วิธีทำความสะอาดฝักบัว ให้ถอดหัวฝักบัวออกแล้วใช้แปรงสีฟันขัดคราบสกปรกออก โดยใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานขัดออกหรือจะใช้มะนาวผ่าครึ่งซีกถูก่อนแปรง สำหรับฝักบัวที่ถอดไม่ได้ให้นำถุงพลาสติกใส่น้ำส้มสายชูพอประมาณ เอาฝักบัวใส่ไว้ในถุงน้ำส้มสายชูแล้วผูกถุงให้แน่นทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำฝักบัวออกมาล้างน้ำสะอาดก็จะได้ฝักบัวที่สะอาดและน้ำไหลได้สะดวกด้วย
- ใยขัดตัวหรือฟองน้ำ ใช้ถูตัวเป็นสิ่งที่ใช้ชำระความสกปรกตามซอกต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งต้องเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างดี โดยเฉพาะเชื้อราที่แบ่งตัวได้ดีในที่ที่มีความชื้นสูงโดยสปอร์ของมันจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ปฏิกิริยาภูมิแพ้ โรคหอบหืด ปอดอักเสบก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อตา จมูก หลอดลม ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน
ดังนั้นควรเลือกฟองน้ำถูตัวที่ไม่หนามาก ซักฟองน้ำถูตัวด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้งหลังจากใช้แล้วควรแขวนตากให้แห้ง
- ผ้าม่านพลาสติก นักจุลชีววิทยายืนยันแล้วว่าคราบสีดำที่เกาะอยู่กับผ้าม่านพลาสติกในห้องน้ำนั้น คือแบคทีเรียชนิดหนึ่งละอองจากการเรอ ไอ และจามของคนจะช่วยทำให้แบคทีเรียชนิดนี้เติบโต
วิธีป้องกัน ควรถอดผ้าม่านพลาสติกไปซักอาทิตย์ละครั้ง หรือย่างน้อยเดือนละ 2ครั้ง
- ผ้าเช็ดมือ-เท้า มีความเปียกชื้นตลอดเวลาจึงกลายเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อรา
วิธีป้องกัน ควรแขวนผ้าเช็ดมือ-เท้าหรือวางไว้ที่ลมผ่านหรือนำมาตากให้แห้งหลังใช้งานทุกครั้ง
- แปรงสีฟัน เป็นของส่วนตัวที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษเพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในช่องปากซึ่งในห้องน้ำมีเชื้อโรคหลายชนิด หนึ่งในเชื้อโรคนั้นคือ เชื้อโรต้าไวรัสและเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสที่ติดโดยการสัมผัสผ่านทางจมูกและปาก
วิธีป้องกัน ต้องเก็บแปรงสีฟันไว้ในกล่องมีรูระบายอากาศ เพื่อป้องกันความเปียกชื้นและล้างแปรงสีฟันทุกครั้งก่อนแปรงฟัน
- อ่างล้างหน้า เป็นจุดที่อุดมไปด้วยเชื้อโรคนานาชนิด โดยเฉพาะแบคทีเรีย ที่ชอบความเปียกชื้นเป็นพิเศษ อาจมีเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบอาศัยอยู่ด้วย
วิธีป้องกัน ทำความสะอาดอ่างล้างหน้าอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1ครั้ง
- ชักโครก เป็นเครื่องรองรับของเสียจากร่างกาย การทำธุระส่วนตัวแต่ละครั้งมีเชื้อโรคแพร่กระจาย อีกทั้งฝารองนั่งก็มีเชื้อโรคต่าง ๆ แฝงอยู่ไม่น้อย
วิธีป้องกัน คือใช้น้ำหมักชีวภาพเทลงชักโครกทุกอาทิตย์ และทำความสะอาดชักโครกด้วยน้ำยาทำความสะอาดทุกวัน
ห้องน้ำเป็นห้องที่มีอากาศไม่ถ่ายเทและเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นยอด ถึงแม้ว่าเชื้อโรคเหล่านี้จะไม่สามารถทำอันตรายผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงได้ แต่เรามั่นใจมากน้อยเพียงใดว่าวันหนึ่งเราจะไม่เจ็บป่วยและเชื้อโรคเหล่านี้เข้ามาเล่นงานเรา ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือต้องรู้เท่าทันจุดที่มีเชื้อโรคหมักหมมหรือก่อตัวเพื่อหมั่นทำความสะอาดแหล่งเพาะเชื้อโรคนั้นเป็นประจำป้องกันไม่ให้เชื้อโรคมีโอกาสเข้าสู่ร่างกายทำให้เจ็บป่วยได้
1. ควรเลือกห้องสุขาที่โถชักโครกดูสะอาดที่สุด
2. หลีกเลี่ยงฝารองนั่งที่เปียกชื้น และห้องที่ยังเห็นสิ่งปฏิกูลของผู้อื่นค้างอยู่
3. เตรียมบริเวณที่จะนั่ง ควรใช้แอลกอฮอล์แบบพกติดตัวฉีด แล้วใช้กระดาษชำระเช็ดบริเวณฝารองนั่งให้สะอาด หรือใช้กระดาษชำระรองก่อนนั่ง หรือใช้วิธีย่อขาเหมือนนั่งยองยกก้นให้อยู่เหนือโถรองนั่งประมาณ 6 นิ้ว แต่ถ้ายากในการทรงตัวควรเอามือยันกับผนังห้องสุขาเพื่อช่วยพยุงตัวไว้
4. ควรถอดกางเกงลงมาแค่ระหว่างเข่ากับเท้า ไม่ให้ลงมากองที่พื้นห้องน้ำ
5. เมื่อเสร็จธุระแล้วควรปิดฝาก่อนกดชักโครก เพื่อลดการฟุ้งกระจายของเชื้อโรคในอากาศ ที่อาจเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้
6.หลังเข้าห้องน้ำควรล้างมือทุกครั้งตามหลักวิธีการล้างมือ แล้วเช็ดมือให้แห้งด้วยกระดาษที่เตรียมไว้
7. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องเป่ามือแบบร้อน เพราะจะทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนพื้นห้องน้ำเจริญเติบโตได้ดีมาก
8. ก่อนออกจากห้องน้ำควรใช้กระดาษเช็ดมือหมุนลูกบิดประตู
การใช้กระดาษชำระจับลูกบิด กลอนประตู ฝาชักโครกอาจฟังดูวุ่นวาย ถ้าไม่สะดวกอาจใช้วิธีล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังออกจากห้องสุขา
ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะมาเยี่ยม
หวังให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง
เห็นที่ต้องให้ความสำคัญกับความสะอาดของห้องส้วมให้มากขึ้น
เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเองค่ะ
ขอบคุณสำหรับสาระดีๆที่นำมาฝากค่ะ