20 ตุลาคม 2563
ฉันเริ่มหัดวาดรูปตอนไหนนั้น ฉันเองก็
ยังจำความไม่ได้สักเท่าไหร่ เพียงแต่มีการ
ประกวดวาดรูปตอนงานวันพ่อ ฉันมีโอกาส
ได้วาดรูปภาพ เพียงแต่ฉันไม่ได้อะไรเลย
ฉันได้ยินมาว่าผลงานของฉันได้รับรางวัลชมเชย
ดูเหมือนว่านั้น...ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและดีใจ
แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันก็ไม่ได้สน
ใจในอะไรอีกเลย การวาดรูปของฉันจะเน้นไปที่
รวดเร็ว เรียบง่าย ฉันวัสดุน้อยชิ้น ในตอนแรก
ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับสีเท่าไหร่
สีที่ฉันไม่ชอบมากที่สุดคือสีน้ำ ฉันรู้สึกว่ามัน
ยากมากหากจะใช้สีน้ำระบายลงไปในกระดาษ
ฉันเคยได้เทคนิคการลงสีน้ำเป็นพื้นลายน้ำฉ่ำ
ฉันลองนำไปใช้ ฉันรู้สึกสนุกและตื่นเต้นกับเทคนิค
นี้มาก ๆ มันคือการนำพู่กันกับสีอ่อน ๆ ละเลงน้ำให้
ฉ่ำกระดาษและรอจนกว่ามันจะแห้งเอง น้ำซึมเข้าไป
ในตัวกระดาษเชียวน่ะ แล้วรวดลายมันก็จะเกิดขึ้นเอง
ในตอนที่แห้งสนิท การวาดรูปเริ่มสิ้นสุดเมื่อตอนมัธยม
สอง ถ้าหากฉันจำไม่ผิด ครูสอนศิลปะท่านหนึ่งถ้า
กำหนดให้นักเรียนภายในห้องเตรียมตัวร้องเพลงหนึ่งเพลง
หน้าชั้นเรียน ฉันเป็นคนความจำไม่ค่อยดีสมัยเด็ก
ยิ่งเป็นเพลงแล้วละก็ ต้องท่องแล้วท่องอีก ก็จำไม่ได้เสียที
เด็กนักเรียนในชั้นเรียนเดียวกับฉันร้องเพลงผ่านไปทีละคน
ฉันรู้สึกกลัว ๆ กล้า ๆ ไม่กล้าแสดงออกเพราะนั้นคือการโชว์
ร้องเพลงครั้งแรกในชีวิต เป็นการร้องปากเปล่า ฉันให้เพื่อน
สอนร้องเพลงในตอนแรก เขาเป็นทอม แต่ฉันก็จำเนื้อเพลง
ไม่ได้ เด็กในชั้นเรียนเริ่มที่จะร้องเพลงกันหมดแล้ว ฉันอาจจะ
มีโอกาสแสดงการร้องเพลงเป็นอันดับสุดท้าย ต้องบอกว่าท้าย ๆ
มีรู้สึกเกรงและกลัว ฉันไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่เพราะฉันคิด
แต่เรื่องจำเนื้อร้องเพลงให้ได้ ฉันร้องเพลงออกไปหน้าชั้นเรียน
ทุก ๆ คนมองมาที่ฉัน แต่ฉันไม่ได้มองไปที่พวกเขา ฉันจดจ่อ
อยู่กับบทเพลงและกลั่นมันออกไปจากลมหายใจของฉัน
ฉันรู้สึกดีที่มีโอกาสได้ร้องมันออกไป ใครบางคนมองฉันด้วย
แววตาหยาดเยิ้ม เธออาจจะเป็นผู้หญิงเพียงแต่ฉันยังไม่รู้เรื่อง
ความรัก ใคร่ ๆ ในตอนนั้น ครูศิลปะท่านนี้เป็นผู้มอบเกียรติบัตร
ให้กับฉัน ด้านมารยาท สวัสดี