การเมืองในที่ทำงาน
เราเชื่อว่าหลายๆ แห่งคงเจอปัญหานี้เช่นกัน โดยเฉพาะบรรดาองค์กรของรัฐคงจะเยอะเป็นพิเศษ
เราเองก็เจอ รำคาญมาก เพราะเราเป็นการเมืองภาคประชาชนไม่เข้าข้างใคร ใครดีมาก็ดีตอบ ใครทำประโยชน์มากที่สุดก็สนับสนุนคนนั้น
ณ ตอนนี้คือ กำลังจะมีการคัดสรรผู้นำองค์กรเกิดขึ้นจากระดับหน่วยงาน ไปจนถึงระดับสูงสุดขององค์กรในระยะเวลาที่จะถึงนี้
อธิบายง่ายๆ คือ พนักงานต้องเลือกตัวแทนพนักงานเป็นกรรมการ ซึ่งมีผู้เสนอตัวสองคน สมมติชื่อ ก และ ข ถ้า ก ได้เขาก็จะไปเลือก ค แต่ถ้า ข ได้เขาก็จะไปเลือก ง
แล้วผู้นำสูงสุดก็จะชี้ขาด ค หรือ ง อีกทอดหนึ่ง และเมื่อคนใดคนหนึ่งเข้าวินแล้ว จะมีหน้าที่ไปเลือกผู้นำสูงสุดคนใหม่ (ซึ่งอาจเป็นคนเก่าก็ได้หากอยากเป็นต่อเหมือนโอบาม่า)
งงมั้ย?? มันซับซ้อนยิ่งกว่าการเลือกตั้งอเมริกาอีกแฮะ 555
แต่ขอโทษเหอะนะ ไอ้ตัวเลือก ค และ ง ที่จะส่งมาให้เลือกนั้นก็ง่อยพอกันทั้งคู่ในสายตาเรา---คนหนึ่งคอรัปชั่น คนหนึ่งเผด็จการ แล้วจะให้เราเลือกใครเป็นตัวแทนดี?
เปรียบเทียบกับการเลือก ส.ส. ถ้าสองพรรคมันห่วยแตกทั้งคู่ ทำไมเราต้องเลือกล่ะ ต่อให้ได้ใคร ก็ไปเลือกผู้นำสูงสุด (นายกฯ) ที่เป็นพวกพ้องตัวเองอยู่ดี
ก่อนจะถึงวันเลือกกรรมการก็มีการล็อบบี้กันอุตลุด ทั้งผู้สมัครทั้งหัวคะแนนวิ่งกันขาขวิด สื่อสารกันตรงๆ ว่าให้เลือกตนโดยไม่มีการแถลงชี้แจงว่านโยบายของ ค หรือ ง เป็นยังไง ทำไมเราต้องเลือก แค่ชูว่า ให้เลือกคนนี้ เพื่อที่จะไม่ต้องได้ผู้นำสูงสุดเป็นคนนี้ น้ำเน่าเหมือนการเมืองไทยเลยแฮะ
ถ้าไม่มีตัวเลือกอื่นจริงๆ เราก็คงต้องโหวตโนล่ะ เพราะเราไม่เหมือนคนบางกลุ่ม ส่งใครเป็นนายกฯ ก็เลือกหมด
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2555 16:35:27 น. |
Counter : 1775 Pageviews. |
|
|