All Blog
มรดกรักฉบับพันล้าน วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555



โกอุนซองแอบเปลี่ยนแผนการเรียนไปเรียนที่โรงเรียนทำอาหารที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา เป็นเวลาสองปีแล้วโดยปกปิดไม่ให้โกพิงจุงผู้เป็นพ่อล่วงรู้ นึกไม่ถึงว่าจู่ ๆ เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อให้เดินทางกลับประเทศ ทำให้เธอจำต้องเดินทางจากนิวยอร์กกลับสู่เกาหลีทันที

ที่สนามบิน กระเป๋าเดินทางของอุนซองสับเปลี่ยนกับกระเป๋าเดินทางของซังยูฮัง อุนยูน้องชายของอุนซองเป็นโรคออทิสติก ทว่ากลับมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีเหนือคนทั่วไป อุนซองตัดสินใจฉวยโอกาสนี้พาน้องชายเดินทางไปอเมริกา รวมทั้งเปิดเผยเรื่องที่เธอเปลี่ยนแผนการเรียนให้พ่อรู้

อุนซองใช้แผ่นป้ายที่ผูกติดกับกระเป๋าเดินทางตามหาจนพบยูฮัง นึกไม่ถึงยังไม่ทันได้กระเป๋าเดินทางคืนมา แต่กลับต้องช่วยจ่ายค่าเหล้าให้ยูฮังเสียอีก พิงจุงประสบปัญหาทางธุรกิจกำลังจะล้มละลาย หลังจากที่ยืมเงินจากเพื่อนแล้วก็ไปดื่มเหล้าแก้กลุ้มโดยหารู้ไม่ว่ากำลังตกอยู่ในสายตาคนร้าย

พิงจุงดื่มเหล้าจนเมามายถูกคนร้ายทุบตีจนสลบชิงทรัพย์สินเงินทองไปจนหมด รุ่งขึ้น หลังจากที่พิงจุงได้สติแล้วก็พบเห็นข่าวไฟไหม้ร้านคาราโอเกะจากโทรทัศน์ หนึ่งในรายชื่อผู้เสียชีวิตมีชื่อของตนรวมอยู่ด้วย แต่ที่แท้คนร้ายที่ปล้นทรัพย์สินเงินทองของพิงจุงไปได้นำเงินไปเที่ยวคาราโอเกะจนประสบเหตุร้ายเสียชีวิต

ขณะที่อุนซองและยูฮังนัดหมายกันเป็นอย่างดีเพื่อแลกเปลี่ยนกระเป๋าเดินทางกันนั่นเอง อุนซองก็ได้รับข่าวการเสียชีวิตของพ่อ

อีกด้านหนึ่ง ยูฮังซึ่งกำลังรออุนซองอยู่ก็ถูกย่าเร่งเร้าให้กลับบ้านด่วนโดยให้เลิกล้มการเรียนต่อต่างประเทศเพื่อสืบทอดธุรกิจที่เกาหลี ยูฮังถูกส่งตัวไปทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านในเครือบริษัทอาหารจินเซ็ง เซ็งฮีแม่เลี้ยงของอุนซองต้องการครอบครองเงินประกันชีวิตของพิงจุงไว้แต่เพียงผู้เดียวจึงฉวยโอกาสใช้คำพิพากษาล้มละลายของศาล ออกปากขับไล่อุนซองและน้องชายออกจากบ้าน

อุนซองไม่มีที่ซุกหัวนอนจำต้องพาอุนยูน้องชายนอนค้างอ้างแรมที่ลานอาบน้ำสาธารณะ ซ้ำร้ายเงินที่นำติดตัวมาก็ถูกขโมยไป ด้วยความอับจนหนทางทำให้อุนซองคิดฆ่าตัวตายพร้อมกับน้องชาย แต่แล้วอุนยูก็ทำให้อุนซองเลิกล้มความคิด

ด้านเซ็งฮีตัดสินใจปกปิดเรื่องร้ายที่เกิดกับพิงจุงเอาไว้ไม่ให้ยงนังล่วงรู้เพื่อไม่ให้กระทบต่อการแต่งงานของซึงมีลูกสาวของเธอและยูฮัง นอกจากนี้ยังขอความช่วยเหลือจากยงนังเกลี้ยกล่อมย่าให้เธอได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจร้านเนื้อวัวอีกด้วย

อุนซองได้รับความช่วยเหลือจากเฮลีจนได้ทำงานเป็นคนงานในไนต์คลับแห่งหนึ่ง ขณะที่อุนซองกำลังทำงานอยู่นั่นเองพบเห็นยูฮังมีเรื่องทะเลาะวิวาทจนโทรศัพท์มือถือพังเสียหาย แต่เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของจุนเซโดยตลอด อุนซองเดินไปตามลำพังจนถึงร้านเปียโน อาจารย์สอนเปียโนบอกอุนซองว่าเซ็งฮีมารับอุนยูไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าหลังจากที่เซ็งฮีรับอุนยูไปแล้วก็นำอุนยูไปส่งที่บ้านหลังหนึ่ง

ปั๊กบอกอุนยูว่า หากอยากเจอพี่อุนซอง ต้องรออยู่ที่นี่ และห้ามโทรศัพท์ด้วย จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทัก

“เอ๊ะ......เซ็งฮีใช่รึเปล่า เซ็งฮีที่อยู่บ้านลุงปั๊กใช่แน่ ๆ เลย”

“จำคนผิดแล้วมั้งคะ” ปั๊ก กล่าว

“เดี๋ยวก่อน จำฉันไม่ได้รึ ฉันพี่สาวอิงซังที่อยู่หลังบ้านไงล่ะ แถวนี้ไม่มีคนมาทำอะไรของเขานะ”

อุนซอง สอบถามเฮลี ว่าน้องชายของตนเองอยู่ไหน

“เข้าบ้านเถอะ คงมีคนพาเขาไปอยู่ด้วย พรุ่งนี้เราค่อยไปแจ้งตำรวจ”

“ถ้าโทรศัพท์ฉันไม่เสีย อุนยู...เขาต้องโทรฯมาหาฉัน” อุนซอง กล่าว

“นั่นสิ ฉันว่าก่อนนอน อุนยูเขาต้องโทรฯหาเธอ” เฮลี กล่าว

“เป็นเพราะตาบ้านั่น......ปล่อยนะ ฉันจะหามือถือ” อุนซอง กล่าว

“นี่มือถือเธอใช่มั้ย......เอากระเป๋ามา แล้วฉันจ่ายค่ามือถือให้” ยูฮัง กล่าว

“ตาบ้านั่น เลวที่สุด เป็นเพราะอีตาบ้านั่น ทำให้ฉันไม่ได้เห็นหน้าพ่อครั้งสุดท้าย อุนยูหายไปไหนก็ไม่รู้” อุนซอง กล่าว

“พ่อของอุนซองตาย บริษัทเขาก็ล้มละลาย” ลี กล่าว

อุนซอง บอกยูฮังว่ามือถือมีความสำคัญกับตนมาก ยูฮัง สวนกลับว่า ของในกระเป๋าตนแพงกว่ามือถือห่วย ๆ หลายร้อยเท่า

“ทำไมไม่เอามาด้วยล่ะ”

“ตอนออกจากบ้านไม่ได้เอามาด้วย”

“ออกจากบ้านรึ เธอมาทำงานในที่แบบนี้ ทิ้งกระเป๋าฉันไว้ที่บ้านรึ” ยูฮัง บอก

“แล้วจะให้หิ้วมาด้วยรึ” อุนซอง ถาม

“พี่ ไม่เอาน่ะ ขายหน้าเค้า”

อุนซอง บอกเฮลีว่าตนจะไปหาอุนยู

“โคอุนซอง นี่มันเพิ่งกี่โมงจ๊ะ เธอร้องไห้ทั้งคืน เพิ่งนอนได้สองชั่วโมง”

“อุนยู... เขาคงไปสถานสงเคราะห์ที่เราเคยอยู่ เมื่อวานฉันเห็นแถวนี้มีรถเมล์ผ่านด้วย เขาคงหลงทางพอเห็นรถเมล์ก็ขึ้นรถไปเลย” อุนซอง กล่าว

“เราแจ้งตำรวจแล้ว ถ้าคนที่นั่นเจอคงโทรฯบอกเราเองแหละ”

“เขาอาจจะหลบอยู่คนเดียวก็ได้......อุนยู...โลกของเขาไม่เหมือนเรานะ เฮลีถึงแม้หลงทาง เขาก็ไม่รู้จักไปถามใครหรอก...ฮือ ๆ... ต่อให้อยู่ที่นั่น ดูภายนอก เขาเป็นเหมือนเด็กปกติ จะมีใครช่วยเขาได้” อุนซอง กล่าว

“ก็เป็นไปได้บางทีเขาอาจคิดว่า กลับไปอยู่ที่นั่นแล้ว จะได้เจอพ่อกับแม่... โทรฯหาใคร” เฮลี กล่าว

“แม่เลี้ยงฉันอุนยูรับรู้เขาเป็นแม่ อาจโทรฯหาแม่ก็ได้” อุนซอง กล่าว จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรฯแต่ไม่ติด

ปั๊กกลับมาถึงบ้าน ซึงมีนอนรอแม่อยู่ที่โซฟา

“หนูหลับไปตอนตี 3 แม่กลับมาแล้วออกไปอีกใช่มั้ยคะ......นี่อะไร” ซึงมี ถาม

“บอกเบอร์มือถือใหม่ให้ยูฮังรู้ด้วย เบอร์เก่าลูกยกเลิกแล้ว”

“แม่ยกเลิกเบอร์หนูทำไม”

“ใช้นานแล้ว”

“ทำไมแม่ไม่ถามหนู ทำไมต้องเปลี่ยนเบอร์คะ”

“นั่นเบอร์แม่......เมื่อวานเที่ยวกับยูฮังสนุกมั้ย คงดื่มเหล้ามาสินะ” ปั๊ก ถาม

“แม่เปลี่ยนเบอร์ด้วยรึคะ ทำไม กลัวอุนซองโทรฯหาใช่มั้ยคะ”

“เฮ้อ...เช้านี้...ลูกมีเรียนไม่ใช่รึ ไปล้างหน้าก่อน แม่ทำซุปให้ทาน” ปั๊ก กล่าว

“หนูไม่ไปเรียน หนูไม่อยากเรียนต่อแล้ว” ซึงมี กล่าว

“พูดอะไร”

“พ่อไม่อยู่แล้ว บริษัทก็ล้มแล้ว ยังจะเรียนไปเพื่ออะไร” ซึงมี กล่าว

“อีกแค่ปีเดียวก็จะจบแล้วนะลูก”

“หนูอยากทำงาน พ่อใหม่ทำงานหาเงินเก่ง ตายไปแล้ว หนูต้องทำงานหาเงิน”

“แม่หาเงินเอง เรื่องนี้ลูกไม่ต้องห่วง”

“แม่หาเงินรึ หายังไง ทำไมคะ แม่ไม่อยากลำบาก ถึงได้หาผู้ชายแต่งงานใหม่”

“ไม่ใช่ไม่อยากทำงาน”

“แม่บอกอายุปูนนี้แล้ว ไม่มีเงิน ชีวิตมันลำบาก แม่บอกว่าเหมือนตายทั้งเป็น”

“แกเป็นอะไร”

“พอทีเถอะแม่ หนูทำงานหาเงินเอง”

“นั่นมันเมื่อก่อน ไม่ใช่เดี๋ยวนี้ ลูกแม่เรียนอีกปีเดียวก็จะจบ กลัวแม่ส่งไม่ไหวรึ”

“หนูเจออุนซอง อุนซองตอนนี้ทำงานเชียร์แขกอยู่ในผับ แต่งตัวเหมือนตุ๊กตา ในใจร้องไห้ แต่ต้องแสร้งยิ้มต้อนรับลูกค้า”

“นี่แก...แกบอกเขาว่าเราอยู่ที่ไหนรึ บอกเราอยู่ที่ไหน ชวนเขามาอยู่ด้วยใช่มั้ย”

“เปล่า หนูเดินหนี หนูไปกับพี่ยูฮัง กับชองยี หนูกลัวมาก กลัวเหลือเกิน หนูก็เลยวิ่งหนี จะบ้าตาย หนูจะบ้าตายก็เพราะแม่”

“ใยอุนซอง...เขาดูแลน้องชายได้ยังไงกัน”

ยงนัง ถาม แม่ ว่าทำไมถึงเลือก เซ็งฮี มาเป็นคนดูแลร้านคาเม็ง

“เพื่อนเธอนิสัยเป็นยังไง ฉันจะรู้เรอะ”

“คุณแม่ เขามาบ้านเราบ่อย ๆ คุณแม่รู้จักมาหลายปี เขามีน้ำใจ มีมารยาท ทั้งยังถ่อมตัว คุณแม่ เซ็งฮี แม่ของซึงมีไงคะ”

“มีรึฉันจะไม่รู้เขาเป็นแม่ซึงมี.....แปลกจริง”

“ช่วยหน่อยได้มั้ยคะ เขารู้ว่าดิฉันชอบซึงมี เทียบกับยูฮังเอาแต่ใจตัว ซึงมีฉลาดกว่าเยอะ รู้จักมาหลายปี ดิฉันไม่เคยเห็นซึงมีเกรี้ยวกราดใช้อารมณ์เลย” ยงนัง กล่าว

“เพราะงั้น เธอถึงขอฉันช่วยให้เขาทำร้านคาเม็งใช่มั้ยล่ะ” จัง กล่าว

“ถือว่าดิฉันขอก็แล้วกันนะคะ”

“ฉันต้องการรู้ประวัติส่วนตัว ของเพื่อนที่เธอว่าซี้นักซี้หนา”

“คุณแม่เซ็งฮีเป็นคนดี ดิฉันรับรองได้ ดิฉันได้แต่งเป็นสะใภ้บ้านนี้เพราะเซ็งฮีนะคะ”

“โอยงนัง ลูกสาวคนเดียวของบ้านสกุลโอ เธอกำลังข่มขู่แม่ผัวอย่างฉัน ว่าตัวเป็นสะใภ้แสนดีใช่มั้ย” จัง กล่าว

“คุณแม่ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”

“หาเรื่องใส่ตัวจริง ๆ”

“คุณแม่......คุณแม่...”

พั๊ก มาคะยั้นคะยอให้พั๊กรีบเปิดโรงงานจินเซ็ง แห่งที่สาม แต่จังยืนยันว่าทำโรงงานแบบครอบครัว ไม่ควรขยายงานสุ่มสี่สุ่มห้า หลังจากนั้นจังได้รับรายงานจากผู้จัดการว่า ยูฮัง ซึ่งเป็นหลานชายของตนไปก่อเรื่องชกหน้าผู้จัดการ และพังโต๊ะของร้านจนลูกค้าต้องวิ่งหนีกระเจิงหมด

ยูฮัง มาหาซึงมี เมื่อรู้ว่าซึงมีมีเรื่องไม่สบายใจก็พานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เล่น ซึงมี ขอให้ยูฮังอย่ากลับอเมริกา จากนั้นยูฮังก็มีโทรศัพท์เข้ามา ปลายสายคือ จังเรียกให้เขากลับไปพบ

“นี่แก...เป็นอันธพาลรึไง ทำไมต้องลง มือลงไม้ แกชกผู้จัดการได้ไง มีสิทธิอะไรชกเขา” จัง กล่าว

“เพราะมันมาหาเรื่องผมก่อน มันหยามศักดิ์ศรีผม ผมเป็นหลานย่า เป็นหลานท่านประธานนะ” ยูฮัง กล่าว

“แกยังอารมณ์พลุ่งพล่าน ขี้หงุดหงิดอีกรึ คนเราไม่ใช่เด็กตลอดไป ต้องเติบโต ต้องเรียนรู้เป็นผู้ใหญ่ ทำตัวเป็นเด็กอายุ 17-18 ไม่ได้แล้ว”

“ลูกเอ๊ย...รีบขอโทษคุณย่าเร็วเข้า” ยงนัง บอกลูกชาย

“เฮ้อ......รู้แล้ว ๆ...ผมไม่ตั๊นหน้าคนของย่าแล้ว พอใจรึยัง”

“ไปขอโทษเขาซะ แกไปขอโทษเขาต่อหน้าพนักงานทุกคน”

“ขอโทษอะไร สั่งเลขาฯเอาเงินค่ายาไปให้ก็สิ้นเรื่อง”

“แกชกคนของฉันก็เหมือนชกหน้าฉัน แกทำร้ายเขา มีอย่างรึให้ฉันจ่ายค่ายา”

“คุณย่า”

“ถ้าแกไม่ขอโทษ ก็เท่ากับแข็งข้อกับฉัน”

อุนซอง มาสอบถามหา อุนยู กับอาของตนแต่ไม่พบ อุนซองออกตระเวนตามหาอุนยูน้องชายจนมีสภาพเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และหมดสติไป จุนเซ ไปพบเข้าก็พากลับมาส่งที่บ้านของเฮลี

“อุนซอง ๆ เป็นไงบ้าง อุนซอง โคอุนซอง......ฉันเป็นห่วง เธอไม่ไปทำงาน...คุณ เป็นใคร”

“เป็นเพื่อนเขา ขอเข้าไปก่อน” จุนเซ กล่าว

“อุนซอง เป็นอะไร เขาพยายามฝืนนอนได้แค่สองชั่วโมง เขาไปตามหาที่สถานสงเคราะห์ ตามหาถึงป่านนี้ ต่อให้เป็นซูเปอร์แมนก็ยังล้ม......เฮ้อ...”

“แสดงว่าตามหา อย่างไร้จุดหมาย” จุนเซ กล่าว

“จริงสิ คุณเป็นใคร ทำไมถึงมาที่นี่...ไม่สิ คุณรู้จักอุนซองได้ยังไง”

“ถ้าอุนซองฟื้น ฝากนี่ให้เขาด้วย” จุนเซ กล่าว

“อะไรรึคะ”

“ผมไม่รู้เบอร์มือถือ เลยยังไม่ได้เปิดใช้ให้”

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวสิ อุนซองตื่น ให้บอกว่าใครคะ”

“ไปก่อนล่ะ เอ่อนี่......ตื่นแล้ว ต้มโจ๊กให้ทานด้วยล่ะ”

“ค่ะ......โชคดีนะคะ......อะไรเนี่ย ยังไม่รู้เลยเป็นใคร” เฮลี กล่าว

เมื่ออุนซองตื่น เฮลีก็บอกว่ามีคนพาอุนซองมาส่ง

“เป็นผู้ชาย เรื่องแบบนี้เธอยังจะถาม เขาบอกว่ารู้จักเธอ ยังฝากโทรศัพท์มือถือให้เธอด้วยล่ะ”

“ผู้ชายคนนั้น สูงผอมเหมือนสายไฟ ใช้ของแบรนด์เนม ท่าทางหยิ่ง หน้าตางั้น ๆ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาดูถูก ไม่มีมารยาทเลย” อุนซอง กล่าว

“ไม่นะ อึ่ม.....เขาสูงผอมแต่ไม่เหมือนสายไฟ เสื้อผ้าเค้าก็ไม่ใช่แบรนด์เนม หน้าตาหล่อ
เชียวล่ะ เป็นคนสุภาพ พูดจาก็ดี๊ดี จากประสบ การณ์ทำงานของฉัน บอกได้เลย อายุประมาณ 28-29 ท่าจะโสดด้วย ไม่น่าเป็นผู้บริหาร นักธุรกิจ...หรือนักเขียนอิสระ”

“ฉันไม่รู้จักคนแบบนี้” อุนซอง กล่าว

“แต่ว่าผู้ชายคนนี้ มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ผู้ชายแบบนี้อันตรายนะ นี่เธอ......กินโจ๊กให้หมดก่อน ไม่งั้นอย่าหวังได้ออกจากห้องนะจ๊ะ วันที่แม่ฉันตายฉันกลับกินเป็นบ้าเป็นหลัง ท้องหิวไม่มีแรงร้องไห้ ไม่มีแรงตามหาอุนยูนะ”

“ตรงป้ายรถแถวนี้ มีหอพักแห่งนึง”

“หอพักรึ” เฮลี ถาม

“อุนยูไม่อยู่แล้ว ฉันไม่อยากรบกวนเธออีกต่อไป แฟนเธอก็กลับไม่ได้”

“ยังจะมีหน้าโผล่มารึ ทำให้อุนยูหายไป รายนั้นรึ ไม่เจออุนยู อยู่บ้านเพื่อนก่อนก็แล้วกัน...โคอุนซอง เธออย่าทำให้ฉันละอายใจได้มั้ย”

“แฟนเธอคงกลับมาแล้ว”

“ถ้าจะอยากตายมั้ง......ใครยะ” เฮลี ถาม

“ผมเองครับ” จุนเซ เข้ามา

“ค่ะ คุณนั่นเอง......อุนซอง คนเมื่อวานนี้” เฮลี กล่าว

“ดีขึ้นรึยังครับ”

“คุณรู้ได้ไง...รู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่” อุนซอง ถาม

“เมื่อวานผมไปงานเลี้ยง เห็นคุณอยู่ที่ผับอีคารอส”

“เมื่อวาน มือถือฉันพังหมดแล้ว.........แล้วยังไง”

“แปลกนิดนึง ไม่นึกว่าเราจะได้พบกันอีก” จุนเซ กล่าว


//www.dailynews.co.th



Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2555 13:38:54 น.
Counter : 1079 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]