All Blog
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 14 เมษายน 2555



อุนซองจะต้องเอาอาหารไปให้โรงงานชินยินโดชิม จังซุกจาจึงให้รถซึ่งเป็นของยูฮังให้อุนซองไปใช้ เพราะต้องเดินทางไกล อุนซองจะให้ยูฮังขับรถแต่ยูฮังปฏิเสธ บอกคุณย่าให้กุญแจรถกับอุนซอง อุนซองว่าคุณย่าให้เอารถไปใช้งานร่วมกันไม่ใช่ให้เธอใช้เพียงคนเดียว และบอกให้ยูฮังขับไป ส่วนเธอจะเป็นคนขับกลับ ทำให้ยูฮังยอมขับรถ

ยูฮังและอุนซองนำอาหารมาให้ผู้บริหารโรงงานชินยินโดชิม ทางโรงงานตอบตกลงที่จะซื้ออาหารสำหรับพนักงาน 380 คนต่อ 1 สัปดาห์ 1 เดือนจะตก 1,520 ชาม พร้อมทั้งทำสัญญาซื้อ    ขายกัน ยูฮังดีใจมากคุยทันทีว่าเป็นเพราะเขาส่งหนังสือแนะนำมา อุนซองหัวเราะชอบใจที่เห็นยูฮังดีใจสุด ๆ ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเก็บของเพื่อจะกลับ ท่านประธานบริษัทก็เดินเข้ามาและถามหาคนของจินเซ็งฟู๊ดส์ เพราะจุนเซเป็นคนแนะนำมา

ยูฮังโกรธมากที่รู้ว่าจุนเซเป็นคนแนะนำให้โรงงานชินยินโดชิมซื้ออาหาร ถึงกับบอกให้ยกเลิกสัญญา

“ยกเลิกได้ยังไง สัญญาเซ็นแล้วนะ ถ้าเรายกเลิก บริษัทเราจะเป็นยังไง” อุนซองโวย

“ที่เขาเซ็นสัญญาไม่ใช่เพราะเรา เพราะพี่จุนเซต่างหาก”

“ไม่ได้ยินเจ้าของโรงงานพูดรึ เขาได้รับเอกสารของจินเซ็งฟู๊ดส์ สนใจจะสั่ง พี่จุนเซก็โทรฯมา”

“ยังไงพี่จุนเซก็แนะนำ ทำไมต้องเป็นเขาด้วย”

“ทำไมนายถึงไม่ชอบพี่จุนเซ เรื่องชองยีใช่มั้ย”

“ช่างเถอะ ยกเลิกลูกค้ารายนี้” ยูฮังยืนกราน

“เซ็นสัญญานามบริษัท ยกเลิกไม่ได้หรอก”

“เธอเกรงใจพี่จุนเซ เสียดายผลงานด้วยใช่มั้ย เธอทำได้ทุกอย่างเพื่อมรดกคุณย่าใช่มั้ยล่ะ อยากได้แสดงฝีมือเองสิ” ยูฮังประชดเพราะเข้าใจผิด

อุนซองโกรธยูฮังที่เข้าใจเธอแบบนั้น “นายขับเอง ฉันจะนั่งรถเมล์”

อุนซองเดินออกจากซอยไปตามทาง ยูฮังขับรถตามเรียกอุนซองขึ้นรถ แต่อุนซองไม่ยอมขึ้น ยูฮังจอดและลงมาจะเดินไปหาอุนซอง บังเอิญมีรถคันหนึ่งขับมาอย่างรวดเร็วและเกือบชนยูฮังเข้า ยูฮังนึกถึงตอนที่พ่อของเขาลงมาจากรถและถูกรถชนก็ถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะหันมาโวยวายใส่อุนซองอย่างควบคุมสติไม่ได้

“บ้าไปแล้วรึ บ้ารึเปล่า ทำอะไร ต่อหน้าฉันทำไมเธอต้อง......อยากให้ฉันบ้าตายรึไง”

“ขอโทษ ฉันไม่รู้มีรถมา” อุนซองหน้าเสีย

“อุบัติเหตุนั่น...ขอโทษ”

“เธอ......เฮ้อ...”

อุนซองและยูฮังกลับมาที่ร้าน ทุกคนแสดงความยินดีในความสำเร็จที่ทั้งคู่ทำร่วมกัน แต่อุนซองและยูฮังกลับหน้าบึ้งตึงใส่กันและแยกย้ายกันไป ตกเย็นอุนซองไปหาจุนเซที่ร้านอาหารและบ่นจุนเซที่แนะนำให้โรงงานชินยินโดชิมทำสัญญาซื้ออาหาร จุนเซถามว่ายูฮังไม่พอใจหรือ อุนซองบอกเธอก็อยากทำอะไรด้วยตัวเองเช่นกัน จุนเซว่าไม่มีงานใดที่สามารถทำคนเดียวได้ เพื่อนต้องช่วยกัน อุนซองสั่งไม่ให้จุนเซทำอย่างนี้อีก จุนเซว่าหากต้องการความช่วยเหลือก็ให้บอก

อินยงมาหาอุนซองที่ร้านจุนเซและขอสั่งอาหารแพง ๆ มากิน โดยจะให้อุนซองเลี้ยงและบอกว่าตอนนี้อุนซองเป็นเศรษฐีแล้ว อุนซองบอกเธอไม่ได้คิดรับมรดกของจังซุกจาเพื่อเงิน แต่อินยงไม่เชื่อบอกว่าการกระทำของอุนซองที่ฉกสมบัติของยูฮังมาจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน

ชอบโยนัดยูฮังออกมาและขอร้องให้ยูฮังพาอุนยูออกไปเดินเที่ยวเล่นเพราะเขามีธุระ

“เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจต้องทำความสะอาด เขาอยู่ด้วยจะไม่ไหว พาไปเดินเล่นสักสองชั่วโมงนะ”

“ให้ฉันพาไปที่ไหน”

“ซื้ออะไรให้กินก็ได้ กินข้าวแล้วค่อยกลับนะ ยงเจ เชื่อฟังพี่เขานะ” ชอบโยสั่งอุนยูก่อนจะรีบเดินไปเลย

“เฮ้ย...ชินยองโช”

“ถ้าจะกลับ บอกเขาพามาเล่นเปียโน” ชอบโยตะโกนบอก ก่อนจะรีบเดินไป

“มีงี้ด้วย...” ยูฮังส่ายหัว

“พี่บะหมี่” อุนยูพูดออกมา

“บะหมี่.........เธอจำฉันได้รึ” ยูฮังเอานิ้วชี้ตัวเองด้วยความแปลกใจที่อุนยูซึ่งเป็นเด็กออทิสติกกลับจำเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ยูฮังพาอุนยูเดินเล่นตามที่ต่าง ๆ อุนยูพอเห็นอะไรที่สนใจก็ปรี่เข้าไปโดยไม่รอ ยูฮังต้องเดินตามตลอด ยูฮังพาอุนยูไปกินอาหารก่อนจะพูดคุยกัน

“กินเอร็ดอร่อยเชียวนะ เปียโน ฉันรู้จักคนนึงมีน้องเหมือนเธอ ชอบเล่นเปียโนด้วย” ยูฮังเรียกอุนยูว่าเปียโนเพราะเห็นว่าชอบเปียโน พร้อมยังพูดถึงน้องของอุนซองเพราะเห็นว่าเป็นออทิสติกและชอบเล่นเปียโนเหมือนกัน

“เปียโน ชอบ”

“ชอบแต่เปียโนรึ ไม่เคยชอบผู้หญิงรึ”

“ผมชอบเปียโน”

“ชอบเปียโน น่าอิจฉานะ อย่างน้อยเปียโนไม่เกลียดเธอ เธอ..ไม่รู้ รักคนที่เกลียดเรารู้สึกยังไง” ยูฮังหน้าสลดลงเมื่อถึงนึกอุนซอง “ผู้หญิงที่ฉันรู้จัก มีชื่อว่าสปาย”

“สปาย...สปาย สวย” อุนยูบอก

“เจ้าหนู ไม่เคยเห็น รู้รึว่าสวย” ยูฮังขำ ๆ

“สปาย”

“ใช่ เธอคือสปาย ผู้ลึกลับ การที่...ฉันได้รู้จักเขา ทำให้ฉันลืมหมดทุกสิ่ง เฮ้อ......ได้พูดแล้ว สบายขึ้นเยอะ...เฮ้อ...”

อุนซองไม่สบายใจกับคำพูดของอินยง จึงมาปรึกษากับเฮลี และคิดจะไม่รับมรดกของจังซุกจาเพราะไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด

“สนใจทำไมกับยัยนั่น ไม่ต้องเก็บไปใส่ใจ เขาอิจฉาไม่อยากเห็นคนได้ดี”

“นอกจากคำพูดของอินยง ฉันรู้สึกละอายใจเหมือนกัน”

“ละอายอะไร คุณย่าบอกเอง ไม่ยกให้หลานชายไม่ใช่รึ ละอายทำไม เขาเคยทำอะไรกับเธอไว้”

“ถึงยิ่งละอาย เมื่อก่อนเขา.. เดี๋ยวนี้เปลี่ยนจนฉันรู้สึกประหลาดใจ เขาเปลี่ยนไปมาก เขาจริงจังจนฉันรู้สึกสะท้าน บางครั้งรู้สึกพอใจ... บางครั้งละอายใจ...เฮ้อ......ทำฉันสะเทือนใจ” อุนซองนึกถึงยูฮังที่ระยะหลังทำตัวดีขึ้น และมีแววเศร้า ไม่หยิ่งยโสเหมือนเมื่อก่อน

“สะเทือนใจด้วยรึ ฉันว่า...แปลก ๆ อยู่นะ เท่าที่ฟังที่พูดเมื่อกี้ ราวกับเธอเห็นใจเขา แต่ก็รักเขาไม่ได้อย่างงั้นแหละ ทำไมจะไม่ได้...โคอุนซอง” เฮลีดักคอ

“นี่......ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เขาเป็นแฟนกับซึงมี เธออย่าพูดบ้า ๆ นะ” อุนซองรีบปฏิเสธ

“อย่าว่าแต่ซึงมีชอบ ต่อให้ใครชอบก็ช่าง เธอชอบได้นี่นา”

“ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดสักหน่อย”

“ก่อนหน้านี้ เอ่ยชื่อเขาล่ะทำโกรธ แล้วตอนนี้ล่ะ” เฮลีพยายามทำให้อุนซองรู้ใจตัวเอง แต่อุนซองยังไม่ยอมรับ “แค่ไม่เกลียด แต่ก็ไม่ชอบ......ไม่หรอกมั้ง”

ปั๊กเซ็งฮีจ้างคนตามหาอุนยูแต่ก็ยังไม่พบ ยิ่งทำให้ปั๊กเซ็งฮีเป็นกังวลมาก ซึงมีเห็นแม่ที่มีแต่ความเครียดก็รู้สึกสงสาร ด้านอุนซองระหว่างที่กำลังต้อนรับลูกค้าในร้าน เธอก็พบกับ มันฮา เพื่อนของพ่อเธอ

“เธอเป็น.. ลูกสาวโคพิงจุงใช่มั้ย ฉันชื่อมันฮา เป็นเพื่อนพ่อเธอ ฉันเคยเจอตอนเธออยู่มัธยม 3 จำได้มั้ย”

อุนซองบอกเรื่องที่พ่อตายไปแล้วให้มันฮาฟัง “หมายความว่า พอพ่อตาย เธอก็ไม่ได้อยู่กับแม่เลี้ยงรึ ฉัน.. ไม่รู้ข่าวการตายของพิงจุงเลย จึงไม่ได้ไปงานศพ เพิ่งมารู้ตอนหลัง แต่ก็ย้ายบ้านไปหมด เงินประกันชีวิต กับเงินประกันอุบัติเหตุ ตั้งมากมาย ใช้หนี้หมดแล้วสินะ”

“เงินประกันชีวิตรึคะ” อุนซองถามอย่างแปลกใจ

“ตอนพ่อเธออยู่ได้ทำประกันชีวิตไว้”

“ไม่มีเงินประกันนี่คะ”

“งั้นรึ เขาเคยพูดเรื่องนี้กับฉันนี่นา”

มันฮานึกถึงตอนที่โคพิงจุงมาพบเขาเมื่อหลายเดือนก่อน






//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 พฤษภาคม 2555
Last Update : 4 พฤษภาคม 2555 10:38:28 น.
Counter : 389 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]