Group Blog
 
All blogs
 

Review : Physicians Formula แป้งโบท็อกซ์ CoverToxTen50 & แป้งหน้าเด็ก Youthful Wear สองรุ่นยอดฮิต!


สวัสดีค่ะสาวๆบล็อคนี้มีรีวิวแป้งมาฝากกัน
กับแบรนด์ดังจากอเมริกาที่เพิ่งเข้าไทยมาได้ไม่นาน
แต่กระแสคือเปรี้ยงปร้างสมการรอคอยมาก

กับแบรนด์ "Physicians Formula"

เห็นชื่อปุ๊บอ๋อปั๊ป.....เคยสั่งพรีออเดอร์กันมาหล่ะเซ่
แต่ตอนนี้เค้ามีบริษัทนำเข้ามาขายบ้านเราอย่างเป็นทางการแล้วนะจ๊ะ
หาซื้อได้ง่ายมากกกกก ตาม
Boots, Watsons, Tops, Eveandboy
และเคาท์เตอร์ของ Physicians Formula ใน Zen , Central และ The Mall

อยากหาสาขาใกล้บ้านคลิกโลด >>>CLICK<<<
ซึ่งขอบอกว่าใครเคยพรีมามีช้ำใจแน่เพราะราคาเค้าตั้งไว้ถูกกว่าพรีนะฮร้า



ก่อนจะไปเข้าเรื่องรีวิวขอเล่าประวัติแบรนด์ให้ฟังกันสักนิดเนอะ
จุดขายของแบรนด์น่าสนใจมากตรงที่เป็นเครื่องสำอางที่
ออกแบบมาเพื่อคนที่มีปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ!
เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งโดย Dr. Frank Crandall
ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ ระดับแนวหน้าของ Los Angeles

สาเหตุในการเริ่มก่อตั้งแบรนด์คือภรรยาของคุณหมอมีผิวบอบบาง
แต่ก็นะผู้หญิงก็อยากสวย...ด้วยความรักภรรยาก็เลยคิดค้นคสอ.ให้ใช้เองซะเลย
ทำให้เกิดเป็นแบรนด์
Physicians Formula ขึ้นมาเมื่อปี 1937 อ้ะหืมเกือบ 80 ปีละ

ทำให้จุดเด่นของแบรนด์คือส่วนผสมที่บริสุทธิ์ อ่อนโยน ปลอดภัย
ไม่ใช้น้ำหอม ปราศจากสารที่ก่อการระคายเคืองกว่า 132 ชนิด 
ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดการอุดตันจนเป็นสาเหตุให้เกิดสิวอักเสบ
โดยผ่านการทดสอบ และรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังด้วย
ดังนั้นใครมีปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่ายแต่ก็ยังอยากแต่งหน้า
Physicians Formula ก็จัดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจฮะ



หนึ่งในไอเท็มสุดโด่งดังของ
Physicians Formula หนีไม่พ้นแป้ง
ซึ่งบล็อคนี้จะนำมารีวิวให้ชมกันกับแป้ง 2 รุ่นยอดฮิต คือ
แป้งโบท็อกซ์ Cover ToxTen50TM และ แป้งหน้าเด็ก Youthful Wear
แหม่แค่ฟังฉายาก็อยากลองแล้ว มาดูกันค่ะว่าจะสมฉายาที่หลายคนกล่าวขานแค่ไหน



เริ่มจากรุ่นแรกแป้งโบท็อกซ์

Physicians Formula CoverToxTen50TM
Wrinkle Therapy Face Powder


ขนาด 9 g ราคาตลับละ 489 บาท

เป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งไม่ผสมรองพื้น ฉายาแป้งโบท็อกซ์!
ที่มาของฉายาก็คือคุณสมบัติของแป้งที่เน้นในการช่วยปกปิดริ้วรอย
ทำให้หน้าดูเนียนเรียบตีงราวทำโบท็อกซ์นั่นเอง
โดยเนื้อแป้งสารบำรุงที่เค้าเคลมว่าเมื่อใช้ต่อเนื่อง
จะช่วยให้ริ้วรอยลดเลือนลงและผิวกระชับขึ้นได้


รายละเอียดส่วนผสม

- เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย
- ปราศจากน้ำหอม และ Gluten
- ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ



แพ็คเกจเป็นตลับพลาสติกสีดำมีสองชั้น
ด้านบนเป็นแป้งปิดด้วยฝาพลาสติกใส
แต่ด้านล่างจะมีกระจกพร้อมแปรงให้พร้อมค่ะ



แปรงที่ให้มาเป็นขนสังเคราะห์สีดำ ขนแปรงยาวประมาณ 1 นิ้ว
 ขนแปรงค่อนข้างแข็งเลยแหละทำให้จิกเนื้อแป้งได้ดี

มีความสปริงตัวสูงเวลาปัดบนผิวแป้งจะกระจายตัวไม่เป็นก้อน
แต่แป้งอาจจะเกาะผิวได้ไม่มากนักคือฟุ้งหมด แหะๆ
ส่วนตัวเค้าว่าเหมาะกับแค่เอาไว้พกเติมระหว่างวันนิดๆหน่อย
ถ้าทาหลังลงรองพื้นเค้าว่าใช้แปรงแป้งขนนุ่มอันใหญ่ๆหรือใช้พัฟเวิร์คกว่ามาก
ขนแปรงแบบนี้มันขูดขีดผิวทำให้รองพื้นที่อุตส่าห์เกลี่ยไว้อย่างเรียบขึ้นเป็นเส้นๆได้



มีให้เลือก 2 เฉดสีคือ

Translucent Light
และ Translucent Medium

ทั้งสองเฉดสีออกไปทางอันเดอร์โทนเหลืองทั้งคู่
ผิวเอเชียใช้ได้ไม่ต้องกลัวสีประหลาดหรือทำให้ดูว่อก
เนื้อแป้งนุ่มละเอียดและบางเบามาก
เพราะไม่ผสมรองพื้นเกลี่ยแล้วกลืนไปกับผิวได้ดี
เท็กซ์เจอร์ที่ได้เป็นเนื้อแมทท์ไม่มีชิมเมอร์ผสม



ก่อนจะลงแป้งก็ต้องลงรองพื้นกันก่อน บล็อคนี้ใช้ Physicians Formula Youthful Wear™
Cosmeceutical Youth-Boosting Spotless Foundation SPF 15
(599 บาท)
เป็นรองพื้นเนื้อฟลูอิดบางเบาเกลี่ยง่ายเว่อร์ไม่ต้องอาศัยทักษะใดๆ
มีแปรงมาให้ในตัวแต่อันเล็กเกิ๊น เค้าว่าใช้นิ้วเกลี่ยง่ายและรวดเร็วกว่า



เปรียบเทียบด้านซ้ายผิวเปล่าๆ กับด้านขวาที่ทารองพื้น
รองพื้นปกปิดระดับปานกลางพวกกระก็ดูจางลงนะแต่ปิดไม่มิด
โดยรวมให้ลุคผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ที่ชอบคือความบางเบาสบายหน้าดูไม่หนาดี

แต่ข้อเสียคือเฉดสีนี่ขนาดได้สี Light เบอร์ขาวสุดมาแล้วนะ
ลองแล้วแอบงงสีค่อนข้างเข้มเลย ตอนเกลี่ยก็ดูกลืนผิวดีไม่โดดมาก
แต่พอทิ้งให้เซ็ตตัวสักพักผิวนี่แทนเลย แม่ถึงกับทักว่าวันนี้แต่งลุคผิวแทนเหรอ Smiley
แนะนำว่าใครสนใจรุ่นนี้ก่อนซื้อไปเทสสีดีๆก่อนเน่อ
ใครขาวมากอาจต้องผสมเบสให้สีสว่างขึ้นฮะ



กลับมาที่แป้งโบท็อกซ์ต่อหลังจากลงรองพื้นแล้วก็ทาแป้งทับได้เลย
ด้วยความที่เป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งเนื้อจะค่อนข้างแน่น
เทคนิคถ้าอยากได้ลุคที่ดูเนียนกริบเค้าแนะนำให้ใช้กับฟัพแป้งฝุ่น

นำพัฟปาดแป้งแล้วขยี้พัฟนิดๆให้แป้งกระจายตัวไม่เกาะเป็นก้อน
แล้วค่อยๆซับไปบางๆทั่วหน้า หรือใช้การปาดเป็นสโตรคสั้นๆ
ทาทับได้ตามต้องการไม่ต้องกลัวว่าจะหนาเพราะแป้งตัวนี้ไม่ผสมรองพื้นเน่อ

เสร็จแล้วค่อยเอาแปรงปัดเก็บรายละเอียดในจุดเล็กๆพวกร่องปีกจมูกไรงี้อีกที
พัฟจะไม่ขูดหน้าทำให้รองพื้นที่เกลี่ยไว้ดูเรียบเนียนดี ผิวจะดูเนี้ยบ
แต่ถ้าอยากให้ลุคที่บางเบาขั้นสุดก็ใช้คู่กะแปรงแป้งอันใหญ่ๆปัดบางๆทั่วหน้าเอาฮะ



เทียบด้านซ้ายที่ทาเฉพาะรองพื้นและด้านขวาที่ลงแป้งโบท็อกซ์แล้ว
จะเห็นว่าลุคที่ได้ดูแมทท์ขึ้นอย่างชัดเจนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิวดูแห้งนะ
คือปกติเค้าใช้แป้งแมทท์นี่จะดูแห้งกว่านี้เยอะ ผิวจะดูไม่ค่อยเฟรช
จัดว่าเป็นแป้งแมทท์ที่เนื้อค่อนข้างสบายผิวเลย

เนื้อแป้งบางเบากลืนเข้ากับผิวได้ดี เค้าใช้สี Light ไม่ทำให้หน้าลอย
แต่สีอาจจะดูเข้มขึ้นเล็กน้อยเพราะรองพื้นที่สีเข้มกว่าผิวเริ่มเซ็ตตัว



คุณสมบัติในเรื่องการพรางริ้วรอย
ของเค้าเทียบตรงร่องที่หน้าผากกะร่องแก้ม
เหยเห็นผลชัดอยู่นะแป้งลงไปเติมพวกร่องผิวทำให้ดูตื้นขึ้น
ส่วนนึงน่าจะเพราะความที่เนื้อแมทท์ด้วยการสะท้อนแสงเลยน้อยลง
แต่ก็ไม่ได้แมทท์จนแห้งเพราะลองยิ้มลองขยับหน้าแป้งก็ไม่แคร็กตกร่อง



ร่องแก้มอิชั้นอาจไม่ชัด ยืมร่องแก้มหม่อมแม่มาเทสเลยฮร่ะ 555
ของแม่เค้าทาแค่แป้งโบท็อกซ์อย่างเดียวไม่ลงรองพื้น
จะเห็นว่าตรงร่องมุมปากดูตื้นขึ้น ผิวดูนัวขึ้นเล็กน้อย
แต่ตรงริ้วรอยลึกก็ยังไม่ได้พรางซะหมด
เพราะยังไงก็เป็นแป้งไม่ผสมรองพื้นอ่านะ

เรื่องคุมมันถามจากหม่อมแม่ที่ผิวมันมากแบบขั้นเทพ
แม่บอกคุมมันกลางๆนะไม่เยิ้มแต่มีมันเพิ่มระหว่างวันเล็กน้อย
แต่พอเริ่มมันสำหรับแม่เค้าสีดรอปลงเล็กน้อยฮะ

---------------------------------------------------------------------------------

สรุปความรู้สึกหลังทดลองใช้

สำหรับแป้งตัวนี้ใช้ได้ทุกสภาพหล่ะ
เพราะไม่ได้ทำให้ผิวแห้งหรือคุมมันมากเกินไป

แต่อย่างไรก็ตามเท็กซ์เจอร์ยังคงเป็นแป้งแมทท์
ถ้าผิวแห้งอยากใช้ก็ควรบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นๆก่อน
ส่วนผิวมันถ้ามันมากอาจต้องใช้คู่กับพวกไพรเมอร์ที่ช่วยคุมมัน
แต่ถ้าผิวมันปกติเค้าว่าตอนที่หน้าเริ่มมันนิดๆแป้งจะเซ็ตตัวฉ่ำขึ้นเล็กน้อย
ผิวจะดูสวยเป็นธรรมชาติมากขึ้นนะ ก็แล้วแต่คนชอบเนอะ

เรื่องพรางพวกริ้วรอยราวกับโบท็อกซ์เค้าว่าก็สมคำร่ำลืออยู่
ถ้าริ้วรอยไม่ได้ลึกมากมันก็ดูนวลเนียนขึ้นจริง
แป้งเข้าไปเติมร่องได้ดีโดยดูไม่โบ๊ะ แต่จะให้สวยก็ต้องใช้คู่รองพื้นหล่ะ

Mhunoiii's Score [5/5]

ความบางเบากลืนกับผิว
4.5/5

ความเนียน(พรางริ้วรอย) 4.5/5

คุมมัน(เทียบจากผิวหม่อมแม่) 3.5/5

แพคเกจ 3.5/5 หักที่ขนแปรงแข็งไปหน่อย

เฉดสี 3/5 เค้ากับแม่ใช้เบอร์ Light เซ็ตตัวแล้ว
แอบดรอปกว่าสีผิวจริงนิดนึงเหมือนกันฮะ



ต่อกันด้วยแป้งหน้าเด็ก

Physicians Formula Youthful WearTM
Youth-Boosting Face Powder


ขนาด 9.5 g ราคาตลับละ 489 บาท


แป้งโปร่งแสงไม่ผสมรองพื้นเนื้อบางเบา จึงไม่ได้เน้นเรื่องการปกปิดนะฮะ
แต่คุณสมบัติของเค้าคือเน้นเรื่องการกระจายแสง พรางพวกรูขุมขน
เหมาะกับใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการลงเบสเมคอัพ
เพื่อเซ็ตเมคอัพให้สวยเป๊ะและติดทนยิ่งขึ้น รวมถึงใช้เติมระหว่างวัน
มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยเมื่อใช้ต่อเนื่อง



รายละเอียดส่วนผสม

- เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย
- ไม่มี Paraben และ Gluten
- ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ




แพ็คเกจสวยงามมาในตลับม่วงดูแข็งแรงสวยงาม
แบ่งเป็นสองชั้นด้านบนเป็นแป้ง ด้านล่างเป็นกระจกและแปรง



แปรงที่ให้มาเป็นขนสังเคราะห์สีขาวยาวประมาณ 1 ซ.ม.
ขนแปรงอัดแน่นมาก แต่ปลายขนเรียวและนุ่มละมุนดีงาม
ปาดไปบนผิวละเคลิ้มๆไม่ขูดขีดผิว ดีกว่าอันสีดำมากมาย
แปรงจิกเนื้อแป้งได้ดี กระจายแป้งบนผิวได้โอเคไม่เป็นก้อน
แต่ด้วยความที่ขนสั้นจึงเหมาะกับการทาในพื้นที่เฉพาะจุด
หรือใช้เติมระหว่างวัน ถ้าทาทั่วหน้าใช้แปรงแป้งอันใหญ่ปัดเบาๆ
จะกระจายแป้งได้ในวงกว้างและบางเบากว่าฮะ



มีให้เลือก 4 แบบคือ

Translucent Matifying  แป้งอัดแข็งไม่ผสมชิมเมอร์เหมาะสำหรับเติมหน้าระหว่างวัน
Translucent illuminating  แป้งอัดแข็งผสมชิมเมอร์ให้ผิวดูโกลว์สุขภาพดี
Creamy Natural illuminating  แป้งอัดแข็งผสมชิมเมอร์สีเนื้ออันเดอร์โทนชมพู
Beige illuminating  แป้งอัดผสมชิมเมอร์แข็งสีเบจอันเดอร์โทนเหลือง

เนื้อแป้งบางเบาเหมือนกันทั้งสี่แบบ
แต่แบบ Translucent จะบางกว่าเล็กน้อย
โทนสีไม่ต่างกันมากนักแต่แบบมีสี
จะช่วยเรื่องสีผิวสม่ำเสมอได้มากกว่าฮะ



วิธีการใช้สามารถปัดทั่วหน้าหลังลงแป้งฝุ่นได้เลย
หรือถ้าขี้เกียจลงหลายเสต็ปจะใช้ตัวนี้แทนแป้งฝุ่นก็ได้
เพราะเนื้อบางเบาเช่นเดียวกันไม่ผสมรองพื้นไม่ทำให้ดูหนา

เค้าเลือกใช้แบบ
Translucent illuminating
ที่ผสมชิมเมอร์ช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาวให้ลุคแบบ Dewy
เค้าผิวแห้งสามารถปัดบางๆทั่วหน้าไปเลย
แต่ถ้าผิวมันจะใช้แป้งตัวนี้แทนไฮไลท์ก็ได้
โดยปัดเฉพาะจุดเพื่อให้หน้าพุ่งอย่าง
สันจมูก โหนกแก้ม หน้าผาก คาง



เทียบความต่างระหว่างทาแป้งโบท็อกซ์เดี่ยวๆ
กับทาทับด้วยแป้งหน้าเด็กแบบมีชิมเมอร์
ความฉ่ำผิวต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
จะเห็นว่าพอผิวดูฉ่ำวาวผิวจะดูเฟรชดูมีชีวิตชีวาขึ้น
นี่แหละที่มาของคำว่าแป้งหน้าเด็ก Smiley
เพราะผิวเด็กจะเป็นผิวที่มีความโกลว์ดูเปล่งปลั่งดูไม่แห้ง



เทียบมุมหน้าตรงกันแบบชัดๆ...หน้าบานเต็มจอได้ใจ555
ภาพด้านขวาเมื่อลงแป้งหน้าเด็กแบบ
Translucent illuminating
จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ามิติหน้าดูดีขึ้นมากกก อันนี้คือไม่ได้เฉดอะไรเพิ่มเลยนะ
แต่มิติเกิดขึ้นเพราะคุณสมบัติการกระจายแสง เหมือนการใช้ไฮไลท์
โดยเป็นความฉ่ำที่เค้าว่าดีงามมาก คือลักษณะชิมเมอร์เค้าละเอียด
ไม่ได้วาวเกินไปและไม่ตกร่องรูขุมขนจึงไม่ได้ทำให้หน้าดูมันเยิ้ม
แต่ทำให้ผิวดูโกลว์ดูผ่องขึ้นแบบไม่เว่อร์ไป
สามารถใช้ได้ทั้งลุคกลางวันและกลางคืน




สรุปความรู้สึกหลังทดลองใช้

บอกเลยว่าอิเจ้ปลื้มมมมมมม Smiley
คือดี คือบางเบา เป็นธรรมชาติ ไม่ตกร่องไม่เป็นคราบ
โกลว์กำลังงาม ไม่วาวเว่อร์ไป ให้ลุคผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ
ใช้แทนไฮไลท์แบบใช้ทุกวันได้เลย
แต่ดีกว่าไฮไลท์ตรงที่ปัดได้ทั่วหน้า
ช่วยเซ็ตให้เมคอัพโดยรวมดูปังมากขึ้นและติดทนยิ่งขึ้น
เอาว่าเชียร์ให้ไปลองเหอะ มีหลายเฉดด้วยเลือกตามชอบได้เลย

Mhunoiii's Score [5/5]

ความบางเบากลืนกับผิว
4.75/5

ความเนียนและช่วยกระจายแสง 5/5 เริ่ดดดด!

คุมมัน 3/5 ไม่คุมมันแต่ไม่ทำให้มันเพิ่มฮะ

แพคเกจ 4/5 ตลับดีแปรงดี

เฉดสี 4.5/5 หลากหลายดี



แถมๆงานผิวดีละขอสีแก้มอีกนิด
กับ
Physicians Formula Nude Wear
Glowing Nude Blush #Rose6238
(449 บาท)
แพ็คเกจน่ารักชนะเลิศ มีกระจกและแปรงให้พร้อม
ขนแปรงนิ่มใช้ได้อยู่ บลัชออนเนื้อโปร่งแสงโทนสีใสๆปัดง่าย
เนื้อมีความฉ่ำวาวแต่ไม่ได้เป็นเกล็ดชิมเมอร์ฮะ



ดูให้ชัดๆสี
#Rose6238 แบบปัดวนผสมสี่สีเข้าด้วยกัน
สั้นๆเลย.....สีน่ารักมว๊ากกกกก Smiley ให้ลุคแบ๊วเว่อร์
ไม่เน้นออกสีมากนักแต่ทำให้แก้มดูสดใสขึ้น
แต่เฉดนี้อาจเหมาะกับคนค่อนข้างขาวหน่อยเน่อ



นี่ก็ว่าฉ่ำมากแล้วแต่ยังฉ่ำได้อีกกก555
ขอปิดท้ายด้วย Physicians Formula
Powder Palette
 Mineral Glow Pearls #Rose Pearl 7332
(489 บาท)
แป้งผสมชิมเมอร์เนื้อละเอียดใช้เป็นไฮไลท์ช่วยกระจายแสงให้หน้าดูมีมิติ



ปัดทับบลัชเข้าไปโลดเป็นการเติมความฉ่ำวาวขั้นสุดท้าย
ที่ทำให้หน้าดูยกระดับความโกลว์ได้อีก
ผิวดูผ่องดีงามเพราะเนื้อชิมเมอร์ละเอียดจริงจัง

ออกสีชมพูแค่เรื่อๆ เทคนิคคือเค้าจะปัดเน้นที่ตรงโหนกแก้ม
และลูกส้มหน้าแก้ม แถมตรงปลายจมูกเล็กน้อย หน้าจะดูมีมิติมากขึ้น
ซึ่งลุคนี้เค้าไม่ได้เฉดดิ้งกรอบหน้าเลยมีเฉดข้างจมูกแค่เล็กน้อยเท่านั้น
เพื่อให้เห็นกันชัดๆเนอะว่าแค่ไฮไลท์ก็สามารถสร้างมิติได้แล้ว Smiley

---------------------------------------------------------------------------------------

Finish Look จ้า ใสๆนัวๆสมวัย555









เฮ้ยเดี๋ยวจำกันไม่ได้เหรอกอง?!!!?!



กองยังตะลึงคิดดู555



คู่กะแป้งหน้าเด็กที่อิเจ้ว่าดีงาม



ปิดท้าย เย้!

รีวิวให้แบบละเอียดยิบหวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์และถูกใจกัน Smiley
ขอบคุณแบรนด์ Physicians Formula มากๆ
ที่ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ลองแบบจัดเต็มนะค้า
แล้วเจอกันใหม่บล็อคหน้าขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมค่า

--------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by
Physicians Formula
Information : https://www.facebook.com/PhysiciansFormulaThailand




 

Create Date : 24 สิงหาคม 2558    
Last Update : 28 สิงหาคม 2558 11:58:12 น.
Counter : 16680 Pageviews.  

Review : JEVAH [Rose Embrace set] ผลิตภัณฑ์สปาออร์กานิก/ไม่มีพาราเบน/ไม่ทดลองในสัตว์

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของไทยที่ต้องยอมรับว่าเริ่ดจริงอะไรจริง
บอกเลยว่าไม่พ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์สปา
จัดว่าเป็นที่ยอมรับไปหลายประเทศทั่วโลกก็ว่าได้
เค้าว่าน่าจะเพราะสปาจะต้องให้ทั้งเนื้อสัมผัสและกลิ่นที่ผ่อนคลาย
ดังนั้นบ้านเราที่สมบูรณ์ไปด้วยดอกไม้เครื่องหอมต่างๆ
ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์จึงค่อนข้างได้เปรียบเนอะ

เกริ่นมาขนาดนี้แน่นอนบล็อคนี้มีรีวิวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปามาฝากกัน
เป็นหนึ่งในแบรนด์ไทยน้องใหม่ที่เป็น Premium Spa Brand
แต่ราคาจับต้องได้และหาซื้อง่าย จะน่าสนใจอย่างไรไปชมกันจ้า



JEVAH

ชื่อแบรนด์อ่านว่า "JEVAH : เจวา" เป็นภาษาสันสฤตที่มีความหมายว่า “Soul”

คอนเซ็ปของแบรนด์ คือ "Escape To The Exotic Far East"
ก็คือได้แรงบันดาลใจจากศาสตร์ของชาวตะวันออก
ในการปรนนิบัติร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณให้สมดุลด้วยพลังธรรมชาติ
โดยใช้สมุนไพรตะวันออกที่ช่วยให้ผ่อนคลายและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพผิว
ด้วยวัตถุดิบที่ถูกคัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
เป็น New Premium Spa Brand ที่มีจำหน่ายพิเศษเฉพาะที่ร้าน Boots จ้า

จุดเด่นคือส่วนผสมของแบรนด์ที่มีคุณสมบัติดังนี้.....

- ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและส่วนผสมออร์กานิกที่ได้การรับรอง
- ปราศจากสารกันเสียพาราเบน
- ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีจากการสังเคราะห์ปิโตรเลียมที่เป็นอันตราย
- ไม่ได้ใช้การทดลองจากสัตว์
- ใช้บรรจุภัณฑ์และวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม



ตอนนี้เค้ามีออกมาให้เลือกทั้งหมด 3 เซ็ต แตกต่างกันตามกลิ่น ได้แก่

1. Jasmine Spell Collection มะลิ ดอกบัว และกล้วยไม้
2. Beach Bum Collection มะพร้าวและผลไม้เขตร้อน
3. Rose Embrace set กุหลาบ ส้ม ทับทิม และวนิลลา 




ซึ่งเซ็ตที่ทางแบรนด์ส่งมาให้เค้าลองและนำมารีวิวให้ชมกัน
ก็คือเซ็ตสีแดง Rose Embrace set
นั่นเองค่ะ

เอาว่าดูแค่รูปลักษณ์ภาพนอกก่อน
มองปุ๊บรู้ปั๊บเนอะว่าเป็นผลิตภัณฑ์สปาแน่ๆหน้าตามันบ่งบอก
ดีไซน์สวยดีดูเอเชียๆ ให้ความรู้สึกหรูหราเบาๆด้วยการเดินเส้นสีทอง
บรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดทำจากพลาสติกเนื้อนิ่มทึบแสง
ซึ่งเค้าเคลมว่าเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนะ

---------------------------------------------------------------------------------


Rose Embrace set
มีส่วนผสมหลักคือ

น้ำดอกหลาบ : ฟื้นบำรุงให้ชุ่มชื้นแก่ผิว / ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
น้ำมันหอมกลิ่นส้ม : ให้ผิวกระจ่างใส / ลดความเครียด
ทับทิม : อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ / ลดริ้วรอย ให้ผิวดูอ่อนเยาว์
วนิลลา : ต่อต้านอนุมูลอิสระ / ให้ความผ่อนคลาย

---------------------------------------------------------------------------------

อ่านส่วนผสมละแอบงงๆว่าจะไปกันได้ไหม
และส่วนตัวเค้าไม่ค่อยใช้อะไรที่มีกลิ่นแนวหวานๆ
ซึ่งกุหลาบเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างหวาน ดูผู้หญิ๊ง ผู้หญิง
ตอนเทสทีแรกก็ลุ้นนะว่าจะไหวไหม แต่พอดมจริงเฮ้ยผ่านเลยอ้ะ!
กลิ่นนำเป็นกุหลาบหอมนวลๆแต่ไม่หวานเลี่ยน
เพราะมีความสดชื่นของส้มและทับทิม ปิดท้ายด้วยวนิลลา
ดมแล้วจะรู้สึกคล้ายกลิ่นขนมเบาๆ.....ใช้ครบเซ็ตให้ความรู้สึกน่ากิน555
เอาว่ากลิ่นสำหรับเค้าเป็นกลิ่นแนวหวานที่ผ่าน
แต่เรื่องกลิ่นอันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลต้องลองเทสกันเองดูเนอะ

โดยในเซ็ตนึงจะประกอบด้วยผลิตภัณฑ์หลายสิ่งอันแต่เป็นกลิ่นแบบเดียวกัน
ซึ่งจะโพสไล่ให้ชมกันทีละชิ้นแต่จะไม่อธิบายเรื่องกลิ่นซ้ำนะจ๊ะ
จะมีอะไรบ้างไปชมกันจ้า



Trio Hand Cream Gift Set
ขนาดหลอดละ 40g.
บรรจุ 3 หลอด ราคา 950 บาท

***ซื้อเป็นหลอดแยกเดี่ยวๆราคาหลอดละ 350 บาท

เปิดตัวด้วยชิ้นพิเศษนิดนึงคือเป็นแฮนด์ครีมที่มาแบบยกเซ็ต
มีให้ 3 กลิ่นครบเลย กลิ่น
Rose Embrace พูดไปแล้วตามด้านบน
มาแชร์อีกสองกลิ่นสักนิด อันแรก
Jasmine Spell Collection
เป็นกลิ่นมะลิ+ดอกบัว+กล้วยไม้  กลิ่นมะลิชัดมากหอมเย็นๆสะอาดๆ
อันที่สอง Beach Bum Collection มะพร้าว+ผลไม้เขตร้อน
อันนี้มะพร้าวมากถึงมากที่สุด กลิ่นเหมือนขนมใครชอบมะพร้าวจงลองกรีดร้องแน่ๆ

ครีมสีขาวเนื้อครีม เท็กซ์เจอร์เหมือนจะข้นแต่เกลี่ยง่ายเนื้อลื่น
ทาละซึมมือไวมาก จุดเด่นที่เค้าชอบเลยคือเหลือความชุ่มชื่น
แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีแค่ความมันติดผิวนิดๆ
สามารถหยิบจับเล่นมือถือได้ไม่ทำให้จอเปื้อนหรือเป็นคราบฮะ



Aroma Reed Diffuser

ขนาด 100ml. ราคา 890 บาท

Aroma Natural Candle
(100% Natural Wax)

ขนาด 120g. ราคา 590 บาท

ดิฟิวเซอร์ & เทียนหอมสร้างบรรยากาศในห้อง
เมื่อก่อนไม่เคยใช้ดิฟิวเซอร์เลยจนได้ลองใช้
ขอบอกว่าเสพย์ติดนะฮะ มันจะปรับกลิ่นโดยรวมให้หอมอ่อนๆ
ไม่ได้หอมฉุน วิธีใช้แค่ใช้ก้านหวายที่เค้าให้มาเสียบลงไปในขวด
ตัวก้านจะค่อยๆดูดซับน้ำมันหอมระเหยแล้วกระจายกลิ่นออกมา
ซึ่งถ้าอยากให้ห้องหอมไวๆเค้าจะเอาวางไว้หน้าแอร์แป๊บนึง
กลิ่นจะกระจายทั่วห้องอย่างรวดเร็ว เสร็จแล้วค่อยตั้งไว้ตามมุมห้อง
ซึ่งเวลากลับมาบ้านเหนื่อยๆเปิดประตูเข้ามาสูดกลิ่นหอมๆ
มันช่วยให้ชีวิตผ่อนคลายขึ้นจริงๆนะใครไม่เคยอยากให้ลอง
อ้อถ้าเริ่มรู้สึกกลิ่นจางลงลองเช็คปริมาณน้ำมันหอมระเหยถ้าน้ำมันยังไม่หมด
ให้ทำการเปลี่ยนก้านหวายจะทำให้กลิ่นหอมกระจายออกเหมือนเดิมจ้า

ส่วนเทียนหอมอันนี้จุดตามโอกาส ชอบจุดก่อนนอน
ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นแต่ๆๆห้ามลืมดับไฟก่อนนอนด้วยเน่อ
สำหรับอุปกรณ์สร้างกลิ่นนี้ส่วนตัวคุณภาพเค้าว่าไม่ค่อยต่างกันมาก
เอาว่าเลือกเอาตามกลิ่นที่ถูกจริตเลยฮะ



Shower & Bath Gel
ขนาด 200ml. ราคา 450 บาท

เจลอาบน้ำให้ฟองปานกลางไม่มากไม่น้อย
ล้างออกง่ายไม่เป็นเมือกๆเหลือที่ผิว
แต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกว่าผิวแห้งฮะ มีกลิ่นติดผิวเบาๆ
กลิ่นหอมฟุ้งมากกก ไว้จะลองใส่ตอนแช่อ่างดูน่าจะฟิน Smiley

Body Lotion

ขนาด
200ml. ราคา 550 บาท

เป็นโลชั่นทาตัวที่เนื้อลื่นซึมผิวไวมากกก
ไม่เหนอะหนะ สบายผิวดีเลยนะ ให้ความชุ่มชื่นใช้ได้เลย
แต่เค้าเคยชินกะการโบกครีมเนื้อข้นๆมากกว่าเพราะผิวแห้ง แหะๆ
กลิ่นหอมติดผิวชัดมาก เหมาะกับทาก่อนนอน
หรือคนที่ไม่ได้ใช้น้ำหอม เพราะกลิ่นอาจจะตีกันได้เน่อ



Bath & Body Massage Oil
ขนาด 100ml. ราคา 690 บาท


น้ำมันนวดตัวสามารถใช้ตอนตัวแห้งหรือตอนอาบน้ำก็ได้
ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายความตึงเครียด
ส่วนตัวเค้าชอบใช้หลังอาบน้ำโดยเช็ดตัวแค่หมาดๆ
แล้วชโลมออยทั่วร่างไปเลยค่อยๆนวดวนๆ
นอกจากผ่อนคลายแล้วผิวจะนุ่มชุ่มชื่นยิ่งกว่าทาครีมอีก
แต่จะให้ดีออยแบบนี้ควรจะมีคนนวดให้นะ 555

เนื้อออยตัวนี้ค่อนข้างข้นทาแล้วเหลือความมันบนผิวพอสมควร
ถ้าใครไม่ชินกับการทาออย ลองใช้ตอนแช่อ่างน้ำดู
โดยหยดออยลงไปปริมาณตามชอบ (5-20 หยด)
น้ำอุ่นๆและกลิ่นหอมๆจะช่วยให้ผ่อนคลายม้ากกกก



Body Cream Scrub
ขนาด 200g. ราคา 790 บาท


อันนี้นางเอกเป็นตัวที่เค้าชอบสุดในเซ็ตนี้เลยเก็บไว้ตอนท้าย ฮี่ๆ
เป็นไอเท็ม 2in1 คือเป็นสครับสูตรอ่อนโยน
และเป็นมาส์กบำรุงผิวในขั้นตอนเดียวกันน่าสนชิมิล่ะ



เนื้อจะเป็นครีมสีขาวนวล มีความเข้มข้นกลางๆไม่เหลวไม่หนืดไป
ผสมด้วยเม็ดสครับสีน้ำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้มกระจายอยู่ทั่วๆ
ซึ่งเม็ดสครับทำมาจาก เม็ดแอปพิคอท , เม็ดเสาวรส และ ใยบวบ



วิธีการใช้ในแบบของเค้าคืออาบน้ำล้างตัวให้สะอาดก่อน
จากนั้นทา
Body Cream Scrub ลงไปทีละจุด
แล้วทำการนวดวนเบาๆทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนทั่วทั้งตัว
โดยตอนสครับผิวจะถูเบาๆนะฮะไม่ต้องสแครชแรง
ตัวเม็ดสครับเค้าไม่คมไม่บาดผิวแต่ไม่ได้ละลายน้ำ
ถูแรงเกินไปจะขูดขีดทำให้ผิวเป็นรอยได้

พอทั่วตัวก็พอกทิ้งไว้เป็นมาส์กประมาณ 5-10 นาที
เสร็จแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ถ้าใครไม่ชินจะล้างสบู่ซ้ำก็ได้
แต่เค้าว่าถ้าจะให้ได้ประโยชน์ของการเป็นมาส์ก
ล้างออกด้วยน้ำสะอาดก็น่าจะกักเก็บสารบำรุงผิวได้ดีกว่าอ่านะ
เอาที่เราสบายใจละกันเนอะ ส่วนตัวล้างแค่น้ำสะอาดจ้า

หลังล้างออกจับผิวได้เลยผิวจะเนียนนุ่มขึ้นเยอะ
ลูบผิวแล้วจะฟินผิวมันจะลื่นขึ้น และเวลาทาครีมหรือโลชั่น
จะซึมผิวได้ง่ายขึ้นด้วยถ้าหมั่นสครับผิวเป็นประจำ



อันนี้แถมให้กับเรื่องความถี่ในการสครับผิว
การสครับคือการขัดเพื่อช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไป
แต่เซลล์ที่อยู่บนผิวชั้นบนเหล่านี้ก็ช่วยปกป้องผิวเรา
จากทั้งมลภาวะและสิ่งสกปรกด้วยนะ ดังนั้นขัดบ่อยไปก็ไม่ดี
ผิวจะเกิดการระคายเคืองและไวแดดง่าย
ความถี่ที่มากสุดที่แนะนำคือไม่ควรเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จ้า



สรุปที่เค้าเลิฟ
Body Cream Scrub ตัวนี้ก็เพราะความเป็น 2in1 นี่หล่ะ
ขัดเสร็จละพอกไว้เป็นมาส์กได้เลย ไม่เสียเวลาหลายขั้นตอนดี
ได้ขจัดเซลล์ที่ตายแล้วกับบำรุงผิวไปพร้อมๆกัน
เหมาะนะกับคนที่ผิวแห้งๆ คือถ้าสครับอย่างเดียวบางทีผิวจะแห้งไป
อย่างที่หลายคนเคยเจอคือขัดเสร็จละมีแสบๆยิบๆที่ผิว
แต่อันนี้ไม่มีปัญหานั้นเพราะเนื้อครีมที่เป็นมาส์กมันช่วยให้ความชุ่มชื่นอยู่แล้วจ้า

------------------------------------------------------------------------------------

สรุปปิดท้ายโดยรวมอีกนิดกับแบรนด์ JEVAH
เค้าว่าโดยรวมทำผลิตภัณฑ์ออกมาได้ดีเลยนะ
ไม่ได้ขายแต่กลิ่นที่หอมผ่อนคลายแบบสปา
แต่เท็กซ์เจอร์ผลิตภัณฑ์เค้าก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน

เมื่อดูแต่ราคาอาจจะสูงกว่าผลิตภัณฑ์ปกติที่เราใช้ทั่วไป
แต่อันนี้มันเป็นแนวสปาอ่านะ กลิ่นหอมระเหยที่ใส่มา
จะช่วยบำบัดทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายไปด้วย
ถ้ารู้สึกว่าราคาสูงเกินที่จะใช้ทุกวันเค้าแนะนำว่า
ลองเอาไว้สลับใช้ในวันที่ต้องการพักผ่อนดู เช่น เสาร์-อาทิตย์ไรงี้
ปรนนิบัติตัวเองสักนิดเป็นการเพิ่มพลังให้ร่างกายได้จริงๆนะ
ยิ่งได้กลิ่นที่ถูกใจละใช้ครบเซ็ตกลิ่นที่หอมติดผิวนี่ช่วยให้เคลิ้มได้ทั้งวันเลย
ใครสนใจก็แวะไปลองดูกันได้ที่ร้าน Boots ทุกสาขานะคร้าบ

Disclaimer : Sponsored Content by JEVAH
Information : //www.jevahasia.com
https://www.facebook.com/jevahasia
IG : jevahasia




 

Create Date : 12 สิงหาคม 2558    
Last Update : 18 สิงหาคม 2558 16:53:24 น.
Counter : 4113 Pageviews.  

Review : BIOTHERM Aquasource Night Spa สลีปปิ้งมาส์กเนื้อบาล์มอินเจลให้ผิวชุ่มชื่นอิ่มน้ำ

 ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์ไลน์ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว
ก็จะมีปิ๊งชื่อสกินแคร์ไลน์นึงจากแบรนด์ดังที่เราคุ้นกันดีนั่นก็คือ

BIOTHERM Aquasource

เค้าเองตามประสาสาวผิวแห้งก็เคยใช้ไลน์นี้หลายตัวอยู่
บอกได้เลยว่าจุดเด่นที่ทำให้คนใช้ตกหลุมเลิฟคือเท็กซ์เจอร์
เนื้อผลิตภัณฑ์เค้าจะเน้นให้ความชุ่มชื่นจัดเต็มแต่บางเบาสบายผิว
ออกไปทางเนื้อเจลลื่นๆทำให้ใช้ได้ทุกสภาพผิว
พร้อมทั้งกลิ่นเฉพาะที่ทำให้รู้สึกเฟรชและผ่อนคลาย

ซึ่งเค้าเพิ่งได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในไลน์นี้
ที่ขอบอกว่าลองใช้แล้วอินมากจึงขอหยิบมารีวิวให้ชมกันจ้า Smiley



BIOTHERM 
Aquasource Night Spa

--------------------------------------------------

ไนท์มาส์ก/สลีปปิ้งมาส์ก เนื้อบาล์มอินเจล
ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื่นด้วยส่วนผสมของ
Polynesian Marine Extract และ Life Plankton

ขนาด 50 ml. ราคา 1,800 บาท

หาซื้อได้ที่เคาท์เตอร์ BIOTHERM ตามห้างทุกสาขา
สามารถเช็คที่ตั้งแต่ละสาขาได้ที่ >>>Click<<< จ้า



 BIOTHERM Aquasource Night Spa 
นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์สลีปปิ้งมาส์กตัวแรกของไบโอเธิร์มเลยเนอะ
ซึ่งทำออกมาเพิ่อเน้นการเติมความชุ่มชื่นให้ผิว
พร้อมกระตุ้นให้เกิดการสร้างไฮยาลูรอนิคไปในตัว
ทำให้ผิวฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วและเรียบเนียนมากขึ้น
โดยเค้าเคลมให้ความรู้สึกเหมือนได้รับการปรนนิบัติจากสปาตลอดค่ำคืน



ส่วนผสมหลักที่เป็นจุดขายของไนท์สปาตัวนี้มี 2 อย่าง คือ

Smiley โพลีนีเชี่ยน มารีน (Polynesian Marine Extract) Smiley

คือ....สารสกัดจากโคลนบริสุทธิ์จากหมู่เกาะ French Polynesian Island
พูดชื่ออาจจะนึกทำเลไม่ออก หมู่เกาะเฟรนช์โพลีนีเชียนตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฮาวาย
อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นที่ตั้งของเกาะตาฮิติ , โบราโบรา พูดสองชื่อนี้มาคุ้นละชิมิ

ซึ่งโคลนเหล่านี้เกิดจากการทับถมกันของจุลลินทรีย์ธรรมชาติ
ที่ทับถมกันมานานมากกก กว่า 3.5 พันล้านปี!
โดยโคลนจะมีความหนาแค่เพียง 10 ซ.ม. และจุดที่มีสารอาหารอัดแน่น
จะมีเพียงแค่เนื้อโคลนด้านบนที่มีความหนา 3 ซ.ม.เท่านั้น
ซึ่งจะมีแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆมากมายที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
สารดีท็อกซ์โลหะหนัก ไฮยาลูรอนิกจากธรรมชาติ

กว่าพันปีแล้วที่ชาวเกาะนำโคลนนี้มาใช้เป็นยารักษาจากธรรมชาติ
ในการช่วยฟื้นฟูผิว จากอาการแผลพุพอง ไหม้ ปวดแสบปวดร้อน
เนื่องจากรอบๆเกาะจะมีปะการังไฟอยู่ ซึ่งเป็นปะการังที่ทำให้ผิวหนังไหม้ได้นั่นเอง



Smiley ไลฟ์ แพลงตอนTM (Life PlanktonTM) Smiley

อันนี้คุ้นเคยดีเพราะส่วนผสมหลักของหนึ่งในสกินแคร์ลูกรักของเค้า
คือเอสเซนส์น้ำตบ BIOTHERM Life Plankton Essense
เป็นสารสกัดแพลงตอนที่ได้จากแหล่งน้ำพุร้อน
ใจกลาง เทือกเขาพีเรนีส (Pyreness) ประเทศฝรั่งเศส


ซึ่งเอาจริงๆส่วนผสมนี้ก็เป็นส่วนผสมหลัก
ในผลิตภัณฑ์แทบทุกตัวของไบโอเธิร์มก็เป็นจุดขายเค้าเลยอ่าเนอะ
เพราะในฝรั่งเศสหรือในหลายๆประเทศก็มีการรักษาโรคผิวหนัง
รวมถึงการบำรุงผิวด้วยการแช่น้ำพุร้อนมาช้านานตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว

โดยปัจจุบันหลายการวิจัยก็ค้นพบว่าในน้ำแร่จากน้ำพุร้อนนั้นมีความมหัศจรรย์
คือการค้นพบสิ่งมีชีวิตสุดอเมซิ่งที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสภาวะที่อุณภูมิสูง
ออกซิเจนต่ำ ไม่มีแสงแดด ฯลฯ ซึ่งก็คือเจ้าแพลงตอน

ทำให้เกิดการวิจัยต่อเนื่องจนทราบว่านอกจากแร่ธาติต่างๆในน้ำพุร้อนแล้ว
คุณสมบัติในการรักษาโรคผิวหนังนั้นยังเกิดจากเจ้าแพลงตอน
ที่ช่วยลดอาการระคายเคือง ลดอาการอักเสบ
อาการไหม้จากรังสี UV
ช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ไวและกลับมาเป็นผิวที่แข็งแรงขึ้น



รายละเอียดส่วนผสม

ส่วนผสมหลักเป็นสารในกลุ่มให้ความชุ่มชื่นอย่างพวก Glycerin , Glycol
และ Mannose สารในกลุ่มน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ได้จากพืช
ที่เป็นอีกหนึ่งจุดขายของไลน์ Aquasource ที่มีคุณสมบัติในการช่วยอุ้มน้ำทำให้ผิวชุ่มชื่น


ในลำดับสามคือ Alcohol Denat. หลายคนเห็นทีแรกแล้วอาจจะตกใจเล็กๆ
แต่ถ้าเคยใช้ตัวอื่นในไลน์
Aquasource มาก่อนจะรู้ว่า
มีแอลกอฮอล์มาเป็นอันดับต้นๆหลายตัวอยู่

จริงๆแล้วแอลกอฮอล์ในสกินแคร์นั้นใส่มาเพื่อทำละลาย
เนื่องจากคุณสมบัติที่ระเหยไวจึงทำให้เท็กซ์เจอร์ของเนื้อครีมบางเบาสบายผิว
ข้อเสียหลักอย่างเดียวของแอลกอฮอล์คือเมื่อตัวมันเองระเหยง่าย
จึงดึงน้ำในผิวให้ระเหยไปด้วยส่งผลให้เมื่อใช้ต่อเนื่องผิวจึงแห้งลง
เมื่อผิวแห้งลงจึงทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายขึ้น
แต่.....ถ้าสกินแคร์นั้นๆมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่นเพียงพอ
หรือใช้ควบคู่กับสกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื่นแอลกอฮอล์ก็ไม่มีผลใดๆ


อันนี้เค้าได้สอบถามกับแบรนด์เพิ่มเติมได้ความมากว่า
แอลกอฮอล์ที่เค้าใส่มานั้นสกัดจากการหมักของน้ำตาลธรรมชาติ
ซึ่งได้ผ่านการทดสอบกับกลุ่มคนที่มีผิวแพ้ง่ายและไม่พบอาการข้างเคียงฮะ

ส่วนตัวเค้าผิวแห้งอย่างที่บอกว่าใช้
Aquasource มาหลายตัว
ผลที่ได้คือผิวชุ่มชื่นดีไม่มีปัญหาเรื่องผิวแห้งหรือว่าระคายเคืองแต่อย่างใด
เอาว่าอยู่ที่ความสบายใจละกันเนอะ ถ้ากลัวระคายเคืองก็ป้ายเทสตามหลังใบหู
แล้วสังเกตอาการดูก่อนแล้วค่อยใช้จริงที่ใบหน้าจ้า


สำหรับสารสกัดจากโคลนโพลีนีเชี่ยนในส่วนผสม
ไม่ได้เขียนให้เห็นชัดเจนว่าเป็น Polynesian Marine Extract
แต่ทางแบรนด์แจ้งว่าจะอยู่ในกลุ่มของ Exopolysaccharide (ESP)
คือพอลิเมอร์ชีวภาพที่มีส่วนประกอบของโปรตีน หรือไขมัน
ที่สร้างขึ้นโดยจุลินทรีย์ ซึ่งจะมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์มากมาย เช่น
potassium, sodium, magnesium และ calcium
โดยในส่วนผสมจะอยู่ในรูปของ Butylene Glycol
และ Alteromonas Ferment Extract
ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนิกและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
ส่วนไลฟ์แพลงตอนในส่วนผสมคือ Vitreoscilla Ferment ค่ะ

***มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ , สี และน้ำหอม



บรรจุภัณฑ์เป็นกระปุกแก้วทึบแสง
มีฝาสองชั้นเป็นฝาเกลียวด้านนอกและฝาพลาสติกขุ่นด้านใน
ครีมกระปุกแบบนี้เสี่ยงจะปนเปื้อนได้ง่าย
เวลาจะใช้ควรล้างมือให้สะอาดไม่ก็ใช้ไม้พายในการตักเอาเนอะ

แล้วก็ไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็นนะจ๊ะไว้อุณหภูมิห้องปกติก็พอ
ยิ่งในตู้เย็นเราแช่อาหารหลายสิ่งแบคทีเรียจะเยอะ
เวลาหยิบกระปุกอาจจะติดมือมาได้อาจจะได้ของแถมที่มากว่าแพลงตอน555
 ที่สำคัญการเปลี่ยนอุณภูมิถ้าแช่บ้างไม่แช่บ้างยิ่งทำให้เนื้อครีมเสื่อมไวขึ้นด้วย



ลักษณะเนื้อและกลิ่น

เนื้อตัวนี้เค้าเรียกว่าเป็น "บาล์มอินเจล : Balm in Gel"
คือมีความข้นและคงตัวแบบบาล์ม แต่พอเกลี่ยบนผิวแล้วจะรู้สึกเย็นๆ
ให้ความรู้สึกลื่นผิวเกลี่ยง่ายแบบเจล ซึมไวมากและบางเบาสบายผิวไม่เหนอะ

เนื้อสีฟ้าอ่อน มีกลิ่นเฉพาะตัวแบบเดียวกับตัวอื่นในไลน์
Aquasource
ซึ่งเป็นกลิ่นแบบเฟรชๆสดชื่นๆแบบไอทะเล & เกรฟฟรุตซิตรัส
กลิ่นจะค่อนข้างชัดตอนปาดบนหน้าครั้งแรก แต่พอเกลี่ยกลิ่นก็จางติดผิวแค่อ่อนๆ
กลิ่นที่เหลือติดผิวสดชื่นเป็นเอกลักษณ์ของไลน์นี้ดี



ปาดบนผิวปุ๊บความรู้สึกแรกเลยคือ "เย็น"
ฉ่ำผิวมากกกก ดูในกระปุกเหมือนจะข้น
แต่ปาดแล้วลื่นปรื้ดเกลี่ยบนผิวง่ายมาก
จัดว่าเป็นเท็กซ์เจอร์ที่ทาแล้วเคลิ้มนะสมชื่อไนท์สปาจริงจัง

ที่สำคัญคือซึมไวไม่เหนอะแต่ให้ฟิลแบบเป็นฟิลม์บางๆเคลือบผิว
สำหรับเค้าผิวแห้งแอบรู้สึกว่าซึมไวเกิ๊นเลยติดนิสัย
ซึมแล้วก็โบกตามไปหนักๆผลที่ได้คือก็ชุ่มดีแต่เปลือง555

หลังทาแล้วลองจับผิวเลยจะรู้สึกเลยว่าผิวนุ่มขึ้น
ไม่ทำให้ผิวขึ้นเงาหรือดูมันวาว ดังนั้นจึงสามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวจ้า



ขั้นตอนและวิธีการใช้

ปกติการใช้สลีปปิ้งมาส์กเรามักจะทาตัวเดียวเดี่ยวๆแล้วทิ้งไว้ข้ามคืน
แต่ตัวนี้ใช้ต่างออกไปตามนี้เลยจ้า......

- ใช้สกินแคร์ตามเสต็ปปกติก่อนไม่ว่าจะเป็นเอสเซนส์ เซรั่ม ฯลฯ
- ทาไนท์สปาเป็นขั้นตอนสุดท้ายแทนการใช้ไนท์ครีม
- ทาจากด้านในออกด้านนอกกรอบหน้า
โดยทาให้หนากว่าครีมปกติโดยเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก
- ทิ้งไว้ข้ามคืนโดยไม่ต้องล้างออก
- ความถี่ในการใช้คืออาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
- สำหรับคนผิวแห้งสามารถใช้ตัวนี้ทุกวันแทนการใช้ไนท์ครีมได้เลย




เสต็ปพิเศษในการบำรุงเพิ่มเติม

อันนี้แถมให้สำหรับคนที่เป็นสาวก Life Plankton Essense แบบเค้าอยู่แล้ว
คือถ้าเราต้องการคุณสมบัติเด่นๆจากตัวสารสกัดไลฟ์แพลงตอน
อย่างพวกช่วยลดอาการระคายเคือง หรืออาการไหม้แดดไรพวกนี้
เราสามารถเอาไลฟ์แพลงตอนเอสเซนส์หยดใส่ไนท์สปา
แล้วผสมเป็นเนื้อเดียวกันจากนั้นใช้เป็นมาส์ก
ที่ทาในขั้นตอนสุดท้ายเหมือนปกติได้เลย
ซึ่งช่วยผิวชุ่มชื่นและแข็งแรงขึ้นฮะ เพราะในเอสเซนส์
มีสารสกัดไลฟ์แพลงตอน 5% คือมากสุดในสกินแคร์ทุกตัว
จึงให้ผลในเรื่องการฟื้นฟูผิวได้ค่อนข้างชัดเจนจ้า



ความรู้สึกหลักทดลองใช้

สภาพผิวปกติเค้าคือผิวแห้งก็เลยใช้ 

BIOTHERM Aquasource Night Spa
ตัวนี้
แทนไนท์ครีมไปเลย ทาขั้นสุดท้ายหลังโบกตัวอื่นจนหนำ
โดยทาหนามากเป็นพิเศษด้วยความชอบส่วนตัว
เอาว่าแห้งแล้วทาซ้ำประมาณ 2-3 รอบ

ผลลัพธ์คือเช้ามาตามภาพเลยนี่ถ่ายตอนตื่นนอน
โบกเยอะมากแต่ไม่มีความมันอะไรเหลือบนผิวหน้าแม้แต่น้อย
แต่ลองจับผิวดูคือเหยมันดีผิวนุ่มๆแน่นๆอธิบายลำบากแต่คือรู้สึกดีนะ
เหมือนมันคงความชุ่มชื่นไว้ในผิวได้นานดีจ้า



สรุปความรู้สึกหลังทดลองใช้ต่อเนื่อง 1 สัปดาห์

เค้าผิวแห้งเลยใช้แทนไนท์ครีมทุกวันต่อเนื่องกัน 7 วัน
ความรู้สึกคือผิวมันแน่นๆ เวลาผิวชุ่มชื่นมันจะอิ่มฟูลูบละให้สัมผัสที่เนียนดี
ยิ่งวันที่พักผ่อนน้อยๆจะสังเกตได้ค่อนข้างชัดว่าผิวดูไม่ค่อยล้าไม่ค่อยโทรม
แต่อันนี้คือสภาพผิวโดยรวมนะไม่นับสภาพใต้ตา555

ในเรื่องความชุ่มชื่นให้ผ่านเลยแม้นอนแอร์หน้าก็ไม่แห้ง
เทียบกับเนื้อที่มันดูบางเบาแต่ก็คือเอาอยู่
แค่แรกๆอาจจะไม่ชินเพราะเค้าชอบโบกครีมเนื้อข้นๆอ่าน้า

สรุปถ้าถามเรื่องการเปลี่ยนแปลงเค้าตอบให้ไม่ได้เน่อ
เพราะเป็นคนบำรุงผิวแบบจัดเต็มมาตลอดอยู่แล้ว
แต่ชอบฟิลลิ่งตอนใช้เท็กซ์เจอร์มันดี๊ดีและรู้สึกว่าชุ่มชื่นจริง
ใช้ต่อเนื่องแล้วรู้สึกผิวอิ่มฟูแน่นขึ้น ซึ่งเวลาผิวชุ่มชื่นดี
พวกปัญหาเรื่องรูขุมขนและความเรียบเนียนของผิวก็จะดีขึ้นฮะ

เอาว่าโดยรวมตัวนี้ใช้ง่ายเหมาะกับทุกสภาพผิว
สามารถเอามาใช้สลับกะไนท์ครีมปกติได้
เค้าว่ามันเวิร์คกับวันที่ผิวล้าๆมันเติมความชุ่มชื่นได้ค่อนข้างไวดี
หรือถ้าวันที่รู้สึกผิวอ่อนแอลองผสมกะไลฟ์แพลงตอนเอสเซนส์ดู
เป็นการช่วยบูทส์ผิวได้เร็วกว่าใช้ไลฟ์แพลงตอนเดี่ยวๆ
เพราะตัวนี้เน้นหนักเรื่องความชุ่มชื่น
ซึ่งการบำรุงให้ผิวที่ไม่แห้งตึงจะช่วยลดอาการระคายเคืองได้ฮะ

ข้อเสียสำหรับเค้าคือเนื้อที่มันบางเบามาก
ทำให้เค้าใช้เยอะ.....คือเปลือง555 แต่ถ้าคนผิวมันหรือผิวผสมน่าจะเลิฟ
อีกอย่างคือเรื่องกลิ่นอาจจะชัดไปนิดสำหรับคนไม่ใช้น้ำหอมแบบเค้า
และแม้ว่าเค้าจะเคลมว่าผิวบอบบางสามารถใช้ได้
แต่ก็มีน้ำหอมและสีอ่านะ ดังนั้นเทสก่อนคือทางออกที่ดีที่สุดเน่อ

เรื่องอาการแพ้หรือระคายเคืองมันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลมาก
ตอบให้ไม่ได้จริงๆว่าจะแพ้ไหม เราต้องสังเกตตัวเอง
และอ่านส่วนผสมที่ฉลากแล้วเลี่ยงส่วนผสมที่แพ้เอาเนอะ Smiley

ทิ้งท้ายให้ว่าการใช้มาส์กแบบเข้มข้นพิเศษสามารถช่วยเติมความชุ่มชื่นได้รวดเร็ว
แต่อย่างไรก็ตามการบำรุงประจำทุกวันสำคัญที่สุดนะฮะ
ความสม่ำเสมอในการบำรุงผิวจะช่วยให้เรามีผิวสุขภาพดีได้อย่างแท้จริง
ซึ่งหลักการง่ายๆมีแค่ 3 อย่าง คือ ทำความสะอาด เติมความชุ่มชื่น และทากันแดด จ้า

---------------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by BIOTHERM
Information : https://www.facebook.com/biothermthailand




 

Create Date : 06 กรกฎาคม 2558    
Last Update : 11 กรกฎาคม 2558 1:13:01 น.
Counter : 11797 Pageviews.  

Review + Mini How To : สวยพร้อมไปเที่ยวด้วยเมคอัพตาเป๊ะหางตาไม่ตก! by BSC Panadda Drawing Eyeliner

สวัสดีค่าบล็อคนี้มีไอเท็มที่สาวๆหลายคนขาดมิได้มารีวิวให้ชมกัน
นั่นก็คืออออ......อายไลน์เนอร์ นั่นเอ๊ง! สารภาพมาดีๆว่าเสพย์ติด555 Smiley
ไม่ว่าจะวันธรรมดาหรือวันหยุดเชื่อว่ามีสาวไม่ต่ำกว่าครึ่งที่แต่งหน้าต้องเขียนขอบตา
ยิ่งเวลาไปเที่ยวถ้าไม่อยากเสียเวลาแต่งหน้าเยอะแต่ถ่ายรูปเป๊ะ
ไลน์เนอร์ก็คือทางออกที่เริ่ดที่สุดเนอะ

ซึ่งไลน์เนอร์ประเภทนึงที่เค้าว่าใช้ง่ายเหมาะกับมือใหม่หัดกรีด
และจะมารีวิวให้ชมกันก็คือ "เจลไลน์เนอร์"  อย่าลืมอ่านให้จบ
เพราะมีแถมเทคนิคการเขียนตาอย่างไรไม่ให้หางตาตกมาฝากกันด้วยน้า
งานนี้ไม่ต้องกังวลละไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่หรือว่าให้คนอื่นถ่ายรับประกันว่าสวยตาพุ่งเกิดแน่นอน!



BSC Panadda Drawing Eyeliner

-----------------------------------------------------------

เจลไลน์เนอร์เนื้อเนียนนุ่ม แห้งไว ติดทน
มีให้เลือก 2 สี สีดำ และ สีน้ำตาล



ขนาด 3.5 g พร้อมแปรง ราคา 390 บาท

หาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ BSC Panadda ทุกสาขา
ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปจ้า



ตลับอายไลน์เนอร์เป็นพลาสติกใสฝาเกลียว
ไลน์เนอร์เนื้อเจลแบบนี้ควรเก็บมิดชิดนิดนึงนะฮะ
อย่าวางใกล้แดดใกล้ความร้อนมันจะละลายเอา
และที่สำคัญอย่าลืมปิดฝามิฉะนั้นมันจะแห้งแล้วแตกลายงาได้

แต่ถ้าพลั้งพลาดเริ่มแห้งไปแล้วลองเอาอายรีมูฟเวอร์
แบบที่มีส่วนผสมของน้ำมันหยดใส่ลงไปนิดนึงดู
น้ำมันจะช่วยทำละลายให้เนื้อที่แห้งๆกลับมานุ่มลื่นขึ้น

แปรงเป็นไซส์พกพาขนาดความยาวด้ามประมาณ 10 ซ.ม.
ส่วนตัวเค้าว่าขนาดพอดีๆนะจับแล้วถนัดมือไม่สั้นไป



ลักษณะเนื้อและวิธีใช้

เจลไลน์เนอร์สีดำสนิทเนื้อนุ่ม
เอาขนแปรงกดลงไปแล้วหยุ่นๆ เนื้อยุบตัวตามแปรง
เท็กซ์เจอร์ดูจากตลับค่อนข้างด้านไม่มันเงา เนื้อไม่เหลวเกินไป

ขนแปรงเป็นขนสังเคราะห์ความยาวขนตามมาตรฐานทั่วไป
แต่จัดว่าขนแปรงเค้าค่อนข้างนิ่มกว่าหลายๆอันที่เคยลองนะ
ทำให้ปาดเนื้อเจลติดง่ายและเวลากรีดมันไม่ขูดขอบตาดี

ก่อนใช้ทุกครั้งอยากได้เส้นคมๆควรเช็ดแปรงให้สะอาดก่อน
ถ้าแปรงเลอะคราบเก่าขนแปรงจะเกาะกันเป็นก้อนแข็งๆ
เวลาป้ายเนื้อไลน์เนอร์จะติดแบบเป็นก้อนๆทำให้กรีดมาดูไม่สวย
เค้าเช็ดแปรงง่ายๆด้วยการใช้ทิชชู่หยดรีมูฟเวอร์ลงไปเล็กน้อย
แล้วลูบคราบเก่าออกแค่นี้ขนแปรงก็สะอาดนิ้งละ

เวลาใช้ให้ปาดเนื้อไลน์เนอร์ขึ้นมาไม่ต้องเยอะมาก
แต่ต้องไม่น้อยไปไม่งั้นกรีดแล้วสีจะไม่เต็มเส้นดูแหว่งๆ
เทคนิคเค้าคือปาดขึ้นมาแล้วจะเอาแปรงวนวอร์มเนื้อที่หลังมือก่อน
ปาดๆส่วนเกินออกเอาว่าเคลือบแปรงสองด้านกำลังดีค่อนเขียนจ้า



คุณสมบัติกันน้ำและความติดทน

จัดว่าเป็นเจลไลน์เนอร์ที่เนื้อแห้งค่อนข้างไวตัวนึงเลย
พอแห้งแล้วถูไม่ออกนะฮะ เนื้อแมทท์แห้งสนิทแนบผิวดี
เค้าว่าเนื้อแบบนี้ผิวมันปกติน่าจะได้อยู่
แต่ถ้าผิวตรงเปลือกตามันแบบขั้นเทพอาจเยิ้มหางตาเล็กน้อย
มันเป็นปกติของเจลไลน์เนอร์อ่านะ เนื้อมีส่วนผสมของน้ำมัน
เจอน้ำมันผิวเข้าไปทำละลายไงก็ต้องมีเยิ้มบ้างกรุบกริบ

เทสกับน้ำเปิดจากก๊อกใส่โลด....โดนน้ำไม่หลุดไม่ละลาย
ดังนั้นใครเหงื่อเยอะๆแบบเค้า (ไม่ใช่น้ำมันเยอะ) ตัวนี้สบายใจได้ว่ารอด

แต่......ย้ำว่าห้ามถู! เวลาถูมันจะหลุดออกในลักษณะเป็นก้อนๆเหมือนขี้ยางลบ
ซึ่งไม่ได้หลุดออกทั้งหมดมัน ถ้าเผลอไปถูหรือขยี้ตาจะดูแหว่งๆได้
ดังนั้นระหว่างวันถ้ามีเหงื่อหรือโดนน้ำให้เอาทิชชูกดซับน้ำออกเบาๆพอฮะ
เส้นไลน์เนอร์จะยังสวยกริบเหมือนเดิม



คุณสมบัติเรื่องการล้างออกง่าย

เห็นสีดำสนิทแบบนี้บอกเลยว่าล้างง่าย
แต่ต้องใช้เป็น Eye Remover เฉพาะ
แบบที่เป็นน้ำแยกสองชั้น (น้ำ+น้ำมัน) นะฮะ
เช็ดปรื้ดเดียวออกเกลี้ยงหมดไม่ต้องขยี้ให้ตาเหี่ยว



เทคนิคการเขียนไลน์เนอร์ในแบบของ Mhunoiii
ที่ไม่ทำให้หางตาดูตก

1. เริ่มเขียนที่หัวตาก่อนโดยลากเส้นให้ชิดโคนที่สุด
ปาดทางเดียวจากหัวตาไปหางตาไม่ถูไปมา
ลากตามแนวรูปตาแต่ยังไม่ต้องถึงหางตา

2. ทีนี้ย้ายมาเขียนตาล่างกัน โดยจะลากจากหางตา
เข้าไปประมาณ 1/3 ของขอบตาล่าง
ประเด็นที่ย้ายมาเขียนขอบตาล่างก่อน
คือเราจะหาจุดสิ้นสุดของขอบตาบน
เวลาลากขอบตาบนต้องไม่ลากต่ำกว่ามุมของขอบตาล่าง
แค่นี้เขียนยังไงหางตาก็ไม่มีวันตกละจ้า

3. ต่อด้วยการลากตวัดหางตาโดยเค้าจะลากให้เส้นหางตา
เฉียงลาดขึ้นไปตามองศาของเส้นขอบขอบตาล่าง
ซึ่งองศานี้นอกจากหางตาไม่ตกแล้วยังยกรูปตาขึ้นและทำให้ตาโตขึ้นด้วย

4. เขียนต่อเส้นหางตาให้เชื่อมกับเส้นหัวที่เขียนไว้ตอนแรก

5. ถมช่องว่างระหว่างเส้นให้เต็ม

6. ใครมีปัญหาเรื่องการเขียนหางตาไม่คมไม่ต้องคิดมาก
เขียนเสร็จแล้วเอาคัตตอนบัดจุ่มรีมูฟเวอร์เล็กน้อยปาดลากเลย
อยากให้คมแค่ไหนตัดขอบโลด



เปรียบเทียบดูขนาดของตาซะก่อน555 Smiley
พอเส้นหางตาเฉียงตามองศาขอบตาล่างหางตาจะเชิดได้ใจ
ซึ่งรูปตาที่ได้จะดูกลมโตขึ้นอย่างชัดเจน



อีกข้างก็เขียนด้วยวิธีเดียวกัน
ส่วนเรื่องของตาที่ด้านซ้ายขวาไม่เท่ากัน
อันนี้เป็นเรื่องธรรมชาติไม่มีใครเกิดมาสมมาตรเป๊ะๆอ่านะ
วิธีง่ายๆคือเขียนเส้นให้บางก่อนแล้วลืมตาเทียบดู
มองสองข้างเทียบกันแล้วค่อยเติมเส้นเข้าไป
เขียนตาสองข้างเค้าเขียนไม่เหมือนกันแต่ให้ลืมตามาแล้วดูคล้ายกันจ้า



แถมอีกนิดด้วยเทคนิคแต่งตาให้เส้นไลน์เนอร์ดูสวยซอฟต์ๆ

- หลังเขียนไลน์เนอร์เค้าจะใช้อายแชโดวโทนน้ำตาลเข้ม
เบลนเส้นไลน์เนอร์ที่ขอบตาล่างให้กลายเป็นเส้นฟุ้งๆจะช่วยให้ตาดูหวาน

- เพิ่มมิติหางตาด้วยการคัดเบ้าเพิ่มเล็กน้อยด้วยการทาอายแชโดวสีเข้ม
เป็นรูป < ลู่เข้าไปตามแนวเส้นไลน์เนอร์ที่หางตา

- เจลไลน์เนอร์ตัวนี้นิ่มสามารถใช้เขียนอินเนอร์ที่ขอบตาด้านในได้เลย
ซึ่งเป็นการเขียนเพิ่มเติมเต็มช่องว่างระหว่างเส้นขนตาทำให้ตาดูโตขึ้น
ช่วยให้เวลาลืมตาจะมองไม่เห็นเส้นขอบตาสีเนื้อด้านใน

- สุดท้ายก็ดัด ปัด ติดขนตาตามชอบ แนะนำถ้าอยากโชว์เส้นไลน์เนอร์
ให้เลือกติดขนตาที่ไม่หนามาก และปัดขนตาล่างให้บาลานซ์กะขนตาบน
จะทำให้ได้ลุคที่ตาดูไม่แน่นจนเกินไปฮะ



Before & After

ไลน์เนอร์เปลี่ยนชีวิตจริงๆ 555 ตาโตขึ้นมากมาย
ที่สำคัญสังเกตเห็นอะไรไหม? ชั้นตาก่อนเขียนเค้ามิเท่ากัน
แต่พอแต่งตาแล้วเหยมันคล้ายกันแล้วจ้า
เพราะเส้นไลน์เนอร์ประกอบกับขนตานะพูดเลย
มันเหมือนไปดันชั้นตาให้กดลึกเข้าไปทำให้ตาสองข้างดูใกล้เคียงกัน



ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าเค้าเขียนไลน์เนอร์ตาขวาหนากว่าเล็กน้อยหล่ะ



สรุปผลความพอใจ

จัดว่าเป็นเจลไลน์เนอร์ที่เค้าว่าเนื้อดีนะ
เนื้อนุ่มลื่นพอประมาณ ไม่ได้ลื่นมากทำให้คอนโทรลเส้นง่าย
เหมาะกับมือใหม่ที่อยากหัดเขียนไลน์เนอร์
เนื้อแห้งค่อนข้างไวเวลาเขียนอาจจะต้องค่อยๆปาดไปทีละนิด
ลาดปรื้ดเดียวหัวจรดหางยากหน่อยมันจะแห้งก่อนอ่านะ

เรื่องติดทนเค้าไม่มีปัญหาผิวเปลือกตามันอยู่แล้ว
ใช้ตัวนี้คืออยู่ยาวววเช้ายันเย็นไม่เยิ้มไม่เลอะแม้แต่น้อย
แต่วันที่เทสคือเจอทั้งเหงื่อและฝนบอกเลยว่าเอาอยู่
แต่ต้องระวังอย่าเผลอไปขยี้ตาไม่งั้นหลุดออกเป็นคราบก้อนๆแบบขี้ยางลบเน่อ

ราคาไม่สูงเว่อร์เกินไป(เทียบกับอุปกรณ์ที่ใช้ใกล้ดวงตา)
หาซื้อได้งามตามเคาท์เตอร์ BSC Panadda ซึ่งมีตามห้าง
โดยรวมจัดว่าเป็นแบรนด์ไทยที่ทำออกมาได้ดีเลยฮะ



Mhunoiii's Score 
(เต็ม 10 คะแนน)

เขียนง่าย 8.75/10
สีดำสนิท 9.5/10
ติดทน 8/10 
ล้างออกง่าย 9/10
แพคเกจจิ้ง 7/10
คุ้มราคา 8.5/10

คะแนนโดยรวม 8.75/10 





เย้! ตาพร้อมหน้าเป๊ะ....ขอตัวออกไปเที่ยวก่อนนะฮร้า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยค่า  Smiley

-----------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by BSC Panadda




 

Create Date : 30 มิถุนายน 2558    
Last Update : 30 มิถุนายน 2558 22:14:14 น.
Counter : 6212 Pageviews.  

Review : Bifesta คลีนซิ่งสูตรน้ำสะอาด สดชื่น ชุ่มชื่น! [ไม่มีAlcohol/สี/น้ำหอม/Oil/พาราเบน]


Bifesta Cleansing Lotion

ขนาด 300 ml ราคา 390 บาท  
ขนาด  60ml ราคา 95 บาท 

หาซื้อได้ที่ Watson, Boots, Tops market, Tesco Lotus, Big C, 
Tsuruha, Eve & Boy, ซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำ และใน 7-11 จ้า




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2558    
Last Update : 27 มิถุนายน 2558 21:50:03 น.
Counter : 2941 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]




..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน
http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้
ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!

---------------------------------------------------------

hits
New Comments
Friends' blogs
[Add SaRaY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.