Review : CP Balance ไดเอ็ทสวยๆด้วยอาหารจานด่วนสุดเฮลท์ตี้แคลอรี่ต่ำ!
สวัสดีค่าสาวๆมาเจอกันโหมดเฮลท์ตี้กันบ้าง เรื่องการลดน้ำหนักนี่เป็นอะไรที่เกิดมาคู่สาวๆจริงๆ มั่นใจเลยว่าทุกคนรู้ทำยังไงให้น้ำหนักลดหรือคุมยังไงไม่ให้น้ำหนักขึ้น ก็แค่ทานให้น้อยลงและออกกำลังกายควบคู่ กิน=เบิร์น ชีวิตสมดุลหุ่นเป๊ะจบ! รู้อยู่แก่ใจแต่อิตอนปฏิบัตินี่หล่ะมันช่างยากแท้ แหะๆ
บล็อคนี้เลยมีตัวช่วยดีๆมาฝากกันกับอาหารสำเร็จรูปสุดเฮลท์ตี้ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพและรูปร่างของเราง่ายขึ้น ที่สำคัญ "อร่อย" ด้วย!!! ตื่นเต้นกันแล้วไปชมกันเลยจ้า....เตือนไว้ก่อนว่าบล็อคนี้หิวแน่นอน ฮี่ๆ
CP BALANCE อาหารเพื่อสุขภาพ แคลอรี่ต่ำ ไฟเบอร์สูง
---------------------------------------------
เป็นแบรนด์ที่คุ้นเคยกันดีจาก CPF หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด
ราคากล่องละ 55 บาท
มีจำหน่ายที่ : CP freshmart ทั่วประเทศ และ Tesco Lotus, BigC, Gourmet Market, Home Fresh mart, Maxvalu, Foodland, Lawson108, Jiffy
ตอนนี้มีให้เลือกทั้งหมด 4 เมนู สามารถเข้าไปเลือกดูหรือสั่งซื้อในเว็ปเค้าก็ได้ ในเว็ปจะบอกจำนวนแคล ส่วนประกอบ สารอาหารชัดเจน
ซึ่งเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำมากเมื่อเทียบกับอาหารทั่วไป เพียง 150 - 220 Kcal เท่านั้น ในปริมาณเท่าอาหารกล่องทั่วไป กินอิ่มกำลังดีสำหรับหนึ่งมื้อ ซึ่งทำให้เรายังมีปริมาณแคลอรี่ที่รับเพิ่มได้ สามารถหม่ำขนมหรืออาหารที่ชอบได้อีกนิดหน่อย ฮี่ๆ จึงทำให้เป็นการไดเอ็ทได้แบบแฮปปิ้ ลดมื้อหลักเพิ่มมื้อย่อย555
นอกจากแคลอรี่ต่ำแล้วยังดีต่อสุขภาพด้วย เพราะ คลอเรสเตอรอลต่ำ ไขมันอิ่มตัวต่ำ แต่อุดมไปด้วยไฟเบอร์
ฉลากด้านหลังจะมีรายละเอียดบอกชัดเจน ทุกเมนูจะเน้นใช้เนื้อปลาและเนื้ออกไก่ ที่ให้โปรตีนแต่ไขมันต่ำ ใส่ผักและใช้ข้าวกล้องซึ่งมีวิตามินและเส้นใยไฟเบอร์มากกว่าข้าวขาว
เป็นอาหารกล่องที่อยู่ในรูปอาหารแช่แข็งต้องแช่ไว้ในช่องฟรีซเท่านั้นเน่อ
ก่อนจะทานก็ทำการเวฟซะก่อน เอาออกจากซองอย่าลืมแง้มฝาก่อนเอาเข้าเวฟ ใช้เวลาอุ่นประมาณ 2.30 - 4.00 นาทีแล้วแต่กำลังไฟ เค้าเซ็ต 1000w เวฟประมาณ 3 นาทีก็ทานได้ละฮะ เปิดเวฟมากลิ่นฟุ้งเลยหอมม๊วกกกก
เวฟออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้แยกช่องเป็นข้าวและกับข้าว ตอนเอาออกจากเวฟตัวถาดจะร้อนระวังมือกันด้วยนะฮะ
เมนูที่เลิฟที่สุดของเค้า "ข้าวกล้องแกงส้มปลาแพนกาเซียสดอร์รี่" เป็นแกงส้มผักรวมที่ใส่เนื้อปลามาเยอะใช้ได้เลย 5-6 ชิ้น ผักที่ใส่มาด้วยอาจจะเก๋หน่อยตรงที่มีบล็อคโคลี่มาด้วยแต่ก็เข้ากันอยู่นะ
รีวิวอาหารก็ต้องว่ากันด้วยเรื่องของรสชาติ เฮลท์ตี้อย่างเดียวเจ้ไม่สู้ต้องอร่อยด้วย เรื่องรสชาติสำหรับเมนูแกงส้มบอกเลยว่า "อร่อย" ค่ะ! เฮ้ยคือดีกว่าที่คาด น้ำแกงส้มเข้มข้นเลยรสเปรี้ยวนำ เผ็ดนิดหน่อยคนไม่ค่อยทานเผ็ดก็น่าจะทานได้ เป็นอาหารแนวเพื่อสุขภาพที่รสจัดจ้านได้ใจ ไม่จืดๆอย่างที่คิด แม้จะไม่จัดว่าคลีนมากนักแต่ก็เฮลท์ตี้กว่าอาหารที่ปกติมากหล่ะ
ปลาที่ใส่มาก็เป็นเนื้อชิ้นๆไม่เละ ผักก็ยังมีความกรอบ รสชาติน้ำแกงส้มซึมเข้าไปในเนื้อปลาและผักคือดีงามกินกะข้าวกล้องก็เข้ากัน ตัวข้าวก็นุ่มนิ่มทานง่ายไม่ฝืดคอ ตักน้ำแกงราดชุ่มๆฮร้ายยยอาหย่อย เมนูนี้ต้องตุน!
ดูสีหน้าและความฟินของนาง ได้อรรถรสป่ะหล่ะ 555 เค้าว่ารวมๆรสชาติดีกว่าที่เคยกินตามร้านอาหารหลายๆร้านเลยอ้ะ มาในรูปแบบแช่แข็งแบบนี้สะดวกอยากกินแกงส้มไม่ต้องง้อร้านละนะฮร้า
หมดเรียบหนึ่งกล่องในเวลาอันรวดเร็ว เอาจริงๆสำหรับผู้หญิงปกติเค้าว่าก็อิ่มกำลังดี แต่สำหรับผู้หญิงกินจุกระเพาะใหญ่แบบเค้าก็แอบไม่เต็มท้องดี อาจจะต้องขอตามด้วยของหวานอีกซักนิด 555 เอาน่ากล่องนี้แค่ 210 Kcal เองมีที่ว่างให้หม่ำได้อีกๆ
อีกหนึ่งเมนู "ข้าวกล้องปลาแพนกาเซียสดอร์รี่ผัดพริก" อันนี้ก็อร่อยใช้ได้รสเข้มข้นพอกันเลยเค็มๆเผ็ดๆนิดๆ ชื่อเป็นผัดพริกแต่ไม่ต้องกลัวส่วนตัวเค้าว่ามันไม่ได้เผ็ดนะ รสชาติประมาณผัดผักใส่พริกชี้ฟ้าแดงพอกรุบกริบ ชอบตรงที่มีเม็ดพริกไทยกะใบโหระพาเคี้ยวละหอมในปาก
สรุปเค้าว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักเลยหล่ะ ข้อดีคือเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำที่หาทานได้ง่าย สามารถตุนไว้ในตู้เย็นได้ คำณวนแคลมาให้เสร็จสรรพ ที่สำคัญคือรสชาติเข้มข้นดี เหมาะกับคนที่ยังไม่สามารถไปทางสายคลีนได้เต็มตัว ทำให้รู้สึกว่าการเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพไม่ใช่เรื่องยาก
ท้ายนี้มีเคล็ดลับดีๆในการดูแลรูปร่างมาฝากไว้ให้ด้วยลองอ่านกันดูน้า
การคำณวนแคลลอรี่ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
สูตรเบสิกที่นิยมใช้กันคือการหาค่า BMR (Basal Metabolic Rate) ซึ่งเป็นสูตรคำนวณพลังงานที่น้อยที่สุดที่ร่างกายต้องการใช้ในแต่ละวัน ที่จะเพียงพอให้ระบบต่างๆ ในร่างกายสามารถทำงานได้ โดยอยู่เฉยๆไม่ทำกิจกรรมใดๆเลยนะฮะ
BMR สำหรับผู้ชาย 66 + (13.7 x น้ำหนักตัว (กิโลกรัม))+(5 x ส่วนสูง (เซนติเมตร))-(6.8 x อายุ)
BMR สำหรับผู้หญิง 665 + (9.6 x น้ำหนักตัว (กิโลกรัม))+(1.8 x ส่วนสูง (เซนติเมตร))-(4.7 x อายุ)
เช่น ของเค้าน้ำหนัก 45 ก.ก. สูง 156 ซ.ม. อายุ 29 ปี คำณวนออกมาจะได้ดังนี้ 665 + (9.6 x 45)+(1.8 x 156)-(4.7 x 29) 665 + 432 + 280.8 - 136.3 = 1,241.5 Kcal
หมายความว่าถ้าทั้งวันเค้าไม่ทำอะไรเลยนั่งหายใจเฉยๆ เค้าจะต้องกินอาหารให้ได้พลังงานอย่างน้อยที่สุด 1,241.5 Kcal ห้ามน้อยไปกว่านี้!
แต่ค่าที่ได้ยังไม่จบค่ะคนเราต้องมีกิจกรรมระว่างวันต้องไปเรียนต้องทำงาน ดังนั้น ต้องนำค่า BMR ที่ได้ไปคำณวนต่อโดยดูจากกิจกรรม ที่ทำดังนี้.....
- นั่งทำงานอยู่กับที่ และไม่ได้ออกกำลังกายเลย หรือน้อยมาก = BMR x 1.2 - ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเล็กน้อย 1-3 วัน/สัปดาห์, เดินบ้างเล็กน้อย ทำงานออฟฟิศ = BMR x 1.375 - ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาปานกลาง 3-5 วัน/สัปดาห์, เคลื่อนที่ตลอดเวลา = BMR x 1.55 - ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนัก 6-7 วัน/สัปดาห์ = BMR x 1.725 - ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนัก หรือเป็นนักกีฬา ทำงานที่ใช้แรงงานมาก = BMR x 1.9
ของเค้าจัดอยู่ในโซนปานกลาง ก็คือนำ 1,241.5 X 1.55 = 1,924.33 Kcal
----------------------------------------------------------------------------------- แต่อ่านถึงตรงนี้ใครปวดหัวกะตัวเลขเข้าไปลิงค์นี้โลด
แค่กรอกน้ำหนัก ส่วนสูง อายุ เว็ปคำณวนให้จบปึ้ง! แต่ที่เล่ามาให้ฟังยาวยืดเพราะอยากให้ทราบที่มาของตัวเลขนะฮ้าฟ -----------------------------------------------------------------------------------
สรุปปริมาณแคลอรี่ที่เค้าควรทานต่อวันก็คือ 1,924.33 Kcal ถ้าเค้าต้องการควบคุมน้ำหนักก็คือทานให้ไม่เกินค่านี้ กินเกินกว่านี้ร่างกายเบิร์นออกได้ไม่หมด ก็เกิดการสะสมเป็นไขมันสาเหตุของความอ้วนนั่นเอง แต่ถ้าเค้าต้องการลดน้ำหนักก็ทานให้น้อยกว่าค่านี้ แต่อย่างไรก็ตามห้ามต่ำกว่าค่า BMR 1,241.5 Kcal ที่คำณวนได้ในขั้นแรกเด็ดขาด!!!
ความอันตรายของการจำกัดแคลมากไปคือการทำให้ระบบเผาผลาญเราพังลง หลายคนลดน้ำหนักแล้วกินต่อวันน้อยมากกกกไม่ถึงพันกิโลแคล ผลที่ได้คือเมื่อร่างกายไม่มีพลังงานจากอาหารสิ่งที่ร่างกายไปดึงมาใช้ คือ "กล้ามเนื้อ" ไม่ใช่ไขมันอย่างที่เราคิดกันนะเออ! ซึ่งกล้ามเนื้อนี่แหละคือโรงงานการเผาผลาญหลักของร่างกาย เมื่อไม่มีกล้ามเนื้อร่างกายจึงเผาผลาญได้น้อยลงไปเรื่อยๆ น้ำหนักลดจริงแต่ผลที่ได้คือผิวจะเหี่ยวๆตัวจะย้วยๆเกิดเซลลูไลท์ง่าย
พอวันนึงเกิดโหยกลับไปกินอาหารเท่าปกติ ได้แคลอรี่เท่าปกติ แต่ประเด็นคือกล้ามเนื้อหรือโรงงานเผาผลาญมันหายไป ทำให้เผาผลาญได้ไม่เท่าเดิมกินเข้าไปจึงไม่เกิดการเบิร์นเท่าที่ควรจะเป็น ทีนี้หล่ะตู้มมมมมเป็นโกโก้ครันช์เลย นี่แหละอาหารที่เรียกว่า "โยโย่เอฟเฟ็กต์" คนที่อดอาหารจึงอ้วนๆผอมๆร่างกายจะดูโทรมๆเหตุเพราะกล้ามเนื้อหายไปนี่หล่ะจ้า
ดังนั้นถ้าต้องการคุมน้ำหนักให้ได้ผลอย่างถาวร อย่างแรกคือ "กินแต่พอดี" ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน และอย่างที่สองก็คือ "การออกกำลังกาย" เพื่อเพิ่มการเผาผลาญนั่นเอง อยากเฟิร์มอยากเป๊ะอย่าลืมสร้างกล้ามเนื้อกันนะจ๊ะ ทุกคนทำได้ไม่ยากเลยทีนี้ชีวิตก็จะแฮปปี้มีหุ่นที่ดีและเอนจอยการกินได้แล้วจ้า
-----------------------------------------------------------------------------------------
Disclaimer : Sponsored Content by CP Balance
Create Date : 31 มีนาคม 2558 | | |
Last Update : 4 เมษายน 2558 15:02:07 น. |
Counter : 18751 Pageviews. |
| |
|
|
|