BlogGang.com : : merveillesxx : 'The Social Network' Effect

'The Social Network' Effect

by merveillesxx

(ออนไลน์ครั้งแรกที่ //www.fuse.in.th/blogs/movement/3307 )

หลังจากตัวอย่างหนังเรื่อง The Social Network -หนังของ เดวิด ฟินเชอร์ ว่าด้วยการกำเนิดของ Facebook และสงครามระหว่างผู้ก่อตั้ง- ถูกปล่อยออกมา คนแทบทั้งโลกก็อยากดูหนังเรื่องนี้ และพากันแชร์ตัวอย่างหนังเรื่องนี้บนเฟซบุ๊คของตัวเองโดยไม่ได้นัดหมาย

ก่อนอื่นเราไปดูตัวอย่างหนังเรื่องนี้ก่อน

นอกจากสโลแกนโดนๆ ว่า "คุณไม่มีทางมีเพื่อน 500 ล้านคน โดยไม่สร้างศัตรู" แล้ว สาเหตุที่ตัวอย่างหนังนี้กลายเป็นของฮิตก็เพราะเพลง Creep ของวง Radiohead (ในเวอร์ชันประสานเสียง) นั่นเอง อย่างแรกคือ เพลงมันป็อปในระดับที่คนทั้งโลกรู้จัก อย่างที่สองคือ เนื้อหาของเพลงมันช่างเข้ากับตัวหนังและการเล่นเฟซบุ๊คเสียจริงๆ ดังท่อนที่ว่า

I don't care if it hurts,
I wanna have control
I want a perfect body
I want a perfect soul

I want you to notice
when I'm not around
You're so fuckin' special
I wish I was special

จะเห็นได้ว่าเนื้อเพลง Creep พูดถึงการที่เราอยากมีใครสักคน อยากให้ใครสังเกตว่าเรามีตัวตน ซึ่งนี่ก็คือวิถีของเฟซบุ๊คเช่นกัน เราอยากให้มีคนมากด like เรา, มีเพื่อนมา add เรา หรือเวลาโพสต์อะไรไปก็อยากให้ใครมา comment ... สรุปแล้วเฟซบุ๊คนั้นเกิดมาได้เพราะความเหงาของมนุษย์ดีๆ นี่เอง

อย่างไรก็ดี ตามประสาคลิปที่โด่งดัง ตัวอย่าง The Social Network จึงถูกนำไปล้อเลียน (parody) มากมาย ที่น่าสนใจคือ การไปล้อกับ social network ระบบอื่นๆ เช่น YouTube หรือ Twitter เป็นต้น

The Video Website คือตัวอย่างหนังล้อ The Social Network แต่เปลี่ยนเป็นการเกิดขึ้นของ YouTube แทน โครงสร้างและลำดับของตัวอย่างเหมือนกับต้นฉบับเป๊ะๆ ...ความฮาของคลิปนี้เช่น

- สโลแกนที่ว่า "คุณไม่มีทางได้ subcribers ในวิดีโอ 500 ล้านคน โดยไม่สร้างวิดีโอเรื่องแต่งที่ดราม่าสุดๆ" อันนี้เป็นการล้อคนสมัยนี้ที่พยายามทำให้ตัวเองดังด้วยการอัพคลิปผ่าน YouTube

- พระเอกของเรื่องถูกฟ้องว่า "ทำให้ผู้คนเสียเวลากับคลิปที่ไร้สาระ" เ่ช่น เด็กเต้นกะยึกกะยัก หรือไอ้หน้าโ่ง่ที่ไหนไม่รู้ตกจากสเก็ตบอร์ด

- คลิปตอนท้าย ที่อยู่ๆ ก็มี หลินปิง โผล่มาซะงั้น (อันนี้คนไทยอาจยิ่งฮา)

- ตอนจบของคลิป จากเพลงที่ร้องว่า I don't belong here กลายเป็น "Broadcast Yourself" ซึ่งเป็นสโลแกนของ YouTube

ถัดมาก็มี The Twit Network ซึ่งเปลี่ยนไปล้อเรื่องของ Twitter แทน โดยคลิปนี้จะเป็นการล้อลักษณะต่างๆ ของ Twitter โดยหลักๆ คือ การที่ผู้คนโพสต์อะไรที่ไร้สาระและเรื่อยเปื่อย หรือข้อกำจัดของมันที่โพสต์ได้ 140 อักษร สิ่งที่ทำให้คลิปล้อตัวนี้ยิ่งเหนือชั้นขึ้นไปคือ การลงทุนแต่งเพลงล้อของตัวเองมาที่ชื่อว่า I can Tweet (โหลดได้ที่ //www.sendspace.com/pro/dl/o6tyzy )

มุกฮาๆ ในคลิปนี้เช่น

- เพื่อนผู้ร่วมก่อตั้ง ด่าพระเอกว่า ทวิตเตอร์โคตรไร้สาระ เพราะมีแต่ "พวกคนดังมาทวีตว่าตัวเองกินอะไรเป็นอาหารเช้า"

- ความป่วยของคนเล่น เช่น ยูสเซอร์ผู้หญิงคนหนึ่งโพสต์ว่า "พ่อฉันเพิ่งตายแหละ อ้อ รายการ Dacing with the Stars รอบสุดท้ายจะเริ่มในห้านาทีแล้วนะ" หรือยูสเซอร์ 'คุณพ่อสุดยอด' ทวีตว่า "ผมเพิ่งทิ้งเมียกับลูกไป"

- มุขที่ล้อพวกดาราเ่ช่น จัสติน บีเบอร์ พิมพ์ว่า "ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ขว้างขวดน้ำใส่ผม ผมขออภัยคุณ" (บีเบอร์เพิ่งถูกคนดูปาขวดน้ำใส่หัว เมื่อเร็วๆ นี้) หรือ เบน แอฟเฟล็ค ที่โพสต์ว่า "สงสัยจัง ตอนนี้ แมตต์ ทำอะไรอยู่" (หมายถึง แมตต์ เดมอน เพื่อนสนิทของเขา ทั้งคู่เคยเขียนบทหนัง Good Will Hunting ด้วยกัน)

สรุปแล้ว เพราะตัวอย่างหนัง The Social Network ทำได้ออกมาโดดเด้งโดนใจผู้คน จนทำให้มีคนสนใจ และทำคลิปล้อขึ้นมา (แน่นอนว่าผู้คนย่อมต้องล้อคลิปที่ดังอยู่แล้ว คงไม่มีใครไปเสียเวลาล้ออะไรที่ลับแล) และคลิปล้อเลียนเหล่านี้ก็กลายเป็นการโปรโมทหนังเรื่อง The Social Network ไปในตัว โดยที่ค่ายหนังไม่ต้องทำอะไรเลย :-)

Create Date : 20 สิงหาคม 2553

Last Update : 20 สิงหาคม 2553 5:33:51 น.

2 comments

Counter : 2154 Pageviews.

เจ๋งดีอะ โดยเฉพาะ The Twit Network ที่เล่นแต่งเพลงมาเลย

โดย: Seam - C IP: 58.9.184.231 วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:12:30:58 น.

เขียนดีนะเราน่ะ

โดย: เอกภพสีน้ำเงิน IP: 110.169.15.152 วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:16:40:55 น.