อ้าว...เธอบอกสิว่าแพ้หอย ไม่ใช่มานั่งกินข้าวเปล่า
นายบอกเองไม่กินซุปกระดูก
เธอเห็นฉันเป็นตัวชั่วร้ายมากใช่มั้ย อย่างเรื่องกระเป๋า ถ้าบอกฉันแต่แรกเรื่องหา
กระเป๋า ฉันก็ไม่มีอคติกับเธอหรอก
มีใครบ้างจะบอกความจำเป็นส่วนตัวให้คนอื่นรู้ เพิ่งเจอที่ผับ ราวกับจะฆ่ากันให้ตาย ถามหน่อยว่าใครเคยฟังฉันบ้างมั้ย ฉันบอกเหตุผล นายเคยฟังบ้างมั้ย
แล้วตอนอยู่ที่บ้าน...
อยู่บ้านนายก็มองฉันเป็นขโมย ฉันบอกคุณย่าเรียกมา นายจะเรียกตำรวจจับฉัน จริงมั้ยล่ะ....เฮ้อ....ยังว่าทำไมไม่บอกก่อน คนอย่างนาย ไม่เคยมองตัวเองเลย เคยมั้ยที่จะฟังคนอื่น
พอแล้ว เธอกินไป....คนอะไรนิสัยไม่ดี ไม่กินต่อแล้วรึ ยูฮังถามเมื่อเห็นอุนซองลุกขึ้น อุนซองบอกเธอจะกลับบ้านเอง
ยูฮังกลับมาบ้าน น้องสาวและแม่ก็ถามเรื่องที่ยูฮังขับรถให้กับอุนซองเพื่อไปเคารพศพแม่
ที่ว่าไม่มีพ่อแม่แล้ว ไม่ได้โกหกน่ะสิ ยงนังเอ่ยขึ้น
พ่อเขาเพิ่งตาย เป็นความจริง ถึงมีเรื่องปิดบังแต่ไม่ใช่พวกหลอกลวง
เดี๋ยวนี้พี่ปกป้องเขาแล้วรึ ชองยีถามอย่างแปลกใจ
ใครว่าฉันปกป้อง ฉันพูดตามความจริง ระหว่างทางนั่งคุยกันรึเปล่า
พี่ชายลูกไม่มีทางคุยกับอุนซองหรอก มีแต่เขาแจ๋นฝ่ายเดียว
ไม่ แล้วพี่รู้เรื่องเขาได้ไง หรือว่านั่งเทียนอ่านใจได้
ฉันรู้เรื่องที่ไหนกันเล่า พ่อแม่เขาตาย เขาไม่ได้ขายกระเป๋า เอามาคืนให้ รู้แค่นี้ พอใจรึยัง ยูฮังมีอารมณ์เมื่อชองยีพูดว่าอุนซอง
ต้องทำดุด้วย ชองยีสะบัดเสียงงอน ๆ
จะนอน ออกไป ยูฮังไล่ตรง ๆ ชองยีและยงนังงง ๆ กับท่าทีของยูฮัง
ปั๊กเซ็งฮีรู้เรื่องที่ซึงมีจะขายบ้านเพื่อเอาเงินให้อุนซองก็คัดค้าน แต่ซึงมีบอกต้องการชดใช้และขอโทษอุนซอง และคิดว่าอุนซองคงให้อภัย
แม่คะ ตั้งแต่อุนยูหายไป หนูไม่เคยนอนหลับเลย ถ้าหาบ้านให้เขาตั้งแต่แรก อุนยูก็จะไม่หาย ทั้งที่แม่มีเงินมากมาย
ลืมแล้วรึ ลูกโกหกอุนซองเอง ว่าบ้านหลังนี้ พ่อแท้ ๆ ของลูกยกให้
หนูรู้ อุนซองเป็นคนดี เขาต้องยกโทษ แม้ไม่ยกโทษ อย่างน้อยเขาก็ไม่บอกคุณย่า แม่คะพี่ยูฮังมีความรู้สึกดี ๆ กับหนู หนูอยากมีภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับเขา ซึงมีสับสนและละอายใจมาก
งั้นยิ่งบอกไม่ได้เด็ดขาด
แม่ไม่รู้ พี่ยูฮังคิดยังไงกับหนู พ่อแท้ ๆยังอยู่ ไม่เคยมาหาหนู แม่ทำงานหาแต่เงิน ในยามที่หนูต้องการใครสักคน...มีแต่พี่ยูฮัง กับคนอื่นเป็นไงก็ช่าง เขาดีกับหนูเสมอ เขาเป็นคนอบอุ่นสำหรับหนู หนูละอายใจทุกครั้งที่เจอหน้าเขา หนูไม่อยากหวาดระแวงกลัวอุนซองเปิดโปงเรา
แล้วถ้าวินาทีที่อุนซองเปิดโปงเราล่ะ ปั๊กเซ็งฮีโกรธจัด
หนูจะคุกเข่าขอร้อง ตั้งแต่อุนซองอยู่บ้านพี่ยูฮัง หนูไม่สบายใจจะบ้าตายอยู่แล้ว ซึงมีร้องไห้อย่างอัดอั้น
พอที แม่เจอศึกหนักมากพอแล้ว ขอร้อง พอสักทีได้มั้ย ปั๊กเซ็งฮีตวาดเสียงลั่น
อุนซองยังออกไปส่งนมตอนเช้าทั้งที่ขาแพลง จุนเซจึงมาช่วยขี่จักรยานให้ อุนซองรู้สึกซาบซึ้งใจในความมีน้ำใจของจุนเซเป็นอย่างมาก
ชองยีบอกแม่และย่าว่าจะไปทำงานที่ร้านอาหารของจุนเซ ทุกคนไม่ขัด
//www.dailynews.co.th