http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
French Film Festival 2009

by merveillesxx




French Film Festival 2009
19 June - 1 July 2009
at SFW Central World


1. On the Ropes (2007, Magaly Richard-Serrano, A)

- ชอบฉากจบ และการตัดสินใจของนางเอกมากๆ



2. I've Loved You So Long (2008, Philippe Claudel, A)

- ค่อนข้างชอบทุกอย่างในหนัง แต่เกลียดการคลี่คลาย + การเฉลยในหนังในฉากสุดท้ายอย่างรุนแรง

- กราบตีนทั้ง Kristin Scott Thomas และ Elsa Zylberstein (คนหลังชนะซีซาร์สมทบหญิง)

- ฉากที่ชอบมากๆ

1) ฉากที่นางเอกเดินออกจากวงโต๊ะกินข้าว แล้วมาจ้องกองไฟ

2) ปฏิกิริยาของนางเอกตอนที่ถูกแม่กอด



3. Largo Winch (2008, Jerome Salle, B)

- หนังงั้นๆ แต่นักแสดงนำหล่้อและน่ารัก Q&A สนุกสนาน เฮฮา และบ้าบอดี (คนแห่ไปถ่ายรูปพระเอกตรึม 555)



4. Public Enemy Part 1 (2008, Jean-François Richet, B+)

- ชอบฉากเปิดตัวของ Cecile De France มากๆ

- หนังเรื่องนี้ใช้ split screen เยอะมาก ปกติจะไม่ค่อยชอบเทคนิคนี้เท่าไร แ่ต่รู้สึกชอบฉากแบ่งจอตอนที่ Vincent Cassel โทรไปหา Cecile De France มากๆ



5. Modern Love (2008, Stephane Kazandjian, B+)

- just another หนัง rom com ฝรั่งเศส (คุณคงนึกภาพออกว่ามันเป็นอย่างไร) แต่มันก็ดูเพลินๆ ดี

- หนังพยายามบอกอยู่เรื่อยๆ ว่า "Love is not like in the movies" ซึ่งดิฉันก็มีคำถามตลอดเวลา "So what!?"



6. All About Actresses (2009, Maiwenn Le Besco, A+) **highly recommended**

- หนังที่ตลกที่สุดเท่าที่ได้ดูมาในปีนี้

- เฮี้ยนสุด: ฌาน บาลิบาร์

- สติแตกสุด : จูลี่ เดอปาดิเย

- ชนะเลิศที่สุด : ฉากมิวสิเคิลของ ชาร์ล็อต แรมปลิ้ง

- แหม ไหนๆ หนังก็เอา วีวอง อัตตัล มาเล่นแล้ว ก็น่าจะลาก ชาร์ล็อต แกงบูร์กส์ มาร่วมด้วยให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสียเลย



7. Seraphine (2008, Martin Provost, A)

- หนังอีกเรื่องที่สอนให้รู้ว่า "ศิลปินย่อมเป็นบ้า!!!"

- เหนื่อยกับการดู 20 นาทีแรกของหนังมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้เพิ่งดูหนังสนุกๆ อย่าง All About Actresses มาหมาดๆ ก็ใช้เวลาสักพัก จึงปรับ 'คลื่น' เข้าหาหนังเรื่องนี้ได้

- ชอบที่หนังโยงกับเหตุการณ์ครั้งโลก และ great depression โดยไม่ต้องไปโฟกัสตรงเหตุการณ์นั้นๆ มากนัก

- สิ่งที่ชอบที่สุดในหนังคือ การถ่ายภาพพวกต้นไม้ใบหญ้า และการบันทึกเสียงลม (ซึ่งทำให้รู้สึกดีใจที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรง) และสิ่งเหล่านี้มีผลทำให้ฉากจบของหนังทรงพลังมากๆ (แม้ว่าจะ long take แบบ art house cliche ไปหน่อยก็ตาม)

- ตลกดี พี่ MdS บอกว่า ฉากชุดแต่งงานของนางเอก ความจริงเป็น performance art อย่างหนึ่ง แต่อีพวกชาวบ้านดันไม่เก็ทเอง 555



8. Public Enemy 2 (2008, Jean-Francois Richet, B)

- ชอบภาคแรกมากกว่าเหมือนกัน

- ภาคนี้กลายเป็นหนังตลกไปเลย ใส่มุกมาเยอะเหลือเกิน

- รำคาญฉากสุดท้ายมากๆ หนังพยายามจะบิวด์เหลือเกิ๊นนน แต่ดิฉันไม่รู้สึกอะไรไปกับมันเลย ดิฉันคิดเพียงว่า "เมื่อไร แวงซองต์ คาสเซล จะตายเสียที กูปวดฉี่เว้ยย"

- ฉากเดินแบบเปิดตัวของ ลูดิวีน ซานิเยร์ ชนะเลิศมาก จนรู้สึกเสียดายว่าเธอควรจะอยู่ในหนังเรื่อง All About Actresses มากกว่า เพราะเธอน่าจะสู้เหล่านางๆ ทั้งหลายได้



9. The First Day of the Rest of Your Life (2008, Remi Bezancon, A-)

The structure of the film is very interesting. All actors have contribute a great performance esp. Marc-Andre Grondin. Unfortunately, the film has some issues which I can't feel into them such as a family value, the beauty of having a baby. Nevertheless, I love the songs of David Bowie and Lou Reed in this film.



10. Versailles (2008, Pierre Scholler, A-)

I don't like this film much but I still love Guillaume Depardieu's performance. I more I see the film the more I miss him. (Guillaume died last year.) Anyway, I would give A++++++ to the film if it ended with the departed scene because I quite dislike the real ending.



11. Fear(s) of the Dark (2007, A)

(ชื่อตอนแต่ะตอน ผมถือวิสาวะตั้งเองแบบมั่วๆ 5555 ไม่รู้หนังแต่ละตอนมันมีชื่อของมันรึป่าว ค้นแล้วไม่เจอ)

- When the Dogs Bite Back ตอนหมา (A)
เนื้อเรื่องเฉยๆ ไม่ลึกซึ้งอะไร แต่ชอบลายเส้นในตอนนี้มากๆ และตอนจบในแบบสนองนี้ดคนดู (แต่ฝรั่งข้างๆ เบือนหน้าหนี)

- The Lustful Insect ตอนแมลง (A+)
อารมณ์เหมือนการ์ตูนผีญี่ปุ่นเหมือนที่คุณ Eakearly บอกจริงๆ / ชอบลายเส้นที่เหมือนจะแข็งๆ ของตอนนี้ด้วย

- Sumako and her Endless Nightmare ตอนญี่ปุ่น (B+)
ลายเส้นมันตลกอ่ะ แล้วคนญี่ปุ่นพูดฝรั่งเศสปร๋อ เลยรู้สึกแปลกๆ

- My Disappearing Friend ตอนจระเข้ (A+)
เป็นตอนที่ชอบที่สุด รู้สึกว่ามันซึ้งดี แล้วก็ทิ้งความพิศวงไว้ให้เราคิดต่อ

- The Incomprehensible Speech of the Abstract Shapes ตอนที่เป็นภาพขาวดำเปลี่ยนไปมา (B)
สารภาพว่าไม่รู้เรื่อง (ตอนนี้นอกจากศัพท์แสงจะค่อนข้างยากแล้ว ซับยังอ่านยากมากๆ ด้วย เพราะพื้นเป็นสีขาว)

- Alone (?) in the Dark ตอนบ้าน (A+)
มุกเหมือนละครผีในรายการมิติพิศวงเลย แต่พอทำเป็นแอนิเมชั่นแบบนี้แล้วเจ๋งดีแฮะ

โดยรวมรู้สึกหนังมันไม่ได้ดีอะไรมากนะ แต่ก็ชอบที่มันพูดถึงความชั่วร้ายทั้งหมด เป็น 80 นาทีที่มีความสุขมาก



12. Captain Achab (2007, Philippe Ramos, A+)

- หนังที่เฮี้ยน อาร์ต และเซอร์ ที่สุดในงาน สังเกตได้จากจำนวนคนเดินออก (เค้าอาจจะหวังมาดู ไพเรท ออฟ เดอะ คาริบเบียน กัน แต่ทว่า...)

- ชอบโครงสร้างเซอร์ๆ ของหนังเรื่องนี้มาก เช่น

1. การเล่าเรื่องแบบ 1 > 2 > 3 แล้วข้ามไป 9 > 10 เลย

2. มุมของแต่ละตอนมาจากคนอื่นที่ไม่ใช่พระเอก /เสียงวอยซ์โอวเอร์ที่มาก่อนตัว (ดูช่วงแรกๆ ของแต่ละคนจะงงมากว่า อีนี่ใคร)

3. ปลาวาฬโผล่มาฉากสุดท้าย!! / การใช้หนังข่าว

- ฉากที่ชอบมากๆ คือ ช่วงตอนที่ 1 ที่พ่อของพระเอกเอามีดบุกไปหาเมียกับชู้ ชอบการเคลื่อนกล้องตอนที่ยัยเมียเด็กถอยหนีๆๆๆ ออกมาจากกล้องมากๆ นอกจากนั้นยังชอบที่ช่วงที่หนังตั้งใจจัดภาพให้ลาอยู่ตรงกลางตลอดเวลา (สงสัยจะทริบิวต์ให้เรื่อง Au hasard Balthazar ของเบรสซง 555)

- ฉากร้องไห้ตอนสุดท้ายของ Dominique Blanc ทรงพลังมาก

- ตอบ น้อง nanoguy

สำหรับเรื่อง Capitaine Achab ในแง่ emotional เราไม่อินกับตัวพระเอกเลย

แต่สิ่งที่เราอินมากๆ (และชอบมาก) คือหนังมันไม่เชิดชูพระเอกในแบบ heroic ดี และยังเน้นย้ำกด้วยความพระเอกสร้างความชิบหายให้กับทุกคนจริงๆ โดยเฉพาะ อันนา ผู้หญิงที่เสียผัวไปเพราะทะเล แล้วก็พยายามจะเอาพระเอกเป็นตัวแทนของผัว แต่สุดท้ายพระเอกก็หนีไปกับทะเล (ฉาก monologue ตอนสุดท้ายของเธอเศร้ามากๆ เลยที่พูดประมาณว่า ฉันจะเป็นหินก่อนนั้น ประตูบานนี้จะปิดตลอดไป อะไรสักอย่าง) หรืออย่างตอนสุดท้ายที่พวก Starbuck กับลูกเรือต้องผจญชะตากรรมแสนซวย

อีกฉากหนึ่งที่ิติดตาเรามากๆ ใน Capitaine Achab คือฉากความฝันของพระเอก ที่ไปอยู่ใต้โครงกระดูกปลาวาฬ

อย่าง ไรก็ดี สิ่งที่ทำให้เราเซ็งมากๆ ในหนังคือ เด็กที่แสนน่ารักในสามตอนแรก เหตุใดถึงโตมาเป็นคนทรุดโทรมได้ขนาดนี้ในตอนที่ 4 และ 5 ฮ่าๆๆๆๆ



13. Those Who Remain (2007, Anne Le Ny, A+/A)

- สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้

1. ตอนแรกอ่านเรื่องย่อนึกว่าตัวพระเอกนางเอกเป็นคนป่วยเสียอีก ซึ่งนั่นคงน่าเบื่อน่าดู แต่พอหนังเล่าในมุมของ ผัว/เมีย ของคนป่วย ันเลยน่าสนใจดี

2. ชอบที่หนังไม่ให้เราเห็นตัวละคร ผัว/เมียที่ป่วย ของพระเอก/นางเอก เลย

3. หนังเหมือนจะพูดเรื่อง moral dilemma แต่ก็ดีตรงที่มันไม่ได้สั่งสอนอะไรเราเท่าไร แต่ให้เราคิดเองมากกว่า

4. ตัวละครทุกตัวในหนังเรื่องมีความสัมพันธ์แบบ love-hate (คนรัก / ครอบครัว / พี่น้อง / คนไข้-หมอ) ซึ่งคิดว่าหนังทำตรงนี้ได้กลมกล่อมดี

5. ชอบสีหน้าของ Emmanuelle Devos มากๆ รู้สึกว่าหน้าของเธอมันมีอารมณ์ความเสียดเย้ย หรือขำปนเศร้า (อะไรเทือกๆ นั้น) ตลอดเวลา


- ตลกดีที่มีฉาก Vincent Lindon กวนหนวดด้วย เลยคุยกันเล่นๆ ว่า บางที Those Who Remain อาจจะเป็น prequel ของหนังเรื่อง The Moustache (2005, Emmanuel Carrere) ที่ Vincent Lindon + Emmanuelle Devos เล่นคู่กัน




จบงานฝรั่งเศส

โปรแกรมหน้า หนังสั้นมาราธอน และ ลาฟ ดิแอซ



Create Date : 13 กรกฎาคม 2552
Last Update : 13 กรกฎาคม 2552 14:56:29 น. 0 comments
Counter : 1750 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.