Review : ผิวสวยสู้แดดกับ Neutrogena Fine Fairness กันจ้า ^___^
สวัสดีค่ะสาวๆทุกคน เข้าสู่ Summer กันแบบร้อนสุดๆ ด้วยอุณภูมิที่พุ่งขึ้นอย่างน่ากลัว แต่ความสนุกของหน้าร้อนก็คือกิจกรรมกลางแจ้ง ท้าแดด อวดผิวกันใช่ไม๊ล่า เพราะฉะนั้นปัญหาที่จะมากับแดดร้อนๆก็คือปัญหาเรื่องสภาพผิวหมองคล้ำเนื่องจากการเผชิญกับรังสี UV สงกรานต์ที่ผ่านมาทรายก็เจอเข้าไปเต็มๆเหมือนกันค่ะ ลุยเล่นน้ำตั้งแต่เช้ายันเย็น กลับมาบ้านอยากจะเป็นลม หน้าหมองเหมือนของลงมากๆ ผิวไหม้แดดเป็นด่างๆเลย นี่ขนาดทากันแดดก่อนออกไปแล้วน๊า แต่อย่างว่าโดนน้ำสาดเอาสาดเอาจะไปรอดเรอะ แหะๆ เห็นสภาพผิวตัวเองมันไม่ไหวแล้วต้องเริ่มฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง จากเดิมบำรุงผิวธรรมดาเน้นมอยส์เจอร์เลยต้องหันมาสนใจในกลุ่ม Whitening บ้างแล้ว เลยเป็นที่มาของรีวิวสกินแคร์ในเซ็ตของ Neutrogena Fine Fairness เซตนี้จ้า อยากให้ผิวกลับมาโดยเร็วก็ต้องลองใช้ทั้งเซตให้ครบขั้นตอนมาดูทีละขั้นกันเลยผลิตภัณฑ์แต่ละตัวเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------
1. Neutrogena Fine Fairness Toner คำอธิบายผลิตภัณฑ์ ปรับสภาพผิวให้สะอาดดูกระจ่างใส และพร้อมรับการบำรุง ผลลัพธ์ที่รู้สึกได้จริง ปรับสภาพผิวให้สะอาดดูกระจ่างใส และ พร้อมรับการบำรุงด้วยไวท์เทนนิ่งอย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณสมบัติที่แตกต่าง จากนูโทรจีนา -ไวท์เทนนิ่ง โทนเนอร์เพื่อทำความสะอาดผิวอย่างหมดจด พร้อมส่งมอบ ไวท์เทนนิ่ง เอเจนท์ (Whitening Agents) วิตามินซี และเอสเซนเชียล ซอย (Essential Soy) เข้าสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ - คืนความนุ่มชุ่มชื่นสู่ผิว พร้อมปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการบำรุงผิวขาวกระจ่างใสในขั้นตอนต่อไป
****************ผลการทดลองใช้ By Mhunoiii*********************
ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : โทนเนอร์เป็นน้ำใสๆสีขาวขุ่นเล็กน้อย มีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนกลิ่นพวกซิตรัสจางๆ บรรจุในขวดพลาสติกแข็งสีขาวทึบแสงซึ่งดีต่อการป้องกันการเสื่อมของผลิตภัณฑ์จ้า
ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : หยดโทนเนอร์ลงบนสำลีแผ่นให้ชุ่มกำลังดี ชุ่มมาก ชุ่มน้อยกะเอาได้ตามชอบจ้า จากนั้นก็เช็ดให้ทั่วใบหน้าโดยการเช็ดจากกลางใบหน้าออกด้านนอก และปาดขึ้น เพื่อช่วยยกกระชับผิวไปในตัว และไม่ลืมที่จะเช็ดบริเวณลำคอด้วยนะคะ เมื่อเช็ดโทนเนอร์ไปบนผิวสัมผัสได้เลยถึงความเย็นสดชื่น สำหรับทรายอาจมีแสบน้อยๆบริเวณปีกจมูกบ้างแต่ว่าไม่แพ้หรือเป็นอันตรายแต่อย่างใดค่ะ ใช้ต่อเนื่องมาผิวก็ไม่มีอาการลอก ดังนั้นอาการนี้ถือว่าปกติจ้า หลังเช็ดครบทั้งหน้ามาพลิกๆสำลีดู โอ้แม่เจ้า!!! บนสำลีจะมีคราบติดออกมา ล้างหน้าเราก็ล้างเกลี้ยงแล้ว คาดว่าเจ้าโทนเนอร์ตัวนี้คงช่วยเช็ดในส่วนของเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกมาด้วย มิน่าเช็ดแล้วรู้สึกสะอาดขึ้นอีกเท่าตัว สัมผัสผิวหน้าหลังเช็ดโทนเนอร์ไม่แห้งตึงและไม่เหนอะหนะ แต่จะรู้สึกเหมือนมีฟิลม์บางๆเคลือบผิวไว้ค่ะ ทรายเลิฟเจ้าโทนเนอร์ตัวนี้ตรงกลิ่นสดชื่นเบาๆและความเย็นๆและเบาสบายผิวนี่หล่ะเหมาะกับอากาศร้อนๆของ Summer ที่ซู้ดดด
ผลการใช้ผลิตภัณฑ์ : ทรายใช้หลังล้างหน้าก่อนลงครีมบำรุงทุกครั้งพบว่าหลังการใช้จะสัมผัสได้ทันทีว่าใบหน้านุ่มขึ้น และรู้สึกถึงความกระจ่างใสขึ้นเพราะมันช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งตกค้างบนหน้าออกอีกรอบหนึ่งหลังจากเราล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ เรื่องความขาวกระจ่างใสขึ้นแบบชัดๆทรายว่าจะได้จากกลุ่มตัวบำรุงมากกว่าแต่ที่แปลกใจและสังเกตได้คือก่อนหน้าที่ทรายรู้สึกว่าตัวเองผิวแห้งเลยไม่ใช้โทนเนอร์ แต่พอมาใช้ Neutrogena Fine Fairness Toner ตัวนี้แปลกใจกับปริมาณสิวเสี้ยนบริเวณจมูกที่ลดลงค่อนข้างมาก ถือว่าเป็นผลลัพธ์ทางอ้อมที่แจ่มจริงๆจ้า -----------------------------------------------------------------------------
2. Neutrogena Fine Fairness Essence คำอธิบายผลิตภัณฑ์ ปรับผิวให้แลดูกระจ่างใสสม่ำเสมอ เต็มประสิทธิภาพตรงจุดเพื่อลดเลือนบริเวณจุดด่างดำ คุณสมบัติที่แตกต่าง จากนูโทรจีนา - สมาร์ท ไวท์เทนนิ่ง แอคชั่น (Smart Whitening Action) จากนูโทรจีนา ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปรับสภาพผิวเป็นพิเศษโดยเฉพาะบริเวณจุดด่างดำ จึงทำให้ดูกระจ่างใสและเนียนเรียบสม่ำเสมอยิ่งขึ้นทั่วทั้งใบหน้า สูตรลิขสิทธิ์เฉพาะของนูโทรจีนา - วิตามินซี (AA2G) ช่วยลดการเกิดจุดด่างดำ และเซลล์ผิวหมองคล้ำ - เรตินอล ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น - แอนตี้ ออกซิแดนท์ ที่ช่วยลดปัญหาผิวอันเกิดจากอนุมูลอิสระ
****************ผลการทดลองใช้ By Mhunoiii*********************
ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : เนื้อเอสเซนส์เป็นสีเหลืองครีมอ่อนๆ ไม่ข้นและไม่เหลวมาก ไม่มีกลิ่น บรรจุในหลอดอลูมิเนียม-พลาสติกสีขาวขุ่นทึบแสงที่บีบง่ายและปกป้องเอสเซนส์สัมผัสแสงแดดและอากาศได้ดี
ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : หลังจากล้างหน้า เช็ดด้วยโทนเนอร์ ทรายก็จะลงเอสเซนส์ก่อนที่จะลงครีมบำรุง เอสเซนส์ตัวนี้ถือว่ามีความเข้มข้นมากกว่าหลายๆยี่ห้อที่เคยทดลองใช้มา เข้มข้นแต่ว่าเนื้อลื่นสามารถเกลี่ยลงบนผิวได้โดยง่าย ไม่มีน้ำมัน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ ความสามารถในการซึมบนผิวค่อนข้างดีมาก เกลี่ยแล้วซึมเลยไม่ทิ้งคราบมันบนใบหน้าเพราะเป็น Oil Free ทาปุ๊บสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื่นและผิวจะดูนุ่มๆด้วยค่ะ สำหรับทรายมีแสบนิดๆบริเวณปีกจมูกแต่ว่าก็ไม่ลอกไม่ขึ้นผด แปลว่าไม่ได้แพ้แต่อย่างใดจ้า
ผลการใช้ผลิตภัณฑ์ : เอสเซนส์ตัวนี้เน้นในเรื่องการลดเลือนจุดด่างดำ ซึ่งในส่วนของจุดด่างดำที่เกิดจากการใหม้แดดของทรายจากตอนเล่นสงกรานต์ก็ดูจางลงจริงๆค่ะ ในส่วนที่สีผิวดูไม่สม่ำเสมอดูดีขึ้นเยอะ แต่รอยกระที่เกิดจากกรรมพันธุ์ก็ปลงๆกันไป ทำไงก็ไม่หายอยู่แล้ว ก็แม่ให้มานิเนอะ ชอบเอสเซนส์ตัวนี้ตรงความชุ่มชื่นแบบสบายผิว โดยให้การบำรุงอย่างครบถ้วน ซึ่งทรายใช้ทาให้คุณแฟนแทนครีมบำรุงไปเลย เพราะคุณแฟนผิวมันและไม่ชอบทาครีมบำรุงด้วยเหตุผลว่ามันหนักหน้า แต่เอสเซนส์ตัวนี้เบาๆทาแล้วไม่เหนอะไม่หนัก ไม่มัน สำหรับคนผิวมันก็ใช้ทาแทนครีมบำรุงทั่วไปได้เลยจ้า
-----------------------------------------------------------------------------
3. Neutrogena Fine Fairness Cream SPF 22 PA++ คำอธิบายผลิตภัณฑ์ ไวท์เทนนิ่งครีมที่ช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส จุดด่างดำดูลดเลือน ผลลัพธ์ที่รู้สึกได้จริง จัดการครอบคลุมทั้ง 8 ปัญหาสาเหตุของผิวหมองคล้ำ เพื่อให้ผิวดูสว่างกระจ่างใสสม่ำเสมอ และจุดด่างดำแลดูลดเลือน คุณสมบัติที่แตกต่าง จากนูโทรจีนา ไวท์เทนนิ่งโลชั่นที่ช่วยปกป้องผิวจาก สาเหตุของความหมองคล้ำอย่างตรงจุด ด้วย 2 ประสิทธิภาพเพื่อผิวสว่างใสยาวนาน - Healthy White Complex ลิขสิทธิ์เฉพาะจากนูโทรจีนา ด้วยส่วนผสมของเอสเซนเชียลซอย (Essential Soy) และวิตามินซี ซึมซาบลึกถึงเซลล์ผิวชั้นเอพิเดอร์มิส ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมจุดด่างดำแลดูจางลง - SPF 22 ปกป้องผิวจาก UVB สาเหตของความหมองคล้ำ และ PA+++ ป้องกันรังสี UVA ให้ผิวกระจ่างใสห่างไกลริ้วรอยและจุดด่างดำ - เนื้อโลชั่นบางเบา สูตรปราศจากน้ำมัน เหมาะสำหรับผิวแห้ง
****************ผลการทดลองใช้ By Mhunoiii*********************
ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : เป็นเนื้อครีมสีขาว มีกลิ่นหอมเบาๆ แต่กลิ่นอาจจะแรงกว่าแบบโลชั่นนิดหน่อย บรรจุในกระปุกพลาสติกซ้อนสองชั้น โดยชั้นนอกเป็นใสๆ และชั้นในเป็นสีขาวขุ่น มีฝาปิดซ้อนสองชั้น ชั้นนอกเป็นฝาเกลียวสีเงิน และชั้นในเป็นฝาพลาสติกกลมสีขาว ซึ่งในส่วนของฝาด้านในอาจจะหลวมเล็กน้อยถ้าวางไว้กับบ้านเฉยๆก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าพกพาแล้วมีการกลิ้งของกระปุกอาจจะทำให้ฝาด้านในเลอะเนื้อครีมแล้วติดขึ้นมากับฝาเกลียวสีเงินบ้างจ้า
ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : แม้จะเป็นเนื้อครีมที่เหมาะสำหรับผิวแห้งแต่ก็ยังคงความเป็น Oil Free ไว้เพราะผิวแห้งคือผิวขาดน้ำมิใช้ผิวขาดน้ำมันแต่อย่างใด ดังนั้นลักษณะของเนื้อครีมจึงเข้มข้นแต่ไม่มัน ครีมมีความหนืดน้อย เมื่อเกลี่ยลงบนผิวจึงซึมได้ง่ายมากมาย แต่รู้สึกได้ถึงความเข้มข้นที่แตกต่างจากเนื้อโลชั่น การเคลือบผิวของเนื้อครีมมีมากกว่าเนื้อโลชั่น สำหรับสาวผิวแห้งอย่างทรายมันไม่ได้หนักหรือทำให้ไม่สบายผิวแต่อย่างใดค่ะ แต่สำหรับคนผิวมันอาจจะรู้สึกหนักๆหน้าบ้างเล็กน้อย หลังทาผิวจะนุ่มและชุ่มชื่นขึ้นแต่ไม่มีความมัน ในหน้าร้อนนี้ทรายเลยใช้ตัวโลชั่นทากลางวัน และใช้เนื้อครีมทาตอนเย็น เพราะทรายนอนแอร์ เนื้อครีมจะเก็บกักความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดีกว่าจ้า
ผลการใช้ผลิตภัณฑ์ : สภาพผิวทรายคือผิวแห้ง ครีมตัวนี้ช่วยเติมความชุ่มชื่นได้ดีและไม่ทิ้งคราบมัน แม้จะใช้ในเวลากลางวันที่อากาศร้อนก็ตาม ตัวครีมผสมสารกันแดดสำหรับวันที่ไม่ได้ออกไปเผชิญแดดที่ไหน ทาครีมตัวนี้แล้วไม่ตามด้วยกันแดดก็ไม่ต้องกลัวหน้าหมองคล้ำแล้วจ้า ผลที่สังเกตได้คือการฟื้นฟูสภาพผิวที่ไหม้แดดดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ความหมองคล้ำเริ่มจางลงดูกระจ่างใสขึ้นจ้า
-----------------------------------------------------------------------------
4. Neutrogena Fine Fairness Brightening UV Moisture SPF 50+ PA+++ คำอธิบายผลิตภัณฑ์ ดูแลด้วยไวท์เทนนิ่งดีแค่ไหนก็คล้ำได้อีก ถ้าไม่ปกป้องผิวจากแสงแดดเต็มประสิทธิภาพ ผลวิจัยระบุว่า สารกันแดดมักจะเสื่อมประสิทธิภาพลงเมื่อโดนแดด ทำให้ผิวกลับมาหมองคล้ำอีก นูโทรจีนา จึงค้นพบความแตกต่างที่เหนือกว่าด้วย Helioplex เทคโนโลยีที่ทำให้สารกันแดดทนต่อความเสื่อม จึงปกป้องผิวได้ดียิ่งขึ้นถึง 3 ประสิทธิภาพ - SPF 50+ ป้องกันผิวหมองคล้ำจากรังสี UVB - PA+++ ป้องกันริ้วรอยก่อนวัยและจุดด่างดำ จากรังสี UVA - Photostability ป้องกันแสงแดดได้ยาวนาน โดยประสิทธิภาพไม่ลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเผชิญแดด
****************ผลการทดลองใช้ By Mhunoiii*********************
ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : เป็นเนื้อครีมสีขาว มีกลิ่นเหมือนจางๆ เหมือนในกลุ่มตัวบำรุงอื่นๆในไลน์นี้ บรรจุในหลอดพลาสติกสีขาวแข็งทึบแสง ปลายหลอดเป็นปลายแหลมมีรูบีบให้ครีมออกไม่กว้างมากนัก กะปริมาณเองจากการบีบ เนื่องจากเป็นหลอดพลาสติกแข็งการบีบอาจจะลำบากเล็กน้อย จึงแนะนำให้วางหลอดคว่ำเอาปากลงลงไว้ เวลาใช้ก็เขย่าเคาะกับฝ่ามือเบาๆครีมกันแดดจะไหลอยู่ที่ปากหลอดและบีบได้ง่ายขึ้นจ้า
ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : เนื้อกันแดดข้นแต่เกลี่ยง่าย มีความสามารถในการซึมผิวได้ดีถึงดีมาก แม้จะเป็นเนื้อกันแดดสีขาวแต่เกลี่ยแล้วเนื้อครีมกันแดดซึมกลืนลงไปกับผิวไม่ทำให้หน้าวอกเลยค่ะ เกลี่ยแล้วผิวจะดูนวลๆไม่มันไม่เป็นขุย ใช้เวลาในการเซตตัวเข้ากับใบหน้าไม่นาน ลองเทสกับหน้าคุณแฟนที่ผิวมันมากๆ คุณแฟนก็บอกว่ารู้สึกว่ามีไรเคลือบๆผิวแต่ไม่รู้สึกว่ามันเพราะกันแดดตัวนี้ Oil Free ทาแล้วไม่ทาแป้งทับก็ดูไม่เยิ้มไม่วาว และสำหรับทรายใช้ทาก่อนเมคอัพระหว่างวันก็ไม่ขึ้นขุย และไม่เป็นคราบเลยจ้า
ผลการใช้ผลิตภัณฑ์ : ปกติเป็นคนติดกันแดดและลองใช้กันแดดมาเยอะม๊ากกก เทียบกับหลายๆยี่ห้อแล้วจัดให้เป็นกันแดดที่เลิฟมั่กๆตัวหนึ่งเลยค่ะ ปกติครีมกันแดดจะเน้นประสิทธิภาพในการกันรังสี UV เพียงอย่างเดียวแต่ Neutrogena Fine Fairness Brightening UV Moisture SPF 50+ PA+++ ในกันแดดที่อยู่ในกลุ่ม Moisture ที่ช่วยบำรุงไปในตัว และจากสภาพผิวของทรายที่เป็นผิวแห้ง การได้รับการบำรุงเพิ่มในขั้นกันแดดจึงช่วยให้สภาพผิวแข็งแรงขึ้นแม้จะต้องเผชิญกับแสงแดด และด้วยเทคโนโลยีใหม่ของกันแดดตัวนี้ที่ช่วยให้สารกันแดดเสื่อมสภาพได้ช้าลงจึงทำให้เรามั่นใจขึ้นว่าทาก่อนเมคอัพรอบเดียวมันจะคงทนได้นานกว่ายี่ห้ออื่น แม้เราจะทราบๆกันดีว่ากันแดดต้องทาซ้ำทุก 3-4 ช.ม. แต่ผู้หญิงที่แต่งหน้าใครจะล้างเมคอัพแล้วทากันแดดใหม่ระหว่างวันจริงไม๊คะ ดังนั้นกันแดดที่คงทนต่อการเสื่อมสภาพเมื่อโดนแดดได้มากกว่าจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย และด้วยผลทาง Cosmetic ที่ไม่วอก ไม่ลอย ไม่มันเยิ้ม น่าจะถือเป็นกันแดดตัวหนึ่งที่น่าใช้สำหรับสาวๆที่รักการเมคอัพ สำหรับทรายได้ทดลองทาในวันที่ออกไปสู้แดดมาทั้งวัน ก็พบกว่าหน้าไม่หมองคล้ำ และรอยกระที่เกิดจากกรรมพันธ์ก็ไม่เข้มขึ้น แม้กระจะไม่หมดไปแต่เราสามารถควบคุมให้ไม่เข้มขึ้นได้ด้วยการทากันแดดนี่หล่ะค่ะ และถ้าวันไหนไม่มีเวลาหรือไม่สะดวกพกพาครีมบำรุงมากมาย การทาครีมกันแดดที่เป็นทั้งมอยซ์เจอร์และกันแดดในตัวเดียวก็ช่วยให้ผิวหน้าได้รับความชุ่มชื่นพร้อมต้านแดดได้ในครั้งเดียวค่ะ เทียบกับราคาที่ไม่สูงมากแล้ว ยกให้ว่ากันแดดตัวนี้คุ้ม !!! จ้า เลิฟที่สุดในบรรดากลุ่ม Fine Fairness เลยค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------
5. Neutrogena Fine Fairness Deep Whitening Mask คำอธิบายผลิตภัณฑ์ ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ผลลัพธ์ที่รู้สึกได้จริง ผิวดูกระจ่างใส ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ผิวไม่กลับมาหมองคล้ำอีกเมื่อใช้เป็นประจำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง คุณสมบัติที่แตกต่าง จากนูโทรจีนา - ด้วย นวัตกรรม 14,000 ไมโครโฮลส์ (14,000 Micro Holes) ช่องว่างเล็กๆระหว่างเส้นใยบนแผ่นมาส์คที่ช่วยส่งผ่านอาหารผิวเพื่อตรงเข้าบำรุงได้ล้ำลึกกว่า - Healthy White Complex ส่วนผสมลิขสิทธิ์เฉพาะจากนูโทรจีนา ที่ซึมเข้าผิวอย่างล้ำลึกเพื่อแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำที่ต้นเหตุ ลดเลือนจุดด่างดำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับให้ผิวกระจ่างใสสม่ำเสมอทั่วใบหน้า
****************ผลการทดลองใช้ By Mhunoiii*********************
ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : เป็นทิชชูมาส์กในซอง ซึ่งแผ่นมาส์กชุ่มมากๆด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว กลิ่นเดียวกับผลิตภัณฑ์กลุ่มอื่นๆของ Fine Fairness แต่มีกลิ่นแรงกว่าเนื่องจากเป็นแผ่นมาส์กที่แช่ไว้ในซองที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเข้มข้น หนึ่งกล่องบรรจุมาส์ก 4 แผ่น แผ่นมาส์กเป็นแบบทิชชูมาส์ก แต่เนื้อหนาและเหนียวเวลาวางมาส์กบนหน้าไม่ต้องกังวลว่าแผ่นมาส์กจะฉีกขาด บนแผ่นมาส์กมีรูพรุนมากมาย ตามคำอธิบายว่าเส้นใยของแผ่นมาส์กประกอบไปด้วยช่องว่างถึง 14,000 ช่อง แต่คงเป็นช่องที่ตาเปล่าอาจจะมองไม่เห็น แต่แค่ช่องที่มองเห็นก็มากมายจริงๆค่ะ
ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : แผ่นมาส์กขนาดใหญ่ได้ใจ วางบนใบหน้าได้เต็มจนล้นออกกรอบหน้าเลย แต่รอยตัดที่มีมาให้ก็ทำให้วางแผ่นมาส์กได้พอดีและแนบกับใบหน้า เมื่อแปะมาส์กบนหน้าสัมผัสได้ถึงความเย็น และชุ่มชื่น สำหรับทรายแอบแสบๆผิวบ้างเล็กน้อยในตอนแรก แต่ว่าสักพักอาการแสบก็หายไปค่ะ สำหรับคนไม่คุ้นกับน้ำหอมอย่างทรายอาจรู้สึกว่ากลิ่นแรงไปสักนิดแต่แปะทิ้งไว้กลิ่นก็จางๆไปเอง ข้างกล่องบอกให้ทิ้งไว้ 15 นาที นั่งเล่นคอมเพลินทิ้งไว้เกือบ 25 นาที แผ่นมาส์กบางส่วนก็เริ่มแห้ง พอลอกมาส์กออก รู้สึกว่าหน้าเกลี้ยงขึ้นจริงๆค่ะ แต่กระจ่างใสขึ้นเพียงเล็กน้อยสำหรับทรายแต่น้องสาวทรายลองมาส์กพร้อมกัน พอลอกมาส์กออกแม่เจ้า!!! ขาวและกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเพราะน้องสาวทรายเป็นคนไม่ค่อยบำรุงผิวพอได้รับการบำรุงแบบล้ำลึกผิวเลยได้รับอาหารผิวแบบเต็มๆเลยเห็นผลชัดเจนจ้า เพราะฉะนั้นผลการทดลองย่อมขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนจริงๆค่ะ
ผลการใช้ผลิตภัณฑ์ : ทรายลองใช้ดีพมาส์กมาสองแผ่นโดยทิ้งช่วงเวลาห่างกัน 5 วัน ในการใช้ครั้งแรกมีการแสบผิวเล็กน้อยบริเวณปีกจมูกและบริเวณแก้ม แต่พอลองมาส์กอีกครั้งในห้าวันถัดมาไม่เกิดออกการแสบเหมือนครั้งแรก หลังการมาส์กครั้งแรกของทรายสังเกตเห็นความกระจ่างใสได้ไม่ชัดเจนมากเท่ากับน้องสาว แต่หลังจากมาส์กครั้งแรกทิ้งระยะเวลามารู้สึกว่าผิวหน้าไวต่อแดดน้อยลง และสภาพผิวดูแข็งแรงขึ้น หลังจากการใช้ดีพมาส์กครั้งที่สองพบว่าหลังใช้หน้ากระจ่างใสขึ้นโดยเห็นผลชัดกว่าการใช้มาส์กครั้งแรก โดยการถ่ายภาพในค่าของกล้องที่เท่ากันแสงใกล้เคียงกันพบว่าภาพใบหน้าหลังการใช้มาส์กดูกระจ่างใสกว่าก่อนใช้อย่างสังเกตได้ โดยรวมแล้วผลที่ได้รับจากการมาส์กหน้าที่ทรายสัมผัสได้อย่างชัดเจนคือความชุ่มชื่นและสภาพผิวที่แข็งแรงไม่ไวต่อแดดเหมือนเก่าค่ะ ถ้าในระยะยาวใช้ตามคำแนะนำข้างกล่องว่าอาทิตย์ละ 2 ครั้ง คาดว่าน่าจะเห็นผลในส่วนของสภาพผิวที่ไม่กลับมาหมองคล้ำได้จ้า ขอทดลองต่อไปก่อนนะคะ
-----------------------------------------------------------------------------
สรุปการใช้ผลิตภัณฑ์ Neutrogena Fine Fairness : หลังการใช้ผลิตภัณฑ์ Neutrogena Fine Fairness อย่างครบทุกขั้นตอนเช้า-เย็น ได้แก่..... - หลังล้างหน้าใช้สำลีหยด Neutrogena Fine Fairness Toner ลงจนชุ่มแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ - เมื่อเช็ดโทนเนอร์เรียบร้อยจึงตามด้วย Neutrogena Fine Fairness Essence ให้ทั่วใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณที่มีจุดด่างดำ - บำรุงด้วย Neutrogena Fine Fairness Cream SPF 22 PA++ - หลังจากเสร็จขั้นตอนบำรุงก็ตามด้วยครีมกันแดด Neutrogena Fine Fairness Brightening UV Moisture SPF 50+ PA+++ ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ - บำรุงผิวหน้าเป็นพิเศษด้วย Neutrogena Fine Fairness Deep Whitening Mask อาทิตย์ละสองครั้ง โดยไม่มาส์กทันทีหลังผิวเผชิญแดดมา แต่จะมาส์กหลังจากที่บำรุงปรับสภาพผิวมาแล้ว 2-3 วัน เพราะสภาพผิวหลังไหม้แดดอาจจะลอกแบบบอบบางได้ การมาส์กแบบเข้มข้นอาจจะก่อให้เกิดอาการแสบร้อนหรือแพ้ได้ค่ะ เมื่อใช้ทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัดมาเป็นเวลาร่วมสองสัปดาห์ สภาพผิวที่ไหม้แดดทุเลาและหายไป ความหมองคล้ำและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอค่อยๆจากลงและดูกระจ่างใสขึ้นจนเท่ากับสภาพผิวปกติที่เราเคยขาวที่สุด โดยไม่มีอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ตัวใด สำหรับทรายแล้วถือว่าผลิตภัณฑ์ Whitening กลุ่มนี้เห็นผลค่อนข้างชัดเจนและใช้เวลาไม่นานนัก ถ้าผิวเกิดการสะสมหมองคล้ำมาเซตนี้ช่วยได้ค่อนข้างมากจ้า แต่ผลทั้งหมดคือการทดลองของทราย สำหรับผลการใช้ของสาวๆจะแพ้หรือจะเห็นผลหรือไม่ต้องเป็นการทดลองส่วนบุคคลจ้า ขอบคุณมากๆสำหรับการติดตามการรีวิวครั้งนี้ แล้วถ้ามีผลิตภัณฑ์อะไรแจ่มๆอีกจะทยอยเอามาแบ่งปันกันจ้า บ๊าย บาย ค่ะ ^________^
Create Date : 30 เมษายน 2553 | | |
Last Update : 30 เมษายน 2553 15:59:12 น. |
Counter : 11242 Pageviews. |
| |
|
|
|