Group Blog
 
All blogs
 

Review : ผิวสวยสู้แดดกับ Neutrogena Fine Fairness กันจ้า ^___^

สวัสดีค่ะสาวๆทุกคน เข้าสู่ Summer กันแบบร้อนสุดๆ ด้วยอุณภูมิที่พุ่งขึ้นอย่างน่ากลัว แต่ความสนุกของหน้าร้อนก็คือกิจกรรมกลางแจ้ง ท้าแดด อวดผิวกันใช่ไม๊ล่า เพราะฉะนั้นปัญหาที่จะมากับแดดร้อนๆก็คือปัญหาเรื่องสภาพผิวหมองคล้ำเนื่องจากการเผชิญกับรังสี UV สงกรานต์ที่ผ่านมาทรายก็เจอเข้าไปเต็มๆเหมือนกันค่ะ ลุยเล่นน้ำตั้งแต่เช้ายันเย็น กลับมาบ้านอยากจะเป็นลม หน้าหมองเหมือนของลงมากๆ ผิวไหม้แดดเป็นด่างๆเลย นี่ขนาดทากันแดดก่อนออกไปแล้วน๊า แต่อย่างว่าโดนน้ำสาดเอาสาดเอาจะไปรอดเรอะ แหะๆ เห็นสภาพผิวตัวเองมันไม่ไหวแล้วต้องเริ่มฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง จากเดิมบำรุงผิวธรรมดาเน้นมอยส์เจอร์เลยต้องหันมาสนใจในกลุ่ม Whitening บ้างแล้ว เลยเป็นที่มาของรีวิวสกินแคร์ในเซ็ตของ Neutrogena Fine Fairness เซตนี้จ้า อยากให้ผิวกลับมาโดยเร็วก็ต้องลองใช้ทั้งเซตให้ครบขั้นตอนมาดูทีละขั้นกันเลยผลิตภัณฑ์แต่ละตัวเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------

1. Neutrogena Fine Fairness Toner
คำอธิบายผลิตภัณฑ์
ปรับสภาพผิวให้สะอาดดูกระจ่างใส และพร้อมรับการบำรุง
ผลลัพธ์ที่รู้สึกได้จริง
ปรับสภาพผิวให้สะอาดดูกระจ่างใส และ พร้อมรับการบำรุงด้วยไวท์เทนนิ่งอย่างเต็มประสิทธิภาพ
คุณสมบัติที่แตกต่าง จากนูโทรจีนา
-ไวท์เทนนิ่ง โทนเนอร์เพื่อทำความสะอาดผิวอย่างหมดจด พร้อมส่งมอบ ไวท์เทนนิ่ง เอเจนท์ (Whitening Agents) วิตามินซี และเอสเซนเชียล ซอย (Essential Soy) เข้าสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
- คืนความนุ่มชุ่มชื่นสู่ผิว พร้อมปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการบำรุงผิวขาวกระจ่างใสในขั้นตอนต่อไป

****************ผลการทดลองใช้ By Mhunoiii*********************

ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : โทนเนอร์เป็นน้ำใสๆสีขาวขุ่นเล็กน้อย มีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนกลิ่นพวกซิตรัสจางๆ บรรจุในขวดพลาสติกแข็งสีขาวทึบแสงซึ่งดีต่อการป้องกันการเสื่อมของผลิตภัณฑ์จ้า

ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : หยดโทนเนอร์ลงบนสำลีแผ่นให้ชุ่มกำลังดี ชุ่มมาก ชุ่มน้อยกะเอาได้ตามชอบจ้า จากนั้นก็เช็ดให้ทั่วใบหน้าโดยการเช็ดจากกลางใบหน้าออกด้านนอก และปาดขึ้น เพื่อช่วยยกกระชับผิวไปในตัว และไม่ลืมที่จะเช็ดบริเวณลำคอด้วยนะคะ เมื่อเช็ดโทนเนอร์ไปบนผิวสัมผัสได้เลยถึงความเย็นสดชื่น สำหรับทรายอาจมีแสบน้อยๆบริเวณปีกจมูกบ้างแต่ว่าไม่แพ้หรือเป็นอันตรายแต่อย่างใดค่ะ ใช้ต่อเนื่องมาผิวก็ไม่มีอาการลอก ดังนั้นอาการนี้ถือว่าปกติจ้า หลังเช็ดครบทั้งหน้ามาพลิกๆสำลีดู โอ้แม่เจ้า!!! บนสำลีจะมีคราบติดออกมา ล้างหน้าเราก็ล้างเกลี้ยงแล้ว คาดว่าเจ้าโทนเนอร์ตัวนี้คงช่วยเช็ดในส่วนของเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกมาด้วย มิน่าเช็ดแล้วรู้สึกสะอาดขึ้นอีกเท่าตัว สัมผัสผิวหน้าหลังเช็ดโทนเนอร์ไม่แห้งตึงและไม่เหนอะหนะ แต่จะรู้สึกเหมือนมีฟิลม์บางๆเคลือบผิวไว้ค่ะ ทรายเลิฟเจ้าโทนเนอร์ตัวนี้ตรงกลิ่นสดชื่นเบาๆและความเย็นๆและเบาสบายผิวนี่หล่ะเหมาะกับอากาศร้อนๆของ Summer ที่ซู้ดดด

ผลการใช้ผลิตภัณฑ์ : ทรายใช้หลังล้างหน้าก่อนลงครีมบำรุงทุกครั้งพบว่าหลังการใช้จะสัมผัสได้ทันทีว่าใบหน้านุ่มขึ้น และรู้สึกถึงความกระจ่างใสขึ้นเพราะมันช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งตกค้างบนหน้าออกอีกรอบหนึ่งหลังจากเราล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ เรื่องความขาวกระจ่างใสขึ้นแบบชัดๆทรายว่าจะได้จากกลุ่มตัวบำรุงมากกว่าแต่ที่แปลกใจและสังเกตได้คือก่อนหน้าที่ทรายรู้สึกว่าตัวเองผิวแห้งเลยไม่ใช้โทนเนอร์ แต่พอมาใช้ Neutrogena Fine Fairness Toner ตัวนี้แปลกใจกับปริมาณสิวเสี้ยนบริเวณจมูกที่ลดลงค่อนข้างมาก ถือว่าเป็นผลลัพธ์ทางอ้อมที่แจ่มจริงๆจ้า
-----------------------------------------------------------------------------

2. Neutrogena Fine Fairness Essence
คำอธิบายผลิตภัณฑ์
ปรับผิวให้แลดูกระจ่างใสสม่ำเสมอ เต็มประสิทธิภาพตรงจุดเพื่อลดเลือนบริเวณจุดด่างดำ
คุณสมบัติที่แตกต่าง จากนูโทรจีนา
- สมาร์ท ไวท์เทนนิ่ง แอคชั่น (Smart Whitening Action) จากนูโทรจีนา ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปรับสภาพผิวเป็นพิเศษโดยเฉพาะบริเวณจุดด่างดำ จึงทำให้ดูกระจ่างใสและเนียนเรียบสม่ำเสมอยิ่งขึ้นทั่วทั้งใบหน้า
สูตรลิขสิทธิ์เฉพาะของนูโทรจีนา
- วิตามินซี (AA2G) ช่วยลดการเกิดจุดด่างดำ และเซลล์ผิวหมองคล้ำ
- เรตินอล ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- แอนตี้ ออกซิแดนท์ ที่ช่วยลดปัญหาผิวอันเกิดจากอนุมูลอิสระ

****************ผลการทดลองใช้ By Mhunoiii*********************

ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : เนื้อเอสเซนส์เป็นสีเหลืองครีมอ่อนๆ ไม่ข้นและไม่เหลวมาก ไม่มีกลิ่น บรรจุในหลอดอลูมิเนียม-พลาสติกสีขาวขุ่นทึบแสงที่บีบง่ายและปกป้องเอสเซนส์สัมผัสแสงแดดและอากาศได้ดี

ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : หลังจากล้างหน้า เช็ดด้วยโทนเนอร์ ทรายก็จะลงเอสเซนส์ก่อนที่จะลงครีมบำรุง เอสเซนส์ตัวนี้ถือว่ามีความเข้มข้นมากกว่าหลายๆยี่ห้อที่เคยทดลองใช้มา เข้มข้นแต่ว่าเนื้อลื่นสามารถเกลี่ยลงบนผิวได้โดยง่าย ไม่มีน้ำมัน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ ความสามารถในการซึมบนผิวค่อนข้างดีมาก เกลี่ยแล้วซึมเลยไม่ทิ้งคราบมันบนใบหน้าเพราะเป็น Oil Free ทาปุ๊บสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื่นและผิวจะดูนุ่มๆด้วยค่ะ สำหรับทรายมีแสบนิดๆบริเวณปีกจมูกแต่ว่าก็ไม่ลอกไม่ขึ้นผด แปลว่าไม่ได้แพ้แต่อย่างใดจ้า

ผลการใช้ผลิตภัณฑ์ : เอสเซนส์ตัวนี้เน้นในเรื่องการลดเลือนจุดด่างดำ ซึ่งในส่วนของจุดด่างดำที่เกิดจากการใหม้แดดของทรายจากตอนเล่นสงกรานต์ก็ดูจางลงจริงๆค่ะ ในส่วนที่สีผิวดูไม่สม่ำเสมอดูดีขึ้นเยอะ แต่รอยกระที่เกิดจากกรรมพันธุ์ก็ปลงๆกันไป ทำไงก็ไม่หายอยู่แล้ว ก็แม่ให้มานิเนอะ ชอบเอสเซนส์ตัวนี้ตรงความชุ่มชื่นแบบสบายผิว โดยให้การบำรุงอย่างครบถ้วน ซึ่งทรายใช้ทาให้คุณแฟนแทนครีมบำรุงไปเลย เพราะคุณแฟนผิวมันและไม่ชอบทาครีมบำรุงด้วยเหตุผลว่ามันหนักหน้า แต่เอสเซนส์ตัวนี้เบาๆทาแล้วไม่เหนอะไม่หนัก ไม่มัน สำหรับคนผิวมันก็ใช้ทาแทนครีมบำรุงทั่วไปได้เลยจ้า

-----------------------------------------------------------------------------

3. Neutrogena Fine Fairness Cream SPF 22 PA++
คำอธิบายผลิตภัณฑ์
ไวท์เทนนิ่งครีมที่ช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส จุดด่างดำดูลดเลือน
ผลลัพธ์ที่รู้สึกได้จริง
จัดการครอบคลุมทั้ง 8 ปัญหาสาเหตุของผิวหมองคล้ำ เพื่อให้ผิวดูสว่างกระจ่างใสสม่ำเสมอ และจุดด่างดำแลดูลดเลือน
คุณสมบัติที่แตกต่าง จากนูโทรจีนา
ไวท์เทนนิ่งโลชั่นที่ช่วยปกป้องผิวจาก สาเหตุของความหมองคล้ำอย่างตรงจุด ด้วย 2 ประสิทธิภาพเพื่อผิวสว่างใสยาวนาน
- Healthy White Complex ลิขสิทธิ์เฉพาะจากนูโทรจีนา ด้วยส่วนผสมของเอสเซนเชียลซอย (Essential Soy) และวิตามินซี ซึมซาบลึกถึงเซลล์ผิวชั้นเอพิเดอร์มิส ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมจุดด่างดำแลดูจางลง
- SPF 22 ปกป้องผิวจาก UVB สาเหตของความหมองคล้ำ และ PA+++ ป้องกันรังสี UVA ให้ผิวกระจ่างใสห่างไกลริ้วรอยและจุดด่างดำ
- เนื้อโลชั่นบางเบา สูตรปราศจากน้ำมัน เหมาะสำหรับผิวแห้ง

****************ผลการทดลองใช้ By Mhunoiii*********************

ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : เป็นเนื้อครีมสีขาว มีกลิ่นหอมเบาๆ แต่กลิ่นอาจจะแรงกว่าแบบโลชั่นนิดหน่อย บรรจุในกระปุกพลาสติกซ้อนสองชั้น โดยชั้นนอกเป็นใสๆ และชั้นในเป็นสีขาวขุ่น มีฝาปิดซ้อนสองชั้น ชั้นนอกเป็นฝาเกลียวสีเงิน และชั้นในเป็นฝาพลาสติกกลมสีขาว ซึ่งในส่วนของฝาด้านในอาจจะหลวมเล็กน้อยถ้าวางไว้กับบ้านเฉยๆก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าพกพาแล้วมีการกลิ้งของกระปุกอาจจะทำให้ฝาด้านในเลอะเนื้อครีมแล้วติดขึ้นมากับฝาเกลียวสีเงินบ้างจ้า

ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : แม้จะเป็นเนื้อครีมที่เหมาะสำหรับผิวแห้งแต่ก็ยังคงความเป็น Oil Free ไว้เพราะผิวแห้งคือผิวขาดน้ำมิใช้ผิวขาดน้ำมันแต่อย่างใด ดังนั้นลักษณะของเนื้อครีมจึงเข้มข้นแต่ไม่มัน ครีมมีความหนืดน้อย เมื่อเกลี่ยลงบนผิวจึงซึมได้ง่ายมากมาย แต่รู้สึกได้ถึงความเข้มข้นที่แตกต่างจากเนื้อโลชั่น การเคลือบผิวของเนื้อครีมมีมากกว่าเนื้อโลชั่น สำหรับสาวผิวแห้งอย่างทรายมันไม่ได้หนักหรือทำให้ไม่สบายผิวแต่อย่างใดค่ะ แต่สำหรับคนผิวมันอาจจะรู้สึกหนักๆหน้าบ้างเล็กน้อย หลังทาผิวจะนุ่มและชุ่มชื่นขึ้นแต่ไม่มีความมัน ในหน้าร้อนนี้ทรายเลยใช้ตัวโลชั่นทากลางวัน และใช้เนื้อครีมทาตอนเย็น เพราะทรายนอนแอร์ เนื้อครีมจะเก็บกักความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดีกว่าจ้า

ผลการใช้ผลิตภัณฑ์ : สภาพผิวทรายคือผิวแห้ง ครีมตัวนี้ช่วยเติมความชุ่มชื่นได้ดีและไม่ทิ้งคราบมัน แม้จะใช้ในเวลากลางวันที่อากาศร้อนก็ตาม ตัวครีมผสมสารกันแดดสำหรับวันที่ไม่ได้ออกไปเผชิญแดดที่ไหน ทาครีมตัวนี้แล้วไม่ตามด้วยกันแดดก็ไม่ต้องกลัวหน้าหมองคล้ำแล้วจ้า ผลที่สังเกตได้คือการฟื้นฟูสภาพผิวที่ไหม้แดดดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ความหมองคล้ำเริ่มจางลงดูกระจ่างใสขึ้นจ้า

-----------------------------------------------------------------------------

4. Neutrogena Fine Fairness Brightening UV Moisture SPF 50+ PA+++
คำอธิบายผลิตภัณฑ์
ดูแลด้วยไวท์เทนนิ่งดีแค่ไหนก็คล้ำได้อีก ถ้าไม่ปกป้องผิวจากแสงแดดเต็มประสิทธิภาพ
ผลวิจัยระบุว่า สารกันแดดมักจะเสื่อมประสิทธิภาพลงเมื่อโดนแดด ทำให้ผิวกลับมาหมองคล้ำอีก นูโทรจีนา จึงค้นพบความแตกต่างที่เหนือกว่าด้วย Helioplex เทคโนโลยีที่ทำให้สารกันแดดทนต่อความเสื่อม จึงปกป้องผิวได้ดียิ่งขึ้นถึง 3 ประสิทธิภาพ
- SPF 50+ ป้องกันผิวหมองคล้ำจากรังสี UVB
- PA+++ ป้องกันริ้วรอยก่อนวัยและจุดด่างดำ จากรังสี UVA
- Photostability ป้องกันแสงแดดได้ยาวนาน โดยประสิทธิภาพไม่ลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเผชิญแดด

****************ผลการทดลองใช้ By Mhunoiii*********************

ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : เป็นเนื้อครีมสีขาว มีกลิ่นเหมือนจางๆ เหมือนในกลุ่มตัวบำรุงอื่นๆในไลน์นี้ บรรจุในหลอดพลาสติกสีขาวแข็งทึบแสง ปลายหลอดเป็นปลายแหลมมีรูบีบให้ครีมออกไม่กว้างมากนัก กะปริมาณเองจากการบีบ เนื่องจากเป็นหลอดพลาสติกแข็งการบีบอาจจะลำบากเล็กน้อย จึงแนะนำให้วางหลอดคว่ำเอาปากลงลงไว้ เวลาใช้ก็เขย่าเคาะกับฝ่ามือเบาๆครีมกันแดดจะไหลอยู่ที่ปากหลอดและบีบได้ง่ายขึ้นจ้า

ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : เนื้อกันแดดข้นแต่เกลี่ยง่าย มีความสามารถในการซึมผิวได้ดีถึงดีมาก แม้จะเป็นเนื้อกันแดดสีขาวแต่เกลี่ยแล้วเนื้อครีมกันแดดซึมกลืนลงไปกับผิวไม่ทำให้หน้าวอกเลยค่ะ เกลี่ยแล้วผิวจะดูนวลๆไม่มันไม่เป็นขุย ใช้เวลาในการเซตตัวเข้ากับใบหน้าไม่นาน ลองเทสกับหน้าคุณแฟนที่ผิวมันมากๆ คุณแฟนก็บอกว่ารู้สึกว่ามีไรเคลือบๆผิวแต่ไม่รู้สึกว่ามันเพราะกันแดดตัวนี้ Oil Free ทาแล้วไม่ทาแป้งทับก็ดูไม่เยิ้มไม่วาว และสำหรับทรายใช้ทาก่อนเมคอัพระหว่างวันก็ไม่ขึ้นขุย และไม่เป็นคราบเลยจ้า

ผลการใช้ผลิตภัณฑ์ : ปกติเป็นคนติดกันแดดและลองใช้กันแดดมาเยอะม๊ากกก เทียบกับหลายๆยี่ห้อแล้วจัดให้เป็นกันแดดที่เลิฟมั่กๆตัวหนึ่งเลยค่ะ ปกติครีมกันแดดจะเน้นประสิทธิภาพในการกันรังสี UV เพียงอย่างเดียวแต่ Neutrogena Fine Fairness Brightening UV Moisture SPF 50+ PA+++ ในกันแดดที่อยู่ในกลุ่ม Moisture ที่ช่วยบำรุงไปในตัว และจากสภาพผิวของทรายที่เป็นผิวแห้ง การได้รับการบำรุงเพิ่มในขั้นกันแดดจึงช่วยให้สภาพผิวแข็งแรงขึ้นแม้จะต้องเผชิญกับแสงแดด และด้วยเทคโนโลยีใหม่ของกันแดดตัวนี้ที่ช่วยให้สารกันแดดเสื่อมสภาพได้ช้าลงจึงทำให้เรามั่นใจขึ้นว่าทาก่อนเมคอัพรอบเดียวมันจะคงทนได้นานกว่ายี่ห้ออื่น แม้เราจะทราบๆกันดีว่ากันแดดต้องทาซ้ำทุก 3-4 ช.ม. แต่ผู้หญิงที่แต่งหน้าใครจะล้างเมคอัพแล้วทากันแดดใหม่ระหว่างวันจริงไม๊คะ ดังนั้นกันแดดที่คงทนต่อการเสื่อมสภาพเมื่อโดนแดดได้มากกว่าจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย และด้วยผลทาง Cosmetic ที่ไม่วอก ไม่ลอย ไม่มันเยิ้ม น่าจะถือเป็นกันแดดตัวหนึ่งที่น่าใช้สำหรับสาวๆที่รักการเมคอัพ สำหรับทรายได้ทดลองทาในวันที่ออกไปสู้แดดมาทั้งวัน ก็พบกว่าหน้าไม่หมองคล้ำ และรอยกระที่เกิดจากกรรมพันธ์ก็ไม่เข้มขึ้น แม้กระจะไม่หมดไปแต่เราสามารถควบคุมให้ไม่เข้มขึ้นได้ด้วยการทากันแดดนี่หล่ะค่ะ และถ้าวันไหนไม่มีเวลาหรือไม่สะดวกพกพาครีมบำรุงมากมาย การทาครีมกันแดดที่เป็นทั้งมอยซ์เจอร์และกันแดดในตัวเดียวก็ช่วยให้ผิวหน้าได้รับความชุ่มชื่นพร้อมต้านแดดได้ในครั้งเดียวค่ะ เทียบกับราคาที่ไม่สูงมากแล้ว ยกให้ว่ากันแดดตัวนี้คุ้ม !!! จ้า เลิฟที่สุดในบรรดากลุ่ม Fine Fairness เลยค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------

5. Neutrogena Fine Fairness Deep Whitening Mask
คำอธิบายผลิตภัณฑ์
ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
ผลลัพธ์ที่รู้สึกได้จริง
ผิวดูกระจ่างใส ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
ผิวไม่กลับมาหมองคล้ำอีกเมื่อใช้เป็นประจำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
คุณสมบัติที่แตกต่าง จากนูโทรจีนา
- ด้วย นวัตกรรม 14,000 ไมโครโฮลส์ (14,000 Micro Holes) ช่องว่างเล็กๆระหว่างเส้นใยบนแผ่นมาส์คที่ช่วยส่งผ่านอาหารผิวเพื่อตรงเข้าบำรุงได้ล้ำลึกกว่า
- Healthy White Complex ส่วนผสมลิขสิทธิ์เฉพาะจากนูโทรจีนา ที่ซึมเข้าผิวอย่างล้ำลึกเพื่อแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำที่ต้นเหตุ ลดเลือนจุดด่างดำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับให้ผิวกระจ่างใสสม่ำเสมอทั่วใบหน้า

****************ผลการทดลองใช้ By Mhunoiii*********************

ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : เป็นทิชชูมาส์กในซอง ซึ่งแผ่นมาส์กชุ่มมากๆด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว กลิ่นเดียวกับผลิตภัณฑ์กลุ่มอื่นๆของ Fine Fairness แต่มีกลิ่นแรงกว่าเนื่องจากเป็นแผ่นมาส์กที่แช่ไว้ในซองที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเข้มข้น หนึ่งกล่องบรรจุมาส์ก 4 แผ่น แผ่นมาส์กเป็นแบบทิชชูมาส์ก แต่เนื้อหนาและเหนียวเวลาวางมาส์กบนหน้าไม่ต้องกังวลว่าแผ่นมาส์กจะฉีกขาด บนแผ่นมาส์กมีรูพรุนมากมาย ตามคำอธิบายว่าเส้นใยของแผ่นมาส์กประกอบไปด้วยช่องว่างถึง 14,000 ช่อง แต่คงเป็นช่องที่ตาเปล่าอาจจะมองไม่เห็น แต่แค่ช่องที่มองเห็นก็มากมายจริงๆค่ะ

ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : แผ่นมาส์กขนาดใหญ่ได้ใจ วางบนใบหน้าได้เต็มจนล้นออกกรอบหน้าเลย แต่รอยตัดที่มีมาให้ก็ทำให้วางแผ่นมาส์กได้พอดีและแนบกับใบหน้า เมื่อแปะมาส์กบนหน้าสัมผัสได้ถึงความเย็น และชุ่มชื่น สำหรับทรายแอบแสบๆผิวบ้างเล็กน้อยในตอนแรก แต่ว่าสักพักอาการแสบก็หายไปค่ะ สำหรับคนไม่คุ้นกับน้ำหอมอย่างทรายอาจรู้สึกว่ากลิ่นแรงไปสักนิดแต่แปะทิ้งไว้กลิ่นก็จางๆไปเอง ข้างกล่องบอกให้ทิ้งไว้ 15 นาที นั่งเล่นคอมเพลินทิ้งไว้เกือบ 25 นาที แผ่นมาส์กบางส่วนก็เริ่มแห้ง พอลอกมาส์กออก รู้สึกว่าหน้าเกลี้ยงขึ้นจริงๆค่ะ แต่กระจ่างใสขึ้นเพียงเล็กน้อยสำหรับทรายแต่น้องสาวทรายลองมาส์กพร้อมกัน พอลอกมาส์กออกแม่เจ้า!!! ขาวและกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเพราะน้องสาวทรายเป็นคนไม่ค่อยบำรุงผิวพอได้รับการบำรุงแบบล้ำลึกผิวเลยได้รับอาหารผิวแบบเต็มๆเลยเห็นผลชัดเจนจ้า เพราะฉะนั้นผลการทดลองย่อมขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนจริงๆค่ะ

ผลการใช้ผลิตภัณฑ์ : ทรายลองใช้ดีพมาส์กมาสองแผ่นโดยทิ้งช่วงเวลาห่างกัน 5 วัน ในการใช้ครั้งแรกมีการแสบผิวเล็กน้อยบริเวณปีกจมูกและบริเวณแก้ม แต่พอลองมาส์กอีกครั้งในห้าวันถัดมาไม่เกิดออกการแสบเหมือนครั้งแรก หลังการมาส์กครั้งแรกของทรายสังเกตเห็นความกระจ่างใสได้ไม่ชัดเจนมากเท่ากับน้องสาว แต่หลังจากมาส์กครั้งแรกทิ้งระยะเวลามารู้สึกว่าผิวหน้าไวต่อแดดน้อยลง และสภาพผิวดูแข็งแรงขึ้น หลังจากการใช้ดีพมาส์กครั้งที่สองพบว่าหลังใช้หน้ากระจ่างใสขึ้นโดยเห็นผลชัดกว่าการใช้มาส์กครั้งแรก โดยการถ่ายภาพในค่าของกล้องที่เท่ากันแสงใกล้เคียงกันพบว่าภาพใบหน้าหลังการใช้มาส์กดูกระจ่างใสกว่าก่อนใช้อย่างสังเกตได้ โดยรวมแล้วผลที่ได้รับจากการมาส์กหน้าที่ทรายสัมผัสได้อย่างชัดเจนคือความชุ่มชื่นและสภาพผิวที่แข็งแรงไม่ไวต่อแดดเหมือนเก่าค่ะ ถ้าในระยะยาวใช้ตามคำแนะนำข้างกล่องว่าอาทิตย์ละ 2 ครั้ง คาดว่าน่าจะเห็นผลในส่วนของสภาพผิวที่ไม่กลับมาหมองคล้ำได้จ้า ขอทดลองต่อไปก่อนนะคะ

-----------------------------------------------------------------------------

สรุปการใช้ผลิตภัณฑ์ Neutrogena Fine Fairness :
หลังการใช้ผลิตภัณฑ์ Neutrogena Fine Fairness อย่างครบทุกขั้นตอนเช้า-เย็น ได้แก่.....
- หลังล้างหน้าใช้สำลีหยด Neutrogena Fine Fairness Toner ลงจนชุ่มแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ
- เมื่อเช็ดโทนเนอร์เรียบร้อยจึงตามด้วย Neutrogena Fine Fairness Essence ให้ทั่วใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณที่มีจุดด่างดำ
- บำรุงด้วย Neutrogena Fine Fairness Cream SPF 22 PA++
- หลังจากเสร็จขั้นตอนบำรุงก็ตามด้วยครีมกันแดด Neutrogena Fine Fairness Brightening UV Moisture SPF 50+ PA+++ ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ
- บำรุงผิวหน้าเป็นพิเศษด้วย Neutrogena Fine Fairness Deep Whitening Mask อาทิตย์ละสองครั้ง โดยไม่มาส์กทันทีหลังผิวเผชิญแดดมา แต่จะมาส์กหลังจากที่บำรุงปรับสภาพผิวมาแล้ว 2-3 วัน เพราะสภาพผิวหลังไหม้แดดอาจจะลอกแบบบอบบางได้ การมาส์กแบบเข้มข้นอาจจะก่อให้เกิดอาการแสบร้อนหรือแพ้ได้ค่ะ
เมื่อใช้ทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัดมาเป็นเวลาร่วมสองสัปดาห์ สภาพผิวที่ไหม้แดดทุเลาและหายไป ความหมองคล้ำและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอค่อยๆจากลงและดูกระจ่างใสขึ้นจนเท่ากับสภาพผิวปกติที่เราเคยขาวที่สุด โดยไม่มีอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ตัวใด สำหรับทรายแล้วถือว่าผลิตภัณฑ์ Whitening กลุ่มนี้เห็นผลค่อนข้างชัดเจนและใช้เวลาไม่นานนัก ถ้าผิวเกิดการสะสมหมองคล้ำมาเซตนี้ช่วยได้ค่อนข้างมากจ้า แต่ผลทั้งหมดคือการทดลองของทราย สำหรับผลการใช้ของสาวๆจะแพ้หรือจะเห็นผลหรือไม่ต้องเป็นการทดลองส่วนบุคคลจ้า ขอบคุณมากๆสำหรับการติดตามการรีวิวครั้งนี้ แล้วถ้ามีผลิตภัณฑ์อะไรแจ่มๆอีกจะทยอยเอามาแบ่งปันกันจ้า บ๊าย บาย ค่ะ ^________^




 

Create Date : 30 เมษายน 2553    
Last Update : 30 เมษายน 2553 15:59:12 น.
Counter : 11242 Pageviews.  

Review : Peach Miki Lip Scrub & Treatment

ปากแห้ง ปากแตก ปากลอก....ปัญหาทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับปากทรายมีหมดเลยแหะๆ เพราะว่าเป็นคนผิวแห้ง สภาพปากนี่แห้งยิ่งกว่าผิวมากเลย พออากาศเปลี่ยนหน่อย ปากทรายจะลอกหนัก ไม่ลอกเป็นขุยๆน๊า ลอกเป็นแผ่นๆเลย อยากบอกว่าชีวิตนี้ตามหาลิปบำรุงมาแสนแปด ลองมาแล้วทั้งถูกทั้งแพง วันนี้ได้ฤกษ์ขอมารีวิวหนึ่งในลิปบำรุงในกรุที่หยิบใช้บ่อยๆกันจ้า


ฮั่นแน่แปลกใจละซี่ทำไมมีสองหลอด เพราะมันคือ Lip Scrub & Lip Treatment นั่นเองจ้า


มาซูมๆกันชัดๆกับลิปบำรุงหลอดน่ารักๆกันมันคือ --->Peach Miki : Lip Scrub & Treatment นั่นเองจ้า บรรจุภัณฑ์เป็นหลอดขนาดน่าพก หลอดหนึ่งเป็น Lip Scrub ที่ใช้สครัปริมฝีปากขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วพวกหนังที่ลอกๆเป็นขุยๆหรือเป็นแผ่นๆ รวมทั้งคราบลิปสติกที่เราแอบขี้เกียจล้างแล้วมั
นสะสมอยู่บนริมฝีปากนั่นแหละจ้า ส่วนอีกหลอดหนึ่งคือ Lip Treatment ที่ใช้บำรุงเพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปากหลังจากสครัปเรียบร้อยแล้วจ้า


ขั้นตอนบำรุงก็แสนง่าย เริ่มกันเล้ยย
1. บีบ Peach Miki : Lip Scrub ออกมาเล็กน้อย กะให้พอดีกะปาก ทรายปากหนาขอเยอะนิดนึง 555 ลักษณะเนื้อสครัปจะมีกลิ่นแอปเปิ้ลหอมๆน่าหม่ำ ความแตกต่างจากลิปสครัปยี่ห้ออื่นคือ เม็ดสครัปละเอียดม๊ากกกก บีบออกมาทีแรกแอบตกใจว่าเค้าลืมใส่เม็ดสครัปมารึเปล่าหว่า แหะๆ แต่พอแตะๆให้ทั่วริมฝีปากแล้วเอานิ้วนวดสครัปลงบนริมฝีปากจะสัมผัสได้ถึงเม็ดสครัปที่ละเอียดๆ นวดเบาๆไปบนริมฝีปาก ไม่เจ็บ ไม่บาดปากเหมือนสครัปหลายๆยี่ห้อที่เคยลองมาจ้า แอบมีหลุดๆแตะโดนลิ้นบ้างขอบอกหวานๆน่าหม่ำง่า ^^
2. หลังจากสครัปเรียบร้อยแล้ว ทรายใช้สำลีชุดน้ำบีบให้หมาดๆ เช็ดเม็ดสครัปออก โดยการเช็ดเราจะเช็ดจากกึ่งกลางออกไปมุมปาก อย่าปาดไปปาดมาน๊า เดี๋ยวปากเหี่ยวหมดจ้า ^^ พอเช็ดออกลองเอานิ้วลูบๆดูพวกขุดๆบนริมฝีปากหายไปเกือบหมดเลยหล่ะ แต่ปากทรายมันไม่ได้เป็นขุยมันเป็นแผ่น ลอกแผ่นออกหมดไม่ได้มันแสบมั่กๆ
3. เมื่อขจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไปปากเราก็พร้อมรับการบำรุง โดยใช้ Peach Miki : Lip Treatment ที่กลิ่นหอมไม่แพ้ Lip Scrub ทาให้ทั่วริมฝีปาก เนื้อลิปเป็นฟิลม์บางๆเคลือบริมฝีปากไว้ ไม่เหนียวเหนอะหนะเพราะว่ามันไม่ใช่พวกลิปบาล์ม หรือลิปมัน Lip Treatment จะช่วยในการบำรุงมากกว่าการกักเก็บความชุ่มชื้น ด้วยความที่ทรายปากแห้งขั้นเทพ หลังจากลง Lip Treatment แล้วก็จะทาทับด้วยลิปมัน หรือปิโตรเลียมเจลอีกครั้งเพื่อกักเก็บความชุ่มชื่นไว้อีกชั้นหนึ่งจ้า


เปรียบเทียบ Before & After กันไปแบบจะๆ เห็นความแตกต่างอย่างร้ายแรง บางทีเราเน้นแต่การบำรุงแต่ไม่เคยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนริมฝีบาก การบำรุงที่เราทาลงไปจึงไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพได้เต็มที่ การสครัปจึงช่วยให้การบำรุงมีประสิทธิภาพดีขึ้นมากๆเลยจ้า สำหรับสาวปากแห้งมากๆอย่างทรายก็อย่าขยันสครัปมากนักน๊า ทำเว้นซักสามสี่วันจ้า ^^


หลังจากการลองใช้มาประมาณสองสัปดาห์ ร่องริมฝีปากตื้นขึ้น และอาการปากลอกลดน้อยลงพอสมควรเลยจ้า ถือเป็นลิปบำรุงอีกหนึ่งเซตที่ประทับใจจ้า ^^




 

Create Date : 15 เมษายน 2553    
Last Update : 15 เมษายน 2553 0:21:38 น.
Counter : 3751 Pageviews.  

Review : ZINNIBER C10 Whitening Treatment

วันนี้ขอรีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกับเค้าสักหน่อย ด้วยเหตุที่กว่าทรายไปลุยทะเลมาติดๆกันสองอาทิตย์ จบหัวหินต่อเสม็ด อิอิ หน้าหมองเป็นของลง เลยต้องหาอะไรมาช่วยบำรุงแบบเร่งด่วนสักหน่อย ผิวทั้งแห้งทั้งดำทั้งแสบ จากการศึกษาได้พบว่าวิตามิน C ช่วยเรื่องความกระจ่างใสเลยต้องขอหามาช่วยฟื้นฟูสภาพผิวซักหน่อย


เลือกไปเลือกมาได้เจ้าขวดนี้หล่า ^^


วิตามิน C ที่ทรายลองคือ ZINNIBER C10 Whitening Treatment จ้า เป็นวิตามิน C บริสุทธิ์ในรูปของซีรั่มที่แยกบรรจุขวดเล็กๆทึบแสงให้เปิดใช้ได้ทีละขวดโดยไม่ต้องกลัวว่าคุณค่าจากวิตามิน C จะเสื่อมสภาพก่อนจะใช้หมดค่ะ


ลักษณะของวิตามิน C ของ ZINNIBER จะอยู่ในรูปของซีรัมใสๆ เวลาใช้ก็บีบออกจากขวด ไม่ต้องกลัวหก ถ้าไม่บีบขวดมันจะไม่เทพรวดออกมาจ้า บีบออกมาปริมาณไม่ต้องมากกะแค่ทาได้ทั่วใบหน้า ทาเช้า-เย็นก่อนทาครีมบำรุงปกติ เนื้อซีรัมซึมเร็วม๊ากกกก ไม่มัน ไม่เหนียว สาวผิวมันไม่ต้องห่วงเลยจ้า สำหรับผิวแห้งๆแบบทรายก็ไม่ทำให้ผิวแห้งเพิ่มขึ้นจ้า หนึ่งขวดเล็กสำหรับทรายใช้ได้หลายอาทิตย์เลยจ้า


หลังจากใช้มาสองอาทิตย์สังเกตได้ชัดสุดคือหน้าที่หมองๆจากการตากแดดดูทุเลา กระจ่างใสขึ้น และพื้นผิวดูแข็งแรงขึ้น แต่เรื่องกระทรายเกิดจากกรรมพันธุ์คงจะหมดปัญญารักษา ส่วนผลระยะยาวขอลองต่อไปเรื่อยๆก่อนนะค๊า แต่ถามว่าชอบไม๊ ก็ตอบได้เลยว่าชอบมั่กๆ เอาไว้ฟื้นฟูสภาพผิวเวลาผิวอ่อนแอได้เวิร์คมากมายเลยจ้า ^_____^




 

Create Date : 15 เมษายน 2553    
Last Update : 15 เมษายน 2553 0:12:03 น.
Counter : 3249 Pageviews.  

Review : แกะของขวัญวันเกิดไอ้หมูกันจ้า ^-^

................เย้เข้าวันใหม่ของวันที่ 3 พ.ย. เพราะเลยเที่ยงคืนมาแล้ว อิอิ ไอ้หมูก็อายุเพิ่มมาอีกปี ไม่อยากจะนับเล้ยยย 22 ขวบแล้วง่า วันเกิดวันนี้เป็นวันเกิดที่ทรายมีความสุขมากๆอีกหนึ่งวันในชีวิต เลยขอขี้เห่อมาเล่าให้สาวๆฟังกันซักหน่อย อิอิ

................เลยเที่ยงคืนมาได้ไม่นานทรายก็ได้รับกล่องของขวัญใบย่อมๆจากคุณแฟน แหมแอบทำเนียนนิ่งๆมาได้ตั้งนาน ฮี่ๆ เขิลล์อ้ะ เป็นกล่องห่อด้วยกระดาษสองชั้น ชั้นในเป็นกระดาษสีขาวแล้วห่อทับด้วยกระดาษสาลายดอกไม้น่ารัก ผูกริบบิ้นผ้าสีขาว ที่ชมว่าน่าร๊ากกกกที่สุดเพราะว่าเป็นฝีมือคุณแฟนห่อเองนี่หล่ะจ้า ผู้ชายคนหนึ่งมานั่งพิถีพิถันห่อนี่มันน่าร๊ากกจริงๆอยากเห็นตอนเค้าห่อที่ซู้ดดดด มาดูหน้าตาของกล่องของขวัญที่น่ารักที่สุดกันดีกว่าน๊า............(แอบแกะแง้มๆให้ช่วยกันลุ้นด้วย คิคิ)

................ตื่นเต้นๆๆจางเลยยย พอเปิดออกมาเท่านั้นนนน....................เป็น ๆ ๆ ......

............กรี้ดดดดด แป้งฝุ่น "Impress" พร้อมตลับค่า โอยยยสุดยอดดดคุณแฟนทำไปได้ ราคามันมหาโหด ทรายก็เลยถามเค้าว่าไปเลือกมาได้ไงเนี่ย เค้าบอกได้ยินทรายพูดถึงตอนอ่านในจีบันว่าเป็นแป้งเทพ เค้าก็เลยไปเสิร์ซหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมาว่าหน้าตาเป็นแบบไหน รุ่นไหนแล้วก็ทำการซื้อมาให้ก่อนวันเกิดนานแล้ว อ่าโหสุดยอดจริงๆเลยผู้ชายคนนี้ อิอิ หลายคนเห็นภาพที่คุณแฟนทรายถ่ายให้อยากเห็นหน้าเห็นตากันอยากบอกว่าคุณแฟนไม่ค่อยจะยอมถ่ายรูปด้วยเลย นอกจากบังคับถ่ายกะกล้องมือถือ วันนี้เลยขอเอารูปคุณแฟนสุดที่ร๊ากกกมาให้สาวๆชมกันนะจ๊า...........

..............อยากบอกว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ชายที่ดี หรือ หล่อที่สุดในโลก แต่เป็นผู้ชายที่ทรายรักที่สุดในโลกรองจากป๊าและแม่ค่ะ เกือบ 7 ปีที่คบกันมา แคมป์ดูแลทรายมาตลอด เสมอต้นเสมอปลายไม่เคยเปลี่ยนแปลง "ขอบคุณนะคะ" วันเกิดปีนี้แคมป์คือของขวัญที่ดีที่สุดของเค้าน๊า ขอให้เราอยู่กันแบบนี้ตลอดไปจ้า

............ไหนๆก็จะเห่อแล้วบังเอิญจริงๆว่าทรายกะคุณแฟนเกิดห่างกันแค่อาทิตย์เดียว ในโรงพยาบาลเดียวกันด้วย ตอนเด็กๆบ้านก็อยู่ใกล้ๆกันแต่ไม่รู้เรื่องเล้ยยย อิอิ ก็เลยมาขอเห่อของขวัญวันเกิดคุณแฟนที่ทรายให้ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน วันที่ 27 ต.ค. ด้วยละกันน๊า

.............ของขวัญปีนี้ทรายเลือกเป็นนาฬิกาข้อมือของ Alba เรือนบะเริ่มให้เป็นของขวัญวันเกิด เพราะคุณแฟนทรายเป็นคนติดนาฬิกา ใส่ติดตัวตลอดเวลา ใช้ทีละเรือนไม่ซื้อทีหลายเรือน เห็นเรือนเก่าเค้าใช้มาหลายปีแล้วก็เลยได้ฤกษ์เปลี่ยนให้จั๊กที อิอิ แม้มันจะไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร แต่ว่าเราให้กันด้วยใจ ความใส่ใจกันและกัน สำหรับทรายถือเป็นสิ่งมีค่าที่สุดค่ะ

----------------ภาพรวมของขวัญวันเกิดของเราทั้งสองคนปีนี้จ้า-----------------
...............เดี๋ยววันพรุ่งนี้ทรายจะไปแอบสวีทนั่งทานดินเนอร์บนเรือเจ้าพระยาปรินท์เซส แล้วจะเก็บภาพมาฝากนะจ๊า ฮี่ๆ

...............แต่ที่จะลืมไม่ได้คือพรุ่งนี้ทรายจะโทรไปขอบคุณป๊ากับแม่ที่ให้ทรายให้เกิดมาและเลี้ยงทรายมาจนอายุเท่านี้ ขอบคุณป๊ากับแม่มากๆนะคะ รักป๊ากับแม่จ้า สาวๆทุกคนฉลองวันเกิดกันแล้วอย่าลืมกลับไปขอบคุณคุณพ่อและคุณแม่นะจ๊า วันที่เรามีความสุขกับเพื่อนที่สุด คือวันที่แม่เจ็บตอนคลอดเราที่สุดน๊า ^-^


*************ขอบคุณสาวๆทุกคนที่เข้ามาอวยพรวันเกิดให้ทรายล่วงหน้านะจ๊า***********
*********ขอบคุณค่า********font>




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2551 3:00:10 น.
Counter : 3453 Pageviews.  

Review : เปรียบเทียบ BB Mistine กับ รองพื้น จ้า

............แหะๆแอบติดใจการทำรีวิวเมื่อวานก่อนก็เพิ่งรีวิวไป วันนี้ขอมารีวิวอีกนิดนะจ๊า พอดีได้เจอของดีราคาถูกที่ประทับใจเลยอยากเอามาแบ่งปันให้สาวๆได้ทราบกันจ้า แต่คาดว่าสาวๆหลายคนคงทราบแล้วเพราะกระแสแรงมาก อิอิ จะเป็นอะไรไปไม่ได้ก็คือ "Mistine BB Wonder Cream" นั่นเองจ้า เห็นมีหลายคนมารีวิวไว้บ้างแล้ว คราวนี้เลยขอมารีวิวแบบเปรียบเทียบให้ดูละกันนะค๊าจะได้เห็นความแตกต่าง ครั้งนี้ทรายเน้นให้เห็นความแตกต่างในการปกปิดระหว่าง BB กับ รองพื้น ให้ได้เห็นความแตกต่าง มาดูศึกการปะทะรอบนี้กันดีกว่าว่าเป็นใครเจอกับใคร อิอิ


ฝั่งซ้าย Mistine BB Wonder Cream เจอกับ ฝั่งขวา Paul&Joe Light Cream Foundation จ้า

เนื่องมาจาก BB คือ เบส + รองพื้น + บำรุง ดังนั้นประสิทธิภาพในการปกปิดย่อมต้องน้อยกว่ารองพื้น ดังที่จะได้ชมในภาพการเปรียบเทียบด้านล่างนะค๊า แต่ BB จะช่วยขับผิวให้ดูผ่องและสามารถใช้ได้กับทุกสีผิว เพราะเมื่อ BB เซตตัวกลืนเข้ากับสีผิวของแต่ละคนค่ะ แต่เนื่องมาจาก BB Mistine สีค่อนข้างเข้มและทรายต้องการความวิ้งจึงผสม Glossy Lotree เข้าไปนิดหน่อยนะค๊า ส่วน Paul&Joe ลงเพรียวๆเลยค่าภาพจากตอนรีวิวเมื่อคราวก่อนตามลิงค์นี้ ----> //www.jeban.com/viewtopic.php?t=19921 ไม่มีการลงเบสอะไรก่อนลง Paul&Joe นะคะ ตามด้วยแป้งฝุ่นทั้งสองอันเลยค่ะ ส่วนความวาวที่เห็นเกิดจากบรัชปัดแก้มจ้า มาดูภาพเปรียบเทียบกันเลยค่า


..........มาดูกันแบบจะๆ สาวๆหลายคนมาชมว่าทรายผิวดี เลยเอาภาพ BeforE มาให้ไขข้อข้องใจว่าผิวทรายมิได้ดีเลยค่า แต่เมคอัพมันดี 555 ทรายเป็นคนที่มีกระเยอะเนื่องจากกรรมพันธุ์ ทั้งกระธรรมดาและกระเนื้อ รักษาก็มิหายเพราะว่าเป็นกรรมพันธุ์จ้า แต่ฟ้าก็ไม่กลั่นแกล้งซะทีเดียวยังดีตรงที่ทรายไม่เป็นสิว จึงไม่ค่อยมีปัญหาเวลาลงเบสหรือรองพื้นค่ะ มาเปรียบเทียบกันเลยน๊า

Mistine BB Wonder Cream :
ความเนียนและการปกปิดอยู่ระดับกลางนะค๊า ไม่ปกปิดทั้งหมดแต่ก็สามารถทำให้รอยกระและขี้แมลงวันด้านข้างแก้มจางลง แต่ว่าชนะรองพื้นตรงความบางเบา รู้สึกไม่หนักหน้าและสำหรับทราย BB ราคาประหยัดตัวนี้ก็ทนทานเช้าจรดเย็นเลยค่ะ วันนี้แต่งตอนบ่ายยันดึกไม่ได้เติมแป้งก็ยังคงผ่องเด้งอยู่ แต่หลายคนที่ประสบปัญหาว่า BB ตัวนี้สีเข้มก็สามารถผสมเบสตัวอื่นเพื่อเจือจางให้สีอ่อนลงได้นะค๊า ทรายว่า BB ตัวนี้คงเป็นทางเลือกที่ดีให้กับสาวๆหลายท่านได้จ้า เมื่อเทียบราคากับคุณภาพแล้วก็ต้องให้ 10/10 ไปเลยจ้า

Paul & Joe Light Cream Foundation :
ความเนียนและการปกปิดชนะเลิศค่า ไม่ต้องบรรยายเพราะภาพมันฟ้อง 555 รอยกระที่มีหลายเกลี้ยงค่า ทรายไม่ได้ลองคอนซีลเลอร์ปกปิดพวกรอยกระเลย ที่เห็นนี่เกิดจากการปกปิดของรองพื้นล้วนๆเลยจ้า สำหรับทราย ทรายว่ามันปกปิดได้ดีแต่ยังคงความเป็นผิวของเราได้อยู่นะคะ ไม่หนา ไม่เว่อร์ แต่แพ้ BB ตรงที่มันหนักหน้าค่ะ และเนื่องจากเป็นเนื้อครีม ทรายว่าอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนหน้ามันมาก แต่สำหรับทรายเวิร์คค่ะ



.............เอ๊ะแต่เปรียบเทียบแบบนี้กลัวสาวๆจะเอนเอียงไปทางรองพื้น ไม่ได้ๆเดี๋ยวผิดคอนเซปต์ เอาภาพวันนี้ที่เพิ่งถ่ายตอนตีสองมาให้ดูค่า แต่งหน้าตั้งกะบ่าย ไม่ได้เติมแป้ง โอ้แม่เจ้า เด้งค่ะเด้ง BB Mistine ทำได้จริงๆน๊า เห็นไม๊ล่ะค๊าว่า ของดีราคาประหยัดยังมี อิอิ (ทรายซื้อมา 99.- แต่เห็นบางที่ถูกกว่านี้น๊า) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของไทยก็มีคุณภาพนะจ๊ะ เพียงแค่เรารู้จักเลือกรู้จักใช้สิ่งที่เหมาะกับตัวเอง มีสติในการเลือกซื้อของ สาวๆจะได้มีเงินเหลือเก็บกันนะจ๊า อ้อแถมรายละเอียดนิดนึงค่ะ....

Skin : BB Mistine + Glossy Lotree + แป้งฝุ่น LM Translucent
Eyeshadow : สีม่วงน้ำน้ำตาลจากพาเลท 88 Ultra Shimmer
Eyeliner : in2it สีม่วง Maroon
Blush : L'Oreal สี Rosy Cheeks
Lip : ไม่ได้ทาอะไรจ้าสีปากธรรมชาติค่ะ (ปากห้อยซะเซงๆๆ)

ปล.ท่องไว้นะค๊า -----> ไม่มีผลิตภัณฑ์ชิ้นใดในโลกใช้ดีกับทุกคน เพราะฉะนั้นทั้งหมดเกิดจากการทดลองของทรายไม่ได้หมายความว่าจะดีสำหรับสาวๆทุกคนค่า
ปล.2 ภาพทั้งหมดถ่ายด้วย Nikon D80 + 85 mm f1.8 + Flash SB800 จ้า จะได้ไม่ต้องตอบสาวๆทีหลังเพราะเป็นคำถามที่มีทุกครั้งที่ตั้งกระทู้เลยค่า ขอบคุณคุณแฟนแสนใจดีสำหรับภาพสวยๆน๊า




 

Create Date : 18 กันยายน 2551    
Last Update : 18 กันยายน 2551 4:27:59 น.
Counter : 5770 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]




..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน
http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้
ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!

---------------------------------------------------------

hits
New Comments
Friends' blogs
[Add SaRaY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.