<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
10 เมษายน 2551
 

ลัดคิวอ่าน : เกมชีวิต ลิขิตหัวใจ





3 วันหลังจากที่หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ก็อ่านจบได้ในที่สุด
นับว่าเร็วพอสมควรสำหรับการอ่านหนังสือในช่วงเวลาอย่างนี้
ช่วงเวลาที่รู้สึกเหนื่อยหน่ายใจกับเรื่องการงาน เรื่องคนบางคน เรื่องปัญหาบางเรื่อง อ่ะนะ ....

ว่างเว้นการอ่านหนังสืออย่างจริงๆ จังๆ (หมายถึงอ่านหนังสืออย่างเดียว ไม่ทำอย่างอื่น) มานานแล้ว ก็ได้วันหยุดจักรีนี่แหละ ที่เราได้อ่านหนังสือเล่มนี้ รวดเดียวไปเกือบครึ่งเล่ม ....มาต่อช่วงค่ำอีกเกือบครึ่งคืน
จากนั้นก็เป็นการอ่านในช่วงเวลาเดินทางไป-กลับ และก่อนนอน
เพิ่งจบหมาดๆ เมื่อคืนนี้เอง ....

ไม่อยากทิ้งระยะเวลานาน เมื่อลัดคิวอ่านแล้ว ก็ลัดคิว up blog ด้วยซะเลย


เกมชีวิต ลิขิตหัวใจ - The Hospital

เขียนโดย โหว เหวิน หย่ง แปลโดย อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี
สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์เอโนเวล พิมพ์ครั้งที่ 2 : สิงหาคม 2550 ราคา 295 / 464 หน้า
ซื้อ : 4 เมษายน 2551





เรื่องราวในวงการแพทย์ ซึ่งอาจจะจริงหรือไม่ ..ไม่กล้ายืนยัน
แต่นักเขียนกล้าที่จะนำเสนอ ด้านลบ ของบรรดาหมอในโรงพยาบาลของรัฐ
โรงพยาบาล ที่เป็นทั้งโรงรักษาพยาบาล และเป็นโรงเรียนให้ความรู้ อบรม และสั่งสอนแพทย์ใหม่ๆ ด้วย
คุณหมอทั้งหลาย ...กลับใช้ "การรักษาพยาบาล" เป็นกระดานหมาก เดินเกมชิงอำนาจ ชิงตำแหน่ง
"คนไข้" ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา หรือกระทั่งลูกสาวประธานธิบดี กลายเป็นเบี้ยบนกระดาน

แม้ว่าคุณหมอซูที่ดูเหมือนจะมีความเป็นกลาง มีจริยธรรม มีจรรยาบรรณแพทย์เต็มเปี่ยม ....ท้ายสุด ก็ถูกผลักดันเข้าสู่ วัฎจักรแห่งอำนาจเช่นกัน
หมอกวนซิน ที่เที่ยงตรง ...ยอมพ่ายแพ้ และถอยออกจากวงแห่งอำนาจ ไปเป็นหมอชนบท

ความรักที่ซุกซ่อนไว้เนิ่นนาน เมื่อเปิดเผยออกมาให้อีกฝ่ายได้รู้ กลับได้รับรู้ความจริงที่ซุกซ่อนไว้ของฝ่ายเช่นกัน

ชีวิตคู่ที่เหมือนจะหย่อนคลายลง กลับแสดงความชัดเจน จริงใจ เมื่อฝ่ายหนึ่งเผชิญกับความผกผันในชิวิตขั้นวิกฤต

ความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ดูราวกับแน่นแฟ้น กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อพ่อไม่เข้าใจความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจของลูกแม้แต่น้อย




อ่านไปนึกถึง หนังชุดที่ยังไม่ได้ดูไปด้วย เคยดูเรื่องชุด นาทีชีวิตนาทีวิกฤต ทั้ง 3 ภาคไปแล้ว
หมอในเรื่อง แม้จะมัปัญหาส่วนตัว ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพ ครอบครัว ความรัก
แต่หมอ ก็ยัง นึกถึง "คนไข้" เป็นอันดับต้นๆ ให้ความสำคัญกับ "ชีวิตคนไข้"


ในขณะที่หมอในเรื่องนี้ ใช้คนไข้และการรักษาพยาบาลเป็นเครื่องมือต่อรอง เรียกร้อง แย่งชิง ให้ตัวเองได้มีตำแหน่ง มีอำนาจ

ธรรมเนียมการมอบสินน้ำใจ ของขวัญ เงินตอบแทน ....ในวงการแพทย์นี้ดูน่ากลัว
แม้ในตอนท้าย จะกลายเป็นประเด็นที่สังคม (ในเรื่อง) จับตามอง แต่ก็สามารถยุติได้ด้วยสินน้ำใจเช่นกัน


ย้อนคิดถึงวงการแพทย์บ้านเรา ที่พักหลังๆ มักเห็นข่าวการฟ้องร้องเกี่ยวกับความผิดพลาดในการรักษาของหมอออกมาบ่อยมาก
ที่เป็นข่าว ยังรู้สึกว่าเยอะ แล้วที่ไม่เป็นข่าวอีกล่ะ

หมอเป็นวิชาชีพที่ทรงเกียรติ แม้ไม่สามารถจะยื้อชีวิตใครจากความเจ็บป่วย และความตายได้
แต่หมอ ก็คือผู้ที่จะช่วยรักษา บรรเทา ภาวะอาการเจ็บป่วยทางกายของคนไข้ และทางใจของญาติ นั้นได้

แม้หมอจะกล่าวว่า เรียนหนักกว่า รับผิดชอบมากกว่า เหนื่อยมากกว่า ผลตอบแทนน้อยกว่า

แต่อย่าลืมสิคะ....หมอเลือกที่จะเดินเส้นทางนี้มาแต่แรกนะ ... หรือ สังคมแวดล้อมที่ทำให้หมอเปลี่ยนไป




ปล. ถึงคนแปล (ที่อาจเข้ามาตอบ)
ไม่สามารถวิจารณ์การแปลของคุณได้นะ เพราะเราอ่านภาษาจีนไม่ออกหรอก
เอาเป็นว่า ราบรื่น สละสลวย ไม่ติดขัด
ขอบคุณที่แปลออกมาให้อ่านค่ะ ...





Create Date : 10 เมษายน 2551
Last Update : 10 เมษายน 2551 11:55:37 น. 32 comments
Counter : 2189 Pageviews.  
 
 
 
 
emo
 
 

โดย: มหาสำลี วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:10:14:41 น.  

 
 
 
ขอให้มีกำลังใจที่แข็งแรง...
มีความสุขกับการอ่าหนังสือครับ
....
จะบอกว่าเพลงเพราะมากครับ...เกือบลืมเลยเรา :-D

 
 

โดย: หนึ่งในชาวโลก วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:10:30:57 น.  

 
 
 

ให้เครดิตกันก่อน
หนังสือเล่มนี้ แพนด้ามหาภัย เป็นผู้ตรวจทานให้ก่อนส่งสำนักพิมพ์

ผมได้หนังสือเล่มนี้มาพร้อม Dangerous Mind
ซื้อเพราะ "ชื่อผู้เขียน" เป็นหลักแท้ๆ
เพราะคาดหวังว่าจะได้อ่านแนวฮาๆ เหมือนอย่างที่เคยติดตาม
แต่ถึงกระนั้น ก็อ่านข้ามวันข้ามคืนเหมือนกัน
ใจจริงอยากแปลเรื่องหลังก่อนมากกว่า
1. เรื่องหลังโดนเรามากกว่า ใกล้ตัวกว่า
2. เรื่องนี้แค่ศัพท์แพทย์ ก็เครียดแล้ว
แต่ว่า สำนักพิมพ์กลับอยากได้เล่มนี้ก่อน
เพราะมีข่าวว่าละครกำลังจะเข้าไทย
ส่วนเรื่องหลัง ถึงกับดองจนเกือบสองปี (เพิ่งมาเร่งออกเพราะนักเขียนจะมาไทย)

การทำงานแปลหนังสือเล่มนี้
โชคดีที่พี่ในเอ็มคนหนึ่งช่วยแนะนำพี่หมอคนหนึ่งให้รู้จัก
ผมทำงานโดยการแปลเอาไว้กลางวัน
ตอนเย็นพี่หมอออนเอ็ม ก็หยิบมาถามกันคำต่อคำ
เครื่องมือที่ใช้สำหรับอย่างนั้นอย่างนี้ เรียกว่าไรครับ
(สเตตโตสโคป เอย ลาริงโก้ เอย การสอดท่อเอย)
แม้กระทั่งคำอุทานของหมอ
"เจอหิน"
และคำไทยๆ อย่างคำว่า "คุณพระช่วย"
ก็ได้มาจากพี่หมอ จนถึงชื่อของอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ในช่องท้อง การชันสูตรพลิกศพ... โอย เยอะเกินกว่าจะบรรยาย
อ้อ เรื่องวัฒนธรรมการให้ซองแดงด้วย


เสียดายที่ไม่มีหน้ากระดาษสำหรับขอบคุณในคำนำ (ไม่มีคำนำของผมด้วยซ้ำ)
ด้วยเหตุผลที่ทางสนพ. บอกผมว่า
เต็มพอดี
เฮ้อ
แต่ถึงกระนั้น หนังสือของคุณโหว สร้างความท้าทายใหม่ให้ผมเสมอ

หลังจากแปลเกมชีวิตฯ จบ ผมบอกตัวเองว่า
ไม่มีหนังสือ "ยาก" สำหรับผมอีก"
เช่นกันหลังแปล "อ้อมกอดลวง" จบ ผมก็บอกตัวเองว่า
ไม่มีหนังสือ "ยาว" สำหรับผมอีก เหอะๆ

จากการได้พบกับนักเขียนในงานนี้ เขาได้เล่าบางอย่างที่เป็นเบื้องหลังงานเขียนชิ้นนี้ ผมคิดว่าน่าจะนำมาแบ่งปัน
1. เขามีเพื่อนหมอคนหนึ่ง อัดเสียงตัวเองทิ้งไว้ให้ลูกสาวก่อนตายจริงๆ
2. เขาชอบฉากที่พ่อของเฉินควน จุดไฟเผาใบ "ประกาศฯ" รับรองตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของลูกชายที่สุด
มันไม่ต้องพูดมาก แต่สื่อความรู้สึกได้เต็มที่
"ทำไปทุกอย่าง ก็เพื่อกระดาษใบนี้"
3. ฉากในผับที่พ่อของเฉินควนชวนพระเอกมา... อ๊ะ มันสปอยล์เกินไป...
จะบอกว่า ผู้เขียนเพิ่มเข้าไปทีหลัง
เพราะอยากเขียนคำว่า "ทีนี้พวกเราก็เป็นเพื่อนกันจริงๆ ได้แล้ว"

ไปจนถึงแนวคิดแรกเริ่มในการเขียนหนังสือเล่มนี้

"ฉากแรก เข้าไปในโรงพยาบาลทางชั้นใต้ดิน (ต่ำสุด) และจบที่ยืนอยู่บนชั้นสูงสุดของโรงพยาบาลแล้วร้องไห้"
อยากเห็นหมอหนุ่มไฟแรงคนหนึ่ง จะทำตัวอย่างไรในสถานที่อย่างนี้
ตัวละครอื่นๆ ค่อยๆ เกิดขึ้นตามมาโดยที่ตอนแรกนักเขียนก็ไม่เคยล่วงรู้เลย

เพิ่มเติมจากนี้ คิดว่าแพนด้าฯ น่าจะมาเล่าอะไรในการอีดิตหนังสือเล่มนี้ให้ฟังบ้างนะ

ขอบคุณที่ลัดคิวอ่านจบคร้าบบบ

ปล.
เนื่องด้วยนโยบายการจ่ายค่าแปลของแต่ละสนพ. ไม่เหมือนกัน
ผมเพียงจะบอกว่า ต่อให้หนังสือเล่มนี้พิมพ์อีกสิบครั้งร้อยครั้ง
ผมก็ไม่ได้เพิ่มอีกแม้แต่บาทเดียว
ดังนั้น ที่เชียร์ๆ แล้วก็เชียร์ๆ ให้อ่าน
เพราะอยากให้อ่านจริงๆ
ไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น
 
 

โดย: beer87 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:10:34:52 น.  

 
 
 
ว๊าว...อ่านรีวิวแล้วก็นึกอยากอ่านตามมั่ง...
ยิ่งมาอ่านคอมเม้นท์คนแปลก็ยิ่งอยากอ่านมากขึ้น แล้วเลยพลอยอยากอ่าน Dangerous Mind ไปด้วย...

เฮ้อ...ทำไมโลกนี้มีหนังสือน่าอ่านมากมายหยั่งงี้นะ
 
 

โดย: แม่ไก่ วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:10:47:34 น.  

 
 
 
 
 

โดย: narumol_tama วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:11:19:18 น.  

 
 
 
ฟังชื่อเรื่องแล้วเหมือนชื่อละครเกาหลีเลยค่ะ
ไปๆมาๆเป็นเรื่องคุณหมอไปได้ แต่ว่าน่าสนใจนะคะเหมือนละครจีนชุด อยากดูเป็นละครมากกว่าเลย
 
 

โดย: TaMaChaN (narumol_tama ) วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:11:25:29 น.  

 
 
 
เย้ๆๆๆๆ ได้แล้วครับ

 
 

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:13:04:55 น.  

 
 
 
เราชอบงานเล่มนี้มากเพราะมันลุ้นระทึกดีน่ะค่ะ

ตอนเริ่มอ่าน คนแปลส่งมาเป็นบท คนตรวจก็ร้อนใจ 55 เพราะสนุกมาก อยากอ่านตอนต่อไปไวๆ

ทั้งเรื่องนี้ ชอบถังกั๋วไท่มากที่สุดเลยค่ะ
โดยเฉพาะฉากที่ล้มในห้องผ่าตัดนี่ กระชากใจสุดๆ (ยิ่งกว่าตอนที่ความลับของกวนซินเปิดเผยอีกนะ)
พอถึงตอนจบของเรื่องนี่ โอยยย มันโดน ต้องใช้คำว่า "สาสมใจ" จริงๆ แฮะ
 
 

โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:14:25:00 น.  

 
 
 

หนังสือท่าทางสนุก คนแปลมาเม้นท์สนุกไม่แพ้นะ

การปีนขั้นบันไดอาชีพด้วยวิธีใดๆ คงมีทุกอาชีพ แต่เมื่อมันเกี่ยวกับศีลธรรม จรรยา และชีวิต กลายเป็นเรื่องร้อนมากกว่าอื่น อันที่จริงวิชาชีพนี้ ยิ่งต้องเพิ่มวิชาศีลธรรมจรรยามากไม่แพ้อาชีพอื่น ชักเครียด..

 
 

โดย: อั๊งอังอา วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:14:53:16 น.  

 
 
 
เข้ามาอ่านจ๊ะ
 
 

โดย: สาวใหม วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:18:38:32 น.  

 
 
 
เรื่องนี้นึกอยากอ่านขึ้นมา ก็ตอนที่รู้ว่า TVB ไปสร้างเป็นหนังชุด
ช่อง 3 เอามาออกอากาศดึกมาก ก็ไม่ได้ดู
จิดใจตั้งแต่ทราบพล๊อตเรื่องคร่าวๆ แล้วล่ะ
แต่พออ่านจบ ไม่คิดว่า เรื่องจะแรงขนาดนี้
คงเป็นเพราะบ้านเราไม่ค่อยเปิดกว้าง
ไม่มีใครกล้าเขียน ภาพลบ มุมมืด ของสถาบันที่อันทรงเกียรติ อย่างนี้ก็เป็นได้
รึว่า มีคนเขียน แต่เราไม่เคยรู้ ไม่แน่ใจนะ
ถ้าใครเคยอ่านเรื่องสไตล์นี้ ของนักเขียนไทย ก็บอกด้วยละกัน จะได้ไปหามาอ่านบ้าง

ขอบคุณความเห็นจากผู้แปลและผู้อิดิทด้วยค่ะ
ทำให้ได้อรรถรสเพิ่มเติม

นักเขียนจีน ไม่ลืมที่จะทิ้งคารมคมคาย และแทรกความคิดอีกด้านไว้ในถ้อยคำ
บางประโยคที่ผ่านปากตัวละคร ต้องคิดให้ลึกลงไปอีกชั้นเสมอ....

ไม่นึกเลยว่า คนเขียนเรื่องนี้เป็นคนเดียวกับที่เขียน "เกิดมาซน" คนละอารมณ์จริงๆ

ถ้าใครยังไม่ได้อ่าน ก็อยากให้หามาอ่านกันค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:19:42:35 น.  

 
 
 
ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือแนวนี้เลย
 
 

โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:20:17:52 น.  

 
 
 
น่าสนใจมากค่ะ ไม่ค่อยได้อ่านงานของนักเขียนจีนเลย
จากข่าวเอนทรานซ์ เดี๋ยวนี้คนนิยมเรียนหมอลดลงเพราะถูกฟ้องบ่อย อาจจะจริงก็ได้
 
 

โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:20:44:15 น.  

 
 
 
อ่านแล้ว ทำให้กลัวหมออ่ะป่าวนี่ หลอนนะถ้าอ่านแล้วไม่กล้าไปหาหมอ ก็ไม่อ่านดีกว่า

จริงๆ ถ้าเป็นหมอสาวๆ ก็ไม่เป็นรัย...อิๆๆ
แต่เข็ดแล้วๆๆๆ
 
 

โดย: กวินทรากร วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:20:59:02 น.  

 
 
 
emo
หุ หุ
เรื่องนี้มันส์มากค่ะ สุดท้ายหมอถังก็ต้องรับกรรม
แต่หมอซูกับหมอกวนน่าสงสารจัง
 
 

โดย: Jevanni วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:22:36:27 น.  

 
 
 
คนอ่านรีวิวก็พลอยมันส์ไปด้วย
 
 

โดย: BeCoffee วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:23:00:00 น.  

 
 
 


ลัดคิวอ่านก่อน

น่าจะแปลว่าต้องมีอะไรดีแน่ๆ

อืมม
 
 

โดย: ห่วงใย วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:23:42:10 น.  

 
 
 
ปกติไม่ค่อยอ่านแนวนี้ แต่อ่านทั้งรีวิวและเม้นท์แล้วมันน่าสนใจมั่กๆค่ะ
 
 

โดย: หมูย้อมสี วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:11:23:46 น.  

 
 
 
อ่านดูแล้ว
น่าอ่านมากๆครับ

สังคมก็คล้ายกันหมดเนาะครับ
จริงๆนะทุกที ไม่ว่าสังคมใดก็ตาม...
 
 

โดย: ชรันจ์ วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:20:53:22 น.  

 
 
 
 
 

โดย: มหาสำลี วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:8:39:43 น.  

 
 
 



 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:8:02:35 น.  

 
 
 
หวัดดีปีใหม่ไทยครับ....
ขอให้มีความสุขมากมาย
 
 

โดย: หนึ่งในชาวโลก วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:11:17:34 น.  

 
 
 
สวัสดีปีใหม่เมืองเจ้า...

 
 

โดย: แม่ไก่ วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:14:25:30 น.  

 
 
 
แวะมาสวัสดีปีใหม่ครับ คุณนัทธ์ฺเจ้าเมืองกรุงเทพ 555+

คนกลับตจวหมดคุณนัทธ์ครองเมืองไปเลย
 
 

โดย: ขอรบกวนทั้งชุดนอน วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:17:44:58 น.  

 
 
 
สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะ
 
 

โดย: หมูย้อมสี วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:19:10:02 น.  

 
 
 
emoemo


สวัสดีปีใหม่ไทยครับ.....
 
 

โดย: big-lor วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:7:25:02 น.  

 
 
 
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ : )
 
 

โดย: ชรันจ์ วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:19:55:27 น.  

 
 
 
สุขสันต์วันสงกรานค่ะ
ช้าไปหน่อย...เพราะไม่อยู่บ้านสองวัน
ขอบคุณค่ะ...ที่แวะไปเยี่ยมเยียน
เรื่องนี้...ยังไม่ได้อ่าน...แถมซีรี่ย์ก็ยังไม่เคยดู
แต่เคยอ่านรีวิว...มาจากบล็อกคุณวิ
รู้สึกได้เลย...ว่าต้องชอบแน่ๆ
ชอบแนวนี้ค่ะ...แบบว่าบีบคั้น...กดดันทำนองนี้
 
 

โดย: nikanda วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:23:24:17 น.  

 
 
 
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ อวยพรให้คุณนัทธ์และครอบครัว อยู่เย็นเป็นสุข เย็นและสดชื่นดังน้ำเย็นที่รินรดในเทศกาลมหาสงกรานต์นะจ๊ะ

คิดถึงเน้อ
 
 

โดย: โมกสีเงิน วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:11:25:13 น.  

 
 
 



ส้มแวะเอาข้าวหน้าหมูย่าง+ไข่ดาวมาฝากค่ะ
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:16:52:40 น.  

 
 
 
อ้าว..รูปไม่ขึ้นทำไงอ่ะคะ
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:16:55:12 น.  

 
 
 
ขอนอกเรื่องหน่อยนะคะ ไปไล่อ่านกระทู้เก่าในห้องสมุด
10 เล่ม must read
เจอของคุณนัทธ์ ตื่นเต้นค่ะ เจอคอเดียวกัน
เพิ่งอ่านนิราศ 9 เรื่องสุนทรภู่จบ
ชอบมากกกก.....


Must have (& must read เลยล่ะ)

ผู้ชนะสิบทิศ - ยาขอบ
เพชรพระอุมา - พนมเทียน
ศิวาราตรี - พนมเทียน

รามเกียรติ์ - พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 1
อิเหนา - พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 2
นิราศ 9 เรื่องของสุนทรภู่
ลิลิตละเลงพ่าย - สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส
สามกรุง - น.ม.ส.
พระราชพิธีสิบสองเดือน - พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 5
มัทธะนะพาธา - พระราชนิพนธ์ - รัชกาลที่ 6
 
 

โดย: January Friend วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:23:04:50 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com