<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 ธันวาคม 2551
 

หนังสือเดินทาง : หางของเบอร์นา ..





เขียนโดย กุนจิ นานาเอะ
แปลโดย ปาริชาต ฉิมคล้าย
จัดพิมพ์โดย JBook ในเครือ Bliss


โปรยปกหน้า
มิตรภาพอันอบอุ่นสดใสระหว่างคนตาบอดกับสุนัขนำทาง
หนังสือยอดนิยมจากชีวิตจริง ที่เรียกรอยยิ้มและน้ำตาจากนักอ่านทุกวัย


เรื่องย่อจากปกหลัง
ุุกุนจิ นานาเอะ ตาบอดสนิทเมื่ออายุได้ 27 ปี
เธอแต่งงานกับสามีผู้พิการทางสายตา แต่ทั้งสองก็ใฝ่ฝันอยากจะมีลูกสักคน
กุนจิจึงตัดสินใจพึ่งพา "สุนัขจูงคนตาบอด"
แม้ว่าเธอจะเกลียดกลัวสุนัขมาก และในยุคนั้นคนไม่ค่อยยอมให้สุนัขจูงคนตาบอดเข้าสถานที่ต่างๆ ได้มากนัก
"เบอร์นา" จึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกุนจิในฐานะลูกสาวคนโต
ซึ่งเบอร์นาไม่เพียงช่วยเหลือกุนจิผู้ใช้ชีวิตได้ลำบากเพราะเพิ่งพิการตอนโตเท่านั้น
แต่ยังช่วยครอบครัวกุนจิเลี้ยงลูกมาถึง 13 ปีเต็ม
ความผูกพันพึ่งพากันระหว่างสุนัขกับคนอันอบอุ่นนี้เอง
เป็นแรงบันดาลใจให้กุนจิ นานาเอะ ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดจาก "ดวงตาแห่งหัวใจ" ของเธอ เป็นตัวอักษร
โดยต่อมาได้กลายเป็นหนังสือยอดนิยม ผู้อ่านต้อนรับอย่างล้นหลามทั้งในญีุ่ปุ่นและต่างประเทศ
อีกทั้งถูกนำมาทำเป็นหนังสือภาพ การ์ตูน แอนิเมชัน ตลอดจนละครทีวีด้วย


หนังสือเล่มบางๆ นี้เดินทางมาจาก "คนขับช้า เพื่อนบ้าน Bloggang เมื่อต้นเดือนที่แล้ว
และเราก็อ่านจบระหว่างเดินทางไปทำงานต้นเดือนนี้เอง

นานาเอะ กลัวสุนัข เพราะมีเหตุการณ์ไม่น่าประทับใจจากวัยเด็ก
แต่เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุทำให้มองไม่เห็น ...เธอก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องอาศัยสุนักนำทาง
จนกระทั่ง ...เมื่อเธออยากจะมีลูก อยากเป็น "แม่"
สามีของเธอพิการทางสายตาตั้งแต่เด็ก ไปไหนมาไหน อาศัยไม้เท้า
และเธอเองก็มองไม่เห็น จะให้เป็นพ่อและแม่เลี้ยงลูกอ่อนแต่ลำพัง ในห้องเช่าที่อยู่ชั้น 2 คงไม่ได้
เธอจึงตัดสินใจจะใช้ชีวิตร่วมกับสุนัขจูงคนตาบอด
ความผูกพันระหว่างครอบครัวกุนจิ โดยเฉพาะนานาเอะ กับ เบอร์นา จึงเริ่มต้นขึ้น
มีเรื่องราวตั้งแต่ก็ฝึก การปรับตัวด้วยกัน การช่วยเหลือ เลี้ยงดู จนกระทั่ง เบอร์นาจากไปเมื่อวัย 13 ปี

ซาบซึ้ง เศร้าใจ และทึ่ง....เป็นช่วงๆ

ซึ้งกับความผูกพัน
เศร้าเมื่อต้องจากการด้วยความตาย
ทึ่งกับความสามารถและความซื่อสัตย์ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดของสุนัขตัวหนึ่ง

อ่านจบด้วยความประทับใจสุดๆ แบบที่คุณคนขับช้าแนะนำไว้เลย
อ่านจบ ก็พบความจริงอย่างหนึ่งว่า
ชาวญี่ปุ่น ปฏิบัติต่อผู้บกพร่องทางร่างกายอย่างดี
มีทางลาด มีความช่วยเหลือกัน มีสถานที่ฝึกสุนัขเพื่อช่วยเหลือ และการอำนวยความสะดวกอื่น
แม้ว่า ในช่วงแรกๆ คนทั่วไปไม่อยากให้ "สุนัข" เข้าไปปะปนกับ "คน" ก็ตาม
แต่นานาเอะ เหมือนจะเป็นผู้บุกเบิกที่ทำให้ สังคมยอมรับ "สุนัขจูงคนตาบอด" มากขึ้น
เธออดทน อธิบาย และให้ความกระจ่าง จนสามารถใช้สุนัขจูงเธอไปส่งลูกชายถึงห้องเรียนได้
เธอพูดจนร้านอาหารอนุญาตให้เบอร์นานั่งนิ่งๆ แทบเท้าเธอในร้านอาหารได้
และต่อมาเมื่อเบอร์นาแก่ลง จนไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดีอีกแล้ว
เธอก็เลือกที่จะยังคงอยู่ร่วมกับเบอร์นา และนำเสนอให้สังคมเข้าใจยิ่งขึ้น ด้วยการบรรยาย
....ให้ชุมชนได้รับรู้และเข้าใจ ถึงการที่คนตาบอดต้องอาศัยสุนัขนำทางนี้ เป็นอย่างไร อยู่อย่างไร ช่วยกันอย่างไร

ปัจจุบันผู้เขียน เปลี่ยนสุนัขนำทางตัวที่ 3 แล้ว (หรืออาจเป็น 4 เพราะหนังสือก็พิมพ์ออกหลายปีแล้วล่ะ)

ทำไมเป็น "หางของเบอร์นา"
เพราะเบอร์นา แสดงอารมณ์และความรู้สึกผ่านการกระดิกหางนั่นเอง
เร็ว หรือ ช้า ทำให้นานาเอะที่มองไม่เห็นจับความเคลื่อนไหว หรือเสียงที่ได้ยินได้


ตามเจตนารมย์ของผู้ส่งมา ....
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเดินทาง
เพื่อแบ่งบันความอบอุ่นใจ
ผู้ต้องการรับช่วงต่อ กรุณาแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่ง หลังไมค์ ค่ะ





Create Date : 04 ธันวาคม 2551
Last Update : 5 ธันวาคม 2551 14:38:52 น. 9 comments
Counter : 2427 Pageviews.  
 
 
 
 
ถ้าอปอช.อ่าน ต้องเตรียมทิชชู่ไว้ซับน้ำตาหนึ่งกล่องแน่ๆค่ะ T^T ฮือ...

อ่านเรื่อง"ไม่ครบห้า"ที่ผู้เขียนเกิดมาโดยไม่มีแขนขาต้องนั่งรถเข็นแล้วก็รู้สึกเหมือนคุณนัทธ์เลยค่ะว่าประเทศญี่ปุ่นเขาดูแลผู้พิการได้ดีจริงๆ อยากให้เมืองไทยเป็นแบบนั้นบ้าง เช่นมีทางลาด มีลิฟท์สำหรับคนที่ใช้ทางเดินปกติไม่ได้เยอะๆ
 
 

โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:8:49:06 น.  

 
 
 
น่าอ่านจังค่ะ

อ่านแค่ที่เอามายังรู้สึกว่า..น่าจะประทับใจพอสมควรเลย

ซาบซึ้ง เศร้าใจ และทึ้ง....เป็นช่วงๆ
^
^
น่าจะเป็นไม้เอกนะคะ พิมพ์ผิดหรือเปล่าหนอ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:12:26:42 น.  

 
 
 
^
^
ขอบคุณค่ะ พิมพ์ผิดจริงๆ ด้วย >> แก้ไขแล้วนะคะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:14:38:16 น.  

 
 
 
ท่าทางจะต้องเตรียมทิชชู่ไว้ใกล้มือจริงๆ อ่ะแหละ
ได้หยุดสามวันเลยรึเปล่าคะคุณนัทธ์
 
 

โดย: BeCoffee วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:15:06:06 น.  

 
 
 
น่าอ่านมากเลยค่ะ แต่ตอนนี้ขอเคลียร์นิยาย jbook ที่ซื้อมาดองไว้ก่อน

ตอนนี้กำลังนั่งไล่อ่าน 20th century boy แบบการ์ตูนอยู่ค่ะ
 
 

โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:20:05:21 น.  

 
 
 
อย่างคุณสาวไกด์ว่า..
อ่านรีวิวแล้วน่าอ่านมากเลย

เห็นคุณอ้อนว่า..ได้หยุดสามวัน
เนื่องในโอกาสอะไรคะ?..วันพ่อหรือเปล่า
 
 

โดย: nikanda วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:20:15:16 น.  

 
 
 
เห็นด้วยที่ว่าญี่ปุ่นเขาให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลือแบบบูรณาการแก่ผู้พิการ...

เห็นแล้วนึกถึงหนังสือชื่อ ไม่ครบห้า น่ะค่ะ

น่าอ่านนะคะเล่มนี้ เห็นแว้บ ๆ อยู่ที่ไหนสักแห่ง ไว้ต้องหามาอ่านค่ะ
 
 

โดย: แม่ไก่ วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:19:19:56 น.  

 
 
 
น่าอ่านจังค่ะ เข้าเมืองเมื่อไหร่จะไปหามาอ่านบ้าง
 
 

โดย: สายลมอิสระ วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:22:51:42 น.  

 
 
 
เล่มนี้ขอข้าม
เพราะไม่ใช่แนว
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:2:20:38 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com