอย่าง ตอนนี้ฉันมีหลายเหตุผลที่รับมรดกคุณย่า.. นอกจากตอบแทนความไว้วางใจของคุณย่า ช่วยท่าน อีกด้านนึงตัดความโลภ...ของบางคน” อุนซอง กล่าว

“พูดถึงใคร ความโลภของบางคน”

“ฉันจะต้องฟื้นกิจการของร้านสาขาสองให้ได้”

“ตั้งแต่พรุ่งนี้ เธอไม่ว่างแล้วสินะ เธอไม่ได้ดีใจเลย อึดอัดด้วยซ้ำไป”

“รู้ใจแบบนี้ ให้กำลังใจฉันหน่อยสิ โคอุนซองสู้สู้ พูดหน่อยสิ พูดหน่อย นาน ๆ พูดที อุนซองสู้ ๆ ...ฮะ...ฮะ...เล่นอีก...ฮะ...ฮะ...”

“เธอต้องทำได้และยัง...ทำได้ดีด้วย ตัดสินใจแล้ว ต้องสู้ให้เต็มที่ ไม่ว่าเหตุผลใด เธอตัดสินใจแล้ว และคุณย่าทำสิ่งที่หนักหนายิ่งกว่าเธอ อย่าให้ท่านผิดหวัง” จุนเซ กล่าว

“ใช่”

“ต้องอย่างนี้สิ”

“มีพี่ให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ วิเศษที่สุดไปเลยนะคะ”

พั๊ก มานั่งดื่มเหล้าเสียใจที่จังซุกจา ยกสมบัติให้อุนซอง เมื่อจุนเซ ลูกชายเข้ามา ก็ต่อว่าที่ไม่ยอมเข้ามาช่วยงานตน ไม่เช่นนั้นอุนซอง คงไม่ได้เข้ามามีอำนาจบริหาร

“พ่อ... เพื่อบริษัทนี้ พ่อทุ่มเทมากว่ายี่สิบปี กลับถูกเด็กเมื่อวานซืนแย่งไปต่อหน้า ถ้าแกเปลี่ยนใจมาช่วยพ่อ ท่านประธานจัง.. ขอเพียงแต่ยังไม่ตาย พินัยกรรมเปลี่ยนได้ทุกเมื่อจริงมั้ยล่ะ” พั๊ก กล่าว

“พ่อ”

“จุนเซ พ่อขอร้อง เห็นแก่พ่อ เข้ามาช่วยงานนะ”

จังซุกจา เรียกทนายความมาทำพินัยกรรม

“หุ้นบริษัทจินเซ็งฟู๊ดส์ สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดของคุณจังซุกจา ยกให้คุณโคอุนซองแต่ผู้เดียว” ทนาย กล่าว

“โอกาสที่คุณย่ามอบให้ ขอบคุณมากค่ะ...คนที่ทำให้คุณย่าสิ้นหวังในตัวหลานชาย แล้วยกบริษัทให้คนอื่น ก็คือตัวนาย” อุนซอง กล่าว

“จนกว่าฉันตาย พวกเธอกินอยู่บ้านหลังนี้ หวังว่าพวกเธอจะวางแผนชีวิตให้ดี” จังซุกจา กล่าว

ชองยี บอกกับยงนังว่า เรื่องที่ยกสมบัติให้อุนซอง คิดว่าเป็นแผนของคุณย่า พินัยกรรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ยงนังหันไปถามความเห็นของพ่อบ้าน เขาบอกกับยงนังว่า ได้รับใช้นายท่านมาสิบปีท่านพูดจริงทำจริง






//www.dailynews.co.th



Create Date : 24 มีนาคม 2555
Last Update : 24 มีนาคม 2555 1:34:25 น.
Counter : 401 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]