Group Blog
 
All blogs
 

Review [Text + Video] : Olay Natural White Pinkish Fairness SPF15 / PA++



.....แค่ผิวขาวอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่คำตอบของสาวๆยุคนี้
เพราะผิวกระจ่างใสอมชมพูดูคือผิวที่ใครๆก็อยากมีเนอะ
เรียกได้ว่าไม่ต้องขาวเป็นหลอดไฟแต่ดูเปล่งปลั่งสุขภาพดีนั้นน่ามองกว่าเยอะ
บล็อคนี้จะมาอัพเดทผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สาวๆในราคาที่เอื้อมถึงกันกับแบรนด์ที่คุ้นเคย
ได้แก่ "Olay Natural White Pinkish Fairness" จ้า
มีให้เลือกรับชมทั้งแบบวิดีโอและภาพนิ่งเลือกเอาตามชอบได้เลยฮะ



Olay Natural White Pinkish Fairness 7 in One
Day SPF15 / PA++ , Fairness Cream + Serum Swirl
------------------------------------------------------------------------------------
ขนาด 40 g ราคา 259 บาท
มีจำหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปค่ะ



ข้อมูลผลิตภัณฑ์
ครีมบำรุงผิวผสมสารป้องกันแสงแดด (SPF15 PA++) สูตรเนื้อเบาบางชุ่มชื้นพิเศษ
ซึมซาบล้ำลึก ด้วยนวัตกรรมล่าสุดที่ผสานเซรั่มเข้มข้นเข้ากับมอยส์เจอร์ไรเซอร์
อุดมด้วยคุณค่าสารสกัดจากน้ำนมบริสุทธิ์และสารสกัดกุหลาบฝรั่งเศส
ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ พร้อมมอบผิวขาวกระจ่างใส
เปล่งประกายอมชมพูได้ถึง 7 มิติ เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

- ผิวกระจ่างใส อมชมพู
- ผิวเปล่งประกาย ดุจมีออร่าจากภายใน
- ผิวเรียบเนียน รูขุมขนดูเล็กลง
- สีผิวดูสม่ำเสมอ
- จุดด่างดำดูลดเลือน
- ผิวนุ่มชุ่มชื่น
- ผิวดูเปล่งปลั่ง มีสุขภาพดี



ส่วนผสมที่แบรนด์ยกมาเป็นตัวชูโรงมีสองตัวได้แก่
- Milk Essence : สารสกัดจากน้ำนมบริสุทธิ์ (Milk Lipid)
คุณสมบัติช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก เพียงครั้งแรกที่ใช้ รู้สึกได้ว่าผิวนุ่มเด้ง เปล่งปลั่ง

- French Rose Extract : สารสกัดจากกุหลาบฝรั่งเศส (Rosa Gallica Flower Extract)
คุณสมบัติตรงเข้าฟื้นฟูความหมองคล้ำ จุดด่างดำ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
พร้อมช่วยเพิ่มความเปล่งประกายอมชมพูให้กับผิวอย่างอ่อนโยน

----------------------------------------------------------------------------------

โดยส่วนผสมทั่วไปก็คือสารให้ความชุ่มชื่น 
มีวิตามินสารพัดประโยชน์อย่าง B3 (Niacinamide)
เป็นส่วนผสมหลักๆตามสไตล์ของ Olay 
แต่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และ น้ำหอม (Fragrance)
ใครผิวระคายเคืองง่ายควรทำการเทสก่อนใช้บนใบหน้านะคะ
ด้วยการป้ายเทสหลังใบหูไว้ 24-48 ชั่วโมงแล้วสังเกตอาการ
ส่วนเรื่องแอลกอฮอล์มีผลแค่ทำให้ผิวแห้งมากขึ้น
ด้วยสารให้ความชุ่มชื่นที่ใส่มาก็คาดว่าไม่น่ามีปัญหาเรื่องความแห้งเท่าใด
แต่ถ้าใครพื้นผิวค่อนข้างแห้งแบบทรายแนะนำให้ทาตัวบำรุงอย่างอื่นก่อน
ไม่ว่าจะเป็นเอสเซนส์ อิมัลชั่น เซรั่ม ฯลฯ แล้วจึงทาตัวนี้เป็นตัวสุดท้ายก่อนกันแดดค่ะ
และมีส่วนผสมของวิตามินซี ในรูปอนุพันธุ์ Sodium Ascorbyl Phosphate
ซึ่งโดยปกติไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแต่ถ้าใครเคยแพ้วิตามินซีเทสก่อนก็ดีจ้า



ลักษณะขวดเป็นพลาสติกขุ่นหัวปั๊มใช้งานง่าย
แต่ต้องระวังไม่วางในจุดที่โดนแดดส่องนะคะเพราะขวดมันโปร่งแสง
เนื้อครีมในขวดจะเป็นสเวิร์ลสองสีชมพูขาวพันเป็นเกลียว
แบรนด์เคลมมาว่าเป็นเซรั่มผสานอยู่กับมอยส์เจอร์ไรเซอร์
แต่เวลากดออกมาใช้จะผสมกันเป็นเนื้อเดียวไม่แยกสีค่ะ



ลักษณะเนื้อและกลิ่น

เนื้อครีมสีขาวอมชมพูนิดๆมีความเข้มข้นแต่ลื่นเกลี่ยไปบนผิวได้ง่าย
ซึมผิวได้หมดแทบไม่เหลือความเหนอะบนผิว
ไม่มีความมันไม่ทำให้ผิวขึ้นวาวหรือเยิ้มระหว่างวัน
ซึ่งในคลิปมาการเทสกับกระดาษซับมันแทบไม่มีน้ำมันซึมออกมาจากตัวครีมเลยจ้า
กลิ่นหอมสไตล์ฟลอรัลอ่อนๆทาแล้วมีกลิ่นติดที่ผิวจางๆ



หลังทาทันทีจะสังเกตได้ว่าผิวดูกระจ่างใส
และอมชมพูขึ้นนิดนึงเนื่องด้วยลักษณะสีของเนื้อครีม
แต่จะเห็นผลเรื่องผิวกระจ่างใสขึ้นแบบชัดเจนต้องใช้ต่อเนื่อง
ควบคู่กับการทากันแดดและเลี่ยงแดดค่ะ
ถึงแม้ครีมตัวนี้จะมีส่วนผสมของสารกันแดดอยู่แล้ว
แต่ค่าสารกันแดดมีเพียง SPF 15/ PA++ ไม่เพียงพอแน่นอนสำหรับแดดบ้านเรา
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทากันแดดตามอีกหนึ่งชั้นเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV สาเหตุความหมองคล้ำ
โดยค่าสารกันแดดแนะนำ SPF 30-50 และค่า PA+++ ถึง ++++ ค่ะ



สรุปความรู้สึกเมื่อได้ทดลองใช้

ข้อดีคือเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับสีผิวให้ดูไบรท์ขึ้นทันทีหลังใช้
เหมาะกับวันสบายๆที่ไม่ได้แต่งหน้า ลงครีมตัวนี้ผิวจะดูดีขึ้นทันตา
สำหรับวันที่แต่งหน้าครีมตัวนี้ก็ช่วยเตรียมผิวให้คุณสมบัติกึ่งเบสเมคอัพนิดๆ
ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอขึ้นพร้อมให้ความชุ่มชื่นจึงทำให้ลงเมคอัพได้ง่ายขึ้นค่ะ
โดยเค้าทาครีมตัวนี้ตามด้วยกันแดดจึงตามด้วยขั้นตอนเมคอัพเน่อ

โดยส่วนตัวเค้าไม่ได้มีปัญหาผิวหมองคล้ำจึงตอบผลลัพธ์ให้ไม่ได้ฮะ
อย่างไรก็ตามถ้าต้องการมีผิวที่ดูเปล่งปลั่งอมชมพูบอกเลยว่าต้องดูแลทั้งภายในและภายนอก
การบำรุงด้วยครีมเป็นปัจจัยเพียงด้านเดียว ต้องประกอบกับการเลือกรับประทานอาหาร
ทานน้ำเยอะๆและออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานได้ดี
ผิวพรรณก็จะดูสวยเปล่งปลั่งแบบมีเลือดฝาด ดูอมชมพูระเรื่อได้จากภายในค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by Olay Thailand




 

Create Date : 18 มกราคม 2558    
Last Update : 20 มกราคม 2558 10:38:15 น.
Counter : 14359 Pageviews.  

Review : Sola BB Primer และ Sola Foundation Powder ผ่องเด้งขั้นเทพเจ้ปลื้ม!



........อากาศร้อนๆแบบบ้านเราสาวๆย่อมต้องการเบสเมคอัพที่มีคุณสมบัติที่ติดทนนาน
ท้าแดดท้าเหงื่อช่วยควบคุมความมัน แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์จากเกาหลี
เรามักจะกังวลในเรื่องความฉ่ำ มัน เยิ้ม แหมก็บ้านเค้าอากาศเย็นนี่เนอะ
มาเจอกาศบ้านเราเข้าไปเยิ้มเป็นคัสตาร์ดเลยจ้า 
 แต่ตอนนี้มีแบรนด์เกาหลีน้องใหม่ที่เค้าทำเบสเมคอัพที่ตอบโจทย์สาวไทยแบบสุดๆ
ด้วยคุณสมบัติคุมมันติดทนเป็นตัวชูโรง ไปชมกันค่ะว่าเป็นแบรนด์อะไร
และคุณสมบัติเริ่ดตามคำเคลมเค้าหรือไม่ Smiley



Sola BB Primer SPF 37 PA++ (550 บาท)

บีบีผสมไพรเมอร์ที่ให้คุณสมบัติครบในหนึ่งเดียว
ตามคำเคลมเค้าบอกว่าช่วยปกปิดรอยดำรอยแดง ช่วยพรางรูขุมขนให้ผิวเรียบเนียน
ช่วยกระจายแสงให้ผิวดูกระจ่างใส ให้เมคอัพติดทนนาน
ที่สำคัญคือกันน้ำกันเหงื่อและช่วยควบคุมความมัน! 

 บีบีรุ่นนี้มีโทนสีเดียวเป็นโทนกลางๆค่อนข้างขาวเฉดเหลืองอมชมพูนิดๆใช้ได้ทุกสีผิว
แต่ส่วนตัวเค้าว่าเหมาะกับสาวผิวค่อนข้างขาวนิดนึง ถ้าผิวสองสีอาจต้องลงแค่บางๆ
เพื่อป้องกันปัญหาหน้าลอย ตอนทาทีแรกสีจะลอยจากผิวนิดๆแต่พอทิ้งไว้ให้เซ็ตตัว
สีจะค่อยๆกลืนไปกับผิวเรา เนื้อบีบีค่อนข้างหนืดต้องใช้ฝีมือในการเกลี่ยสักนิด 
แนะนำให้ค่อยๆเกลี่ยไปทีระแอเรียไม่ควรแต้มห้าจุดทั่วหน้านะจ๊ะเดี๋ยวมันแห้งหมด
แล้วจะเกลี่ยยาก หลังทาสังเกตได้ชัดเจนเลยว่าผิวหน้าจะดูนวลเนียนขึ้นมาก
แม้จะให้การปกปิดไม่มากแต่ให้เอฟเฟ็กต์ในการกระจายแสงได้ดี
พวกรูขุมขนจะแลดูเล็กลงผิวจะเรียบขึ้นแบบใช้ไพร์เมอร์เลย อันนี้สมคำเคลมมาก
สำหรับสาวผิวมันสบายใจได้ตัวนี้เนื้อค่อนข้างแห้งไม่มันเลยจริงๆ
แต่สำหรับสาวผิวแห้งแบบเค้าก็สามารถใช้ได้แต่ก่อนจะลงบีบี
ควรทาครีมบำรุงผิวให้ชุ่มเต็มพิกัดก่อนนะจ๊ะ!



Sola Foundation Powder SPF50 PA+++ (760 บาท) 

แป้งผสมรองพื้น ตามคำเคลมเค้าว่าคุณสมบัติคุมมัน เนียน ปกปิด 
กระจายแสงให้ผิวกระจ่างใส สีไม่ดรอป มีให้เลือก 2 เฉดสี
เบอร์ 1 สำหรับผิวขาว และเบอร์ 2 สำหรับผิวขาวเหลือง-สองสี 



 เนื้อแป้งปาดมาแล้วสัมผัสได้ว่านุ่มนวลเนียนมากกก ทาแล้วกลืนไปกับผิวเลย 
เค้าใช้พัฟที่ให้มาในตลับทาตัวพัฟนุ๊มนุ่มปาดแล้วติดเนื้อแป้งกำลังดี
ทำให้ปริมาณแป้งที่ติดบนหน้าไม่มากเกินไป แต่อย่าปาดหลายรอบมากนะคะ
เนื้อแป้งทับกันมากไปก็ดูหนาได้ ถ้าใครไม่เน้นปกปิดแนะนำให้ใช้แปรงปัดเอา
จะดูบางเบาเป็นธรรมชาติกว่าค่ะ 

เค้าเองใช้เบอร์ 1 สำหรับผิวขาวซึ่งออกไปทางโทนเหลือง
เข้ากับผิวคนไทย สำหรับเบอร์ 2 สีเข้มกว่ากันไม่มากแต่จะติดโทนแดงมากว่าค่ะ
เท็กซ์เจอร์ที่ได้ค่อนข้างแมทท์เลยถูกใจสาวผิวมันแน่นอน 
แต่สำหรับสาวผิวแห้งมันก็ไม่ได้ดูแห้งเกินไปเทคนิคเค้าคือหลังทาแป้ง
หรือหลังแต่งหน้าจะพ่นน้ำแร่ลงไปชุ่มๆแล้วรอให้แห้ง
แป้งจะเซ็ตตัวเนียนกลืนผิวได้สวยมากกก 



               เค้าใช้คู่กัน BB Primer และ Foundation Powder SPF50 PA+++
ขอบอกเลยว่า”ดีงาม” หน้าดูเนียนผ่องเด้งจริงจัง แต่ส่วนตัวเค้าผิวแห้ง
ไม่ชอบเรื่องความแมทท์มากเลยปัดพวกไฮไลท์ช่วยให้ดูผิวฉ่ำดูมีมิติขึ้น 
พิสูจน์ตั้งแต่บ่ายโมงออกเผชิญสภาพอากาศสุดแสนร้อนมาทั้งวันไม่ซับไม่เติมหน้า 
กลับมาเช็คสภาพผิวตอนสี่ทุ่มถึงกับตะลึงหน้าดูฉ่ำมากขึ้นผิวดูเนียนสวย
สีดูกลมกลืนกับผิวมากกว่าช่วงแต่งหน้าแรกๆแต่สีไม่ดรอปไม่หมองสมคำเคลม 

สรุปเลยว่าประทับใจในความผ่องเด้งติดทนนาน 
เป็นสูตรคุมมันที่ไม่ทำให้ผิวแห้งเกิดอาการแป้งแคร็กแตกเป็นร่องๆ เริ่ดค่ะ!

---------------------------------------------



Mhunoiii’s Score เต็ม 5 คะแนน
=====================

Sola BB Primer SPF 37 PA++

การปกปิด 3/5
ควบคุมความมัน/ติดทน 4/5
ความเนียน 4.5/5
ความผ่องเด้ง 4.5/5
---------------------------------------------

Sola Foundation Powder SPF50 PA+++

การปกปิด 3.75/5
ควบคุมความมัน/ติดทน 4/5
ความเนียน 4.75/5
ความผ่องเด้ง 5/5

หวังว่าบล็อคนี้จะถูกใจกันขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้านะค้า Smiley

------------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by Sola




 

Create Date : 10 มกราคม 2558    
Last Update : 10 มกราคม 2558 23:18:59 น.
Counter : 6452 Pageviews.  

Review : L’Oreal Paris False Lash Architect 4D Mascara งอนหนายาวเรียงเส้นกันน้ำเป๊ะครบจบในแท่งเดียว!

 สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังค่า แป๊บๆครบปีอีกแล้วเน้อ
ขอให้สาวๆทุกคนมีความสุขมากๆสวยๆรวยๆเฮงๆกันนะคร้าบ Smiley



รีวิวแรกรับปีใหม่มีมาสคาร่ามากฝากกับแบรนด์ที่เราคุ้นเคย
นั่นก็คือมาสคาร่ารุ่นใหม่ล่าสุดจากลอรีอัลปารีส 

L'Oreal Paris False Lash Architect 
4 Dimentions Effect Fibers Waterproof Mascara

ราคาแท่งละ 399 บาท
หาซื้อได้ที่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต 
และที่เคาน์เตอร์ของลอรีอัล ปารีส ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

-------------------------------------------------------------------------



ทางลอรีอัลส่งมาให้ลองพร้อมคำเคลมสุดอลังการ
ว่าคุณสมบัติครบเป๊ะในแท่งเดียวแบบ 4 มิติ งอน หนา ยาว สวยเด้ง กันน้ำ!
ด้วยนวัตกรรมไฟเบอร์สูตรพิเศษ ซึ่งมีความอ่อนนุ่มและหนาเพียง 4 มิลลิเมตร
ที่จะแนบสนิทไปกับทุกเส้นขนตาทำให้เส้นขนตาเรียบหนาเนียนลื่นเป็นธรรมชาติและกันน้ำ



หัวแปรงเป็นแบบพิเศษที่ทำให้ไฟเบอร์แนบไปกับขนตาได้ดี
ขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่ไป ทำให้ปัดได้ทั่วถึงกว่าอย่างหัวตาหรือหางตาฮะ



ฝากไว้นิดกับอายุการใช้งานของมาสคาร่าหลังเปิดใช้จะมีอายุประมาณ 3 เดือน
เมื่อครบเวลาควรเปลี่ยนแท่งใหม่อย่าเสียดายนะฮะ!
มาสคาร่าอยู่ใกล้ดวงตาเสี่ยงต่อการสะสมเชื้อโรคทำให้ติดเชื้อได้ง่ายระวังกันมากๆเน่อ



ก่อนจะไปชมรีวิวมาสคาร่าแบบจัดเต็มเค้ามีฮาวทูแต่งตามาฝากกันด้วย
สำหรับคนที่มีขนตาแบบเอเชียนสไตล์แบบเค้าคือไม่หนาไม่ยาวและไม่งอน555
เทคนิคง่ายๆเลยที่จะปัดขนตาแล้วทำให้ได้เห็นขนตาชัดๆก็คือ "ไม่กรีดอายไลน์เนอร์"
เพราะไลน์เนอร์เส้นหนาๆจะบดบังขนตาที่มีไม่มากของเราทำให้ยิ่งดูขนตาน้อย
การแต่งตาแบบนัวๆไม่เน้นเส้นขอบตาจะทำให้ขนตาดูเป๊ะยิ่งกว่าจ้า วิธีการตามนี้โลด

1. เขียนขอบตาด้วยดินสอแบบขอบตาสีดำโดยเขียนให้ชิดขอบตามากที่สุด
2. ทาอายแชโดวสีน้ำตาลแดงทับเส้นไลน์เนอร์ที่เขียนทาให้เต็มชั้นขอบตาแล้วเบลนให้ฟุ้งขึ้นไป
3. เบลนสีด้วยอายแชโดวสีอ่อนโทนสีครีมเพื่อให้เปลือกตาดูสว่างขึ้นตาจะไม่ดูโทรม
4. เขียนขอบตาล่างด้วยดินสอสีดำโดยเขียนแค่ 1 ใน 3 ของความยาวเส้นขอบตาล่าง
5. ทาทับด้วยอายแชโดวสีน้ำตาลแดงเกลี่ยเส้นให้ฟุ้งๆจะไม่ทำให้ตาดูดุ
6. เขียนหัวตาถึงกลางตาล่างด้วยดินสอเขียนขอบตาสีขาวมุก ทำให้ตาดูสดใส
7. เบลนเส้นที่เขียนด้วยอายแชโดวสีครีมเกลี่ยให้ฟุ้งลงมาเล็กน้อย
8. ดัดขนตาให้งอนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เทคนิคคือค่อยๆกดย้ำเบาๆเพราะถ้ากดแรงเกินไป
ขนตาจะหัก ค่อยๆเลื่อนที่ดัดออกทีละนิดจะทำให้ขนตาดูงอนเป็นรูปตัว C 
9. ขนตาที่ดัดเรียบร้อยแล้วงอนเด้งสวยงาม



พยายามถ่ายให้ชัดที่สุดจะได้เห็นดีเทลกันเนอะ
เทคนิคการปัดของเค้าคือถ้าอยากให้ขนตางอนเด้ง
อย่างแรกต้องดัดขนตาให้งอนที่สุด เท่าที่จะทำได้ก่อน ถ้าดัดไม่งอน
ต่อให้มาสคาร่าเทพขนาดไหนก็ไม่สามารถขุดขนตาที่เทเป็นกันสาดแบบเราขึ้นมาได้นะจ๊ะ

เทคนิคที่สองคือปัดครั้งแรกให้ปัดบางๆก่อนแล้วรอให้มาสคาร่าแห้งสนิทจึงทำการปัดซ้ำ
เพื่อเป็นการเพิ่มความหนาและความยาว ถ้าปัดเยอะๆแฉะๆตั้งแต่ทีแรก
น้ำหนักของไฟเบอร์ในมาสคาร่าจะทำให้ความงอนที่อุตส่าห์ดัดไว้เหี่ยวลง

การปัดซ้ำเพื่อเพิ่มความหนาให้เน้นหนาที่โคนโดยปัดแบบซิกแซ็ก
ส่วนความยาวที่ปลายให้ปัดแบบสะบัดแปรงออกเบาๆ ไฟเบอร์จะค่อยๆต่อให้ขนตายาวขึ้น
สำหรับขนตาล่างถ้ายังไม่คล่องแนะนำให้ถือแปรงในแนวตั้งจะปัดง่ายขึ้น
แต่ส่วนตัวเค้าถนัดถือแปรงแนวนอนเหมือนเวลาปัดขนตาบนมากกว่าฮะ




สำหรับ L'Oreal Paris False Lash Architect 4D Mascara
ผลลัพธ์หลังการปัดประมาณสามครั้งตามในรูปเลย
จะเห็นว่ามันดีงามมากกกกในเรื่องของความงอนและการช่วยให้ขนตาเรียงเส้น
ปัญหาใหญ่ที่ทำให้เค้าไม่ชอบปัดมาสคาร่าคือไม่ค่อยมีมาสคาร่าที่งัดขนตาเค้าให้งอนได้
แต่ตัวนี้จัดว่าเริ่ดนะตอบโจทย์ได้ดีเลย ส่วนความหนาไฟเบอร์เคลือบให้เส้นหนาขึ้นได้พอควร
แต่ให้เรื่องความยาวสำหรับเค้าตัวนี้ต่อความยาวได้ระดับนึงแต่ไม่มากนัก
ถ้าปัดย้ำที่ปลายขนตามากๆมันจะเป็นก้อนไม่ใช่ไฟเบอร์แบบที่ต่อออกไปเป็นเส้นๆฮะ



BEFORE & AFTER

ท๊าดา....มีขนตาชีวิตดี๊ ดี ช่วยให้ตาโตขึ้นอีกเยอะเรียกได้ว่าเป็นการเบิกเนตร 555
ด้วยลักษณะรูปตาและขนตาแบบสาวเอเชียจะเห็นว่าการแต่งตาแบบนี้ไม่ไปบดบังขนตา
ถ้ากรีดตาด้วยไลน์เนอร์เส้นหนาๆเส้นไลน์เนอร์สีดำจะไปบังความงามของเส้นขนตาหมด
ลองใช้วิธีนี้กันดูนะฮะบอกเลยว่าเวิร์คที่สุดละหลังจากที่เค้าลองมาหลายแบบ Smiley



เทสทั้งวันพบว่าขนตางอนยันดึกแต่ด้วยอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเราก็มีเหี่ยวลงเพียงเล็กน้อย
แต่ไม่เจอปัญหาแพนด้าหรือไฟเบอร์ร่วงหล่นลงมาให้เคืองตาแม้แต่น้อย
ส่วนความสามารถในการกันน้ำเค้าลองเอาน้ำสาดแบบแฉะๆเลยแล้วซับด้วยสำลี
ซับแล้วไม่มีคราบมาสคาร่าใดๆหลุดติดออกมาเลย จัดว่ากันน้ำได้เริ่ด! 



เห็นกันน้ำได้สุดพลังหลายคนต้องกลัวว่าจะล้างออกยากแน่นอน
แต่เค้าพิสูจน์ให้แล้วว่าล้างออกง่ายดายด้วย Eye & Lip Remover นะฮร้า
แค่มีทริกในการล้างนิดหน่อยที่หลายคนมักคาดไม่ค่อยถึง
ก็คือเวลาที่เราปัดเราปัดขนตาจากด้านล่างแต่เวลาเช็ดชอบหลับตาแล้วเอาสำลีโปะ
ซึ่งมันเป็นคนละด้านกับด้านที่ปัดจริงมะ? แล้วอย่างนั้นรีมูฟเวอร์จะโดนมาสคาร่าได้ไง
ทริกของเค้าคือปัดด้านไหนเช็ดด้านนั้น เวลาจะโปะสำลีให้ช้อนเส้นขนตาบนจากด้านล่าง
แล้วค่อยโปะขึ้นไปเพื่อให้รีมูฟเวอร์สัมผัสกับด้านที่ปัดมาสคาร่าโดยตรง
รีมูฟเวอร์จะไปทำละลายมาสคาร่าเองโดยไม่ต้องเช็ดถูแรงๆให้ขนตาหลุดร่วง
โปะทิ้งไว้แป๊บนึงแล้วลูบออกเบาๆแค่นี้มาสคาร่ากันน้ำขั้นเทพก็หลุดออกมาได้ง่ายดายแล้วจ้า



สรุปความพอใจของเค้ากับ
L'Oreal Paris False Lash Architect 4D Mascara
จากคะแนนเต็ม 5 ขอให้คะแนนแต่ละด้านตามนี้ฮะ

ความงอน 4.5/5
ความหนา 4/5
ความยาว 3.5/5
แยกเส้น 4.5/5
กันน้ำ 5/5
ล้างออกง่าย 4.5/5

สรุปความพอใจโดยรวม 4.25/5



เมคอัพเบากับมาสคาร่าสักแท่งก็ปรับลุคให้ดูเป็นสาวสดใสได้แล้ว Smiley



หวังว่ารีวิวนี้จะถูกใจกันลองนำเทคนิคของเค้าไปปรับใช้กันดูน้า
ได้ผลอย่างไรมาแชร์ให้ฟังกันด้วยน้า ขอบคุณทุกคนมากๆที่เข้ามาเยี่ยมชมค่า Smiley

------------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by L'Oreal Paris Thailand




 

Create Date : 08 มกราคม 2558    
Last Update : 10 มกราคม 2558 9:27:34 น.
Counter : 3483 Pageviews.  

Review [Video] : Olay White Radiance CC Cover & Correct Cream SPF15






Olay White Radiance 
CC Cover & Correct Cream SPF15 

ขนาด 50 ml ราคา 1,349 บาท

ข้อมูลผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์

โอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ ซีซี ครีม ช่วยปกปิดจุดด่างดำพร้อมเพิ่มความกระจ่างใส
เพื่อให้ได้ลุคที่สวย สว่างใส ในทันทีแล้ว ยังมีส่วนประกอบของเซรั่ม
ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานและความสามารถของผิวพรรณในการปกป้อง 
ฟื้นฟู และสร้างเซลล์ผิวขึ้นใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ 
ซึ่งให้ผลที่พิสูจน์ได้ในการลดเลือนผิวที่ดูหมองคล้ำและจุดด่างดำ

ด้วยส่วนประกอบหลักที่ผสมผสานเข้าด้วยกันเป็น Triple Swirl คือ

1. เซรั่มลดเลือนจุดด่างดำ ประกอบด้วย Essential Glucosamine Complex 
ซึ่งมีส่วนผสมของสาร N-Actyl Glucosamine (NAG) 
และ Nicianamide หรือวิตามินบี 3 ช่วยแก้ไขปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ
ที่สะสมมาเป็นเวลายาวนานและได้รับการทดสอบทางคลินิกในการช่วยลดเลือนจุดด่างดำ

2. มอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มความกระจ่างใส ที่มาพร้อมกับ กลีเซอรีน, SPF 15 
และสารแอนตี้ อ๊อกซิแดนซ์ (Anti-Oxidant) ในวิตามินอี 
ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผิว 
พร้อมแก้ไขปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอและไม่กระจ่างใส

3. รองพื้นเนื้อบางเบา จาก Max Factor Ultra-Fine Aqua - Pigments 
ซึ่งช่วยปกปิดจุดด่างดำและเท็กซ์เจอร์ของสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้ทันทีใช้
เนื้ออีมัลชั่นกระจายตัวซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย 
โดยไม่ทำให้ใบหน้าเหนียวเหนอะหนะ ไม่เป็นปัญหารองพื้นละลาย

ส่วนรายละเอียดรีวิวและวิธีการใช้คลิกรับชมได้ที่วิดีโอด้านบนเลยค่า Smiley

---------------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 08 ธันวาคม 2557    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2558 0:33:00 น.
Counter : 3200 Pageviews.  

Review : No7 Protect&Perfect ADVANCED Serum ปรับสูตรใหม่เซรั่มลดเลือนริ้วรอยที่ขายดีที่สุดของบู๊ทส์



ริ้วรอย.............คำสั้นๆที่ทำร้ายจิตใจได้อย่างรุนแรง
ไม่ว่าเพศไหนอายุเท่าไหร่ก็ไม่มีใครอยากมีริ้วรอยแน่ๆหล่ะเนอะ
บล็อคนี้เลยจะมารีวิวเซรั่มสูตรลดเลือนริ้วรอยโดยเฉพาะ
เป็นไอเท็มที่ขายดีที่สุดของบูทส์ในประเทศอังกฤษ
เพราะผลลัพธ์ของความเปลี่ยนแปลงที่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน
เรียกได้ว่ายอดขายถล่มทลายและเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเลย
ซึ่งในปีนี้เค้าได้มีการปรับสูตรใหม่ให้ไฉไลยิ่งกว่าเดิมนั่นก็คือ



 No7 Protect & Perfect 
ADVANCED Serum

เป็นเซรั่มที่มีมาแล้วกว่า 7 ปี ซึ่งมีการปรับสูตรใหม่ในปีนี้
โดยได้รับการพิสูจน์ทางคลินิคว่ามีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในการลดริ้วรอยแรกเริ่มและริ้วรอยร่องลึก มีด้วยกัน 2 สูตร ได้แก่

------------------------------------------------------------------------
No7 Protect & Perfect ADVANCED Serum
สีเขียวอมฟ้าอ่อน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25-35 ปี ที่มีปัญหาริ้วรอยตื้นๆ 

ขนาด 30 ml ราคา 1,100 บาท

------------------------------------------------------------------------
 No7 Protect & Perfect Intense ADVANCED Serum
สีเขียวอมฟ้าเข้ม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
ที่มีปัญหาริ้วรอยลึกและรอยย่นบนใบหน้า

ขนาด 30 ml ราคา 1,350 บาท

------------------------------------------------------------------------

No7 เป็นแบรนด์ภายใต้บริษัท Boots 
จึงสามารถหาซื้อได้ที่ร้าน Boots ทุกสาขา ค่า
ราคาจะมีช่วงลดช่วงโปรโมชั่นบ่อยมากกก
แนะนำให้ติดตามรอสอยช่วงโปรฯจะคุ้มเวอร์
(ช่วงโปร2แถม1หรือชิ้นที่สองลด 50% คือเลิฟสุดๆ Smiley)
เช็คโปรโมชั่นหรือดูข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆได้ตามลิงค์ด้านล่างเลยจ้า



ส่วนผสมหลักของเซรั่มสองสูตรที่ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยในเรื่องลดเลือนริ้วรอยคือ

- Matrixyl 3000 Plus (เมทริซิล 3000 พลัส)
จากเดิมเมทริซิล 3000 คือ ส่วนผสมของเปปไทด์สองชนิด
Palmitoyl Oligopeptide และ Palmitoyl Tetrapeptide-7 )
ที่จะช่วยในการซ่อมแซมความเสียหายในผิว ด้วยการฟื้นฟูโปรตีนหลัก
เช่น ไฟบริลลิน ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของความยืดหยุ่นของผิว
แต่ต่อมามีการพัฒนาให้เป็นเมทริซิล 3000 พลัส 
ด้วยการผสมอะซิทิล-ได-เปปไดท์ (Acetyl dipeptide-1 cetyl ester
ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยได้มากขึ้น
โดยอยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้าของ Sederma

- สารแอนตี้ออกซิแดนท์
สารกลุ่มต้านอนุมูลอิสระที่ใส่มาคือ วิตามินซี
(Sodium Ascorbyl Phosphate : SAP)
ซึ่งเป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรสูง ซึ่งวิตามินซีจะช่วยปกป้องผิว
จากการทำลายของรังสี UV ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวกระจ่างใส
แต่ด้วยปริมาณที่ใส่มาถือว่าอยู่อันดับต้นๆแต่มิใช่ตัวชูโรง
จึงน่าจะเน้นประสิทธิภาพในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆได้แก่ สารสกัดจากมัลเบอร์รี่ (Morus Alba Leaf Extract)
และสารสกัดจากโสม (Panax Ginseng Root Extract ) ค่ะ

- เปปไทด์จากข้าวและสารประกอบอัลฟาฟ่า 
(Hydrolyzed Rice Protein และ Medicago sativa (Alfalfa) Extract
ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Matrix Metalloproteinases : MMPs 
ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำทลายโปรตีนโครงสร้าง พวกคอลลาเจนและไฟบริลลินในผิว

----------------------------------------------------------------------------------------

ส่วนผสมอื่นๆเป็นสารในกลุ่มให้ความชุ่มชื่นอย่าง Glycerin , Glycol
มีส่วนผสมของซิลิโคนโมเลกุลเบาอย่าง Dimethicone ซึ่งทาแล้วจะรู้สึกถึงความเรียบลื่นทันที
โดยซิลิโคนสามารถช่วยพรางริ้วรอยเล็กๆได้ ส่วนใครกังวลเรื่องซิลิโคนอยากบอกว่า
ในสกินแคร์แทบทุกชนิดมีเจ้าสาร Dimethicone นี้อยู่นะจ๊ะ แต่จากผลการวิจัยแล้ว
ค่าความอุดตันของซิลิโคนตัวนี้จัดว่าน้อยมากกก ส่วนใหญ่มักจะเกิดการอุดตัน
จากพวกเมคอัพมากกว่า อย่างไรก็ตามปัญหาอุดตันเป็นเรื่องเฉพาะคนที่ไม่มีใครตอบให้ได้
ว่าตัวไหนเราใช้แล้วจะอุดตันหรือไม่ดังนั้นจึงต้องลองเทสดูเองเท่านั้นค่า

อ้อในเซรั่มตัวนี้มีส่วนผสมของ Retinyl Palmitate (Retinol + Palmitic acid
ก็คือ อนุพันธุ์ของกรด Vitamin A ประเภทหนึ่งช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย
แตกต่างจาก Retin A ที่ใช้รักษาสิวนะคะเพราะอยู่ในรูปที่ต้องนำมาย่อยก่อน
ทำให้ได้ผลลัพธ์อาจจะช้ากว่าแต่ว่าจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวน้อยกว่าเช่นกัน
สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะโดนสั่งห้ามใช้ Retin A โดยเฉพาะยาทาน
เพราะจะมีผลต่อเด็ก แต่ถ้าเป็นส่วนผสมในรูปแบบสกินแคร์ที่ไม่ใช่ Retin A เข้มข้นโดยตรง
คุณหมอหลายท่านก็บอกว่าสามารถใช้ได้ แต่ยังไงก็สอบถามคุณหมอเพื่อความสบายใจดูอีกทีเน้อ

มีส่วนผสมของสารกันเสียกลุ่มพาราเบน ซึ่งเอาจริงๆไม่ต้องกังวลมากไป
เพราะยังจัดเป็นสารที่สามารถใส่สกินแคร์ได้ผ่านมาตรฐานหลายๆประเทศทั่วโลกจึงไม่น่ากลัวใดๆ
มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แต่มีสารให้ความชุ่มชื่นมาแบบจัดเต็มจึงไม่ต้องกังวลว่า
แอลกอฮอล์ที่ใส่มาจะส่งผลให้ผิวแห้งค่ะ ยิ่งใช้คู่กับสกินแคร์อื่นๆยิ่งไม่มีผลต่อชีวิต
ส่วนข้อดีมากๆคือไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม โดยรวมจึงจัดเป็น Hypo-allergenic
ที่สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวค่ะ แต่ถ้าใครกังวลว่าผิวระคายเคืองง่ายมาก
แนะนำให้เทสก่อนใช้ด้วยการป้ายหลังใบหูทิ้งไว้ 24-48 ชม.แล้วสังเกตอาการดูค่า

----------------------------------------------------------------------------------------


จากข้างต้นจะเห็นว่าส่วนผสมหลักของทั้งสองสูตรบอกเลยว่า "เหมือนกันเป๊ะ!"
มีต่างกันแค่ตัวเดียวคือในสูตร ADVANCED Serum จะมี Salicylic Acid
หรือกรดซาลิไซลิกที่เป็นกรดเบตา-ไฮดรอกซีที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป
เผยผิวใหม่ที่ใสขึ้น ทำให้เซรั่มแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น และมีความสามารถ
ในการทำความสะอาดรูขุมขนที่อุดตัน ทำให้แบคทีเรียในรูขุมขนเป็นกลาง
จึงช่วยลดปัญหาในคนที่มีสิวอุดตัน อย่างที่ทราบๆกันเนอะว่ามักพบสารนี้
ในสกินแคร์ที่เหมาะสำหรับคนเป็นสิว แต่ไม่ต้องห่วงไม่มีสิวก็ใช้เซรั่มนี้ได้
เพราะสารหลักๆของเค้ายังคงเน้นเรื่องริ้วรอยแค่เติมกรดซาลิไซลิก
มาเพิ่มในปริมาณไม่ได้มากนักเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพของการลดเลือนริ้วรอยแรกเริ่มค่า

ส่วนใน Intense ADVANCED Serum จะเป็น Hyaluronic Acid แทน
ซึ่งตัวนี้คุ้นหูกันมากในช่วงหลายปีนี้เนอะ เป็นสารที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการกักเก็บน้ำไว้ใต้ผิว
เพราะตัวมันเองมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักโมเลกุล
เมื่อผิวเต่งตึงชุ่มชื่นก็จะทำให้ผิวกระชับขึ้นซึ่งมีความจำเป็นมากเมื่อเราอายุมากขึ้น
เพราะผิวจะแห้งลงไปตามไป เมื่อว่าชุ่มชื่นน้อยลงริ้วรอยจึงเกิดง่ายขึ้นเป็นร่องชัดขึ้นจ้า



เค้าชอบบรรจุภัณฑ์มากที่มาในหลอดพลาสติกทึบแสง
เนื่องจากพกพาสะดวก ใช้งานง่าย บีบกะปริมาณได้ง่าย
สะอาดดีไม่ต้องกังวลเหมือนครีมแบบกระปุกที่ต้องเปิดฝาป้าย
ที่สำคัญหลอดแบบนี้สามารถตัดหลอดและควักใช้ได้จนหยดสุดท้ายนี่แหละ555
แต่หน้าตาสองสูตรอาจจะคล้ายกันไปนิดต่างกันที่ชื่อที่เติมคำว่า Intense เข้าไป
และสีที่ฝา สูตร Intense สีจะเข้มกว่าสูตรปกติค่ะ



ลักษณะเนื้อและกลิ่น

จัดว่าเป็นเซรั่มที่เนื้อค่อนข้างเข้มข้นคล้ายครีม
แต่พอเกลี่ยแล้วจะพบว่าเนื้อเบามากกกก เป็นเนื้อแบบซิลิโคน
ที่ทาแล้วลื่นปรื้ดไปบนผิว เคลือบผิวเป็นฟิลม์บางๆแต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกหนักหน้า
ผิวหลังทาจะเรียบลื่นขึ้นทันที เค้าว่าให้เอฟเฟ็กต์คล้ายๆการทาไพร์เมอร์เลยหล่ะ
แต่ไม่หนักหน้าเท่า ซึ่งสามารถใช้เซรั่มตัวนี้ในการลงบำรุงและให้ผลลัพธ์ในเชิงเมคอัพได้นะ
สองสูตรเนื้อคล้ายกันมากจนแยกไม่ออก แต่ถ้าสังเกตดีๆ
เหมือนสูตร Intense จะเนื้อใสกว่านิดนึงจ้า แต่ทาแล้วเค้าว่าไม่ต่างกัน
ส่วนกลิ่นทั้งสองสูตรไม่มีกลิ่นนะคะเพราะ ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ทั้งคู่จ้า


***ค่าความชุ่มชื่นของผิวบริเวณแก้มที่มีความชุ่มชื่นดี
ควรมีค่าประมาณ 40% ขึ้นไป

เค้าลองเทสเรื่องความชุ่มชื่นระหว่างสูตร ADVANCED Serum 
กับ  Intense ADVANCED Serum ก่อนและหลังทาจะพบว่า
สูตร Intense จะเพิ่มความชุ่มชื่นได้มากกว่า เพราะมีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องแบ่งใช้ตามอายุ สามารถเลือกใช้ตามสภาพผิวได้
อย่างเค้าผิวแห้งจึงเลือกใช้สูตร Intense เพราะเน้นเรื่องให้ความชุ่มชื่นมากกว่า
ไม่ได้แปลว่าอิชั้นแก่แล้วหรือมีริ้วรอยร่องลึกแต่อย่างใดนะฮร้า!!!
แต่ถ้าใครผิวค่อนไปทางผิวธรรมดาหรือผิวมันก็จะเหมาะกับสูตรธรรมดามากกว่าจ้า



ขอบอกว่าเซรั่มตัวนี้คุ้มค่ามากตรงที่ส่วนผสมเค้าค่อนข้างอ่อนโยน
จึงสามารถใช้ทาบริเวณรอบดวงตาได้ด้วย โดยเฉพาะสูตร Intense
เพราะให้ความชุ่มชื่นดี เนื้อลื่นเกลี่ยง่าย คุณสมบัติตรงประเต็นคือช่วยลดเลือนริ้วรอย
ซึ่งรอบดวงตานี่แหละเป็นจุดที่เกิดริ้วรอยได้มากที่สุด!
ที่ดีงามคือลงทุนซื้อเซรั่มได้ปริมาณที่คุ้มค่ากว่าการไปซื้ออายครีมอีก
เพราะเอาจริงๆการบำรุงรอบดวงตาสิ่งที่สำคัญสุดและทำให้เกิดริ้วรอยช้าสุด
คือการบำรุงให้ชุ่มชื่นไว้เท่านั้นเอง ที่เหลือก็คือต้องพักผ่อนให้เพียงพอเท่านั้นจ้า



เค้าเองลองเทส No7 Protect & Perfect 
Intense ADVANCED Serum เป็นเวลาหนึ่งเดือน
ย้ำอีกทีนะอายุยังไม่ถึงแต่เลือกใช้สูตรนี้เพราะผิวแห้ง
ซึ่งสูตรนี้มันชุ่มชื่นกว่าโปรดอย่าเข้าใจอิชั้นผิด!!!

ใช้หลังลงเอสเซนส์ก่อนลงครีมบำรุง ใช้ทารอบดวงตาไปด้วยเลยเพราะขี้เกียจ555
ส่วนตัวประทับใจในเรื่องของเนื้อเซรั่มที่ทาแล้วรู้สึกสบายผิว
สามารถโบกครีมอื่นๆตามได้ไม่ทำให้หนักหน้า และแม้ว่าจะเป็นเนื้อแบบซิลิโคน
แต่เค้าทาทับด้วยอย่างอื่นอีกหลายชั้น ทั้งครีม กันแดด รองพื้น เมคอัพ ฯลฯ
ยังไม่เคยประสบปัญหาว่าทำให้เกิดขุยบนหน้าเลยนะ คือดีงาม
ซึ่งเนื้อซิลิโคนส่วนใหญ่มักจะเจอกับกันแดดแล้วขึ้นขุยๆอ่านะ
ตัวนี้ลองแมทช์กับกันแดด 5-6 ยี่ห้อ เนื้อต่างๆกันด้วยคือโอเคหมด
แต่จะเคลมว่าไม่เกิดขุยเลยอันนี้ก็พูดไม่ได้ต้องไปลองกันเองเนอะ
เพราะเราผิวต่างกันใช้กันแดดต่างกันปริมาณที่ทาก็ต่างกันผลย่อมต่างกันเน่อ
ส่วนเรื่องผลลัพธ์เค้าเองบำรุงผิวจัดเต็มตลอดจึงยังไม่มีริ้วรอย ก็เลยไม่รู้จะเคลมให้ว่าดีแค่ไหน
แต่ริ้วรอยแนะนำให้บำรุงตั้งแต่ยังไม่มีไม่ใช่รอให้เป็นปัญหาแล้วค่อยมาบำรุงจ้า



แถมท้ายอีกหนึ่งอย่างตอนไปงานเปิดตัวเซรั่มตัวนี้เค้าท้ามา
ให้เราลองเปลี่ยนแปลงตัวเองง่ายๆสักหนึ่งเรื่อง
เป็นแคมเปญที่ดีงามมากชื่อว่า #PowerOfChange
ซึ่งเป็นไอเดียตามคอนเซปต์ของเซรั่มตัวนี้ที่อยากให้เราได้เห็นถึง "พลังของการเปลี่ยนแปลง"
เค้าเองรับคำท้าด้วยการทำสิ่งที่เคยตั้งใจจะทำนานละแต่ไม่ได้ตั้งใจมากคือทำได้บ้างไม่ได้บ้าง
นั่นก็คือ"การทานน้ำเปล่าหนึ่งแก้วใหญ่ทันทีที่ตื่นนอน"
ดูเป็นเรื่องง๊ายง่ายแต่เอาจริงตื่นมาละลืมทุกทีแหะๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้
และส่งผลได้ชัดเจนเลยนะ ส่วนตัวเค้าเป็นคนค่อนข้างธาตุหนักถ่ายยาก
แต่พอแค่ลองทำต่อเนื่องเฮ้ยแค่อาทิตย์เดียวเห็นผลเลย ทุกวันนี้อุ๊จแทบทุกเช้า
มันเป็นความรู้สึกที่ฟินมากกับการถ่ายได้ทุกวัน เพราะน้ำแก้วใหญ่ๆจะทำให้ลำไส้เราบีบรัดตัว
จึงอุ๊จออกมาได้แบบสบายๆ เป็นวิธีง่ายเว่อร์ที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย.......เค้าขอท้าให้ลอง!

อยากให้ทุกคนลองตั้งเป้าหมายเล็กๆที่จะเปลี่ยนตัวเองดู
เช่น นอนไวขึ้น(อันนี้เค้าทำไม่ได้555) ออกกำลังกายมากขึ้น
ทานผักผลไม้มากขึ้น ทานกาแฟน้อยลง ฯลฯ เหมือนดูเป็นเรื่องเล็ก
แต่ถ้าทำได้ทุกวันบอกเลยว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นผลลัพธ์ที่ถาวร
ดูแลตัวเองจากภายนอกยังไม่ก็ไม่เท่าดูแลควบคู่จากภายในด้วย
สำคัญที่สุดได้สุขภาพกายแล้วอย่าลืมสุขภาพใจด้วยนะจ๊ะ จุ๊บๆ Smiley

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าค่า Smiley

---------------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer: Sponsored Content by Boots No7




 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 2 ธันวาคม 2557 0:29:33 น.
Counter : 3627 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]




..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน
http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้
ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!

---------------------------------------------------------

hits
New Comments
Friends' blogs
[Add SaRaY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.