-:- Just alright, My life is Great -:-
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
ต่อไปใครจะอยากเที่ยวเมืองไทย

คำเตือน Blog นี้ค่อนข้างยาว และประกอบด้วยคำหยาบคายจำนวนมาก หากรับไม่ได้กับคำหยาบ จงออกจาก Blog นี้ทันที

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่านที่ตั้งใจเข้ามาอ่าน และผู้ที่หลงเข้ามาอ่าน วันนี้ขออภิปรายในหัวข้อ "ต่อไปใครจะอยากเที่ยวเมืองไทย" ความจริงประเด็นนี้เป็นประเด็นละเอียดอ่อนที่ผมไม่อยากจะพูดถึงเท่าไรนัก แต่ที่พูดเพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมของคนไทยที่ตีหัวคนไทยด้วยกันเอง ขอย้ำในเจตนาบริสุทธุ์ที่หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นของประเทศไทย


วันหยุดยาว หลายๆ คนก็เริ่มเตรียมตัวหาสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นการเติมพลังก่อนที่จะกลับไปทำงานอีกครั้ง แน่นอนว่าทุกคนก็อยากได้ประสบการณ์ที่ดีจากการท่องเที่ยว แต่หลายครั้งจะพบว่า "มันไม่เป็นเช่นนั้น"


พฤติกรรมของเจ้าของที่พักบางแห่ง เหมือนไม่อยากต้อนรับคนไทย เห็นฝรั่งเดินเข้ามาแทบจะเดินเข้าไปกราบตีน บางแห่งพูดจาดูถูกคนไทยเหมือนไม่ใช่คน แสดงกิริยาดูถูกคนที่มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก คนไทยมาถามที่ฟร้อนตอนที่มีฝรั่งถามอยู่ ก็ให้คนไทยรอ ทั้งที่ตอบคนไทยแค่ไม่ถึง 5 วินาที ก็จบแต่ให้รอ แต่พอฝรั่งเดินมาถามที่ฟร้อน ทั้งที่ยังคุยกับเราไม่จบ กลับหันไปคุยกับฝรั่งก่อน แถมคุยนานอีก สรุปคนไทยแม่งไร้ค่าขนาดนั้นเลยใช่มั้ยวะ? ทั้งที่ก็จ่ายเงินเท่ากันกับไอ้พวกฝรั่ง แต่ทำไมบริการถึงได้แตกต่างกันได้มากขนาดนี้ มันทำให้ผมรู้สึกแย่

ทั้งที่เมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย แต่จะแย่ก็คือ ผู้ให้บริการ ทำไมล่ะครับ? คนไทยหรือคนต่างชาติ มันก็ลูกค้าไม่ใช่หรือ? ทำไมรังเกียจคนไทย หรือว่าเงินน้อย จน?

เที่ยวเมืองไทยบางที่ราคาแพงกว่าเที่ยวต่างประเทศเสียอีก ทำไมถึงกลายเป็นแบบนั้นไปได้ นี่ก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจ ว่าทำไมคนไทยจำนวนหนึ่งไม่อยากเที่ยวเมืองไทย ซ้ำร้ายยิ่งกว่าหลายๆ ครั้งเราจะพบว่าคนไทยตีหัวคนไทยด้วยกันเอง พวกเรือข้ามไปเกาะต่างๆ มีคดีมาหลายที่ประจานกันก็หลายครั้งหลายท่า ว่าแม่งเหี้ยคิดแต่จะเอาเงินเอากำไรโดยไม่สนใจความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว บางครั้งรับเงินไปแล้วก็ไม่ทำตามสัญญาที่ตกลง เหมาเรือจ่ายเงินไปแล้วก็ไม่ออกเรือ ต้องให้รอคนเต็ม แล้วจะเหมาไปหาเหี้ยอะไรวะ ถ้าคนไทยยังเล่นงานกันเองแบบนี้ แล้วต่อไปใครที่ไหนจะอยากเที่ยวเมืองไทย เวลาเดือดร้อนจากสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะทางการเมือง ก็ร้องไห้ขอร้องให้คนไทยมาช่วยเหลือ แต่พอไปช่วยก็ดันเสือกไม่อยากจะต้อนรับ


แม้แต่ขายของให้คนไทยยังโก่งราคาแบบน่าเกลียด ของในสวนจัตุจักรบางอย่างโกงราคาได้น่าเกลียดมาก ผมพาเพื่อนต่างชาติไปซื้อของ เทียนหอม ร้านบอกราคา 80.- บาท ผมก็ลองต่อราคาดูได้เต็มที่แค่ 60.- บาท พอมีคนต่างชาติที่ไม่ได้มากับผมถามแม่งเล่นเค้า 100.- บาท แถมยังมีหน้าหันมาบอกเราอีกว่าอย่าบอกคนต่างชาติว่าแม่งเหี้ย ผมก็เห็นว่าคนไทยด้วยกันมึงไม่โกงกู กูก็ช่วยมึง จริงๆ อยากไปดูร้านอื่นก่อน แต่เห็นเพื่อนมันอยากได้เลยไม่ขวาง เพื่อนชาวต่างชาติที่มากับผมซื้อไป 5 ชุด ทั้งหมด 300.- บาทไปเจอร้านอื่นราคาชุดละ 35.- ถึง 40.- บาท 3 ชุด 100.- บาทเท่านั้น ทุกคนด่า "ไอ้เย็ดแม่" สวรรค์คงลงโทษผมแล้วล่ะที่ไม่ยอมบอกคนต่างชาติกลุ่มอื่นว่า "เค้ากำลังจะโดนต้ม"

ตลาด อตก. ตลาดคนรวยของคุณภาพ แต่ก็ใช่ว่าจิตใจผู้ขายจะสูงตามไปด้วย ชาวต่างชาติไปถามราคา น้ำอ้อยขวดละ 40.- บาท "มึงพูดหมาๆ แบบนั้นออกมาได้ยังไง ทั้งที่มีป้ายติดไว้ว่าน้ำอ้อยราคา 20.- บาท มึงโก่งราคาเค้า 100% เลยนะโว้ย" หรือพอเห็นเป็นคนต่างชาติได้โอกาสตีหัวทันที ยังดีที่กูเบรคทัน ความจริงของแบบนี้มันไม่ควรจะโก่งราคาด้วยซ้ำ โก่งนิดโก่งหน่อยมันยังพอรับได้แต่โก่งราคา 100% ต้องด่าว่า "ขายของอุบาทว์"

อาจจะเป็นเพราะมากับผมทุกคนเลยโดนราคาพิเศษ ผมไม่รู้จะขอโทษเพื่อนต่างชาติแทนไอ้พวกเหี้ยพวกนั้นยังไงดี ทำไมเราต้องขอโทษในความผิดที่เราไม่ได้ทำด้วยวะ ผมมาคิดอีกที มันก็ไม่แน่เหมือนกัน ถ้าผมไปคนเดียวก็อาจเจอราคานั้นก็ได้ หน้าผมมันไม่ค่อยเหมือนคนไทยด้วย ยิ่งไม่พูดแล้วเดินกับคนต่างชาติแทบมองไม่ออกเลยทีเดียว ผมมันพลาดเองที่ไม่ค่อยได้เล่นดูของที่นั่น ทำให้ไม่ค่อยทราบราคาของ เลยโดนตีหัวอย่างแรง ถึงแม้จะไม่ใช่กระเป๋าผมฉีก แต่เป็นหน้ากูนี่แหละที่ฉีก


กรณีล่าสุดไหว้พระพรหมเอราวัณ คิดว่าหลายๆ คนที่เคยไปไหว้พระพรหมคงเคยเจอมาแล้ว มีอย่างที่ไหนพูดมาได้ว่า "เอาไปไหว้ก่อนค่อยจ่ายเงิน" ดีที่เพื่อนผมมันเน้นว่าเท่าไหร่ ผมเลยตัดปัญหาขี้เกียจพูดมากตามประสาคนขี้รำคาญ เลยบอกเพื่อนไปว่า "ไม่จำเป็นต้องซื้อดอกไม้ธูปเทียนก็ได้ ของแบบนี้สำคัญที่สุดคือใจของเรา" นึกไม่ถึงจากการที่ผมพูดตัดปัญหา เพราะไม่อยากเสียเวลาจะส่งผลดี ดียังไงเหรอ? ถ้าผมยังพยายามเป็นล่ามถามเรื่องราคาดอกไม้อาจเจอกรณีดอกไม้ทองเทพเจ้า ราคา 8,000.- บาท ก็ได้ ในห้อง Blueplanet ก็มีพูดเรื่องนี้ น่าแปลกที่ตำรวจก็ทำอะไรพวกห่านี่ไม่ได้ และอย่าคิดว่าจะมีแค่ที่พระพรหมเอราวัณแห่งเดียว บริเวณพระบรมรูปทรงม้า หรือที่อื่นๆ ก็มี

พวกมารศาสนาหากินกับความเชื่อของคน พวกนี้มันมีเยอะ ทั้งที่ทำงานใกล้สวรรค์แต่กลับทำตัวเยี่ยงเดนนรก น่าแปลกใจที่สวรรค์ไม่ลงโทษคนเหล่านี้ แต่ผมเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม วันหนึ่งเค้าจะต้องเสียใจกับสิ่งที่เค้าทำ ผมก็ได้แต่หวังว่าเค้าคงจะสำนึกผิดได้ในเร็ววัน ก่อนที่มันจะสายเกินไป


ที่พูดมาทั้งหมด ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจเมืองไทย ผมขอยืนยันว่าผมยังรักเมืองไทย ชอบเมืองไทย ไม่ต้องไล่ให้ผมไปอยู่ประเทศมอนเตเนโX หรือด่าว่าผมเป็นพวกขายชาติ ผมเพียงแต่รู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมของกาฝากที่แฝงตัวในธุรกิจนี้ พวกมันคิดเอาแต่ได้ โดยไม่สนต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจท่องเที่ยวไทย ลองคิดดูว่าขนาดคนไทยแม่งยังเล่นขนาดนี้ ถ้าเป็นคนต่างชาติ มันจะเล่นขนาดไหน แล้วแบบนี้ต่อไปใครมันจะอยากมาเที่ยวเมืองไทย เรามีชื่อเสียมามากแล้ว ยังต้องการเพิ่มเติมชื่อเสียเข้าไปอีกรึเปล่าล่ะ?

เราจะเอาชื่อเสียแบบประเทศจีนมั้ย? ที่หนังสือท่องเที่ยวของทุกประเทศลงข้อมูลว่า ต้องต่อราคาเหลือแค่ 10% โจรเยอะ หลอกลวงเยอะ คนจีนนิสัยแย่ หรือเราจะมีชื่อเสียแบบประเทศคู่แข่งอย่างประเทศเวียดนาม ว่าแม่งโกงหน้าด้านสัดๆ ขนาดมีป้ายราคา ของเหมือนกันกับที่คนเวียดนามซื้อแต่แม่งคิดราคาไม่เท่ากัน ทั้งที่จ่ายเงินพร้อมๆ กัน พอเราท้วงติงก็ทำท่าไม่พอใจแล้วลดราคาเท่าคนของมัน เราอยากจะมีชื่อเหี้ยๆ แบบนั้นมั้ย? หนังสือท่องเที่ยวของญี่ปุ่นก็มีลงเตือนความเหี้ยๆ ของพวกแม่งไว้เยอะ หรือว่ามันยังเหี้ยไม่พอ เราควรจะเพิ่มความเหี้ยของเราให้ชนะประเทศจีนใช่หรือไม่? รู้มั้ยว่ากูโคตรอายเลยเวลาเพื่อนต่างชาติมาถามเรื่องพวกนี้ หรือผมต้องมองโลกในแง่บวก คือ การกระทำของคนพวกนี้เป็นการฝึกให้หน้าด้านขึ้น มิน่าตามข่าวเราถึงได้เจอแต่พวกหน้าด้านเต็มไปหมด


ทิ้งท้ายประเด็นต่อยอด "เวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศ พวกมันก็ฟันเราเหมือนกัน" ถ้าคิดแบบนั้นต้องย้อนถามว่าแล้วเรารู้สึกดีมั้ย? ที่โดนมันฟัน? เรารู้สึกว่าแม่งเหี้ยมั้ยที่ฟันเรา แล้วเราจำเป็นต้องเหี้ยเหมือนพวกแม่งมั้ย? คนอื่นเหี้ยเราไม่จำเป็นต้องเหี้ยเหมือนเค้าหรอก ที่สำคัญจะเหี้ยผมไม่ว่า มันห้ามไม่ได้เพราะมันเป็นสันดานของมนุษย์ แต่ควรจะมีขอบเขต อย่าให้มันมากเกินไป ถ้าคิดแต่ว่าทีใครทีมัน เรามันก็เหี้ยไม่ต่างจากพวกแม่งหรอก


ด้วยความเคารพ


Create Date : 26 สิงหาคม 2553
Last Update : 26 สิงหาคม 2553 13:52:43 น. 38 comments
Counter : 1414 Pageviews.

 
ที่ควรพูดและไม่ควรพูด ก็ได้พูดไปหมดแล้ว ต่อไปก็ตาพวกคุณล่ะ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:12:44:42 น.  

 
อ่านแล้วก็โดนมาเหมือนกัน บางทีไปเที่ยว เหมารถเช่าเรือต่อรองราคากันเสร็จ มันมาเห็นทีหลังว่ามีคนต่างชาติด้วย ขอคิดเงินเพิ่มอีกซะงั้น หัวเสียไปตามๆกัน พวกโรงแรมนี่ ตามที่เล่ามาก็เจอบ่อย บางโรงแรมที่ดีก็มี แต่น้อยมาก เหนื่อยใจค่ะ


โดย: nompiaw.kongnoo วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:12:47:56 น.  

 
อ่านแล้วพยักหน้าคล้อยตาม...
คนแบบนี้มานมีอยู่จิง...


โดย: natto (natto-kita ) วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:13:07:17 น.  

 
ปฏิเสธไม่ลงครับ ทำไงได้ ผมจัดให้คนไทยอยู่พวกเดียวกับเกาหลี เวียดนาม อินเดีย และอื่น ๆ เพราะผมเองผมก็รู้สึกว่าโดยเนื้อแท้ของคนไทยจริง ๆ แล้วก็ขี้โกง ไว้ใจไม่ได้เหมือนชาติข้างต้นที่กล่าวมา

ทุกวันนี้เวลามีเด็กจะไปเรียนออสเตรเลีย เด็กมักจะถามว่ามีอะไรต้องระวังเป็นพิเศษรึเปล่า ผมจะบอกเลยว่า คนไทยในต่างแดนนี่แหละ ระวังให้ดี ๆ


โดย: The Queenslander วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:14:45:25 น.  

 
ในหมู่คนดี ย่อมมีคนเลว เช่นกัน ในหมุ่คนเลว ก็ต้องมีคนดี // กลุ่มคนขี่สองล้อ โมโตไรเด้อ MRD แว๊ะมาทักทาย


โดย: หมอกันขโมย วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:15:12:10 น.  

 
สิทธิ.. มักไม่เท่าเทียมกันเสมอ แย่เลยค่ะ


โดย: maesnake วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:15:24:35 น.  

 
ไม่ต้องเป็นต่างชาติหรอกคะ คนไทยด้วยกันแต่แต่งตัวต่างกันแบบผู้ดีกับชาวบ้าน มันยังเลือกบริการผู้ดีก่อนเลย ทั้งๆที่เรามาก่อน
สวัสดีคะ


โดย: ขนุนสุก วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:16:46:03 น.  

 
nompiaw.kongnoo - ถ้ามักเป็นเรตต่างชาติแล้วบอกกันล่วงหน้าอย่างค่าตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างๆ ผมว่ามันยังพอเข้าใจกันได้ แต่แบบที่เล่ามาให้ฟังก็ต้องบอกว่าน่าเกลียดครับ

natto - มีอยู่จริงครับ แต่ผมอยากให้คนเหล่านี้โดนกำจัดออกไป เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่คิดจะเข้ามาดูแลบ้างหรือ?

The Queenslander - ผมไม่อยากจะออกความเห็นเรื่องคนไทยในต่างแดนให้มากนัก เดี๋ยวจะเคืองกันเปล่าๆ แต่ที่คุณพูดมาเป็นเรื่องจริงครับ

หมอกันขโมย - ก็ได้แต่หวังว่าคนไม่ดีเหล่านั้นจะสำนึกได้ในเร็ววันก่อนที่มันจะสายเกินไป

maesnake - ใช่ครับ แย่มากๆ เลย คนไทยน่าสงสาร ไปยุโรป ฝรั่งมันก็ไม่เห็นหัว อยู่เมืองไทย คนไทยก็ไม่เห็นหัวเหมือนกัน

ขนุนสุก - น่าอนาจใจจริงๆ ว่ามั้ยที่เค้ามองคนกันแค่นี้


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:16:56:58 น.  

 
พี่ก๋าอยู่ในวงการท่องเที่ยวนะครับ
สิ่งที่น้องต่อเขียน
มันโคตรจะทำลายวงการท่องเที่ยวเลยครับ
ทำลายแบบย่อยยับและยั่งยืนซะด้วย

พี่ก๋าประกาศมาโดยตลอดว่า
ร้านค้ามีค่าน้ำ หรือค่าคอมให้ไกด์

แต่ของที่ขายก็ต้องมีคุณภาพที่ดีด้วย
แล้วก็ไม่ไ่ด้บวกราคาเกินควร

ค่าน้ำไกด์ ไมไ่ด้ต่างอะไรกับค่าคอมของคนขายประกัน
ไม่ต่างอะไรกับค่าคอมมิชชั่นของเซลล์ทั้งหลาย

หรือจะตอบแบบตรงๆก็ไม่ต่างอะไรกับค่ามุบมิบโกงบ้านโกงเมืองของนักการเมืองครับ


แต่การหลอกลวงบวกราคานี่เป็นอะไรที่แย่มากและเลวร้ายมากครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:17:47:02 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณต่อ.. เมคาดว่าจะยากส์สำหรับเมเหมือนกันค่ะ ไอ้ระหว่างมื้อเนี่ยะ!! ขาดไม่ได้เลย แหะๆๆ


โดย: maesnake วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:17:48:18 น.  

 
พี่ก๋า - ถ้าที่ผมเขียนทำให้พี่ไม่สบายใจก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ


ไม่รู้ความเห็นของพี่ก๋าหมายถึงพฤติกรรมของคนที่ผมเขียนถึง หรือหมายถึงตัวบทความ ว่าทำลายการท่องเที่ยวแบบย่อยยับและยั่งยืน

ถ้าหมายถึงพฤติกรรมของคนที่ผมเขียนด่า ผมก็ต้องตอบว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ผมอยากให้คนไทยไม่ตีหัวคนไทยด้วยกัน และอย่าตีหัวคนต่างชาติจนเกินงามก็เท่านั้น (ผมคาดว่าที่พี่ก๋าอยากจะพูด น่าจะหมายถึงข้อนี้)

แต่ถ้าหมายตัวบทความ คงต้องคุยกันยาวนิดนึง เพราะเรื่องระวังคนไทยตีหัวคนต่างชาติ ไม่ใช่ผมนึกจะเขียนก็เขียนขึ้นมา จุดนี้มันมีอยู่ในนิตยสารแนะนำประเทศไทยของญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ดีที่พี่ก๋าอยู่ในวงท่องเที่ยว แบบนี้คุยกันง่ายหน่อย พี่ก๋าน่าจะทราบนะครับว่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ถ้าเค้าถูกใจแล้วล่ะก็ เค้าจะเป็นกลุ่มคนที่มีความจงรักภักดีต่อสินค้าสูงมาก กลับมาเที่ยวทุกปี ใช้จ่ายหนัก ประมาณนั้น

การที่เค้าโดนต้มแบบหน้าด้านๆ ทั้งที่มีป้ายราคาเขียนไว้ว่า 20.- บาท แต่คนขายบอกว่า 40.- บาท ทั้งที่เค้ามั่นใจว่า 20.- บาท (ก็ราคามันอยู่ตรงหน้านี่) และคิดว่ากำลังโดนต้ม จนเดินมาหาผมแล้วให้ผมซื้อให้แทน แค่น้ำอ้อยป้ายก็อยู่ตรงหน้าเขียนว่า 20.- บาท แต่เพราะความโลภ เลยบอก 40.- บาท คำว่า "น้ำอ้อย 20.-" หมายถึงอะไร? ไม่ผมก็คนขายล่ะ คงต้องกลับไปเรียนภาษาไทยชั้น ป.1 ใหม่ ตอนนี้ประเทศไทยยกระดับความขี้โกงได้เกือบๆ จะเท่าเวียดนามแล้ว ก็ต้องลุ้นกันต่อไป และหวังว่าเราจะไม่ชนะเวียดนามในเรื่องนี้

เงิน 20.- บาท สำหรับเค้ามันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายเลย แต่ที่มีค่าคือ "จิตใจ" ถ้าสิ่งนี้มันเสียไปแล้วมันยากที่จะกู้กลับคืนมา

เรื่องค่าน้ำชาค่าน้ำมันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีก็แปลกแล้ว แต่การบวกราคา 100% ผมว่ามันอุบาทว์เกินไป บวก 50% ก็เยอะแล้ว นี่จะเอาเท่าตัว ทั้งป้ายก็เขียนอยู่ว่าน้ำอ้อย ด้านล่างเป็นราคาก็ยังจะโกงเค้าอีก

นิตยสารท่องเที่ยวไทยของญี่ปุ่นที่ผมพูดถึง เป็นนิตยสารราคา 900.- กว่าเยน ซึ่งจัดได้ว่าถูกมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพของเค้า เอาเป็นว่าทุกคนซื้อมาอ่านเล่นฆ่าเวลาได้เหมือนเราซื้อหนังสือการ์ตูนบ้านเราประมาณ 3 เล่มน่ะ อีกทั้งคุณภาพและเนื้อหา ยังจัดได้ว่าทันสมัย ข้อมูลเยอะ ละเอียด และที่สำคัญอัพเดทข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

นี่ยังไม่นับรวมหนังสือไกด์บุ๊คของเค้านะ ขนาดแค่นิตยสารท่องเที่ยวธรรมดา มันยังเขียนละเอียดได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นหนังสือไกด์บุ๊คจะละเอียดขนาดไหน เชื่อเค้าเลยจริงๆ

พี่ก๋าน่าจะจินตนาการออกแล้วนะครับว่า เรื่องเสียๆ ที่คนญี่ปุ่นเคยเจอจนเขียนลงนิตยสารท่องเที่ยวบ้านเค้า และเค้ามาเจอด้วยตัวเค้าเองมันจะส่งผลอย่างไรกับประเทศของเรา


เอาแค่ญี่ปุ่นชาติเดียวพอ เพราะแค่นี้ก็เสียหายมากพอแล้ว ขืนพูดถึงชาติอื่นด้วย เดี๋ยวผมจะกลายเป็นพวกขายชาติไป


maesnake - ถ้าทำได้น้ำหนักลดแน่นอนไม่เชื่อลองดู


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:20:13:06 น.  

 
น้าก็อยากจะเขียน ไม่มีความเห็น...ก็นะ

เคยไปเที่ยววัดพระแก้ว...ข้างหน้าจะมีคนขายร่มกระดาษ ขายโปสการ์ด เค้าปรี่เข้าไปหาชาวต่างชาติ ยืนดูอยู่ห่างๆ ซักพัก ดูท่าเค้าไม่อยากได้นะ เห็นทำมือทำไม้ประมาณว่าจะเข้าไปข้างใน (วัดพระแก้ว) ไม่เอา...แต่คนขายก็ไม่เลิกรา...ซักพัก
ฝรั่งเลยซื้อร่มมา...

เคยเอามาุคุยกับพี่สาว (เค้าทำงานโรงแรม) ว่าเรารู้สึกไม่ดีเลย ทำไมเหมือนเรายัดเยียดของขายให้เค้า...พี่บอกว่า...ไม่เป็นไรหรอก เค้ามาเที่ยวบ้านเรา เค้าก็มีข้อมูลอยู่บ้าง ว่าจะเจออะไรบ้าง (คงคล้ายๆ กับที่ไกด์บุ๊คของญี่ปุ่นเขียนไว้มั้ง) ดูแล้วก็...เฮ้อ...

สุขาไฮเทค...น้าอัพแล้วนะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:20:30:00 น.  

 
เฮ้อ !!!!

นี่แหละครับ..มองในมุมคนเที่ยว เคนถูกบังคับกินด๋วยเตี๋นวชามละ 80 บาทที่เพิงข้างทางเกาะเสม็ด..ทั้งที่คิดว่าราคาไม่น่าเกิน 40 เต็มที่แล้ว...ค่าข้ามทะเลมา

เคยขับรถ..เร็ว รึเปล่าไม่รู้.. ก็ปกติ เหมือนเคย
ตำรวจดั้งด่านบนทางด่วน..รอดักรถยาวเป็นกิโล เถียง ๆๆๆๆ เจอคำตอบขอค่าน้ำร้อนน้ำชา...รีบ ๆ ไม่งั้นเอาใบสั่งขับไปจอดข้างทางรอคิว

ดูมันทำ....ผมมีเงินในกระเป่า 300 ให้มันไปตูทำไงฟ่ะ..

ใบสั่งก็ใบสั่ง...ไม่จ่าย ไม่เห็นเป็นไร..ใบขับขี่บอกไม่มี..ทะเบียนก้เพิ่งต่อได้...


เคย เคย เคย....เจออะไรแบบมัดมือชก...

แย่ครับ...เซ็ง....

ใครช่วยได้บ้าง..จัดการที..

ช่วยกันส่งต่อนายก. แก้ปัญหาให้หน่อยได้ไหม!!!



โดย: CEO นิ้วก้อย วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:23:52:26 น.  

 


ทุกๆที่ ย่อม มีคนเลว และดี ปนกันครับ

เดี๋ยวนี้ฝรั่งเขาฉลาดครับ


รู้ว่าอะไรที่ถูก อะไรควร และอะไรที่ไม่ไดี


ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกฎแห่งกรรม

ครับ ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน


ที่เที่ยวและถูกและคุ่มค่ามีเยอะแยะครับ ประเทศไทย




โดย: ethic&philosophy วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:0:03:32 น.  

 
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

จะแวะมาบอกว่า ...

ผมไปรับรางวัลในงาน thailand bloga.wards 2010 มาแล้วครับ ตามไปชมภาพบรรยากาศกันได้ที่

ขอบพระคุณทุกกำลังใจที่โหวตให้แก่ผม ... Thailand Blog.Awards 2010

ขอบคุณมาก ๆ ครับที่ไปช่วยกดโหวตให้ผม จนกระทั่งผมได้รับรางวัลนี้ครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:3:27:43 น.  

 
น้องต่อพูดเรื่องจริงครับ
ใครมาต่อว่าก็แย่แล้ว....

พี่ก๋าเข้าใจในประเด็นเดียวกับที่น้องต่อเขียนไว้นี่ล่ะครับ

ที่ร้านพี่ก๋าลูกค้าหลักคือ ญี่ปุ่นครับ
ลูกค้าญี่ปุ่นจ่ายหนักกล้าซื้อ
แต่เราต้องจริงใจและซื่อสัตย์กับเค้าครับ

14 ปีที่ทำร้านมา
ลูกค้าญี่ปุ่นของพี่ก๋าไม่มีเปลี่ยนมือสักบริษัทเดียว
เพราะเราจริงใจกับลูกค้าและตรงไปตรงมา

แต่ตัวอย่างอย่างเรื่องการหลอกขายของเกินราคานี่ล่ะ
ที่ำให้เค้าไม่ประทับใจบ้านเรา

แล้วหน่วยงานที่จะควบคุมดูแลก็ไม่มีคุณภาพเอาซะเลย

ชอบแต่งานประชาสัมพันธ์

ลูกค้าญี่ปุ่นเล่าให้พี่ก๋าฟังว่า

ประเทศไทยเรานะ
ไม่ต้องทำอะไรหรอก
นายกไม่ต้องบินไปเชิญคนญี่ปุ่นมาเที่ยวด้วย

แค่ทำบ้านเมืองให้สงบ
ไม่หลอกลวงเค้า เค้าก็มาเที่ยวบ้านเราแล้วครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:8:06:39 น.  

 
แค่นึกถึงเรื่องพวกนี้ก็เพลียแล้วล่ะครับ


20 บาท --> 40 บาท !!?


ชาวต่างชาติ (คนทั่วโลกแหละ) เขาก็อ่านเลขอารบิกออกนะ
ไม่เขียนเลขไทยหรือตัวหนังสือว่า "ยี่สิบบาทถ้วน" ไปเลยล่ะ


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:13:14:34 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณต่อ..แวะมาทักทายยามบ่ายค่ะ


โดย: nootikky วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:13:34:36 น.  

 
สายหมอกและก้อนเมฆ - ตามไปดูแล้วครับหรูมากๆ

CEO นิ้วก้อย - ผมเป็นผู้ใช้บริการดังนั้นไม่แปลกที่ผมจะมองในมุมนักท่องเที่ยว กลับกันถ้าผมเป็นผู้ให้บริการผมจะไม่ทำชั่วๆ แบบที่ผมด่าแน่ เรื่องตำรวจจับตำรวจกร่างพูดจาหมาๆ ผมก็เจอ เพื่อนมันโทรศัพท์ไปหาพ่อมัน (พอดีรู้จักตำรวจผู้ใหญ่) ยืนโทรศัพท์ให้ มันก็กระชากโทรศัพท์ไป ตะโกน ฮาโหล เสียงดังเหมือนคนหาเรื่อง พอคุยด้วยพักนึงเท่านั้นแหละ เงียบกริบ ครับๆๆ พูดจาไพเราะขึ้นมาเชียว

ethic&philosophy - ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ ผมก็เชื่อตามกฎแห่งกรรม ถึงแม้ Group Blog นี้จะเขียนไม่เยอะ แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าผมไม่เคยเขียนแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องค้างคืนเลย เดี๋ยวนี้ผมเน้นเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ มากกว่า หรือไม่ก็เที่ยววัด

อาคุงกล่อง - ยินดีด้วยสำหรับรางวัลครับ

พี่ก๋า - ตามนั้นเลยครับ อย่างที่พี่ก๋าพูดไว้เลย จะว่าไปลูกค้าญี่ปุ่นเป็นประเภทเรื่องมากเหมือนกัน แต่ผมมองว่ามันก็เป็นสิทธิ์ของเค้า เป็นต้นว่า ถ้าสั่งเส้นเล็กน้ำ ก็ต้องได้เส้นเล็กน้ำ ถ้าทำเส้นใหญ่น้ำมา เค้าไม่กิน ต้องตามที่เค้าสั่งเท่านั้น ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่จะหยวนๆ หรือผมควรจะพูดว่า คนไทยต่างหากที่ไม่รู้จักรักษาสิทธิ์

จริงๆ ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่น่าโมโห มีร้านนึงที่สวนจัตุจักร (อีกแล้ว) ผมพาเพื่อนเข้าไปดู ซึ่งเพื่อนก็อยากได้สินค้าในร้านนี้แล้วล่ะ แต่เค้าไม่ต้องการตัวที่โชว์เพราะมันเลอะ ผมก็ถามคนขายให้ว่ามีตัวใหม่มั้ย เอามาให้เค้าเลือกหลายๆ อันหน่อย อันนี้มันเลอะ คนขายทำท่าทางไม่พอใจอย่างมาก พูดเหมือนบ่นๆ "จะเลือกไปทำไม" "มันก็เลอะๆ แบบนี้ทุกอันแหละ" "ของทำมือจะเอาอะไรมาก" "เลอะแค่นี้เช็ดๆ ก็สะอาดแล้ว" ผมบอกเพื่อนให้ออกจากร้านไปร้านอื่น ถ้าขนาดพาลูกค้ามาถึงร้านแบบนี้อีกทั้งลูกค้าติดใจสินค้าคุณแล้ว แค่ต้องการสินค้าที่ดูสมบูรณ์สูงสุดแล้วยังโง่ไม่นำเสนอก็อย่าขายมันเลยดีกว่า ผมพาไปร้านอื่น

ผมดูนิตยสารท่องเที่ยวของเค้า ผมกล้าพูดได้เลยว่า สินค้าตัวไหนถ้าได้ลงหนังสือของเค้าแล้ว ความเป็นไปได้ที่คนญี่ปุ่นจะซื้อกลับประเทศมีสูงมากครับ เพราะเค้าเที่ยวตามหนังสือ กินตามหนังสือ รวมไปถึงซื้อของตามหนังสือ ผมพาไปกินหอยแครง ซึ่งไม่มีในหนังสือ เค้ายังบ่นเลยว่า ของอร่อยแบบนี้ทำไมไม่มีลงในหนังสือ


ทุเรียนกวน ป่วนรัก - เหตุการณืนี้ผมเข้าใจว่า คนขายน่าจะอ้างว่า 20.- บาทคือสินค้าตัวอื่น เนื่องจากคนต่างชาติอ่านภาษาไทยไม่ออก อีกทั้งยังมีสินค้าอื่นๆ วางใกล้ๆ กัน สินค้าที่คุณถามราคา 40.- บาท น่าจะเป็นแบบนี้

nootikky - สวัสดีครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:16:58:14 น.  

 
ใช่เลยครับน้องต่อ
คนญี่ปุ่นเชื่อคู่มือท่องเที่ยวของเค้ามาก
ขนาดราคาตุ๊กๆ
เ้ขายังบอกว่าในหนังสือบอกว่าราคา 20 บาท
พี่ก๋าบอกว่า
ผมเองนั่งเองยังต้องเสีย 100 นึงเลยครับ 555





หวยเมืองจีนถูกมา
รวยน้อยกว่าหวยไทยอีกเหรอครับ
พี่ก๋าไม่มีข้อมูลเลย

รู้แต่ว่าพนักงานร้านพี่ก๋า
แทงหวยงวดนึงรวมกันสองสามหมื่นครับ
ตอนนี้พนักงานพี่ก๋าจนลงๆ
แต่เจ้สมือกำลังสร้างบ้านใหม่
รวมถึงซื้อรถกระบะคันใหม่แล้วครับ 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:17:42:56 น.  

 
แวะมาเล่าอีกเรื่องครับ..

วันนี้เย็นเจอแม่ค้าขายกับข้าวใจดีครับแถมผลไม้ให้ชาวต่างชาติ....

ยังพอมีคนไทยใจดีครับ.


โดย: CEO นิ้วก้อย วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:1:01:49 น.  

 
หวัดดียามเช้าครับน้องต่อ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:8:02:38 น.  

 
สวัสดีครับคุณต่อ ช่วงนี้กำลังปวดหัวกะเจ้าปลวกบุกบ้าน
เลยไม่ค่อยได้เข้าบล็อคไปทักใครเท่าไรเลย
มาเจอเรื่องคุณต่อนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นความจริงครับ


โดย: ter_pt วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:10:54:30 น.  

 
มาส่งเทียบเชิญให้ไปฟังเพลง และอ่านกลอนย้อนอดีตที่บ้านครับ

วันนี้นำเสนอเพลง...


ลมลวง



แต่งไว้เมื่อสามสิบปีก่อนครับ...



โดย: ลุงแว่น วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:10:58:26 น.  

 
เดะมาค่ะคุณต่อ
ไม่ทราบว่าอัพบล๊อกแย๊ว
อิอิ

แป๊บบบนึงค่ะ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:13:23:17 น.  

 
คุณต่อเขียนถูกใจเลยค่ะ เดี๋ยวนี้ต่างชาติไม่โง่แล้วนะคะ ซื้อครั้งเดียวจบแล้วยังไปบอกต่อเพื่อนๆ เค้าด้วย

นอกจากหลอกตีหัวฝรั่งแล้วบางคนยังตีหัวคนไทยด้วยกันก็มีค่ะ มันเจ็บกระดองใจนะเนี่ย ยิ่งช่วงเทศกาลเนี่ยโกบโกยกันเพลินเชียวค่ะตามแหล่งท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยเฉพาะราคาอาหารเนี่ยสุดโต่งจริง

ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมคนไทย (ที่รวย) ส่วนมากถึงบินเที่ยวเมืองนอกกันเป็นว่าเล่น เพราะการบริการมันคนละเรื่องกันนี่เอง


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:15:46:00 น.  

 
พี่ก๋า - ก็อาจเป็นไปได้ว่าหนังสือที่คนญี่ปุ่นถือเล่มนั้นไม่มีการอัพเดทข้อมูล แต่ส่วนมากที่มผมเห็นเค้าอัพกันประมาณ 2 ปีครั้ง ฉบับปี 07-08, 09-10 แบบนี้เลย (จำไม่ค่อยได้แล้ว) ประมาณนี้แหละ เรื่องหวยของเมืองจีนสรุปสั้นๆ รางวัลที่ 1 แค่รางวัลเดียวที่เงินเยอะ ที่เหลือเงินน้อยครับ โอกาสถูกก็ต่ำกว่าของไทย แต่ของเค้าค่อนข้างหลากหลาย หวยขูดก็มี 2.- หยวนเอง สำหรับหวยซื้อที่ไปรษณีย์จะสะดวกสุดครับ

CEO นิ้วก้อย - จริงๆ ผมไม่ได้หวังขนาดให้แม่ค้าทำอย่างนั้นหรอกครับ แค่ว่าไม่ตีหัวคนไทย ไม่ตีหัวต่างชาติมากจนเกินไปก็พอใจแล้ว

ter_pt - จัดการกับปลวกก่อนดีกว่าครับ ต้องรีบจัดการหน่อยไม่งั้นลามไปทั่วจะแย่

ลุงแว่น - เดี๋ยวจะตามไปฟังครับ

ณ ปลายฉัตร - ครับ

ส้มแช่อิ่ม - อาจเป็นเพราะเทคโนโลยีด้วยมั้งครับ เดี๋ยวนี้มีอินเทอร์เนตจะหาข้อมูลก็สะดวก คนที่เจอเรื่องไม่ดีก็เขียนเก็บไว้เป็นข้อมูล คนที่มาเที่ยวก็เลยรู้ข้อมูล ที่น่าเจ็บใจคือ คนไทยตีหัวคนไทยด้วยกันเอง แล้วใครจะช่วยเหลือไทย คนไทยที่ฐานะไม่ร่ำรวย เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศก็เยอะนะครับ เพียงแต่เค้าต้องทำการบ้านเตรียมข้อมูลเยอะหน่อยก็เท่านั้นเอง อีกทั้งไปเที่ยวเมืองนอก มันเอามาโม้กับเพื่อนได้สนุกปากกว่าด้วย ดังนั้นถ้าเที่ยวเมืองไทยแพงกว่าต่างประเทศ เค้าบินไปต่างประเทศกันหมดครับ

จะว่าไปเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่รู้จักเค้าก็พูดคล้ายๆ แบบนั้น ถ้าเที่ยวที่ญี่ปุ่นแพงกว่าเที่ยวต่างประเทศ เค้าก็บินไปเที่ยวต่างประเทศ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:17:15:23 น.  

 
พี่ก๋าผ่านขั้นตอนการอาฆาตพยาบาทมาแล้วเหมือนกันครับ 555

แต่พอเราให้อภัยเขาได้
ยกมอืไหว้เขาได้

พี่ก๋าคิดว่าวันนั้นเป็นวันนึง
ที่รู้สึกโล่งใจ
ศัตรูของเราก็ยิ่งระแวงเลย 5555

กลายเป็นว่าเราให้อภัยเขาได้
เราก็ให้อภัยตัวเองไปด้วยเช่นกัน




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:18:16:40 น.  

 
คนไทยขี้โกงอะ

เพื่อนบ้านก็ไม่มีใครคบเราแล้ว

แต่เราไม่รู้ตัวหรอก ยังคงคลั่งชาติไม่ลืมหูลืมตา

ตั้งแต่เห็นคนไทยฆ่ากันเองได้หน้าตาเฉย

เรื่องขี้โกงกะต่างชาติแบบนี้ มันขี้ปะติ๋วไปเลย



โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:18:44:42 น.  

 
อะจึ๋ยยย คุณต่อของขึ้นสุดๆ เลยนะเนี่ยนะ ดูจากอารมณ์ที่ตัวหนังสือแล้วเห็นภาพความหัวเสียชัดเจนแจ่มแจ๋วเลยค่ะ อิอิ

เรื่องการบริการของร้านค้าหรือโรงแรมเนี่ยเคยได้ยินเพื่อนที่ทำโรงแรมเค้าบอกว่า ฝรั่งหรือคนต่างชาติให้ทิปดีกว่าคนไทย (โอ้ว แม่จ้าววว) คนไทยพวกเด็กบริการจะไม่ค่อยสนใจ มันเป็นเช่นนี้แล..ส่วนกรณีอื่น ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่โดยรวมฉัตรก็คิดเอาเองว่า "เงิน" ตัวเดียวที่เป็นพระเจ้าอ่านะ ฮี่ๆๆๆ

ร้านตามตลาดนัดตลาดใหญ่ที่ขายของเอาเงินจากลูกค้าที่เป็นคนต่างชาติเนีย เค้าต้องฟันหัวแบะเป็นทำมะชาติ(ที่ชั่วร้าย)อยู่แล้วค่ะ จนเดี๋ยวนี้ ไกด์เราบางคนดีๆ จะสอนนักท่องเที่ยวเลยว่า ให้ต่อราคา 50%+10 บาท อิอิ (มีบวก 10 บาทด้วยแหละไม่รุว่าจะบวกไปทะไม = =)

เรื่องของไหว้ตามอนุสาวรีย์นี่หนักเข้าไปใหญ่ค่ะ
เหมือนมาเฟียกลายๆ ไม่ไหวจะเคลียร์ ตำรวจยังไม่เคลียร์เลยง่ะ ...ฉัตรเลี่ยงเลยแหละค่ะ ไม่จำเป็น(จำเป็นก็ไม่ไปนะ)ไม่ไปไหว้ที่ลานพระรูป ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ศาลพระพรหม ใครคิดยังไงไม่รู้ แต่ฉัตรว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ ไหว้ที่ไหน ให้ใจไปถึงท่านก็น่าจะพอ คนเราจะหมดทุกข์จะมีโชค อยู่ที่ไหนมันก็ต้องเป็นไปตามครรลองของมัน แต่คนที่ไปไหว้ที่นั้นเลยแล้วได้ผล อันนี้ก็นานาจิตตังค่ะ

มาเพ้อซะยาวเหยียด..ไปดีฝ่า

อ่านไปอ่านมาทีแรก เห็นสี่เท้าวิ่งพรวดพราดก็ขำคุณต่อทีนึง
เห็นอารมณ์แบบนี้แล้วนึกภาพตามค่ะ เอิ๊กๆๆๆ







โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:3:21:45 น.  

 
สวัสดีครับน้องต่อ

คนบางคนยังมีชีวิตอยู่
แต่เหมือนว่าได้ตายไปแล้ว
บางคนตายไปแล้ว
แต่เสมือนว่ายังมีชีวิตอยู่

ประโยคนี้ก็ทำให้พี่ก๋านึกถึงตัวท่านนี่ล่ะครับ


ส่วนใหญ่พี่ก๋าตามงานท่านหลูซิ่นไม่มาก
อ่านจากหนังสือรวมคำคมและเกี็ดประวัตินักเขียนจีนเสียมากกว่าครับ
ซึ่งในเมืองไทยก็มีการแปลประวัติของท่านเพียงสั้นๆเท่านั้น

พี่ก๋าก็รู้เพียงแต่ว่าท่านเป็นผู้บุกเบิกการเขียนเรื่องสั้นในประเทศจีน
ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียน กวีที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของประเทศจีน

คำคมของท่านคมจริงครับ

มีอีกหลายประโยคที่พี่ก๋าชอบและคัดเก็บไว้ในสมุดจนบันทึกคำคมของตัวเองด้วย





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:5:36:23 น.  

 
พี่ก๋าชอบเมืองจีนตรงที่เค้ามีสวนสาธารณะกลางแจ้ง
ไว้ออกกำลังกายมากเหลือเกิน
ในเมืองใหญ่ๆบางเมือง
มีแทบจะทุกสี่แยกเลยนะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:18:49:59 น.  

 
เมืองไทยเมืองยิ้มครับ

ยิ้มแบบแสยะ

ฮ่าๆ

เห็นกระทู้ในห้องบลูเขาก็บ่นกันบ่อยครับ

ต้องไปประจานในนั้น ให้ร้อนตูดเล่นกันหน่อย

ฮี่ๆ


โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:20:02:59 น.  

 
เห็นด้วยทุกประการเลยครับคุณต่อ

ผมเคยขึ้นตุ๊กๆ นั่งไปไม่ถึงกิโล ควักแบงค์ 20 มา เขาบอกผม 50 บาท ได้แต่งงๆแต่ก็จ่ายเขาไปครับ T__T



โดย: mario_ta วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:0:18:59 น.  

 
หวัดดีครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:7:49:03 น.  

 
พี่ก๋า - มันน่ากลัวยิ่งกว่าแค้นแบบไม่มองหน้าอีกนะครับถ้าไม่ไหว้กัน แล้วอยู่ๆ วันหนึ่งอีกฝ่ายมาไหว้เรา เป็นใครก็ต้องรู้สึกระแวงเป็นธรรมดา

พี่อัยย์ - การเมืองมากไปหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องจริง เรามีรัฐมนตรีกระทรวงXXX ที่ทำหน้าที่ประสานงานเชื่อมความสัมพันธ์กับต่างชาติไม่ได้ ซ้ำยังก่อปัญหาและหาเรื่องกับเพื่อนบ้านอีก ดังนั้นผมเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่

ปรากฎการณ์คลั่งชาติแบบไม่ลืมหูลืมตามีแต่จะนำพาซึ่งความหายนะมาสู่ประเทศ ตั้งแต่เราเห็นคนไทยฆ่ากันเองเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องที่ผมพูดมันก็เล็กไปในทันที ผมจากแผ่นดินนี้ไป 2 ปีเต็ม กลับมาก็ไม่เห็นอะไรจะดีขึ้น ซ้ำยังแย่ลงอีกต่างหาก ไม่ใช่แค่การเมืองแต่หมายถึง ทุกเรื่องเลย

ณ ปลายฉัตร - ไม่ถึงกับหัวเสียหรอกครับ เพียงแต่บางครั้งการเขียนด้วยคำหยาบมันสื่อความรู้สึกได้ดีกว่า

เคยไปเดินดูของแถวสีลม ด้วยความที่หน้าตาไม่ค่อยเหมือนคนไทย แค่หยิบสินค้าแม่ค้าใช้ภาษาประกิดบอกราคาตีหัวทันที ทั้งที่ยังไม่ได้ถามราคาอะไรเลย ขายแพงผมก็ไม่ซื้อก็เท่านั้นเอง แต่ถ้าหน้าตาเป็นคนไทยแท้ๆ หยิบแล้วไม่ซื้อโดนด่าเช็ดเลยทีเดียว

กะว่าก๋า - มีโอกาสนำบรรยากาศสาธารณะกลางแจ้งของเค้ามาให้ชมครับ

เป็ดสวรรค์ - เหมือนยิ้มสยองเลย ตามเนื้อแท้คนไทยไม่ใช่คนที่ชอบหาเรื่องใคร แต่แน่นอนถ้าจะหาเรื่องก็จะอาฆาตก็แบบสุดๆ เช่นกัน อย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆ ในหลายๆ สถานที่

mario_ta - ผมไม่กล้านั่งรถเทพเจ้าหรอกครับ ผมคิดถึงในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งต่ำ ราคาสูง มารยาทในการบริการที่ไม่แน่ไม่นอน ทำให้ไม่อยากจะนั่ง


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:11:34:32 น.  

 
เห็นด้วยอย่างแรงค่ะ เพราะตัวnoiเองอยู่ภูเก็ตเห็นพฤติกรรมแบบนี้เยอะมาก ตอนที่มาอยู่ครั้งแรกก็รับไม่ค่อยได้เหมือนกันค่ะ พอเราปฎิบัติเท่าเทียมกันก็โดนเพื่อนด่าอีกว่าทำไมไม่บวกราคาต่างชาติเยอะๆ...เฮ้อ....พูดแล้วขอถอนหายใจหน่อยค่ะ.....แต่เท่าี่ที่สังเกตอย่างร้านขายของส่วนใหญ่คนที่จะมาทำให้ประเทศเราเสียชื่อบางทีก็เป็นคนต่างด้าวที่มาหากินในเมืองไทยค่ะ นักท่องเที่ยวที่เค้าโดนหลอกเค้าก็เหมารวมว่าคนไทยโกงเค้า พูดกับเค้าไม่ดี บางทีก็ไล่เค้าอย่างกับหมูกับหมา ทั้งที่ตัวเองก็มาอาศัยหากินในเมืองไทย จะถูกจับเมื่อไหร่ก็ไม่รู้....ทำให้บ้านเราไม่น่ามาเที่ยว อีกหน่อยเค้าก็ไปที่อื่นกันหมด.......(เดี๋ยวยาวค่ะ..แค่นี้ก่อนดีกว่า....เอาเป็นว่าเราก็อย่าไปทำแบบนั้นกับนักท่องเที่ยวนะคะ ต้อนรับเค้าให้เท่าเทียมกัน โดนส่วนตัวอยากให้คนไทยมาเที่ยวเยอะๆด้วยซ้ำ เดี๋ยวจะเปิดเกสเฮ้าส์แล้วค่ะ อยากให้คนไทยมาพักแบบราคาไม่แพง...และได้ความประทับใจกลับไป)ก็หวังว่าจะได้เป็นส่วนเล็กๆที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของภูเก็ตให้เป็นอีกที่หนึ่งที่ใครๆก็อยากมาเที่ยว ทั้งต่างชาติและคนไทยด้วยค่ะ.....


โดย: noinanai วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:10:01:50 น.  

 
ตรงประเด็นมากครับ

ผมไม่รู้ว่าคนพวกนี้เค้าคิดยังไง

มันเหมือนเราตักน้ำไปกิน ยืนริมตลิ่งอาจตักน้ำได้น้อยหน่อย แต่เราก็ตักไปกินได้เรื่อยๆ

แต่นี่อยากตักน้ำเยอะๆ เอาตีนจุ่มเดินลงไปตักน้ำ มันก็ตักได้ครั้งเดียวแหละ กว่าจะหายขุ่นก็อีกนาน



โดย: bedub วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:15:34:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

toor36
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 80 คน [?]




"สิ่งที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิด ย่อมไร้ซึ่งความหมาย"

-:-UPDATE-:-
23 เม.ย. 2567 - ตะพาบคลานแล้วววววว
/人◕ ‿‿ ◕人\


บล็อกก่อนบล็อกนี้
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 52
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349 "วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ"
ผลประกอบการในช่วง 1,000 Blog ที่ผ่านมา


ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348 "ฉุกละหุก"
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 347 "ติดเป็นนิสัย"
ไดอารี่ได้ศัพท์ Ep.21 ซื้อของขวัญหารกัน

个 เก้อไม่ได้ใช้ได้ทุกที่
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 346 "เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก"
ดื่มเหล้า เมาสุรา
[Nendoroid Story] ต้อนรับปีมังกร กับเมดมังกร
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 345 "ไฟแรง"
คำถามที่ยากจะตอบ

- โลกของ Bloggang XVII - ความเปลี่ยนแปลง
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 344 "ไม่เคยพอ"
- ควบคุม 控制
- อาจารย์ในการ์ตูน IV
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 343 "ไม่กิน"
- [รีวิวสั้น] การ์ตูนที่ได้ดูในช่วงระหว่างปี 2023 (1)



ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมาล้าง ดาบนี้คืนสนอง


天生我材必有用,千金散尽还复来

เริ่มนับ 08/07/2010
Free counters!



BNCt9S.jpeg
Itsuki-Y0701.jpegMatikanetannhauser-Y0702.jpeg
Komichi-Y0603.jpegKancolle-Y0602.jpeg
Shiori-Y0601.jpegBorn-Y0502.jpeg
Miku-chin-Y0501.jpegKobayashi-Y0401.jpeg
Miyo-Y301.jpegMiku-Magic-Y0201.jpeg








New Comments
Friends' blogs
[Add toor36's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.