ในฐานะที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้ประกอบการจะแจ้งให้ท่านมีความคิดสำหรับธุรกิจเฉพาะจะนำคุณเพื่อให้ห่างไกลแม้ว่าจะเป็นความคิดปฏิวัติมากที่สุดตั้งแต่การประดิษฐ์ของล้อความคิดของคุณจะล้มเหลวหากไม่มีราคาตลาดหรือเงินทุนเพียงพอที่จะทำให้ความคิดที่เป็นจริง

ในอดีตที่ผ่านมาเจ้าของธุรกิจมักจะเปิดให้กับนักลงทุนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนและครอบครัวหรือVCs, บูตธุรกิจตัวเองหรือเป็นหลักประกันเงินกู้ยืมจากธนาคารอย่างไรก็ตามในวันนี้เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กสามารถใช้ crowdfunding peer-to-peer เว็บไซต์การให้กู้ยืมเงินหรือตลาดสินเชื่อออนไลน์

แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้บัตรเครดิตธุรกิจและเส้นของเครดิตยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กแต่คำถามที่ยังคงอยู่ซึ่งประเภทนี้ของเงินทุนจะดีกว่าสำหรับธุรกิจของคุณ

บัตรเครดิต VS วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคล

ในขณะที่ทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลของบรรทัดเป็นหลักแหล่งที่มาของเครดิตที่ออกโดยธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีความแตกต่างที่สำคัญหลายอย่างระหว่างคนทั้งสอง

ความแตกต่างเหล่านี้รวมถึง;

อัตราดอกเบี้ย.

ระยะเวลาผ่อนผันและผลตอบแทนที่นำเสนอ

ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

วงเงินที่จัดไว้ให้

เท่าไหร่สามารถถอนเป็นเงินสดล่วงหน้า

การถ่ายโอน

คุณสมบัติของผู้สมัคร

ประเภทของลูกค้าที่ใช้แต่ละคน

โดยที่ในใจนี่คือมองใกล้ที่ข้อดีและข้อเสียระหว่างบัตรเครดิตและเส้นของเครดิตอยู่บนพื้นฐานของความแตกต่างหลักของพวกเขา

บัตรเครดิต

ส่วนใหญ่บัตรเครดิตยังมีระยะเวลาผ่อนผันเพื่อให้คุณสามารถเลื่อนการชำระเงินภายในระยะเวลาผ่อนผันและไม่ได้รับการตีด้วยค่าธรรมเนียมล่าช้าบางบัตรยังมาพร้อมกับผลตอบแทนสำหรับการเป็นลูกค้า

ใน downside, บัตรเครดิตมีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูงอัตราดอกเบี้ยเหล่านี้อาจสิ้นสุดต้นทุนธุรกิจของคุณเงินเป็นจำนวนมากถ้าคุณพกความสมดุล

นอกจากนี้ผู้ใช้เพียงแต่อาจจะสามารถที่จะถอนตัวออกประมาณ 20% ของวงเงินของพวกเขาสำหรับการเบิกเงินสดล่วงหน้าและมีมักจะยังค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องสำหรับการเบิกเงินสดล่วงหน้า

วงเงินสินเชื่อ

เส้นของเครดิตมักจะมีวงเงินสินเชื่อสูงกว่าบัตรเครดิตแต่บาง บริษัท ต้องมีการตรวจสอบรายได้บางสถาบันการเงินจะช่วยให้คุณสามารถใส่สายของเครดิตกับผู้ถือหุ้นที่คุณได้สร้างขึ้นในบ้านของคุณเส้นเหล่านี้ของเครดิตหมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้าถึงได้ทันทีว่าเป็นบัตรเครดิตอุปสรรคที่เกี่ยวกับเส้นของเครดิตก็คือว่ามีไม่ได้เป็นระยะเวลาผ่อนผันหรือข้อเสนอผลตอบแทน

แต่เส้นของเครดิตมักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าบัตรเครดิตและ100% ของวงเงินสามารถถอนเงินสดที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

สุดท้ายหากคุณกำลังติดต่อกับผู้ขายที่ไม่รับบัตรเครดิตแล้ววงเงินเครดิตสามารถให้คุณมีเงินในการดูแลการชำระเงินที่

การเลือกธุรกิจบัตรเครดิต

หากคุณตัดสินใจที่จะใช้สำหรับบัตรเครดิตธุรกิจNerdWallet ได้ให้ห้าขั้นตอนง่ายๆในการปฏิบัติตามเพื่อให้กระบวนการครอบงำน้อย

ขั้นตอนแรกคือการทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับบัตรเครดิตซึ่งหมายความว่าคุณควรใช้บัตรสำหรับค่าใช้จ่ายในธุรกิจจ่ายเงินของคุณในเวลาและทราบว่าบัตรเครดิตธุรกิจมาพร้อมกับข้อจำกัด ที่สูงกว่าบัตรส่วนบุคคล นอกจากนี้คุณยังสามารถออกบัตรให้กับพนักงานเพื่อให้คุณมีความสามารถในการให้แท็บในการใช้จ่ายของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้คุณยังต้องการตรวจสอบค่าใช้จ่ายของคุณเองเพื่อให้คุณสามารถหาบัตรที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณยกตัวอย่างเช่น LindsayKonsko ชี้ให้เห็นในNerdWallet "หากธุรกิจของคุณที่เกี่ยวข้องกับการให้การสนับสนุนลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์, คุณอาจใช้จ่ายมากในแต่ละเดือนในบริการโทรศัพท์ไร้สาย."

คุณอาจต้องการที่จะต้องพิจารณาของบริษัท "วิถีชีวิต" เมื่อตรวจสอบรางวัลที่นำเสนอ ตัวอย่างเช่นถ้าคุณและพนักงานทำมากเดินทางหรือความบันเทิงให้ลูกค้าโดยการให้พวกเขาออกไปทานอาหารเย็นแล้วคุณควรจะมองหาบัตรที่ให้ผลตอบแทนแลกเที่ยวบิน, โรงแรม, ก๊าซหรือการใช้จ่ายของร้านอาหาร

อย่าลืมที่จะมองไปที่ผลประโยชน์เช่นเบื้องต้นเมษายน0%

สุดท้ายชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของการจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีในฐานะที่เป็น Konsko กล่าวว่า"พิจารณาการใช้จ่ายประจำปีของธุรกิจและอัตราผลตอบแทนของบัตรที่คุณกำลังพิจารณามันเป็นวิธีที่ดีที่จะเปิดตัวเลือกการ์ดเพิ่มเติมหรือทางเลือกหนึ่งไม่กี่จำกัด."

พื้นฐานของวงเงินสินเชื่อ

หากคุณยังคงไม่แน่ใจว่าสิ่งวงเงินเครดิตและวิธีการทำงาน, สตีเฟนดีซิมป์สัน, CFA, ให้คำอธิบายเกี่ยวกับการทำความสะอาด Investopedia

"เป็นสายของเครดิตนั้นเป็นสินเชื่อที่มีความยืดหยุ่นจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อบุคคลหรือธุรกิจ"เขียนซิมป์สัน "ไม่แตกต่างจากวิธีการใช้บัตรเครดิตให้คุณมีจำนวน จำกัดของเงินที่คุณสามารถใช้เมื่อถ้าและวิธีที่คุณต้องการวงเงินเครดิตเป็น จำกัด /จำนวนเงินที่ระบุของเงินที่บุคคลสามารถเข้าถึงได้ตามความจำเป็นและจากนั้นชำระคืนทันทีหรือในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของเวลา. "

ซิมป์สันเสริมว่าเส้นของเครดิตที่มีประโยชน์เพราะพวกเขาอยู่"ความจริงที่ว่าธนาคารจะไม่สนใจในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ชะมัดสินเชื่อส่วนบุคคลเพียงครั้งเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินให้สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันให้กับลูกค้ามากที่สุด"

เส้นของเครดิตไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้การซื้อสินค้าขนาดใหญ่เช่นการซื้ออาคารสำนักงานแห่งใหม่เส้นของเครดิตมีวัตถุประสงค์อย่างไรเมื่อคุณต้องการเข้าถึงได้ทันทีรวดเร็วในการเงินสดในการเป็น"ความจำเป็น" พื้นฐานประเภทของเงินกู้ยืมที่จำเป็นซึ่งอาจรวมถึงการจ่ายเงินภาษีให้เช่าหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในคำอื่น ๆ เส้นของเครดิตสามารถให้กระแสเงินสดเมื่อธุรกิจของคุณต้องการมันในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม

คำตัดสินครั้งสุดท้าย:เส้นของเครดิตหรือบัตรเครดิตหรือไม่

มีข้อดีและข้อเสียของทั้งสองสายของเส้นบัตรเครดิตหรือบัตรเครดิตเป็นเจ้าของธุรกิจก็ขึ้นอยู่กับคุณที่จะทำเพราะความขยันของคุณและชั่งน้ำหนักตัวก่อนที่จะกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง

โดยทั่วไป, บัตรเครดิตอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าถ้าคุณทำการสั่งซื้อบ่อยครั้งในแต่ละเดือนและคุณสามารถที่จะจ่ายเงินออกจากยอดเงินของคุณ

หากคุณต้องการการเบิกเงินสดล่วงหน้าที่จะต้องจ่ายภาษีรายไตรมาสของคุณแล้ววงเงินเครดิตจะดีเหมาะกับความต้องการของคุณนี้อาจเป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตนเอง freelancers, หรือธุรกิจที่ต้องพึ่งพาค่าคอมมิชชั่นและมีรายได้ไม่สม่ำเสมอ

คุณมีใช้บัตรเครดิตหรือเส้นของเครดิตสำหรับธุรกิจของคุณคุณไม่เป็นที่หนึ่งที่ชอบ?