http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
มกราคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 มกราคม 2557
 
All Blogs
 

TOP10 FILM : 10 หนังที่ชอบที่สุดปี 2013

by merveillesxx




10. The Kirishima Thing (2012, Daihachi Yoshida)

ไม่ได้เจอหนังญี่ปุ่นเหวอๆ เสียนาน พอเจอทีก็เหวอสุดไปเลย (แถมนี่มันคือหนังที่ชนะตุ๊กตาทองญี่ปุ่น?) เรื่องราวของการตามหาคิริชิมะ แต่ดูจนจบก็ยังไม่รู้ว่าอีคิริชิม่าเป็นใคร หนังดูสนุกมาก กวนตีน เป็นความบ้าแบบคนบ้าหนัง น้อง ไอ ฮาชิโมโต้ น่ารัก (ขอหน่อย) แต่ชอบที่สุดคือมันวิพากษ์เรื่องระบบชมรมในโรงเรียนญี่ปุ่นที่ปกติถูก romanticize กันเสียเหลือเกิน





09. Leviathan (2012, Lucien Castaing-Taylor + Verena Paravel)

สารคดีสุดบ้าระห่ำประจำปี พาเราไปขึ้นเรือสมุทรจับกุ้งหอยปูปลา ชอบมากที่น้องคนนึงเขียนว่า “เป็นหนังที่พาเราไปดูการสังหารหมู่” เออ จริงเลย สุนทรียะของหนังดิบมาก ดูแล้วไม่อยากแดกปลาแดกหอยไปหลายวัน แถมที่ต้องกราบตีนที่สุดคือการถ่ายภาพของหนัง คุณจะได้เมาเรือ คุณได้เป็นปลาที่ตาย คุณจะได้เป็นนกที่บินได้ นี่คือหนังเรื่องนี้





08. Upstream Color (2013, Shane Carruth)

สารภาพเลยว่าสบถระหว่างดูตลอดเรื่อง “เหี้ยไรเนี่ย” “อะไรของมึง” และดูจบก็ไม่รู้เรื่องจ้า ที่ตลกคือผู้กำกับให้สัมภาษณ์เฉลยเสร็จสรรพเลยว่าหนังเป็นแบบนี้ๆ ซึ่งมันก็อลังการดีนะ แต่เราชอบในแง่การเซ็ตบรรยากาศและโครงการเล่าเรื่องของหนังที่มันประหลาดมากๆ อีกอย่างที่ชอบสุดขีดคือดนตรีประกอบ ซึ่งผู้กำกับทำทุกอย่าง กำกับ เขียนบท ถ่าย ตัดต่อ ทำเพลง เล่นเอง ...โอเค กูยอม




07. Paradise: Faith + Paradise: Hope (2012-2013, Ulrich Seidl)

ตัดใจไม่ลง ให้คู่ไปเลยแล้วกัน ภาค Faith นี่ก็แรงมาก กลัวกลุ่มเคร่งศาสนาไปปาระเบิดบ้านอีชีเดล แต่มันดีตรงที่มันไม่ได้เป็นหนังด่าพระเจ้าตื้นๆ ส่วนภาค Hope นี่ผิดคาด กลายเป็นภาคที่เบา อ่อนโยน แต่พอมันมีความเหี้ยห่าน้อย มันก็เลยดูจริงมาก เป็นเรื่องสามัญมาก และกลายเป็นภาคที่เศร้าที่สุดไปโดยปริยาย





06. Frances Ha (2012, Noah Baumbach)

โชคดีที่โลกนี้มีคนอย่าง โนอาห์ บอมแบค โชคดีที่โลกนี้มีคนอย่าง เกรต้า เกรวิก และโชคดีที่ทั้งสองคนทำงานด้วยกันแล้วเคมีเข้ากันอย่างรุนแรง / ชอบบรรยากาศของหนังที่เหมือนการผสมระหว่างหนังอเมริกันอินดี้ + หนัง mumblecore + หนัง French New Wave ยุค 60 ส่วนฉากเที่ยวปารีสนี่แบบจุกอ่ะ ทำไมมันเฮิร์ทได้ขนาดนั้น (ส่วนตัวเป็นคนชอบเที่ยวคนเดียวด้วย เลยยิ่งอิน)





05. Evangelion: 3.0 You Can (Not) Redo (2012, Hideaki Anno)

ภาค 1.11 กับ 2.22 เหมือนย้อนเล่าเรื่องใหม่ พอภาค 3.33 นี่เริ่มส่วนของ new material ผลคือ 30 นาทีแรกนี่เหวอแดกไปเลยค่า ต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า นี่กูดู Eva อยู่จริงเหรอวะ เหมือนเข้าไปสู่โลกใหม่เลย แต่พอดูจนจบก็ชอบนะ ตอนแรกก็สงสัยทำไมโปสเตอร์ต้องเป็นคาโอรุ x ชินจิ แล้วทำไมกลางเรื่องต้องเกย์ขนาดนั้น แต่สุดท้ายแล้วมันซึ้งมากเลย ที่คาโอรุพูดว่า “ฉันเกิดมาเพื่อนาย” นี่มันใช่จริงๆ


04. Stray Dogs (2013, Tsai Ming-Liang)

เมื่อไฉ้หมิงเลี่ยงผลักตัวละครไปสู่ความแห้งแล้งและสิ้นหวังที่สุด มันก็ออกมาเป็นหนังเรื่องนี้แหละ มันไม่มีอารมณ์ขันอีกต่อไป เหมือนกับที่รุ่นพี่คนนึงเคยพูดกับเราว่า “ดูจบแล้วเหมือนโลกนี้มันไม่เหลือความหวังอะไรแล้ว” ส่วนฉากลองเทค 15 นาทีสุดท้ายนี่เราคงโชคดีที่จูนกับโมเมนต์ตรงนั้นได้ มันเลยเหมือนดิ่งเหวห้วงลึกไปพร้อมกับตัวละคร


03. Before Midnight (2013, Richard Linklater)

ตอนแรกเห็นกายหยาบของ อีธาน ฮอว์ค กับ จูลี เดลพี ก็ตกใจ จากนั้นความตกใจก็กลายเป็นความปลง ชีวิตเราก็เท่านี้แหละนะ โมเมนต์แห่งห้วงรักมันแค่เรื่องชั่วคราว สุดท้ายก็ต้องเผชิญกับปัญหา กับความจริง กับความเจ็บปวด / ขอคารวะวิธีการของหนังที่ยังแม่นยำเหมือนเดิม (ฉากทั้งหมดมีบท ไม่ได้อิมโพรไวซ์) และหวังว่าเก้าปีข้างหน้าจะได้เจอกับเจสซี่และเซลีนอีกครั้ง


02. Nobody's Daughter Haewon (2013, Hong Sang-soo)

ฮองซางซูทำหนังกี่เรื่องๆ ก็เหมือนเดิม ยิ่งช่วงหลังความเหมือนเดิมจะยิ่งหนักข้อขึ้น พระเอกต้องเป็นคนทำหนัง เป็นอาจารย์ นางเอกเป็นลูกศิษย์ แต่เราก็ยังดูหนังของเขาได้อย่างรื่นรมย์อยู่ดี บทสนทนา การกระทำ การตัดสินใจ ความโง่เขลา มันคือสิ่งที่เราทำกันอยู่ทุกวัน แต่เรื่องนี้รู้สึกว่าเศร้ากว่าเรื่องอื่น


01. Solanin (2010, Takahiro Miki)

ตอนแรกว่าจะเอาเฉพาะหนังปี 2012-2013 แต่ในเมื่อหนังเรื่องนี้มันอยู่กับเรามากที่สุด ก็ซื่อสัตย์กับตัวเองดีกว่า หนังเรื่องนี้คือบทบันทึกของยุคเจเนเรชั่นวายที่ไม่รู้จะเดินไปทางไหน เป็นเรื่องของการดิ้นรนมีชีวิตต่ออันแสนหนักหน่วง ของมนุษย์ธรรมดากลุ่มหนึ่ง เป็นเรื่องการก้าวผ่านความเจ็บปวดที่สุดที่เรียกว่าการจากลา และเป็นการแสดงที่ดีที่สุดอีกครั้งของ อาโออิ มิยาซากิ แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับตำแหน่งหนังอันดับหนึ่งของปี



Honorable Mention (Alphabetical)

Beyond the Hills (2012, Cristian Mungiu)

Blue Is the Warmest Colour (2013, Abdellatif Kechiche)

Blue Jasmine (2013, Woody Allen)

Cambodia, After Farewell (2012, Iv Charbonneau-Ching + Jeremy Knittel)

Grean Fictions (เกรียนฟิคชั่น) (2013, Chookiat Sakveerakul)

Innocents (2012, Wong Chen-His)

Jonathas' Forest (2012, Sergio Andrade)

Like Father, Like Son (2013, Hirokazu Koreeda)

Like Someone in Love (2012, Abbas Kiarostami)

Mary is Happy, Mary is Happy (2013, Nawapol Thamrongrattanarit)

Neighboring Sounds (2012, Mendonça Filho)

Sister (2012, Ursula Meier)

Snowpiercer (2013, Bong Joon-ho)

Spring Breakers (2012, Harmony Horine)

Stranger by the Lake (2013, Alain Guiraudie)

The Act of Killing (2012, Joshua Oppenheimer)

The Grandmaster (2013, Wong Kar-Wai)

Tom at the Farm (2013, Xavier Dolan)

Workers (2013, Jose Luis Valle)


Discovery of the Year

Desire (Yokubo) (2005, Tetsuo Shinohara)


Drag Me to Hell of the Year

Sunset at Chaophraya (คู่กรรม) (2013, Kittikorn Liasirikun)

The Starving Games (2013, Jason Friedberg + Aaron Seltzer)





 

Create Date : 04 มกราคม 2557
0 comments
Last Update : 4 มกราคม 2557 3:57:14 น.
Counter : 7406 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.