รถจอดตากแดด ระวังสารพิษ
เตือนภัยให้รู้ถึงอันตรายจากการเปิดเครื่องปรับอากาศบนรถยนต์
เมืองไทยเป็นเมืองร้อน การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ส่วนใหญ่หรือส่วนมากใช้รถยนต์ในการเดินทาง การที่จะไม่ให้รถยนต์โดนแสงแดดนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
การจอดรถตากแดด สำหรับผู้ใช้รถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เวลาที่ขึ้นรถยนต์ อย่าเปิดแอร์ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรถยนต์ของเราจอดรถตากแดดไว้ เราควรจะเปิดหน้าต่างหลังจากขึ้นรถ และอย่าเปิดแอร์ทันที ควรปล่อยให้อากาศได้ระบายซักพักแล้วค่อยเปิดแอร์จะปลอดภัยที่สุด
ได้มีการทำการวิจัยมาแล้วว่า การที่มีแดดส่องเข้ามาโดนบริเวณแผงหน้าปัด บริเวณคอนโซลเบาะที่นั่ง และน้ำหอมปรับอากาศ จะสร้างสารเบนซีนที่เป็นสารก่อมะเร็งขึ้นได้ (เมื่อขึ้นรถไปแล้วจะได้กลิ่นเหมือนพลาสติกจางๆในรถ)
สำหรับสารดังกล่าวนอกจากเป็นสาเหตุให้เป็นมะเร็งแล้ว สารชนิดนี้ยังเป็นพิษต่อกระดูก ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และลดจำนวนเม็ดเลือดขาว ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เป็นโรคลูคีเมียได้อีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้น สำหรับคนที่ตั้งครรภ์อยู่สารดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์มารดาได้ อย่างไรก็ดี อันตรายของสารเบนซีน ระดับของสารเบนซีนที่ยอมรับได้ในอาคาร หรือในรถ คือ 50 มิลลิกรัมต่อตารางฟุต แต่ระดับของสารเบนซีนใน รถที่จอดอยู่ในร่มมีค่าอยู่ที่ 400 800 มิลลิกรัม หากรถจอดอยู่กลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 60 องศาฟาร์เรนไฮท์ ( 15.5 องศาเซลเซียส ) ระดับของสารเบนซีนจะสูงขึ้นถึง 2000 -4000 มิลลิกรัม คือสูงกว่าระดับที่ยอมรับได้ถึง40เท่าเลยทีเดียว!!! ดังนั้น คนที่อยู่ในรถจะหายใจเอาสารพิษที่สูงเกินมาตรฐานเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เวลาที่เราจะใช้รถยนต์ที่จอดทิ้งไว้นานๆ จึงควรเปิดประตู หน้าต่างรถไว้สักระยะเพื่อให้อากาศที่อยู่ในตัวรถออกมาก่อนจะเข้าไปนั่ง สารพิษที่ร่างกายของเราไม่สามารถขับออกได้โดยง่ายจะได้ลดปริมาณลง ภาพประกอบระบบแอร์คอนดิชั่นในรถยนต์
แล้วจะทำอย่างไรได้บ้าง ? การเปิดกระจกเพื่อระบายอากาศเมื่อขึ้นรถนั้น เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากภายในห้องโดยสารไม่ใช้ระบบปิดร้อยเปอร์เซนต์ จังหวะที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์โดยเฉพาะในที่อับ ไอเสียจะรั่วไหลเข้ามาในห้องโดยสารได้
รวมถึงเวลาที่จอดรถเติมน้ำมัน หรือแกส ต้องดับเครื่องและแง้มกระจกไว้เล็กน้อย เมื่อเติมเสร็จและออกจากปั๊ม ยังไม่ต้องรีบปิดกระจก ควรวิ่งไปสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อให้อากาศในห้องโดยสารเกิดการหมุนเวียน ตอนที่เราจอดเติมเชื้อเพลิงนั้น ไอน้ำมัน หรือแกสอาจจะเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารได้ง่าย โดยเฉพาะรถที่มีการซีลไม่ดีนัก การเปิดกระจกเพื่อระบายไอพิษเหล่านั้นออกไปจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ อีกกรณีที่ควรเปิดกระจก คือ เวลาจอดตากแดด ภายในห้องโดยสารจะร้อนมากๆ เมื่อขึ้นรถแล้วควรเปิดกระจกและขับไปสักพัก เพื่อให้อากาศภายในห้องโดยสารมีการหมุนเวียน เป็นการลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสารลง เมื่อเปิดหน้าต่างแล้วจะทำให้เย็นถึงอุณหภูมิที่ต้องการเร็วกว่า การทำแบบนี้ยังช่วยให้ระบบปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนัก สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยลง
แต่หลายคนมักเปิดแอร์ทันทีเมื่อขึ้นรถ แล้วปรับอุณหภูมิไปต่ำสุด ซึ่งคิดว่าจะเย็นเร็วขึ้น แต่ในความเป็นจริงมันเย็นช้ากว่าการเปิดกระจก คิดง่ายๆ ว่าเวลาเราจอดรถตากแดด ถ้าอากาศข้างนอกอุณหภูมิ 37-38 องศาเซลเซียส ภายในห้องโดยสารอุณหภูมิจะสูงเป็นเท่าตัว ระหว่างเราเปิดกระจกให้อากาศถ่ายเท ให้อุณภูมิภายในห้องโดยสาร เท่ากับอากาศภายนอก ระบบปรับอากาศก็จะเริ่มทำงานที่อุณหภูมิภายในราวๆ 37-38 องศาเซลเซียสเช่นกัน ไม่นานนักก็จะปรับมาที่เราตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศไว้ ในกรณีที่เราขึ้นรถแล้วเปิดเครื่องปรับอากาศทันที แม้เราจะเร่งความเย็นให้ต่ำสุด แต่อุณหภูมิขณะนั้นสูงกว่าอากาศข้างนอกเป็นเท่าตัว เครื่องปรับอากาศจะทำงานหนักมาก กว่าที่จะลดอุณหภูมิลงมาเท่าอากาศภายนอก กว่าห้องโดยสารจะเริ่มเย็นคงอีกนาน แตกต่างจากการเปิดกระจกเพื่อปรับอุณหภูมิภายในก่อน นั่นจะส่งผลให้ระบบปรับอากาศทำงานน้อยลง แต่เย็นเร็วขึ้น
นอกจากนี้ ความร้อนขณะรถจอดทิ้งเอาไว้ น้ำขวดที่วางกองกับพื้นตากแดด จะทำให้วัสดุพลาสติคปลดปล่อยสาร Dioxin เข้ามาปนเปื้อนในน้ำดื่ม Dioxin จัดเป็นสารก่อมะเร็งอย่างหนึ่ง
Create Date : 18 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 18 พฤษภาคม 2557 20:34:44 น. |
|
70 comments
|
Counter : 4550 Pageviews. |
|
|
แล้วพรุ่งนี้มาใหม่นะครับ