BlogGang.com : : merveillesxx : April Snow – ปลายทางของคนรักหลงฤดู

April Snow – ปลายทางของคนรักหลงฤดู

โดย merveillesxx

(บทความนี้เปิดเผยตอนจบของภาพยนตร์)

แรกทีเดียวนั้นผมคิดว่าหนังเรื่องล่าสุดของเฮอร์จินโฮนั้นดู “แปลกไป” อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ดาราระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง แบยองจุนและซอนเยจิน, การลงทุนด้วยงบมหาศาล, การโปรโมตชนิดไม่บันยะบันยัง รวมถึง ”ท่าที” ของตัวผู้กำกับเอง

แต่หลังชม April Snow จบลงแล้ว ผมพบว่าเฮอร์จินโฮก็ยังเป็นคน “คนเดิม”

…คนที่วนเวียนอยู่กับเหล่า “คนรักหลงฤดู”

ปิดไตรภาคคนรักหลงฤดู

เช่นเดียวกับหว่องกาไว ผลงานทั้งหมดของเฮอร์จินโฮก็มีความเชื่อมโยงกัน ผมคิดว่าหนังทั้งสามเรื่องของเขา อันได้แก่ Christmas in August (1998), One Fine Spring Day (2001) และ April Snow (2005) ล้วนมีความเกี่ยวพันอันแนบแน่นของ “ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง” กับ “ฤดูกาล” และที่สำคัญก็คือทั้งหมดเป็นเรื่องก็เกิดขึ้น “ผิดจังหวะ” ช่วงชีวิต

Christmas in August พูดถึงเจ้าของร้านถ่ายรูปหนุ่มกับตำรวจจราจรสาวที่มาพบรักกันในขณะที่ฝ่ายชายกำลังจะตาย แต่นั่นก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต เพราะความรักก็ดลบันดาลให้เกิด “คริสต์มาส” ใน “เดือนสิงหาคม” ได้

ถัดมา One Fine Spring Day เล่าถึงชายหนุ่มที่มีความสัมพันธ์กับรุ่นพี่สาวจนมี “วันที่สวยงาม” ให้แก่กัน แต่เพราะความต่างระหว่างวัย ก็ทำให้ช่วงเวลาเหล่านั้นกลายเป็นเพียงอดีต

และสุดท้าย April Snow ก็ก้าวข้ามมาถึงจุดปลายของการเป็นคนรักหลงฤดู นั่นก็คือ ความสัมพันธ์แบบ “ชู้”

หนังทั้งสองเรื่องก่อนของเฮอร์จินโฮนั้นปิดฉากด้วยความเศร้า ความน่าสนใจอยู่ที่ว่าคราวนี้เขาจะเลือกปิดฉากลงอย่างไร

ผู้กำกับจอมกลั่นแกล้ง

คงเรียกได้ไม่ผิดเพี้ยนนักว่าหนังของเฮอร์จินโฮเป็นหนังประเภทเมโลดราม่า หากแต่ว่านำเสนอออกมาแบบไม่ฟูมฟาย เป็นการถ่ายทอดแบบ “น้อยได้มาก” (Minimalism)

หนึ่งในลักษณะทางเมโลดราม่าในหนังของเฮอร์จินโฮก็คือ “สถานการณ์” ที่เหล่าตัวละครต้องประสบพบเจอ ราวกับว่าเธอกับเขาไม่มีวันได้สมหวังในความรัก

1. Christmas in August : ชายหนุ่มมีความรักแต่ก็กำลังจะตาย / หญิงสาวที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว

2. One Fine Spring Day : ชายหนุ่มถูกรุ่นพี่สาวทิ้งโดยไม่รู้ตัว / พอเธออยากจะคืนดีด้วย เขาก็เดินจากเธอไป

3. April Snow : เริ่มจากคนรักของอินซู (แบยองจุน) และโซยอง (ซอนเยจิน) เป็นชู้กัน / ภรรยาของเขาฟื้น / สามีของเธอตาย

จะเห็นได้ว่า “ความไม่สมหวัง” ของ Christmas in August และ One Fine Spring Day เกิดขึ้นด้วยสาเหตุที่แตกต่างกัน เรื่องแรกเป็นเรื่องของ “ชะตากรรม” ที่ไม่อาจเลี่ยงได้ ส่วนเรื่องหลังเป็นเพราะ “การการะทำของอีกฝ่าย”

ส่วนในกรณี April Snow นั้นหนักข้อที่สุดเพราะทุกสิ่งเริ่มต้นด้วย “การกระทำของคนอื่น” (สามีของโซยอง / ภรรยาของอินซู) จากนั้นก็ตามด้วย “ชะตากรรม” ที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ของเขาและเธอ ชนิดที่อาจจะทำให้ไม่ได้พบกันอีกชั่วชีวิตเลยก็ได้

ฉะนั้นแล้วเหตุการณ์ในช่วงท้ายของหนังนั้นจึงดำเนินเรื่องด้วย “การตัดสินใจ” และ “การกระทำ” ของตัวละคร ซึ่งเป็นจุดเด่นของ “หนังชู้” ที่บีบหัวใจคนดูมานักต่อนัก เพราะไม่ว่าจะเป็นในหนังชู้ที่ดีที่สุดในโลกอย่าง In The Mood For Love หรือหนังชู้ศิลปะชั้นสูงอย่าง Yes ตัวละครในหนังก็ต้องผ่านการ “เลือก” อันยากลำบาก

แล้วเขาจะเลือกอย่างไร …เธอจะเลือกแบบไหน …เขาและเธอจะเลือกทางเดียวกันหรือเปล่า

ปลายทางของคนรักหลงฤดู

ตอนที่โซยองถามอินซูว่า “คุณจะทำอย่างไรถ้าเกิดภรรยาของคุณฟื้นขึ้นมา” เขาตอบว่า “ผมจะแก้แค้น”

ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าการแก้แค้นได้หรือเปล่า แต่ฉากที่อินซูบอกภรรยาของเขาว่า “เขาตายไปแล้วนะ ผู้ชายคนนั้นน่ะ” แล้วเธอก็ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ …อินซูเห็นภาพนั้นแล้วก็คงไม่คิดจะทำอะไรไปมากกว่านี้

หลังจากฉากนั้น ภาพก็ตัดมาที่ห้องที่เต็มไปด้วยของระเกะระกะ อินซูย้ายบ้านใหม่ เขาเดินออกมาจากชีวิตของคนที่เขาเคยรัก เขาเลือกที่จะอยู่ “คนเดียว” อีกครั้ง

นั่นคือ “ทาง” ที่อินซูเลือก

ชื่อภาษาเกาหลีของ April Snow คือ Oechul ซึ่งมีความหมายว่า Going Out …คำถามก็คือ “ใคร” กำลังจะออก “ไปไหน”

หากสังเกตให้ดีแล้วเราจะพบว่า April Snow มี “ฉากขับรถ” อยู่เป็นระยะ และบ่อยครั้งที่อินซูกับโซยองอยู่ในรถคันเดียวกัน

การเดินทางในช่วงแรกของทั้งสองมีแต่ “เส้นทางบังคับ” จุดมุ่งหมายนั้นถูกกำหนดไว้แล้ว ขับรถไปโรงพยาบาล, ไปงานศพของชายที่ตายในอุบัติเหตุ, กลับมาเยี่ยมคนรักของตัวเอง, กลับโรงแรม …ซึ่งเหมือนเป็นการเปรียบเปรยกับ “หัวใจที่ขาดอิสระ” เพราะ “พันธะ” ที่ตรึงเขาและเธอไว้ก็คือ คนรักที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง

ฉากที่อินซูและโซยองเจอกันในกรุงโซล ที่สุดท้ายไปจบลงด้วย “การเดินเล่น” ถือเป็นครั้งแรกของการเดินทางอันไม่รู้ “จุดหมายปลายทาง” ที่ชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันนอกจากการงอกเงยของ “ความสัมพันธ์” แล้ว ก็ถือได้ว่าเค้าลางของ “อิสรภาพ” ก็เริ่มก่อตัวในฉากนี้เช่นกัน เพราะนี่เป็นการตัดสินใจ “เลือก” ด้วยตัวเองของทั้งอินซูและโซยอง

แต่พอมาถึงฉากที่อินชูขับรถอยู่คนเดียวในยามค่ำคืนหลังจ่กไปงานศพสามีของโซยอง คราวนี้เราไม่รู้เช่นกันว่าเขากำลังจะไปไหน แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้ไม่ใช่ความรู้สึกที่เป็นอิสระ แต่เป็นความโดดเดี่ยว

ความแตกต่างของสองฉากนี้อยู่ที่ “จำนวนคน” ในรถคันนั้น ระหว่าง “เขาและเธอสองคน” กับ “เขาคนเดียว” และอินซูก็คงตระหนักรู้ได้ในคืนนั้น

หากจำกันได้ในฉากที่อินซูขับรถคนเดียว ใบหน้าของเขาดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง และนั่นเองก็คงเป็นที่มาของ “ทาง” ที่อินซูเลือกดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น

เป็นการเลือกที่ทำให้อินซูต้องอยู่คนเดียว ก่อนที่จะทำให้คนสองคนได้กลับมาเดินทางแบบไร้จุดหมายร่วมกันอีกครั้ง

เพราะในที่สุดแล้วอินซูและโซยองก็กลับมาพบกัน โดยมี “หิมะ” ที่โปรยปรายลงมาในเดือนเมษาเป็น “เข็มทิศ” นำทาง โดยอาจจะเป็นการเผชิญหน้ากันโดยที่ไม่มีคำว่า “ชู้” มาคอยกั้นกลางอีกต่อไป

ในฉากสุดท้ายโซยองถามว่า “คุณกำลังจะพาฉันไปไหน” อินซูตอบว่า “แล้วคุณล่ะ อยากไปที่ไหน”

ประโยคนี้เป็นสิ่งยืนยันถึงธีม “คนรักหลงฤดู” ในหนังของเฮอร์จินโฮ ซ้ำร้ายว่าคราวนี้มันอาจจะถึงขั้นเป็น “คนหลงทาง” แต่ในขณะเดียวกันมันก็ตอกย้ำถึง “อิสระ” ของทั้งสองว่าคราวนี้เขาและเธอมีสิทธิที่จะ “เลือก” ว่าจะไปที่ไหน

ที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด และแตกต่างกับหนังสองเรื่องก่อนหน้าของเฮอร์จินโฮก็คือ ในคราวนี้เขาและเธอ “อยู่ด้วยกัน”

หากเทียบกับ In The Mood For Love แล้ว ความสัมพันธ์ใน April Snow ย่อมมีหนทางมากกว่า เพราะว่า “ฤดูกาล” นั้นย่อมยาวนานกว่า “ห้วงเวลา”

แม้หิมะจะตกหนักจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า แม้ไฟถนนจะส่องแสงริบหรี่ แต่ผมก็เชื่อว่าอินซูกับโซยองจะค้นพบเส้นทางไปยังข้างหน้าได้ในที่สุด

เพราะแม้จะเป็นหิมะที่ตกในเดือนเมษา แต่ก็ยังมีคนสองคนที่พร้อมจะหลงอยู่ในฤดูกาลนั้นด้วยกัน

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

1. ผู้กำกับที่หลงเสน่ห์ฤดูกาล : หนังของเฮอร์จินโฮทั้งหมดมักดำเนินเรื่องในหลากฤดู สองฤดูหลักที่มักปรากฏในหนังของเขาก็คือ “ฤดูใบไม้ผลิ” และ “ฤดูหนาว” ส่วนใน April Snow นั้นหนังเริ่มต้นด้วยฤดูหนาว (ช่วงเวลาอันแสนเศร้าของเขาและเธอ) กลางเรื่องเป็นฤดูใบไม้ผลิ (ความสัมพันธ์ที่งอกเงย) และลงท้ายด้วยฤดูหนาวอีกครั้ง (การตัดสินใจอันยากลำบากของทั้งคู่)

2. ใน April Snow มีฉากที่คล้ายกับงานเก่าๆ ของเฮอร์จินโฮเหมือนกัน เช่น

2.1 ฉากป้ายงานศพของสามีนางเอก เหมือนฉากป้ายงานศพของพระเอกในเรื่อง Christmas in August

2.2 ฉากซอนเยจินกินไอติมแท่ง ดูยังไงก็เหมือนตอนที่ ชิมอึนฮากินไอติมใน Christmas in August ไม่มีผิด

2.3 บุคลิกท่าทางของแบยองจุนตอนกำกับแสงไฟในเวทีคอนเสิร์ต ก็คล้ายยูจีแทตอนบันทึกเสียงธรรมชาติใน One Fine Spring Day

3. พระเอกในหนังของเฮอร์จินโฮล้วนมีอาชีพแปลกๆ อย่าง “เจ้าของร้ายถ่ายรูป”, “ช่างบันทึกเสียง” และ “ผู้กำกับแสงไฟ” งานเหล่านี้ล้วนเป็นอาชีพเหงาๆ ที่ต้องอยู่คนคนเดียว (กรณีผู้กำกับแสงไฟนั้นขณะผู้คนมากมายกำลังสนุกสนาน เขาก็ยืนอยู่เงียบๆ หลังแผงควบคุม)

4. ส่วนตัวแล้วผมมีความเชื่อว่าเฮอร์จินโฮตั้งใจสร้าง April Snow ให้เป็นการปิดฉากหนังไตรภาคชุดแรกของเขา ฉะนั้นแล้วผลงานต่อจากนี้ไปของเขาจะต้องมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นแน่นอน

Create Date : 16 ธันวาคม 2548

Last Update : 16 ธันวาคม 2548 0:16:31 น.

55 comments

Counter : 10431 Pageviews.

หนังที่ได้ดูในช่วงนี้

1. King Kong (2005, ปีเตอร์ แจ็คสัน, A+)

เป็น 3 ชั่วโมงที่คุ้มค่า ไม่เสียแรงแก่การต่อสู้กับกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ

สิ่งที่ชอบก็คือ ความกล้าของหนังที่กว่าเจ้าคิงคองจะโผล่หัวออกมาก็ล่อเข้าไปชั่งโมงที่สองแล้ว

2. April Snow (2005, เฮอร์จินโฮ, A+) **ดูรอบสอง**

ยิ่งดูก็ยิ่งชอบมากขึ้นเรื่อยๆ ...ตอนนี้คงเป็นที่แน่นอนแล้วว่า April Snow ติด TOP10 หนังชอบที่สุดในปี 2005 แน่ๆ

ชอบหนังในเกือบทุกด้าน การแสดง (ขั้นเซียนมาก), การถ่ายภาพ, การตัดต่อ (ทีมงานตัดต่อ "ต้มยำกุ้ง" ควรยกทีมกันไปเหมาโรงดูหนังเรื่องนี้นะครับ), เพลงประกอบ (ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2 เพลง แต่วน loop เปลี่ยนสไตล์เรื่อยๆ) ฯลฯ

การที่ฉาก แบยองจุน ร้องไห้จนขี้มูกไหลหลุดออกมาหนังเวอร์ชันสุดท้ายได้ทำให้ผมรู้สึกนับถือเฮอร์จินโฮมากๆ

อ้อ ถ้าเป้นไปได้อย่าไปดูที่ EGV ปิ่นเกล้าเลยครับ โรงห่วยมาก

โดย: merveillesxx

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:0:26:47 น.

ตอบทุกคนต่อจากบล็อก วันธรรมศาสตร์

ตอบ คุณ it CU

พูดถึง "เสื้อช็อป" แล้วนึกถึงเหตุการณ์ประทับใจอันนึงได้ครับ เคยได้ยินผู้หญิงสองคน (ซึ่งน่าจะคณะวิดวะ) คุยกัน

ญ 1 "แม่ง กูไม่ชอบใส่เสื้อช็อปเลยว่ะ"

ญ 2 "ทำไมวะ"

ญ 1 "เหี้ยมากน่ะ ทุกวันนี้หาแฟนก็ยากจะตายห่าแล้ว แม่งเสือกโดนใส่ชุดหยั่งกะช่างกลแบบนี้อีก แม่งไม่ต้องมีแล้ว ผัว-เผอ เนี่ย"

----------------------------

ตอบ คุณ สาวไกด์ใจซื่อ

เอ๊ะ หนูบอกเหรอคะพี่ว่าเคยเขียนถึง Chirstmas in August ง่ะ ?_____?

หนูไม่เคยเขียนถึงนะ เรื่องนี้ น่าจะหมายถึง La Belle มากกว่ามั้ง ที่พูดไปอ่ะ

-------------------------------------

ตอบ คุณน้ำแข็งเคลือบน้ำตาล

แบบว่าไม่ไหวแล้วอ่ะ สอบๆ อยู่มันยังเจาะพื้นเจาะสว่านเลย ทำข้อสอบชิบกราฟไม่ออก มีแต่คำว่าชิบหายในหัวสมอง แย่มาก

ถ้าคณะบัญชีมันก็ไม่มีปัญหาหรอก อันนั้นไฮโซห้องเรียนห้องสอบบุด้วยผนังเก็บเสียง ส่วนคณะจนๆ อย่างเราก้ต้องทนได้ทนไป เฮ้อ

---------------------------------

ตอบ ฮง เพื่อนรัก

ขอบคุณมากนะที่เข้ามาเยี่ยมบล็อกกู ขอให้เกรดมึงพุ่งๆ นะ ส่วนของกูนับวันยิ่งถลาลงว่ะ เฮ้อเธอ โฟร์มด จิงๆ

โดย: merveillesxx

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:0:38:09 น.

กำลังอยากดูพอดีเลยค่ะขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆๆ..

โดย: Bamboocrossing

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:0:38:14 น.

... ตามมาตอบในนี้อีกรอบ ขอก็อปที่ตอบคุณไว้ในพันทิพ แต่เพิ่มนิดนึงว่า วันนี้ไปดูโรงลิโด้

ฉากที่แสนจะเจ็บปวด แต่สาวเจ้าข้างๆผม(ที่ไม่ได้ไปด้วยกันกับผม) หัวเราะคิกคัก

ฉากวาบหวิวของซอนเยจิน สาวเจ้าข้างๆผมซุบซิบคุยกันจนได้ยินมาว่า "ของปลอมหรือเปล่านี่"

เป็นการดูในโรงลิโดที่รู้สึกว่า ไม่สงบ แบบที่น่ารำคาญ มากที่สุดครั้งหนึ่ง(เพราะมีคนคุยกันบ่อย)

...ส่วนเรื่องหนังนั้น

... เมื่อวาน ผมหยิบ Christmas in August หนังรักอันดับ 2 ในชีวิต มาดูอีกรอบแล้วก็น้ำตาซึมอีกรอบ และ ก็ประทับใจอีกรอบ แล้วเขียนเสร็จใส่บล็อกเก็บเป็นความประทับใจก่อนที่จะไปดู April Snow ในวันนี้

....หลายปีก่อน ผมเคยมีวิดีโอ One Fine Spring Day จากร้านลูกแมว แต่ผมดูยังไม่ทันจบจำไม่ได้ว่าด้วยเหตุอันใด และ มันก็หายไปกลายเป็นหนังที่ผมดูไปครึ่งเรื่อง

....วันนี้ ไปดู April Snow มา อาจเพราะความประทับใจที่ยังค้างเต็มเปี่ยมจากเมื่อวาน มันจึงทำให้ผมเกิดเปรียบเทียบในความรู้สึกไม่ใช่ในแง่ตัวหนัง April Snowไม่กระแทกความรู้สึกได้ลึกเท่า Christmas in August และ ไม่กินใจในกรณีชู้รักของชู้รักได้เท่า In the Mood of love

... แต่มันเป็นหนังที่ เจ็บที่ใจ ขณะดู และมีตอนจบที่ผมชอบมากอีกเรื่องหนึ่ง (และ ฉากวาบหวามของซอนเยจิน)

ปล ... ดนตรีและเพลงประกอบเพราะมาก + หิมะในเรื่องสวยมาก

ปล 2 ... ขอบคุณสำหรับบทวิจารณ์หนังไม่ได้อ่านมานานแล้ว

โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:0:41:10 น.

22 ฉากประทับใจกับหนัง 3 เรื่องของเฮอร์จินโฮ

(**ถ้ายังไม่ได้ดูไม่ควรอ่าน**)

1. Christmas in August

นี่คือหนึ่งในหนังเกาหลีที่ผมชอบที่สุดในชีวิตครับ มีฉากที่ผมประทับใจเยอะมาก เช่น

1.1 ฉากนางเอกเข้ามานั่งหลับในร้าน แล้วพระเอกก็เดินไปเปิดพัดลมให้ แล้วเขาก็นั่งมองเธอ

1.2 พระเอกพยายามสอนพ่อให้ใช้เครื่องเล่นวิดีโอ แต่พ่อไม่เข้าใจสักที เขาตวาดพ่อ แล้วเดินหงุดหงิดออกไป

1.3 แต่จากนั้นเขากลับมาที่ห้องแล้วก็เขียนวิธีใช้ใส่กระดาษ

1.4 คืนนั้นเขานอนร้องไห้คนเดียว (ถ้าจำไม่ผิดพ่อของพระเอกจะได้ยินด้วย)

1.5 คืนถัดมาพระเอกแอบย่องไปนอนข้างๆ พ่อ

(ข้อ 1.2 - 1.5 คิดถึงฉากพวกนี้ทีไรก็น้ำตาเอ่อออกมาไม่รู้ตัว)

1.6 ฉากที่พระเอกเมาแล้วโวยวายกับเพื่อน “ทำไมกรูต้องตาย”

1.7 คุณยายที่เข้ามาถ่ายรูปในร้านพระเอก ประทับใจตัวละครนี้มากๆ

1.8 ฉากพระเอกถ่ายรูปตัวเอง แล้วกล้องก็ตัดมาที่ป้ายงานศพ (ฉากนี้ร้องไห้หนักมากถึงมากที่สุด)

1.9 ตอนท้ายที่รูปหน้าร้านพระเอกถูกเปลี่ยนจากรูปแฟนเก่าเป็นนางเอก

1.10 ฉากที่นางเอกปาหินใส่กระจกร้านพระเอก (คุณนันทขว้าง สริสุนทร เปรียบเปรยฉากนี้ไว้ได้อย่างโดนใจมากว่ามันคือ “ความเสียหายที่สวยงาม”)

2. One Fine Spring Day

เป็นหนังของเฮอร์จินโฮที่ผมอยากกลับไปดูอีกรอบมากที่สุดเลยครับ เพราะตอนที่ไปดูในโรงนั้นจิตใจของผมเต็มไปด้วย “อคติ” และ “ความโกรธแค้น” เพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมรู้ตัวว่าแฟนกำลังจะบอกเลิก เป็นการดูหนังที่ทรมานมาก

ดังนั้นผมจึงจดจำอะไรในหนังเรื่องนี้ไม่ได้มากนัก ฉากที่ชอบมากแล้วพอจะจำได้ก็เช่น

2.1 ฉากที่พระเอกกรีดรถนางเอก

2.2 ตอนที่พระเอกพูดว่า “Why did you love disappear so fast ?” …เป็นประโยคจากหนังที่โดนใจผมมากที่สุดประจำปี 2003 ครับ (หนังเรื่อง One Fine Spring Day มาฉายในบ้านเราที่ลิโด้ช่วงต้นปี 2003)

2.3 ตอนที่ย่าของพระเอกปลอบเขาว่า “ผู้หญิงบางคนก็เหมือนรถประจำทาง เวลาออกจากสถานีแล้วก็ไม่หยุดรับเราอีก”

3. April Snow

3.1 ฉากแบยองจุนร้องไห้ในร้านเหล้า (เชื่อแล้วครับว่าพี่แบซามะแกเก่งจริง)

3.2 ฉากซอนเยจินลงจากรถแล้วร้องไห้ริมถนน

3.3 ฉากแบยองจุนเปิดปิดสวิทช์โคมไฟ

3.4 ฉากที่พระเอกนางเอกชวนกันวิ่ง

3.5 ฉากพระเอกนางเอกถ่ายรูปกล้องมือถือด้วยกันที่ริมทะเล

3.6 ฉากเลิฟซีนทุกฉาก …เป็น 9 ชั่วโมงที่คุ้มค่า (หนังเรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำฉากเลิฟซีนถึง 9 ชั่วโมง)

3.7 ฉากในห้องพระเอก ตอนที่นางเอกกำลังปลอกผลไม้ (ชอบมากกว่าข้อ 3.6 อีก)

3.8 ฉากหิมะตกตอนท้ายเรื่อง

3.9 ฉากจบ

โดย: merveillesxx

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:0:46:28 น.

อ่านๆ ข้ามๆ ยังไม่อยากถูกสปอยค่ะ
^^

โดย: I am just fine^^ IP: 202.28.181.10 วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:1:04:13 น.

ชอบ Christmas in August และ One Fine Spring Day ทั้งสองเรื่อง

เรื่องนี้ยังไม่ได้ดู
แต่ก็คิดๆ เอาไว้เหมือนกันว่า คงจะจบแบบ "ทุกคน-ไม่มีใครมีความสุข"

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ...
เพื่อนไปดูกี่คนๆ ก็บอกว่าน่าเบื่อ
แต่เราคิดว่า คงไม่พลาดงานของผู้กำกับคนนี้

โดย: แพนด้ามหาภัย

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:1:10:43 น.

มาเยี่ยมเยียนครับ เขียนได้ดี
อ่านจบมาจากกระทู้ใน pantip แล้วครับ
ผมดูหลายรอบแล้วครับ april snow

โดย: luissybuster

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:1:12:55 น.

ผู้เข้าชิง Golden Globes 2006 มาแล้วครับ

//www.imdb.com/Sections/Awards/Golden_Globes_USA/2006

ดีใจมากที่กวินเนธ พัลโทรว ได้เข้าชิง Best Actress ด้วย จากเรื่อง Proof (A+) เรื่องนี้เธอเล่นดีอย่างเหลือเชื่อ (ถึงแม้ว่าดูจบแล้วจะยังไม่เชื่อว่าเธอเป็นนักคณิตศาสตร์ก็เถอะ)

วันนี้ได้ดูตัวอย่างหนังเรื่อง Memoirs of Geisha แล้ว อยากดูมาก สวยขาดใจสุดๆ

โดย: merveillesxx

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:1:34:41 น.

^
^
ที่ผมแปลกใจในรายชื่อการเข้าชิง คือ คนเล็กหมัดเทวดา ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศ

ปล ... แต่มันก็สนุกจริงๆให้ดิ้นตาย

โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:1:41:25 น.

เห็นด้วยว่า เฮอร์จินโฮ ไม่เปลี่ยนไป
ตามที่คิดไว้แต่แรก
หนังเขายังคง "นิ่ง" และ ไม่ค่อยพูดเหมือนเดิม
อยากได้ ost หนังเรื่องนี้จัง

เข้าใจแล้วว่าทำไมแบยองจุน ถึงเป็น ยองซัมมะ ของคนญึ่ปุ่น
แต่อยากดูเขาฉีกบทบาท ใน Untold Scandal จัง

ซินยองเจ ก็เล่นใช่ได้เลยนะ ชอบฉากที่เธอไปนั่งร้องไห้ อยู่ข้างทาง
ชอบฉากหิมะเปิดและปิดเรื่อง
อยากดูฉาก"บนเตียง" ของพวกเขามากกว่านี้
เข้าใจว่ามีน้อยเพราะ กลัว ทำร้ายจิตใจ "แม่ยก" ของแบยองจุน

เอาเข้าจริง หนังเรื่องนี้ไม่ประทับใจตัวเองมากมายเหมือนหนังเรื่องอื่นของเฮอร์จินโฮ
อาจจะเป็นพวกชอบ ทำร้ายจิตใจ
เรื่องนี้มันจบ สมบูรณ์แบบ เกินไปน่ะ

ยังไม่ทันได้ร้องไห้เลย

โดย: grappa

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:7:19:03 น.

เอ๊ย นางเอกชื่อ ซอนเยจิน น่อ
จำได้แต่ชื่อพระเอก แหะ แหะ

ตอนนี้หนังที่อยากดูมากกกกกกกกกก
อีกเรื่อง 'Brokeback Mountain'
อยากดูจริงๆ

โดย: grappa

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:7:46:20 น.

ขอบประโยค Did you love me?? Why did you love disappear so fast ? โดนมากๆ กรี๊ดๆๆ

ปล.เรื่องนี้จาไปดูเลยอ่านข้ามๆ

โดย: พลอยสีสวย

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:10:22:41 น.

ไปดูมาแล้วค่ะ
แวะมาบอกว่า เขียนได้น่าประทับใจมาก :)

โดย: Tiktok IP: 58.11.98.63 วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:11:18:23 น.

ตอนนี้เฝ้ารอแต่ Marsh of the Penguins

โดย: I will see U in the next life.

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:13:45:28 น.

เออ แล้วไปทำอะไรตั้งปิ่นเกล้า

บ้านอยู่ลาดพร้าวไม่ใช่หรอ

โดย: I will see U in the next life.

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:15:55:25 น.

ผ่านๆๆๆๆๆๆๆ

เพราะพรุ่งนี้จะไปดูให้ได้ครับ

โดย: infonoom

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:18:20:52 น.

กิ๊กตั้งใจจะดูเรื่องนี้มาก ดังนั้นยังไม่อ่านที่พี่เขียนนะคะ จะไปดูก่อนแล้วจะกลับมาเม้นท์อีกที

โดย: +KikKle+

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:19:25:19 น.

เอ่อ หนังมันนิ่งสงบเกินไปป่าวอ่ะคะ -_-"

โดย: +*~ S O u LM a T e~*+

วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:20:28:59 น.

อ่านจบแล้วค่ะ แต่ยังงัยก้อจะไปดู
ชอบซอนเยจินมากๆ เลยค่ะ

โดย: BBwindy

วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:10:50:53 น.

ตอบ พี่ grappa

อิอิ ซินยองเจ ... ท่าทางนางเอกหน้าใหม่คนนี้จะมาแรง

ชอบการแสดงของ ซอนเยจิน ในหนังเรื่องนี้มากเลยครับ เพราะในที่สุดเธอก็สามารถ "ล้าง" ภาพเดิมๆ ของเธอออกได้ ในขณะที่จอนจีฮุน (หรือ ฉ่อนจีฮยอน) ยังใส่หน้ายักษ์ตบตีผู้ชายหน้าเอ๋อๆ ต่อไป

ชอบจอนจีฮุนจากเรื่อง IL MARE (A+) มากที่สุด เพราะตอนนั้นเธอยังไม่มีภาพของ "ยัยตัวร้าย" ติดตัว (ว่าไปแล้วนี่ก็เป้น "หนังหิมะ" ที่สวยมากอีกเรื่องนึง)

ดีใจที่ ซอนเยจิน ได้ร่วมงานกับผู้กำกับเก่งๆ (และโหด) อย่างเฮอร์จินโฮ คิดว่าจากนี้ฝีมือการแสดงของเธอคงจะพัฒนาต่อไปอีก

ยังไม่ได้ดู Untold Scandal เหมือนกันครับ เพราะเห็นว่า DVD ลิขสิทธิ์ทำออกมาคุณภาพไม่ดีนัก

อยากดู Brokeback Mountain สุดๆ เหมือนกันครับ ตลกดีที่โฆษณาหนังเรื่องนี้โปรยว่า "โปรแกรมหนังรับวาเลนไทน์" (????????????????????)

ตอนนี้คำถามที่ทุกคนสงสัยกันก็คือ พระเอกสองคนในหนังเรื่อง ใครเป้นฝ่ายไหนกันแน่ (ฮา)

---------------------------------

ตอบ พี่เจอกันชาติหน้า

รู้สึกว่า March of the Pengiuns จะเข้าฉายในบ้านเราด้วยชื่อ The Emporer's Journey อ่ะ

วันที่ 29 ธ.ค. นี่เป็นวันโลกแตก เพราะหนังเข้าเยอะมาก ได้แก่ Narnia, March of the Penguins, The Family Stone, Duck Season รวมถึง "วาไรตี้ผีฉลุย" ด้วย

ไป EGV ปิ่นเกล้า ก็เพราะมันอยู่ใกล้ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ไงพี่ นั่งรถเมล์แป๊บเดียวก็ถึง (ถ้ารถมันไม่ติด...) แต่รู้สึกห้างเซ็นปิ่นมันเห่ยๆ ยังไงไม่รู้ ชอบเซ็ลทรัลลาดพร้าวมากกว่าเยอะเลย

------------------------------------

ตอบ คุณ Soulmate

หนังของเฮอร์จินโฮก็นิ่งๆ แบบนี้แหละครับ ยิ่งเรื่องนี้บางช่วงมันนิ่งแบบอึดอัดด้วย คนส่วนใหญ่ออกว่าหนังน่าเบื่อ ไม่สนุก ผมก็ไม่แปลกใจเลยครับ

โดย: merveillesxx

วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:11:44:02 น.

**ประกาศ**

หลังจากนี้ผมคงไม่ได้อัพบล็อกไปสักพักนึงนะครับ เพราะมีสอบมิดเทอมยาวเลย อย่างไรก็ตาม หากต้องการแลกเปลี่ยนพูดคุยก็โพสต์ไว้นะครับ แล้วผมจะกลับมาตอบ

เอ้อ บัตรคอนเสิร์ต Backstreet Boys ไหงมันไม่ค่อยวิ่งเลยแฮะ อย่างว่าแหละเด็กสมัยนี้คงไม่รู้จักนี้แล้วมั้ง เหอๆๆ

โดย: merveillesxx

วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:11:48:18 น.

เอ้า คนรัก แบยองจุน เข้าที่เวบนี้นะจ๊ะ //www.byjtogether.com

โดย: merveillesxx

วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:12:42:42 น.

หนังของเฮอร์จินโฮก็ดูทุกเรื่องนะ กลัวอย่างเดียวก็คือ หนังพี่แกนิ่งงงงงงงงงงงจริงๆ ยิ่งผมเป็นคนไม่อินกับหนังเกาหลีได้ง่ายๆด้วย ไม่รู้ทำไม แต่กับหนังนิ่งๆชาติอื่นนี่ผมกลับสู้ตายนะเอ้า
แต่เรืื่่องนี้ก็อยากดูนะ พอน้องต่อบอกว่าบทความนี้ spoil ก็เลยไม่อ่าน
เลยไม่รู้จะดูดีไหม

แต่ดีใจนะครับที่ได้เห็นบทความของต่ออีก นึกว่าจะเลิกเขียนไปจริงๆซะแล้ว

โดย: เอกเช้า IP: 210.86.130.159 วันที่: 18 ธันวาคม 2548 เวลา:18:12:46 น.

หนังแผ่นที่ได้ดูช่วงนี้

The Bow (2005, Kim Ki Duk, A)

น้องนางเอกฝีมือแก่กล้า วิทยายุทธสูงส่งขึ้นจากเรื่อง Samaria (2004, A+) ประมาณล้านเท่า โดยเฉพาะฉากสุดท้าย ...เป็นห่วงเลือเกินว่าเธอจะยังไปโรงเรียนได้อยู่รึป่าว

Han Yeo-reum (เกิดปี 1983)
//www.imdb.com/name/nm1560630/

ที่ฮาคือ พระเอกเรื่อง The Bow หน้าเหมือน โจ V12 แห่ง AF2 มากๆ

โดย: merveillesxx IP: 203.209.121.244 วันที่: 19 ธันวาคม 2548 เวลา:1:16:28 น.

เข้kมาบอกคนที่ชอบงานของวินทร์และปราบดา
ตามอ่าน ความน่าจะเป็นบนเส้นขนานได้ที่นี่จ้า

//www.onopen.com/ โอเพ่นออนไลน์แว้ว

grappa's recommemed

กิตติพงศ์ สนธิสัมพันธ์
ไตรภาคของมุสิก กับพื้นที่ลี้ลับบนหน้ากระดาษของฮารูกิ มูราคามิ
//www.onopen.com/2005/editor-spaces/102

โดย: grappa

วันที่: 19 ธันวาคม 2548 เวลา:9:17:47 น.

หวัดดีอีกรอบ

กลับมาแล้ว คิดว่าจะดูหนังเรื่องนี้ เพราะงั้นยังขอไม่อ่านงานชิ้นนี้นะจ๊ะ

คืองี้..สำหรับ Christmas in August พี่คิดว่าเราน่าจะเขียนไว้น่ะ เพราะเห็นว่าเป็นหนังที่ชอบมากเรื่องหนึ่ง (เอ่อ..ขออภัยเข้าใจผิด

)

ก็เลยลองหาดู แต่ไม่เจอ

แต่...ง่า อย่าแทนตัวเองว่าหนูกะพี่ได้ปะ? มันจั๊กจี้ไงไม่รู้อ้ะ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 19 ธันวาคม 2548 เวลา:14:41:51 น.

วันนี้สอบไปแล้ว 1 ตัว ...วิชา Monetary: Theory and Policy ผลออกมาคือ ...ออกจากห้องสอบไปแล้ว ยังไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไป เหอๆๆๆๆ

พรุ่งนี้สอบ Finance: Investment (ชีวิตก็พัวพันอยู่กับเงินๆๆๆ เนี่ยแหละ)

-----------------------------

"ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน" ได้อ่านแต่เล่ม 1 อ่ะครับ เล่ม 2-3 ยังไม่ได้อ่านเลย

แต่ชอบ "ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน" และ "ความน่าจะเป็น" มากๆ เลยครับ

พูดถึง มูราคามิ ...ผมเขียนถึงหนังสือ "แกะรอยแกะดาว" ไปในวารสารคณะครับ (เขียนถึงทั้งที่ยังไม่ได้อ่านเนี่ยแหละ แหะๆ) แต่คงอีกนานกว่าจะปรากฏโฉม... (ถึงตอนนั้นผมคงได้อ่านจบแล้ว)

โดย: merveillesxx IP: 210.246.165.136 วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:12:20:29 น.

โดย: b IP: 61.90.147.18 วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:15:41:16 น.

แกะรอยแกะดาวสนุกดีน่ะ

Surreal ดี

โดย: I will see U in the next life.

วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:22:19:07 น.

วันนี้สอบ Finance: Investment ข้อสอบง่ายจนน่าตกใจ แต่น้อง mer ก็ทำเรื่องโง่ๆ ลงไปแล้ว เพราะทำแสดงวิธีทำข้อใหญ่ผิด เสียไปเต็มๆ 7 คะแนน ซวยแน่ๆ งานนี้ เพราะ MEAN คงสูงมาก คาดว่าคงถูกเหยียบแบนแต๊ดแต๋

รายการต่อไป...

วันศุกร์สอบ International Trade: Theory and Policy ชีทหนา 122 หน้า ยังไม่เคยแม้หยิบขึ้นมาอ่าน แถมเรียนก็ไม่รู้เรื่องตั้งแต่คาบที่ 3 แล้ว ฮ่า...ๆๆๆ เอิ๊กๆๆๆๆ

โดย: merveillesxx IP: 203.209.117.181 วันที่: 21 ธันวาคม 2548 เวลา:16:06:21 น.

กรี๊ด ค่ะ กรี๊ด ...กรี๊ด โว้ย กรี๊ด เฟ้ย จ๊ากก อ๊ากก ย้ากกก

Invisible Waves ของ เป็นเอก รัตนเรือง ได้เข้าสายประกวดหลักเบอร์ลิน จ้า

(จริงๆ รู้มาสักพักแล้ว แต่มันเพิ่งคอนเฟิร์มอ่ะ ดีใจๆๆๆๆๆ)

อ่านรานละเอียดที่ //www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=24301

ประธานกรรมการเบอร์ลินปีนี้คือ ...ป้า ชาร์ล็อต แลมปลิ้ง (โอ้ ป้าเปรี้ยวหลาย)

โดย: merveillesxx IP: 203.209.117.181 วันที่: 21 ธันวาคม 2548 เวลา:16:13:24 น.

ไปตั้งกระทู้ไว้แล้วนี่

เค้าไปตอบแล้วด้วยจ้า

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 21 ธันวาคม 2548 เวลา:17:23:01 น.

ไปตอบมาแล้วเหมือนกัน
แต่เข้ามาตอบในบล็อกอีก
ตามประสาแฟนพันธุ์แท้บล็อกนี้

บทหนังเรื่อง Invisible Waves ก็ยอดเยี่ยมอีกเช่นเคย
แค่อ่านบรรทัดแรกก็ตะลึงไปหลายวัน (เวอร์ จริงๆ เรา )

ทำข้อสอบดีๆ เน้อ

อ้อ ๆ ไปดูคิงคองมาแล้ว
ยาวจัง บางฉากก็ดูแล้วทรมานอ่ะ
ตัวอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด
ดูแล้วอยากหดเท้าขึ้นมาไว้บนเก้าอี้

แต่ก็ถือว่าเป็นหนังรักเรื่องหนึ่งเนอะ

โดย: grappa

วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:10:47:57 น.

ดีแล้วที่ยังไม่ได้อ่าน

หัดได้อะไรที่ไม่ใช่เอบ้าง

เห็นเกรดแล้วจะเป็นลม ไม่เคยสัมผัสแบบนี้บ้าง

โดย: I will see U in the next life.

วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:23:21:08 น.

วันนี้สอบ International Trade ---- แย่มาก แย่ที่สุด ไม่ขอพูดถึง ขออย่างเดียวอย่าตกมีนเยอะ ไม่อยากให้มี Drop W ในทรานสคริปส์ เฮ่อ....

รู้สึกไม่ค่อยดีเลย สอบมา 3 ตัว ทำได้ไม่ดีเท่าไร ข้อสอบก็ไม่ได้ยากมาก แต่ก็พลาดเพราะ จำไม่ได้บ้าง เบลอบ้าง มึนบ้าง คิดไม่ออกบ้าง ที่เค้าว่ายิ่งเรียนยิ่งโง่สงสัยจะจริงมั้งเนี่ย (สิ่งหนึ่งที่ทำให้คิดแบบนั้นเพราะเดี๋ยวตัวเองจำอะไรได้เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น และลืมไปในเวลารวดเร็ว สันนิษฐานว่าสมองส่วน Long Term Memory มันคงเสื่อมลงแล้ว เฮ้อ แย่จัง)

รายการต่อไป... วันจันทร์สอบ General Knowledge of Film วิชานี้แหละคือความหวังของน้อง mer จะเอาท็อปให้ดู คอยดูสิ หึหึหึหึหึหึหึหึ (หัวเราะแบบเย็นๆ)

-------------------------------

หนังที่ได้ดูในช่วงนี้

1. It's All About Love (2002, โธมัส วินเทอร์เบิร์ก, A-)

หนังถ่ายภาพสวยดี แต่ที่ชอบมากก็คือ เรื่องนี้แคลร์ เดนส์สวยมาก (เอ๋ จำไม่ได้หรือว่าเธอคือใคร ก็นางเอกเรื่อง Romeo+Juliet ไง)

**หนังเรื่องนี้มี DVD ลิขสิทธิ์ของค่าย Pacific

-----------------------------

ถึง เช่

ไม่รู้จะเข้ามาอ่านมั่งป่าว แต่ขอบคุณมากเลยนะที่โทรมาเมื่อเช้า (ก่อนเข้าห้องสอบ) ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย ไว้สอบเสร็จก่อนแล้วกันนะ...คนดี

โดย: merveillesxx

วันที่: 23 ธันวาคม 2548 เวลา:16:06:28 น.

-- กระทู้ Invisible Waves ที่ PANTIP.COM
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3969047/A3969047.html
(เขาบอกมาว่าหนังจะฉายบ้านเราในเทศกาล BKKIFF ปีหน้า ซึ่งจะไปจัดที่สยามพารากอน)

-- ย้ำอีกที 23-25 ธ.ค. นี้ ใครว่างๆ แวะไปดู BEFF เทศกาลหนังทดลองที่สวนลุมด้วยนะจ๊ะ ...หนังบางเรื่องอาจจะไม่มีโอกาสได้ดูอีกแล้วก็ได้
ดูรายละเอียดที่ //www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=24311

-- ช่วงนี้มัวแต่สอบเลยไม่ได้แวะแผงหนังสือ อยากถามว่า MAXIM เล่มใหม่ที่ "แตงโม" ขึ้นปกออกรึยังครับ (ฟ่อ ฟ่อ ...ปกติไม่เคยซื้อหนังสือเล่มนี้เลยนะ ซื้อเพราะแตงโมอย่างเดียวเลย)

-- พูดถึงแตงโม แล้วก็นึกถึงละครเรื่องใหม่ของ อั้ม-พัชราภา (สองคนนี้นับวันหน้ายิ่งคล้ายกันจนจะเป็นแสตนด์อินแทนกันได้อยู่แล้ว) ไม่รู้ว่าเมื่อไรช่อง 7 จะเลิกใช้มุกให้นางเอกเป็นฝาแฝดมาตบตีกันซะที

-- ปีใหม่นี้คงอดไปแร่ด countdown นอกบ้าน (เพราะสอบยาว) แต่เมื่อวานดูข่าวเห็นว่า สยามพารากอน เค้าจะจัดงานยิ่งใหญ่อลังการอีกแล้ว (ประมาณว่าฟูดแอนด์ดริงค์ ระดับอินเตอร์เนชันแนล ...สงสัยคงจะไม่ฟรีมั้งเนี่ย) นอกจากนั้นยังมีโชนดนตรี 6 โซน พร้อมดีเจอิมพอร์ตมาเปิดแผ่นด้วย (เอ้อ ค่อยน่าสนหน่อย)

-- เมื่อวานใครได้ดู เต๋า-สมชาย แถลงข่าวบ้าง ใครก็ได้ช่วยสรุปให้ผมฟังทีว่าเค้าพยายามจะพูดอะไรกันแน่ (หลังจากทนดูอยู่ 2 นาที ผมก็หมดความอดทน และเปลี่ยนช่อง...)

-- รักคนอ่านนะ

โดย: merveillesxx

วันที่: 23 ธันวาคม 2548 เวลา:17:39:30 น.

ตอบ พี่สาวไกด์

ณ วันนี้ Last Life in the Universe ยังคงเป็นหนังไทยที่ผมชอบมากที่สุดครับ (อีกเรื่องที่ชอบพอๆกันก็คือ "สัตว์ประหลาด" ของพี่เจ้ย)

----------------------------

ตอบ พี่ grappa

คิดว่าการแสดงของ นาโอมิ วัตต์ส ในเรื่อง King Kong น่าสนใจดี เพราะเธอไม่ค่อยมีบทพูดเท่าไร (3/4 ของเรื่องเธอก็ถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา จนน่าจะได้รางวัล "นางเอกอึดแห่งปี" ไปครองได้แล้ว)

แต่การสื่ออารมณ์ด้วยใบหน้าของเธอในช่วง 30 นาทีสุดท้ายของหนังถือเป้นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก

ชอบ "ประโยคสุดท้าย" ของหนังเรื่องนี้มากๆ แต่ไม่ชอบบทบรรยายไทยของหนังเรื่องนี้ ผมไม่ค่อยถูกชะตากับการแปลของผู้แปลคนนี้สักเท่าไร แต่ก็ยังดีกว่าตอน War of the World

-----------------------------------

ตอบ พี่เจอกันชาติหน้า

ไม่ได้ A ทุกวิชาหรอกนะ

วิชารัก ติด "รอ" ประจำ (รอ เฉยๆนะ ไม่ใช่ รอดอ อิอิอิ)

โดย: merveillesxx

วันที่: 23 ธันวาคม 2548 เวลา:17:47:20 น.

เห็นทางโรงหนัง HOUSE อัพเดทโปรแกรมหนังจนถึงช่วงต้นปีหน้าแล้ว เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ (ติดตามรายละเอียดได้ที่ //www.houserama.com )

29 Dec 05 - Duck Season

หนังขาวดำจากเม็กซิโกที่เคยเข้าฉายบ้านเราไปแล้วในเทศกาลบางกอกฟิล์มเมื่อต้นปี เพื่อนผมคนนึงได้ดูแล้ว บอกว่าหนังดีมาก (ถ้าจำไม่ผิดคุณแมดเดอลีนเคยเขียนถึงหนังเรื่องนี้ไว้ใน BIOSCOPE ฉบับหน้าปก Constantine)

12 Jan 06 - Lan Yu (B+)
หนังเกย์โด่งดังของ ผกก. แสตนลี่ย์ กวาน เรื่องรักระหว่างเสือไบกับเกย์หนุ่ม ใครชอบหนังเกย์จริงจัง ไม่แต๋วสติแตกแบบ Formula 17 คงเข้าทาง (แต่ผมเคยดูแล้วรู้สึกว่าหนังมันเชยๆ ยังไงไม่รู้)

26 Jan 06 - An Unfinished Life

นำแสดงโดย โรเบิร์ต เรดฟอร์ด, เจโล (เออ ยัยนั่นแหละ), มอร์แกน ฟรีแมน ผลงานของผกก.ชาวสวีเดน Lasse Hallstrom ที่เคยทำหนังอย่าง My Life as a Dog (1985), What's Eating Gilbert Grape (1993), The Cider House Rules (1999), Chocolat (2000) และผลงานล่าสุดของเขาคือ Casanova ที่นำแสดงโดย ฟลุ้ค เกริกพล เอ๊ยยย ไม่ใช่ ฮีท เลธเจอร์ กับ เซียนน่า มิลเลอร์ (ตกลงยัยนี่เป้นอะไรกับ จู๊ด ลอว์ กันแน่ ผมงงไปหมดแล้ว)

2 Feb 06 - Mongolian Ping POng

หนังอะไรหว่า... หาข้อมูลไม่เจอง่ะ

16 Feb 06 - Brokeback Mountain

ไม่ต้องพูดอะไรมาก นี่คือหนังที่ทุกคนรอคอย...

เอ้า บอกหน่อยก็ได้นี่คือการ "คัมแบ็ค" ที่ยิ่งใหญ่ของ ผกก.อั้งลี่ (หลังจากตายสนิทกับ "มนุษย์เชียว-The Hulk") นี่เป็นหนังคาวบอยเกย์ที่นำแสดงโดย ฮีท เลธเจอร์ และ เจค กิลเลนฮาล (กรี๊ด) หนังได้รางวัลสิงโตทองคำขากเวนิซ ส่วนตอนนี้ก็กำลังตะลุยกวาดรางวัลไปทั่วสารทิศ ...และไม่แน่เราอาจจะได้เห็นหนังเรื่องนี้เฉิดฉายบนเวทีออสการ์ (สถาบันที่ผมไม่เคยเชื่อถือมา 3-4 ปีแล้ว อิอิ)

(โปรดสังเกตเค้าเอาหนังเรื่องนี้เข้าฉายรับช่วง "วาเลนไทน์")

2 Mar 06 - The Constant Gardener

หนังใหม่ของ ผกก.เฟอร์นานโด เมเรลเลส (City of God อันโด่งดัง) นำแสดงโดย เรล์ฟ ฟายน์ส (ชาตินี้ทั้งชาติฉันก็ไม่มีวันสะกดชื่อเค้าถูก) และ ราเชล ไวซ์ ...ว่ากันว่างานนี้ เรล์ฟ ฟายน์ส กลับมาเล่นเป็น "คนปกติ" แล้ว (ฮา)

9 Mar 06 - Broken Flowers

หนังของผู้กำกับหัวขาว (ขาวจริงๆ ไม่ได้ขาวเพราะแก่) จิม จาร์มุช นำแสดงโดย บิล เมอร์เร่ย์ และนักแสดงหญิงอีกมากมาย หนังคว้ารางวัลกรังปรีซ์มาจากคานส์

30 Mar 06 - U-Carmen

ถ้าเข้าใจไม่ผิดนี่คือหนังเรื่อง U-Carmen e-Khayelitsha (โอ พระเจ้ามันอ่านว่าอะไรล่ะเนี่ย) หนังมิวสิกเคิล-ดราม่าจากประเทศแอฟริกาที่คว้ารางวัลหมีทองคำจากเบอร์ลินมาได้

(ถ้า Invisible Waves ได้น้องหมีมาบ้าง มีหวังกรี๊ดบ้านแตก)

โดย: merveillesxx

วันที่: 23 ธันวาคม 2548 เวลา:18:47:32 น.

อยากดูขึ้นมาทันที

Merry Christmas & Happy New Year 2006 ค่ะ

โดย: น้ำเงี้ยว

วันที่: 23 ธันวาคม 2548 เวลา:19:13:42 น.

เอาการ์ดมาฝากค่ะ เพิ่งทำเสร็จ
Merry Christmas & Happy New Year 2006

โดย: น้ำเงี้ยว

วันที่: 23 ธันวาคม 2548 เวลา:20:18:57 น.

อยากดูมากที่สุด ...The Constant Gardener(ดีใจจังนึกว่าจะไม่เข้าแล้ว วันก่อนลังเลจะหยิบแผ่น แต่คิดว่ารอลุ้นหน่อยเผื่อมีคนใจดีซื้อมาฉาย)

อยากดูมาก...Broken Flowers (อยากดู ชารอน สโตน เกี่ยวมั้ยเนี่ย

) / Brokeback Mountain

ดูแล้วเหมือนกัน ... It's All About Love (ชอบงานกำกับศิลป์กับถ่ายภาพเหมือนกันครับ แต่ดูแล้วไม่ชอบเลย หนังเหมือนหลงทางยังไงไม่รู้ ดูจบก็แบบ อืม มันคงมีอะไรแฝงแต่เราจับไม่ได้แหงๆ และ ฌอนน์ เพนน์ มาแค่นี้เอง)

... โชคดีในการสอบนะครับ / Count down ปีนี้สงสัยข้าพเจ้าได้นั่งเคาท์หน้า blog แหงๆ เฮ้อ

ปล ... อาทิตย์นี้เหงา ไม่มีหนังเข้าโรงน่าสนใจให้เสียตังค์

โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"

วันที่: 23 ธันวาคม 2548 เวลา:20:26:26 น.

ตามมาอ่านตามคำแนะนำของพี่อ้อมน่ะค่ะ

โดย: Tumble

วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:2:51:51 น.

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3955929/A3955929.html

ความคิดเห็นที่ 5

ดูแล้ว ได้แง่คิดว่า ชายหญิง คู่สามี ภรรยา หรือ แฟน กัน เมื่อคบกันแล้ว การกระทำ หรือ ข้อตกลง บ้างอย่าง อย่าให้ผู้ชายเป็นฝ่ายคิดแทนนะครับผม

จากคุณ : พิงค์แพนเตอร์ - [ 15 ธ.ค. 48 23:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6

เฉพาะบางเรื่องนะ คร๊าบบบ

จากคุณ : พิงค์แพนเตอร์ - [ 15 ธ.ค. 48 23:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7

... เมื่อวาน ผมหยิบ Christmas in August หนังรักอันดับ 2 ในชีวิต มาดูอีกรอบแล้วก็น้ำตาซึมอีกรอบ และ ก็ประทับใจอีกรอบ แล้วเขียนเสร็จใส่บล็อกเก็บเป็นความประทับใจก่อนที่จะไปดู April Snow ในวันนี้

....หลายปีก่อน ผมเคยมีวิดีโอ One Fine Spring Day จากร้านลูกแมว แต่ผมดูยังไม่ทันจบจำไม่ได้ว่าด้วยเหตุอันใด และ มันก็หายไปกลายเป็นหนังที่ผมดูไปครึ่งเรื่อง

....วันนี้ ไปดู April Snow มา อาจเพราะความประทับใจที่ยังค้างเต็มเปี่ยมจากเมื่อวาน มันจึงทำให้ผมเกิดเปรียบเทียบในความรู้สึกไม่ใช่ในแง่ตัวหนัง April Snowไม่กระแทกความรู้สึกได้ลึกเท่า Christmas in August และ ไม่กินใจในกรณีชู้รักของชู้รักได้เท่า In the Mood of love

... แต่มันเป็นหนังที่ เจ็บที่ใจ ขณะดู และมีตอนจบที่ผมชอบมากอีกเรื่องหนึ่ง (และ ฉากวาบหวามของซอนเยจิน)

ปล ... ดนตรีและเพลงประกอบเพราะมาก + หิมะในเรื่องสวยมาก

ปล 2 ... ขอบคุณสำหรับบทวิจารณ์หนังไม่ได้อ่านมานานแล้ว

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 15 ธ.ค. 48 23:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8

เขียนคำวิจารณ์ได้ลึกซึ้งดีค่ะ แต่ตกลงว่าตอนจบ พระเอก-นางเอก เค้าอยู่ด้วยกันหรือเปล่าค่ะ

จากคุณ : ดินสอสี พู่กัน ฯ - [ 16 ธ.ค. 48 02:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9

.........ตามลิงค์มาอ่านครับ เขียนได้ดีเช่นเคยนะครับ อ่านง่ายด้วย ไม่รู้สึกเลยว่ายาว ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบหนังสไตล์เฮอ จินโฮ เท่าไหร่ แต่ก็ได้ดูครบทั้งไตรภาค ( สองเรื่องแรกดูที่บ้าน ภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะ christmas เป็นวีดีโอเถื่อนจากร้านแถวท่าพระจันทร์ คุณภาพแย่มาก เล่นเอาเซ็งๆเหมือนกัน ) april snow ดีใจได้ดูโรง หนังมาแบบเงียบๆ ไม่รู้ว่าจะถูกใจคนดูหนังส่วนใหญ่หรือเปล่า เพราะหนังมันค่อนข้างเรียบเรื่อยเอื่อยๆไปสักนิดนึง แต่ในแง่ของการแสดงนี่ สุดยอดจริงๆทั้งเบยองจุน และ เยจินของผม

จากคุณ : joblovenuk - [ 16 ธ.ค. 48 03:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10

ฮือออ หลงเข้ามาอ่าน
แล้วก็ดันมาเจอ christmas in august หนังเรื่องนี้ไม่ต้องดูซ้ำหรอกค่ะ แค่เห็นชื่อก็น้ำตาซึมแล้ว

จากคุณ : patsypacky - [ 16 ธ.ค. 48 10:33:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11

ชอบคะ
้เปรียบแล้วเห็นภาพ

จากคุณ : ผักรู้นอน - [ 16 ธ.ค. 48 13:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12

ชื่อ ผกก อ่านว่า ฮอจินโฮ นะครับ *.* ไม่ใช่ เฮอ

จากคุณ : PD2002 - [ 16 ธ.ค. 48 13:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13

ขอบคุณ คุณ merveillesxx...ที่ทำให้เข้าใจ ผู้กำกับหลงฤดูคนนี้ (เฮอร์จินโฮ )จาก Christmas in August , One Fine Spring Day จนถึง April Snow สำนวนคุณตรงใจมากคะ

จากคุณ : Frida - [ 17 ธ.ค. 48 13:22:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14

ขอบคุณมากๆเลยค่ะสำหรับรีวิว T_T
เราบอกตามตรงว่าเป็นคนดูหนังแล้วไม่ค่อยคิด ต้องอาศัยสปอยแบบนี้แหล่ะ แห่ะๆ ...แล้วก็รู้สึกดีกับหนังขึ้นมากเลยค่ะ รีวิวได้เยี่ยมจริงๆ

สำหรับเรา หนังเรื่องนี้ดูเอื่อยๆ ไปเรื่อยๆ แต่เก็บอารมณ์ได้ดีมาก นักแสดงก็สุดยอดจริงๆ เราดูแล้วอารมณ์ของหนังยังตามมาจนถึงตอนนี้เลย ..

จากคุณ : SLC#53 - [ 18 ธ.ค. 48 21:05:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15

ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับภาพยนตร์ April Snow(ลิขิตพิศวาส)

ผมเป็นผู้หนึ่งที่คอยติดตามข่าวคราวภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปลายปี 2547 เป็นต้นมา ก็ตั้งแต่ตอนที่มีข่าวว่า เยจิน นั้น จะมีผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่กับนักแสดงดังชั้นแนวหน้าของเกาหลี ไม่ใช่สิ ต้องเป็นชั้นแนวหน้าของเอเชีย อย่าง แบยงจุน ในตอนนั้นผมเองยอมรับว่า ผมรู้สึกเป็นห่วง เยจิน มากๆ ว่าเธอจะสามารถแสดงประกบคู่กับนักแสดงฝีมือเยี่ยมอย่าง แบยงจุน ได้เช่นไร แต่พอได้ติดตามข่าวคราวต่างๆ ที่มีออกมาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง และรับทราบจากบทสัมภาษณ์ต่างๆ จากทั้งทางผู้กำกับ และเพื่อนนักแสดง ก็ทำให้พอทราบได้ว่า เยจิน นั้นสามารถแสดงร่วมกับนักแสดงชั้นแนวหน้าของเกาหลีได้อย่างทัดเทียมไม่น้อยหน้ากันเลย แต่นั้นก็ยังไม่ทำให้ผมเชื่อได้สนิทใจว่าเธอจะแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ในบทบาทที่เรียกได้ว่าพลิกบทบาทครั้งยิ่งใหญ่ได้อย่างที่ข่าวมีออกมาเลย จนมาถึงวันนี้ ผมได้สัมผัสถึงพรสวรรค์ทางการแสดงของ เยจิน ที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ความนึกคิดต่างๆ ของตัวละครที่เธอสวมบท ออกมาให้ผมเข้าใจ และเห็นใจท่ามกลางการดำเนินเรื่องราวไปอย่างเรื่อยๆ และเรียบง่าย ได้อย่างยอดเยี่ยมและไม่น่าเชื่อ นั่นก็ทำให้ผมคิดว่า เยจิน ไม่ใช่เป็นเพียงนักแสดงฝีมือเยี่ยมที่แสดงภาพยนตร์หรือละครซึ่งเน้นผู้ชมทุกเพศทุกวัย อย่างที่บ้านเราเรียกกันว่าหนังตลาด แต่เธอเลื่อนชั้นเป็นนักแสดงภาพยนตร์คุณภาพ หรืออาจเรียกได้ว่าเธอเป็นศิลปินตัวจริงแล้วในขณะนี้

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เยจิน ได้ทำให้ผู้ชมอย่างเราๆ ได้เห็นถึงความงามอันเรียบง่ายเป็นธรรมชาติของหญิงสาวที่เป็นแม่บ้านซึ่งสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้แล้ว เธอยังทำให้ผู้ชมที่เป็นผู้ชาย ก็อาจไม่ใช่ทุกคนนะครับ แต่อย่างน้อยก็เป็นผมคนหนึ่งล่ะ ที่ได้ทราบธรรมชาติของหญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรักนั้น มีความรู้สึก และมีอาการแสดงออกมาอย่างไร ซึ่งจากที่กล่าวมานั้นสรุปได้เลยว่า เยจิน นั้นเข้าถึงตัวละคร โซยัง ได้อย่างถึงบทบาท และเข้าใจเรื่อง April Snow ได้อย่างลึกซึ้งด้วย

ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ผมกล่าวแต่ความสามารถทางการแสดงของ เยจิน เท่านั้น ในเรื่องนี้ เยจิน ได้ทำให้ผู้ชมอย่างผมได้ทราบว่านักแสดงที่สมบูรณ์แบบนั้นเป็นเช่นไรด้วย โดย เธอ นั้นไม่ได้มีเพียงแต่ความสามารถทางการแสดงอันยอดเยี่ยมเพียงอย่างเดียว แต่เธอยังทำให้ผมเห็นถึงรูปร่างหน้าตาที่สวยงามสมบูรณ์แบบ รูปร่างสัดส่วนที่ดูสมส่วน และดูดี มีอยู่หลายฉากที่เป็นฉากเลิฟซีน และบางฉากก็เป็นฉากที่เธอต้องใส่เพียงชุดชั้นใน เยจิน นั้นได้ใช่ความงามทางร่างกายผสานกับพรสวรรค์ทางการแสดงของเธอ ทำให้ฉากต่างๆ เหล่านี้ดูงดงาม และดูเป็นศิลปะได้อย่างกลมกลืนด้วย

สำหรับการดำเนินเนื้อเรื่อง อาจดูเหมือนว่าเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรมาก แต่หากผู้ชมเรื่องนี้ ได้รู้จักถึงสไตล์การทำภาพยนตร์ของผู้กำกับ เฮอจินโฮ คนนี้แล้ว ก็จะพบว่า ในเนื้อเรื่องทุกฉากทุกตอน ทุกความรู้สึก นึกคิดของตัวละคร ได้ถูกใส่รายละเอียดต่างๆ เพื่อสร้าง และดึงอารมณ์ของผู้ชมให้คล้อยตามตัวเนื้อเรื่องได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และตัวเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ก็ถูกออกแบบให้ต้องอาศัยความสามารถทางการแสดงของนักแสดงเป็นสิ่งช่วยให้ผู้ชมเข้าใจเนื้อเรื่องหรือเรื่องราวต่างๆ ได้ง่าย ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่นับได้ว่ามีบทพูดอยู่ไม่มากก็ตาม โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่หากผู้ชมต้องการได้อะไรจากภาพยนตร์เรื่องนี้ไปมากๆ แล้ว ก็คงจะต้องชมภาพยนตร์ซ้ำอีกเป็นรอบที่สอง รอบที่สาม หรือจะมากกว่านั้นก็ยิ่งดี แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำผู้ชมที่เป็นผู้ปกครองบุตรหลานของท่าน ขอให้พิจารณาความเหมาะสมในการชมภาพยนตร์เรื่องนี้สำหรับบุตรหลานของท่านด้วย เพราะว่าเนื้อหาของภาพยนตร์ ค่อนข้างเป็นสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ และเป็นเรื่องผิดศิลธรรม จึงไม่เหมาะสมอย่างมากสำหรับบุตรหลานของท่านครับ

ส่วนทางด้านนักแสดงนำชาย แบยงจุน โดยความเห็นส่วนตัว ผมว่าเขาแสดงได้ยอดเยี่ยมและถึงบทบาทเช่นเดียวกับ เยจิน ดูได้จากการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ระหว่างแบยงจุน กับ ซอนเยจิน นั้นทำได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมประทับใจภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็เห็นจะเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ ด้วยท่วงทำนองที่สามารถดึงความรู้สึกเศร้าหมอง หมดสิ้นความหวัง และรู้สึกผิดบาป หรือแม้แต่ในช่วงเวลาที่มีความสุขเพียงเล็กน้อยก็ตาม ก็ถูกถ่ายทอดออกมาได้ถูกต้องตามจังหวะอารมณ์ของภาพยนตร์ ซึ่งก็ทำให้ในช่วงเวลาเกือบสองชั่วโมงที่ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องไป ผมจึงไม่รู้สึกง่วงหรือเบื่อหน่ายแม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวเลย

จากที่ได้ชมภาพยนตร์ April Snow ในวันนี้ ผมขอสรรเสริญในความสามารถของทั้งนักแสดงทุกท่าน ผู้กำกับ และผู้มีส่วนร่วมทุกท่าน ที่มีส่วนสร้างสรรผลงานอันทรงคุณค่านี้เพื่อให้ผู้ชมทั้งหลายได้มีทางเลือกในการรับชมภาพยนตร์เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย

Sorawit
ที่มา //www.sonyejin.in.th

จากคุณ : Sorawit_r - [ 20 ธ.ค. 48 07:20:57 ]

โดย: merveillesxx IP: 210.246.165.166 วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:16:59:06 น.

Merry Christmas & Happy New Year ล่วงหน้าครับ
ขอให้ Get A ทุกวิชานะครับ
:D

ป.ล. ยังไม่ได้ดูหิมะเดือนเมษาเลยครับ
กะว่าเดี๋ยวจะดูวันที่ 1 ต้อนรับปีใหม่ซะเลย หุหุ

โดย: it ซียู IP: 203.151.140.118 วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:22:41:56 น.

อ่าอ่านเพลินเลย
มา Merry Christmas ช้าไปหน่อย
ยังไงก็ขอให้ทำข้อสอบได้นะคะ
ขอให้ไดท๊อปอย่างที่หวังนะคะ

ส่วน April Snow คงไม่ได้ไปดูอ่ะค่ะ(คือ เรามีอคติส่วนตัวกับนักแสดงนำในเรื่อง ฮิฮิ เหตุผลงี่เง่าดีมั้ย

) รอดูตอนเป็นแผ่นละกัน

ปล.ชอบ One Fine Spring Day จังเลยค่ะ

โดย: tae IP: 202.133.139.76 วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:1:12:40 น.

มีใครสังเกตเห็นต้นไม้ในกระถางแห่งความรักเติบโตขึ้นบ้างไหมครับ ?

โดย: Dee IP: 203.170.161.248 วันที่: 27 ธันวาคม 2548 เวลา:13:54:19 น.

เพิ่งไปดู april snow มาด้วยความไม่ตั้งใจ
แต่แล้วกลับทำให้รู้สึกติดใจหนังเกาหลีมากขึ้นเป็นกองเลยค่ะ
จริงๆแล้วเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ไม่ค่อยจะโดนใจเท่าไหร่ คือมันพูดเรื่องความรักแบบไม่ถูกต้องน่ะค่ะ แต่ดูไปดูมากลับลุ้นให้เค้ารักกันเฉยเลย ผู้กำกับสร้างตัวละครให้คนดูรักได้แบบสุดใจเลยค่ะ
ตอนแรกกลัวว่าจะน่าเบื่อ เพราะหนังเกาหลีเท่าที่รู้จัก ขึ้นชื่อเรื่องความเงียบอยู่แล้ว
แต่เป็นสองชั่วโมงที่ได้พักผ่อนกับความเศร้า ความซึ้ง ความรักและบรรยากาศสวยๆในหนัง

ขอจำชื่อผู้กำกับไว้แล้วกันนะคะ จะได้คอยติดตามหนังของเค้าอีก

ปล.ไม่เคยคิดว่าเบยองจุนหล่อเลยนะ จนได้มาดูเรื่องนี้แหละ
ที่สำคัญ นางเอกน่ารักมากๆ

โดย: bamee IP: 61.91.205.145 วันที่: 30 ธันวาคม 2548 เวลา:2:14:14 น.

ชอบ ที่merveillesxx เขียนจัง รู้สึก ฉลาด + เก่ง ในการดูหนังยังไงไม่รู้ อยากรุ้จักจัง งิงิ ขอให้เขียนอีกเยอะๆๆน่ะค่ะ รออ่านอยู่
PS มีแฟนคลับ รึ แฟนยังค่ะ อยากสมัคร อิอิ

โดย: baddynut IP: 61.90.10.155 วันที่: 1 มกราคม 2549 เวลา:0:27:24 น.

ขอเพิ่มเติมนิดหนึ่งเกี่ยวกับ April Snow และหนังของ ผกก. คนนี้ (ที่จริงผมอ่านของนักวิจารณ์ฝรั่งมาอีกทีนะครับ) เขาบอกว่า ดูจากการเปิดตัวหนังเรื่อง One Fine Spring Day ที่ ผกก. ให้ทัศนคติว่า ผู้หญิงเกาหลีเลิกสนใจ"ครอบครัว" แล้ว แล้วเขาบอกว่าให้สังเกตจากหนังของ ผกก.คนนี้ Christmas In August (หนังที่เยี่ยมที่สุดในสามเรื่องในทัศนคติของผมเอง อาจเป็นเกาหลีที่ดีที่สุดก็ได้) พระเอกไม่มีแม่มีแต่พ่อ (Mother-less) ลูกสาว(พี่สาวของพระเอก) ทำกับข้าวไม่ได้เรื่อง (และอาจจะถึงหลานสาวก็ได้ ในบทพูด) ส่วนเรื่อง April Snow พระเอกไม่มีแม่ยายครับ มีแต่พ่อตา (Mother-in-law less) และเขาบอกต่อว่า หนังของ ผกก. คนนี้ เหมือนเป็นการแก้แค้นของ Good boy ที่ผู้หญิงของเขาทำให้เจ็บปวด อย่างใน One-Fine-Spring-Day และ April Snow ... ที่พระเอกพูดว่า "Get Revenge" ...

โดย: Rainny IP: 203.113.76.73 วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:10:57:06 น.

ต่อครับ ... นักวิจารณ์คนเดิม เขาบอกว่า April Snow ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในเกาหลี แต่สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในญี่ปุ่น เพราะเรื่องนี้เขาสร้างเพื่อตลาดญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ... พระเอก แบยองจุน เป็นพระเอกขวัญใจแม่บ้านญี่ปุ่นเลยครับ ต่อมาบทสนทนากลางเรื่องอันเป็นจุดเปลี่ยนของหนัง ที่นางเอกบอกว่า "ผู้หญิงทำงานน่าสนใจกว่า แม่บ้าน" แต่พระเอก ตอบว่า "ไม่จริงผู้หญิที่เป็นแม่บ้านน่าสนใจกว่า" และยังมีบทสนทนาที่นางเอกบอกว่า "เป็นแม่บ้าน" พระเอกบอกว่า "เป็นงานหนัก" ... แค่นี้ก็ชนะใจแม่บ้านญี่ปุ่นไปแล้วครับ

โดย: Rainny IP: 203.113.76.73 วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:11:47:48 น.

ขอบคุณครับ สำหรับบทวิจารย์

ตามมาจากพันทิพย์ครับ

กระทู้ Concert B day > กระทู้ 10 เพลงยอดเยี่ยมปี 48 > กระทู้ 10 หนังยอดเยี่ยมปี 48 > และก็มาบล๊อคนี้

โดย: Thirdwave IP: 125.24.6.77 วันที่: 11 มกราคม 2549 เวลา:21:39:56 น.

อยากรู้ เจ้าของblog เป็นเกย์หรอ

โดย: ต่างด้าว IP: 203.153.189.1 วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:23:37 น.

วิจารณ์ได้ดีมากเลยค่ะ
หนังเรื่องนี้ถ้าดาราไม่มีฝีมือ ดูไม่รู้เรื่องแน่ๆ
ทั้งเยจิน และ เบยองจุน เล่นดีจริงๆ

โดย: ariasama IP: 203.170.234.20 วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:2:23:26 น.

เรียน คุณ merveillesxx

ขอนำบทความของคุณ ไปโพสต์ ที่

//twssg.blogspot.com/ และขอขอบคุณ มา ณ ที่นี้ ด้วย

Roytavan

โดย: Roytavan IP: 125.25.18.140 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:00:43 น.