Young = ยัง = เฟื้อ หริพิทักษ์
สืบเนื่องจากกิจกรรม Blind Date with a Book โดย The Reading Room ซึ่งเราได้ "คู่เดต" กลับมานั่งอ่าน นอนอ่าน พกไปอ่าน ก็คือ
ยังเฟื้อ = Young Fua : นรา
สำนักพิมพ์ openbooks พิมพ์ครั้งแรก : มีนาคม 2554 จำนวน 296 หน้า / ราคา 265 บาท
:: โปรยปกหลัง :: อาจารย์เฟื้อได้รับเกียรติยศยิ่งใหญ่ในชีวิตสมถะเท่าที่พึงรับได้ คือได้รางวัลแมกไซไซ ได้รางวัลศิลปินแห่งชาติ ได้ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาจิตรกรรมจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ผมมีความรู้สึกว่ารางวัลต่างๆ ที่อาจารย์ได้รับในชีวิตนั้น ไม่มีรางวัลไหนยิ่งใหญ่กว่าอาจารย์เฟื้อ ความยิ่งใหญ่ของอาจารย์เฟื้อนั้นมีอยู่สามประการ เป็นความยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ อย่างแรกคือ อาจารย์เฟื้อเป็นครูศิลปะยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของวงการศิลปะสมัยใหม่ในเมืองไทย อย่างที่สองคือ อาจารย์เฟื้อเป็นนักอนุรักษ์งานจิตรกรรมฝาผนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย อย่างที่สามคือ อาจารย์เฟื้อเป็นอิมเพรสชั่นนิสต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
วาณิช จรุงกิจอนันต์
นับแต่แรกเห็นหนังสือเล่มนี้ เราก็รู้สึกแล้วว่า "น่าสนใจ" แต่เราก็ไม่ได้ซื้อมาอ่านซะที ดังนั้ พอเปิดห่อกระดาษออกมาเจอปกนี้ เราก็เลย "ถูกใจ" และแอบชมตัวเองที่อ่านคำใบ้ แล้ว "เดา" ไว้ในใจว่าน่าจะเป็นเล่มนี้แหละ หนังสือที่กำลังอยากอ่าน
พออ่านจบ ก็ต้องกระตุ้นตัวเองว่า ไม่ต้องรีรอไปหาในร้าน 50% หรือราคาพิเศษมากๆ หรอก ...ซื้อซะ เพราะนอกจากจะได้อ่านเรื่องแล้ว ....ภาพประกอบเป็นภาพผลงานของอาจารย์เฟื้อมากมายหลายภาพ ก็คุ้มค่าแล้ว
หนังสือเล่มนี้เป็นการนำบทความที่เผยแพร่ใน //www.manageronline.com ทุกวันจันทร์ ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 25552 - 25 กุมภาพันธ์ 2553 จากนั้นจึงนำต้นฉบับมาขัดเกลา เพื่อตีพิมพ์เป็นเล่ม เป็นงานเขียนที่ผู้เขียนเล่าว่า "...เริ่มต้นจากความว่างเปล่า ไม่ได้ตระเตรียมข้อมูลใดๆ ล่วงหน้ามาก่อน... การทำงานจึงเริ่มต้นแบบคู่ขนาน ด้านหนึ่งก็ลงมือเขียน อีกด้านหนึ่งก็เข้าห้องสมุดค้นหาข้อมูลไปด้วยพร้อมๆ กัน..."
เป็นวิธีการเขียนแบบที่เราถนัดเลยนะเนี่ย นึกอยากเขียนก็ลงมือเขียนพร้อมๆ กับ search ข้อมูลประกอบไปด้วย
ผู้เขียนแบ่งเรื่องราวชีวิตของบรมครู ออกเป็น 2 ภาค คือ ภาคต้น เขียนถึงวัยเด็ก เล่าเรียนหนังสือ เรียนการเขียนภาพแบบสมัยใหม่ ไปเรียนถึงอินเดีย แต่ต้องไปอยู่ค่ายกักกันเพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 กลับมาพบรัก เลิกรัก และมีรักใหม่ ไปเรียนที่อิตาลี ช่วงแรกเป็นชีวิตในการแวดวงของศิลปะสมัยใหม่ทั้งสิ้น ภาคจบ เขียนถึงเรื่องงาน "อนุรักษ์และฟื้นฟูจิตรกรรมฝาผนัง" ที่อาจารย์เฟื้อได้ทำไว้
ชีวิตช่วงนี้ เป็นภาคของการทำงานอุทิศชีวิตเพื่อศิลปะไทยโดยแท้ บรมครูบุกปั่น ค้นคว้า และดั้นด้นไปค้นหาภาพจิตรกรรมฝีมือช่างโบราณในวัดต่างๆ มีการคัดลอกภาพออก ทำให้เราได้เห็นงานจิตรกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ตอนปลาย เรื่อยมาถึงรัตนโกสินทร์ และภาพในบ้างวัด ก็สูญสลายผุพังไปตามกาลเวลา คงเหลือแต่ภาพคัดลอกผลงานของท่านอาจารย์ ที่เรายังสามารถไปดูได้ที่ "พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ หอศิลป์"
"ในส่วนการบูรณะหรืออนุรักษ์งานที่มีคุณค่าศิลปะนั้นมีหลายขั้นตอน ที่สำคัญเราต้องรู้คุณค่างานศิลปวัตถุนั้นก่อน ว่ามีคุณค่าแค่ไหน บางอันมีคุณค่าสูงสุด ถือกันว่าเป็นงานฝีมือขั้นปรมาจารย์ กระทบไม่ได้เลย โดยเฉพาะถ้าเราไปเสริมก็เหมือนกับไปเพิ่มเติม"
ผลงานอนุรักษ์งานจิตรกรรมของอาจารย์เฟื้อในวัดต่างๆ นั้นมีบอกเล่าไว้ทั้งหมดแล้วในหนังสือเล่มนี้ ต่อไปเวลาเราไป "เที่ยววัด" เราก็จะมีจุดมุ่งหมายอีกประการคือ ดูภาพด้วยความเคารพผู้สร้างสรรค์ และผู้อนุรักษ์ไว้ แม้ว่าเราจะไม่ลึกซึ้งขนาดบอกว่า ลายเส้นอ่อนช้อย ใช้สีสุดยอด ลงสีเรียบเนียน แต่เราก็จะดูงานศิลปะด้วยความรักและเคารพยิ่งขึ้น
ศิลปะ ไม่ต้องเข้าใจเนื้อหามากก็ได้ เพียงดูด้วยตา สัมผัสด้วยใจ สมองอ่ะ คิดทีหลังก็ได้นะ
แม้ว่าผู้เขียนจะเล่าเรื่องด้วยสำนวนของตนบ้าง ด้วยการยกคำกล่าวของท่านอาจารย์ที่เคยให้สัมภาษณ์ ในบทความต่างๆ หรือจากรายงานค้นคว้าวิจัยมาบ้าง แต่ก็ได้ไล่เรียงลำดับเรื่องราวไปตามช่วงชีวิตของท่าน หนังสือเล่มนี้ จึงทำให้ภาพเลือนลางของ "อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์" ในมโนภาพของเรา ชัดเจน แจ่มแจ้ง เหมือนเคยรู้จัก เหมือนว่าเราเป็น "ศิษย์" ของท่านคนนึง
เอาเป็นว่า หากอยากรู้จักอาจารย์เฟื้อ ก็อ่านเล่มนี้ อยากรู้การบูรณะและอนุรักษ์งานจิตรกรรมฝาผนัง ก็อ่านเล่มนี้ อ่านจบแล้ว เชื่อว่าคุณจะรักงานจิตรกรรมไทยขึ้นอีกเยอะเลย
สุดท้ายแล้ว แถมภาพจิตรกรรมฝาผนังบนหอไตร วัดระฆังโฆษิตาราม ที่อาจารย์เฟื้อใช้เวลาเกือบ 20 ปีให้การบรูณะ ฟื้นฟู และอนุรักษ์ไว้ทั้งน้ำตา กราบขอบพระคุณศิลปินใหญ่ผู้ล่วงลับไปแล้ว ที่ยืนยัดรักษาผลงานช่างโบราณไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ชมและศึกษา
หอไตร บริเวณข้างวิหาร
ผนังหลังภาพพระบรมสาทิศลักษณ์มีภาพจิตรกรรมเรื่องรามเกียรติ์
บานหน้าต่างที่อาจารย์เฟื้อนำกลับไปขัดจนกระทั่งมองเห็นลายปรากฎขึ้นมา เป็นภาพเทวดถือพระขรรค์
ภาพช้างตระกูลต่างๆ บนผนังด้านหนึ่งภายในหอไตร
ภาพเทพชุมนุม
ข้อมูลประวัติ อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ >> คลิก
Create Date : 06 มีนาคม 2556 |
Last Update : 20 มีนาคม 2556 22:51:49 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2737 Pageviews. |
|
|
|
ศิลปะมีหลายขั้นตอนและคุณค่า
ก่อนจะเลือกบูรณะอะไรให้ศึกษาให้ดีดีก่อน
บางทีรินเห็นเค้าบูรณะ กลายพันธุ์ไปเลยก็มีค่า
ไม่เหลือเค้าให้เห็นความโบราณเลย
ศิลปะหายไปหมดจริงๆ