All Blog
มรดกรักฉบับพันล้านวอน วันที่ 3 พฤษภาคม 2555



 

“แม้ผมช่วยคุณไม่ได้ อย่างน้อยก็สบายใจขึ้น” โคพิงจุงยิ้มให้

“คือว่าผม ชอบผู้หญิงอยู่คนนึง เธอซื่อตรง จิตใจดี เอื้ออาทร เป็นคนมีความรับผิดชอบสูง สวยอีกด้วยครับ” จุนเซตัดสินใจบอก
โคพิงจุง โดยที่ไม่รู้ว่า ผู้หญิงที่เขาชอบคือลูกสาวของโคพิงจุงนั่นเอง

“ผู้หญิงที่เพียบพร้อม จับไว้เลยสิ” โคพิงจุงบอก

“อยากอยู่หรอก แต่จับไม่อยู่ เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่ยึดมั่น หลายอย่างไม่อาจฝืนใจ ทั้งเรื่องงานและความรัก ผมพยายาม จริงใจกับเธอทำดีที่สุด แต่ไม่อาจชนะใจเธอได้ ผมอาจเข้าข้างตัวเองเกินไป” จุนเซหน้าเศร้า

“คนที่ดีอย่างคุณ มีสาวไม่ชอบด้วยรึ”

“เธอไม่ใช่ไม่ชอบ แต่ในใจเธอ มีคนอื่นครอบครองอยู่ก่อนแล้ว ใจผม... มันปวดร้าว ไม่นึกผมจะมีสภาพแบบนี้ ทำใจไม่ได้ คุณอา...คุณอามีประสบการณ์มาก่อน ผมควรทำยังไง” จุนเซขอคำปรึกษาอย่างจริงจัง

“ต้องพยายามต่อไป ต้องสู้สิครับ มา...ไม่ต้องท้อ...นี่แหละนะผู้ชาย คุณยังหนุ่มยังแน่น
อยู่เพื่อผู้หญิง พอเป็นพ่อคน ก็ต้องอยู่เพื่อลูก” โคพิงจุงพูดให้กำลังใจ

“จริงสิ เรื่องลูกสาวคุณอา มีปัญหามั้ยครับ” จุนเซถามถึงลูกสาวของโคพิงจุงซึ่งกำลังหาตัวอยู่

“ความจริง ผมมีเรื่องนึง อยากขอให้คุณช่วยไว้ทีหลัง” โคพิงจุงไม่อยากจะรบกวน แต่จุนเซบอก “ไม่เป็นไรหรอกครับ บอกมาเถอะ”

อุนซองและยูฮังยังพูดคุยกันเรื่องจังซุกจา “ถ้าหาก...คุณย่าต้องจากเราไป ท่านไม่เข้าใจเธอผิดอีกแล้ว คุณย่า...เชื่อใจเธอ”

“จริงรึ” แววตาของอุนซองดีใจมาก

“ตลอดหนึ่งอาทิตย์ผ่านมา ฉันคิดเรื่องคุณย่า ฉันรู้สึกได้ คุณย่า...ท่านเชื่อเธอ...”

ระหว่างที่ทั้งคู่พูดคุยกัน จังซุกจาก็เริ่มรู้สึกตัว “คุณย่า คุณย่า คุณย่าฟื้นแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว”

“คุณย่าพูดไม่ได้ ตามหมอเร็ว คุณย่า” อุนซองบอก ยูฮังรีบออกไปตามหมอทันที พร้อมกับบอกข่าวให้ทุกคนรู้ ชองยีและยงนังดีใจมาก ขณะที่ซึงมีกังวลใจและหวาดกลัวอยู่ลึก ๆ

“หมอครับ คุณย่าปลอดภัยใช่มั้ยครับ” ยูฮังถามหลังจากคุณหมอตรวจอาการของจังซุกจาแล้ว

“พ้นขีดอันตรายแล้ว ปริมาณเม็ดเลือดขาวสู่ภาวะปกติ ขอตัวครับ” คุณหมอพูดจบก็เดินออกไป

“อะไรกัน ทำไมสองคนถึงมาอยู่กันที่นี่” จังซุกจาถาม

“เรื่องมันยาว” ยูฮังบอก

“งั้น...ก่อนคนที่บ้านมา หนูกลับนะคะ” อุนซองไม่อยากให้เป็นต้นเหตุให้เรื่องราวใหญ่โต

“ไปเถอะ...รอฟังข่าวฉัน” จังซุกจายิ้มให้

“ค่ะ คุณย่ารักษาสุขภาพด้วย ลานะคะ” อุนซองเคารพก่อนจะเดินออกไป

“ย่า นอนอยู่นี่ นานแค่ไหนแล้ว” จังซุกจาถามหลานชาย

“หนึ่งอาทิตย์ นี่วันที่แปดครับ”

“บริษัทล่ะ”

“ยังจะห่วงอีก ทุกอย่างปกติไม่ต้องห่วงครับ”

การที่จังซุกจาได้สติสร้างความดีใจให้กับทุกคนมาก ยกเว้นปั๊กเซ็งฮี “คุณย่าฟื้นรึ”

“รู้สึกตัวตั้งแต่เช้ามืด”

“ยายแก่หนังเหนียวจริง ๆ แต่ช่างเถอะไม่เป็นไร” เซ็งฮีบ่น

“ทำไมคะ”

“ถึงฟื้นก็เป็นเพียงคนแก่ความจำเสื่อม คุณย่าฟื้น ยูฮังดีใจมากสินะ”

“อุนซองจะยื่นฟ้องคุณแม่ ต่อศาลค่ะ”ซึงมีตัดสินใจบอก

“ฟ้องแม่ เรื่องอะไร เรียกร้องเงินประกันชีวิตพ่อเขารึ ฟ้องไปสิ” เซ็งฮีพูดอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า

“ถ้าแม่ไม่มีหลักฐานการชำระหนี้ ผลจะเป็นยังไงคะ” ซึงมีดูหวั่นวิตก

“ขึ้นศาล...อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าหนึ่งปี นึกรึว่าแม่จะไม่เตรียมการไว้ก่อน กินข้าวเถอะ” เซ็งฮีไม่สนใจ เพราะเธอวางแผนมาอย่างดี

เซ็งฮีและทนายพั๊กนัดเจอกันเพื่อหารือและปรับแผนการ หลังจังซุกจาฟื้นขึ้นมา

“ผู้ถือหุ้นของจินเซ็งฟู้ดส์ ต่างไม่พอใจ ไม่ต้องการให้ประธานจังอยู่ในตำแหน่งต่อ คุณน่าจะทำงานได้ไม่ยาก” เซ็งฮีบอก

“รายชื่อผู้ถือหุ้น” “ฉันเพียงล่ารายชื่อพวกนี้สินะ”

“ต้องมีการลงมติเป็นสำคัญ จึงมีผลต่อการประชุมผู้ถือหุ้น”

“ลงมติส่วนลงมติ ผลสรุปสำคัญกว่า” ทนายพั๊กบอก

“ย่าไม่เป็นไรแล้วล่ะไปทำงานเถอะ” จังซุกจาบอกหลานชาย

“ทำงานรึครับ”

“ร้านสาขาสอง หลานบอกทำสองเดือน ต้องทำให้ครบสองเดือน”

“ผมต้องอยู่เฝ้าคุณย่าที่โรงพยาบาล เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที” ยูฮังเป็นห่วงคุณย่ามาก

“คุณแม่คะ ซึงมีมาเยี่ยมค่ะ” ยงนังเดินนำซึงมีเข้ามา “ซึงมีอยู่เฝ้าคุณแม่พร้อมลูกฮัง ยังเอาของมาให้พวกเราทานด้วยนะคะ”

“ดี ขอบใจมาก” จังซุกจาบอก

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่าฟื้นปลอดภัยก็ดีแล้วค่ะ”

จุนเซนัดอุนซองมาถามเรื่องงานในเรือสำราญที่เขาชวนอุนซองไปทำ หลังจากครบ 2 เดือนตามที่ให้สัญญากับคุณย่าไว้ “ภัตตาคารเรือสำราญ ขอคำตอบอาทิตย์หน้านะ จะได้เดินเรื่องต่อ...กับหญิงคนรัก ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากเป็นแค่พี่ชาย...ในระหว่างนี้ ฉันขออยู่เคียงข้างเธอ”

“แต่พี่ อาจต้องรอนานมาก” อุนซองรู้สึกลำบากใจเมื่อจุนเซรุกหนัก

“ทำไมเธอถึงว่ารอล่ะ ฉันจะได้อยู่กับเธอนาน ๆ ยังไงล่ะ” จุนเซรู้สึกเศร้าที่อุนซองพูดเหมือนปฏิเสธ แต่ก็พยายามไม่ให้อุนซองรู้สึกผิด

ซึงมีรู้สึกกังวลใจมากหลังจากเรื่องราวระหว่างอุนซองและครอบครัวตนเองเปิดเผยขึ้นยูฮังก็เงียบขรึมลงและไม่พูดกับเธอเหมือนกัน ซึงมีรู้สึกว่ายูฮังอยากพูดอะไรกับเธอแต่เธอก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงตลอด แม้วันนี้ที่ยูฮังขอคุยกับเธอ ซึงมีก็หวั่นใจว่ายูฮังจะพูดในสิ่งที่เธอไม่อยากได้ยิน

“ฉันควรคุยกับเธอนานแล้ว ขอโทษนะที่เพิ่งพูด ฉันเคยเป็นคนยังไง ใช้ชีวิตยังไง เธอรู้ดีที่สุด ฉันเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่เคยคิดถึงคนอื่น”

“สำหรับฉัน พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น”

“ใช่ เรารู้จักกัน ในสภาพที่เธอพูด ฉันอยากทำดีกับเธอ เธอทำให้ฉันสงสาร อยากปกป้องเธอ จนป่านนี้ ฉันไม่เคยชอบใคร ไม่เคยใส่ใจว่าเธอรู้สึกยังไง ฉันรู้ว่าเธอคิดยังไง แต่ว่า...ทุกอย่างที่ผ่านไปยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนต่อไปจะไม่เหมือนเดิม”

ซึงมีน้ำตาคลอ และแล้วยูฮังก็พูดในสิ่งที่เธอกลัวมาตลอด “เพราะอุนซองใช่มั้ย พี่ชอบอุนซองใช่มั้ย”

“ใช่” ยูฮังพูดน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว และแม้จะรู้มาก่อนแต่ซึงมีก็ไม่วายใจหาย “พี่ไม่รู้รึอุนซองเป็นใคร พี่ทิ้งฉันเพราะอุนซองได้ยังไง อุนซองบอกอะไร พี่ถึงทำกับฉันแบบนี้” ซึงมีตีโพยตีพาย

“อุนซองไม่เคยบอกอะไรพี่”

“ไม่รึ”

“ถึงเขาไม่ได้พูด แต่สิ่งที่เธอกับแม่เธอพูดเรื่องอุนซอง ฉันรู้ ไม่ใช่จริงทั้งหมด แต่ก็ไม่ใช่เท็จทั้งหมด เพราะฉันรู้จักเธอ ฉันรู้เธอเป็นคนยังไง”

“หมายความว่าไง” ซึงมีมองหน้ายูฮังตกใจ

“สิ่งที่เธอพูดผิดไป ฉันอยากให้เธอแก้ไข” ยูฮังจ้อง

“อะไร แก้ไขอะไร พี่ไม่ได้ฟังจากปากอุนซอง ทำไมถึงทำแบบนี้”

“จิตใต้สำนึกบอกฉัน ตอนไปบ้านเธอ เธอบอกว่า ตั้งแต่ย้ายบ้านเพิ่งเอารูปมาตั้ง คืนวันเกิดชองยีตอนไปผับ เธอบอกคุณน้าป่วยต้องรีบกลับ หลังจากเธอไป อุนซองเดือดร้อนมากเรื่องกระเป๋า ถ้ารู้ฉันเป็นใคร เขาต้องบอกไปเอาที่บ้านซึงมี ตอนนั้นอุนซองยังไม่รู้จักคุณย่า ถ้าจำหน้าฉันได้ เขาไม่ต้องทนถูกฉันแกล้งหรอก มือถือของอุนซองถูกฉันทำพัง แล้วเธอก็เปลี่ยนเบอร์มือถือ คนที่ไม่น่าเชื่อถือไม่ใช่อุนซอง...แต่เป็นเธอ ตอนนี้...ซึงมีที่ฉันรู้จัก เปลี่ยนเป็นคนละคน” ยูฮังพูดในสิ่งที่เขาคิดทั้งหมด

“ถ้าหาก ทุกสิ่งที่ฉันพูด โกหกทั้งหมดล่ะ พี่จะว่าฉันเลว แล้วไปหาอุนซองมั้ย นี่เป็นข้ออ้างที่พี่จะเลือกอุนซองใช่มั้ย” ซึงมียังไม่ยอมรับ พยายามที่จะรั้งยูฮังไว้

“ฉันกำลังบอกว่าฉันยอมรับไม่ได้ ฉันต้องการเขา แต่ทิ้งเธอโดยไม่บอกกล่าวไม่ได้”

“สายไปแล้ว ทุกอย่างสายเกินไป พี่เห็นแก่ตัวที่สุด ทำให้ฉันทุ่มเทสุดหัวใจ พี่เป็นผู้ชาย
คนแรกที่ฉันรู้จัก เราเคยฉลองวันเกิดด้วยกัน ฉลองคริสต์มาส ตอนพี่ป่วย ตอนพี่รับปริญญา ตอนพี่ไปอเมริกา พี่มีฉันตลอด เราต่างมีกันและกัน...แล้วนี่เพิ่งบอกว่าไม่รักฉัน ให้ฉันตัดเยื่อใย ทำได้ไง...หนำซ้ำไม่ใช่เพราะคนอื่น แต่เป็นโคอุนซอง...ทำไมต้องเป็น อุนซอง ให้ฉันตายซะยังดีกว่า” ซึงมีคร่ำครวญอย่างเจ็บช้ำ

ด้านอุนซองก็ตัดสินใจพูดกับจุนเซ “คราวก่อน...เรื่องภัตตาคารเรือสำราญ ฉันคงไม่
ไปแล้วล่ะ คือมันไกลมากคงไม่ค่อยเหมาะ อีกอย่างฉันไม่อยากเป็นภาระพี่”

“หรือว่า ฉันทำให้เธอลำบากใจ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฉันละอายใจ ฉันเคยรับปากพี่ สัญญาว่ารอจนกว่าเจออุนยู ฉันกลัวจะผิดสัญญา”

 



//www.dailynews.co.th



Create Date : 14 มิถุนายน 2555
Last Update : 14 มิถุนายน 2555 22:33:16 น.
Counter : 364 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]