เลือดออกอาจไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่คิด เลือดออกเป็นสัญญาณบอกโรคบางอย่างได้เช่นกัน
อาการเลือดออกมีสาเหตุจากอะไร และควรให้การดูแลอย่างไร อาการเลือดออกไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แต่เป็นสัญญาณที่เตือนว่าอาจเกิดจากสาเหตุที่ร้ายแรง (เช่น มะเร็ง หรือโรคเลือดบางอย่าง) ก็ได้ แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป อาจเป็นเพียงสาเหตุพื้น ๆ เช่น เลือดกำเดาไหลก็อาจเกิดจากติ่งเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง หรืออาการถ่ายอุจจาระดำอาจเกิดจากแผลในกระเพาะอาหารที่มีเลือดออกซึม ๆ ก็ได้
เลือดออก-สัญญาณอันตราย
อาการเลือดออกตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อาจมีสาเหตุร้ายแรง เช่น
 เลือดกำเดาไหล หากพบในผู้ใหญ่ มีอาการออกมากและนาน อาจเกิดจากมะเร็งในโพรงจมูก หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว
เลือดออกตามไรฟัน อาจเกิดจากมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือโรคเลือดชนิดร้าย
ไอเป็นเลือด อาจเกิดจากวัณโรคปอด หรือมะเร็งปอด
อาเจียนเป็นเลือดแดงสดหรือถ่ายอุจจาระสีดำ เป็นอาการแสดงของภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร อาจเกิดจากแผลในกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งกระเพาะอาหาร
ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดแดงสด หากออกมาก และนาน หรือพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี อาจเกิดจากมะเร็งลำไส้ใหญ่
ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด อาจเกิดจากมะเร็งไตหรือมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
มีเลือดออกที่หัวนม อาจเกิดจากมะเร็งเต้านม
เลือดออกทางช่องคลอด ที่ผิดไปจากเลือดประจำเดือน อาจเกิดจากมะเร็งโพรงมดลูก หรือมะเร็งปากมดลูก
มีจุดแดงหรือจ้ำเขียวที่ผิวหนัง เป็นอาการแสดงของภาวะเลือดออกได้ผิวหนัง อาจเกิดจากไข้เลือดออก โรคไขกระดูกฝ่อ หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว
 กรณีตัวอย่างที่ 1 เลือดกำเดาไหลเสียชีวิตภายใน 10 วัน
ชายอายุ 60 ปี มีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ ชอบออกกำลังกายเป็นประจำ และดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี อยู่มาวันหนึ่งจู่ ๆ ก็มีเลือดกำเดาไหล โดยไม่ได้ถูกแรงกระแทกที่จมูก และก็ไม่ได้เกิดจากการสั่งน้ำมูก เขาพยายามห้ามเลือดด้วยตัวเองอย่างไรก็ไม่ได้ผล ผ่านไปนาน 2 ชั่วโมง จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล แพทย์ใช้ไฟฟ้าจี้ก็ไม่ได้ผล เมื่อทำการตรวจเลือดก็พบว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่เคราะห์ร้าย มีเลือดออกในสมองแทรกซ้อน แม้ว่าแพทย์จะทำการผ่าตัดสมอง ก็ไม่อาจจะช่วยได้ คนไข้เสียชีวิตภายใน 10 วันหลังมีเลือดกำเดาไหล 
กรณีตัวอย่างที่ 2 คิดว่าเป็นริดสีดวง
ชายอายุ 55 ปี เคยมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสดเป็นครั้งคราว แต่ละครั้งเป็นเพียง 2-3 วันก็ทุเลาไป เริ่มมีอาการตั้งแต่อายุ 30 ปี แพทย์เคยวินิจฉัยว่าเป็นริดสีดวงทวาร แต่ 1 เดือนมานี้ คนไข้มีอาการถ่ายเป็นเลือดสดทุกวัน เรื้อรังนานกว่าที่เคย คนไข้ก็นึกว่าเป็นโรคริดสีดวงอย่างเคย จนกระทั่งรู้สึกอ่อนเพลีย หน้าตาซีดเซียว จึงได้ไปปรึกษาแพทย์
จากการตรวจอย่างละเอียด แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้ทำการผ่าตัดและให้เคมีบำบัด
กรณีตัวอย่างที่ 3 เลือดออกจากช่องคลอด นึกว่าเป็นอาการของหญิงวัยทอง
หญิงอายุ 50 ปี ประจำเดือนขาดหายไป 6 เดือน ต่อมามีอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอดทุกวันอยู่นาน 4 เดือน นึกว่าเป็นอาการวัยทอง ต่อมามีเลือดออกทางช่องคลอดมากขึ้น จึงได้ไปปรึกษาแพทย์ แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 2 ได้ให้การรักษาด้วยการผ่าตัดและรังสีบำบัด คนไข้รับการดูแลรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง โชคดีมีชีวิตอยู่ต่อมาอีก 20 กว่าปี
กรณีตัวอย่างที่ 4 นึกว่าลูกซน เป็นเพียงรอยฟกช้ำ
เด็กหญิงอายุ 10 ขวบ มีอาการตัวร้อนนาน 3-4 วัน มารดาพาไปรักษาที่คลินิก แพทย์บอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ คนใช้กินยาที่แพทย์สั่งนาน 5 วัน อาการไข้ไม่ทุเลา มารดาจึงพาไปโรงพยาบาล
แพทย์สังเกตเห็นมีจ้ำเขียวตรงหัวเข่าขวา มารดาบอกว่าน่าจะเป็นรอยฟกช้ำ เพราะลูกเป็นเด็กที่ซนมาก คงวิ่งกระแทกถูกอะไรมา แพทย์ตรวจพบรอยจ้ำเขียวอีกจุดหนึ่งที่บริเวณหน้าท้อง และตรวจพบว่ามีภาวะซีดและม้ามโต จึงส่งตรวจพิเศษเพิ่มเติม ก็พบว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
เคราะห์ร้ายที่เด็กเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดร้าย ถึงแม้แพทย์จะพยายามให้การดูแลรักษาอย่างเต็มที่ แต่ก็มีชีวิตอยู่ได้เพียง 3 เดือนหลังวินิจฉัย
หากพบว่ามีอาการเลือดออกที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบแพทย์ ถ้าพบว่าเป็นโรคจะได้ทำการรักษา ก่อนที่โรคจะลุกลามมากจนไม่สามารถรักษาได้
ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะมาเยี่ยม
หวังให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง ฝากเยี่ยมชมและให้กำลังใจที่ FB ด้วยนะคะ
 กดตรงนี้
| 
เลือดกำเดาไหล หากพบในผู้ใหญ่ มีอาการออกมากและนาน อาจเกิดจากมะเร็งในโพรงจมูก หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว 
กดตรงนี้
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
สวัสดีวันคริสมาสต์อีฟ สวยๆคะ