FinTech กำลังเรืองอำนาจในจีนและแอฟริกาใต้!!! : โดย พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และปร



ในปี 2016 ระบบการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศจีน อย่างเช่น Alipay และ WeChat Pay มียอดการทำธุรกรรมประมาณ 2.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี โดยการทำธุรกรรมได้เพิ่มขึ้นถึงยี่สิบเท่าภายใน 4 ปี ซึ่งมากกว่าที่เคยประมาณการณ์ไว้ในปี 2012 ที่ประมาณ 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

โดยเมื่อวันที่ วันที่ 20 เมษายน 2017 มีรายงานกรณีศึกษาจาก Better Than Cash Alliance ขององค์การสหประชาชาติ เรื่อง Social Networks, E-Commerce Platforms and the Growth of Digital Payment Ecosystems in China – What It Means for Other Countries ซึ่งในรายงานระบุว่าการทำธุรกรรมของโลกกำลังมุ่งให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนจากการชำระด้วยเงินสด เป็นการชำระเงินแบบดิจิทัล และได้ส่งผลต่อสาธารณชนทั่วโลก

การเปลี่ยนแปลงอย่างมากอีกอย่างหนึ่งก็คือ การออมและการลงทุน ตัวอย่างเช่น Yu’E Bao ของ Alibaba (MMF) ที่เปิดโอกาสให้ลงทุนต่างๆได้หลากหลาย ซึ่งกลุ่มผู้มีรายได้น้อยสามารถใช้เงินในบัญชีดิจิทัลในการลงทุนและสามารถเพิ่มเงินออมในระยะยาวได้ โดยตั้งแต่ปี 2013 บริษัท Yu'E Bao สามารถทำยอดได้ 117,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2016 และมีบัญชีผู้ใช้งานถึง 152 ล้านคน นอกจากนี้ FinTech ยังช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็ก สามารถหาเงินกู้ได้ อย่างเช่น ในเดือนกันยายน 2016 บริษัท Ant Financial เพียงบริษัทเดียว ได้ออกเงินกู้มูลค่าถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่นักธุรกิจจำนวน 4.11 ล้านคน

นอกจากนี้ กรณีศึกษาดังกล่าวยังชี้ให้เห็นว่า บริษัท Alipay และ WeChat ได้ลงทุนในบริษัทด้านการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลทั่วโลก โดย Alipay และ WeChat ได้ตั้งเป้าหมายไปที่ประเทศที่มีอัตราผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนจำนวนมากโดยเฉพาะ และรัฐบาลให้ความร่วมมือกับภาคเอกชนเป็นอย่างดี โดยประเทศเป้าหมาย ก็คือ แอฟริกาใต้ อินเดีย และอินโดนีเซีย

โดยในแอฟริกาใต้นั้น ร้อยละ 78 ของการเข้าใช้อินเทอร์เน็ตมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงมากที่สุดในโลก แต่อย่างไรก็ตามมีประชากรเพียง 15% เท่านั้นที่ซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ และหากมองไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านการตลาดสำหรับ FinTech แล้ว ในแอฟริกาใต้ถือว่ามีตลาดใกล้เคียงกับจีน โดย 59% ของประชากรใช้สื่อสังคมออนไลน์ และ 52% เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของสื่อสังคมออนไลน์ โดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของพวกเขา นอกจากนี้ ตลาดการชำระเงินแบบดิจิทัล ยังถือว่ามีขนาดเล็กและยังไม่มีแพลตฟอร์มที่เหมาะสม

อินเดีย ถือเป็นตลาดที่มีแนวโน้มที่ดี โดยบริษัท Ant Financial และ Tencent ได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศอินเดียแล้ว ตัวอย่างเช่น Ant Money ได้ลงทุน 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำลังดำเนินการเพื่อใช้เทคโนโลยีของตน ซึ่งทำให้บัญชีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจาก 5 ล้านบัญชี ขึ้นไปอยู่ที่ 200 ล้านบัญชีภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี

อินโดนีเซียเป็นประเทศที่เติบโตเร็วที่สุด ในแง่ของการเริ่มนำ Mobile commerce มาใช้ในปี 2016 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2016 ถึงมกราคม 2017 ตลาดเติบโตขึ้นถึง 155% ซึ่งการเติบโตที่โดดเด่นดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นจากบริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบทันที ผ่าน BBM Pay โดยแอพพลิเคชั่นชื่อดังอย่าง BBM Chat ซึ่งในปัจจุบัน BBM Chat มีผู้ใช้งานลงทะเบียนแล้วถึง 55 ล้านราย และผู้ใช้งานกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

มีการคาดการณ์ว่า GDP ของประเทศกำลังพัฒนาจะเพิ่มขึ้น 6% และมีตำแหน่งงานใหม่เกิดขึ้น 95 ล้านตำแหน่ง ภายในปี 2025 ซึ่งสื่อสังคมออนไลน์ และการค้าอิเล็กทรอนิกส์ กำลังเติบโตขึ้นในทุกๆประเทศ ในเศรษฐกิจทุกๆระบบ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และตลาดการชำระเงินแบบดิจิทัลของประเทศจีนและแอฟริกา จะเติบโตขึ้นภายใต้ช่องทางเหล่านี้ และจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดด

ที่มา thaitribune




Create Date : 10 พฤษภาคม 2560
Last Update : 10 พฤษภาคม 2560 16:43:02 น. 0 comments
Counter : 301 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.