Group Blog
 
All blogs
 

Review : Hashi ชุดอุปกรณ์ล้างจมูก ช่วยลดอาการหวัด มีน้ำมูก คัดจมูก ภูมิแพ้ ไซนัส จ้า

  "ภูมิแพ้" โรคประจำตัวที่เค้าเป็นมาทั้งชีวิต เฮ้อ!
ดีที่เป็นไม่มากมายแค่จะเซนซิทีฟกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศ
แค่อากาศเปลี่ยนนิดหน่อย ไม่ว่าจะร้อนไป เย็นไป
ร่างกายก็จะเริ่มกระเสาะกระแสะ ส่อแววจะเป็นหวัดได้เสมอ
อาการแรกเลยคือคันจมูกครืดคราดฟืดฟาดโดยเฉพาะเวลาอยู่ในที่ที่มีฝุ่นเยอะๆ
แหม่แลเป็นผู้หญิงบอบบางขัดกะบุคลิกมาก 555
เค้าเริ่มมาเป็นภูมิแพ้หนักๆตอนช่วงเข้ามหาลัย'เพราะนอนดึกพักผ่อนน้อย
กลายเป็นกวางเรนเดียร์จมูกแดงอยู่พักนึงคืนคันจมูกแทบทุกวัน
อาเค้าที่เป็นเภสัชเลยแนะนำให้เค้าดูแลอาการภูมิแพ้ด้วยวิธีง๊ายง่ายมาวิธีหนึ่ง
ซึ่งเค้าเริ่มทำประมาณเดือนหนึ่งก็เห็นผลชัดเจนว่าช่องจมูกสบายขึ้นมาก
และทำต่อเนื่องมาหลายปีอาการภูมิแพ้ที่เกี่ยวกับอากาศแทบไม่เป็นอีกเลยวู๊ววว
วิธีที่ว่าก็คือ......"การล้างจมูก" มิต้องตกใจไม่น่ากลัวน้าขอบอกว่าทำง่ายและชิลมากๆฮับ

----------------------------------------------------------

Smiley ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่าการล้างจมูกคืออะไร???
การล้างจมูก
คือ การใช้น้ำเกลือชะล้างทาความสะอาดโพรงจมูก
เพื่อขับเอาสารก่อภูมิแพ้และสิ่งแปลกปลอมซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเจ็บป่วย
ให้หลุดออกจากโพรงจมูก รวมถึงช่วยทำให้น้ำมูกเหนียวข้น
ซึ่งคั่งค้างอยู่ภายในโพรงจมูกถูกขับออกมาได้อีกด้วย
ส่งผลให้ทางเดินอากาศภายในโพรงจมูกปลอดโปร่งและหายใจได้อย่างโล่งสบาย

Smiley หลักการเบื้องต้นของการล้างจมูก
การล้างจมูกทำได้โดยเตรียมน้ำเกลือที่ความเข้มข้นใกล้เคียงกับเยื่อบุโพรงจมูก
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการระคายเคือง จากนั้นปล่อยให้น้ำเกลือ
ไหลผ่านจากรูจมูกข้างหนึ่งออกไปยังรูจมูกอีกข้างหนึ่ง โดยกลั้นหายใจไปพร้อมๆกัน
เพื่อป้องกันการสำลักน้า ซึ่งโดยทั่วไป นิยมใช้อุปกรณ์ช่วยในการเพิ่มแรงดัน
ให้น้ำไหลผ่านเข้าสู่โพรงจมูก เช่น ลูกยางแดง, กระบอกฉีดยา(ไม่ใส่เข็ม) เป็นต้น

Smiley การล้างจมูกมีประโยชน์อย่างไร?
จมูกทำหน้าที่ดักสิ่งแปลกปลอมในอากาศไม่ให้ผ่านเข้าสู่ร่างกาย
แต่สภาพแวดล้อมในปัจจุบันมีมลพิษสูงขึ้นมาก จมูกจึงต้องทำงานหนัก
จนอาจจะทำให้ทำงานบกพร่องได้ ดังนั้น การล้างทำความสะอาดโพรงจมูก
จึงเป็นการกระตุ้นให้กลไกการทำงานของจมูกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พร้อมช่วยลดการตกค้างของฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้
และสิ่งแปลกปลอมต่างๆในโพรงจมูก ส่งผลให้เราหายใจได้สะดวก
และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ในระบบทางเดินหายใจได้
ซึ่งในปัจจุบันการล้างจมูกเพื่อป้องกันและรักษาโรคในระบบทางเดินหายใจ
ได้รับการยอมรับอย่างมากทางการแพทย์ ประโยชน์มากมีตามนี้จ้า

- ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกจากหวัดหรือภูมิแพ้อากาศ
- ช่วยบรรเทาอาการอักเสบภายในโพรงจมูกและไซนัส
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เยื่อบุโพรงจมูก
และทำให้กลไกการขับมูกในโพรงจมูกทางานได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับรู้กลิ่นและรส
- ช่วยให้ยาพ่นจมูกสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องจากการล้างจมูกทำให้ยาพ่นสัมผัสกับเยื่อบุจมูกได้มากขึ้น

***คนที่ผ่าตัดเสริมจมูกหรือฉีดฟิลเลอร์ก็สามารถล้างจมูกได้ไม่มีอันตรายนะค้า



อุปกรณ์ล้างจมูกรุ่นโบราณคร่ำครึที่เค้าเริ่มใช้เมื่อหลายปีก่อน
นั่นก็คือ Syringe/ไซริงจ์ หรือกระบอกฉีดยานั่นเอง (ไม่ต้องใส่ปลายเข็มนะคร๊าบ)
และสิ่งที่ใช้สวนล้างโพรงจมูกก็คือ "น้ำเกลือ" น้ำเกลือปกติแบบที่เราใช้ล้างแผลเลย

ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยาทั่วไป แต่เดือนที่แล้วเค้าได้นวัตกรรมมาใหม่
เจ้าขวดสีฟ้าๆด้านหลังเลย ซึ่งลองแล้วขอบอกว่าเริ่ดมาก!!! โยนไซริงจ์ทิ้งโลด
อยากรู้แล้วชิมิล่าว่าเจ้าอุปกรณ์ล้างจมูกนี้คืออะไร
ใช้อย่างไร และมีประโยชน์อย่างไร
มาชมกันเลยจ้า Smiley



Hashi : ฮาชชิ

---------------------------------------------------------
ทางแบรนด์ได้ส่งผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ประเภท
ที่มีวางจำหน่ายมาให้เค้าลองซึ่งมีรายละเอียดตามนี้จ้า

1. Hashi Plus ชุดอุปกรณ์ล้างจมูกฮาชชิพลัส
2. Hashi Salt Refill
เกลือฮาชชิสูตรอ่อนโยน
3. Hashi Salt Refill
เกลือฮาชชิสูตรธรรมดา

สถานที่จำหน่าย : ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วไปค่ะ



Hashi Plus
ชุดอุปกรณ์ล้างจมูกฮาชชิพลัส

----------------------------------------------------------------
ทั้งเซ็ตนี้ราคาประมาณ 180-250 บาท
เค้าไปส่องในร้านยา P&F ตรงหน้า Tops แถวบ้านมา
ราคาอยู่ที่ 180 บาทฮับ ลองเลียบๆเคียงๆถามราคาดูเนอะ อิอิ



รายละเอียดบนฉลากข้างกล่องค่ะ



เปิดกล่องมาจะพบอุปกรณ์ทั้งหมดหน้าตาแบบนี้จ้า



อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วย

ขวดฮาชชิ พลัสจำนวน 1 ขวด
หลอดก้านไว้เสียบปากขวด 1 หลอด
เกลือฮาชชิสูตรอ่อนโยนขนาด 1.7 กรัม จานวน 15 ซอง
คู่มือรายละเอียดแนะนำวิธีการใช้ 1 เล่ม




วิธีการใช้ตามนี้ค่ะ

1. เทเกลือฮาชชิจำนวน 1 ซองลงในขวด
2. ถือขวดในแนวตั้งเติมน้ำสะอาดตามลงไป
จนถึงเส้นวัดระดับที่คอขวด ซึ่งน้ำให้ใช้เป็นน้ำที่อุณหภูมิห้อง
ไม่ต้องต้มหรือแช่เย็นนะค้า เค้าใช้น้ำกินเป็นขวดๆนี่หล่ะ
3. ต่อก้านหลอดเข้าไปที่ฝา ปิดฝาให้สนิทและเขย่าเบาๆให้เข้ากันจ้า



เมื่อประกอบร่างแล้วจะได้หน้าตาแบบนี้ฮับ



วิธีการล้างจะมีบอกไว้อย่างละเอียดในใบคู่มือ
ซึ่งเค้าเองช่ำชองละล้างมาหลายปี ฮี่ๆ
ตามคู่มือเค้าบอกให้เริ่มล้างจมูกข้างที่มีอาการก่อน
-----------------------------------------------------------------
วิธีการล้างของ Hashi สามารถล้างได้ 2 รูปแบบ คือ
1. ล้างแบบแนวขวาง เอียงหัว 45 องศา สไตล์ Hashi
อันนี้จะเป็นวิธีที่แบรนด์แนะนำว่าอ่อนโยนที่สุด
ซึ่งไม่ต้องต่อก้านท่อพลาสติกก็สามารถล้างวิธีนี้ได้จ้า
2. ล้างแบบแนวตั้ง คือ ต่อก้านท่อพลาสติกแล้วก้มหน้าบีบล้างแบบไซริงจ์ได้เลย
แต่หัวของ Hashi จะเป็นห้ารู เวลาบีบน้ำเกลือแรงดันจะไม่แรงเหมือนไซริงจ์จ้า



วิธีการล้างไม่ต่างจากการใช้กระบอกฉีดยาที่เค้าเคยใช้เลย
แต่ฮาชชิง่ายกว่าเยอะตรงที่หัวปากขวดเค้าเป็นพลาสติกโค้งมน
รูปทรงมันเหมาะเจาะ สามารถปิดรูปจมูกได้มิดสนิทดี
ตอนล้างให้ก้มหน้าลงเล็กน้อย วางปากขวดฮาชชิให้แนบรูจมูก
เอียงหัวนิดนึงแล้วบีบขวดให้น้ำเกลือให้ออกมาเลยจ้า
จริงๆมีวิธีถือขวดได้สองแบบจะถือขวดแบบแนวนอนหรือแนวตั้งก็ได้ฮะ
ขวดเป็นพลาสติกแบบนิ่มกะปริมาณของน้ำเกลือได้ง่าย
ต่างจากการใช้ไซริงจ์ที่บ้างครั้งดันแรงไปกระแทกรูจมูกเลยจร้าาา

เค้าว่าปัญหาหลักที่คนส่วนใหญ่ค่อนข้างกลัวการล้างจมูก
ก็คือ กลัวจะสำลักหรือกลัวว่าจะแสบจมูก เนอะ
แต่ขอรับประกันด้วยเกียรติของหมูเลยว่าไม่แสบไม่สำลักฮับ
เพราะการล้างจมูกเราจะใช้น้ำเกลือแบบที่ใช้ทางการแพทย์
หรือที่เรียกกันว่า Saline Solution 0.9%
ซึ่งมีค่าความเข้มข้นที่ใกล้เคียงกับของเหลวในร่างกาย
เลยไม่ทำให้รู้สึกแสบเหมือนเวลาเราสำลักน้ำปกติ
เวลาเป็นแผลเลือดออกเค้าเลยล้างแผลกันด้วยน้ำเกลือ
เพราะค่าความเข้มข้นที่ใกล้เคียงจะไม่ทำให้รู้สึกแสบหลักการเดียวกันเลยจ้า

และอีกหนึ่งอย่างที่เค้าก็เคยสงสัยว่าแล้วน้ำเกลือมันจะไหลไปออกอีกรูจมูกได้เหรอ???
พิสูจน์ได้ตามภาพเลยว่าออกได้ค่า 555 ภาพไม่น่าดูนิดเนอะเนอะแต่อยากให้เห็นชัดๆ
รูจมูกเราเป็นโพรงเชื่อมกันน้ำสามารถไหลออกอีกรูได้สบายๆ
แต่ต้องใช้น้ำเกลือในปริมาณที่เพียงพอ ซึ่งนี่เป็นจุดเด่นอีกอย่างของขวดฮาชชิ
ปกติไซริงจ์ที่เค้าใช้จะใช้หลอดใหญ่ ไม่ 10ml ก็ 20 ml
ถ้าหลอด 10 ml บีบหมดหลอดแล้วยังล้างไม่ทันเกลี้ยงดีเลย
น้ำเกลือที่น้อยเกินไปจะทำให้น้ำเกลือไม่ค่อยไหลออกรูจมูกอีกรู
เลยรู้สึกเค็มๆคอหรือเหมือนจะสำลักได้ง่ายจ้า
ความจุหนึ่งขวดฮาชชิสามารถใช้ล้างสองรูได้แบบเหลือเฟือเลย
ใครเป็นมือใหม่หัดล้างกลัวน้ำเกลือจะไฟลลงคอ มีเทคนิคให้นิดนึง
ตอนที่ล้างให้กลั้นหายใจ หรือออกเสียง "อา...." ยาวๆน้ำจะไม่ไหลลงคอฮับ Smiley

หลังล้างแต่ละข้างให้ทำเหมือนสั่งน้ำมูกเบาๆแล้วเพื่อนๆจะต๊กกะใจ
ว่าแต่ละวันนี่จมูกเรามีฝุ่นตกค้างอยู่มากมายขนาดนี้เลยเหรอ !!?!?
วันไหนอยู่ในที่ฝุ่นเยอะๆหลังล้างจมูกเค้าสั่งน้ำมูกออกมามันเป็นคราบดำๆเลย
อี๋แหวะมาก แล้วคิดดูว่ามันสะสมแบบนี้ในโพรงจมูกเราทุกวัน
ไม่แปลกใจเล้ยยยที่จะคันจมูกและมีอาการภูมิแพ้เป็นระยะๆ
ทำการล้างทีละข้างจนน้ำที่ออกมาใสกริ๊ง ก็เปลี่ยนทำเช่นเดียวกันอีกข้างนึงจ้า
หลังล้างอาจจะเค็มๆคอนิดนึง ให้กลั้วคอด้วยน้ำสะอาดเป็นอันเสร็จพิธีฮับ
ไม่ยากและไม่น่ากลัวเลย ต้องลองซักครั้งรับประกันจะติดใจ โปร่ง โล่ง สบาย ฮริ้ววว Smiley

***ครั้งแรกๆที่ทำการล้างจมูกร่างกายจะยังไม่ชินอาจจะรู้สึกแสบๆนิดๆ
ถือเป็นอาการปกติฮับพอล้างครั้งที่สองครั้งที่สาม
ร่างกายจะเคยชินและไม่รู้สึกแสบแล้วจ้า
ถ้าครั้งแรกกลัวจะแสบสามารถลดเกลือลงนี้ดดนึงได้
เพื่อให้ความเข้มข้นลดลงหน่อย แต่อย่าเจือจางมากเพราะความเข้มข้นที่น้อยไป
จะไม่สามารถไปล้างสิ่งสกปรกในโพรงจมูกออกได้ค่า

***ถ้ามีน้ำมูกข้นคั่งในรูจมูกมาก หรือมีอาการคัดจมูกอยู่
น้ำเกลือจะไหลไปทะลุออกอีกรูได้ยาก อย่าเพิ่งฝืน
ให้บีบเบาๆแล้วปล่อยน้ำเกลือไหลออกทางรูเดิม
เพื่อให้คราบอุดตันนิ่มลงก่อน จากนั้นเว้นช่วงสัก 3-5 นาที
แล้วค่อยทำซ้ำจนกว่าน้ำเกลือจะสามารถไหลออกอีกรูนึงได้จ้า

ฮาวทูการล้างแบบวิดีโอตามนี้เลยจ้า





คำแนะนำการใช้จะมีบอกในคู่มือ
ซึ่งการผสมน้ำเกลือหนึ่งครั้งสามารถใช้จนหมด
หรือถ้าใช้ไม่หมดก็ให้เททิ้งแล้วล้างขวดและปากขวดด้วยน้ำอุ่น
ไม่เก็บไว้ใช้ซ้ำนะค๊า ผิดวัตถุประสงค์หมดเน่อ
เพราะสาเหตุที่เค้าทำเกลือมาให้ผสมเป็นซองๆ
เพื่อให้เราได้ใช้น้ำเกลือใหม่ๆทุกครั้งที่ล้างจ้า

การล้างขวดแค่น้ำอุ่นก็พอเน่อ ไม่จำเป็นต้องนำไปต้มฆ่าเชื้อแต่อย่างใดค่า
จะได้ไม่ต้องกังวลการปนเปื้อนของเชื้อโรคเหมือนขวดน้ำเกลือที่เปิดใช้แล้ว
เค้าเองจะล้างจมูกวันละสองครั้งคือตอนเช้าและตอนก่อนนอน
ยอมรับว่าช่วงไหนร่างกายปกติดี ตอนเช้าก็ล้างบ้างไม่ล้างบ้างแหะๆ
แต่จะพยายามล้างตอนเย็นเรื่อยๆเพราะเราเผลิญมลพิษมาทั้งวันอ่าฮับ



ในเซ็ตอุปกรณ์ล้างจมูก Hashi Plus
จะมีเกลือฮาชชิสูตรอ่อนโยนสีเขียวอ่อนมาให้ 15 ซอง ใช้ได้ 15 ครั้ง
ซึ่งเมื่อใช้หมดเราสามารถซื้อเป็นเกลือแบบรีฟิลมาใช้ได้ไม่ต้องซื้อขวดใหม่
โดยจะมีเกลือให้เลือก 2 แบบ คือ


Hashi Salt Refill (Gentle Formula)
เกลือฮาชชิสูตรอ่อนโยน : สีเขียวอ่อน

Hashi Salt Refill
เกลือฮาชชิสูตรธรรมดา : สีฟ้า


เกลือฮาชชิสูตรอ่อนโยน และสูตรธรรมดา ต่างกันอย่างไร???


เกลือฮาชชิสูตรอ่อนโยน ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์บริสุทธิ์
ซึ่งเมื่อผสมน้ำแล้วจะได้น้ำเกลือที่มีความเข้มข้นเท่ากับของเหลวในร่างกาย
จึงอ่อนโยนและไม่ระคายเคือง สามารถชะล้างฝุ่นละออง น้ำมูก
และสิ่งสกปรกออกจากโพรงจมูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และสามารถนำไปใช้ประโยขน์อื่นๆได้เช่นเดียวกับน้ำเกลือล้างแผลปกติด้วยจ้า

ส่วน เกลือฮาชชิสูตรธรรมดา ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์
และโซเดียมไบคาร์บอเนต
ในสัดส่วนที่พอเหมาะ ซึ่งหลังจากผสมน้ำแล้ว
จะได้น้าเกลือที่มีความเข้มข้นสูงกว่าของเหลวในร่างกายเล็กน้อย
จึงสามารถลดความเหนียวข้น/แข็งของน้ามูกที่อุดตัน
และลดอาการบวมอักเสบของโพรงจมูกได้ดี สูตรธรรมดาจึงเหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
เช่น ผู้ป่วยโรคไซนัสอักเสบ ซึ่งทางแบรนด์บอกว่าเป็นเกลือเพียงสูตรเดียวในตอนนี้
ที่มีผลการวิจัยยืนยันจาก University of Wisconsin ว่าเหมาะสมกับการล้างจมูกมากที่สุดจ้า

***ช่วงที่ป่วยหรือเป็นหวัดคัดจมูกสามารถผสมเกลือสูตรอ่อนโยน
จำนวน 2 ซองต่อการใช้หนึ่งครั้งได้ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นจะช่วยขับน้ำมูกข้นๆออกได้ดีขึ้นจ้า




เทเกลือฮาชชิให้ดูกันชัดๆเค้าบอกว่าไม่มีการใส่สารกันชื้น
สารกันการเกาะตัวเป็นก้อน ไม่มีไอโอดีน ไม่มีการแต่งกลิ่นสี
เพราะสิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้
ตัวเกลือเค้าจึงอาจจะเกิดการเกาะตัวเป็นก้อนได้นิดหน่อย
แต่สามารถบีบเบาๆเกลือจะแตกออกเป็นเม็ดเล็กๆเหมือนเดิมจ้า
ขนาดของเม็ดเกลือละเอียดมาก สามารถละลายน้ำได้หมดฮับ

--------------------------------------------------------------------

สรุปสำหรับเค้าที่ล้างจมูกมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
ขอบอกว่ามันเริ่ดดดมาก คือเป็นอุปกรณ์เฉพาะสำหรับการล้างจมูก
จึงง่ายกว่าการใช้กระบอกฉีดยามาก และสามารถพกพาได้ง่าย
เนื่องจากเกลือมาเป็นซองๆพกง่ายกว่าน้ำเกลือขวดๆเยอะเลย
ล่าสุดเค้าพกไปฮ่องกงด้วยแหละ ก่อนไปเป็นหวัดคัดจมูกน้ำมูกข้นปั้ก
เลยล้างเช้า-เย็นทุกวันตั้งแต่ก่อนไป แล้วพกไปล้างตอนไปเที่ยวด้วย
ช่วยให้อาการหวัดดีขึ้นได้ไวมากจริงๆค่ะ ลดการทานยาได้ได้มาก
ซึ่งคุณแฟนเค้าเคยเป็นไซนัสอักเสบเริ่มมาล้างจมูกด้วยกันเมื่อหลายปีก่อน
ตอนนี้อยู่รอดปลอดภัยไม่ต้องผ่าหนองในโพรงจมูกและไม่ต้องพ่นยาแล้วคร้าบ
คอนเฟิร์มให้ได้จริงๆว่าการล้างจมูกมันเวิร์คมาก
เด็กๆอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไปก็สามารถล้างจมูกได้
รวมถึงผู้หญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรที่ไม่สามารถทานยาได้จ้า

--------------------------------------------------------------------

หวังว่าบล็อคนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ
ให้ดูแลสุขภาพกันมากขึ้นนะค้า

ขอบคุณ Hashi ที่ส่งผลิตภัณฑ์มากให้ครบเซ็ต
บอกเลยว่าซื้อใช้ต่อแน่นอนค่า รายละเอียดเพิ่มเติม
เข้าไปชมหรือสอบถามได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ค่ะ

www.hashi.co.th
www.facebook.com/hashi.clear
Instagram : hashi_official

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยคร๊าบ Smiley




 

Create Date : 18 ธันวาคม 2556    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2557 21:24:38 น.
Counter : 57035 Pageviews.  

Review : วิตามินซีมีประโยชน์ต่อผิวอย่างไร?มีวิธีการใช้อย่างไร? by Moody Booster Serum Vitamin C 20%




 

Create Date : 14 ธันวาคม 2556    
Last Update : 14 ธันวาคม 2556 14:43:26 น.
Counter : 25695 Pageviews.  

Review + How To <Video> : เทคนิกการเลือกสำลีและวิธีการคลีนเมคอัพให้สะอาด by AIME Facial Cotton






 

Create Date : 11 ธันวาคม 2556    
Last Update : 11 ธันวาคม 2556 14:35:20 น.
Counter : 3384 Pageviews.  

Review : OLAY® AQUACTION Moisturizer long lasting hydration gel เจลเติมน้ำให้ผิวจากโอเลย์จ้า

ผิวที่มีสุขภาพดี คือผิวแบบไหน???
บางคนมองว่าต้องขาว ต้องเนียน ไร้สิว ไร้ริ้วรอย
แต่จริงๆแล้วผิวสุขภาพดีคือผิวที่ดูชุ่มชื่นเปล่งปลั่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อผิวมีความบาลานซ์
ของปริมาณน้ำมันและความชุ่มชื่นหรือปริมาณน้ำในผิว
ถ้าปริมาณน้ำในผิวน้อยกว่าปกติก็จะประสบปัญหา "ผิวขาดน้ำ"
ซึ่งผิวขาดน้ำนี่แหละน่ากลัวที่สุดเพราะเป็นต้นเหตุของปัญหาอื่นๆ
ที่จะตามมาอีกเป็นพรวนเลย และผิวขาดน้ำสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิวอีกด้วย

-------------------------------------------------------------------------------------------

ความแตกต่างระหว่าง ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม และ ผิวขาดน้ำ???

ผิวมัน >>> ผิวที่มีปริมาณน้ำมันมากกว่าปกติ
ผิวแห้ง
>>> ผิวที่มีปริมาณน้ำมันน้อยกว่าปกติ

ผิวผสม >>> ผิวที่มีจุดที่มีน้ำมันน้อยและมากกว่าปกติ
ผิวขาดน้ำ >>> ผิวที่มีปริมาณน้ำในผิว(ชั้นกำพร้า)น้อย

การแบ่งสภาพผิวจึงแบ่งจากปริมาณน้ำมันไม่เกี่ยวกับปริมาณน้ำในผิว
ดังนั้นไม่ว่าผิวจะมีน้ำมันมากหรือน้อยจึงมีความเสี่ยงที่จะมีปริมาณน้ำในผิวน้อยเช่นกัน
โดยเฉพาะผิวมันที่รู้สึกว่าน้ำมันผิวมากหน้าเยิ้มทั้งวันยิ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงใหญ่เลยที่ผิวจะขาดน้ำ
เพราะเมื่อใดที่ผิวเราขาดน้ำขาดความชุ่มชื่นมากๆกลไกของร่างกาย
จะยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อเคลือบผิวชั้นบนไว้ไม่ให้ความชุ่มชื่นระเหยออก
ดังนั้นผิวที่มันมากๆอาจจะหมายความว่าอาการผิวขาดน้ำยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
และในช่วงที่ผิวมันมากกว่าปกติก็จะเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ง่ายยิ่งขึ้น
สำหรับผิวที่แห้งและขาดน้ำผลลัพธ์ที่ตามมากคืออาการผิวลอก คัน
ซึ่งจะทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย ไวต่อสิ่งกระตุ้น
ไม่ว่าจะเป็นครีม สารเคมี หรือแสงแดด จนทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผิวแบบแพ้ง่ายนั่นเอง
เห็นไหมล่ะคะว่าแค่ผิวขาดน้ำอย่างเดียวนี่สามารถก่อให้เกิดปัญหาอีกสารพัน เฮ้อ!

-------------------------------------------------------------------------------------------

บล็อคนี้เค้าเลยจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเติมน้ำเติมความชุ่มชื่นให้ผิว
กับแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี OLAY นั่นเองจ้า กับไลน์ Aquaction



รีวิวให้ชมกันเป็นแบบภาพนิ่งและแบบคลิปวิดีโอเลือกรับชมตามชอบคร๊าบ



OLAY® AQUACTION
โอเลย์ อควาแอคชั่น 

-----------------------------------------------------

ผลิตภัณฑ์ไลน์ใหม่จากโอเลย์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวขาดน้ำ
โดยเค้าจะมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ออกมาทั้งหมด 5 ชิ้น ได้แก่

OLAY AquAction Long-lasting Hydration Gel
OLAY AquAction Deep Hydrating Dew
OLAY AquAction Intensive Nourishing Emulsion
OLAY AquAction Softening Sleeping Mask
OLAY AquAction Nourishing Hydration Mask


ซึ่งทางโอเลย์ได้ส่งมาให้เค้าลองใช้ 3 ชิ้น คือ Gel , Emulsion
และ Sleeping Mask
ตามที่เห็นในภาพ แพ็คเกจเป็นโทนสีน้ำเงิน
ซึ่งเค้าจะมารีวิวเจาะลึกให้ชมกันกับผลิตภัณฑ์ชิ้นเอกของไลน์นี้
ได้แก่
OLAY AquAction Long-lasting Hydration Gel  จ้า



OLAY AquAction

Long-lasting Hydration Gel

โอเลย์ อควาแอคชั่น ลอง ลาสติ้ง ไฮเดรชั่น เจล

ขนาดและราคา : ขนาด 50 g ราคา 599 บาท
สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป

-----------------------------------------------------

ข้อมูลส่วนผสมหลักที่ใช้ในผลิตภัณฑ์กลุ่ม AquAction

WSK – ส่วนผสมจาก เห็ดหูหนูขาว (Tremella Fuciformis Sporocarp Extract)
ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำรับความงาม
ของสนมชื่อดังในตำนานชาวจีน หยางกุ้ยเฟย
ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่า กรดไฮยาลูโรนิค (hyaluronic acid)
ซึ่งในปัจจุบันถือกันว่าเป็นส่วนประกอบที่มีความล้ำเลิศในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
จากการทดสอบแสดงให้เห็นว่า WSK มีประสิทธิภาพเหนือกว่ากรดไฮยาลูโรนิคในการเก็บกักน้ำ
***WSK ผสมอยู่เฉพาะใน Softening Sleeping Mask
และ Intensive Nourishing Emulsion


Niacinamide
– ไนอาซินาไมด์หรือวิตามิน B3 ช่วยแก้ปัญหาผิวดูอ่อนล้า
อันเนื่องมาจากผิวขาดการบำรุงและภาวะความเครียดในแต่ละวัน
ทั้งยังช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ข้อมูลผลิตภัณฑ์


เจลใสสีฟ้าอ่อน เนื้อบางเบา มีส่วนผสมของสารที่จับตัวกับน้ำ
เพื่อช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพร้อมเสริมสร้าง
ประสิทธิภาพการเก็บกักความชุ่มชื้นของผิว
ให้ผิวได้เพลิดเพลินกับ Aquaction เพื่อผิวอิ่มน้ำยาวนาน
ช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นของผิวแห้งหลังใช้เพียงครั้งเดียว
และสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง
ให้ผิวรู้สึกอิ่มเอิบอย่างต่อเนื่อง



วิเคราะห์ส่วนผสมแบบง่ายๆ

- ส่วนผสมหลักอันดับต้นๆคือ Glycerin
และสารในกลุ่ม Glycol ซึ่งเป็นสารในกลุ่มที่ให้ความชุ่มชื่น

- มี Alcohol เป็นส่วนผสมในอันดับที่ 5
หลายคนจะกลัวเวลาเห็นแอลกอฮอล์อยู่ในส่วนผสม

แต่จริงๆแล้วเค้าใส่เพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์แห้งซึมผิวได้ไวไม่เหนอะหนะ
ซึ่งโดยปกติถ้ามีแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆจะส่งผลทำให้ผิวแห้ง
แต่ถ้าส่วนผสมอื่นที่ให้ความชุ่มชื่นมีปริมาณมากกว่าแอลกอฮอล์ก็ไม่มีปัญหาอะไรจ้า

- มี Niacinamide หรือ Vitamin B3 มาเป็นอันดับแปด
ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์ทุกไลน์ของ OLAY
ซึ่งมีคุณสมบัติหลากหลายมาก ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นลดความอ่อนล้าของผิว

- มีส่วนผสมของ Dimethicone ที่ให้เนื้อสัมผัสเรียบลื่นเมื่อทาไปบนผิว

- มี Allantoin ที่ช่วยลดอาการระคายเคือง ต่อต้านอาการแพ้ต่างๆของผิว

- มีสารสกัดจากใบไผ่ Bambusa Vulgaris Leaf ซึ่งเป็นพืชที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำสูงมาก

- มีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ Aloe Barbadensis Leaf Juice
ที่ช่วยให้ความชุ่มชื่น ให้ผิวเนียนนุ่ม และลดอาการระคายเคืองของผิว

- มีสารสกัดจากแตงกว่า Cucumis Sativus (Cucumber) Fruit Extract
ซึ่งเหมาะกับคนเป็นสิวและผิวมันเพราะช่วยลดความมันแต่ให้ผิวนุ่มคงความชุ่มชื่นใต้ผิวหนัง

- มี Agarum Cribosum Extract สารสกัดจากสาหร่ายชนิดหนึ่ง

***มีส่วนผสมของน้ำหอม (Fragrance) และสารกันเสีย (Ethylparaben)




กระปุกเป็นพลาสติกหนาซ้อนสองชั้นทึบแสง
มีฝาปิดสองชั้นเป็นฝาสีขาวด้านในและฝาเกลียวด้านนอก
ด้วยความที่เป็นแบบกระปุกเวลาจะป้ายครีมมือจะต้องสะอาดจริง
หรือใช้ไม้ปายที่สะอาดในการปาดครีมนะคะ
เพราะว่าเสี่ยงต่อการเสื่อมด้วยการปนเปื้อนและอากาศได้ง่ายจ้า



เนื้อและกลิ่นของผลิตภัณฑ์

เนื้อเป็นเจลใสๆสีฟ้าอ่อน มองในกระปุกจึงจะเห็นสีป้ายออกมาแทบจะเห็นเป็นเจลใสๆ
เนื้อเจลค่อนข้างใสไม่หนึบ เกลี่ยให้ซึมผิวได้ง่ายมาก เวลาทาจะรู้สึกเย็นๆผิวเหมือนเอาน้ำลูบ
เมื่อเกลี่ยจนซึมหมดผิวจะนุ่มๆลื่นๆเหมือนมีฟิลม์เคลือบผิวบางๆ
หลังทาให้ลุคผิวแบบกึ่งแมท ไม่เงา มันไม่วาว ไม่รู้สึกเหนอะหนะเลยแม้แต่นิดเดียว!
กลิ่นน้ำหอมเป็นกลิ่นแบบเฟรชๆให้ความรู้สึกสดชื่น แต่กลิ่นค่อนข้างชัดติดอยู่บนผิว
คงเพราะปกติเค้าจะใช้ครีมแบบไม่มีน้ำหอมเลยรู้สึกกว่ากลิ่นชัดไปหน่อยจ้า

ความรู้สึกหลังทดลองใช้

พื้นฐานผิวเค้าคือผิวแห้ง เป็นผิวแบบที่ซึมครีมไวเว่อร์ให้ครีมเนื้อหนักแค่ไหนก็ซึมเกลี้ยง
ได้ลองใช้โอเลย์อควาเจลตัวนี้เลยแอบตกใจสำหรับผิวเค้ามันซึมหมดแบบหมดจริงๆ
ภาพที่เห็นคือหลังทาเจลตัวนี้ผิวไม่มีจุดขึ้นเงาเลยจ้าแทบจะแมทไปเลย
แต่จับผิวจะรู้สึกว่าผิวหยุ่นๆนุ่มๆดีนะ แค่เค้าไม่ค่อยชินกับความแมท
เพราะปกติใช้แต่ครีมข้นๆหนักๆแหละหลังทาหน้าจะเงาๆหนึบๆหน่อย แหะๆ
ลองเทสทาตัวนี้เดี่ยวๆอยู่แอร์บ้างอากาศข้างนอกบ้างหมดไปหนึ่งวัน
มาดูตอนเย็นผิวหน้ายังโอเคอยู่ ไม่ได้แห้งตึง เมคอัพก็ติดบนหน้าดี
แสดงว่าให้ความชุ่มชื่นในระดับที่โอเคเลย โดยจุดเด่นคือความสบายผิวไม่เหนอะหนะ
คนผิวมันเค้าว่าได้ลองตัวนี้น่าจะชอบ เพราะให้ความชุ่มชื่นได้ดีแต่ไม่ทำให้หน้ามันจ้า
สำหรับเค้าที่ผิวแห้งการให้ความชุ่มชื่นถามว่าเพียงพอไหมก็พอนะ
แต่คงเป็นความไม่ชินในเนื้อผลิตภัณฑ์มากกว่า ทาแล้วซึมหมดหน้าออกแมทๆ
แรกๆที่ลองเลยไม่กล้าทาเดี่ยวๆ ทาเสร็จแล้วเลยแอบโบกครีมเนื้อข้นๆทับตามอีกนิดหน่อยฮะ
ชอบฟิลลิ่งหน้าหนึบๆเป็นการส่วนตัว แต่คนส่วนใหญ่คงไม่ชอบอะไรหนึบๆแบบเค้าเนอะ555

สรุป......จากส่วนผสมและการทดลองใช้สามารถตอบโจทย์เรื่องการให้ความชุ่มชื่นได้ดีค่ะ
โดยให้ความชุ่มชื่นยาวนานใช้ได้เลย จุดเด่นคือเนื้อซึมไวไม่เหนอะหนะจึงใช้ได้ทุกสภาพผิว
ราคากลางๆไม่สูงมากและหาซื้อได้ง่าย แต่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอมและพาราเบน
ถ้าคนที่ผิวแบบระคายเคืองง่ายแนะนำให้เทสป้ายไว้
ตรงข้อพับหรือหลังใบหูก่อน 24 ชม.เพื่อเทสอาการแพ้ก่อนใช้กับหน้าดีกว่าจ้า



แถมๆให้ดูเนื้อผลิตภัณฑ์เทียบกันสามตัว ได้แก่

OLAY AquAction Long-lasting Hydration Gel (50 g 599 บาท)
OLAY AquAction Intensive Nourishing Emulsion
(50 g 599 บาท)
OLAY AquAction Softening Sleeping Mask
(130 g 799 บาท)

Sleeping Mask กระปุกใหญ่มว๊ากกกกใช้กันจนลืม Smiley
เนื้อดูจากกระปุกจะเป็นโทนฟ้าอ่อนๆเหมือนกันหมดแต่จะต่างกันตรงเป็นเจลใสหรือเจลขุ่น



เปรียบเทียบเนื้อ Emulsion , Gel และ Sleeping Mask
ดูจากกระปุกไม่เหมือนกันแต่ป้ายออกมาคล้ายกันเนอะ
เค้าป้ายทิ้งไว้หนาพอควรแล้วทิ้งไว้ไม่เกลี่ย
เนื้อครีมสามารถซึมลงผิวได้เองและไม่ทำให้ผิวขึ้นเงาทั้งสามแบบจ้า



รายละเอียดส่วนประกอบของ

OLAY AquAction Intensive Nourishing Emulsion
***มี WSK สารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว (Tremella Fuciformis Sporocarp Extract)



รายละเอียดส่วนประกอบของ
OLAY AquAction Softening Sleeping Mask
***มี WSK สารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว (Tremella Fuciformis Sporocarp Extract)

-------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณ Olay ที่ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ทดลองนะคะ Smiley
รายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมสอบถามได้ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ


https://www.facebook.com/OlayThailand

-------------------------------------------------------------------------------

***รีวิวเป็นการทดลองใช้ส่วนบุคคล ซึ่งผลการใช้จะเปลี่ยนแปลงไปตาม
สภาพปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวเดิม สภาพแวดล้อม การพักผ่อน ฯลฯ
ดังนั้นในการเลือกใช้สกินแคร์ใดๆให้พิจารณาอย่างมีสติ เลือกให้ตรงกับสภาพผิวของเรา
ในเรื่องการแพ้ การระคายเคือง หรือ ทำให้อุดตันไหม ทรายตอบให้ไม่ได้นะคะ
ต้องสังเกตตัวเองว่าเราแพ้ส่วนผสมใด แล้วให้เลี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมนั้นๆค่ะ

---------------------------------------------------------------------------

หวังว่ารีวิวนี้จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ

ขอบคุณค่ะ
Smiley XOXO  Smiley




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2556 18:54:57 น.
Counter : 18898 Pageviews.  

Review : Panasonic Facial Ionic Steamer เครื่องอบไอน้ำสำหรับผิวหน้า

  สวัสดีค่ามาพบกับบล็อครีวิวซึ่งบล็อคนี้แหวกแนวหน่อย
เพราะจะมารีวิว Beauty Gadget อุปกรณ์ไฮเทคเกี่ยวกับความงามให้ชมกันจ้า
กับ Panasonic Facial Ionic Steamer
เครื่องอบไอน้ำสำหรับผิวหน้า เชื่อว่าเพื่อนๆคงเคยเห็นกันมาแล้วใช่ม๊า
แต่บล็อคนี้เค้าจะมารีวิวให้ชมกันแบบละเอียดว่าจุดเด่นคืออะไรและใช้ทำอะไรได้บ้าง
เพราะอุปกรณ์แบบนี้มักจะประสบปัญหาว่า
ไม่กล้าซื้อเพราะไม่รู้ว่าซื้อมาแล้วจะใช้ดีไหมอ่าเนอะ Smiley



PANASONIC
 Beauty EH-SA31
Facial Ionic Streamer

nanocare
เครื่องอบไอน้ำสำหรับผิวหน้า

-----------------------------------------------------------------

ราคา : 4,690 บาท
สถานที่ซื้อ : โซนเครื่องใช้ไฟฟ้า PANASONIC
ในห้างสรรพสินค้าทั่วไปค่ะ



จุดเด่นของเครื่องนี้คือเทคโนโลยี nanoe (Nano-Technology + Electric)
คือไอน้ำที่ปล่อยออกมาจะมีอนุภาคเล็กกว่าไอน้ำธรรมดาถึง 6 เท่า (นาโนคือ -6 จ้า)
ซึ่งจะปล่อยออกมาในรูปแบบประจุลบ (อิออน : ion) ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี
ดังนั้นด้วยขนาดที่เล็กกว่าผนวกกับประจุลบจึงแทรกลงไปในชั้นผิวได้ดีกว่า
ให้ความชุ่มชื้นได้มากกว่าและคงความชุ่มชื้นได้นานกว่าจ้า



เปิดกล่องมาด้านในจะมีใบรับประกันและคู่มือการใช้ที่คนไทยไม่ค่อยอ่านกัน 555 Smiley



ตัวเครื่องหน้าตาแบบนี้มาพร้อมสายไฟแยกกัน



โชว์ตัวด้านหน้าและด้านหลัง ขนาดไม่ใหญ่มากสูงประมาณคืบนิดๆ
ตัวเครื่องรวมสายไฟไม่หนักมากประมาณ 8 ขีด พกพาได้จ้า
เค้าชอบมีปุ่มเปิดปิดอย่างเดียว เอาว่าเปิดมาไม่งงแน่ๆใช้งานง่าย
เจอ Gadget บางอย่างปุ่มมากมายคือไม่รู้จะกดอะไรก่อนดี กลัวพังง่ะ 555 Smiley



ปุ่มเปิดปิดจะเป็นเลข 0 กับ 1
ซูมๆรูพ่นไอน้ำให้เห็นแบบชัดๆ



ก่อนทำการเปิดเครื่องใช้ต้องใส่น้ำก่อน
ที่ใส่น้ำจะอยู่ด้านหลังจ้า
น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำสะอาดหรือน้ำกลั่น ซึ่งเค้าใช้น้ำดื่มขวดๆนี่หล่ะ
แต่ต้องเป็นน้ำในอุณหภูมิปกติอย่าเอาน้ำแช่เย็นมาใส่นะคร้าบ
ที่ใส่น้ำจะมีสเกลวัดให้ Half คือใช้พ่นไอน้ำได้ 3 นาที Full คือ 6 นาที ค่ะ


***ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้น้ำประปาหรือน้ำแร่นะค๊า
เพราะว่าจะทำให้เครื่องเกิดตะกรันได้!!!



เมื่อใส่น้ำเรียบร้อยก็เสียบปลั๊กเลื่อนสวิทช์เปิดไปที่เลข 1
ตามคำแนะนำบอกว่าให้รอ 1 นาที แต่เอาจริงๆไม่ถึง 30 วิ
เครื่องก็เริ่มทำการพ่นไอน้ำออกมาแล้วค่า ไวเว่อร์ Smiley
ระยะของเครื่องอบไอน้ำ ควรให้ห่างจากใบหน้าประมาณ 20 ซ.ม.
ตามระยะห่างที่เค้าบอกอุณหภูมิของไอน้ำที่สัมผัสผิว
จะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส แค่อุ่นๆไม่ร้อนเกินไปจ้า



-----วิธีการใช้
-----
สามารถใช้ได้ในหลายขั้นตอนการดูแลผิวเลย
สำหรับเค้าจะใช้หลักๆอยู่สองขั้นตอน คือ

ใช้ในขั้นตอนการคลีนเมคอัพ
โดยจะใช้ร่วมกับคลีนซิ่ง ไม่ว่าจะเป็นแบบคลีนซิ่งมิลค์ บาล์ม หรือออย
คือคลีนซิ่งที่ต้องใช้การนวดวนบนใบหน้าเพื่อละลายเมคอัพ
สำหรับออยถ้าใครที่อุดตันง่ายเค้าไม่ค่อยแนะนำให้ใช้คู่กะเครื่องนี้เน่อ
เค้าผิวแห้งชอบใช้ออยลองใช้คู่กะเครื่องไม่เป็นอะไรสะอาดดี
แต่ถ้าผิวเป็นค่อนข้างมันอุดตันง่ายแนะนำว่าไม่เสี่ยงจะดีกว่าจ้า

การใช้เครื่องอบไอน้ำระหว่างคลีนจะช่วยให้นวดได้ลื่นขึ้น
ทำให้ไม่เกิดแรงเสียดสีบนใบหน้ามาก ไม่ไปริ้วรอยให้ผิว
และความร้อนจากไอน้ำจะทำให้พวกแว็กซ์ในเมคอัพ
ละลายตัวออกมาได้ง่ายขึ้น ทำให้คลีนได้สะอาดมากขึ้น
หรือถ้าไม่ใช้ระหว่างคลีน สามารถใช้พ่นไอน้ำทั่วหน้า
ให้อุ่นๆซัก 3 นาที แล้วค่อยทำการนวดคลีนซิ่งก็ได้เช่นกัน
แต่เค้าเองชอบนวดไปพ่นไอน้ำไปมากกว่าเพลินๆดี

แต่ขอแถมวิธีการนิดนึงสำหรับเค้าจะไม่นวดวนไปวนมาน้า
จะนวดแบบลูบไปตามแนวโพรงขน คือขนลู่ไปทางไหนลูบไปทางนั้น
ข้างแก้มจะเฉียงลง จมูก เหนือปาก คาง ลูบลง
หัวคิ้วลูบขึ้นและหน้าผากขนจะแหวกออกซ้ายขวา

เค้าทำทุกอย่างกับผิวหน้าด้วยทิศทางเดียวกันหมดทำให้ติดเป็นนิสัย
ตั้งแต่การทาครีม การแต่งหน้า และการล้างหน้า
ซึ่งการลูบเป็นทิศทางแบบนี้จะไม่ไปก่อให้เกิดความอุดตันในรูขุมขน
ลดปัญหาสิว สิวเสี้ยนไปได้มากกกกกก บอกเลยอยากให้ลองทำกันดูฮะ

หลังใช้คู่กับเครื่องเค้ารู้สึกนะว่าคลีนผิวได้เกลี้ยงไวขึ้น
โดยเฉพาะเวลาแต่งหน้าหนักๆรองพื้นแน่นๆ มันละลายออกมาไวขึ้น
และหลังล้างหน้าจะไม่รู้สึกว่าหน้าแห้งตึง จับผิวแล้วชุ่มๆนุ่มๆดีค่า Smiley



ใช้ในขั้นตอนการลงครีมบำรุงผิว
ก่อนทำการลงครีมบำรุงผิวให้อบไอน้ำผิวหน้าซัก 3 นาที
แล้วค่อยทำการทาครีมบำรุง จะรู้สึกเลยว่าครีมซึมลงผิวง่ายขึ้น
โดยเฉพาะพวกครีมเนื้อหนักๆ ความร้อนและไอน้ำช่วยละลายเนื้อครีม
ให้ความหนืดลดลง เกลี่ยตัวได้ง่ายขึ้น เหมาะมากสำหรับคนที่ผิวขาดน้ำ
เพราะคนผิวขาดน้ำสังเกตง่ายผิวจะกร้านๆทาครีมแล้วมันไม่ค่อยซึมเนอะ
สำหรับเค้า เค้าเองเป็นคนผิวแห้งแต่ว่าเป็นผิวที่ซึมครีมได้ดีมากซึมไวเว่อร์
ถ้าเทียบว่าอบไอน้ำกับไม่อบทาครีมซึมไวต่างกันมากไม๊ของเค้าไม่ต่างมากนะ
แต่ความต่างคือความนุ่มของผิว การทามอยส์เจอร์เนื้อหนักทำให้ผิวเด้งขึ้นหยุ่นขึ้น
แต่จะสังเกตได้ว่าถ้าใช้คู่กะการอบไอน้ำผิวจะรู้สึกนุ่มและรู้สึกชุ่มมากกว่าหล่ะ

-------------------------------------------------------------------------

นอกจากสองวิธีที่เค้าใช้ยังสามารถประยุกต์ใช้ได้อีกเยอะเลย เช่น

- ใช้คู่กับมาส์กหน้าแบบแผ่นๆมาส์กไปพ่นไปทำให้มาส์กซึมผิวดีกว่าจ้า

- ใช้คู่กับครีมในกลุ่มที่ใช้นวดหน้า ความชื้นจากไอน้ำช่วยให้นวดได้ง่ายขึ้น
และทำให้ครีมซึมเข้าไปบำรุงผิวได้มากขึ้น

- ใช้ก่อนการใช้มาส์กในกลุ่มลอกสิวเสี้ยน โดยอบไอน้ำก่อนซัก 3 นาที
แล้วค่อยแปะมาส์กลอกสิวเสี้ยน พวกหัวสิวจะอ่อนตัวลงทำให้ลอกติดมาส์กเยอะขึ้นจ้า

- ใช้ตอนเช้าก่อนลงสกินแคร์และแต่งหน้าเพื่อทำให้ผิวชุ่มชื้น
ซึ่งจะทำให้เมคอัพดูเนียนสวยและติดทนระหว่างวันมากกว่าจ้า

***หลายคนกังวลในเรื่องของรูขุมขนกว้างว่าอบไอน้ำแล้วจะยิ่งกว้างไหม
แต่กลับกันค่ะ การอบในขั้นตอนการคลีนเป็นการทำความสะอาดรูขุมขน
ให้สะอาดได้ล้ำลึกขึ้น เมื่อรูขุมขนสะอาดจึงส่งผลให้รูขุมขนมีขนาดเล็กลงได้จ้า


-------------------------------------------------------------------------

สรุปผลความรู้สึกหลังได้ทดลองใช้

PANASONIC Facial Ionic Streamer

- เค้าว่าให้ความชุ่มชื้นผิวได้เริ่ดนะสัมผัสได้ว่าผิวนุ่มและชุ่มชื้นขึ้น
เค้าชอบเวลาใช้กับขั้นตอนคลีนผิวให้ความรู้สึกดีว่าล้างหน้าสะอาดเอี่ยม
ซึ่งผิวที่สะอาดเป็นปัจจัยพื้นฐานเลยของการมีผิวหน้าที่ดี

- เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับขั้นตอนการดูแลผิว
ที่ทำให้ประสิทธิภาพของขั้นตอนนั้นๆมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
คือใช้สกินแคร์เดิมๆที่มีแต่ได้ประโยชน์มากขึ้น เห็นผลได้ดีขึ้นอ่าจ้า

- ระหว่างใช้ผ่อนคลายดีอุ่นๆเพลินๆรู้สึกว่าได้รีแลกซ์ อิอิ

- ข้อเสียเดียว ก็คือ เหมาะสำหรับคนที่ขยันและชอบดูแลผิวพรรณนะจ๊ะ
การใช้เครื่องจะไปเพิ่มระยะเวลาในแต่ละขั้นตอนการดูแลผิวอีกนิดหน่อย
ถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยเคลิบเคลิ้มไปกับการปรนนิบัติผิวแล้ว
ส่วนใหญ่จะประสบปัญหาคือซื้อมาตั้งเอาไว้ไม่ได้ใช้อ่านะ
คือถ้าซื้อมาแล้วอยากเห็นผลเครื่องแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้เห็นผิวเราสวยขึ้นทันที
แต่จะเห็นผลได้ดีในระยะยาวว่าผิวเราสุขภาพดีขึ้นและคงสภาพความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานขึ้น
แต่ผลทันตาที่สัมผัสได้เลยคือความชุ่มชื้น ก็ถ้ามีแล้วขี้เกียจใช้
ยังไงอย่างน้อยเค้าว่าขุดเอาออกมาใช้ในวันที่ผิวกร้านๆขาดน้ำก็ยังดีเนอะ
เพราะใช้ปุ๊บอันนี้สัมผัสผลได้ทันทีว่าผิวจะเฟรชและชุ่มขึ้นทาครีมได้ซึมขึ้น
เทียบความคุ้มค่ากับราคาสี่พันกว่า ถ้าซื้อมาแล้วใช้ก็ไม่แพง แต่ซื้อมาแล้วตั้งไว้ก็แพงจ้า

-------------------------------------------------------------------------



แถมๆเอา Beauty Gadget ของ PANASONIC ที่เค้ามีในกรุมาให้ชมด้วย
พานาโซนิคมีของเล่นในกลุ่มความงามเยอะเลยเปิดตัวเมื่อปีก่อน
ซึ่งเค้าจะเน้นเป็นโทนสีชมพูเอาใจสาวๆเต็มที่ เห็นสีชมพูทีไรใจละลายกันชิมิล่า Smiley



PANASONIC Eyelash Curler

แปรงปัดขนตาไฟฟ้าใส่ถ่าน AA หนึ่งก้อนเค้าลองเล่นแล้วโอเคเลย
แค่อุ่นๆไม่ได้ร้อนอะไรเค้าชอบตรงที่ใช้ปัดขนตาปลอมหลังติดได้ด้วย
ช่วยให้งอนขึ้นได้พอควรเลย แต่เค้าขนตาเทลงเป็นกันสาด
ต้องใช้ที่ดัดปกติดัดให้งอนก่อนจากนั้นปัดมาสคาร่า
แล้วค่อยใช้ตัวนี้ดันตรงโคนให้งอนเพิ่มอีกทีถึงจะเด้งสวย
สำหรับการใช้หลังปัดมาสคาร่าต้องทำความสะอาดดีนิดนึงน้า
เพราะความร้อนจะทำให้มาสคาร่าละลายอยู่บนที่ปัดนิดหน่อยจ้า
แต่เค้าก็มีแปรงมาให้ใช้ปัดหล่ะ ปัดทุกครั้งหลังใช้ดีสุดฮับ
อ้อหัวแปรงที่ใช้ยกขนตาสามารถถอดออกมาล้างได้น้า
ใช้ๆไปควรแกะออกมาล้างเรื่อยๆ เพราะใช้ใกล้ดวงตา
ต้องรักษาความสะอาดดีๆจ้ะ ราคาตัวนี้อยู่ที่ 1,390 บาทจ้า



PANASONIC Body Shaver

มีดโกนไฟฟ้าใส่ถ่าน AA ใช้โกนขนตามแขนขาหรือรักแร้
ใบมีดบิดได้แบบ 360 องศาเลย
อันนี้เค้ายังไม่เคยเล่นตอบให้มิได้ว่าเป็นไง แหะๆ
เค้าเป็นคนไม่มีขนตามแขนขาอ่าน้า
รักแร้ก็มีนิดเดียวเลยชอบถอนมากกว่า
ราคารู้สึกจะประมาณพันนึงนี่หล่ะค่ะ



PANASONIC Compact Toothbrush

แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบพกพาใส่ถ่าน AA หนึ่งก้อนเช่นกัน
เค้าบอกแปรงด้วยความเร็ว 16,000 รอบต่อนาทีเลยแต่เงียบไร้เสียง
และหัวแปรงเป็นไซส์เล็กจึงเข้าได้ถึงซี่ในสุด ยังมิได้ลองเหมือนกัน
ราคาคาดว่าน่าจะประมาณพันนึงจ้า



ภาพหมู่ PANASONIC Beauty Gadget ของเค้า
พูดถึงพานาโซนิคเราจะคิดถึงแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
แต่ตอนนี้พานาโซนิคนำเข้าอุปกรณ์กลุ่มบิวตี้เข้ามาเยอะเลย
เอาใจสาวๆเต็มที่ลองแวะไปลองกันดูได้จ้า

--------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณ PANASONIC THAILAND สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ส่งมาให้นะคะ
รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปชมหรือสอบถามได้ที่

//www.panasonic.asia/beauty/TH/index.html

//www.panasonic.com/th/consumer/health-and-beauty.html

https://www.facebook.com/PanasonicBeautyCare


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าค่า Smiley




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2556 22:01:23 น.
Counter : 27355 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]




..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน
http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้
ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!

---------------------------------------------------------

hits
New Comments
Friends' blogs
[Add SaRaY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.