ไปซื้อแอปเปิ้ล พันธุ์ฮันนี่คริปส์ ที่วอลล์มาร์ท



ก่อนหน้านี้บ้านเราอยู่พร้อมหน้ากัน 3 คนเเม่ลูก เวลาไปซื้ออาหารจะไปด้วยกันเสมอ ลูกเป็นเด็กทานอาหารยาก เลยต้องพาเขาไปเลือกซื้ออาหารเองตามใจชอบ เเต่พอช่วงหลังๆไม่มีใครไปด้วย แม่เลยต้องไปซื้อคนเดียว เขาจะทานอะไรก็จะสั่ง หรือเอารูปให้ดู









เราจะเก็บห่อเก็บถุงอาหารที่เขาชอบใว้ซื้อให้เขาในคราวต่อไป พอไปตลาดก็เอาถุงไปเทียบ เพราะถ้าเราซื้อมาไม่เหมือน เขาจะไม่ทานเลยค่ะ



ลูกคนเล็กชอบทานแอปเปิ้ล เราก็อยากจะเอาใจ วันก่อนเเวะไปตลาดซื้อเเอปเปิ้ลมาให้เขาถุงนึง เขาไม่ทานเลยค่ะ เราก็งง! อ้าวยูชอบทานแอปเปิ้ลไม่ใช่หรอ? เขาบอก"ใช่" เเต่ไม่ใช่พันธุ์ที่เราซื้อมา^^

โห! ผิดกับเราลิบลิ่ว แอปเปิ้ลพันธุ์ไหนเราทานได้หมด เกิดมาก็เพิ่งจะรู้นี่เเหละว่าแอปเปิ้ลเขามีหลายพันธุ์ เเต่ละพันธุ์ก็ให้ความอร่อยไม่เหมือนกัน เเละราคาก็ต่างกันด้วย 

มาวันนี้เขาบอกให้เเม่ไปซื้อแอปเปิ้ลให้หน่อย เอาพันธุ์ฮันนี่คริปส์เท่านั้น (Honey crisp) โอเคร! ได้เลย แม่จัดให้ ไปเลือกดูเเอปเปิ้ลกันเลยค่าา

แอปเปิ้ลควรทานทั้งเปลือก เพราะจะได้ประโยชน์มากกว่า แต่เนื่องจากแอปเปิ้ลที่ขายในตลาด ส่วนใหญ่จะมีการเคลือบให้สีผิวสดใส และคงความสดนานขึ้น ดังนั้นก่อนกินจึงควรล้างแอปเปิ้ลให้สะอาด ก่อน ด้วยการละลายเกลือ 1 ช้อนชาในน้ำสะอาด 1 กะละมัง แล้วนำแอปเปิ้ลลงไปแช่ไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นขัดถูด้วยฟองน้ำให้ทั่ว เท่านี้ก็พร้อมทานได้อย่างปลอดภัย



 คุณประโยชน์ของแอปเปิ้ลแต่ละสี
1. แอปเปิ้ลสีเขียว ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อผลกรอบ มีน้ำตาลน้อยกว่า ให้พลังงานน้อยที่สุดในบรรดาแอปเปิ้ล มีปริมาณไฟเบอร์และวิตามินซีมากกว่าสีอื่นเล็กน้อย ช่วยในเรื่องของการป้องกันไข้หวัด และโรคเลือดออกตามไรฟัน

2. แอปเปิ้ลสีเหลือง ให้รสชาติดี หวาน หอม นุ่มละมุน สามารถช่วยในเรื่องล้างสารพิษจากตับ ช่วยบำรุงสายตา และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจก

3. แอปเปิ้ลสีชมพู ให้รสชาติหวาน เนื้อไม่กรอบมาก มีวิตามินซีซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการอักเสบ ลดริ้วรอยแห่งวัย ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน ช่วยทำให้ผนังของหลอดเลือดฝอยแข็งแรงมากขึ้น และยังป้องกันโรคมะเร็ง

4. แอปเปิ้ลสีแดงเข้ม ให้รสชาติหวานมาก เปลือกแอปเปิ้ลสีแดงมีสารแอนโทไซยานินซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ ลดความเครียด ช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ



สายพันธุ์แอปเปิ้ล ที่คนนิยมรับประทานมากที่สุด
1.เรดดีลิเซียส ( Red Delicious ) สายพันธุ์นี้จะมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแอปเปิ้ลแดง ซึ่งผลของมันจะเป็นทรงคล้ายกับหัวใจและมีสีแดงสด ทั้งยังมีเนื้อกรอบอร่อย รสชาติอาจหวานไม่มากแต่ก็อร่อยไม่น้อยเลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่แอปเปิ้ลชนิดนี้ก็มักจะนำมาใส่ในเมนูสลัดหรือนำมาทานเล่นอีกด้วย อาจเรียกได้ว่าเป็นแอปเปิ้ลที่เหมาะกับการนำมาทานเป็นสลัดและของว่างในช่วงต่างๆ ได้ดีทีเดียว ส่วนแหล่งกำเนิดพบว่า ชุมชนพีรู รัฐไอโอวา และมีต้นกำเนิดไม่ชัดเจน แต่มีระบุว่าพบในสวนของเจสซี่ เฮียทท์ หรือชื่อเดิมคือ ฮอว์กอาย

2.โกลเด้นดีลิเชียส ( Golden Delicious ) แอปเปิ้ล สายพันธุ์นี้จะมีเปลือกเป็นสีเหลืองทอง รสชาติหวานฉ่ำและเนื้อกรอบอร่อย โดยจะหวานกว่าแอปเปิ้ลสายพันธุ์แรกเล็กน้อย โดยจุดเด่นของแอปเปิ้ลชนิดนี้คือ หลังจากหั่นเรียบร้อยแล้ว ผิวแอปเปิ้ลจะยังคงความขาวสวยน่า ทานได้นานกว่าแอปเปิ้ลชนิดอื่นๆ ทั้งยังสามารถนำมาประกอบเมนูต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะสลัดและพวกเมนูของว่าง อย่างเช่น ขนมอบ พาย เป็นต้น ส่วนแหล่งกำเนิด พบว่าเคลย์เค้าน์ที้ รัฐเวสต์เจอร์จิเนีย และต้นกำเนิดของแอปเปิ้ลสายพันธุ์นี้ก็ไม่พบแน่ชัดเช่นกัน

3.ฟูจิ ( Fuji ) เป็นแอปเปิ้ลที่มีผลค่อนข้างกลม มีเปลือกสีแดงอมส้ม รสชาติของมันจะมีความหวานอร่อยและโดดเด่นกว่าทุกสายพันธุ์ แถมยังมีความกรุบกรอบน่าทานอีกด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว แอปเปิ้ลฟูจิจะนิยมนำมาทานสดๆ หรือเป็นของว่างมากที่สุด รวมถึงนำไปทำเป็นขนม เช่น ซอส ขนมอบและพายเช่นกัน สำหรับแหล่งกำเนิดพบที่ ประเทศญี่ปุ่น และไม่ใช่พันธุ์แท้ แต่เป็นสายพันธุ์ที่ถูกผสมระหว่างแอปเปิ้ลเรดดีลิเชียส และแรลส์เจเน็ตนั่นเอง

4.กาล่า ( Gala )เป็นแอปเปิ้ลสายพันธุ์ที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์สุดๆ ด้วยลายทางสีชมพู-ส้ม และมีพื้นหลังเป็นสีเหลืองดูสวยแปลกตา แถมยังมีกลิ่นหอมดูน่าเย้ายวนสุดๆ แต่แอปเปิ้ลชนิดนี้จะหวานน้อยกว่าฟูจิ อย่างไรก็ตาม กาล่าก็สามารถนำไปทำสลัด ซอสและพายได้อย่างอร่อยอีกด้วย ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลกเลยทีเดียว และนอกจากนี้กาล่าก็เหมาะสำหรับการนำมาทำเครื่องดื่มและขนมอบเช่นกัน ส่วนแหล่งกำเนิด พบได้ที่นิวซีแลนด์ เป็นแอปเปิ้ลที่มีการผสมกันระหว่างสายพันธุ์แอปเปิลคิดส์ออเร้นจ์และโกลเด้นดีลิเซียส

5.ฮันนี่คริปส์ ( Honeycrisp ) สำหรับแอปเปิ้ลสายพันธุ์นี้ก็กำลังเป็นที่นิยมมากเช่นกัน เพราะมีความโดดเด่นด้วยเปลือกสีแดงสดแต้มด้วยรอยจุดสีเขียวจางๆ แถมมีความกรอบอร่อยและมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ซึ่งก็จะช่วยสร้างความตื่นตัวและทำให้เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดี และสามารถนำมาใช้ประกอบเมนูต่างๆ ได้อย่างหลากหลายอีกด้วย โดยเฉพาะเมนูสลัด ซอส พาย ขนมอบและเมนูอาหารคาวต่างๆ ส่วนแหล่งกำเนิดพบที่มหาวิทยาลัยแห่งมินนิโซตา มินนีแอโพลิส-เซนต์พอล มินนิโซตา โดยแอปเปิ้ลสายพันธุ์นี้ก็เป็นพันธุ์ที่ผสมระหว่างแอปเปิ้ลคีปสกและแอปเปิ้ลไม่ทราบชนิด 

6.แกรนนี่สมิธ ( Granny Smith ) เป็นแอปเปิ้ลสีเขียวซึ่งจะมีเปลือกเป็นสีเขียวอ่อน มีรสชาติเปรี้ยว ไม่หวานเหมือนกับแอปเปิ้ลชนิดอื่นๆ แต่ก็มีความกรอบอร่อยให้ความรู้สึกที่แสนรื่นรมย์และกระตุ้นรสสัมผัสได้ดีเช่นกัน โดยแอปเปิ้ลชนิดนี้ก็เหมาะกับการนำมาใช้ทำ เป็นของหวาน โดยเฉพาะพายที่สุด เพราะมีรสชาติที่เข้ากันได้ดีและน่าทานไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งสูตรอาหารต่างๆ ที่นิยมนำแกรนนี่สมิธมาทำ ได้แก่ ซอส สลัด ขนมอบและเมนูแช่แข็ง โดยแหล่งกำเนิดพบที่ประเทศออสเตรเลียเชื่อว่าน่าจะมาจากเฟรนช์แครบแอปเปิ้ล เนื่องจากปลูกโดยคุณย่าชาวออสเตรเลียมาเรีย แอนน์ สมิธนั่นเอง

7.แบร์เบิร์น ( Braeburn ) แอปเปิ้ลที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวผสมผสานกันอย่างลงตัวและมีสีส้มจนถึงแดงบนพื้นสีเหลือง แถมมีกลิ่นหอมละมุนน่าทานสุดๆ และยังเหมาะกับการนำมาทำเป็นสลัด ขนมอบ ซอสและพาย ซึ่งก็จะให้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อมและน่าทานไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็เหมาะกับการนำมาทำเป็นเมนูเครื่องดื่มหรือแช่แข็งเช่นกัน ส่วนแหล่งกำเนิดพบที่ประเทศนิวซีแลนด์ โดยคาดว่าน่าจะเป็นแอปเปิ้ลพันธุ์ผสมระหว่างเลดี้ฮามิลตันและแกรนนี่สมิธ

8.คริปส์พิ้งค์ ( Cripps Ping )แอปเปิ้ลชนิดนี้จะมีเปลือกเป็นสีชมพูสดใส ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งก็ถือเป็นเอกลักษณ์ของแอปเปิ้ลชนิดนี้เลยทีเดียว และยังมีเนื้อนุ่ม กรอบอร่อยอีกด้วย โดยถือเป็นแอปเปิ้ลอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำเป็นของว่างและขนมอบสุดๆ หรือจะทานสดๆ ใส่ในสลัด ซอส พาย ทำเป็นเครื่องดื่ม แช่แข็ง ก็ให้ความอร่อยที่ไม่แพ้กันเลยทีเดียว 



เลือกดูเเอปเปิ้ลเสร็จเเล้ว ก็ไปซื้ออาหารเเช่เเข็งมาติดตู้เย็น เผื่อหิวๆค่ะ



ละเหี่ยใจกับกะทะที่บ้านมากค่ะ กะทะทำกับข้าวมันชอบติด เลยไปซื้อกะทะเทฟล่อนมาใช้ มาใหม่ๆก็ใช้ดี เเต่เมื่อเวลาผ่านไป มันลอกค่ะ วันนี้เลยลองซื้อกะทะทองเเดง (copper) มาใช้ เห็นเขาสลากเขาเเปะบอกว่าไม่ติด ไม่ต้องใช้น้ำมัน



ตั้งใจจะไปซื้อแอปเปิ้ลอย่างเดียว พอออกมาจากร้านมีโน่นนี่นั่นติดมาเกือบเต็มรถเข็น

ของที่อเมริกา หากซื้อไปเเล้วเกิดความไม่พอใจ นำมาคืนได้ค่ะ





ร้านค้าในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือใหญ่ ไปจนถึงห้าง หรือมอลล์ เขาจะติดป้ายราคาสินค้าใว้ที่ของทุกชิ้น ราคาจะไม่รวมภาษีสินค้า ซึ่งเราต้องจ่ายภาษีตอนชำระเงิน เช่นซื้อสินค้า 100 ดอลล์ เมื่อเวลาจ่ายเงิน ต้องจ่ายในจำนวน 100 + ภาษีสินค้าของรัฐนั้นๆ ซึ่งภาษีสินค้าเเต่ละรัฐก็ไม่เท่ากัน เช่นที่รัฐอิลลินอยส์ที่เราอยู่ ภาษีสินค้าจะอยู่ที่ 10.250%  เพราะฉะนั้น เราต้องจ่ายเงินทั้งสิ้น 100 +10.250% หรือเท่ากับ 110.25 ดอลล์นั่นเอง คนที่ไปอยู่อเมริกาใหม่ๆอาจไม่ทราบ ควักเเบ้งค์ร้อยให้พนักงานไปเลย พนักงานเขาก็จะบอกว่า ยูต้องจ่ายภาษีสินค้าด้วย

ที่เมืองไทย ตามร้านเล็กๆ ร้านโชห่วยไม่ติดราคาสินค้า ต่อรองราคาได้ สินค้าบ้านเรารวมภาษีใว้เเล้ว ซื้อของ 100 บาท ก็จ่าย 100 บาทเน็ตๆ

ในใบเสร็จจะเห็นว่า เราต้องจ่ายภาษีถึง 2 ตัว คือ Tax 1 คือภาษีอาหาร เเละ Tax2 คือภาษีที่ไม่ใช่อาหาร (ของใช้ต่างๆ)



ซื้อของเสร็จเเล้ว ขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เเวะมาเยี่ยมบล้อกค่ะ


Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2564 21:55:57 น. 1 comments
Counter : 1280 Pageviews.

 
ความรู้ใหม่เลยค่า


โดย: สมาชิกหมายเลข 3450494 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:00:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3661152
Location :
ชิคาโก United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Single Mom in USA.
ไดอารี่ออนไลน์ของ"ซิงเกิ้ลมัม"ในสหรัฐอเมริกา
ปี 2003 อยู่เมือง Rex รัฐจอร์เจีย
ปี 2010 ย้ายไปอยู่เมือง Elon รัฐนอร์ทแคโรไลนา
ปี 2012 ย้ายไปอยู่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ จนถึงปัจจุบัน
ปี 2020 เขียนไดอารี่ออนไลน์ bloggang



Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
26 กุมภาพันธ์ 2564
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3661152's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.