http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 

Wonderful Town : อดีตกาลและเคหะสถาน

โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง



ในช่วงปีสองปีนี้เราจะได้ดูภาพยนตร์สองเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สึนามิ เรื่องแรกก็คือ Wonderful Town ของอาทิตย์ อัสสรัตน์ ส่วนอีกเรื่องก็คือ หนังของทรนง ศรีเชื้อ

โดยปกติแล้วหนังที่ว่าด้วยเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ แบบแรกคือ หนังที่เล่าถึงเหตุการณ์นั้นโดยตรง ถ้าเทียบตัวอย่างจากเหตุการณ์เครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรด ก็เช่น World Trade Center หรือ United 93 ซึ่งหนังของคุณทรนงจัดอยู่ในประเภทนี้ (อย่างไรก็ดีทราบช่าวมาว่าหนังจะพูดถึงเหตุการณ์ในอนาคต คือ ปี 2022)

แบบที่สองคือ หนังที่กล่าวถึงสภาพหลังจากเหตุการณ์นั้น เช่น 25th Hour ของสไปค์ ลี ที่เล่าถึงชายคนหนึ่ง (เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน) ที่เดินท่องไปทั่วนิวยอร์ค ก่อนที่ตัวเองจะต้องเข้าไปอยู่คุก หนังประเภทนี้มักให้ไม่กล่าวถึงโศกนาฎกรรมนั้นๆ อย่างตรงไปตรงมา แต่อาจบอกเล่าเพียงเล็กน้อย อย่างในหนังเรื่องนี้ก็มีฉากที่ตัวละครมองผ่านหน้าต่างห้องไปยังบริเวณ Ground Zero (ซากปรักหักพังของตึกเวิลด์เทรด)

Wonderful Town มีลักษณะคล้ายกับ 25th Hour หนังใช้เหตุการณ์สึนามิเป็นฉากหลังของเรื่องอย่างบางๆ ตัวละครในเรื่องพูดถึงเหตุการณ์อย่างผ่านๆ และไม่ใช้น้ำเสียงที่ฟูมฟาย ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว แต่ก็ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ



เนื้อเรื่องหลักของหนังเล่าถึง ต้น (ศุภสิทธ์ แก่นเสน) สถาปนิกหนุ่มจากกรุงเทพที่เข้ามาดูแลไซต์ก่อสร้างรีสอร์ทที่ตะกั่วป่า จ.พังงา เขาเลือกพักในโรงแรมโทรมๆ แห่งหนึ่ง และได้พบกับเจ้าของโรงแรมที่ชื่อ นา (อัญชลี สายสุนทร) ทั้งสองพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนว่า วิทย์ (ดล แย้มบุญยิ่ง) น้องชายของนา จะไม่ค่อยพอใจนักต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

Wonderful Town มีโครงสร้างคล้ายหนังยุโรปที่เล่าเรื่องอย่างช้าๆ และเต็มไปด้วยฉากที่ไม่ได้ส่งผลต่อเนื้อเรื่องมากนัก (เช่น กิจวัตรต่างๆ ของนา) หนังใช้นักแสดงสมัครเล่น ซึ่งก็สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี องค์ประกอบที่แข็งแรงของหนังยังอยู่ที่การถ่ายภาพอันสวยงาม และเพลงประกอบจากฝีมือของ Koichi Shimizu และ Zai Kunning

ลักษณะร่วมของหนังหลายๆ เรื่องของอาทิตย์ยังคงปรากฏในหนังยาวเรื่องนี้เช่นเดิม ประการแรกคือ ความสำคัญของ ‘สถานที่’ อาทิตย์ให้สัมภาษณ์ว่าหนังของเขา สถานที่มักมาก่อนเนื้อเรื่องเสมอ เราจึงเห็นความสำคัญของมันในหนังสั้นของเขา เช่น หมู่บ้านใน ‘มอเตอร์ไซต์’, ตึกร้างใน Boy Geniues 2 หรือกระทั่งบ้านของเขาของเองใน ‘705 สุขุมวิท 55’ ส่วนกรณีของ Wonderful Town อาทิตย์บอกว่าเขาคิดเนื้อเรื่องขึ้นมาได้หลังจากเดินทางไปยังตะกั่วป่า

สถานที่ในหนังมีบทบาทค่อนข้างมาก (ก็ขนาดพระเอกยังมีอาชีพเป็นสถาปนิกเลย) ประกอบกับเทคนิคการถ่ายภาพที่ดี ทำให้มันไม่เป็นเพียงฉากหลัง แต่ยังขับเน้นบรรยากาศของเรื่องไปด้วย เช่น ภาพเมืองอันเงียบเหงาบอกเล่าถึงความซบเซาหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ หรือฉากห้องนอนของพระเอกที่ดูอบอุ่นดี แม้จะอยู่ในโรงแรมโทรมๆ ก็ตาม



มีสองฉากสำคัญที่สถานที่แทบจะกลายเป็นพระเอกของหนัง ฉากแรกคือ ตอนที่ต้นเข้าไปสำรวจรีสอร์ทร้างข้างๆ (ที่คนงานบอกว่าผีดุ) ฉากนี้เป็นฉากที่ลึกลับและน่ากลัวเอามากๆ เพราะมันเป็นฉากที่ต้นได้สำรวจถึงบาดแผลและความเจ็บปวดของคนที่นี่ คนที่มาตะกั่วป่าหลังเกิดสึนามิหมาดๆ อาจได้พบเห็นศพนอนเกลื่อนหาด แต่สำหรับคนอย่างต้นที่มาทีหลัง สิ่งที่เขาจะได้เห็นก็คงเป็นซากปรักฟักพังแบบนี้แหละ

อีกฉากหนึ่งคือ ช่วงหลังเหตุการณ์ไคลแม็กซ์ ในตอนนี้หนังจะตัดภาพบ้านเรือน/รีสอร์ท/โรงแรมที่พังทลายให้เราดูต่อๆ กันไปหลายช็อต วิธีการแบบนี้คล้ายกับหนังเรื่อง The Eclipse (1962) ของ มิเกลอันเจลโล แอนโตนิโอนี่ ที่หลังจากพระเอกนางเอกกอดล่ำลากันแล้ว ผู้กำกับก็นำภาพตึกและโรงงานมากมายมาแทรกในหนัง (จนแทบทำให้หนังเปลี่ยนแนวจากหนังดราม่าเป็นหนังไซไฟ)

ในขณะที่แอนโตนิโอนี่ใช้ทัศนียภาพเหล่านั้นทำนาย ‘อนาคต’ ว่าต่อไปผู้คนก็ต้องทนทุกข์กับบ่วงกับดักของทุนนิยมและความศิวิไลซ์ แต่อาทิตย์ใช้ภาพเหล่านั้นเพื่อบอกเล่าถึง ‘อดีต’ โดยนอกจากจะพูดถึงความเจ็บปวดหรือความเสียหายแล้ว เขายังพูดถึงการที่ตัวละครในหนังของเขาจะต้องติดอยู่ในอดีต (หรือบาดแผล) แห่งนี้ด้วย

แท้จริงแล้ว Wonderful Town อาจไม่ใช่เรื่องของ ‘ความรักหลังสึนามิ’ แต่เป็นเรื่องของ ‘ผู้คนที่ติดอยู่ในอดีตของตัวเอง’ มากกว่า ดูได้จากพฤติกรรมหรือคำพูดของตัวละครในเรื่อง เช่น

- เรามักเห็น นา ทำกิจวัตรเดิมๆ ทุกวัน (เปลี่ยนผ้าปูเตียง / เก็บผ้า), เธอพูดว่าตัวเองต้องคิดอยู่ที่นี่ไปไหนไม่ได้ เพราะ “ข้างหนึ่งก็ภูเขา อีกข้างก็ทะเล”

- วิทย์ เป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาล ในฉากหนึ่งเขาพูดกับพี่สาวว่าตัวเองคงดีกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ เขาคงเป็นได้แค่นี้

- หนังมีฉากซ้ำๆ หลายฉาก เช่น อาเจ็กลืมไม้กวาด, ฉากต้นพยายามช่วยนาตากผ้า ฯลฯ



มีเนื้อเรื่องส่วนเดียวเท่านั้นที่พอจะไปข้างหน้าได้ นั่นคือความสัมพันธ์ของต้นกับนา โดยต้นอาจจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับนา แต่เขาก็เป็น ‘คนใหม่’ ที่เข้ามาในชีวิตของเธอด้วย ทั้งสองอาจจะไม่ต้องถึงขั้นหนีออกไปจากเมืองนี้ด้วยกัน เพียงแค่พวกเขาสานสัมพันธ์กันไปเรื่อยๆ ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของทั้งคู่ได้มากแล้ว แต่สุดท้ายต้นก็เลือกจะกลับไปหาอดีตของตัวเองเช่นกัน (เขาโทรหาแฟนเก่า)

วิทย์ยังเป็นตัวละครที่รับไม่ได้อย่างมากกับความเปลี่ยนแปลง เขามองต้นเป็นสิ่งแปลกปลอมในครอบครัว (และอาจจะเมืองทั้งเมือง) นอกจากวิทย์ไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองแล้ว เขายังไม่ต้องการในคนรอบข้าง (นา) เปลี่ยนด้วย เขาต้องการยึดในแบบแผนชีวิตเดิมๆ อย่างแท้จริง

น่าสนใจที่ฉากสำคัญของหนังเกิดขึ้นที่ ‘แม่น้ำ’ ซึ่งไหลไปทางเดียว (ราวกับจะพาบางสิ่งออกไปนอกเมือง) แต่หลังจากนั้นหนังก็มีภาพ ‘ทะเล’ เป็นเวลานาน คิดดูแล้วก็เหมือนเป็นเรื่องตลกร้าย เพราะชีวิตของตัวละครใน Wonderful Town ก็เหมือนทะเล นั่นคือไม่ว่าคลื่นจะซัดมาไกลถึงฝั่งแค่ไหน แต่สุดท้ายคลื่นนั้นก็จะลากลงกลับสู้ท้องน้ำอยู่ดี

ตัวละครของต้นยังสะท้อนลักษณะเด่นประการที่สองในการทำหนังของอาทิตย์ นั่นคือ การมองชนบทด้วยมุมมองของคนเมือง ต้นอาจจะไม่ได้มีท่าทางเป็นคนเมืองอย่างชัดเจน แต่วิธีคิดของเขามันก็ฟ้องอยู่ดี อย่างเช่น ตอนที่นาพูดว่าชาวบ้านเริ่มนินทาเรื่องของเราสองคนแล้วนะ ต้นบอกว่า “ช่างเขาเถอะ เขาก็พูดไปเรื่อยแหละ” แสดงให้เห็นว่าต้นไม่คิดจะทำความเข้าใจถึงวิถีชีวิตหรือระบบของที่นี่สักเท่าไร (ซึ่งเขาก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็น)



ต้นยังเป็นตัวแทนพวกคนกรุงที่มักมีคำพูดยอดฮิตติดปากหลังจากเหตุการณ์สึนามิผ่านไปแล้วว่า “เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง” เขาพูดแบบนี้กับนา และคิดว่าการมาช่วยงานสร้างรีสอร์ทเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่จะทำให้เมืองนี้กลับไปเป็นเหมือนเดิมโดยเร็ววัน ทั้งที่เขาอาจจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลยก็ได้

อย่างที่เห็นว่าสิ่งที่ต้นทำก็ไม่ได้มีอะไรมากนักนอกจากเดินไปมา (เขาพูดออกมาเอง) ไม่มีหลักประกันอะไรว่าโครงการของเขาจะไม่พบจุดจบแบบเดียวกับรีสอร์ทร้างข้างๆ ต้นมาดูแลรีสอร์ทที่นี่เพียงเพื่อจะเห็นมันเสร็จ แล้วก็จะกลับกรุงเทพไป คล้ายกับที่เขาพร้อมจะไปจากนาไปทุกเมื่อ เพื่อกลับไปหาแฟนเก่า

น่าคิดเหมือนกันว่าความฉาบฉวยแบบนี้ ได้เกิดขึ้นกับการบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุนาร์กิส แผ่นดินไหวที่จีน หรือกระทั่งเรื่องของการประท้วงของทิเบต ด้วยหรือเปล่า




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2551
38 comments
Last Update : 28 พฤษภาคม 2551 7:21:07 น.
Counter : 14558 Pageviews.

 

 

โดย: merveillesxx 28 พฤษภาคม 2551 7:23:04 น.  

 

ตามมาอ่านวิจารณ์ครับ ส่วนตัวไปดูมาแล้ว ค่อนข้างชอบบรรยากาศโดยรวม แต่ไม่ชอบบทสรุปของหนัง อะไรจะยึดติดและเลื่อนลอยขนาดนั้น ( หรือเมืองไทยไม่มีกฏหมาย ) ...เอ่อ ลิงค์ที่พ่วงมา เปิดไม่ได้แล้วนะครับ มีเซฟไว้หรือเปล่า อยากอ่านน่ะครับ

 

โดย: joblovenuk 28 พฤษภาคม 2551 8:34:55 น.  

 

Wonderful Town เศร้า
แต่อ่านกระทู้นั้นแล้ว "โคตรเศร้า" + "โคตรเซ็ง"

 

โดย: nanoguy IP: 125.24.114.165 28 พฤษภาคม 2551 10:25:21 น.  

 

อ่านกระทู้นั้นแล้วก็เฮ้อ...อ...อ

ส่วน wonderful town ก็อยากจะเฮ้อ แต่เผอิญยังไม่ได้ดู แหะแหะ

ปล.นัดกินข้าวได้ไม่มีปัญหาใดๆ งดกินตอนเย็นเท่านั้นเอง ตอนเย็นเน้นสุขภาพเว้ย

 

โดย: เสจัง IP: 124.121.164.117 28 พฤษภาคม 2551 10:40:51 น.  

 

มันเป็นหนังที่เซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะตอนที่เขาถามว่าเมื่อคืนหลับสบายไหมตอนนั้นน่ะ นึกออกป่าว ฉากบนสะพานก็สวยงามมาก แต่งงแก๊งมอเตอร์ไซค์นิดหน่อย เอาไว้ถามหลังไมค์ดีกว่า กลัวสปอย ตอนจบมันซึมลึกในอารมณ์ยังไงไม่รู้ แต่รู้สึกดีมากที่ได้ดู แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมดก็เหอะ

 

โดย: pick IP: 58.137.81.212 28 พฤษภาคม 2551 13:19:27 น.  

 

บล็อกที่รอคอยมาแล้ว

อ่านแล้วเห็นด้วยเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการยึดติดกับอดีต

ไม่ค่อยรู้สึกว่าเป็นมุมมองของคนกรุงเข้าไปมองชนบทเท่าไหร่นะ คือไม่ค่อยมีว่า อุ๊ย ธรรมชาติงดงาม ผู้คนใจดี หรืออะไรคล้ายๆ แบบนี้ พี่รู้สึกว่าหนังมันบอกอยู่ตลอดว่า เมืองร้างแห่งนี้มีอะไรซ่อนเร้นอยู่ โดยเฉพาะตอนหลังๆ ของเรื่อง

พี่กลับชอบที่ "ต้น" ไม่ได้ทำท่าทีว่าจะเข้าใจเมืองนี้ หรือผู้คนเมืองนี้ หนังมันนำเสนอแค่ว่าต้นมันมาเมืองนี้เพราะที่ทำงานส่งมา แล้วมาพร้อมกับพกพาอดีต ความรู้สึกหมกมุ่นกับตัวเองและแฟนเก่ามาด้วยซ้ำ ชอบที่ต้นไม่ได้เป็นพระเอกจ๋ามาโปรดคนชนบท หรือมาเพื่อจะช่วยคนต่างจังหวัด แต่มาเพราะทำงาน เผลอๆ อาจจะเป็นเพราะเหงา เลยจีบสาวใต้เข้าไปด้วย ดูต้นเป็นคนธรรมดาดี

ยิ่งอ่านยิ่งไม่เข้าใจประโยคสุดท้ายนะ

ส่วนที่ชอบที่สุดของหนังคือ เหมือนตัวเองได้กลับไปเที่ยวเมืองพังงาอีกครั้ง สมัยเด็กๆ เคยได้ไปพังงาหลายหน เคยได้ไปพักโรงแรมหลักเมืองนี้ด้วย ชอบภูเขาหินปูน ชอบเงาฝนและความครึ้มของเมือง หนังมันถ่ายทอดได้หมดนะ

 

โดย: grappa IP: 58.9.194.174 28 พฤษภาคม 2551 17:36:47 น.  

 

+ เหวอ! พี่เผลอแป๊บเดียว มีหน้าใหม่เฉพาะที่กรุ๊ปหนัง บล็อกน้องต่อ งอกมาตั้ง 8 หน้า!!! บ้าพลังไปป่ะเนี่ย อุๆ เด๋วต้องตามกลับไปไล่เก็บแฮะ

+ ดูเรื่องนี้แล้ว มันเหมือนกับบทกวีที่ต้องใช้ใจและอารมณ์สัมผัส หนังไทยอารมณ์ประมาณนี้ พี่ไม่ค่อยได้ดูอ่า อาร์ตดีอ่ะครับ

 

โดย: บลูยอชท์ 28 พฤษภาคม 2551 18:39:41 น.  

 

โอย.. จะขยันอัพบล็อคไปไหนเนี่ย พี่ว่าช่วงนี้พี่อัพได้อาทิตย์ละครั้งก็เยอะแล้วนะ น้องต่อเล่นอัพที 7-8 หน้าแบบนี้ พี่ดูขี้เกียจไปเลย

พอดีย้อนกลับไปดูหน้าที่กิน BBQ กับน้องเสจัง เลยพบว่าพี่เข้าใจคำถามของน้องต่อผิดจริงๆด้วย เลยขอตอบใหม่ว่าท่าถ่ายรูปแบบนี้ไม่ต้องปรับปรุงหรอกจ้ะ เป็นตัวของตัวเองดีออก อย่าเปลี่ยนเล้ย อึดอัดเปล่าๆ 5555

ขอบคุณน้องนาโนกายที่เข้ามาท้วงติงด้วยนะครับ (หมู่นี้รู้สึกตัวเองโชว์โง่บ่อยเหลือเกิน อายจัง)

 

โดย: แฟนผมตัวดำ 28 พฤษภาคม 2551 22:34:54 น.  

 

อ่านกระทู้บอร์ดฟ้าเดียวกันแล้วจิตตก

 

โดย: โทยะ อากิระ IP: 124.122.204.152 28 พฤษภาคม 2551 23:00:39 น.  

 

รู้สึกว่าเป็นหนัง coming-of-age มากกว่า

ตัวละครทุกตัวขับเคลื่อนด้วย อารมณ์
ต้น - ยังลืมรักเก่าไม่ได้ ก็มาจีบน้องคนใหม่ซะแล้ว (ทำตามอารมณ์)
นา - คนหล่อมาถึงที่ มีหรือจะอดใจไหว (ตามอารมณ์)
วิทย์ น้องชาย - หวงพี่มาก เอาแม่งซะเลย (ตามอารมณ์)

ทุกคนไม่ต่างจากแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่ขับฉวัดเฉวียน กวนเมือง
เด็กพวกนั้นทำตามอารมณ์ และ .. ไร้เหตุผล..
การ รัก และ การทำลายของตัวละครในเรื่องก็มาจากอารมณ์ชั่ววูบทั้งนั้น

สีนามิ ก็มาแบบไร้เหตุผล เกิดขึ้นเพียงชั่ววูบ (เหมือนอารมณ์)
แต่มันทำลายล้างบางสิ่งบางอย่างไปตลอดกาล

 

โดย: visuallyyours IP: 58.8.104.86 28 พฤษภาคม 2551 23:29:45 น.  

 

อ้อ ลืมบอกว่า ตัวละครทุกตัวจะต้องเติบโตไปอีกขั้น แต่เป็นแบบดาร์คๆ น่ะครับ เลยรู้สึกเหมือนหนัง coming of age
เหมือนตัวละครในเรื่องทุกตัวเป็น เด็ก

 

โดย: visuallyyours IP: 58.8.104.86 28 พฤษภาคม 2551 23:31:15 น.  

 

เฮ่อ... กว่าจะอ่านจบ 8 หน้า ปวดตาเลยชั้น

รีวิวของน้องต่ออ่านเพลินดี ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นหนังที่พี่ไม่คิดจะดูเลยก็ตาม แต่ที่สนใจมากๆคือละครเวทีของกลุ่มคุณนพพันธ์ บุญใหญ่ และผองเพื่อน ถ้าจะมีอีกเมื่อไหร่รบกวนน้องต่อสะกิดบอกกันซักนิด จะได้พาเมียมาดู

 

โดย: แฟนผมตัวดำ 28 พฤษภาคม 2551 23:36:32 น.  

 

^
^
ฮาที่บอกว่าจะพาเมียไปดูอ่ะ 5555

ระวังเมียหลงเสน่ห์คุณนพพันธ์นะ อิอิอิ (เห็นมาหลายรายแล้ว)

ที่ visuallyyours พูดเรื่องความเป็นเด็กก็น่าสนใจดี ทำให้นึกถึง น้องชมพู 2 คน ที่โผล่มาท้ายเรื่อง

- - - - - - - - - - - - - - - - - -




อายูมิ แอ๊บแบ๊ว !!??

 

โดย: merveillesxx 29 พฤษภาคม 2551 0:36:57 น.  

 

โทษทีข้างบน

จะบอกว่า
เห็นด้วยกับน้องเมอร์ คุณนพพันธ์ มีแรงดึงดูดบางอย่าง

ตอนแรก--> เฮ้ย...หล่อว่ะ
ตอนสอง--> เฮ้ย...เก่งว่ะ
ตอนสาม--> เฮ้ย...พลังงงานล้นหลามว่ะ
....
ตอนท้ายๆ--> เฮ้ย...เหนื่อยว่ะ (คนอะไรหล่อพลังๆ)

อาการนี้เรียกว่า หญิงชราอ่านรับประทานจนเหนื่อย

 

โดย: นุ้ย (Evil is Live ) 29 พฤษภาคม 2551 11:08:38 น.  

 

หืม... คุณนพพันธ์นี่เร้าใจขนาดนั้นเลยเหรอ...

แต่คงไม่ถึงกับทำให้เมียพี่หลงหรอกมั้ง เพราะถ้าชอบอะไรแบบนั้นเค้าคงไม่เอาพี่แต่แรกแล้วล่ะ 555555

 

โดย: แฟนผมฯ IP: 122.248.16.2 29 พฤษภาคม 2551 12:36:35 น.  

 

โอ้ย...คุณแฟนผมฯ
ตอบได้เชื่อใจและมั่นใจในรสนิยมแฟนมั่กๆ
55555

 

โดย: นุ้ย (Evil is Live ) 29 พฤษภาคม 2551 14:52:35 น.  

 


TANGMO TANGMO TANGMO!!


IMAGE



MAXIM

 

โดย: merveillesxx 29 พฤษภาคม 2551 19:52:02 น.  

 

ยังไม่ได้ไปดูเลย (อีกตามเคย)

 

โดย: renton_renton 29 พฤษภาคม 2551 20:15:12 น.  

 

ชอบบรยากาศครึ่งหลังของเรื่องมากๆ มีกลิ่นทริลเลอร์รุนแรง ไม่มีอะไรน่าไว้วางใจอีกต่อไป นึกถึง The Son ของพี่น้องดาร์เดน
แต่คิดอีกที กลับไม่ชอบที่มันพยายามส่งสัญญาณมากเกินไปหน่อย

อีกอย่างคือ สังเกตไหมว่า นางเอกสวยขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความรักของเธอพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

สงสารนาจับใจเลยครับ เธอจะมีแต่ความทรงจำที่งดงามต่อต้นตลอดไป เธอไม่มีวันรู้ด้วยซ้ำว่าในท้ายที่สุด ต้นตัดสินใจอย่างไรกับเธอ (ถ้าน้องชายของเธอไม่เปิดเผยความจริงเข้าสักวันนะ)

 

โดย: เอกเช้า IP: 124.122.152.46 29 พฤษภาคม 2551 20:40:27 น.  

 

ตอนแรกก็ดูว่าหนังน่ารักดีแฮะ บทสนทนาก็ดูมีอารมณ์ขันดี ตอนพี่ต้น ช่วยนาตากผ้าแล้วหยิบ ชุดชั้นในสีชมพูขึ้นมาแล้วพูดว่าสีเหมือนหน้าคุณเลย น่ารักดี ไอ้เราก็รอเพลงที่พระเอกแต่งจะร้องใหนาฟัง สุดท้าย นาก็ไม่ได้ฟัง เศร้า

 

โดย: หนวดฟู IP: 124.121.185.107 29 พฤษภาคม 2551 23:00:41 น.  

 


Wonderful Town จะอยู่ในโรงถึงวันที่ 11 มิ.ย. นะครับ แล้วตอนนี้สารคดี The Truth Be Told ก็เข้าโรง SFW แล้วด้วย

ป.ล. เซ็งเรื่องจักรภพ

 

โดย: merveillesxx 30 พฤษภาคม 2551 0:56:51 น.  

 

โอ้โห ทั้งเจ้าของกระทู้ และคนตอบกระทู้เข้าใจหนังเรื่องนี้เป๊ะๆ เกือบทั้งหมดอย่างที่ผู้กำกับอยากบอกเลยนะนี่ เก่งจริงๆ แสดงว่าหนังก็ดูเข้าใจง่ายใช่มั้ย แล้วทำไมคนอีกตั้งเยอะเขาบอกดูไม่รู้เรื่องล่ะ ถามจริงๆว่าพล็อตเรื่องมันเชยและน่าเบื่อมั้ย เพราะก็เดาตอนจบได้ใช่มั้ยล่ะ

 

โดย: staff IP: 117.47.61.176 30 พฤษภาคม 2551 1:43:28 น.  

 

อยากดูมากอ่ะเธอ ชั้นเคยไปทำงานที่พังงาประมาณอาทิตย์นึง (ตอนที่ยังอยู่กินกับชาวพม่า) เมืองมันน่ารักมาก โดยเฉพาะตรงเมืองเก่าตะกั่วป่าโคตรพีคเลย ไม่รู้ในหนังจะมีภาพที่อยากเห็นหรือเปล่า

เหมือนสบายดีหลวงพระบาง ชั้นถึงกับรอดูเลยทีเดียว ทั้งที่พล็อตมันก็ดูเชยนะ แต่บังเอิญว่าในสถานที่มันมีความทรงจำ อิอิ

 

โดย: MoOk IP: 124.120.10.171 30 พฤษภาคม 2551 12:21:28 น.  

 

ตอนไปกรุงเทพฯ เราก็ว่าจะไปดู แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดู

มีโอกาสได้ดูตัวอย่างทางช่อง 11 เสียงกีตาร์ของโคอิชิกับไซ ประสานกับภาพได้อย่างน่าทึ่งเหมือนเมื่อครั้งเพลง esplanade เคยทำหน้าที่ของมันในหนังของเจ้ย ต้องยอมรับกันจริง ๆ ว่างานชุดนั้นของโคอิชิฟังเฉย ๆ นี้ชวนหลับเป็นบ้า แต่แค่มันอยู่ในตัวอย่างหนัง เราว่ามันมีพลังอย่างประหลาด

 

โดย: I will see U in the next life. 30 พฤษภาคม 2551 14:36:44 น.  

 

ยังไม่ได้ดูเลยครับ

อยากให้เรื่องนี้กับ the truth be told ฉายคนละเวลา
จะได้ไปวันเดียวดู 2 เรื่อง

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 30 พฤษภาคม 2551 22:01:07 น.  

 


GANGJOR 15 (Nitade Chula's thesis film)

in preferential order

1. Home Video (2008, ญาณิน พงศ์สุวรรณ, A+)

2. ฮะซัน (2008, อรรถพล ปะมะโข, A+)

3. Midnight Rainbow (2008, ปัฏฐา ทองปาน, A)

4. ก่อนนครสลาย (Finale Fantasie) (2008, ธีรพล ปัญญายุทธการ, A-)

5. ธรรมดาสู่สามัญ (2008, กาญจนา เอกสินธ์, A-)

6. เด็กโจ๋ (2008, พาขวัญ สุขสมถิ่น, A-)

7. Deleted scene (2008, ณัฐมน พฤกษานุศักดิ์, B+)

8. Badday (2008, ชัยพฤกษ์ เฉลิมพรพานิช, B+)

9. Chizuru 1,000 paper cranes (2008, นารีรัตน์ บุญธรรม, B+)

10. Together (2008, สุนิดา อ่อนดีสวัสดิ์, B)

11. Sorry...I Love You (ด้วยรักและขอโทษ) (2008, เบญญา ภูวรัชนันท์, B)

12. 8 cm (2008, สภัสสร สันติจิตรุ่งเรือง, B-)

13. ทุกข์ปีที่ 25 ธันวา (2008, วรรษา อัศวศรีพงศ์ธร, B-)

14. ข้างถนน (2008, นัฎฐพล ทิมเมือง, B-)

15. ฝันบ้า กีต้าร์อากาศ (Suck in the air) (2008, ปนายุ คุณวัลลี, B-)

16. Zodiac of life (Photo Exhibition) (2008, สุรชัย แสงสุวรรณ, A)


I may write about them in details soon, if I can.

 

โดย: merveillesxx 31 พฤษภาคม 2551 3:15:16 น.  

 

อันนี้ได้ดูแต่ตัวอย่างกับสัมภาษณ์จากแชแนลวีอะนะ

 

โดย: fonkoon 31 พฤษภาคม 2551 12:48:24 น.  

 

จะรออ่านงานกางจอนะ

ชั้นล็อกไดนะแก ส่งพาสให้ไปทางเอ็มแล้ว ลำบากนิดนึง บอกไว้ก่อน ฮ่าๆ

ปลดล็อกไดเมื่ออารมณ์ดี

 

โดย: เสจัง IP: 124.121.167.142 1 มิถุนายน 2551 0:05:45 น.  

 

ไม่เบื่อกินข้าวจ้ะ

ว่าแต่ ละครเวทีเรื่องไรอ่ะ มันหนุกแหละชั้นว่า แต่แกคงอิ่มมาก ใช่ป่ะๆ

 

โดย: เสจัง IP: 124.121.159.47 1 มิถุนายน 2551 18:24:54 น.  

 

ไปไม่มีชวนเลยย T^T

 

โดย: ^^ IP: 58.9.135.229 1 มิถุนายน 2551 22:42:10 น.  

 

ชอบบรรยากาศเอื่อยๆที่ค่อยเลื่อนไหลไปในหนัง แต่ออกแนวงงๆ จนมาอ่านบล๊อกนี้

ส่วนตั๊วส่วนตัวตอนนั่งดู
ตอนพระเอกโทรหาแฟนเก่า "อ้าวมรึง"
ตอนน้องนางเอกจัดการเฮียซะ "อ้าวมรึง...เออดี"
ตอนมีน้องบัลเล่ต์ออกมาโดดหยองแหยง "เหวอออ...มาไง"

 

โดย: danaya IP: 58.8.49.41 1 มิถุนายน 2551 23:30:16 น.  

 


ใน Bioscope เล่มใหม่ หน้าปก The Dark Knight มีบทวิจารณ์ที่ดีมากเรื่อง Wonderful Town ของคุณไกรวุฒิ ด้วยครับ

ลองอ่านกันดูเน้อ

 

โดย: merveillesxx 3 มิถุนายน 2551 19:32:59 น.  

 

ง่ะ อยากจะไปอยู่ วันนั้นเอ็มวีลูกทุ่งจะไปแล้วนะ
แต่ดันเจอคนเป็นโรคคคค แกร่วเลย

ไว้เจอกันๆๆ

wonderful เราไปดูมาเหมือนกาน..

 

โดย: สุด IP: 58.10.64.54 4 มิถุนายน 2551 19:11:20 น.  

 

This movie was shown in Sydney Film Festival unexpectedly. It was yesterday. Kinda like it- expecially its soundtrack!

I think what happenned to 'Ton' is like the way Tsunami effected victims- dying while sleeping. Na was in the bed happily while the climax was going on-- which is about Ton.

Attractive film.

 

โดย: zoxmok IP: 125.63.172.190 10 มิถุนายน 2551 14:17:54 น.  

 

ขอคอมเมนต์เหมือนที่คอมเมนต์ให้คุณ grappa นะครับเนื่องจากพูดถึงเรื่องเดียวกัน
*****************

ไปดูเรื่องนี้มาแล้วครับ มีโอกาสได้ไป Q&A กับคุณอาทิตย์ ผู้กำกับมาด้วย

ความคิดเห็นส่วนตัวของผมเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ มีดังนี้ครับ

-อารมณ์หนังคล้ายๆ หนังของคุณเจ้ย (อาจจะเพราะมีผู้กำกับภาพ+คนตัดต่อคนเดียวกัน) แต่เป็น"เจ้ยเวอร์ชั่น light" คือ เข้าใจและเข้าถึงง่ายกว่า

-การถ่ายภาพ การตัดต่อ การแสดงของนางเอก บรรยากาศในหนัง และที่สำคัญคือ ดนตรีประกอบ คือ สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่น

-ปกติผมไม่ค่อยเพลงของคุณธีร์ ไชยเดช แต่ยอมรับว่าเพลง"20202" เหมาะกับหนังเรื่องนี้สุดๆ

-ผมชอบช่วงท้ายของหนังมากๆ เพราะมันทำลายความคาดหวังของคนดู (ที่หนังช่วงต้นๆ ปูเอาไว้) เสียจนหมดสิ้น

-หนังเปรียบชีวิตคนเหมือนทะเล คือ มีทั้งช่วงเงียบสงบแต่บางทีอาจแฝงความรุนแรงอยู่ข้างใน คาดเดาไม่ได้ เหมือนตัวละครในเรื่องนี้ที่ทำอะไรตามอารมณ์มากกว่าเหตุผล (จนเป็นการทำร้ายคนอื่นโดยไม่รู้ตัว) และการสูญเสียมักจะจู่โจมเราอย่างรวดเร็วและรุนแรงดั่งคลื่นซึนามิ

-เป็นหนังที่ดูจบใหม่ๆ จะรู้สึกเฉยๆ แต่พอเวลาผ่านไป ภาพในหนังจะยังติดตรึงอยู่ในหัวเรา ทำให้ชอบหนังเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ (ความรู้สึกเหมือนตอนดู Brokeback Mountain)

สรุปแล้ว ชอบครับ

 

โดย: ฟ้าดิน 11 มิถุนายน 2551 5:16:06 น.  

 



//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A6649521/A6649521.html



ความคิดเห็นที่ 1

... เข้ามาอ่านจ๊ะ ( ไปดูมาแล้วครับ )

จากคุณ : joblovenuk - [ 28 พ.ค. 51 08:37:21 ]






ความคิดเห็นที่ 2

...ชอบมากครับ เป็นหนังไทยที่ชอบที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี

ครึ่งเรื่องแรก โรแมนติกแบบสมจริงสมกับท่วงทำนอง ธีร์ ไชยเดช

ครึ่งหลัง ดำดิ่งลงสู่ความหม่นหมองของจิตใจคน เป็นความหลอนเฮี้ยนประมาณท่วงทำนองของ Portishead

ปิดท้ายน่าขนลุก ที่เห็นเด็กๆชุดชมพูวิ่งเล่นสมกับยังเป็น Wonderful town

... แม้จะเคยเห็นอยู่บ่อยๆในสไตล์หนังยุโรป แต่พอดีของไทยๆทำบ้างก็กลมกล่อมลงตัวไม่เลย แถมดูง่ายอีกตางหาก (ชอบมากกว่า อารมณ์นิ่งเนิบใน Invisible wave เพราะรู้สึกมันติดดินเข้าถึงง่ายกว่า)

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 28 พ.ค. 51 10:27:50 ]






ความคิดเห็นที่ 3

เรื่องนี้ ฉายจำกัดโรงใช่ไหมครับ แล้วฉายโรงไหนครับ

จากคุณ : proofman - [ 28 พ.ค. 51 10:38:44 ]






ความคิดเห็นที่ 4

ดูแล้วอยากไปตะกั่วป่าอีก เมืองเงียบๆแต่มีเรื่องน่าฟัง ต่างจากกรุงเทพเมืองเสียงดังแต่ไม่ได้ยินอะไรเลย

จากคุณ : ใส่พริกเม็ดเดียว - [ 28 พ.ค. 51 10:50:02 ]






ความคิดเห็นที่ 5

ที่ฉาย SFW วันละรอบใช่ป่าว

จากคุณ : vacuum_car - [ 28 พ.ค. 51 16:02:51 ]






ความคิดเห็นที่ 6

ครับฉายที่ SFW วันละรอบ รอบ 19.00 น.
คนดูเยอะพอสมควรทุกๆ รอบ... (แหงแซะ มีรอบเดียวต่อวัน ทั้งประเทศ ก็เป็นแบบนี้)
น่าดีใจ ^ ^

หนังดูง่ายกว่าที่คิด และสร้างอารมณ์สับสนหว้าเหว่ในใจขณะดูได้มากๆ ด้วย

ขึ้นมาด้วย ฉากคลื่นซัดสาดฉายฝั่งที่เป็นเพียงผืนทรายเรียบๆ แต่กลับกลืนกินทุกสิ่งที่อยู่บนผืนแผ่นดินลงไป...เหลือไว้แต่ "ความไม่มีอะไร"

หลังจากที่เรื่องดำเนินไปจนจบ ภาพคลื่นกลับมาอีกครั้ง ดูเหมือนจะแรงกว่าเก่า แล้วปิดลง ด้วยภาพเด็กผู้หญิงใส่ชุดสีชมพูวิ่งเล่นด้วยความสนุกสนาน มีความสุขในเมืองอัศจรรย์แห่งนี้...เหมือนกับ "ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น"

ไม่ว่าจะเป็นสึนามิ หรือเหตุที่ต้นกับนาได้มาพบกันก็ตาม มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและจบลงไป แล้วเหลือไว้แต่ "ความไม่มีอะไร" เหมือนกัน
หากสุดท้ายตัวละครที่ต้องดำเนินต่อไป ก็ยังใช้ชีวิตของเขาเหล่านั้น "เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"

เข้ามาแล้วจากไป... ไม่มีใครทำให้ Wonderful town แห่งนี้ คลายความสุขที่มีอยู่เดิมไปได้

งานถ่ายภาพและงานลำดับภาพในเรื่องถือว่าเยี่ยมมาก ชอบอย่างแรงเลย

และด้วยความที่เกิดและเติบโตในวัยเด็กที่พังงา ถนนเกือบทุกสายที่เห็นในเรื่อง นั่งรถผ่านมาหมดแล้วครับ บางฉากคุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้นเพราะผ่านแถวโรงเรียนประถมที่เคยเรียนอยู่ แต่โรงแรมหลักเมือง 1 ที่ใช้เป็นที่ถ่ายทำ ไม่เคยเดินเข้าไปข้างในเสียที เพราะไม่เคยมีธุระที่นั่น

...อยากบอกว่า ในความเป็น "พังงา" ถึงมีสึนามีเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม ตัวเมืองก็เงียบสงบแบบนี้ล่ะครับ เปลี่ยนแปลงไปช้ามาก มากจนทุกคนไม่ยี่หระอะไรนักหนาต่อความเกิดขึ้นหรือดับไปของสิ่งต่างๆ
...มันเข้ามาแล้วก็จากไป เหมือนกันทุกๆ อย่าง
...คงมีคนที่ยอมไม่ได้กับความเปลี่ยนแปลงแบบสุดโต่งอย่าง "วิทย์" อยู่บ้าง แต่เท่าที่เคยมีประสบการณ์ ไม่ค่อยมีคนพังงาที่รู้จักเป็นแบบนั้น เขาอาจจะรู้สึกว่าไม่ต้องเปลี่ยนก็อยู่กันได้ แต่ถ้าต้องเปลี่ยนก็รับมันได้เหมือนกัน

ผู้กำกับจงใจขับเน้นภาพที่ดูเงียบเชียบมากกว่าความเป็นจริงมากเลยครับ แต่ก็ได้ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้ผลทางอารมณ์สำหรับคนดูอย่างมากมาย

ปล. ช่วงแรกๆ สังเกตว่านากินขนมตลอดเวลาเลย มีความสุขจริงๆ
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 51 01:21:04

จากคุณ : รังสีไอฟ่า - [ 29 พ.ค. 51 01:18:24 ]







ความคิดเห็นที่ 7

อยากดู ฉายโรงไหน

จากคุณ : อินเตอร์นะคะน่ะ - [ 29 พ.ค. 51 01:23:30 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ฉายที่ SFW ถึง 12 มิ.ย. นี้ครับ

จากคุณ : merveillesxx - [ 30 พ.ค. 51 00:42:48 ]






ความคิดเห็นที่ 9

ชอบมากคะ หนังสื่อดีมากๆ ภาพก็สวยๆ

จากคุณ : naniz - [ 11 มิ.ย. 51 16:03:43 ]

 

โดย: merveillesxx 20 มิถุนายน 2551 11:38:52 น.  

 

ชอบเหมือนที่หลายๆท่านกล่าวมาข้างต้น
เพิ่งได้ดู มาเมื่อคืน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรอบสุดท้ายแล้ว

วาดภาพ ว่าจะเป็นหนังรักที่สวยงาม
ซึ่งอารมณ์ตอนครึ่งแรกก็เป็นเช่นนั้น
แต่เอาเข้าจริงๆ รู้สึกว่าเป็นหนังที่บ่งบอกถึง
แผลเป็น ร่องรอย ของอดีต ที่คงไม่มีวันหายที่
ยังไงมันก็ยังคงอยู่อย่างนั้น

ดัง ทะเลที่สวยสงบ เมื่อเกิด tsunami
ได้พัดพาและทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
ทิ้งไว้เพียงร่องรอยแห่งความทรงจำที่บอบช้ำ
ทะเลอาจจะกลับมาสวยและเงียบสงบ
ดังเดิมได้ในเวลาไม่นานนัก
แต่จิตใจคนนี่สิ จะทำได้อย่างทะเลมั้ย....

ปล.ชอบตอนที่นา มีความสุขตอนที่ได้เข้าไปเก็บห้อง
และได้แอบนอนบนเตียงของต้นมาก

ปล.2 ภาพแห้งๆสวย เพลงก็เยี่ยม

 

โดย: sunslept IP: 58.9.10.113 12 มีนาคม 2552 13:08:14 น.  

 

ตามแวะมาอ่าน

ตอนดูรอบแรกเบื่อมากมาย แต่พอมาดูอีกครั้งตอนต้องไปตัดสินรางวัลรู้สึกหนังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าสนใจทีเดียว

พอมาอ่านนี่ก็นั่งคิดตามว่า จริงด้วย สถานที่ในหนังเรื่องนี้โดดเด่นมาก

 

โดย: Onlineza 13 มีนาคม 2552 23:56:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.