การตอบสนองความต้องการในการบริโภคอย่างไม่จำกัด (Abundance) และการตลาดแบบเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customization) เป็นสภาพการณ์ที่แปลกใหม่และไม่คุ้นเคยในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยเริ่มตั้งแต่การที่โคบี้ ไบรอันต์ นักบาสเกตบอลดาวรุ่งได้ออกมาประกาศถอนตัวจาก NBA ซึ่งเป็นการแข่งขันบาสเกตบอลอาชีพของทวีปอเมริกาเหนือ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ซึ่งประเด็นสำคัญก็คือการประกาศถอนตัวดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นผ่านช่องทางของเครือข่ายโทรทัศน์หลักด้านกีฬา แต่เป็นการเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมและเว็บไซต์

The Players’ Tribune ผู้ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ดิจิทัลด้านกีฬา ประเภทเดียวกับเดียวกับ NBC, FOX และ ABC โดยในเดือนเดียวกันนี้เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ต่างๆอย่าง CBS ซึ่งกำลังพยายามหาช่องทางขยายฐานผู้ชมให้กว้างขึ้นไปจากเครือข่ายโทรทัศน์แบบเรียกเก็บเงินแบบดั้งเดิม ได้ประกาศที่จะนำแฟรนไชส์สื่อบันเทิงที่โด่งดังที่สุดของช่องอย่าง Star Trek มาออกอากาศอีกครั้งเฉพาะทางระบบวีดีโอสตรีมมิ่งแบบบอกรับสมาชิกรูปแบบใหม่ของสถานีโทรทัศน์ CBS (CBS All Access) เท่านั้น

ส่วนทางด้าน FOX เองก็ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะไม่วัดความนิยมของผู้ชมรายการโทรทัศน์ด้วยวิธีการเดิมๆ แต่จะมีการรายงานขนาดของฐานผู้ชมในทุกๆช่วง 3 และ 7 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับความนิยมในการรับข้อมูลข่าวสารในรูปแบบวีดีโอแบบบอกรับสมาชิก

ส่วนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออย่าง AT&T และ Sprint ต่างตอบสนองความต้องการใช้งานวีดีโอสตรีมมิ่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเน้นให้บริการข้อมูลไร้สายแบบไม่จำกัด เพื่อตีตลาดและเพิ่มยอดผู้บอกรับเป็นสมาชิกให้กับทางเครือข่าย ซึ่งผลที่ตามมาก็คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นวีดีโอสตรีมมิ่งและสมาร์ทโฟนได้กลายมาเป็นของขวัญที่ขายดีที่สุดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลคริสต์มาสประจำปี พ.ศ. 2558 ไปในทันที

พัฒนาการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไปสู่โลกแห่งการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง อย่างไรก็ตามในช่วงแรกที่มีการเปลี่ยนผ่านเข้าไปสู่โลกใหม่นี้ เนื้อหาที่มีการนำเสนอส่วนใหญ่ยังคงเดิมแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเกิดขึ้นกับรูปลักษณ์ภายนอกและวิธีการเผยแพร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายตัวของเทคโนโลยีดิจิตอลซึ่งปรากฏให้เห็นอย่างแพร่หลายในรูปของการเชื่อมต่อเครือข่ายประจำที่และเครือข่ายไร้สาย จนทำให้ปริมาณของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อและเส้นทางใหม่ๆสำหรับผู้ใช้งานเพิ่มจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย

การขยายตัวของเทคโนโลยีกำลังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอุตสาหกรรม เช่นผลักดันให้เกิดการผลิต เผยแพร่ และสร้างรายได้จากเนื้อหาให้กับทุกภาคส่วน ซึ่งสิ่งนี้ได้ช่วยเพิ่มโอกาสให้นักพัฒนาในการสร้างรายได้นอกเหนือจากการทำงานผ่านกระบวนการผลิตแบบใช้ห้องอัดและช่องทางการเผยแพร่เนื้อหาแบบดั้งเดิม

ส่วนทางด้านผู้บริโภคเองก็จะได้มีเนื้อหาให้เลือกรับชมรับฟังได้มากขึ้น สามารถเข้าถึงเนื้อหาเหล่านี้ได้ทุกที่ทุกเวลา ในทุกๆรูปแบบของสื่อผสม ผ่านช่องทางและเครื่องมือสื่อสารที่หลากหลาย ซึ่งการตลาดจะมุ่งเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และความสะดวกสบายในการรับชมรับฟังที่เกิดขึ้นจากคุณภาพของเนื้อหาอีกด้วย

หากคุณมีโอกาสเป็นผู้บริหารในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง ก็ควรจะพึงตระหนักไว้ว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับสูตรความสำเร็จเดิมๆ ของคุณแล้วมากมาย จนอาจจะไม่สามารถใช้วิธีและความคิดเดิมๆ มาบริหารธุรกิจสื่อและบันเทิงของคุณได้อีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ลำพังการพัฒนาเนื้อหาเพื่อดึงดูดหรือแสวงหาฐานผู้ชมเป็นจำนวนมากให้สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการโฆษณาและการสมัครสมาชิกนั้น คงจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปมาก คุณอาจจำเป็นต้องสร้างฐานแฟนคลับซึ่งมีแนวคิด ความสนใจ และประสบการณ์บริโภคสินค้าและบริการคล้ายๆ กัน ซึ่งจะหมุนเวียนกลับมาอุดหนุนแบรนด์และสินค้าหรือบริการของคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในฐานะที่เป็นธุรกิจซึ่งยึดกลุ่มแฟนคลับเป็นศูนย์กลาง และได้รับการสนับสนุนจากความจงรักภักดีของผู้ใช้สินค้าและบริการ คุณจะสามารถบริหารจัดการหรือควบคุมผลประโยชน์มากมายในเชิงยุทธศาสตร์ได้ คุณจะมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้สินค้าและบริการมากขึ้น เช่น รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ต้องการอะไร และคุณจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการเหล่านั้นได้อย่างไร สิ่งนี้จะทำให้คุณสามารถทำเงินจากสินค้าและประสบการณ์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและในวงกว้างมากขึ้น โดยกลุ่มแฟนคลับในปัจจุบันเองก็จะชักชวนคนอื่นให้มาเข้าร่วมสนับสนุนสินค้าและบริการของคุณในที่สุด

ในทุกๆภาคอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง ธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากเดิมสู่รูปแบบใหม่ กำลังแข่งขันกับธุรกิจที่มีอยู่ดั้งเดิมในตลาด เพื่อผลักดันมูลค่าของกลุ่มแฟนคลับ และพัฒนาตัวเองขึ้นมาให้เป็นเจ้าแรกๆที่สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการได้รับ ซึ่งในบางครั้งการตอบสนองนั้นอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ผู้ใช้งานจะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรเสียอีก ซึ่งในช่วง 1-2 ปีนี้ จะมีความรุดหน้าในการแข่งขันที่มากขึ้นอย่ายิ่ง ซึ่งบริษัทใดก็ตามที่ตั้งเป้าจะเข้าสู่สมรภูมินี้จะต้องมีดีกว่าแค่การพยายามรักษาระดับความผูกพันธ์และความจงรักภักดีต่อแบรนด์ของกลุ่มแฟนคลับไว้ได้ และรู้จักที่จะลงทุนเพื่อให้เกิดการผลักดันมูลค่าของกลุ่มแฟนคลับ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นภาพลักษณ์ด้านยุทธศาสตร์ในการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยที่บริษัทต่างๆต้องเผชิญและรับมือกับความเสี่ยงรูปแบบใหม่ๆ ตลอดเวลาให้ได้

เมื่อสื่อต่างๆค่อยๆพัฒนาขึ้นสู่โลกแห่งการเข้าถึงโดยตรงต่อผู้บริโภค จึงไม่มีเวทีการแข่งขันใดที่จะดุเดือดไปกว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโทรทัศน์ ซึ่งตามรายงานของบริษัท PricewaterhouseCoopers (PwC) สื่อวีดีโอสามารถทำรายได้สูงสุดในภาคอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง หรือราวๆ 4.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการบอกรับสมาชิกและการโฆษณา ซึ่งทั่วโลกมีผู้คนมากมายเลือกใช้บริการข้อมูลวีดีโอสตรีมมิ่งผ่าน OTT หรือบริการสื่อสารและแพร่ภาพยนตร์และเนื้อหาผ่านแอพพลิเคชั่นบนอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องอาศัยการสมัครสมาชิกระบบโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิลหรือดาวเทียม ซึ่งตามรายงานของ PwC ทุกวันนี้ผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกากว่าร้อยละ 78 ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก OTT อย่างน้อยหนึ่งบริการ แม้ว่าในปัจจุบันผู้ชมส่วนใหญ่จะเพิ่ม OTT เข้ามาเป็นบริการเสริมนอกเหนือจากการสมัครสมาชิกในระบบโทรทัศน์ แต่ก็สามารถเห็นได้ชัดเจนขึ้นทุกวันว่ารูปแบบการใช้บริการมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจริงๆ โดยในปี พ.ศ. 2557 ยังมีจำนวนผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาสมัครเป็นสมาชิกระบบโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิลกว่าร้อยละ 91 อย่างไรก็ตามในปีถัดไปการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ทำให้ตัวเลขดังกล่าวร่วงลงมาอยู่ที่ร้อยละ 79 เท่านั้น

นักวิเคราะห์อนาคตศาสตร์หลายท่าน ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ในช่วงทศวรรษนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงอย่างถอนรากถอนโคน และภาพการเปลี่ยนแปลงที่เห็นในวันนี้ เป็นเพียงภาพแห่งการเริ่มต้นเท่านั้น

ที่มา thaitribune

Create Date : 08 พฤษภาคม 2560
Last Update : 8 พฤษภาคม 2560 23:12:08 น.		0 comments
Counter : 246 Pageviews.
Share Tweet