✿กล้วยทอด - กล้วยแขก สูตรโบราณ ✿
สวัสดี พ่อแม่พี่น้องมวลมหาประชา[ชิม] หมู่บ้านคนช่างกินช่างทำ ข้าน้อยขอคาราวะทุกท่าน วันนี้เชฟกระทะหลุดมีของว่าง กินเล่นขำขำมาให้ชม เชื่อว่าหลายทานต้องชื่นชอบขนมชนิดนี้ ของทอดที่ตัวบ่งบ๊งเองชอบกินมาก ถ้าได้เห็นพ่อค้าแม่ขายมาทอดกล้วยเป็นต้องซื้อมาชิม
"กล้วยแขก หรือ กล้วยทอด" ตรวจสอบจากระบบแล้วไม่ปรากฎเรื่องราวที่มาที่ไปอย่างไร แต่หนุ่มโน๊ต อุดม แต้พานิช ได้พูดในรายการทอร์กโชว์ว่าเป็นของไทย ไม่มีในเมืองแขก แต่ก็มีผู้ไปขุดคุ้ยแล้วนำมาภาพมาแปะพร้อมยืนยันว่า "กล้วยแขก" มีทอดขายในอินเดีย เจ้าของกระทู้เขามายืนยันว่าในเมืองที่เขาอยู่มีการทอดกล้วยแขกขาย หน้าตาตามนี้เลยคะ
โน๊ต อุดม ยังได้ยกตัวอย่างของกินอีกหลากหลายชนิดที่มีในเมืองไทย ไม่มีตามชื่อที่เรียก อาทิ ข้าวผัดอเมริกัน, ลองช่องสิงค์โปร์, ฝรั่งเวียตนาม มีอะไรอีกหล่ะ ตอนนี้ยังนึกไม่ออก
เมนูนี้บ่งบ๊งทำเอาใจน้องเขย น้องเขยชอบกินกล้วยทอด/กล้วยแขกมาก ซื้อมามากเท่าใด น้องเขยฟาดเรียบ ครั้งนี้ที่ทำก็ได้น้องเขยเป็นคนชิม ชิมจนเกลี้ยง ส่วนคนทำกินไปชิ้นเดียว
มาคะ เรามาตั้งกระทะทอดกล้วยรับประทานกัน ต่อไปก็ไม่ต้องควักเงินจ่ายค่าขนมชนิดนี้ 555 666 ยิ่งแก่ ยิ่งงก เพื่อนมันแซว หล่อนจะไม่ยอมควักเงินเพื่อซื้อสิ่งใด ๆ กินแล้วชิมิ สรุป หล่อนจะลงมือทำทุกอย่างรับประทาน (แด๊กซ์)เอง ว่างั้นเถอะ มันแน่นอนอยู่แล๊น
จัดไป "กล้วยแขก-กล้วยทอด" ทอดโดยแขก[อีแมะ]ตัวจริง เสียงจริงนะจ๊ะ
กล้วยแขกสูตรโบราณ
ส่วนผสม
- แป้งข้าวเจ้า 70 กรัม - แป้งสาลี [แป้งหมี่] 20 กรัม - น้ำตาลปีบ 40 กรัม - เกลือป่น 1 + 1/2 ช้อนชา - มะพร้าวขูด 70 กรัม - น้ำปูนใส 1/2 ถ้วยตวง - กลอยอบแห้งบดหยาบ 20 กรัม - กล้วยน้ำว้า 10 ผล - น้ำมันรำข้าวสำหรับทอด
วิธีทำ
ในชามผสม ผสมแป้งข้าวเจ้า, แป้งสาลี, น้ำตาลปีบ, เกลือป่น ใส่มะพร้าวขูด นวดขยำจนน้ำกะทิออกมา ใส่น้ำปูนใสลงไป ตามด้วย"กลอย"บดหยาบ แล้วคนผสมให้เข้ากันดี
ถ้าแป้งข้นไปเติมน้ำเปล่าเพิ่มได้อีกเล็กน้อย ต้องค่อย ๆ เติมน้ำ แล้วดูความเข้มข้น อย่าเทน้ำพรวดเดียวลงไปเดี๋ยวแป้งใสเกิน
ใส่มะพร้าวขูดที่บีบคั้นจนหัวกะทิออกมา
ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าแล้วฝานตามยาวประมาณ 3-4 ชิ้นต่อลูก จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับขนาดกล้วย ถ้าเป็นลูกใหญ่จะได้ประมาณสี่ชิ้น
นำกล้วยลงชุบแป้งให้ทั่วชิ้น แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนไฟปานกลาง ควรให้ด้านหนึ่งเหลืองกรอบดีก่อน แล้วค่อยพลิกกลับอีกด้านคว่ำลง เมื่อกล้วยเหลืองกรอบทั่วแล้วตักขึ้น พักไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน
เคล็ดลับความอร่อย
ควรเลือกกล้วยที่ไม่สุกเกินไป คือเปลือกยังมีสีเขียว ๆ เหลือง ๆ น้ำมันทอดกล้วยต้องร้อนจัด ๆ ในปริมาณให้ท่วมปิดชิ้นกล้วย เปิดไฟแรงในช่วงเริ่มต้น เมื่อเริ่มใส่กล้วยลงไปให้หรี่เป็นไฟกลาง พอกล้วยเต็มกระทะปรับไฟให้แรงขึ้น ใช้ไม้ยาวเขี่ยแยกชิ้นกล้วย ไม่ให้ติดกัน หลังจากกล้วยสุกเสมอกันดีแล้ว ใช้กระชอนช้อนขึ้น
ถ้าแป้งข้นกำลังดี เมื่อนำกล้วยลงชุบแป้งจะเคลือบไปทั่วปิดมิดชิ้นกล้วย ถ้าแป้งใส ๆ ชอบแล้วจะมีช่องว่าง ดูแล้วไม่น่ารับประทาน ไม่สวยด้วยคะ
เสร็จแล้วควรเสริฟขณะที่กล้วยยังร้อน ๆ กินไปเป่ากล้วย เป่าปากไปด้วย แบบนี้บ่งบ๊งศรีว่ามันได้อรรถรส อร่อยกว่ากินตอนที่กล้วยเย็นตัวแล้ว
สำหรับบ่งบ๊ง กล้วยทอด/กล้วยแขกที่อร่อยที่สุดในแปดโลกก็ต้องเจ้าที่ขายอยู่ในซอยพหลโยธิน ปากซอยสีฟ้าตรงข้ามโรงพักบางซื่อ อุดหนุนกันมาเนิ่นนานกว่าสามสิบปี ทุกวันนี้ก็ยังคงขายนะคะ แป้งของเขากรอบมาก กล้วยที่นำมาทอดเนื้อหวาน ไม่นิ่มและไม่แข็งเกินไป แป้งเคลือบทั่วชิ้น เคยถามสูตรเขาตั้งแต่รุ่นพ่อมาขาย 555 ใครเขาจะบอกสูตร ฝันไปเถอะ ก็มันอาชีพของเขานี่นะ พอมาถึงรุ่นลูก/ลูกสะใภ้ขาย แอบถามอีก ลูกชายบอก "พ่อสั่งไว้ว่าไม่ให้บอกสูตรให้กับใคร" แม้นจะขอซื้อสูตรก็ไม่ต้องขายสูตรให้เพราะอยากจะให้ลูกหลานสืบสานตำนานกันต่อไป
บ่งบ๊งจำภาพสมัยที่รุ่นพ่อมาขายเอง ขนกล้วยน้ำว้าใส่กระบะมาเต็มท้ายรถ ขายหมดเกลี้ยง กระทะที่ใช้ทอดกล้วยก็มีขนาดใหญ่ยักษ์ เด็กลงไปนอน หรือถ้าตกไปก็คงจะไม่เหลือซากแน่ ถือเป็นอุตสาหกรรมการทอดกล้วยแขก/กล้วยทอดขายก็ว่าได้ อลังการงานสร้างจริง ๆ ในยุคนั้น หลัง ๆ มีเจ้าอร่อยไม่แพ้กันเกิดขึ้นมากมาย กล้วยทอดนางเลิ้ง กล้วยทอดทอดมลคลราม่า บ่งบ๊งตามไปชิมครบหมด อย่างไรก็สู้แป้งของเจ้าในซอยพหลโยธินไม่ได้ คอนเฟิมคะพี่น้อง
ท่านที่อยู่ไกลบ้านคงจะหาซื้อกล้วยน้ำว้ายากหน่อย น้องปุ้มบอกว่ามีกล้วยอัดกระป๋องวางขาย เป็นกล้วยแช่น้ำปูนใสเรียบร้อย แต่เห็นว่าไม่เวิร์ก ไม่อร่อยเหมือนกล้วยสด แต่พอให้หายอยากได้ แต่ถ้าเกิดอาการอยากจะ[กิน] ไม่มีเรื่องใดยากเกินความสามารถ มันต้องหาเอามาจนได้ สินะ
แต่แน่นอนที่สุด ณ เวลานี้ "กล้วยแขกเจ๊บี๊" อร่อยที่สุด หมายถึงทำกินเองไม่ต้องเสียเงิน เหอ ๆ นับแต่นี้ไปเราจะทำทุกอย่างกินเอง เราจะไม่ยอมให้เงินทองหลุดลอดออกจากกระเป๋าเด็ดขาด นอกเสียจากเมนูยาก ๆ ระดับเหลาที่จำต้องยอมจ่ายเพื่ออรรถรสและรสชาติของชีวิต เราจำยอม
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2557 |
|
20 comments |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2557 11:15:49 น. |
Counter : 46681 Pageviews. |
|
|
|