http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
16 มีนาคม 2548
 
All Blogs
 
Formula 17 – เกย์โทเปีย…เป็นแดนสวรรค์หรือเพียงฝันจำแลง?

โดย merveillesxx



เอาล่ะ..หนังเรื่องนี้ดังมากพอแล้วก็จริง แต่ก็อยากจะบอกอะไรกับคุณคนอ่านก่อนว่า…
หนังเรื่องนี้ทำรายได้กระฉูดที่ไต้หวัน (กรี๊ดดดด!!)
หนังเรื่องนี้ถูกแบนสนิทที่สิงคโปร์ (ว้า…)
หนังเรื่องนี้ถือครองสถิติหนังทำเงินสูงสุดของโรงหนังเฮ้าส์ (วู้ววว!!)
แถมมันยังทำให้เกิดปรากฏการณ์คนดูมืดฟ้ามัวดิน จนทำให้เฮ้าส์อยากจะเปลี่ยนชื่อเป็น House of PURPLE Daggers (ฮา)
แบบนี้เจ้าของโรงอาจจะคิดเปลี่ยนเฮ้าส์เป็นโรงหนังที่ฉายแต่หนังเกย์ล้วนๆไปซะเลย (เย้!! – เอ๊ะ..เสียงใครหว่า)
อ้อ..แถมอีกหน่อยก็คือ คำโปรยบนปกดีวีดีเขาว่าไว้ว่า “หนังเกย์ อารมณ์ดีดี๊ ที่ไม่ต้องมีรางวัลจากคานส์มาการันตี” (แสบจริงๆ!!)

อย่างที่รู้กันว่าหนังเรื่องนี้ประสบสำเร็จถล่มทลายขนาดไหนในบ้านเรา มันน่าคิดไหมว่าต่อไปเทรนด์การนำหนังเกย์กุ๊กกิ๊กแบบนี้เข้าฉายในบ้านเราจะมีมากขึ้น? (แต่อย่าคิดเลยเถิดไปถึงขั้นที่ว่า ‘หนังเกย์’ จะกลายเป็นแนวหนังกระแสหลักสำหรับหนังไทยเลยนะครับ อย่าลืมว่าครับว่าประเทศเราคือประเทศที่ยังเถียงกันไม่จบเรื่อง ‘ห้ามกะเทยเป็นครู’ หรือ ‘ห้ามตุ๊ดออกทีวี’ ใช่แล้วครับ ในขณะที่ภาคใต้ยังมีคนตายรายวันนั่นแหละครับ) หา…อะไรนะ คิดว่าไม่งั้นเหรอ? เอาล่ะ…งั้นคุณรู้มั้ยว่าทำไมซีรี่ย์สุดฮิตอย่าง ‘รักร้อยแปดพันเก้า’ ยังอุตส่าห์ถ่อมาถึงปีสองได้ แล้วรู้มั้ยว่าจริงๆน่ะ ‘นายที’ แกต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว!! แต่ดูสิทุกวันนี้ตาคุณจอนกับทียังเดินฉวัดเฉวียนล่อน้ำลาย..เอ๊ย!! น้ำตาของเราอยู่ในจอเลยนะคู้ณณณณ…

เอาเถิด นั่นมันเป็นเรื่องของอนาคต…มาพูดถึงตัวหนังกันดีกว่า โอเคครับ ผมได้ดูหนังเรื่อง Formula 17 (จากดีวีดี) แล้วครับ ด้วยความสัตย์จริง ผมโคตรจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้เอาซะเลย! อ๊ะอ๊ะอ๊ะ อย่าเพิ่งคิดไปเองว่าผมเป็นพวกเหยียดเพศเกย์นะครับ ขอบอกให้ทราบก่อนว่าหนังเรื่องหนึ่งที่ ‘เปลี่ยนชีวิต’ ของผมเนี่ยก็คือ Happy Together (1997, หว่องกาไว) นะคร้าบ ซึ่งเรื่องนี้เหลียงเฉาเหว่ยกับเลสลี่ จางแกก็เล่นเป็นคู่เกย์กันนั่นแหละ แถมยังมีฉากโรมรันพันตูตั้งแต่ต้นเรื่องเชียวนะ เพราะฉะนั้นข้อสันนิษฐานที่ว่าเชิญตัดไปได้เลยครับ…คุณคือจุดอ่อน! เชิญค่ะ! (อ้อ..แต่หนังที่ว่านี่นอกจากจะเปลี่ยนชีวิตผม แล้วยัง ‘เปลี่ยนเพศ’ ผมด้วยหรือเปล่า อันนี้ขอเชิญกันมาคุยหลังไมค์นะฮ้า~)

ทำไมผมถึงไม่ชอบหนังเรื่องนี้น่ะเหรอ? ได้…ผมจะบอกให้คุณฟัง เริ่มจากเนื้อเรื่องของมันก่อนนะ พระเอกของเราเป็นหนุ่มน้อยบ้านนาที่เข้ามาเมืองกรุงเป็นครั้งแรก หนุ่มน้อยยึดมั่นศรัทธาในรักแต่ต้องหวั่นไหวจากเพลย์บอยตัวร้ายเจ้าของฉายา ‘ฟันแล้วทิ้ง ชิ่งไม่เลือก’ หนุ่มน้อยมิอาจทนแก่ความวาบหวามในจิตใจ จึงทำให้เขาตกลงปลงใจร่วมหอลงเสาเข็ม (โปรดจินตนาการภาพเอาเอง) ร่วมกับนายตัวร้ายจนได้ แต่แล้วอยู่ๆ อีตาเพลย์บอยก็ชิ่งหนีไปซะงั้น หนุ่มซื่อของเราช้ำใจเตรียมจะกลับบ้านนอก แต่ฝ่ายชายโฉดกลับรู้ตัวว่า “โอ้ว..เรารักเขาเข้าแล้ว” ว่าแล้วก็ภาวนาขอพรต่อพระเจ้าให้ได้พบกับคนรักอีกครั้ง ดั่งสวรรค์เป็นใจ ทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง และครองรักกันอย่างมีความสุข…เอ้า เด็กๆเข้านอนได้แล้วจ้า…จบแล้ว หาอะไรนะ!…เออ จบแล้ว!

จุดบอดข้อใหญ่ของหนังเรื่องนี้ก็คือ ‘บทหนัง’ ที่อ่อนแอ ไร้ซึ่งน้ำหนัก ขาดหลักเหตุและผล และความชัดเจน

ขอเริ่มตัวอย่างจากฉากแรกๆก่อน พระเอก (เอ๊ะ หรือนางเอก) ของเรา ‘โจวเทียนไฉ’ (โทนี หยาง) นัดพบกับเพื่อนทางอินเตอร์เน็ต ความไม่น่าเชื่อถือที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ว่าเขาชวนพระเอกของเราไปมีอะไรกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แต่มันคือ เพื่อนออนไลน์คนนี้เขาหล่อมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ซึ่งจากประสบการณ์เล่นเน็ตมา 7 ปีของดิฉัน ดิฉันขอยืนยันค่ะว่า “มันไม่มีทางเกิดขึ้น!!” ทั้งนี้คอมพิวเตอร์สมองกลของสถาบันวิจัยของเราให้คำตอบออกมาเป็นเอกฉันท์ค่ะว่า “เพ้อเจ้อ” …แต่ว่านะคะ ถ้าใครทราบว่าห้องแชตหรือ MSN แหล่งไหนมีคนหน้าตาประมาณนี้อยู่กันเป็นหมู่คณะล่ะก็ โปรดแจ้งมานะคะ ดิฉันจะไปตามหาสุดหล้าฟ้าเขียว อ้อ! ทางเรามีของสมนาคุณให้กับผู้แจ้งเบาะแสค่ะ (เอ๊ะ ไม่ใช่รายการตามล่าหาความจริงนะ)

ตัวอย่างถัดมาคือ เรื่องของนายตัวร้ายของเรา ‘ไป๋เถียนหนาน’ (ดันแคน)…หน้าแบบนี้เนี่ยนะที่ฟันหนุ่มๆมาทั่วราชอาณาจักร โอ้ นี่รสนิยมคนไต้หวันบิดเบี้ยวไปขนาดนี้เชียวหรือ นี่ถ้าไม่บอกก็นึกว่า ก้อง สหรัฐ มาเองนะเนี่ย ดีนะว่าในหนังเค้าไม่พูดคำประมาณว่า “โดโซะ” ด้วย …ความไม่น่าเชื่อถือขั้นต่อมาก็คือหนังไม่สามารถทำให้เรารู้สึกเลยว่านายคนนี้คือ ‘เพลย์บอยตัวฉกาจ’ แม้หนังจะบอกเล่าด้วยบุคลิกท่าทางไฮโซสุดเดชหรือการตัดภาพเขาตอนหลังเสร็จกามกิจซ้ำๆซากๆ แต่ในสายตาผม เขาก็คือไอ้หนุ่มมีตังค์ที่เซ็กส์จัดและมีปัญหาทางจิต…แค่นั้นแหละ

ประเด็นที่ใหญ่ที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องที่ว่าสองหนุ่มนั้นลงเอยกันได้แฮปปี้ดี๊ด๊าเสียเหลือเกิน (นะยะหล่อน!)

แต่…ช้าก่อนนนนน…ถ้าท่านโทรเข้ามาใน 10 นาทีนี้…เฮ้ย! ไม่ใช่…ช้าก่อน ดูเหมือนว่าการมองแบบข้างต้นจะดูอคติและใจร้ายไปหน่อยสำหรับหนังเรื่องนี้ ดังนั้นรายการกะเทยนานุกรมประจำวันนี้ เราขอเสนอคำว่า ‘เกย์โทเปีย’

เห็นได้ชัดว่าหนังเรื่องนี้คือดินแดนในอุดมคติ (ยูโทเปีย) ของเหล่าพลพรรคชาวเกย์ เริ่มจากว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีผู้ชายหรือผู้หญิงแท้ๆ แม้แต่คนเดียว! (ย้ำ..ไม่มีแม้แต่คนเดียว!) ตัวละครตั้งแต่พระนาง เพื่อนพระเอก เพื่อนนางเอก จนไปถึงตัวประกอบล้วนเป็นเกย์หรือบรรดาหนุ่มแตกสาวทั้งสิ้น ฉากที่ชี้ชัดประเด็นนี้สุดๆก็คือ ฉากคุณลุงที่ยืนอยู่ริมถนน แล้วถัดมาก็มีคู่ขา (ซึ่งลุงพอกัน) รับคุณเธอขึ้นรถไปซะงั้น (ซึ่งน่าเสียดายว่าผู้กำกับทำออกมาได้ ‘ประดักประเดิด’ ยิ่งกว่าการที่โคลิน ฟาร์เรลล์เล่นเป็นเกย์ในหนังเรื่อง Alexander เสียอีก) ดังนั้น Formula 17 จึงถือได้ว่าเป็น ‘เกย์โทเปีย’ โดยแท้จริง (โอ้ว...จอร์จ มันอาจจะเป็นหนังแนว (genre) ใหม่เลยก็ได้นะเนี่ย)

เพราะฉะนั้นในเมื่อผู้กำกับอุตส่าห์ดั้นด้นทำหนังมาถึงขนาดนี้ นั่นคือการเนรมิตโลกอุดมคติพร้อมด้วยนิยายรักที่จบอย่างสวยงาม ประเด็นที่น่าสนใจคงไม่ใช่พลังด้านศิลปะของหนัง แต่อยู่ที่ว่าหนังเรื่องนี้สร้างมา ‘เพื่ออะไร’ และจะ ‘สร้างแรงกระทบทางจิตใจแก่คนดู’ อย่างไรบ้าง…และอีกสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ (ดีเจ เฉิน) ไม่ใช่เกย์ แต่เธอเป็น ‘ผู้หญิง’ สองประเด็นที่เราจะสำรวจนั้นอาจจะบ่งบอกได้ว่าผู้หญิงอย่างเธอรู้สึกอย่างไรและมีความเข้าอกเข้าใจขนาดไหนกับบรรดาชนชาวสีม่วง

หนังเรื่องนี้สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร…คำถามนี้คงมีหลายคำตอบมากมาย ถ้าเราอ่านความระดับแรก โดยพิจารณาจากเนื้อหาในหนังนั้น เราจะเห็นได้ว่าความเป็น ‘ดราม่า’ ของหนังนั้นเป็นเฉกเช่นหนังรักธรรมดาโดยทั่วไป ตัวละครสองตัวมีการพบเจอ-เฝ้าใฝ่หา-ตกหลุมรัก-ฝ่าฟันอุปสรรค และได้ครองรักกันในที่สุด เพียงแต่ว่าตัวละครเอกทั้งสองไม่ใช่ ‘ชายกับหญิง’ แต่เป็น ‘ชายรักชาย’ บริบทของหนังส่วนนี้ต้องการบอกเราว่าพวกเขาเหล่านั้นก็ต้องการจะมี ‘วงจรความรัก’ ดังเช่นคนปกติทั่วไป พวกเขาเฝ้าใฝ่หาความรักปกติสามัญธรรมดาที่มั่นคงและยืนยาว

แต่มีผู้กล่าวไว้ว่าโลกของเกย์เป็น ‘โลกของคนหลงทาง’ พวกเขาหลงไปไหน เราจะพิจารณาจาก 3 ตัวละครในหนัง

เริ่มจากหนุ่มซื่อโจวเทียนไฉ เขาต้องการสัมผัสรักแรกและเฝ้ารอคอยใครสักคนที่จะมาฉุดเขาจากโลกโดดเดี่ยวเดียวดายที่แสนหนาวเหน็บ หนังใช้สัญลักษณ์บอกเล่าสภาพจิตใจของเขาด้วย ‘ความฝัน’ ถ้าจำกันได้ฉากเปิดเรื่องนั้นโจวเทียนไฉจะแหวกว่ายอยู่ในโลกใต้น้ำ แต่ทันใดนั้นใครบางคนก็มาร่วมสัมผัสโลกสีน้ำเงินกับเขา แต่โจวกลับไม่เห็นหน้าเขา เพราะว่าสำหรับโจวแล้ว ‘เขาคนนั้น’ ยังไม่ปรากฏตัวในโลกแห่งความจริง การที่โจวฝันถึงเหตุการณ์นี้อยู่บ่อยครั้งมันแสดงถึงอาการไขว่คว้าใครสักคนของเขาได้อย่างเด่นชัด ความฝันชนิดนี้ฟรอยด์จัดเป็น Psychic Determinant อันเป็นความฝันที่เกิดขึ้นเพราะ ‘ความอยากทางใจ’ (อย่างไรก็ตาม ความฝันของโจวอาจจัดเป็น Physical Determinant คือ ความฝันที่เกิดขึ้นจากปัจจัยทางกาย เพราะเขาฝันว่าว่ายอยู่ในสระน้ำ และพอตื่นมาเขาก็พบว่าตัวเอง ‘ฝันเปียก’)

ส่วนด้านนายเพลย์บอยตัวร้ายไป๋เถียนหนาน รายนี้ยิ่งเด่นชัด เขาปิดกั้นตัวเองจากความรักด้วยการใช้ ‘เซ็กส์’ และความสัมพันธ์ที่มากหน้าหลายตาเป็นเครื่องมือหลอกตัวเอง เปลือกที่ห่อหุ้มเขานั้นยิ่งพอกพูนแต่มันก็แสนจะเปราะบาง เพราะความเข้มแข็งที่แท้จริงต้องมาจากจิตใจ ไม่ใช่ ‘เปลือก’ ยิ่งเมื่อพบกับโจวเทียนไฉ ตัวตนของเขาเหมือนถูกปลอกเปลือกให้ลอกคราบ แต่เป็นเพราะว่าเขากลัวที่จะออกมาจากโลกที่ตัวเองเคยเป็นอยู่ หลังจากคืนนั้นเขาจึงเลือกที่จะ ‘จากไป’

แต่ตัวละครที่ผมชอบแง่มุมของเขามากที่สุดคือ เหวินหยู (ชิน คิง) เพื่อนแตกสาวของโจวเทียนไฉ เธอมีแฟนเป็นคนต่างชาติที่ต้องห่างไกลกัน เธอจึงฝึกที่จะพูดคำว่า ‘ฉันรักเธอ’ เป็นภาษาต่างๆ เพราะกลัวว่าเขาจะเบื่อฟังคำนั้นใดรูปแบบเดิมๆ มันแสดงถึงความไม่มั่นคงของจิตใจที่กลัวจะสูญเสียคนรักไป และท้ายสุดสิ่งนั้นก็เกิดขึ้นจริงๆ เพราะว่าคำว่า ‘รัก’ นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะพูดมันออกอย่างไรหรือบ่อยแค่ไหน แต่ขึ้นกับมาเราจะ ‘ทำ’ กับมันอย่างไร เรา ‘จัดการ’ กับความรักได้มั้ย หรือความรักนั้นจะ ‘ครอบครอง’ ตัวเรา…

ตัวละครทั้งสามเป็นตัวแทนของคนหลงทาง พวกเขามีแต่ความสับสนในจิตใจ นี่เป็นเพียงระดับขั้นต้นเท่านั้น เพราะมันเป็นแค่การหลงทางในจิตใจของตนเอง มันน่าคิดว่าแล้วเมื่อพวกเขาเดินเข้าสู่จิตใจของคนที่เขารัก เมื่อความสับสนนั้นปะทะปะทังกัน มันจะยิ่งสร้างบาดแผลได้ทั้งสองฝ่ายหรือไม่ และในระดับสุดท้ายเมื่อพวกเขาก้าวเดินออกไปสู่สังคม พวกเขามี ที่ทางไปหรือไม่ พวกเขาจะยังหลงทางอยู่หรือเปล่า?

ดังนั้นวลีที่ว่า ‘มองหนังผ่านสังคม’ ยังคงใช้ได้กับหนังเรื่องนี้ …Formula 17 เป็นดั่งหนังที่เรียกร้องพื้นที่ทางสังคม (Social Space) ให้กับเหล่าชาวเกย์ ดูง่ายๆจากการที่หนังทั้งเรื่องมีแต่เกย์ นี่อาจจะเป็นการแสดงในแง่ปริมาณ (ซึ่งน่าสนใจมากกว่าพวกเขามีจำนวนเพิ่มขึ้น หรือเปิดเผยตัวตนมากขึ้น) ว่าบุคคลเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ที่ซ่อนแอบอยู่ในหลืบของสังคมอีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นการมีพื้นที่อยู่ในสังคมจึงเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ และในถัดมาก็คือการ ‘ยอมรับ’ …ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นจริงหรือไม่ ลองมาดูตัวอย่างกัน
- คุณเคยได้ยินประโยคนี้มั้ย…”ถ้าเผาสยาม เกย์จะตายไปครึ่งประเทศ!”
- รู้มั้ยว่าใคร (กลุ่มไหน) ที่ทำให้บัตรคอนเสิร์ตราคา 5,500 ของ มารายห์ แคร์รี่ หมดไปอย่างรวดเร็ว
- แล้วทำไม จอห์น แครี่ จึงเสนอนโยบายให้ “เกย์แต่งงานกันได้” ในบางรัฐของอเมริกา
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง และอาจถือเป็นหลักฐานทางรูปธรรมที่สนับสนุนเนื้อความในข้างต้น

การได้รับความยอมรับของเกย์มีมากเพียงพอหรือยัง? และความพอดีของมันอยู่ตรงไหน? มันยากที่จะตอบ แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นคือ
- หลายประเทศทั่วโลกยังไม่ยอมรับการให้ผู้ชายแต่งงานกันเอง
- กฎหมายยังไม่ยอมรับเรื่องของ ‘ผู้ชายข่มขืนผู้ชาย’
- ประเทศในเอเชียบางประเทศ (เช่น เกาหลี) ยังมีประเพณีนิยมที่เรียกว่า ‘การกระทืบเกย์’
หากไล่จากประวัติศาสตร์โลกนับแต่ยุคประชาธิปไตยกรีกที่ผู้หญิงที่ไม่มีสิทธิออกเสียงในสภา จนมาถึงยุคที่แนวความคิดเฟมินิสต์ (อิตถีนิยม) มีอิทธิพลขยายกระจายไป ผู้หญิงกำลังได้รับการยอมรับและเลื่อนฐานะทางสังคมมากขึ้น ซึ่งแน่นอน ‘ความอยุติธรรม’ ยังคงอยู่เสมอ แต่คำถามก็คือในเหล่าเพศเกย์ทั้งหลายนั้น ขบวนการขับเคลื่อนแบบนั้นควรเกิดขึ้นหรือไม่ และถึงเวลาของมันหรือยัง

โทมัส คุนน์ กล่าวไว้ว่า โลกของเราจะพัฒนาไปได้นั้นต้องมีการ ‘ผลัดเปลี่ยนแบบจำลองหรือรากฐานความคิด’ (change paradigm) การมีบทบาทมากขึ้นของเหล่าสตรีน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนั้น ในทางกลับกันเรามิอาจปฏิเสธได้เลยเหล่าเพศที่สามนั้นมีอิทธิพลในการขับเคลื่อนโลกนับแต่ยุคโบราณจนถึงยุคโลกาภิวัตน์ในปัจจุบัน ถ้าเอาเรื่องใกล้ตัวอย่างวงการภาพยนตร์ ในตอนนี้ชื่อของเหล่าเจ้าป้าอย่าง เปโดร อัลโมโดวาร์, ฟรังซัวร์ โอซองและอังเดร ติชิเน่ คงเป็นชื่อที่เรามิอาจลบเลือนไปได้ …สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นต้องการอาจจะไม่ถึงขนาดการ ‘เปลี่ยนขั้วอำนาจ’ ที่เขาต้องการก็เพียงแค่การได้รับการแบ่งปันพื้นที่และการได้การยอมรับอย่างที่กล่าวมา และเมื่อถึงตอนนั้นโลกของเราอาจจะเข้าถึงยุค ‘โลกาภิวัตน์ทางเพศ’ อย่างแท้จริงก็เป็นได้…มันคือสิ่งที่ดีหรือไม่นั้น ไม่มีใครตอบได้

หากจะนำเข้าสู่คำถามที่สองที่เกริ่นไว้ว่าหนังเรื่องนี้จะสร้างแรงกระทบทางจิตใจแก่คนดูอย่างไรบ้าง ประเด็นที่กล่าวในข้างต้น น่าจะมุ่งตรงไปยังกลุ่มคนเพศแท้ทั้งชายและหญิง (โดยเฉพาะรายแรก) สิ่งที่เขาน่าจะได้จากการดูหนังเรื่องนี้ก็การ ‘เข้าใจ’ ‘ตระหนัก’ และ ‘ยอมรับ’ ถึงสภาพความเป็นไปของโลกในยุคปัจจุบัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ‘การปรับตัว’ เข้ากับสิ่งที่เป็นและมีอยู่ เพราะอย่าลืมว่าสิ่งมีชีวิตที่ขาดไร้ซึ่งการปรับตัว (Adaptation) นั้นก็คือสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว…ซึ่งในส่วนนี้เหล่าคนดูจะคิดได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นกับว่าพวกเขาและเธอดูแล้วเอาไป ‘คิด’ ต่อขนาดไหน

หันมาหากลุ่มคนที่หนังพูดถึงโดยตรงอย่างเกย์บ้างว่า พวกเขารู้สึกอย่างไรก็หนังเรื่องนี้ จากการที่ผมสำรวจความคิดเห็นมา สามารถแบ่งได้เป็นสองพวกใหญ่ๆ คือ
1. ชอบมากกกก…น่ารักที่สุดเลย ดูแล้วมีความสุข พระเอกหล่อมาก กรี๊ดดด…กร๊าดดด…บลาๆๆๆๆๆ
2. เกลียดมาก หนังบ้าอะไร ไร้สาระ, เพ้อเจ้อและ_อแหลสิ้นดี ชีวิตจริงมันโหดร้ายกว่านั้นเยอะย่ะ! (เอ๊ะ เราอยู่ในกลุ่มนี้ล่ะสิเนี่ย)
นักวิจารณ์บางท่านกล่าวไว้ว่าหนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกแบบ Escapism* เสียเหลือเกิน จริงหรือไม่? เราลองมาดูกัน

มันอาจจะจริงกลับคนกลุ่มแรกที่หลงเคลิ้มไปกับภาพความรักอันสวยงามของตัวเอกทั้งสอง แต่แล้วเมื่อออกจากโรงล่ะ พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร เขาอาจจะตกอยู่ในห้วงโลกอุดมคตินั้นอยู่สักสองสามวัน แต่แล้วเมื่อมองความเป็นจริงที่เกิดขึ้นรอบข้าง เขาจะรู้สึกอย่างไร ความท้อแท้สิ้นหวัง ความเศร้าเสียใจ จะผุดขึ้นมาในใจหรือไม่ ส่วนกลุ่มคนที่สองเขาจะรู้สึกอิจฉาตัวละครในเรื่องบ้างมั้ย หรือเขายิ่งต้องเอาโลกที่โหดร้ายกรอกเข้าใส่สมองเพื่อย้ำเตือนตัวเองว่าภาพที่เห็นบนจอมัน ‘ไม่จริง’

คำถามแรกสุดที่ผมได้ถามไปว่าดินแดนแห่งนี้เป็นสวรรค์ หรือเพียงฝันจำแลง เป็นสิ่งที่ไม่มีคำตอบตายตัวชัดเจน บางคนอาจจะมีคำตอบในใจตัวเอง บางคนอาจจะยังหลงทางต่อไป แต่อย่างไรก็ตามเมื่อดูหนังจบแล้ว สิ่งที่เขาจะต้องเผชิญต่อไปก็คือ โลกแห่งความเป็นจริง…โลกที่เขาต้องอยู่ร่วมกับมันตราบเท่าชีวิตจะสูญสลาย…โลกที่เขาไม่อาจจะหนี (Escape) มันไปได้

…หลังเดินออกจากโรง เขาจะยังหลงทางต่อไปหรือไม่ ก็ขึ้นกับการก้าวเดินของเขาแล้ว…


* Escapism = ลัทธิที่นิยมการหนี (Withdraw) ออกไปจากโลกแห่งความเป็นจริง ฟรอยด์อธิบายว่าคนเหล่านี้จะสร้างโลกแห่งความฝัน (Dream World, Unreal World) ของเขาขึ้นมา เพื่อการตอบสนองความต้องการแบบปลอมๆ (Pseudo Satisfaction) และเพื่อการลดความเครียด (Release Tension) ซึ่งกระบวนการจัดว่าการเป็นการหลอกตัวเอง (self-deception)

-----------------------------

หมายเหตุ
- ภาพยนตร์เรื่องนี้มีแผ่นลิขสิทธิ์จำหน่ายในบ้านเราจากค่าย อีวีเอส
- โทนี่ หยาง (ผู้รับบทโจวเทียนไฉ) ได้รางวัลม้าทองคำครั้งที่ 41 ปี 2004 สาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม
- หนังเรื่อง Tigerwomen Grow Wings (กำกับโดย Monika Treut) เล่าถึงผู้หญิงไต้หวัน 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ DJ Chen ผู้กำกับ Formula 17 นั่นเอง (หนังเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพฯ เมื่อต้นปีด้วย)

บทความที่เกี่ยวข้อง
- Little Films in a Capacity City (แถมมากับ PULP ฉบับที่ 16) Formula 17 – 17 ใสหัวใจตุ้งติ้ง

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
//www.formula17.profun.de/
//www.xenon-kino.de/Seiten/formula17.html
//www.imdb.com/title/tt0420627/



Create Date : 16 มีนาคม 2548
Last Update : 16 มีนาคม 2548 22:58:27 น. 27 comments
Counter : 6167 Pageviews.

 
ผมไม่รู้ว่าหนังเรือ่งนี้มันดังในหมู่ gay แค่ไหนครับ แต่ที่รู้ว่ามันดังในหมู่ Straightคนไทย น่าจะเป็นเพราะ มันเป็นหนังเกย์(ใหม่สำหรับคนไทย) แล้ว ก็ไม่มีฉากประดักประเดิกมากนัก มีความโรแมนติกคอมเมดี้(น้ำเน่า)เป็นจุดขาย มันก็ไม่ต่างอะไรกับการ์ตูนเกย์ญี่ปุ่นที่สาวๆนิยมซื้อ่านเป็นกองกองนะ


โดย: เด็กชายรอยยิ้มโทรศัพท์และน้ำตา วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:9:56:36 น.  

 
อ่าใช่ ผมเหนด้วยนะ
พล๊อตเรื่องห่วยแตก
โดยเฉพาะฉากบนสะพานลอย ยืดเยื้อ
ละครไทยบางเรื่อง ยังจบเร็วกว่านี้เลย

ขำ มากกว่าโรแมนติก เพราะทุกอย่างมันดู Fake


โดย: เจ้า ก.ไก่ ประกายกาโม่ วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:10:32:10 น.  

 
พอได้ดูแล้วรู้สึกว่า เอ้อ .. มันออกจะเว่อร์ไปหน่อย

แต่ไม่ได้รู้สึกแย่ว่า ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงถูกสร้างออกมาในรูปแบบความสัมพันธ์ ช-ช

และสร้างเกย์โทเปีย (อิอิ ขอยืมคำนี้มาใช้หน่อย) ขึ้นภายใน plot เรื่องห่วย

เพราะนี่แหละคือคุณงามความดีอย่างเดียวของหนังเรื่องนี้

เนื่องจากว่า .. ถ้าสร้างเป็นหนัง ช-ญ

บอกได้เลยว่า 'มันจะเป็นหนังที่น่าเบื่อมาก'

.. ก็แค่มีดี ที่แปลก ..


โดย: เด็กชายหัวหอม วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:11:05:53 น.  

 
หนูว่ามันน่ารักดีนะคะพี่
ออกจะใสปิ๊งกิ๊งกิ๊ง ขนาดที่ว่าหนังรักโรแมนติกปกติยังไม่ใสซะขนาดนี้
แล้วก็คุณเพื่อนทางอินเตอร์เน็ทหน่ะหล่อจริงๆค่ะ
เรื่องนี้หนูก็ถ่อไปดูไกลถึง house อ่ะนะ...คนดูแบ่งได้ชัดเจนมากเป็นผู้ชาย(น่าจะแอบ)กับผู้หญิงที่คงไม่พ้นบอร์ดพันทิบ...เหอๆๆๆ
หนูไม่วิชาการมากขนาดพี่หรอกค่ะ ^^ แค่ยอมรับคุณเกย์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของโลก แล้วก็อยู่ร่วมกันได้ด้วยกันอย่างมีความสุขอ่ะนะคะ ^^


โดย: Natsu (msdonat ) วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:11:11:53 น.  

 
ยังไม่ได้ดูค่ะ
ยังไม่รู้จะดูรึไม่
ก็น่าจะเป็นหนังที่แปลกดีนะ...





โดย: prncess วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:11:24:48 น.  

 
อ่านจนจบแล้วก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเราก็เป็นพวก Escapism เหมือนกันนะ (แต่แค่นิดเดียวนะ)
พูดถึง f-17 หน่อยละกัน ตัวเรากลับชอบหนังเรื่องนี้นะ ไม่รู้สิ อาจเพราะเราเป็นคนนอกที่มองเข้าไปมั้ง
ไม่ใช่คนในกลุ่มที่เข้าใจว่าสังคมของเกย์เนี่ยมันเป็นไง ที่สำคัญเราคงเป็นพวกที่ชอบเพ้อฝันไปในโลกของการ์ตูน ดังนั้นพอมาเจอกับ plot ที่เบาหวิวอย่างนี้เลยพอจะทำใจรับได้มั้ง

มีอีกอย่างที่เราชอบจากหนังเรื่องนี้นะ เราชอบคำพูดของพระเอกตอนที่ขอกับพระเจ้านะ ประมาณว่า ความรักเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้อง เพียงแค่ต้องกล้าเผชิญหน้ากับมัน(ใช่มั้ยน๊า~)
คงเพราะเราเป็นพวกที่ไม่ชอบเผชิญหน้ากับความรักมั้ง ไม่สิ ไม่ใช่ไม่ชอบ
แต่เป็นไม่กล้าต่างหากล่ะ
เอ่อนี่ชั้นมานั่งบ่นอะไรใน blog คนอื่นเนี่ย กลับ blog เราก่อนดีกว่า


โดย: psycho patch วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:12:48:22 น.  

 
คุง merveillesxx ยังปกติอยู่นะครับ อ่านแล้วหวั่นๆ...

ตัวdvdซื้อมาแล้วแต่ยังไม่มีโอกาศได้ดู(ขอเวลาทำใจแป็บ)


โดย: basz IP: 61.91.173.71 วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:14:40:39 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเลย


โดย: แบ่งกันเซ็ง วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:3:24:17 น.  

 
ความคิดเห็นจาก //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3354459/A3354459.html

----------------------------

ความคิดเห็นที่ 2

สรุป จะ ผม หรือ ดิฉัน สงสัยหนังจะเปลี่ยนเพศไปซะแล้ว

จากคุณ : ชายครับ...ผมเป็นชาย - [ 16 มี.ค. 48 08:19:08 ]






ความคิดเห็นที่ 3

..เข้าใจคิดจังคำนี้--->เกย์โทเปีย

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 16 มี.ค. 48 08:33:55 ]






ความคิดเห็นที่ 4

เขียนอะไร "เร้าใจ" อีกแล้ว
ตอนนี้อ่านผ่านๆ อ่ะ
ไว้ดูหนังแล้วมาคุยด้วย
เรื่องนี้อยู่ในลิสท์เหมือนกัน
แต่คาดเดาเอาเองว่าจะไม่ชอบ
เพราะว่าชอบ Happy Together
มากๆ (เป็นผู้หญิง ก็ชอบเรื่องนี้ได้นะ )

Paradigm เนี่ยะ
ภาษาไทยอาจารย์เราเคยบัญญัติ
ไว้ว่า "กระบวนทัศน์"อ่ะ
เปลี่ยนกระบวนทัศน์ กันเถอะ อิอิ
(เราจะมีอาจารย์คนเดียวกันหรือเปล่านะ )
แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 48 09:24:03

จากคุณ : grappa - [ 16 มี.ค. 48 08:48:22 ]







ความคิดเห็นที่ 5

Happy Together นี่เป็นหนังหนึ่งในสามเรื่องที่มีอิทธิพลอย่างสูงส่งต่อชีวิตการดูหนังของผมครับ และยังคงเป็นหนังที่ผมชอบมากที่สุดของหว่องกาไว คือหนังมันมีผลกระทบต่อจิตใจมากๆจนไม่กล้าเขียนถึงเชียวล่ะ...

คำว่า Paradigm (เผลออ่านว่า 'พาราดิ้ม' อยู่ 1/2 ปี -_-') นี่คณะที่ผมเรียนต้องใช้บ่อยครับ จริงๆมันก็แปลแบบง่ายๆ ประมาณว่า model อะไรเทือกนี้ แต่คนไทยก็ชอบมาแปลกันยากๆ เฮ้อ..

จากคุณ : merveillesxx - [ 16 มี.ค. 48 08:53:31 ]






ความคิดเห็นที่ 6

ไม่ยากหรอก
แปลเป็นภาษาไทยแล้ว
อาจจะเข้าใจความหมายกว่า
พาราไดม์
กระบวนทัศน์ ก็คือวิธีการของทัศนะ
เห็นมั้ย ไม่ยากเลย
ว้า เราคงมี "ครู" คนละคนกัน

จากคุณ : grappa - [ 16 มี.ค. 48 08:58:03 ]






ความคิดเห็นที่ 7

โอ้ ข้าน้อย ขอคารวะ... ^^;;

จากคุณ : merveillesxx - [ 16 มี.ค. 48 09:03:06 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ดู Formula 17 เหมือนอ่าน การ์ตูน BoyLove
เพราะหนัง Formula 17 เบาหวิว และ เพ้อเจ้อ เลอะเท้อเรี่ยราด
(อย่าได้เอาหนังไต้หวั่นเรื่องนี้ไปเทียบกับ Happy Together หรือ Bishonen ของ HK เลย หนัง F17 ซาจี้-ติ๊งต๊อง จะตาย)

การแสดง ทั้ง พระเอก นางเอก Formula 17 แสดง แข็งโป๊ก ( ดีสุดที่แสดงคงเป็นซีนเมกเลิฟ มั้ง)

แทบไม่อยากเทียบกับละครไทยบท จอน-ที ใน รัก8009 เพราะ จอน-ที เจอแต่ โศกสลด ไม่ น๊อตหลุด แบบ F17

ดีสุดของ F17 คงเพราะ พระ-นาง เรื่องนี้ หน้าตาน่ารัก ดี









จากคุณ : HauteCouture - [ 16 มี.ค. 48 09:20:09 ]






ความคิดเห็นที่ 9

อยากหาอ่าน เรื่อง Escapism (ลัทธิที่นิยมการหนี) เพิ่มเติมจังเลย
แนะนำ link หน่อยซิ

คือมีเพื่อนเป็นอาการ แบบนี้ หลายคน
บางคน หลุด เขาไปโลกตัวเองหนัก ชนิด เขย่าตัวมันแรงๆ มันยังไม่ตื่น ยังไม่เลิกหลงตัวเอง เลย

อยากจะหาอ่าน แล้ว หาวิธีรับมือ คนพวกนี้แบบ ช่วยดึงมัน กลับมาโลกจริงๆ นะ

จากคุณ : HauteCouture - [ 16 มี.ค. 48 09:31:10 ]






ความคิดเห็นที่ 10

ดูเรื่องนี้แล้ว ก็ดูเป็นหนังรักวัยรุ่นธรรมดาๆเรื่องนึง
แต่ไม่เคยกลับมาดูรอบสอง หนังไม่ค่อยมีจุด ดึงดูดใจ
ให้กลับไปดูซ้ำได้เลย
ใครมี Happy yogether แบ่งกันดูมั่งซิ
ขอซื้อเป็นก็อปปี้ก็ได้นะ หรือจะแลกกับเรื่องนี้ หรือหนังใหม่ๆก็ได้นะ เรายังไม่เคยได้ดูเลย

จากคุณ : lovenan88@hotmail.com - [ 16 มี.ค. 48 09:56:08 A:203.209.125.116 X: TicketID:083460 ]






ความคิดเห็นที่ 11

เห็นด้วยกับคุณ HauteCouture ... ดูเรื่องนี้แล้วเหมือนอ่านการ์ตูน Boys' Love แบบที่ไม่มีเรื่องราวอะไรเท่าไหร่ เป้าหมายหลักของเรื่องอยู่ที่ทำยังไงให้ตัวนายเอกเสียความบริสุทธิ์ให้พระเอกให้ได้ ... ดู ๆ ไป (DVD ดูที่บ้าน) เกือบหลับ ดีใจเล็กน้อยที่ไม่ได้ถ่อไปดูโรงตอนที่มันฉาย แหะ ๆ

ชอบประเด็นเรื่องเกย์โทเปียของคุณ merveillesxx นะ แต่อย่าลืมว่าในโลกของความเป็นจริง โลกของเกย์ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่คนที่รับได้ หรือเป็นพวกเดียวกันทั้งนั้น จริงอยู่มันจะต้องมีคนอื่น ๆ ญาติพี่น้องที่ไม่ใช่กันบ้าง แต่คนพวกนั้นจะถือเป็น "อีกวงหนึ่ง" ไม่ได้นับเข้ามาเป็น "วงใน" เมื่อมาเป็นหนัง จะแปลกอะไรที่หนังแสดงภาพแต่ "คนวงใน" แม้แต่คุณลุงคนนั้นก็เถอะ ... เหมือนเขาจะมาเป็นตัวช่วยให้พระเอกตัดสินใจได้ไง ว่ารักแท้ของเกย์ที่อยู่กันจนแก่ก็มี (นะยะ)


ถามว่าถ้าเอาเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับรักแปดพันเก้า แน่นอนรักแปดพันเก้าต้องมีประเด็นเรื่องราวของความเป็นดราม่ามากกว่า (เพราะ Formula 17 เน้นเป็นคอมมาดี้นิ?) แต่ถ้าถามถึงความ "สมจริง" ... ก็ยังแอบคิดว่ารักแปดพันเก้าก็ไม่ได้สมจริงเท่าไหร่หรอก จอนก็ยังมี element ของ "นายเอกการ์ตูนวาย" อยู่เยอะ มีความเป็นฝ่ายรับอย่างชัดเจนชีวิตนี้ให้ตายก็ไม่รุกไปได้ แต่มันสนุกตรงที่เค้าใส่ประเด็นการยอมรับของสังคมอะไรพวกนี้ไปด้วย

แต่ (แต่อีกแล้ว แหะ ๆ) ในฐานะของคนที่ดู Queer As Folk ... ทั้งประเด็นเกย์โทเปียและประเด็นการยอมรับในสังคมไม่ใช่เรื่องใหม่เลย ตอนดู F17 แอบคิดไปด้วยซ้ำว่าตัวพระเอกและนายเอกพยายามจะ "จิ๊ก" บุคลิกของคู่หลักใน QAF (Brian/Justin) มา ส่วนเพื่อนกระตุ้งกระติ้งของนายเอกก็ไม่ต่างอะไรนักกับ Emmett ขาวีน

หรือว่านี่ถือว่าเป็นการ stereotype ชายรักชายแบบหนึ่ง??

เอนี่เว... เขียนไปเหมือนจะยิ่งหลงประเด็น เอาเป็นว่าสั้น ๆ ... เห็นด้วยกับที่เขียนข้างบนจ๊ะ.. (เอิ๊ก จบดื้อ ๆ อย่างนี้แหละ)

จากคุณ : Seven Of Nine - [ 16 มี.ค. 48 10:30:52 ]






ความคิดเห็นที่ 12

อ่านช่วงแรกก็ฮาๆ ดีนะ
พอมาอ่านช่วงหลัง ชักเริ่มเครียดแล้ว
แต่ขอชมว่าวิจารณ์ได้ดีและตลกอ่ะ

จากคุณ : คันฉ่องชลาลัย - [ 16 มี.ค. 48 10:36:07 ]






ความคิดเห็นที่ 13

ต๋าย .......หนูเซ หนู นี่บอรก์ของแท้ ซูมิวเลท ดูดได้ทุกอย่าง
โดดจาก SciFi มาเม้าส์ เกย์ดราม่า-แต๋วคอมมาดี้
หนังโมโน หวานแว๋ว แบบนี้ ดูก็ เม้นท์ ได้ด้วย....เออ นะ

หนังฟอร์มูล่าสิบเจ็ด ดูแล้ว นิ่ม จริงๆ
เอ๋อเหรอ เลยแหละ

จากคุณ : Fendi - [ 16 มี.ค. 48 10:41:02 ]






ความคิดเห็นที่ 14

อยากได้ happy yougther เหมือกัน หนังเก่าหาซื้อไม่ได้เลย ยิ่งดีขอซื้อเป็นก๊อปี้ด้วยเหมือนกันจ๊ะ
chon_t1@hotmail.com

จากคุณ : อยากได้มาก (รักรพินทร์) - [ 16 มี.ค. 48 10:44:09 ]






ความคิดเห็นที่ 15

ตอนที่ดูก็ขำขำดีครับ (ไปดูที่เฮาส์ด้วยครับ เพราะได้ข่าวมาว่ากำลังฮิตถล่มทลาย) ไม่ได้คิดต่อยอดไปไกลขนาดนั้น แต่ก็เห็นด้วยกับคุณ merveillesxx นะครับ วันหลังคงต้องหัดดูหนังแล้ว "คิด" เยอะมั่งซะแล้ว ;P

จากคุณ : dNb - [ 16 มี.ค. 48 11:05:59 ]






ความคิดเห็นที่ 16

อ่านจนจบเลย ..

จากคุณ : สตรอเบอรรี่ รสส้ม - [ 16 มี.ค. 48 11:42:25 ]






ความคิดเห็นที่ 17

ชอบที่เล่นเป็นนางเอกอะ หน้าตาดี หนังจบแล้วยังฝันถึงอยู่เลย

แต่ที่เล่นเป็นพระเอกนี่ หน้าตาถือว่าดีสุดในไต้หวันแล้วใช่ปะ??









จากคุณ : ++peter++ - [ 16 มี.ค. 48 12:23:27 ]






ความคิดเห็นที่ 18

"เกย์โทเปีย"

ก็เหมือนกับ "โทเปีย" ทั้งหลายแหล่นะแหละ

เป็นอะไรที่ไม่มีทางจะเป็นจริงได้

ฉันใดก็ฉันนั้น


ป.ล. ชอบหนุ่มที่นัดพบกับ (นางเอก?) ทาง MSN จริง ๆ ช่างละม้ายคล้าย "เจย์ โจว" ซะจริง ๆ นะ









จากคุณ : เชรุมิซัง - [ 16 มี.ค. 48 13:32:53 ]






ความคิดเห็นที่ 19

อ่านกระทู้จนจบแล้ว
(เมื่อเช้ายังอ่านไม่จบ)
มาตั้งข้อสังเกต (โดยที่ยังไม่ได้ดูหนัง)
ว่าข้ออ่อนของหนังเรื่องนี้ อาจจะอยู่ที่ผู้กำกับ
ก็ได้นะคะ ผู้กำกับเรื่องนี้เป็นผู้หญิง
เธอจึงฉายภาพ "เกย์โทเปีย" แบบที่เธอต้องการ
ซึ่งดูเมโลดรามา เอาการอยู่

ไม่ได้เก็บส่วนเสี้ยว /ชิ้นส่วน /ที่ปะติดปะต่อไมได้
ให้เป็นหนังแบบที่หว่องกาไวทำ ซึ่งแกก็ทำได้ดีเหลือเกิน

ทำไมคุณต้องมาตั้งกระทู้ตอน
เราไม่มีเวลาดูหนังอ่ะ
ว่าแล้วก็ไปร้านเฟมดีกว่า (อ้าว)

จากคุณ : grappa - [ 16 มี.ค. 48 13:34:48 ]






ความคิดเห็นที่ 20

มาเสริมอีกข้อ
ประเด็น เกย์กับพื้นที่ทางสังคม
เราเองรู้สึกว่าในปริมณฑลที่ไม่ใช่ทางการ
(ทางการ = รัฐ )
เกย์เข้ามายึดครองพื้นที่ได้มากขึ้นและโดยเปิดเผย
อย่างพื้นที่ในแวดวงการสื่อสารและเอนเตอร์เทน
อาจจะเป็นเพราะวิธีคิดที่มีสีสรร
และเข้าใจทั้งความเป็นหญิงและความเป็นชาย
และเข้าใจเพศสภาพของตัวเอง
เกย์จึงอยู่ในพื้นที่ไหนก็ได้
เรากลับรู้สึกว่าเพศหญิง และเพศชาย
อาจจะไม่ใช่เพศ Mainstream อีกต่อไป
ผู้หญิงอย่างเรา อาจจะโดนเบียดให้ไปอยู่พื้นที่ชายขอบก็ได้
มีเกย์อยู่ตรงศูนย์กลางอำนาจแทน
ไม่แน่นะ paradigm shift อาจจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ก็ได้

จากคุณ : grappa - [ 16 มี.ค. 48 13:58:52 ]






ความคิดเห็นที่ 21

เข้ามาบอกว่า
มีชะนีหลุดเข้าไปในเฟรมอยู่ 2-3 แน่ะ ^^"









จากคุณ : ดูตั้งนานว่าจะมีชะนีอะป่าว? (เมษาพาเพลิน) - [ 16 มี.ค. 48 15:16:48 ]






ความคิดเห็นที่ 22

ขอบคุณสำหรับบทความดีดีค่ะ :)

โหลดbitมาตั้งนานสมัยหนังยังอยุ่ในโรงHouseแล้วยังไม่ได้ดูเลย - -"

จากคุณ : ฝน (just_dreaming) - [ 16 มี.ค. 48 16:59:16 ]






ความคิดเห็นที่ 23

ที่ว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีผู้ชายหรือผู้หญิงแท้ๆ แม้แต่คนเดียว!

เพื่อนพระเอกเป็ชายแท้ไม่ใช่หรอคับ

จากคุณ : zmen - [ 16 มี.ค. 48 18:05:07 ]






ความคิดเห็นที่ 24

ชอบอ่านบทความของคุณนะ ^^

เห็นได้ชัดว่าหนังเรื่องนี้คือดินแดนในอุดมคติ (ยูโทเปีย) ของเหล่าพลพรรคชาวเกย์ เริ่มจากว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีผู้ชายหรือผู้หญิงแท้ๆ แม้แต่คนเดียว!
<< ผู้หญิง...
มีในร้านขายเสื้อผ้าที่นายเอกเดินผ่านตอนออกมาจากบ้านพระเอก 1 คน
บนบันไดเลื่อนตอนพระเอกเจอนายเอกตอนจบอีก 2 คน
สรุปว่าผมกับเพื่อนนับได้ 3 คน กร๊ากกกกกกกกกกก
(อันนี้เรื่องจริงนะ เรานั่งนับกันจริงๆ)

-----------------------------------------
มันคือการ์ตูนวายเวอร์ชั่นหนังจริงๆ นั่นแหละ
แต่ถามว่าชอบมั้ย ตอบได้ว่าชอบ
เพราะมัน ยูโทเปีย นี่แหละ
การหลอกตัวเองอยู่ในโลกเพ้อฝัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องดี
การรับรู้อะไรความเป็นจริงมากไป ก็ทำให้หดหู่เอาได้เหมือนกัน
และหนังแนววายนี่บอกตรงๆ ร้อยละ 99 ก็ดราม่าทั้งนั้น
จะมีโผล่มาซัก 1% ให้แช่มชื่นชาววายมั่งผมว่าก็ดีมิใช่น้อย

สรุปง่ายๆ สั้นๆ
หนังที่เราชอบ ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังที่ดี
หนังที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังที่เราชอบ
และผม...ชอบเรื่องนี้นะ
เพราะ
.
.
.
.
จุนน่ารักโคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร 55555 Jason Chang ~

จบข่าว -_-"

อย่ามองแบบนั้นดิ...

จากคุณ : ...แค่ตามลูกสาวมา (FaAS) - [ 16 มี.ค. 48 18:14:47 ]






ความคิดเห็นที่ 25

มีดีวีดี Happy together 2 แผ่น จะขาย(หรือไงดี)ให้ 1 แผ่นเอาไหมคะ แต่ข้อเสียก็คือ แผ่นที่เราจะขาย(หรือยกให้)เนี่ย มันเป็นแผ่นแท้ฮ่องกง ซึ่งก็หมายความว่า ภาพไม่ชัด(แต่รู้สึกของเถื่อนก็ไม่แน่ว่าจะชัดอะนะ) และ ไม่มีซับไตเติ้ลแบบดีๆ (มันเป็นซับแบบอังกฤษกับจีนปนกันแล้วก็เหมือนติดกับตัวหนัง) แต่ถ้าฟังเสียงกวางตุ้งได้ก็ไม่เป็นปัญหามากนัก

เออ แล้วถ้าอยากได้แผ่นแท้แบบชัดๆ(ของเมกา)ก็ไปซื้อได้ที่ร้านดีวีดีสเตชั่นที่รถไฟฟ้าสถานีชิดลมได้ค่ะ แต่ราคาประมาณ 1150 บาทนะคะ แบบเวอร์ชั่นเมกามี buenos aires zero degree(making of happy together) ในฟีเจอร์ด้วยนะ


ถ้าสนใจก็ตอบมาในนี้ละกัน แล้วเราจะติดต่อไปค่ะ
แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 48 20:02:04










จากคุณ : concubine - [ 16 มี.ค. 48 19:58:36 ]






ความคิดเห็นที่ 26

ขอบคุณทุกความเห็นที่เข้ามาตอบครับ

>ชอบหนุ่มที่นัดพบกับ (นางเอก?) ทาง MSN
>จริง ๆ ช่างละม้ายคล้าย "เจย์ โจว" ซะจริง ๆ นะ
เช่นกันครับ หน้าเค้าเหมือน Jay Chou มากๆ น่าสงสัยเหมือนกันนะว่าถ้าเราตกอยู่สถานการณ์อย่างนางเอก นี่เราจะทำยังไง เหอๆๆๆ (นักแสดงคนนี้ชื่อ 'แลดเดอร์ หยู' ครับ)

>อ่านช่วงแรกก็ฮาๆ ดีนะ พอมาอ่านช่วงหลัง
>ชักเริ่มเครียดแล้ว
อันนี้แอบตั้งใจหน่อยๆครับ จริงๆแล้วข้อเขียนนี้ของผมมันโครงสร้างคล้ายๆ หนังเรื่อง 'สัตว์ประหลาด' น่ะครับ (ซึ่งก็เป็นหนังประเด้นเกย์เหมือนกัน) คือการแบ่งเป็น 2 ภาคอย่างชัดเจน

>เพื่อนพระเอกเป็นชายแท้ไม่ใช่หรอคับ
อันนี้ไม่กล้าฟันธงครับ มันดูคลุมเครือนะ ผมว่า

ขอสารภาพก่อนนะครับว่าไม่ติดตามดู รักแปดพันเก้า แล้วก็ไม่เคยดู Queer as Flok ด้วย บทความของผมครั้งนี้ว่าไปแล้วก็ยังมีความสับสนเจืออยู่มากครับ เพราะยังไงผมก็แค่คนหลงทางอีกคนหนึ่งครับ

จากคุณ : merveillesxx - [ 16 มี.ค. 48 22:10:22 ]






ความคิดเห็นที่ 27

แย้งนิดนึงนะครับ ผมไม่เคยไปดูที่เฮ้าส์เลย ผมเองก็ดูหนังมามาก แต่ผมก็อยากจะบอกว่าหนังเรื่องนี้มีเน้อหาที่เบาและก็เบาสำหรับผมครับ สิ่งที่ผมได้เห็น ได้ดู บางครั้งผมก็ไม่ต้องการความสมจริงครับ ผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้ก็ต้องมีคนชอบอีกมาก การที่ผู้กำกับสร้างโลกของเกออกมาโดยที่ไม่มีผู้หญิงเกี่ยวข้องเลย ผมคิดว่าผู้กำกับต้องการจะแยกโลกของเก กับโลกของความจริงให้ออกจากันอย่างชัดเจนครับ สำครับเพื่อนพระเอกเป็นเกย์รึเปล่า ผมขอฟันธงเองเลยละกันว่าเป็นครับ เพราะผมเชื่อว่าโลกที่ผู้กำกับสร้างไว้เป็นโลกของเกย์ ดังนั้นเพื่อนพระเอกก็ต้องเป็นเกย์ด้วยแน่ๆครับ

จากคุณ : Izawath - [ 16 มี.ค. 48 22:37:18 ]






ความคิดเห็นที่ 28

ธรรมดามากเลย เปลี่ยนนางเอก เป็นผู้หญิง ก็ดูไม่เกย์เเละแค่หนังวัยรุ่นธรรมดา แต่Happy together ฉากแรกบนเตียงนี้ทำให้เกือบกรี๊ด ตามภาษาเด็กบริสุทธิ์

จากคุณ : มหายมยักษ์ - [ 16 มี.ค. 48 23:25:31 ]






ความคิดเห็นที่ 29

เรื่องนี้เห็นหน้าพระเอก(ทั้งคู่)แล้วไม่อยากดูเลย
หน้าแบบว่าไม่ผ่านเลย ขี้เหร่

แต่ก็เอามาดูเพราะเคยมีคนcaptureมาให้ดูก่อนในwebเนี่ยแหล่ะ เห็นคนเล่นเป็นหนุ่มในmsnหล่อจริงๆ หล่อระเบิดจนแทบอยากเปิดmsnเล่นทันทีตอนนั้นเลย(ทั้งที่รู้ว่าความจริงไม่มีหรอก คนหล่อขนาดนั้นไม่มานั่งหาแฟนในอินเทอร์เน็ทแน่) ตอนเห็นรูปรู้สึกเหมือนบีม ดีทูบีมากกว่าเจ โจว์นะ ผมคลั่งบีมอยู่แล้วเลยติดใจพอสมควร เห็นวีซีดีต้องรีบหยิบมาดู กะดุหนุ่มคนนี้แหละ

แต่พอเอามาดู หนุ่มในmsnไม่เห็นหล่ออย่างที่คิดเลย หน้าลิงๆชบกล แต่ทำผม แต่งตัวได้น่ารักดีเท่านั้นเอง
พระเอกยิ่งดูยิ่งน่าเกลียด ไม่หล่ออย่างแรง

แต่ตัวนายเอก กรี๊ดดดดดดดด.. ทำไมภาพนิ่งดูไม่ได้เรื่อง แต่พอภาพเคลื่อนไหวในจอถึงได้น่ารักขนาดนี้ เวลาเขินอาย เวลาพูด ทำหน้าทำตา น่ารักไปหมด เจอแบบนี้ใจละลายแน่ๆ น่ารักโคตร ปากน่าจูบ

อีกตัวละครที่ชอบก็เพื่อนพระเอกน่ะ น่ารักวุ๊ย ปากแดงๆ ดูผู้ดีๆ ในเรื่องไม่ใช่ชายแท้หรอก ชายแท้ที่ไหนจะยอมมาจูบกับผู้ชาย แอ่นอกรับซะอีก เรื่องนี้ก็อย่างที่เจ้าของกระทู้บอกแหละ เป็นเกย์โทเปีย ทุกคนในเรื่องเป็นเกย์หมด
แต่ก็แอบเห็นผู้หญิงหลายฉากเหมือนกัน

เรื่องมันก็ไม่มีอะไรนะ ธรรมดามากๆ แต่ก็ดูได้พอเพลินๆ
เค้าคงทำมาให้ดูแบบผ่อนคลายน่ะ ไม่ใช่ดูแบบต้องปีนบันไดดู

ปล ฉากเกย์แก่รับไม่ได้เลยว่ะ หวังว่าเราแก่ไปคงไม่กลายเป็นแบบนี้นะ เฮ้อ กลัวจัง

จากคุณ : อืม - [ 17 มี.ค. 48 00:09:28 A:210.86.131.131 X: TicketID:073426 ]






ความคิดเห็นที่ 30

เอ้อ...เหมือนคุนข้างบนเรย...ผมก้อชอบเพื่อนพระเอกอะ...อิอิ..

จากคุณ : thop - [ 17 มี.ค. 48 03:16:02 ]




โดย: merveillesxx วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:6:45:00 น.  

 
หึๆ แต่ผมชอบเรื่องนี้นะครับ ติ๊งต๊องดี :D


โดย: it ซียู วันที่: 18 มีนาคม 2548 เวลา:18:52:30 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 31

ตอบเหมือน คห.24 คับ
เพราะนั่งนับด้วยกัน ^^

จากคุณ : skiixy - [ 17 มี.ค. 48 19:58:39 ]






ความคิดเห็นที่ 32

นั่งอ่านครึ่งแรกแล้วแทบไม่เชื่อว่าคุณmerveillesxxเป็นคนเขียน
รั่วมากกกกก ฮามากกกก

ลองเอามาอ่านสลับกับคอมเมนต์เกี่ยวกับ ลิลลี่ ชูชู



สนุกพิลึก



หนังเรื่องนี้ถือครองสถิติหนังทำเงินสูงสุดของโรงหนังเฮ้าส์ (วู้ววว!!)
แถมมันยังทำให้เกิดปรากฏการณ์คนดูมืดฟ้ามัวดิน จนทำให้เฮ้าส์อยากจะเปลี่ยนชื่อเป็น House of PURPLE Daggers (ฮา)
<< จริงเหรอเนี่ย? ---- -----"

จะว่าไป.....เราก็ไปดูกับ "เพื่อนสาว" เหมือนกัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น(และหลังจากนั้น)มันก็ไม่เคยไปดูที่ House เลยยยยยย


…”ถ้าเผาสยาม เกย์จะตายไปครึ่งประเทศ!”
<< อ่านแล้วฮาแตก

จากคุณ : RUBIS - [ 18 มี.ค. 48 02:53:14 ]






ความคิดเห็นที่ 33

เรื่องนี้ ซื้อดีวีดีมาดู เพราะรู้ดีว่าไปโรงหนังเฮ้าส์คนเดียวไม่เป็น -___-'' ซึ่งพอดูแล้ว รู้สึกว่า เฉยๆ อ่า สงสัยอาจจะคาดหวังมากไปหน่อย (เอ๊ะ คาดหวังอะไร O.o)

ดูจบอารมณ์เหมือนนั่งอ่านการ์ตูน Boy's Love หวานแหว๋วหนึ่งเล่ม แบบว่า จบแล้ว ก็ อ่า นะ จบแล้ว แต่ไม่มีไรเข้าไปในสมองเลย -_-'' นึกดีใจเหมือนกัน ที่ไม่ได้ถ่อไปดูถึงเฮ้าส์ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเกลียดหนังเรื่องนี้หรอกนะ มันก็กุ๊กกิ๊ก คิกขุ ดีอ่ะ แต่แบบว่า ถ้าเลือกชมได้ ขอนั่งดูจอน-ที ยังจะดีกว่าอ่ะ

แต่ยังไม่ได้ดู Happy Together และ QAF นะ เลยไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบ โดยเฉพาะเรื่องหลังเนี่ย ไม่กล้าดู >.< เพราะแค่เพื่อนส่งมิวฉิกวิดีโอมาให้ยล ยังเขิลล์ที่จะนั่งดูเลย 555

ไม่ชอบตอนคนแก่นะ ดูมัน แบบ ยัดเยี๊ยดดด ยัดเยียดอ่ะ เสน่ห์ของหนังเลยขาดความเป็นธรรมชาติไปอ่ะ

แต่ทำไม เราว่าพระเอกหล่อฟะ ~_^ ส่วนนายเอก เอ่อ โนคอมเม้นท์ T____________T

***ผู้ชายมีน้อย โปรดใช้สอยอย่างประหยัด***

จากคุณ : Dabadee - [ 18 มี.ค. 48 10:10:16 ]


โดย: merveillesxx วันที่: 19 มีนาคม 2548 เวลา:16:00:20 น.  

 
เรื่อง Formula 17 ผมก็ได้ดูแล้วล่ะครับ ความรู้สึกส่วนตัวของผมกับหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ดูแล้วรู้สึกว่าไม่ประทับใจเอามากๆเลยล่ะครับ แล้วก็ค่อนข้างผิดหวัง เพราะอาจจะตั้งความหวังไว้มาก และเห็นการโฆษณาและโปรโมทหนังเรื่องนี้ก่อนที่หนังจะเข้าอยู่นานมากๆ แต่พอได้ดูแล้วไม่ประทับใจและรู้สึกผิดหวังครับ เพราะรู้สึกว่าเนื้อหาไม่มีอะไรเลยจริงๆ ทั้งๆที่ดูแล้วน่าจะเอื้อให้สามารถสร้างออกมาเป็นเรื่องราวที่มากกว่าที่เห็นในหนังได้น่ะครับ แล้วก็ค่อนข้างจะรู้สึกว่าไม่ค่อยตลกกับมุขตลกในหนังซักเท่าไหร่ครับ ไม่ได้รู้สึกว่าเหมือนดูหนังเกย์เลยครับ มีความรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นหนังตลกและค่อนข้างตลกฝืดๆด้วยครับ ก็คงเป็นเกย์โทเปีย อย่างที่คุณ merveillesxx พูดถึงนี่แหละครับ

ส่วนหนังเกย์อย่าง Happy Together ที่เห็นคุณ merviellesxx เอามาเปรียบเทียบกับหนังเรื่องนี้ ส่วนตัวก็รู้สึกว่าค่อนข้างหดหู่รันทดมากเหลือเกินครับ เรียกว่าถ้า Formula 17 เป็นโลกสวรรค์ในอุดมคติ (เกย์โทเปีย) เรื่อง Happy Together ก็คงเหมือนเป็นเหมือนชีวิตสุดรันทดของเกย์เหมือนกันครับ คงแตกต่างกับหนังเรื่องนี้หน้ามือเป็นหลังมือเลยล่ะครับ

โดยส่วนตัว หนังเกย์ที่เคยได้ดูแล้วประทับใจ คงเป็นเรื่อง Beatiful Thing (รักคือสิ่งสวยงามเสมอ) หนังดังของฝั่งอังกฤษ , Bishonen...Beauty แล้วก็ The Broken Hearts' Club: A Romantic Comedy ครับ พอดีเป็นคนชอบหนังแนวโรแมนติกและซึ้งๆครับผม และรู้สึกว่าจริงๆแล้วชีวิตจริงๆคนเราคงมีทั้งสุขทุกข์ปนๆกันไปครับ คงไม่ได้มีแต่สุขสมหวังไปหมดหรือว่าผิดหวังรันทดแยกจากกันอยู่ตลอดครับ หนังที่มองโลกในแง่ที่ดีก็มีส่วนช่วยให้เรามองเห็นด้านที่ดีๆ เสริมสร้างความรู้สึกดีๆและกำลังใจให้คนที่ดูหนังครับ :)


โดย: Tempting Heart วันที่: 28 มีนาคม 2548 เวลา:12:50:07 น.  

 
ยังไม่ได้ดู


โดย: ตะวันยิ้ม :-) วันที่: 17 เมษายน 2548 เวลา:12:29:41 น.  

 
เราชอบเรื่องนี้นะ ถึงจะดูติ๊งต๊องไปหน่อย แต่มันก็น่ารักดี แล้วที่สำคัญมันก็เป็นแค่หนังนะไม่เห็นต้องคิดมากกันเลย หนุก หนุก น่ะ ( แต่ขอบอกชอบ โทนี่ กับ ดันแคนมากๆ หล่อโคตร )


โดย: เรย์ IP: 61.19.43.106 วันที่: 20 มิถุนายน 2548 เวลา:12:19:12 น.  

 
Duncan หล่อออกเราน่ะชอบเค้าม้ากมาก อะไรมาหาว่าหน้าเหมือนก้องสหรัฐซะนี่ (แต่พี่ก้องไม่หล่อเหรอ) เราดูเอามันอย่างเดียวจะเอาสาระอะไรมากล่ะจ๊ะ
ยังไงก้อชอบคุณไป่ที่สุดในเรื่องล่ะจ้า


โดย: tookta IP: 203.188.33.215 วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:9:45:17 น.  

 
คือผมอยากได้หนังเรื่องนี้มากเลยแต่หาไม่ได้ไม่ทราบว่าครัยรู้สถานที่สั่งซื้อบ้างครับช่วยส่งเมล์บอกด้วยที่ gthaiclub@msn.com ครับคุณมากๆๆคับ


โดย: ZHULIAN IP: 58.147.65.22 วันที่: 7 มกราคม 2550 เวลา:15:56:19 น.  

 
ก้องสหรัฐเหรอ
ผมว่าพระเอกของเรื่องหล่อกว่า นายก้องสหรัฐเยอะแยะเลย
แล้วพ่อหนุ่มออนไลน์คนนั้นก็หน้าตาดูงั้นๆแหละ จริงๆนะครับ
จริงๆนะ ได้โปรดกลับไปดูใหม่ว่าพระเอกของผมน่ะหล่อแค่ไหน
จริงๆนะ
จริงๆๆๆ
จริงนะ
เชื่อผมสิ


โดย: b-roots IP: 202.183.233.12 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:1:28:52 น.  

 
แต่เรากลับชอบมากมาย


โดย: ธันวาธาวิน วันที่: 5 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:38:22 น.  

 
อยากได้หนังเรื่องนี้มากเลย แต่ไม่รู้ไปซื้อได้ที่ไหน ช่วยส่งมาให้ด้วยนะ ครับ ที่ ttop_radcliffe@hotmail.com


โดย: top IP: 125.26.70.225 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:04:11 น.  

 
น่านอ่ะจิ ทำไมเรากลับชอบหว่า ดูแล้วดูอีกอ่ะ แหมก็นู๋ไป่ของเราออกจะน่ารักขนาดนั้น ส่วนพระเอกเราว่าต้องดูนานๆอ่ะ ถึงจะเห็นว่ามีดีอยู่เหมือนกันนะ สรุปว่าหนังเรื่องนี้ผ่านสำหรับเรานะ สงสัยด้วยความเป็นผู้หญิงด้วยมั่ง ก็เลยชอบแนวของหนังที่จบแบบ Happy ending ขนาดดู QAF ยังไม่กล้าดูจนจบเลย เพราะรู้มาว่ามันจบสุดแสนจะเศร้าใจ อ่ะนะ ทำใจไม่ได้จริงๆ อ่ะคะ ขออยู่ในโลกของ เกย์โทเปียต่อไปดีกว่า 555+

เพลงประกอบเรื่องนี้น่ารักมากๆชอบค่ะ เพลงนี้อ่ะ //www.popcornfor2.com/music/c_m_formula17.php


โดย: Sun IP: 124.120.167.160 วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:10:25:41 น.  

 
หนังน่ารัก ใสๆดีค่ะ ^^

ปล. ชอบพระเอกสุดๆไปเลยค่า >///

โดย: XD IP: 82.245.214.42 วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:5:54:57 น.  

 
ดูแล้วมีความสุขดีนี่ครับ คิดอะไรกันไปถึงไหน ก็เบื่อหนังเกย์ที่ทำ ออกมาแล้ว ต้องเสียน้ำตาให้ เซงเลย แต่เรื่องนี้ทำให้มองโลกในแง่ดีได้นะ อยากมีความรักมั่งซะแล้วซิ


โดย: ดูดีนะ IP: 58.8.195.28 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:12:14:29 น.  

 
หนังดูสนุก น่ารักดี ไม่ต้องคิดหาเหตุผลอะไรมาก ว่ามัย...ถึงวันนี้ ผ่านมา 3-4 ปีแล้ว ก็ยังดูอยู่ได้เรื่อย ๆ ชอบโทนี่ ยัง มาก น่ารักดี


โดย: NEW IP: 222.123.147.21 วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:0:30:36 น.  

 
น่ารักดี เนื้อเรื่องค่อนข้างตลก เบาสมอง อย่าซีเรียส
พระเอกเหมือนดาราไทย สราวุธ ไหมกัน ...ว่ามั้ย
นายเอก ดูเข้มแข็ง ก็แปลกดี
ชอบฉาก Love ทำได้น่ารัก มาก...


โดย: kem IP: 117.47.177.230 วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:3:53:57 น.  

 
ชอบเรื่องนี้นะค่ะ
แต่ยอมรับจริงๆว่า

พล๊อตเรื่องห่วยแตก แต่

ชอบนักแสดงที่แสดงอารมออกมาได้สุดฤทธิ์ิ์ สุดเดช จนคล้อยตาม
บางทีหากทำพล๊อตเรื่องดีๆ อาจจะขายดีกว่าดีก็ได้


แต่ก็ยังชอบอยู่ค่ะ 55


โดย: PEUN IP: 61.7.177.72 วันที่: 6 มกราคม 2553 เวลา:0:29:12 น.  

 
เป็นหนังที่น่ารักดีน่ะครับ โดยส่วนตัวเเล้วชอบน่ะครับ...

แสดงก็น่ารักดี -*- เเต่มีบางฉ่กเเรงไปนิด.....

แล้วเเต่มุมมองคนน่ะครับว่าชอบไหม..



โดย: haha IP: 110.164.250.207 วันที่: 5 มิถุนายน 2553 เวลา:13:28:38 น.  

 
ผมว่าพระเอกของเรื่อง หน้าตากับทรงผมคล้ายโชกุนมากกว่านะ.....ใสๆดี อย่าคิดมากครับ........


โดย: Y_Lover IP: 183.89.254.125 วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:8:46:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.