เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จเจ้าฟ้า ผู้เป็นมิ่งขวัญของเรา ....
ขอเลือกหยิบหนังสือพระราชนิพนธ์ เล่มแรกที่เราได้อ่านมาแบ่งปั้น
พร้อมด้วยเรื่องราวเมื่อครั้งได้มีโอกาสรับเสด็จ
พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
พิมพ์ครั้งที่ 4 : 12 สิงหาคม 2528 ราคา 60 บาท / 462 หน้า
ซื้อ : ไม่ระบุ
โปรยปกหลัง
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2498
ปริญญาบัตรที่ทรงได้รับ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาจารึก) มหาวิทยาลัยศิลปากร
อักษรศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาภาษาบาลี-สันสกฤต) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ "ย่ำแดนมังกร" เมื่อเดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2524
พระชนมายุ 26 พระชันษา
"ย่ำแดนมังกร" เป็นบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ท่านผู้อ่านจะได้รับทราบพระราชดำริอันจะเป็นประโยชน์ยิ่งต่อสังคมไทย
ซึ่งสอดแทรกอยู่ในบทบันทึกโดยละเอียด ในการเสด็จพระราชดำเนินเพื่อเจริญพระราชไมตรี
กับสาธารณรัฐประชาชนจีน และจักเป็นจดหมายเหตุพระราชกิจอันทรงคุณค่ายิ่งในรอบ 200 ปีของกรุงรัตนโกสินทร์
ด้วยเป็นครั้งแรกที่พระบรมราชกุมารีแห่งพระราชวงศ์จักรีและของประเทศไทย
เสด็จพระราชดำเนินถึง "แดนมังกร"
"...แม้ว่าประเทศไทยกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จะมีความสัมพันธ์ทางการฑูตมาเพียงชั่วเวลา 10 ปี คนไทยกับคนจีนก็มีความรู้จักมักคุ้นกันมานาน ไทยกับจีนมีความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยดังที่ทราบกันอยู่แล้ว ฉะนั้น เรื่องราวของประเทศจีน วัฒนธรรมจีน และประวัติศาสตร์จีน จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจค้นคว้า ศึกษา หวังว่าหนังสือย่ำแดนมังกรเล่มนี้ จะช่วยเพิ่มเติมข้อมูลบางประการเกี่ยวกับประเทศจีนให้แก่ท่านผู้อ่านได้บ้าง"
ตอนเรียนปี 1 วิชาภาษาไทย ซึ่งเป็นวิชาบังคับ นักศึกษาทุกคณะต้องลงเรียนเหมือนกันหมด
หนังสือย่ำแดนมังกร เป็นหนังสือนอกเวลา ที่อาจารย์ผู้สอนมอบหมายให้อ่าน
ก็ต้องขอเงินแม่...ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน จำได้ว่า ไม่ค่อยสนใจอ่านนัก เพราะมีวิชาเรียนในห้องบรรยายที่ต้องตั้งใจมากมายอยู่แล้ว
จนกระทั่งอาจารย์ประกาศในห้องบรรยายว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
จะเสด็จมาทรงบรรยายถึงพระราชนิพนธ์เล่มนี้ให้นักศึกษาฟัง
ตื่นเต้นมาก...ที่จะได้เข้าเฝ้า...แม้จะเป็นห้องบรรยายรวมที่เราได้นั่งไกลไกล ได้เห็นพระองค์ท่านในระยะไกล ...
ทรงเล่าถึงการเดินทาง และเรื่องราวสนุกๆ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน
ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของท่านนายกรัฐมนตรี จ้าวจื่อหยาง เมื่อปีพ.ศ.2524
พระราชอารมณ์ขัน ปรากฎทั้งขณะทรงบรรยาย และปรากฎเป็นระยะในหนังสือเล่มนี้
นอกจากนั้น ทรงบันทึกข้อมูลความรู้ที่ทรงฟังบรรยายจากไกด์ลงไว้อย่างละเอียดละออ
อ่านแล้วเหมือนร่วมเดินทางไปกับพระองค์ตั้งแต่ต้นจนจบเลยที่เดียวล่ะ
เราจำไม่ได้แล้วว่า อาจารย์สั่งย่อความหรือว่าให้ทำอะไรเพื่อเก็บคะแนนจากการอ่านหนังสือนอกเวลาเล่มนี้
แต่หลังจากที่เราได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว
....เราก็ค่อยๆ ทยอยซื้อพระราชนิพนธ์ที่เกี่ยวกับการเสด็จเยือนประเทศต่างๆ เรือยมา
หนังสือพระราชนิพนธ์ มีราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับหนังสือเล่มอื่นๆ
ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนซื้ออ่านได้
นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าเฝ้าเจ้านายพระองค์นี้
เมื่อครั้งเสด็จเปิดงานหนังสือจืน
พอเรียนจบและได้เริ่มงาน ณ ที่ทำงานปัจจุบันนี้แหละ
ยังไม่ทันเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการทำงาน หรืองานในความรับผิดชอบเลย
เราก็ได้ทราบจากเพื่อนร่วมงานว่า ....ปลายสัปดาห์...จะต้องรับเสด็จเจ้านายพระองค์นี้
ทรงเสด็จมาเป็นองค์ประธานเปิดงาน "หนังสือจีน" ซึ่งจัดโดยบริษัทนานมี
เช้าวันนั้น ไม่ได้ทำอะไร นอกจากคอยยืนรับเสด็จอยู่ใกล้ๆ นายและพี่ๆ ในแผนก
ชื่นชมพระบารมีห่างๆ
จากวันนั้นเป็นต้นมา เราก็ได้รับเสด็จพระองค์ ในงานเดียวกันนี้เรื่อยมา
จนบริษัทนานมีเลิกงานจัดหนังสือจีนนั่นแหละ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โปรดเสด็จเปิดงานในเวลา 9 โมงเช้า ทุกครั้ง
นั่นแปลว่า ...เราต้องอยู่ดูแลความเรียบร้อย ประสานงาน และอำนวยความสะดวกให้เจ้าของงาน
จนแล้วเสร็จ ก็ราวๆ 5 ทุ่มในคืนก่อนวันเสด็จ และมาถึงที่ทำงานแต่เช้า เพื่อเช็คความพร้อมอีกครั้ง
แต่ละครั้ง จะประทับอยู่ในงานเกือบ 2 ชั่วโมง หากไม่มีติดพระราชภารกิจอื่น
เพราะทรงโปรดหนังสือมาก....
นอกจากหนังสือที่ผู้จัดงานจัดทูลเกล้าถวายแล้ว
ยังทรงสั่งซื้อด้วย <พนักงานเล่าให้ฟัง>
และการเสด็จแต่เช้าๆ ก็เพราะไม่ต้องการให้คนค้าขายในตึก เสียโอกาสค้าขาย
เพราะเสด็จก่อนศูนย์ฯ เปิดทำการ ....
ทรงแย้มพระโอษฐ์ให้ เมื่อเราถวายความเคารพขณะเสด็จผ่าน
ทรงพระสำราญกับการทอดพระเนตรหนังสือที่สนพระทัย
ทรงเอาพระทัยใส่คำทูลแนะนำและคำอธิบายจากนักเขียนหรือผู้จัดงานอย่าง
ทรงโปรดการอ่าน และโปรดที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ออกมาเป็นหนังสือให้พวกเราได้อ่านกันต่อ
ทรงเป็นนักศึกษา นักค้นคว้า นักประวัติศาสตร์ นักอนุรักษ์ และนักอื่นๆ
และในฐานะของนักอ่าน...เราปวารณาตัวที่จะติดตามพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่านต่อไปเรื่อยๆ
เหมือนที่ติดตามอ่านหนังสือของนักเขียนคนอื่นๆ อีกมากมาย
ขอจงทรงพระเจริญ
สถิตย์เป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระบาทตลอดกาลนานเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม