วันที่ 1 สิงหาคม 2560 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงปิดคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวว่า ขอบคุณศาลที่อนุญาตให้แถลงปิดคดีด้วยตัวเอง ขอกล่าวอย่างหมดใจว่าถูกดำเนินคดีไม่เป็นธรรม ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งปีหกเดือน รวม 20 นัดไต่สวนไม่เคยขาดแม้แต่นัดเดียวเพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้กระทำตามข้อกล่าวหาและไม่เคยได้รับการไต่สวนภายใต้หลักนิติธรรมจากป.ป.ช.และอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ของคดีนี้แต่อย่างใด

ถ้าเปรียบกระบวนการยุติธรรมกับสายน้ำแล้วป.ป.ช. ถือเป็นต้นน้ำ อัยการสูงสุดถือเป็นกลางน้ำ และศาลยุติธรรมถือเป็นปลายน้ำ ซึ่งหากต้นน้ำใสสะอาด น้ำก็จะใสสะอาด แต่ในคดีของตัวเอง ต้นน้ำขุ่นมัว กลางน้ำขุ่นมัว เพราะพบข้อพิรุธมากมาย ทั้งรีบเร่งชี้มูลความผิดและมีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ โดยใช้เอกสาร 319 แผ่น ใช้เวลาเพียงไต่สวน 79 วัน ก่อนที่จะชี้มูลความผิด หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงหนึ่งวัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้อัยการสูงสุดได้แจ้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนต่อป.ป.ช. แต่คณะทำงานร่วมของทั้งสองหน่วยงาน ไม่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมแต่อย่างใด ขณะที่อัยการสูงสุดได้แถลงว่าจะส่งฟ้องก่อนที่สนช. จะลงมติเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มพยานหลักฐานใหม่ โดยการนำสำนวนของคดีระบายข้าวจีทูจีซึ่งอยู่นอกสำนวนที่ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดตนมาเพิ่มอีก 60,000 แผ่น ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนในฐานะนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด ทำให้รู้สึกว่าไม่มีผู้นำใดต้องเจอชะตากรรมที่หนักหนาเท่ากับตนอีกแล้ว และจะมีผู้นำคนใดกล้าที่จะเสนอนโยบายช่วยเหลือประชาชนต่อไปอีก

นางสาวยิ่งลักษณ์ยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการที่มีประโยชน์กับประชาชนโดยเฉพาะชาวนา ช่วยยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิต และทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมกว่า 350,000 ล้านบาท ตัวเองจึงไม่อาจระงับยับยั้งโครงการดังกล่าวได้ แต่ได้พยายามวางมาตรการป้องกันการทุจริตที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น และเมื่อได้รับข้อเสนอจากป.ป.ช. และ สตง. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการปรับปรุงแก้ไขและสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่คณะกรรมการของกระทรวงพาณิชย์ไม่เคยรายงานมายังคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใดว่าพบการทุจริต จึงไม่ได้มีเจตนาพิเศษที่จะหลีกเลี่ยงหรือปกปิดการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามข้อกล่าวหา และไม่เคยสมยอมให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว

ดังนั้นตนจึงเป็นเหยื่อของเกมการเมืองที่ลึกซึ้ง ขอให้ศาลให้ความเป็นธรรมในครั้งนี้ด้วย แม้ว่าที่ผ่านมาจะปรากฏการชี้นำจากฝั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติและอำนาจรัฐที่พูดชี้นำสังคม ทั้งที่ศาลยังไม่ได้ตัดสิน ศาลจึงเป็นที่พึ่งสุดท้ายของตนขอให้ศาลยกคำฟ้องให้ตัวเองด้วย

ทั้งนี้นางสาวยิ่งลักษณ์มีน้ำเสียงสั่นเครือและสะอื้นไห้ออกมาในช่วงท้าย ของการแถลงปิดคดี จากนั้นศาลมีคำสั่งนัดฟังคำพิพากษาใส่วันที่ 25 สิงหาคมเวลา 09:00 น.

ที่มา thaitribune

Create Date : 02 สิงหาคม 2560
Last Update : 2 สิงหาคม 2560 10:40:41 น.		0 comments
Counter : 282 Pageviews.
Share Tweet