Group Blog
 
All blogs
 
Review : Philosophy Ultimate Miracle Worker Night นวัตกรรมเซรั่มอินครีมช่วยลดเลือนริ้วรอย



สวัสดีค่าบล็อคนี้มีสกินแคร์ตัวใหม่จาก
Philosophy มาอัพเดทให้ชมกัน
จัดว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เค้าใช้แล้วโดนใจใช้ต่อหลายตัว
ซึ่งตัวใหม่นี้เข้ากับวัยย่างเข้าสามสิบเสียเหลือเกิน
นั่นก็คือไลน์ฟื้นบำรุงและลดเลือนริ้วรอยนั่นเอง แหะๆ ปวดใจเนาะ
สำหรับความพิเศษขอบอกเลยว่ามีกิมมิกที่น่าสนใจตั้งแต่วิธีการผสมครีมก่อนใช้!
กับลักษณะของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็น "2-in-1 เซรั่มอินครีม"
จะมีความน่าสนใจอย่างไหร่ตามไปชมกันค่า



Philosophy
Ultimate Miracle Worker Night

ฟิโลโซฟี อัลติเมท มิราเคิล เวิร์คเกอร์ ไนท์

---------------------------------------------------------

ขนาด 60 มล ราคา 3,300 บาท
(ครีม 50 ml และเซรั่ม 10 ml)

มีจำหน่ายที่เคาท์เตอร์ Philosophy ทุกสาขา
[ สาขาพารากอน ชั้น M,  เอ็มโพเรียม ชั้น M, เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 1,
เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 1 และร้าน Sephora จ้า ]


หรือช้อปปิ้งออนไลน์ได้ที่ //www.sephora.co.th


รายละเอียดผลิตภัณฑ์

 มอยซ์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้าสำหรับช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวในยามค่ำคืน
ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือระดับถึง 2 เท่า ช่วยเสริมสร้างกระบวนการ
ต่อต้านและลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย มอบผิวที่เรียบเนียน ดูกระชับขึ้น รูขุมขนแลดูเล็กลง
ด้วยคุณค่าของดอกไอริส (Iris flower) ที่ช่วยปกป้องโมเลกุลในชั้นผิว
และเสริมสร้างกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ
และ hpr+ (Hight- Performance Retinoid) เรตินอยด์ประสิทธิภาพสูง
 ที่ช่วยเร่งกระบวนการหมุนเวียนและปกป้องคอลลาเจนให้กับเซลล์ผิว
ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นและฟื้นฟูผิวแบบชั้นต่อชั้น เติมคอลลาเจนและอิลาสตินให้กับผิว
รวมถึงช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ โดยไม่ก่อให้เกิดการกระคายเคือง



สิ่งที่ทำให้ไนท์ครีมตัวนี้น่าสนใจที่สุดสำหรับเค้าคือวิธีการผสมครีมก่อนใช้
ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของแบรนด์ Philosophy เลยนะ
กับการแยกส่วนผสมมาให้เราได้ผสมสดเอง
ทำให้รู้สึกว่าได้ครีมที่เฟรชดีเนอะผสมเองกับมือ Smiley

สำหรับ Philosophy Ultimate Miracle Worker Night
เปิดกล่องมาจะต้องประกอบไปด้วย 3 สิ่งด้วยกัน คือ

1. กระปุกครีมขนาด 50 ml

2. เซรั่มในรูปแบบของเพิร์ลสีชมพู
ที่มาในถาดพลาสติกขนาด 10 ml

3. ไม้พายพลาสติกสีดำ




ที่ด้านข้างกล่องจะมีวิธีการผสมครีม
สำหรับการใช้ครั้งแรกบอกไว้ชัดเจน



1. เปิดฝาถาดเซรั่มจะพบเซรั่มในรูปแบบของเพิร์ลสีชมพูแช่อยู่ในเจลใสๆดูเลอค่ามากมาย
ค่อยๆเททั้งตัวเม็ดเพิร์ลและเนื้อเจลลงในกระปุกครีมจนหมด
เค้าใช้ไม้พายช่วยกวาดทั้งเนื้อเพิร์ลและเนื้อเจลเอาลงไปในกระปุกให้เรียบ

2. ทิ้งเนื้อเซรั่มไว้ในกระปุกครีมประมาณ 5 นาทีโดยเค้าจะปิดฝาไว้
ให้ตัวเซรั่มทำปฎิกิริยากับเนื้อครีม เม็ดเพิร์ลในเซรั่มจะค่อยๆละลายตัว

3. เปิดฝาออกแล้วใช้ไม้พายค่อยๆคนให้เนื้อเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
ตอนแรกไม่คิดว่าเม็ดเพิร์ลจะละลายไปในครีมได้หมด
แต่คนเบาๆแว้บเดียวเม็ดเพิร์ลสีชมพูค่อยๆเปื่อยแล้วสลายตัวลงในครีมได้เอง
จัดว่าเป็นขั้นตอนที่เพลินเพลินมากกกกกอ้ะ 555 Smiley



นี่คือครีมที่ผสมเซรั่มเข้ากันเรียบร้อยแล้ว
สีจะดูนวลๆอมชมพูขึ้นกว่าตอนก่อนผสมเล็กน้อย
เท็กซ์เจอร์ก็จะดูเหลวกว่าตอนแรกนิดหน่อยเช่นกัน



รายละเอียดส่วนผสม


ส่วนผสม 2 อย่างที่แบรนด์ดึงมาเป็นจุดขายของไนท์ครีมตัวนี้
คือ



Smiley สารสกัดจากดอกไอริส (Iris flower) Smiley

ในส่วนผสมคือ Iris Pallida Root Extract
คือสารสกัดจากรากของดอกไอริสสายพันธุ์ Pallida หรือ Sweet Iris
ที่อุดมไปด้วยสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)
ที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยลดปริมาณของเอนไซม์ Collagenase (MMP-1)
ที่ทำหน้าที่ย่อยสลายคอลลาเจน ทำให้ปริมาณคอลลาเจนในผิวไม่ลดลงมากไป
รวมถึงไปกระตุ้นให้เกิดการสร้าง gags (
glycosaminoglycans)
และ proteoglycans ซึ่งเป็นองค์ประกอบของเซลล์ผิว
ที่มีคุณสมบัติในการดูดซับความชุ่มชื่นทำให้ผิวอุ้มน้ำได้ดี
ผลที่ได้คือทำให้โครงสร้างของผิวแข็งแรง ผิวมีความยืดหยุ่นสูง ปัญหาริ้วรอยจึงลดลง
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนัง, ให้ผิวกระชับขึ้น
และฟื้นฟูผิวใหม่ให้สีผิวสม่ำเสมอดูมีชีวิตชีวาโดยไม่เกิดการระคายเคืองผิว



Smiley hpr+ (Hight- Performance Retinoid) Smiley

ในส่วนผสมคือ Retinol หรือ วิตามินเอ
ส่วนผสมยอดฮิตที่มักพบในผลิตภัณฑ์กลุ่มลดเลือนริ้วรอย
เนื่องจากมีคุณสมบัติในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนอีลาสตินในชั้นผิว
ทำให้ผิวยืดหยุ่นดีขึ้น และยังช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น

และช่วยให้วงจรการผลัดเซลล์ผิวทำงานได้เป็นปกติ
จึงทำให้ริ้วรอยลดเลือนลง เท็กซ์เจอร์ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอขึ้น

ความพิเศษของส่วนผสมนี้คือแบรนด์เคลมว่าตัว Retinol ที่ใช้
เป็นเรตินอยด์ประสิทธิภาพสูงที่ได้ทำการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว
กับเทคโนโลยีที่เค้าใช้ชื่อว่า Bi-Retinoid

ที่เกิดจากเรตินอลเวคเตอร์ 2 ชนิด ที่ให้ผลลัพท์ 2 อย่าง คือ

Retinol Microcapsules
คือนวัตกรรมการนำส่งเรตินอล
ให้ซึมเข้าสู่ผิวโดยตรงด้วยคุณสมบัติของไมโครแคปซูลที่มีขนาดเล็ก
จึงเพิ่มการแทรกซึมของเรตินอลให้เข้าสู่ผิวได้ลึกขึ้น

อย่าง
ที่สองก็คือ Retinol Vector
เป็นเรตินอลที่มีสภาวะเป็นประจุบวก
ซึ่งดึงดูดกับผนังเซลล์ของเราที่เป็นประจุลบได้ดี
ดังนั้นจึงสามารถซึมผ่านเข้าสู่เซลล์ผิวได้ 100% และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
สามารถเข้าไปทำงานในการฟื้นฟูเซลล์ผิวเราได้โดยตรง

------------------------------------------------------------------------------------

จากรายละเอียดส่วนผสมที่เป็นจุดขายทั้งสองจะเห็นว่า
ในครีมกระปุกนั้นมีส่วนผสมทั้ง
Iris Pallida Root Extract
และ 
Retinol อยู่ครบถ้วน แต่ในเซรั่มที่เป็นเม็ดเพิร์ล
จะมีเฉพาะ
Iris Pallida Root Extract เมื่อทำการผสมกัน
เค้าจึงเคลมว่าเราจะได้สารสกัดจากรากดอกไอริสเป็น Double Dose
จริงๆอาจจะใส่มาทีเดียวเลยก็ได้แต่มันก็เป็นกิมมิกจุดขายในวิธีการใช้
ที่ให้เราได้ผสมสดอ่าเนอะ ซึ่งก็ได้ผลนะเพราะเค้าเองก็เอนจอยกับการผสมสดมาก555

***ในเนื้อครีมมีส่วนผสมของ Alcohol และน้ำหอมค่ะ




ลักษณะเนื้อและกลิ่น

เนื้อครีมสีขาวนวล สีอมชมพูเล็กน้อยหลังจากการผสมเซรั่มที่เป็นเม็ดเพิร์ล
ลักษณะเนื้อจะไม่ใช่ครีมข้นๆ แต่มีความเหลวคล้ายเนื้อเจลมากกว่า
กลิ่นน้ำหอมที่ผสมมาเป็นกลิ่นหอมเบาๆไม่ชัดมาก
เมื่อทาลงบนผิวเหลือกลิ่นติดผิวจางๆเป็นกลิ่นแนวฟลอรัล



ความรู้สึกเมื่อได้ทดลองใช้

เนื้อครีมลื่นปรื้ดเกลี่ยลงบนผิวได้ง่ายมาก ซึมผิวค่อนไว
ส่วนตัวเค้าผิวแห้งชอบทาหลายเสต็ป
ถ้าทาบำรุงก่อนหน้ามาหลายเสต็ปแล้วใช้ตัวนี้ตบท้าย
เนื้อครีมก็ซึมได้โอเคนะแต่จะเหลือความหนึบบนผิวเล็กน้อย
แต่ถ้าทาตัวเดี่ยวๆเลยจะซึมผิวได้ไวกว่าและไม่หนึบผิว
ซึ่งอันนี้แบรนด์เคลมว่าเป็นแบบ 2-in-1 = Serum + Moisturizer
ดังนั้นใครขี้เกียจบำรุงหลายเสต็ปจะใช้ตัวนี้ทาเป็นไนท์ครีมเดี่ยวๆเลยก็ได้ฮะ

จุดเด่นที่สุดของที่สุดคือเท็กซ์เจอร์เนื้อครีมที่ทาง่าย
และเมื่อซึมผิวแล้วสัมผัสได้เลยว่าผิวชุ่มชื่นและนุ่มขึ้นแบบเห็นได้ชัด
อย่างเค้าที่ผิวแห้งและนอนห้องแอร์ลองใช้ตัวนี้เดี่ยวๆทาก่อนนอน
ตื่นมาผิวยังชุ่มชื่นดีอยู่นะ ความหนึบที่หน้าหายไปแต่ความนุ่มยังคงอยู่

ส่วนตัวเค้าว่า Philosophy เค้าทำในจุดนี้ได้โดดเด่นดีเลยนะ
กับการเน้นเนื้อสัมผัสตอนทาที่ให้ฟิลลิ่งของเท็กซ์เจอร์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น
และทาปุ๊บจะสัมผัสถึงความนุ่มของผิวได้เลย
ครีมกระปุกของแบรด์นี้ที่ลองมาให้ฟิลแบบนี้เกือบทุกตัวหล่ะ
ซึ่งเป็นการจับจุดขายที่ดีทำให้เรารู้สึกอยากขยันทาไปทุกวันเนอะ Smiley



สรุปความรู้สึกหลังจากการทดลองใช้ต่อเนื่อง 3 สัปดาห์


เค้าผิวแห้งเลยบำรุงผิวด้วยสเต็ปอื่นๆตามปกติแล้วใช้ไนท์ครีมตัวนี้ตบท้าย
สิ่งที่ตอบได้คือเป็นไนท์ครีมที่กักเก็บความชุ่มชื่นได้ดีจริง
ตื่นเช้ามาผิวหน้ายังชุ่มชื่นอยู่จับผิวแล้วจะรู้สึกนุ่มๆเด้งๆ

แต่ในเรื่องของประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยอันนี้ตอบให้มิได้เน่อ
เพราะเค้ายังไม่มีปัญหาริ้วรอยที่ชัดเจน แต่เอาว่าถ้าบำรุงให้ชุ่มชื่นดี
มันก็เป็นวิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยที่ดีที่สุดหล่ะ
ริ้วร้อยควรป้องกันไม่ให้เกิด มิใช่เกิดแล้วค่อยมาหาทางรักษา
ดังนั้นการเริ่มใช้สกินแคร์ในกลุ่มนี้สามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆเน่อ
เพราะคอลลาเจนในผิวเราจะลดลงเรื่อยๆเมื่ออายุเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะหลัง 25ปี++

สรุปโดยรวมสำหรับ
Philosophy Ultimate Miracle Worker Night
เป็นไนท์ครีมที่มีกิมมิกน่าใช้ตรงให้ผสมส่วนผสมเอง
มีนวัตกรรมของส่วนผสมที่น่าสนใจ
เท็กซ์เจอร์เนื้อครีมโดดเด่น เนื้อลื่น ทาง่าย ซึมผิวดี
เคลือบผิวให้ความชุ่มชื่นได้ดีมาก สัมผัสความนุ่มของผิวได้ทันทีหลังทา
เป็นเซรั่มและมอยส์เจอร์ในตัวสำหรับคนที่ไม่ชอบบำรุงหลายขั้นตอน
สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวแห้งหรือผิวมัน
เหมาะกับหลายกลุ่มอายุตั้งแต่ 20ปี++ ที่เริ่มกังวลเกี่ยวกับริ้วรอยก่อนวัย
และวัย 30-50 ปี ที่มีปัญหาริ้วรอยแล้วและต้องการการฟื้นฟู

แต่ไม่ได้เคลมมาว่าเหมาะกับผิวบอบบางระคายเคืองง่ายนะฮะ
เพราะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม ถ้าใครผิวเซนซิทีฟ
ก็แนะนำให้เทสป้ายที่หลังใบหูแล้วสังเกตอาการดูก่อนซัก 24-48 ชั่วโมง
ถ้าไม่มีอาการผิดปกติใดๆค่อยทาที่หน้าเนอะ

แต่ในเรื่องส่วนผสมแอลกอฮอล์ที่อาจจะมีผลทำให้ผิวแห้งลง
อันนี้เค้าผิวแห้งใช้มาก็ไม่รู้สึกนะเพราะดูจากส่วนผสมแล้วใส่สารให้ความชุ่มชื่นมามากกว่า
แค่ตอนดมตรงๆจากกระปุกครีมอาจจะได้กลิ่นความเป็นแอลกอฮอล์นิดนึงฮะ

และข้อด้อยอีกอย่างคือมาในรูปแบบของกระปุก
แม้ส่วนผสมเค้าจะใช้เทคโนโลยีทำให้มีความเสถียรดีแล้ว

แต่ก็จัดมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเวลาควักเนื้อครีมใช้
เพื่ออนามัยใช้ไม้พายที่ให้มาในการตักครีมก็ดี
แต่อย่าลืมเช็ดไม้พายให้สะอาดทุกครั้งด้วยนะจ๊ะ Smiley

--------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by Philosophy
***All opinions are my own
Information : https://www.facebook.com/philosophyThailand




Create Date : 22 มีนาคม 2559
Last Update : 22 มีนาคม 2559 21:31:51 น. 0 comments
Counter : 4737 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]




..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน
http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้
ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!

---------------------------------------------------------

hits
New Comments
Friends' blogs
[Add SaRaY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.